Sunday, 11 May 2025
TheStatesTimes

‘บิล เกตส์’ ประณาม ‘อีลอน มัสก์’ มีส่วนฆ่าเด็กยากจน ปมยกเครื่อง USAID ตัดงบช่วยเหลือต่างประเทศในยุคทรัมป์

(9 พ.ค. 68) บิล เกตส์ ผู้ร่วมก่อตั้งไมโครซอฟต์และนักการกุศลชื่อดัง ออกโรงวิจารณ์อีลอน มัสก์อย่างรุนแรง โดยกล่าวหาว่ามัสก์มีส่วนทำให้เด็กในประเทศยากจนเสียชีวิต จากบทบาทของเขาในการผลักดันการตัดงบสำนักงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ (USAID) ระหว่างรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์

ในการให้สัมภาษณ์กับ The New York Times และ Financial Times เกตส์กล่าวว่า การตัดงบดังกล่าวทำลายความก้าวหน้าในการต่อสู้กับโรคร้ายอย่างหัด เอชไอวี และโปลิโอที่ใช้เวลากว่าสองทศวรรษสร้างมา พร้อมเปรียบเปรยว่ามัสก์ได้ 'โยน USAID เข้าเครื่องย่อยไม้'

บิล เกตส์ ยังตั้งคำถามถึงความจริงจังของมัสก์ต่อคำมั่นสัญญาภายใต้ 'Giving Pledge' ซึ่งเขาเคยลงนามว่าจะบริจาคทรัพย์สินอย่างน้อยครึ่งหนึ่งให้การกุศล พร้อมเน้นย้ำว่าแม้มัสก์อาจเป็นผู้ใจบุญในอนาคต แต่ปัจจุบันเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับความตายของเด็กยากไร้จำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม โฆษกทำเนียบขาวออกมาปกป้องมัสก์ โดยระบุว่าเขาเป็นผู้รักชาติที่ช่วยรัฐบาลขจัดความสิ้นเปลืองและทุจริต พร้อมเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภายกย่องความพยายามของมัสก์ในการผลักดันวอชิงตันให้โปร่งใส

ทั้งนี้ คำกล่าวของเกตส์มีขึ้นในช่วงที่มูลนิธิเกตส์ครบรอบ 25 ปี โดยเขาให้คำมั่นว่าจะบริจาคทรัพย์สินทั้งหมดภายใน 20 ปีข้างหน้า รวมมูลค่า 200,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อผลักดันภารกิจด้านสาธารณสุขและการพัฒนาในประเทศกำลังพัฒนา

ธรรมะประจำวันอาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคม 2568

คนฉลาดไม่ใช่แค่
ฉลาดพูดเท่านั้น
ต้องรู้จักนิ่งอย่างมีสติให้เป็นด้วย
ต้องรู้ในสิ่งที่ไม่ควรพูด
ให้มากยิ่งกว่าสิ่งที่ควรพูด

ท่านพุทธทาสภิกขุ

‘กรณ์’ โพสต์เฟซ เผย!! มีความฝันในการปฏิรูปเกษตรกรรม ตั้งเป้าหมาย 3 เพิ่ม ‘เพิ่มรายได้ - เพิ่มความมั่นคง - เพิ่มมูลค่า’

(10 พ.ค. 68) นายกรณ์ จาติกวณิช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า …

ชั้น 14/แพทยสภา กับ วันพืชมงคล

ความฝันหนึ่งของผมคือการปฏิรูปเกษตรกรรมประเทศไทยจริงจัง (เสียที) เป้าหมายคือ ‘3 เพิ่ม’
1. เพิ่มรายได้ให้เกษตรกรอย่างยั่งยืนด้วยการเพิ่มอำนาจต่อรอง 
2. เพิ่มความมั่นคงราคาสินค้าเกษตร
3. เพิ่มมูลค่าระยะยาวผ่านนวัตกรรม

Model ในการปฏิรูปของผมคือบริษัท Fonterra ของนิวซีแลนด์ที่เกิดจากการควบรวมสหกรณ์โคนมวัวทั้งหมดของประเทศมาเป็นหนึ่งเดียว โดยมีเกษตรกรเป็นผู้ถือหุ้น และมีผู้บริหารบริษัทมืออาชีพ ตอนนี้เป็นบริษัทชั้นนำในตลาดหุ้นนิวซีแลนด์

Fonterra มีสถานะผูกขาดการผลิตนมและผลิตภัณฑ์จากนม (เนื่องจาก 90% ของเกษตรกรเป็นผู้ถือหุ้นและขายนมให้เขา) เขาสร้างแบรนด์มากมายและวิ่งหาตลาดทั่วโลก เมื่อมีกำไร เขาเจียด 2-3% ทุกปีเพื่อ R&D เพื่อเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ ส่วนที่เหลือปันผลให้เกษตรกร

