Sunday, 29 June 2025
TheStatesTimes

แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งแข่งขันกันดุเดือดขนาดไหน?

อุตสาหกรรมสตรีมมิ่งที่เป็นหนึ่งในช่องทางที่ให้ความบันเทิงกำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือด และจากการเก็บรวบรวมข้อมูล ณ เดือนพฤศจิกายน 2024 อุตสาหกรรมนี้มีเจ้าที่ครองตลาดอย่าง Netflix, Viu และ Disney+ ซึ่งแต่ละแพลตฟอร์มนำเสนอคอนเทนต์และกลยุทธ์ราคาที่แตกต่างกันเพื่อพยายามที่จะเข้าไปแย่งส่วนแบ่งทางการตลาด รวมถึงครองใจกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เป็นตลาดของตัวเอง

เรามาดูความเหมือนและความต่างของทั้ง 3 แพลตฟอร์มนี้กันค่ะ

‘อนุทิน’ หนุนอดีตบิ๊ก มท.ทำการเมืองหลังเกษียณอายุ หลังพบอดีตข้าราชการร่วมตั้ง ‘พรรคโอกาสใหม่’

‘อนุทิน’ เชียร์อดีตบิ๊ก ๆ ข้าราชการกระทรวงมหาดไทย ตั้งพรรคโอกาสใหม่ ทำการเมือง หลังเกษียณอายุ

เมื่อวันที่ (21 พ.ย.67) ที่ด่านพรมแดนบ้านผักกาด อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงการเปิดตัวของพรรคโอกาสใหม่ ที่มีอดีตข้าราชการกระทรวงมหาดไทย นั่งเป็นกรรมการบริหารพรรคจำนวนมาก ถือว่า เป็นคู่แข่งที่น่ากังวลหรือไม่ว่า ยังไม่ได้ติดตามข่าว ซึ่งก็ดี ใครมีประสบการณ์ หรือประสบความสำเร็จในชีวิตแล้ว จะได้มีหนทางดี มาลงสนามแข่งขันกัน มีความชอบธรรมโดยสมบูรณ์ สามารถพูดได้ว่ามานั่งตำแหน่งนี้ได้ เพราะถูกเลือกมาจากประชาชนทั้งประเทศ ดีกว่ามานั่งรอให้คนอื่นแต่งตั้ง

เมื่อถามว่า การเป็นอดีตข้าราชการเกษียณอายุ มาทำพรรคการเมืองจะรอดหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ก็ต้องส่งกำลังใจให้รอด จะไปแช่งเขาทำไม คนมาร่วมทำงานให้กับบ้านเมือง ไม่ว่าจะเข้ามาในรูปแบบใดก็ต้องเชียร์กัน

นิสสันเล็งลดหรือย้ายพนักงานในไทย ตามแผนลดกำลังการผลิตในอาเซียน

(22 พ.ย.67) นิสสัน มอเตอร์ ค่ายรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่น เตรียมปรับลดหรือโอนย้ายพนักงานประมาณ 1,000 ตำแหน่งในประเทศไทย ตามแผนลดกำลังแรงงานทั่วโลกที่ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ ท่ามกลางการลดกำลังการผลิตในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  

แหล่งข่าววงใน 2 รายที่ไม่เปิดเผยตัวตน เปิดเผยกับรอยเตอร์สว่า นิสสันวางแผนหยุดการผลิตบางส่วนที่โรงงานหมายเลข 1 ในจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเป็น 1 ใน 2 โรงงานของบริษัทในประเทศไทย โดยสายการผลิตที่เหลือจะถูกย้ายไปยังโรงงานหมายเลข 2 ภายในเดือนกันยายนปีหน้า  

โฆษกนิสสันปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการลดจำนวนพนักงาน แต่ยืนยันว่าการรวมโรงงานเป็นบางส่วนกำลังดำเนินการเพื่อปรับปรุงอุปกรณ์ และจะไม่มีการปิดโรงงานในไทยแต่อย่างใด พร้อมระบุว่า โรงงานหมายเลข 1 จะยังคงเป็นโรงงานหลักของนิสสันในไทย  

ปัจจุบัน โรงงานหมายเลข 1 ของนิสสันมีกำลังการผลิตรถยนต์ราว 220,000 คันต่อปี ส่วนโรงงานหมายเลข 2 มีกำลังผลิต 150,000 คันต่อปี ทำให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียนสำหรับนิสสัน  

ทั้งนี้ ยอดขายรถยนต์นิสสันในประเทศไทยลดลง 30% เหลือเพียง 14,000 คัน ในปีงบประมาณที่ผ่านมา โรงงานในไทยยังคงผลิตรถยนต์อเนกประสงค์ (SUV) เช่น รุ่น 'คิกส์' สำหรับตลาดอาเซียน และรุ่น 'เทอร์รา' เพื่อส่งออกไปยังตะวันออกกลางและแอฟริกา  

เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา นิสสันได้ประกาศแผนปรับลดพนักงาน 9,000 ตำแหน่งทั่วโลก หลังผลประกอบการครึ่งปีแรกต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้

The Maverick Academy ซีรีส์ทำอาหารสุดมันส์ ถ่ายทำในไทย โดยกลุ่มดุสิตธานี

(22 พ.ย.67) กลุ่มดุสิตธานี ประกาศบทบาทในฐานะหนึ่งในผู้สนับสนุนหลักของ The Maverick Academy ซีรีส์การแข่งขันทำอาหารสุดแหวกแนว ที่จัดโดยเชฟมิชลินสตาร์ชื่อดัง อัลวิน เหลียง (Alvin Leung) หรือที่รู้จักในนาม The Demon Chef สตรีมมิ่งบนแพลตฟอร์ม Netflix ทั้งหมด 5 ตอน เผยเป็นการถ่ายทำในประเทศไทย โดยใช้สถานที่ของวิทยาลัยดุสิตธานี และ The Food School มั่นใจโชว์ศักยภาพและความเป็นเลิศด้านอาหาร งานบริการและการศึกษาด้านอาหารและโรงแรมของไทยสู่สายตาชาวโลก

ซีรีส์แข่งขันทำอาหาร The Maverick Academy ผลิตโดย AR Asia Productions เป็นการนำเสนอความท้าทายในการแข่งทำอาหารที่เต็มไปด้วยการเดิมพันและความเฉียบแหลมทางธุรกิจ โดยนำเชฟมากความสามารถ 8 คนจากทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มารวมตัวกัน รวมถึงอาจารย์วู้ดดี้-อาจารย์วุฒิศักดิ์ สิมโฮง อาจารย์ผู้สอนการทำอาหารที่วิทยาลัยดุสิตธานี กรุงเทพฯ ในภารกิจค้นหาอัจฉริยะด้านการทำอาหารคนต่อไปที่จะร่วมฝึกงานกับเชฟอัลวิน เหลียง พร้อมรับโอกาสในการเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจของเขา

เชฟอัลวิน เป็นเชฟชาวฮ่องกง-แคนาดา ที่เกิดในอังกฤษและเป็นพิธีกรรายการโทรทัศน์ เขาได้รับการยกย่องเรื่องสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ของ 'X-Treme Chinese Cuisine' โดยเขาได้ปรับแปลงอาหารจีนให้ทันสมัยและนำเสนอรสชาติใหม่ ๆ ในร้านอาหารทั่วโลก ปัจจุบันเขาคว้าดาวมิชลิน 2 ดวงที่ Bo Innovation ในฮ่องกง นอกจากนี้ยังได้รับการยอมรับในฐานะผู้ตัดสินรายการ MasterChef Canada ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญและความหลงใหลในความเป็นเลิศด้านการทำอาหารของเขา

เชฟอัลวินเข้าร่วมใน The Maverick Academy โดยมีเชฟอีริก ชอง (Eric Chong) ผู้เคยผ่านการฝึกงานกับเชฟอัลวินเป็นคนแรก และเป็นผู้ชนะรายการ MasterChef Canada ฤดูกาลแรก มาเป็นผู้ร่วมดำเนินรายการ อีกทั้งยังมีผู้มีชื่อเสียงด้านการทำอาหารมากมายมาเป็นที่ปรึกษาและผู้ตัดสิน รวมถึงเชฟและเจ้าของร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ในกรุงเทพฯ พร้อมด้วย มร. เอเดรียน รูดิน (Adrian Rudin) กรรมการผู้จัดการโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ ที่เพิ่งปรับโฉมใหม่ ซึ่งได้รับเกียรติให้เป็นกรรมการตัดสินในอีพีที่ 4

