‘หมอยง’ ไม่แนะนำ!! ให้ฉีดวัคซีนโควิด-19 มองไม่คุ้มกับประโยชน์ที่ได้ ชี้!! โรคลดความรุนแรงลงแล้ว และมียาที่มีประสิทธิภาพ สามารถรักษาได้
(10 พ.ค. 68) ศาสตราจารย์ นายแพทย์ ยง ภู่วรวรรณ แพทย์อาวุโส นักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ และหัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับ ‘โควิด-19’ โดยมีใจความว่า ...
โรคทุกโรคที่ป้องกันได้ควรจะได้รับการป้องกัน แต่การป้องกันมีหลายวิธี ตั้งแต่ล้างมือทำความสะอาด ลดการแพร่กระจายของโรค ด้วยการใส่หน้ากากอนามัย และหลีกเลี่ยงการเข้าชุมชนคนหมู่มาก วัคซีนเป็นอีกตัวเลือกหนึ่ง
โรคโควิด 19 ในระยะแรก ปีแรกๆ รุนแรงมากมีอัตราเสียชีวิตถึงร้อยละ 1 และมีอัตราการลงปอดเป็นปอดบวมสูงมากโอกาสต้องนอนโรงพยาบาลสูงมาก ๆ แต่ในปัจจุบันประชากรส่วนใหญ่มีภูมิต้านทานแล้ว จากการติดเชื้อ และฉีดวัคซีน และไวรัสโควิดก็ลดความรุนแรงของโรคลงมา ทำให้มีอัตราการเสียชีวิตต่ำ เปรียบเทียบได้กับไข้หวัดใหญ่ ผู้ติดเชื้อโควิด 19 จำนวนมาก ไม่มีอาการ หรือมีอาการน้อย เพราะเคยเป็นมาแล้ว ยกเว้นมีร่างกายอ่อนแอ หรือมีโรคประจำตัว ก็เป็นเช่นเดียวกันกับโรคทางเดินหายใจอื่น ๆ ที่อาจจะรุนแรงขึ้น
ทำไมเรายังต้องให้วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ทั้งที่ความรุนแรงของไข้หวัดใหญ่กับโควิด ไม่ต่างกันมากแล้ว วัคซีนไข้หวัดใหญ่ป้องกันการติดเชื้อได้ประมาณ 40 ถึง 60 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น หวังป้องกันความรุนแรงของโรค แต่เรายังแนะนำให้ฉีดโดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง ทั้งนี้เพราะวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ใช้กันมานานมากแล้วร่วม 50 ปี มีราคาถูก และอาการข้างเคียงต่ำ เมื่อมาเปรียบเทียบกับวัคซีนโควิดในปัจจุบัน โควิดไวรัสมีการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์อย่างรวดเร็ว ทำให้ประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อน้อยมาก วัคซีนมีราคาแพงมาก มากกว่าไข้หวัดใหญ่เกือบ 10 เท่า และมีอาการข้างเคียงมากกว่า
ดังนั้นในปัจจุบันจึงแนะนำให้ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยง โดยทางภาครัฐสนับสนุน ให้ได้ฉีดฟรี ส่วนวัคซีนโควิด เมื่อคิดถึงความคุ้มทุน และประโยชน์ที่ได้ เมื่อโรคลดความรุนแรงลง โดยส่วนตัวจึงไม่แนะนำ และถ้าป่วยให้รีบให้การรักษา เพราะมียาที่มีประสิทธิภาพ