ลองจินตนาการว่าเรามีบริษัทเดียว เป็นของชาวนา/โรงสี/ผู้ส่งออก ถือร่วมกัน ข้าวหอมมะลิจาก 5 จังหวัดทุ่งกุลาร้องไห้ทั้งหมดเป็นของบริษัทนี้ อำนาจการตลาดอยู่ที่บริษัทนี้เต็มที่ จะมีโอกาสนำไปสู่ ‘3 เพิ่ม’ ได้ทันที

ผมจั่วหัวไว้โยงกับชั้น14 เกี่ยวกันอย่างไร? จริงๆไม่เกี่ยวเลย แต่รู้ว่าคนกำลังสนใจเรื่องชั้น 14 (ผมด้วย!) แต่ยากมากที่จะทำให้คนใส่ใจกับเรื่องเกษตร เลยพ่วงไว้ล่อให้อ่านเกี่ยวกับเกษตรในวันพืชมงคลนิดนึง กราบขออภัยครับ 

‘ดร.กอบศักดิ์’ วิเคราะห์!! สหรัฐอเมริกา กำลังด้อยค่า องค์กรระดับโลก ได้มาซึ่งระบบใหม่ ที่มาจากอำนาจเก่า จบด้วยการที่ ‘Changes’ ไม่ยืนยาว

(10 พ.ค. 68) ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) โพสต์ข้อความ ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยมีใจความว่า...

Changes are Coming แต่จะไม่ยืนยาว ไม่ถาวร!!!

ด้วยมุมมองของผู้นำสหรัฐแบบนี้ ไม่น่าแปลกใจที่ระเบียบโลก องค์กรต่าง ๆ ที่ถูกสร้างและใช้มา 80 ปี กำลังถูกไม่ให้ค่า และกำลังตกเป็นเป้าที่จะต้องถูกจัดการ WTO IMF World Bank UN NATO แต่ความเสี่ยงที่ยิ่งใหญ่ของสิ่งที่สหรัฐกำลังทำ ก็คือ ระบบที่ไม่ได้มาจากการยอมรับจากทุกคน ไม่ได้ฉันทานุมัติสร้างด้วยกำปั้น ฉันจะเอาอย่างนี้ ทุกคนจำยอมจะอยู่ได้นานเท่ากับ 'ความเข้มแข็งของกำปั้น' นั้น ต่อให้สร้างขึ้นมาได้ แต่เมื่อความถดถอย เสื่อมถอยมาเยือน ระบบที่ถูกสร้างขึ้นด้วยอำนาจกำปั้นก็จะเสื่อมถอยอย่างรวดเร็วเช่นกัน เฉกเช่นเดียวกับอาคารที่ตั้งอยู่บนเสาต้นเดียว เมื่อเสาต้นนั้นโคลงเคลง ไม่แข็งแรง สุดท้ายก็จะล้มลงมาเช่นกัน  

ทั้งนี้ สิ่งที่สหรัฐทำ จะสำเร็จอย่างถาวร จะสามารถสร้างระเบียบโลกใหม่ได้อีกรอบ ที่ยืนยาว ตั้งมั่น เลี้ยงตัวเองได้เหมือนกับรอบที่แล้วที่อยู่กันมาได้ 80 ปี หรือไม่จะขึ้นกับนโยบายสำคัญ ๆ ที่สหรัฐยังไม่ได้เดินหน้าโดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงที่จะทำให้
- คน
- ประสิทธิภาพการผลิต
- เทคโนโลยี นวัตกรรม
- ขนาดของเศรษฐกิจและการค้า ของสหรัฐกลับมาเป็นผู้นำของโลกอย่างแท้จริง เพราะถ้าไม่แก้สิ่งเหล่านี้ ไม่มุ่งสร้าง Fundamentals และ Foundations ใหม่ที่จะนำไปสู่การสร้างอำนาจใหม่ ที่แท้จริง

สิ่งที่จะได้ก็คือ ระบบใหม่ ที่มาจากอำนาจเก่า ที่กำลังทรุดโทรมลง จบด้วยการที่ 'Changes' ไม่ยืนยาว 'ระบบใหม่ที่พยายามสร้าง' ไม่ถาวร มาดูกันครับว่า จะเป็นเช่นนี้หรือไม่ 

ปล. หากทุกอย่างจะเป็นเช่นนี้ โลกจะเดินไปอย่างนี้ในช่วงการเปลี่ยนแปลงสำคัญ รอบนี้อาจจะดี ที่ทุกประเทศที่เหลือระหว่างที่ 'ยอมเดินไปกับเขา' มาเตรียมการวางรากฐานของ 'บ้านใหม่' ที่มาจากความยอมรับของทุกคนอย่างแท้จริง เพราะ ฉันทามติ ความยอมรับของทุกฝ่าย คือ หัวใจที่แท้จริงของความยั่งยืน 