ขณะถ่ายทำในประเทศไทย ผู้เข้าแข่งขันทั้งหมดได้เข้าพักที่โรงแรม ASAI Bangkok Chinatown หนึ่งในโรงแรมเครือดุสิตที่เปี่ยมชีวิตชีวาใจกลางไชน่าทาวน์ ย่านอันน่าหลงใหลของกรุงเทพฯ โดยถูกออกแบบมาเพื่อเชื่อมโยงนักเดินทางให้เข้ากับประสบการณ์ท้องถิ่นอย่างแท้จริง ที่พักที่เน้นไลฟ์สไตล์แห่งนี้เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับผู้เข้าแข่งขันในการพักผ่อนและเติมพลังระหว่างการถ่ายทำที่ท้าทายทั้งด้านทักษะการทำอาหาร ความคิดสร้างสรรค์ และจิตวิญญาณผู้ประกอบการของเหล่าผู้เข้าแข่งขัน

การแข่งขันยังใช้สิ่งอำนวยความสะดวกอันล้ำสมัยของวิทยาลัยดุสิตธานี สถาบันอุดมศึกษาแห่งแรกและใหญ่ที่สุดของไทยรวมถึง The Food School โรงเรียนสอนทำอาหารข้ามชาติแห่งแรกของประเทศไทย ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง 3 สถาบันสอนทำอาหาร ได้แก่ Tsuji ประเทศญี่ปุ่น ALMA ประเทศอิตาลี และวิทยาลัยดุสิตธานี ประเทศไทย โดยสถาบันเหล่านี้ล้วนมีชื่อเสียงในด้านโปรแกรมการทำอาหารและการโรงแรม ซึ่งเป็นการส่งมอบสถานที่จัดการแข่งขันที่สมบูรณ์แบบให้แก่ผู้เข้าแข่งขันได้แสดงทักษะและความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านของตนเอง

ขณะเดียวกัน ประเทศไทยยังได้แสดงบทบาทที่ยอดเยี่ยมในฐานะเจ้าภาพและผู้สนับสนุนหลักของการแข่งขัน โดยมีผู้เข้าแข่งขัน 3 คน เมนเทอร์ 4 คน และพันธมิตรผู้สนับสนุน 4 คนที่มาจากประเทศไทย ซึ่งกลุ่มดุสิตธานีมีความภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงความทุ่มเทในการสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านการทำอาหาร พร้อมทั้งสร้างแรงบันดาลใจให้กับเชฟรุ่นต่อไปทั้งในประเทศไทยและในเวทีระดับโลก

และในอีพี 4 เหล่าผู้เข้าแข่งขันต่างก็ตื่นเต้นไปกับการเยือนร้านอาหารบ้านดุสิตธานี กับโจทย์การแข่งขันที่ 'ศุภจี สุธรรมพันธุ์' ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) ต้องการให้พวกเขาสร้างสรรค์เมนูที่ถ่ายทอดประสบการณ์และแก่นแท้สุดพิเศษของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ แห่งใหม่ ที่เพิ่งกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง โดยพวกเขาต้องใช้แรงบันดาลใจจากห้องอาหารไทย 'เบญจรงค์' ห้องอาหารเวียดนาม 'เธียนดอง' และห้องอาหารสไตล์ละตินอเมริกา 'โนมาดา'  ซึ่งเป็นโจทย์ที่ท้าทายความสามารถของพวกเขาอย่างมาก

“การสนับสนุน The Maverick Academy ของกลุ่มดุสิตธานี ตอกย้ำความทุ่มเทของเราสู่ความเป็นเลิศในด้านศิลปะการประกอบอาหาร การบริการส่วนบุคคล และการศึกษาด้านการโรงแรม” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม ดุสิตธานี กล่าว

'ศุภจี' มั่นใจว่า ด้วยรูปแบบที่มีชีวิตชีวา การดึงดูดผู้ชมที่หลากหลาย และผู้มีความสามารถด้านการทำอาหารที่น่าตื่นเต้นจากประเทศไทย รายการนี้ทำหน้าที่เป็นเวทีที่ยอดเยี่ยมในการสนับสนุนความเป็นเลิศด้านการทำอาหารในประเทศไทย และสะท้อนถึงมรดกทางอาหารอันอุดมสมบูรณ์ของราชอาณาจักรไทยอีกด้วย

The Maverick Academy ทั้ง 5 EP พร้อมให้รับชมได้แล้วทาง Netflix

ICC ออกหมายจับ เนทันยาฮู – อดีตรมว.กลาโหมยิว ก่ออาชญากรรมสงคราม อิสราเอลโต้ หมายจับไร้สาระ โวยเป็นการต่อต้านชาวยิว

