Saturday, 28 June 2025
TheStatesTimes

เครื่องดื่มแบรนด์ไทย ตีตลาดจีน ปีเดียวขยายแล้ว 160 สาขา

(14 พ.ย. 67) “โกโก้ร้านไอต้น” (Da HuZi Bing KeKe) เปิดตัวอย่างเป็นทางการในตลาดจีนเมื่อปี 2023 และเพียงหนึ่งปีให้หลัง แบรนด์ก็ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในหมู่วัยรุ่นจีน

ความสำเร็จของแบรนด์ส่วนหนึ่งมาจากเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของโลโก้ ซึ่งเป็นภาพ "นักเรียน" ที่มีลักษณะเหมือนเจ้าของแบรนด์ คุณต้น-ประชานารถ โพธิสาราช เมนูของร้านมุ่งเน้นที่โกโก้เป็นหลัก โดยใช้วัตถุดิบประมาณ 50% จากประเทศไทย ลูกค้าสามารถเลือกระดับความเข้มข้นได้ 4 ระดับ ได้แก่ "ละอ่อน" "เข้ม" "โคตรเข้ม" และ "โคตรหวาน" ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 18-22 หยวน (87-106 บาท) 

อีกจุดขายสำคัญของ “โกโก้ร้านไอต้น” คือการปรับเปลี่ยนภาพหนวดและการแต่งกายของตัวการ์ตูนบนแก้วตามเมนูและระดับความเข้มข้น เช่น หากสั่งโกโก้รสมินต์ หนวดจะเป็นสีเขียว หรือหากเป็นเมนูพิเศษช่วงคริสต์มาส ตัวการ์ตูนจะแต่งเป็นซานตาคลอส กลยุทธ์การตลาดสร้างสรรค์นี้ช่วยดึงดูดกลุ่มวัยรุ่นที่ชอบถ่ายภาพและแชร์ลงโซเชียลมีเดียอย่าง Little Red Book

กลยุทธ์การขยายสาขาของโกโก้ร้านไอต้นในจีนเน้นการลงทุนน้อย และเลือกขยายตามศูนย์การค้า โดยเปิดสาขาแรกในสิบสองปันนาเมื่อเดือนเมษายน 2023 ซึ่งต่างจากไทยที่เน้นสตรีทฟู้ด ปัจจุบัน ร้านได้ขยายสาขาไปแล้วกว่า 160 แห่งในหลายมณฑล เช่น ยูนนาน เหอเป่ย กว่างซี กวางตุ้ง เซี่ยงไฮ้ และอื่น ๆ 

นอกจากโลโก้และการตลาดที่โดดเด่น การเข้าถึงลูกค้าด้วยการสร้างอารมณ์ขันยังเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญของแบรนด์ การปรับภาพลักษณ์โลโก้ให้เข้ากับรสชาติและบรรยากาศเทศกาลสร้างความสนุกสนานและเข้าถึงง่าย ซึ่งเข้ากับกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการความผ่อนคลายในชีวิตประจำวัน ทั้งนี้ การใช้ต้นทุนการลงทุนที่ต่ำช่วยให้แฟรนไชส์ขยายสาขาได้รวดเร็ว ตอบโจทย์ผู้ที่มีงบประมาณจำกัด

ตลาดเครื่องดื่มชงในจีนยังมีแนวโน้มเติบโตสูง โดยคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 421,300 ล้านหยวนในปี 2022 เป็น 1.18 ล้านหยวนในปี 2028 ด้วยอัตราการเติบโตเฉลี่ย 18.7% ซึ่งสูงกว่าอัตราการเติบโตของอุตสาหกรรมเครื่องดื่มโดยรวม ปัจจุบันการบริหารและขยายสาขาของโกโก้ร้านไอต้นในจีนดำเนินการโดยบริษัทจีน 100% โดยใช้วัตถุดิบจากไทยราว 50%

จากการเติบโตของโกโก้ร้านไอต้นในจีน กลยุทธ์การตลาดที่สร้างสรรค์ การจัดการต้นทุน และการเลือกทำเลที่ตั้งอย่างมีประสิทธิภาพช่วยให้แบรนด์สามารถขยายตัวได้อย่างรวดเร็วและกว้างขวาง