‘หมอยง’ ไม่แนะนำ!! ให้ฉีดวัคซีนโควิด-19 มองไม่คุ้มกับประโยชน์ที่ได้ ชี้!! โรคลดความรุนแรงลงแล้ว และมียาที่มีประสิทธิภาพ สามารถรักษาได้

(10 พ.ค. 68) ศาสตราจารย์ นายแพทย์ ยง ภู่วรวรรณ แพทย์อาวุโส นักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ และหัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับ ‘โควิด-19’ โดยมีใจความว่า ...

โรคทุกโรคที่ป้องกันได้ควรจะได้รับการป้องกัน แต่การป้องกันมีหลายวิธี ตั้งแต่ล้างมือทำความสะอาด ลดการแพร่กระจายของโรค ด้วยการใส่หน้ากากอนามัย และหลีกเลี่ยงการเข้าชุมชนคนหมู่มาก วัคซีนเป็นอีกตัวเลือกหนึ่ง

โรคโควิด 19 ในระยะแรก ปีแรกๆ รุนแรงมากมีอัตราเสียชีวิตถึงร้อยละ 1 และมีอัตราการลงปอดเป็นปอดบวมสูงมากโอกาสต้องนอนโรงพยาบาลสูงมาก ๆ แต่ในปัจจุบันประชากรส่วนใหญ่มีภูมิต้านทานแล้ว จากการติดเชื้อ และฉีดวัคซีน และไวรัสโควิดก็ลดความรุนแรงของโรคลงมา ทำให้มีอัตราการเสียชีวิตต่ำ เปรียบเทียบได้กับไข้หวัดใหญ่ ผู้ติดเชื้อโควิด 19 จำนวนมาก ไม่มีอาการ หรือมีอาการน้อย เพราะเคยเป็นมาแล้ว ยกเว้นมีร่างกายอ่อนแอ หรือมีโรคประจำตัว ก็เป็นเช่นเดียวกันกับโรคทางเดินหายใจอื่น ๆ ที่อาจจะรุนแรงขึ้น 

ทำไมเรายังต้องให้วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ทั้งที่ความรุนแรงของไข้หวัดใหญ่กับโควิด ไม่ต่างกันมากแล้ว วัคซีนไข้หวัดใหญ่ป้องกันการติดเชื้อได้ประมาณ 40 ถึง 60 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น หวังป้องกันความรุนแรงของโรค แต่เรายังแนะนำให้ฉีดโดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง ทั้งนี้เพราะวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ใช้กันมานานมากแล้วร่วม 50 ปี มีราคาถูก และอาการข้างเคียงต่ำ เมื่อมาเปรียบเทียบกับวัคซีนโควิดในปัจจุบัน โควิดไวรัสมีการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์อย่างรวดเร็ว ทำให้ประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อน้อยมาก วัคซีนมีราคาแพงมาก มากกว่าไข้หวัดใหญ่เกือบ 10 เท่า และมีอาการข้างเคียงมากกว่า 

ดังนั้นในปัจจุบันจึงแนะนำให้ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยง โดยทางภาครัฐสนับสนุน ให้ได้ฉีดฟรี ส่วนวัคซีนโควิด เมื่อคิดถึงความคุ้มทุน และประโยชน์ที่ได้ เมื่อโรคลดความรุนแรงลง โดยส่วนตัวจึงไม่แนะนำ และถ้าป่วยให้รีบให้การรักษา เพราะมียาที่มีประสิทธิภาพ

‘อดีตสว.วันชัย’ จวกสังคม ขาดเมตตา ชิงชัง!! ‘ทักษิณ’ ชี้!! การรักษาผู้ต้องขัง ไม่จำเป็นต้องป่วยวิกฤต

(10 พ.ค. 68) นายวันชัย สอนศิริ อดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) โพสต์เฟซบุ๊กหัวข้อเรื่อง ‘ต้องวิกฤตหรือไม่ จึงไปชั้น 14’ ระบุว่า …

สังคมแห่งความชิงชังทำให้คนในสังคมป่วย สังคมที่ไร้ความเมตตาก็เป็นสังคมที่วิกฤต เรื่องของคุณทักษิณชั้น 14 ก็มีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมั่วซั่ว จับแพะชนแกะ จากกรณีที่แพทยสภาลงโทษแพทย์เรื่องผิดจริยธรรม แล้วเอามาโยงกับเรื่องการป่วยของคุณทักษิณและอำนาจราชทัณฑ์ ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เกี่ยวกันเลย มันเป็นคนละเรื่องคนละประเด็น พอแพทยสภามีมติลงโทษแพทย์เท่านั้น ก็เอามาตีโพยตีพายกันใหญ่ว่า คุณทักษิณไม่ได้ป่วยจริง จะต้องกลับไปติดคุก จะต้องหนี จะต้องยุบสภา สารพัดที่จะกล่าวหากันร้อยแปด