(22 พ.ย.67) เว็บไซต์ศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ออกประกาศหมายจับกรณีอาชญากรรมสงคราม ต่อนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล และนายโยอาฟ กัลเเลนต์ อดีตรัฐมนตรีกลาโหมของอิสราเอล โดย ICC ระบุว่าทั้งผู้นำอิสราเอลและอดีตรัฐมนตรีกลาโหมมีส่วนใช้วิธีทำให้ผู้คนขาดแคลนอาหารเป็นยุทธวิธีการทำสงคราม ซึ่งเป็นอาชญากรรมต่อมุษยชาติ ซึ่งรวมถึงการสังหาร กดขี่ประหัตประหาร รวมทั้งพฤติกรรมอื่น ๆ ที่ปราศจากความปรานี

นอกจากหมายจับทั้งสองแล้ว ICC ยังได้ออกหมายจับมูฮัมมัด เดอิฟ หัวหน้าฝ่ายทหารของฮามาสในฉนวนกาซา ในข้อหาอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ ซึ่งรวมถึงการสังหาร จับตัวประกันและความรุนเเรงทางเพศ 

หลังการออกประกาศดังกล่าว ด้านสำนักงานของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอล ปฏิเสธการตัดสินใจของศาลอาญาระหว่างประเทศ ที่ออกหมายจับตัวเขาและโยอาฟ กัลเเลนต์ อดีตรัฐมนตรีกลาโหมของอิสราเอล แถลงการณ์ของเนทันยาฮูระบุว่า นี่คือวันที่มืดมนที่สุดในประวัติศาสตร์ของชาติต่าง ๆ ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศในกรุงเฮก ซึ่งก่อตั้งขึ้นเพื่อปกป้องมนุษยชาติ กลายมาเป็นศัตรูของมนุษยชาติในวันนี้ อิสราเอลขอแสดงความรังเกียจต่อการกระทำที่ไร้สาระและเป็นเท็จของศาลอาญาระหว่างประเทศ และเรียกการกระทำดังกล่าวว่าเป็นการต่อต้านชาวยิว

ทั้งนี้ หมายจับเนทันยาฮู และกัลแลนต์ เป็นการกล่าวหาว่าก่ออาชญากรรมสงครามและอาชญากรรมต่อมนุษยชาติระหว่างปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลในฉนวนกาซาตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม ปีที่แล้ว

จับตา ‘นายกฯแบน’ ขยับลงชิงนายกฯอบจ.สงขลา ‘ภูมิใจไทย’ ส่งชิมลาง ก่อนรุกคืบเลือกตั้งสนามใหญ่

จับตาการขยับตัวของ นายกฯแบน หรือ นายประสงค์ บริรักษ์ อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองเขารูปช้างหลายสมัย

นายกฯแบนบริหารเทศบาลเมืองเขารูปช้างมาหลายสมัย แต่มาแพ้ให้กับเด็กนิพนธ์ บุญญามณี

นายกฯแบนหันไปลงการเมืองสนามใหญ่ ลงสมัคร สส.เขต 1 สงขลา ในนามพรรคภูมิใจไทย แต่แพ้ให้กับสรรเพชญ บุญญามณี ลูกชายของนิพนธ์

เมื่อไพเจนประกาศถอย ไม่ลงรักษาแชมป์นายกฯอบจ.สงขลา เปิดทางให้สุพิศ พิทักษ์ธรรม ลง

เส้นทางของสุพิศไม่ได้ปูลาดด้วยกลีบกุหลาบ แม้ไพเจนจะเปิดทางให้ก็ตาม เมื่อสายภูมิใจไทยเริ่มเห็นช่องทาง ก็เริ่มขยับตัว มีการพูดถึงนายกฯแบน ที่พอจะสู้ไหว แม้เงินทองจะอู้ฟู่สู้สุพิศไม่ได้ แต่องคาพยพของภูมิใจไทยก็ไม่ธรรมดา ถ้าพรรคคิดจะสู้

วันนี้ภูมิใจไทยเพียงแค่รอผลการเลือกตั้งนายกฯอบจ.นครศรีฯ ถ้าผลการเลือกตั้งออกมา 'น้ำ-วาริน ชิณวงศ์' ชนะการเลือกตั้ง แน่นอนว่า ภูมิใจไทยจะต้องส่งตัวแทนลงชิงนายกฯอบจ.สงขลา และสายตาก็เพ่งเล็งไปยังนายกฯแบน

มองไปถึงสนามเลือกตั้งใหญ่ ภูมิใจไทยหวังขยายฐานเพิ่มอีกหลายจังหวัดในภาคใต้ ภายใต้การนำทัพของพิพัฒน์ รัชกิจประการ จังหวัดใหญ่อย่างสุราษฎร์ฯ นครศรีฯ และสงขลา ย่อมเป็นพื้นที่เป้าหมาย แค่ 3 จังหวัดมี สส.20 กว่าคน

การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ภูมิใจไทย ก็เข้าไปตีฐานของประชาธิปัตย์ได้หลายที่นั่ง สุราษฎร์ธานี 1 นครศรีฯ 2 และสงขลา 1 ที่นั่ง

การปูฐานจากสนามท้องถิ่นจึงเป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องค่อย ๆ ขยับขึ้นมา 'ณัฏฐ์ชนนท์ ศรีก่อเกื้อ' ได้ก่อหัวเชื้อไว้ให้ภูมิใจไทย เป็นสมัยที่ 2 แล้วในจังหวัดสงขลา ถ้าเข้ามายึดหัวหาด อบจ.ไว้ได้ อนาคตการจะขอพื้นที่ สส.เพิ่มในจังหวัดสงขลา จึงเป็นเรื่องไม่น่ายากในสถานการณ์ที่ประชาธิปัตย์ร่อแร่

ประชาธิปัตย์ร่อแร่กับการถูกโรคร้ายรุมกัดกิน ขัดแย้งกันเองในพรรค ผู้นำพรรคตระบัดสัตย์ การตัดสินใจนำพาพรรคเข้าร่วมรัฐบาลทายาททักษิณ เหล่านี้ล้วนเป็นเหตุผลให้ประชาธิปัตย์อ่อนแอ

เมื่อร่างกายอ่อนแอเป็นธรรมดาที่จะถูกจู่โจมเข้าโรมรัน อันเป็นสถานการณ์อ่อนแอที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับประชาธิปัตย์มาก่อน แม้สมัย 10 มกรา ก็ยังไม่หนักเท่านี้

ความอ่อนแอของประชาธิปัตย์ จึงเปิดช่องให้ภูมิใจไทยที่กำลังดีขึ้นเข้าโจมตีได้ โดยที่ประชาธิปัตย์ก็ไม่มีวัคซีนป้องกันตัวเอง มีแต่จะเห็นเชื้อโรคร้ายเข้ามากัดกร่อนให้ทรุดโทรมลงเรื่อย ๆ

กว่าผู้อยู่อาศัยจะรู้ บ้านก็น่าจะพังจนยากจะบูรณะซ่อมแซมแล้ว ต้องรื้อทิ้งแล้วสร้างใหม่ แต่กว่าจะสร้างใหม่เสร็จ ภูมิใจไทยก็แข็งแกร่งเกินจะต้านแล้ว

มาม่าเผย เศรษฐกิจจะดีหรือไม่ ก็ยังขายดี เหตุลูกค้าหลักมาม่าไม่ได้รวยขึ้น

(22 พ.ย.67) บนเวทีเสวนา 'THAILAND 2025 โอกาส-ความหวัง-ความจริง' ที่จัดโดยประชาชาติธุรกิจ นาย นายพันธ์ พะเนียงเวทย์ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 'มาม่า' กล่าวในตอนหนึ่งว่า ปัจจุบันตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในไทยมีอายุถึง 50 ปีแล้ว และยังคงเป็นเทรนด์อย่างต่อเนื่อง แม้ยอดบริโภคต่อคนจะเพิ่มขึ้นอย่างช้า ๆ

โดยเมื่อ 2 ปีก่อน คนไทยบริโภคเฉลี่ย 52 ซองต่อปี ปัจจุบันเพิ่มเป็น 55 ซองต่อปี แม้ว่าธุรกิจนี้ยังจะไม่อยู่ในช่วงขาลง แต่ก็ต้องมีการพัฒนาโปรดักส์ใหม่ ๆ ควบคู่ไปกับการโฟกัสผลิตภัณฑ์หลัก ทั้งนี้ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปถูกจำกัดเรื่องราคา โดยในช่วง 25 ปีที่ผ่านมา มีการปรับราคาขายเพียง 3 ครั้ง ครั้งละ 1 บาท ในปี 2541, 2551 และล่าสุดในปี 2565  