ทั้งที่ข้อกฎหมายเรื่องอำนาจราชทัณฑ์ ไม่มีข้อใดเลยที่กำหนดว่า จะต้องเป็นผู้ป่วยวิกฤตเท่านั้นจึงจะเอาไปรักษาตัวข้างนอกได้ มีแต่กำหนดไว้ว่า กรณีที่จะต้องบำบัดรักษาเฉพาะด้านเฉพาะทางเท่านั้น เขาไม่ต้องการให้มีผู้ต้องขังรายใด ป่วยถึงขั้นวิกฤต หากเริ่มป่วยก็ให้รักษาในเรือนจำ แต่หากต้องการรักษาเฉพาะทางเฉพาะด้านที่ในเรือนจำรักษาไม่ได้ ก็ให้ไปรักษาที่อื่น ไม่ได้เกี่ยวกับว่าจะต้องป่วยวิกฤตหรือไม่ อย่างกรณีของคุณทักษิณ ไม่ต้องดูหรอกว่าป่วยถึงขั้นวิกฤต ดูแต่เพียงว่าต้องการรักษาตัวเฉพาะด้านเฉพาะทางที่เรือนจำรักษาไม่ได้ก็เพียงพอแล้ว

แพทยสภาก็ว่าเรื่องของแพทย์ไป ราชทัณฑ์เขาก็ว่าเรื่องของราชทัณฑ์ไป ไม่เกี่ยวกัน ส่วนพวกสังคมแห่งความชิงชัง ก็ใส่สีตีไข่ โยงกันไปโยงกันมา โดยไม่ได้ดูจากข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย เอาอารมณ์และความรู้สึกเป็นที่ตั้ง

สังคมแห่งความชิงชังนี้โคตรจะแปลกประหลาด ทีข้าราชการผู้ใหญ่ที่เกษียณมาแล้วเยอะแยะมากมาย ยังเห็นมีคนมียศมีตำแหน่งรับใช้กันอยู่เต็มบ้านจนแก่จนตายก็ไม่เห็นมีใครว่าอะไร แต่แค่คุณทักษิณ อดีตนายกฯ อายุ 75 ปี ป่วยมารักษาตัวอยู่ที่ชั้น 14 จะเอากันเป็นกันตายถึงขั้นวิกฤต

‘โดนัลด์ ทรัมป์’ เตรียมประกาศรับรอง!! ‘ปาเลสไตน์’ ในการประชุมสุดยอดระหว่าง ‘สหรัฐฯ - อ่าวเปอร์เซีย’

(10 พ.ค. 68) เพจเฟซบุ๊ก ‘Jaroensook Limbanchongkit Pone’ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ...

ซาอุดีอาระเบียมีกำหนดจะจัดการประชุมสุดยอดระหว่างสหรัฐและอ่าวเปอร์เซียในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเยือนซาอุดีอาระเบียครั้งแรกของโดนัลด์ ทรัมป์ในช่วงดำรงตำแหน่งสมัยที่สอง โดยการประชุมครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากการประชุมสุดยอดที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2017 ในช่วงดำรงตำแหน่งสมัยแรกของทรัมป์

การประชุมสุดยอดซึ่งจัดขึ้นที่กรุงริยาด เมืองหลวงของซาอุดีอาระเบีย มีการคาดการณ์ล่วงหน้ามากมายเกี่ยวกับการประกาศที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์อ้างถึง โดยระบุว่าเป็น 'การประกาศที่สำคัญมาก' ในระหว่างการประชุมกับจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา ที่ทำเนียบขาวเมื่อวันอังคารที่ 6 พฤษภาคม

นอกเหนือจากสิ่งที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ตั้งใจจะประกาศแล้ว วาระการประชุมสุดยอด ข้อตกลง และข้อตกลงต่าง ๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นก็กลายเป็นหัวข้อสนทนาของเมือง ไม่ว่าจะเป็นข้อตกลงด้านความปลอดภัยและการทหาร ข้อตกลงด้านเทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์

ผู้นำอ่าวอาหรับทุกคนมีกำหนดเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอ่าวเปอร์เซีย-สหรัฐฯ ยกเว้นกษัตริย์ซัลมาน บิน อับดุลอาซิส ซึ่งไม่ได้เข้าร่วมงานสาธารณะหรือการประชุมเป็นเวลานานเนื่องจากพระองค์มีพระอาการป่วย

*** ทรัมป์จะยอมรับรัฐปาเลสไตน์หรือไม่??

แหล่งข่าวทางการทูตจากอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งไม่ประสงค์จะเปิดเผยชื่อหรือเปิดเผยจุดยืนของตน กล่าวกับ The Media Line ว่า "ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะออกคำประกาศเกี่ยวกับสถานะปาเลสไตน์และการรับรองของอเมริกา และจะมีการจัดตั้งรัฐปาเลสไตน์โดยไม่มีกลุ่มฮามาสเข้าร่วม"

แหล่งข่าวยังกล่าวเพิ่มเติมว่า “หากอเมริกาประกาศรับรองปาเลสไตน์ นั่นจะเป็นการประกาศครั้งสำคัญที่สุดที่จะเปลี่ยนสมดุลอำนาจในตะวันออกกลาง และจะมีประเทศอื่นๆ เข้าร่วมข้อตกลงอับราฮัมมากขึ้น”

แหล่งข่าวยืนยันว่าจะมีข้อตกลงทางเศรษฐกิจเกิดขึ้นอย่างแน่นอน แต่หลายข้อตกลงก็ประกาศไปแล้ว และเราอาจได้เห็นรัฐอ่าวเปอร์เซียได้รับการยกเว้นภาษี

อาเหม็ด อัล-อิบราฮิม อดีตนักการทูตอ่าวเปอร์เซีย กล่าวกับ The Media Line ว่า “ผมไม่คิดว่าจะเกี่ยวกับปาเลสไตน์ ประธานาธิบดีอียิปต์ อับเดล ฟัตตาห์ อัล-ซิซี และกษัตริย์อับดุลลาห์ที่ 2 แห่งจอร์แดนไม่ได้รับเชิญ พวกเขาเป็น 2 ประเทศที่ใกล้ชิดกับปาเลสไตน์มากที่สุด และจะเป็นเรื่องสำคัญมากที่พวกเขาจะต้องเข้าร่วมงานใดๆ เช่นนี้”

อัล-อิบราฮิมยังกล่าวอีกว่า “จะมีข้อตกลงสำคัญๆ เกิดขึ้น อาจจะคล้ายกับที่เกิดขึ้นในการประชุมสุดยอดอ่าวเปอร์เซีย-สหรัฐในปี 2017 โดยข้อตกลงระหว่างซาอุดิอาระเบียมีมูลค่ามากกว่า 4 แสนล้านดอลลาร์ อย่าลืมว่าสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ประกาศการลงทุนในสหรัฐมูลค่ามากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ และซาอุดิอาระเบียประกาศการลงทุนมูลค่ามากกว่า 6 แสนล้านดอลลาร์”

เขากล่าวต่อว่า “นี่เป็นเรื่องชัดเจนเพราะประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ตั้งใจที่จะเยือนสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และกาตาร์หลังจากเสร็จสิ้นการเยือนซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเป็นสองเศรษฐกิจสำคัญที่มีแหล่งเงินทุนที่สำคัญและมีการลงทุนครั้งใหญ่ในสหรัฐ”

Ahmed Boushouki นักวิเคราะห์การเมืองชาวซาอุดีอาระเบีย กล่าวกับ The Media Line ว่านี่เป็นเรื่องข้อตกลงทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่จะเกิดขึ้นในราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย บางทีประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ อาจกล่าวเป็นนัยถึงเรื่องนี้เมื่อเขาบอกกับชาวอเมริกันว่า ซื้อหุ้นตอนนี้ ก่อนที่จะมีการประกาศครั้งใหญ่ในอีกสองวันข้างหน้า

เกี่ยวกับข่าวความร่วมมือทางนิวเคลียร์อย่างสันติระหว่างสหรัฐฯ และซาอุดีอาระเบียในการผลิตไฟฟ้าในซาอุดีอาระเบีย Boushouki กล่าวว่า "ซาอุดีอาระเบียได้ประกาศโครงการมาตั้งแต่ปี 2010 และมีการหารือเรื่องนี้หลายครั้งแล้ว ปัจจุบัน บริษัทต่างชาติกำลังดำเนินการเพื่อดำเนินโครงการเหล่านี้ในซาอุดีอาระเบีย"

ขณะนี้ ซาอุดีอาระเบียกำลังมีแผนที่จะสร้างเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์แห่งแรกของซาอุดีอาระเบีย โดยมีบริษัทต่างชาติหลายแห่งแข่งขันกันออกแบบและสร้างเตาปฏิกรณ์ดังกล่าว ขณะเดียวกัน ประเทศเพื่อนบ้านในอ่าวเปอร์เซียอย่างสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นเจ้าของเตาปฏิกรณ์ Barakah อยู่แล้ว และเป็นประเทศอาหรับเพียงประเทศเดียวที่มีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์สี่เตาปฏิกรณ์ โดยร่วมมือกับบริษัทของเกาหลี