นายพันธ์กล่าวว่า ช่วง 5-10 ปีที่ผ่านมา บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจากต่างประเทศ โดยเฉพาะเกาหลี เริ่มเข้ามาทำตลาดในไทย ขายในราคาสูงถึง 35-45 บาท ทำให้แบ่งส่วนตลาดไปมาก แต่ในทางกลับกัน กลับเป็นโอกาสให้ 'มาม่า' ปรับกลยุทธ์ใหม่ โดยรีแบรนด์สินค้า เช่น 'มาม่าโอเค' ในราคาซองละ 15 บาท ซึ่งได้รับความนิยมสูงจนมีส่วนแบ่งตลาดกว่า 10%  

“มาม่าโอเคไม่ได้เป็นสินค้าราคาแพง แต่เป็นสินค้าที่คุณภาพเทียบเท่าต่างประเทศ คนรุ่นใหม่ชื่นชอบ และยังเข้าถึงกลุ่มคนอายุ 30 ปีขึ้นไปได้ดี รวมถึงการเปิดร้าน ‘มาม่าสเตชั่น’ ที่อาร์ซีเอ ซึ่งมียอดขายดีมาก” นายพันธ์กล่าว  

ปัจจุบัน มาม่ายังครองส่วนแบ่งตลาดมากที่สุดในธุรกิจที่มีผู้เล่นไม่กี่ราย เพราะสามารถบริหารต้นทุนได้ดี แม้กำไรจะน้อย ถือเป็นจุดแข็งในการดำเนินธุรกิจ  

เมื่อถามถึงผลกระทบหากเศรษฐกิจดีขึ้น นายพันธ์ระบุว่า “ผมไม่กังวล เพราะกลุ่มลูกค้าหลักของมาม่ายังมีรายได้จำกัด และต้องเผชิญกับภาระรายจ่าย แม้รายได้จะเพิ่มขึ้นก็มีโอกาสสร้างหนี้มากขึ้น รัฐควรแก้ปัญหาเศรษฐกิจอย่างเป็นระบบ พร้อมให้ความรู้เรื่องการออม”  

อย่างไรก็ตาม นายพันธ์ยอมรับว่าปัญหาใหญ่ของมาม่าคือการสร้างบุคลากรใหม่ “เด็กยุคนี้ไม่สนใจทำงานในบริษัท เราต้องสร้างบรรยากาศที่น่าทำงานให้มากขึ้น เพราะปัจจุบันมาม่าไม่ติด 1 ใน 50 บริษัทที่คนรุ่นใหม่อยากทำงาน”

ศาลโสมขาวปัดตก อาชีพนักร้อง-ไอดอล 'ไม่ใช่' แรงงานตามกม. ศิลปินเอาผิดต้นสังกัดไม่ได้

(22 พ.ย.67) สื่อเกาหลีใต้รายงานว่า ศาลเกาหลีใต้ได้ปัดตกคำร้องของฮันนิ สมาชิกวง New Jeans ที่ร้องต่อศาลให้พิจารณาสถานะความเป็นศิลปิน ว่าถือเป็น 'แรงงาน' ตามกฎหมายแรงงานของเกาหลีใต้หรือไม่ หลังจากที่เธอถูกกลั่นแกล้งจาก HYBE ค่ายต้นสังกัดของเธอ 

ฮันนิ สมาชิกวง New Jeans ร้องต่อศาลว่าเธอถูกค่าย  HYBE เอาเปรียบทางสัญญาการจ้างงานตามกฎหมายแรงงานของเกาหลีใต้ ทว่า ศาลได้มีคำพิจารณาว่าอาชีพ ศิลปิน-ไอดอล 'ไม่ใช่' แรงงานตามกฎหมายแรงงานของเกาหลีใต้ โดยศาลให้คำพิจารณาว่า "เมื่อพิจารณาจากสัญญาที่ลงนามโดยฮันนิ เธอไม่มีสถานะเป็นแรงงานตามกฎหมายแรงงาน เนื่องจากอาชีพดังกล่าวมีการจ่ายค่าตอบแทนในรูปแบบความสัมพันธ์แบบลูกจ้าง-นายจ้าง แต่มีสถานะเป็นนิติบุคคลพิเศษที่ปฏิบัติงานภายใต้ต้นสังกัด ซึ่งรวมถึงนักแสดง นักร้อง ไอดอล และศิลปินคนอื่น ๆ ด้วย"