เบื้องหลังความสำเร็จ ของ ‘น้องปุญ’ ความฝัน ความตั้งใจ ความมุ่งมั่น สู่การเป็น นักเรียนโรงเรียนนายเรือ ‘Annapolis’ ประเทศสหรัฐอเมริกา

(10 พ.ค. 68) คนเรา ถ้าตั้งใจจริง แล้ว พยายาม อย่างที่สุด ก็จะสำเร็จ ....สัญญากับตัวเอง เตือนตัวเอง ว่าต้องทำให้ได้!!

เหมือน 'น้องปุญ' นักเรียนนายเรือ ปุญระพี ประกิจ ชั้นปีที่ 1 ที่ ผ่านทุกด่าน จนได้รับการตอบรับให้เข้าศึกษาต่อที่ โรงเรียนนายเรือสหรัฐอเมริกา United States Naval Academy( USNA,ที่เมือง Annapolis มลรัฐแมรี่แลนด์

น้องปุญ จบมัธยมจากสาธิตปทุมวัน ด้วยความที่พ่อ แม่ น้า ๆ เป็นวิศวกร น้องปุญ จึงตั้งเป้าหมายว่า จะเรียนวิศวฯ มาโดยตลอด และช่วงใกล้สอบเข้ามหาวิทยาลัย ที่บ้านอยากหาสนาม ให้ไปซ้อมสอบ และมีเพียงสนามสอบเตรียมทหาร ที่เปิดสอบ น้องปุญ ก็ไปสอบ และสอบติดทั้ง 4 เหล่า และด้วยความเป็นนักว่ายน้ำ ก็เลยตั้งใจเลือก ทหารเรือ และขอลองไปลองเรียนที่เตรียมทหาร และเมื่อผลสอบออกมา มหาวิทยาลัยออกมา น้องปุญ สอบได้ คณะวิศวฯ จุฬาฯ แต่ น้องปุญ ตัดสินใจ แล้วบอกว่า ”สละสิทธิ์นะแม่” ขอเรียนต่อที่ รร.เตรียมทหาร คุณพ่อและคุณแม่ ไม่ขัด ในเมื่อเป็นการตัดสินใจของลูก อยากเรียนเตรียมทหาร อยากเป็นทหารเรือ ก็เอา!! ไว้เปลี่ยนใจ แล้วค่อยออกมา สอบเข้ามหาวิทยาลัยใหม่ 

น้องปุญ เข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหาร รุ่น61 และ นักเรียนนายเรือ รุ่น118 และมุ่งมั่นตั้งแต่ เป็นนักเรียนเตรียมทหาร ว่า จะสอบไปเรียน โรงเรียนนายเรือสหรัฐอเมริกา หรือ ที่รู้จักกันดีว่า รร.นายเรือ Annapolis ให้ได้ ความฝัน ของ น้องปุญ ที่อยากจะไปเรียน รร. นายเรือ Annapolis มาจากที่ อาจารย์ ที่เตรียมทหาร เปิดหนังเรื่อง Annapolis ในห้องเรียนวิชาภาษาอังกฤษ 

หลังจากนั้น น้องปุญ ก็ ค้นหาข้อมูล เกี่ยวกับรร. นายเรือ Annapolis และยิ่งสร้างเป้าหมายในชีวิตว่า จะสอบเข้า รร. นายเรือ Annapolis นี้ให้ได้ หนึ่งในคลิป ที่ ต้องปุญ ดู คือ คลิป ที่ รายการลับลวงพราง พาไปเยี่ยมชม รร. นายเรือ Annapolis ที่มี น้องโมโน นนร. ธิปก เอกวิริยะเสถียร เป็นคนพาเดินชม รร. และเล่าเรื่องการเรียนให้ฟัง

น้องปุณ เขียนความตั้งใจอันแน่วแน่นี้ ไว้ในสมุดโน้ตประจำตัว ตอน เรียนเตรียมทหาร ตั้งแต่ 30 กย.2019 ว่า จะต้องสอบติด Annapolis ให้ได้ พร้อมวาดรูป แมลงเต่าทอง แมลงแห่งโชค พร้อมชื่อ รัฐMaryland และ ข้อคิดเตือนใจตัวเอง 12 ข้อ
- มุ่งมั่น ตั้งใจ สู้ๆ!
- มองไปถึงอนาคตไกลๆ
- ทำให้ดีที่สุด อย่ามาเสียใจตอนสาย
- เชื่อว่ามึงทำได้ !!!
- เตรียมตัวให้พร้อม
- ความสำเร็จ แม่งโคตรหอมหวาน
- ไม่ต้องรู้งี้ ทำให้ได้ไปเลย
- ห้ามพลาดโอกาสนี้ เด็ดขาด
- อย่าผลัดวัน ประกันพรุ่ง
- เพื่อตัวเองทุกวัน !!
- วัดกันสักตั้งดี"
- กัดฟันสู้ สิวะ