คำตัดสินดังกล่าวของศาลเกาหลีใต้อาจสร้างผลกระทบวงกว้างต่อแวดวงศิลปินดาราเกาหลี เพราะจะเป็นการสร้างบรรทัดฐานให้ศาลมีการพิจารณาในลักษณะเดียวกันต่อศิลปินคนอื่น หากศิลปินมีการฟ้องร้องเกี่ยวกับสัญญาการจ้างงานต่อต้นสังกัด ซึ่งถือเป็นคำตัดสินที่อาจสะเทือนการให้นิยมการจ้างงานในฐานะศิลปิน

ทั้งนี้ ปัจจุบัน สมาชิกวง New Jeans ทั้ง 5 คนประกาศพร้อมยกเลิกสัญญากับทาง ADOR ซึ่งเป็นค่ายในเครือ HYBE หากไม่ตอบสนองต่อข้อเรียกร้องของพวกเธอภายใน 14 วัน โดย 1 ในเงื่อนไขของพวกเธอคือ การแก้ไขสัญญาที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งพวกเธอได้อ้างอิงถึง 'เอกสารลับ' ของ HYBE ที่หลุดออกมาก่อนหน้านี้ ว่าทางค่าย จะทิ้งวง New Jeans และสร้างวงใหม่ขึ้นมาแทน

จีนจับมือเมียนมา กวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทลายรังฉ้อโกงขนาดใหญ่ตอนเหนือของประเทศ

(22 พ.ย.67) กระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีนรายงานการกวาดล้างศูนย์ฉ้อโกงทางโทรคมนาคม หรือ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่ทั้งหมดทางตอนเหนือของเมียนมา ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ชายแดนจีน-เมียนมา

รายงานระบุว่ามีการจับกุมชาวจีนผู้ต้องสงสัยฉ้อโกงทางโทรคมนาคมกว่า 53,000 ราย ภายใต้ความร่วมมือระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจของจีนกับเมียนมา นับตั้งแต่กระทรวงฯ ดำเนินการปราบปรามการฉ้อโกงทางโทรคมนาคมทางตอนเหนือของเมียนมาเมื่อปี 2023

เมื่อไม่นานนี้ มีการจับกุมผู้ต้องสงสัยฉ้อโกงทางโทรคมนาคมในพื้นที่เมืองตั้งยานทางตอนเหนือของเมียนมาเป็นครั้งแรก จำนวน 1,079 ราย ระหว่างปฏิบัติการร่วมของเจ้าหน้าที่ตำรวจมณฑลอวิ๋นหนาน (ยูนนาน) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีนและเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายท้องถิ่นเมียนมา

รายงานเสริมว่ามีการส่งตัวชาวจีนผู้ต้องสงสัยฉ้อโกงทางโทรคมนาคมที่ถูกจับกุมในพื้นที่เมืองตั้งยานของเมียนมาให้จีนทั้งหมด 763 ราย และปฏิบัติการร่วมดังกล่าวถือเป็นอีกหนึ่งความก้าวหน้าในการปราบปรามการฉ้อโกงทางโทรคมนาคม

ทั้งนี้ หน่วยงานความปลอดภัยสาธารณะของจีนจะยังคงมุ่งมั่นปราบปรามการฉ้อโกงทางโทรคมนาคมข้ามพรมแดนอย่างเข้มงวดต่อไป โดยเฉพาะหลายพื้นที่ที่มีแหล่งมิจฉาชีพอยู่หนาแน่น

กระทรวงฯ จะเพิ่มความร่วมมือบังคับใช้กฎหมายระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจของจีนกับเมียนมา พร้อมเตือนประชาชนระมัดระวังข้อมูลการรับสมัครงานในต่างประเทศที่มีรายได้สูง เนื่องจากอาจเป็นการหลอกลวงเข้าสู่การก่ออาชญากรรม

ประกาศขายด่วน!! พระตำหนักเวนคอร์ต ในอังกฤษ ครั้งหนึ่ง ‘รัชกาลที่ 7’ เคยพำนักหลังสละราชสมบัติ

เว็บไซต์ ขายบ้านของอังกฤษ ประกาศ ขายพระตำหนักเวนคอร์ต ที่ 'รัชกาลที่ 7-สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีฯ' ทรงประทับหลังการสละราชสมบัติ ช่วงปี 2480-2482 เผยราคาน่าสนใจ มหาเศรษฐีไทยจับต้องได้