คุณแม่ของน้องปุญ เพิ่งค้นเจอ สมุดที่ นักเรียนเตรียมทหาร ต้องพกประจำตัว ที่น้องปุญ เขียนข้อความเหล่านี้ โดยบังเอิญ เมื่อไม่นานมานี้. ตอนที่เก็บของในห้องน้องปุญ ที่ทำให้ได้รู้ถึงความตั้งใจอันมุ่งมั่นของลูกชาย จนที่สุด น้องปุณ ก็ทำตามความฝันความตั้งใจ นั้นได้ เมื่อ ทัพเรือสหรัฐฯ ได้ตอบรับให้น้องปุณ ไปเรียนที่ รร.นายเรือAnnapolis และยัง สร้างความปลื้มใจให้ ทั้งคุณพ่อ และคุณแม่ ผู้เป็นกำลังใจ และกองหนุนสำคัญ ของลูก

โดยจะไปเรียนในเดือน มิย.นี้ ตอนนี้ น้องปุณได้เรียนภาษา ที่ ศูนย์ภาษา กรมยุทธศึกษา ทร. โดย จะใช้เวลาเรียนที่รร.นายเรือ สหรัฐฯ 5 ปี และจะสำเร็จการศึกษาในเดือน มิถุนายน 2569

ทั้งนี้ กองทัพเรือ ได้เคยส่งนักเรียนนายเรือไปเรียนที่โรงเรียนนายเรือประเทศสหรัฐฯ ครั้งแรกปี 2498 โดยส่งไปเข้าโรงเรียนนายเรือเป็นหลัก ถ้าเข้าไม่ได้ก็จะเปลี่ยนไปเข้าที่โรงเรียนยามฝั่ง หากเข้าทั้ง 2 โรงเรียนไม่ได้ จะให้เข้ามหาวิทยาลัย การเข้าเรียนต้องผ่านการคัดเลือกเข้มข้น ผู้ที่กองทัพเรือส่งไปเรียนที่สหรัฐฯ ในช่วงแรกส่วนใหญ่ไปเข้าเรียนระดับมหาวิทยาลัย มีช่วงที่ส่งไปต่อเนื่องคือระหว่างปี2522-2537 นักเรียนนายเรือ เสรี ฉ่ำชื่น (ปัจจุบัน ยศ นาวาเอก) นักเรียนเตรียมทหารรุ่น 28 เป็นผู้ที่เข้าได้เข้ารับศึกษาในโรงเรียนนายเรือสหรัฐฯ ได้เป็นครั้งแรก เมื่อปี 2532 

แต่เนื่องจากการคัดเลือกเข้มข้น นักเรียนนายเรือไทย จึงได้รับการคัดเลือกให้เข้าเรียนได้บ้างไม่ได้บ้าง กองทัพเรือจึงงดส่งนักเรียนนายเรือไปสหรัฐฯ ระยะหนึ่ง และมาเริ่มส่งอีกครั้งเมื่อปี 2553 จนถึงปัจจุบัน กองทัพเรือไทยมีผู้สำเร็จการศึกษาจากประเทศสหรัฐฯ ระดับต่าง ๆ ประมาณ 20 นาย ทั้ง ที่ Annapolis ,Coastguard และ มหาวิทยาลัย ไม่รวมระดับปริญญาโท

ซึ่งขณะนี้กองทัพเรือมีนักเรียนนายเรือที่กำลังศึกษาอยู่ที่โรงเรียนนายเรือ เมืองแอนนาโปลิส ประเทศสหรัฐอเมริกานี้ 3 คนคือ นักเรียนนายเรือ ณัทดรัณ คุรุวิชญา ปี 4 (จะสำเร็จการศึกษาในเดือน มิถุนายน 2564 นี้) นักเรียนนายเรือ ธงบุญ เพ็งแก้ว กำลังศึกษาอยู่ปีที่ 3 และ นักเรียนนายเรือ สุรศักดิ์ บรรดาศักดิ์ กำลังศึกษาอยู่ปีที่ 2 พี่เล็ก วาสนา และ รายการ ลับลวงพราง Exclusive ยินดี ที่ได้เป็นส่วนเล็ก ๆ ในการสร้างแรงบันดาลใจ ให้ น้องปุญ สู่การเป็น USNA Cadet แต่ที่สำคัญที่สุด คือ กำลังใจ แรงสนับสนุนจาก คุณพ่อคุณแม่ และท้ายที่สุด ตัว น้องปุญ เอง ที่ ตั้งใจและมุ่งมั่น ทำความฝัน ความตั้งใจของตนเอง ให้สำเร็จ...แม้จะเป็น ก้าวแรก ก็ตาม.... อีก 5 ปี ที่ยิ่งต้องพยายาม และมุ่งมั่น สู้ต่อไป จ้า !!! ”