เมื่อวันที่ (20 พ.ย. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ขายบ้านของอังกฤษ 'inigo.com' ได้ประกาศขาย พระตำหนักเวนคอร์ต (Vane Court) พระตำหนักที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 และสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีฯ ทรงประทับหลังการสละราชสมบัติ ในช่วงระหว่างปี 2480-2482 ซึ่งพระตำหนักแห่งนี้ ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านบิ้ดเด็นเด็น (Biddenden) ใกล้เมืองแอชฟอร์ด (Ashford) ในจังหวัดเคนท์ (Kent) ห่างจากกรุงลอนดอนไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 200 ไมล์

โดยเว็บไซต์ได้บรรยายว่า พระตำหนักเวนคอร์ต ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ประทับของกษัตริย์และราชินีแห่งประเทศไทย เคยเป็นห้องโถง Wealden อันเก่าแก่ในศตวรรษที่ 15 ในหมู่บ้าน Biddenden รัฐ Kent ที่เป็นที่ต้องการ บ้านหลังนี้มีลักษณะพิเศษ โดยเจ้าของปัจจุบันต้องได้รับการปรับปรุงใหม่ทั้งหมด โดยให้ความเอาใจใส่อย่างระมัดระวังต่อองค์ประกอบในการบูรณะ ขณะเดียวกันก็นำแง่มุมของความทันสมัยมาใช้อย่างละเอียดอ่อน บ้านหลังหลักมีพื้นที่ภายในเกิน 6,500 ตารางฟุต ประกอบด้วยห้องนอน 7 ห้อง และพื้นที่นั่งเล่นและห้องอ่านหนังสืออเนกประสงค์หลายห้อง บ้านหลังนี้อยู่ในสวนประดิษฐ์และสระน้ำอันเงียบสงบบนพื้นที่ประมาณ 5.36 เอเคอร์ พร้อมด้วยสระว่ายน้ำ สนามเทนนิส และโรงจอดรถสำหรับรถสี่คัน

เว็บไซต์บรรยายด้วยว่า ระหว่างการประทับที่พระตำหนัก เวนคอร์ต พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 และสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีฯ ทรงสำราญเป็นอย่างมาก พระจริยวัตรที่ทรงโปรดปรานคือการเสด็จลงทำสวน ปลูกต้นคาร์เนชั่น ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีฯ ทรงตัดดอกไม้มาปักแจกันไว้ตามห้องต่าง ๆ ในพระตำหนักทุกวัน อีกทั้งสองพระองค์ยังโปรดที่จะเสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรดอกไม้ในสวน มีสะพานเล็ก ๆ 

มีบ่อน้ำที่ทรงเลี้ยงเป็ดเทศไว้หลายพันธุ์ ชาวบ้านในละแวกนั้นก็ได้เข้าเฝ้าฯ ทั้งสองพระองค์บ่อย ๆ เพราะแทนที่จะทรงสั่งซื้อของและให้ร้านในเมืองไปส่งที่พระตำหนัก แต่กลับทรงจักรยานตามถนนเล็ก ๆ เพื่อทรงจับจ่ายจากร้านในหมู่บ้าน โดยสัปดาห์หนึ่ง จะซื้อที่ร้านหนึ่ง อีกสัปดาห์ก็ซื้อของที่อีกร้าน รวมทั้งยังทรงทำหน้าที่เป็นมูลนาย (Squire) ประจำหมู่บ้าน ทรงเป็นองค์ประธานพระราชทานถ้วยรางวัลในการประกวดดอกไม้ งานแข่งม้ากระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง ซึ่งชาวบ้านในหมู่บ้านมั่นใจว่า พระองค์จะไม่กลับไปที่ประเทศสยาม เพราะทุกครั้งที่เห็นพระองค์ทรงพระดำเนินไปตามถนนในหมู่บ้านกับสุนัขพันธุ์แอร์เดล ที่ชื่อว่า แซม เขาเชื่อว่า พระองค์โปรดที่จะประทับในประเทศอังกฤษอย่างเงียบ ๆ มากกว่า

จากนั้นบรรยายส่วนต่าง ๆ ของบ้านทั้งภายในภายนอก หมดทุกซอกทุกมุม รวมถึงบริเวณโดยรอบของบ้านอย่างละเอียด ภายหลังเจ้าของบ้านปัจจุบันของพระตำหนัก เวนคอร์ต ทำการรีโนเวทบ้านหลังนี้ใหม่ โดยยังคงเอกลักษณ์บ้านเดิมเอาไว้ให้มากที่สุด แต่สอดแทรกความโมเดิร์นเข้าไปได้อย่างลงตัว โดยตั้งราคาขายไว้ที่ 3,950,000 ปอนด์ หรือ 173,618,300 บาท


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top