ตอนนี้เกือบจะครบ 5 ปีแล้วครับ น้องปุญ มิได้แค่เรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ แต่ยังได้บทบาท เป็นผู้นำของนักเรียน ได้เป็นนักเรียนบังคับบัญชา ซึ่งน้อยมากที่จะให้นักเรียนต่างชาติได้เป็น และยังได้รับการยอมรับจากเพื่อน ๆ ทั้งรุ่นและเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ในโรงเรียนอีกด้วย

ตำรวจภูธรภาค 2 ร่วมเฉลิมพระเกียรติฯ พิธีปลูกต้นพระศรีมหาโพธิ์ พระราชทาน วันวิสาขบูชา 'ผบช.ภ.2' กำชับ 8 จังหวัด อำนวยความสะดวก ดูแลการจราจร

(10 พ.ค.68) พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 เปิดเผยว่า ตำรวจภูธรภาค 2 ทั้ง 8 จังหวัด ได้เตรียมกำลังพร้อมสนับสนุนภารกิจในการอำนวยความสะดวก และดูแลความสงบเรียบร้อยในพิธีปลูกต้นพระศรีมหาโพธิ์พระราชทาน 'พระศรีมหาโพธิทศมราชบพิตร' เนื่องในวันวิสาขบูชา ซึ่งตรงกับวันที่ 11พฤษภาคม 2568 ในพื้นที่จังหวัดในความรับผิดชอบ ได้แก่ จันทบุรี, ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี, ตราด, นครนายก, ปราจีนบุรี, ระยอง และสระแก้ว 

“พิธีจะมีขึ้นพร้อมกันทั่วประเทศ ในวันอาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคม 2568 เวลา 09.29 น. โดยมีประชาชนทุกภาคส่วนเข้าร่วมเพื่อความเป็นสิริมงคล เนื่องในวันวิสาขบูชา จึงกำชับให้ทุกสถานีตำรวจดูแลพื้นที่จัดพิธีอย่างใกล้ชิด อำนวยความสะดวกด้านจราจร ร่วมในกิจกรรมอันเป็นมงคลนี้” ผบช.ภ.2 กล่าว

สำหรับพื้นที่ 8 จังหวัดของตำรวจภูธรภาค 2  กำหนดสถานที่ปลูกต้นพระศรีมหาโพธิ์พระราชทาน 'พระศรีมหาโพธิทศมราชบพิตร' ดังนี้
จังหวัดนครนายก - วัดพรหมมหาจุฬามณี อ.เมืองนครนายก
จังหวัดจันทบุรี -  วัดบ้านอ่าง อ.มะขาม
จังหวัดฉะเชิงเทรา - วัดโสธรวรารามวรวิหาร อ.เมืองฉะเชิงเทรา
จังหวัดชลบุรี – วัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร  อ.บางละมุง
จังหวัดตราด – วัดบางปรือ อ.เมืองตราด
จังหวัดปราจีนบุรี - วัดใหม่กรงทอง อ.ศรีมหาโพธิ
จังหวัดระยอง – โครงการอ่างเก็บน้ำดอกกราย อ.ปลวกแดง
จังหวัดสระแก้ว – วัดเขาป่าแก้ว อ.วังน้ำเย็น

ปูติน-สี จิ้นผิง ร่วมสวนสนาม ประกบอดีตทหารผ่านศึกสงครามโลก วัย 99 และ 101 ปี

(10 พ.ค. 68) เพจเฟซบุ๊ก ‘Ethan Hunts’ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ...

ผู้อาวุโส 2 ท่านที่นั่งชมสวนสนาม ประกบผู้นำจีน และรัสเซีย คือ แขกพิเศษของ ปธน.ปูติน นั่งติดกับ ปธน.จีน คืออิวาน มาตินุชกิน วัย 101 ปี อดีตทหารโซเวียตในสมรภูมิยูเครน เมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่สอง

ที่นั่งติดกับ ปธน.รัสเซีย คือนายเยฟเกนี่ ซนาเมนสกี้ วัย 99 ปี จากเบลารุสที่บุกเบอร์ลิน ในปี 1945


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top