ข้อมูลจาก สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ เมืองเซี่ยเหมิน

สถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา - ปตท. ขยายความร่วมมือ ต่อยอดพัฒนานวัตกรรม - สร้างเกษตรกรรุ่นใหม่สู่สังคม

(12 พ.ย. 67) สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ ระหว่าง สถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา กับ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ณ อาคารรัตนเกษตร สำนักวิชาเกษตรนวัต สถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา ตำบลป่ายุบใน อำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.คุณหญิงสุมณฑา พรหมบุญ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สันทนีย์ ผาสุข รองอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ประธานกรรมการ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. พร้อมด้วยข้าราชการ ผู้บริหาร และพนักงานเฝ้าทูลละอองพระบาทรับเสด็จฯ

ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง เปิดเผยว่า สถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา และ ปตท. มีความร่วมมือในการส่งเสริมการเรียนการสอนและงานวิจัย เพื่อพัฒนานวัตกรรมการเกษตร มุ่งสร้างเกษตรกรรุ่นใหม่ พร้อมขยายผลสู่ชุมชน ผ่านบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ (MOU) ฉบับที่ 1 มาตั้งแต่ พ.ศ. 2563 – 2566 ตลอดระยะเวลา 3 ปี ภายใต้ความร่วมมือดังกล่าว ทำให้เกิดการพัฒนาที่เด่นชัดเป็นรูปธรรม อาทิ การพัฒนาหลักสูตรฝึกประสบการณ์วิชาชีพ “นักเพาะกล้า” การพัฒนาเครื่องมือการประเมินคาร์บอนไดออกไซด์ของพื้นที่สวนยางพาราด้วยเทคโนโลยีการสำรวจระยะไกล การวิจัยติดตามประเมินผลสัมฤทธิ์การเจริญเติบโตและความหลากหลายทางชีวภาพของป่านิเวศป้องกัน การพัฒนาพื้นที่สวนสมรมเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ รวมถึงการจัดทำระบบฐานข้อมูลสำหรับศูนย์เรียนรู้เกษตรนวัต 

ในการนี้ เพื่อต่อยอดความร่วมมือดังกล่าว สถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา และ ปตท. จึงเห็นชอบร่วมกันในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ ฉบับที่ 2 โดยมีระยะเวลาการดำเนินงาน 3 ปี เพื่อร่วมกันพัฒนาองค์ความรู้และส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านการฟื้นฟูระบบนิเวศป่าไม้ ความหลากหลายทางชีวภาพ พร้อมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ความเชี่ยวชาญระหว่างองค์กรและชุมชนที่เกี่ยวข้อง ด้วยกรอบการดำเนินงาน 4 ด้าน ได้แก่ สนับสนุนเชิงวิชาการเพื่อพัฒนาการศึกษา พัฒนาศักยภาพบุคลากร ส่งเสริมการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ และจัดหาที่ปรึกษาด้านวิชาการหรือผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเพื่อร่วมเป็นเครือข่ายในการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ ความร่วมมือดังกล่าวมุ่งหวังให้เกิดการพัฒนาและเผยแพร่องค์ความรู้ด้านนวัตกรรมการเกษตร เพื่อส่งเสริมการพัฒนาเกษตรกรรุ่นใหม่ ต่อยอดสู่การสร้างชุมชนให้เข้มแข็ง สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของ ปตท. “ปตท. แข็งแรงร่วมกับสังคมไทยและเติบโตในระดับโลกอย่างยั่งยืน”

เผยอีก 3 ปีไม่ต้องพึ่งมนุษย์ AI แปลได้หมดทุกภาษา

(14 พ.ย. 67) Unbabel เปิดตัวบริการแปลภาษาใหม่ Widn.AI ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อก้าวเข้าสู่ตลาดแปลภาษาที่มีการแข่งขันสูง โดยซีอีโอของบริษัทเตือนว่าอีกเพียง 3 ปีข้างหน้า AI อาจพัฒนาได้ถึงขั้นที่ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาการแปลโดยมนุษย์อีกต่อไป

Widn.AI สร้างขึ้นจากโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ที่บริษัทพัฒนาขึ้นเองในชื่อ Tower ซึ่งเป็นระบบ AI ที่คล้ายกับโมเดลเบื้องหลัง ChatGPT ของ OpenAI

วาสโก เปโดร ซีอีโอของ Unbabel ให้สัมภาษณ์กับ CNBC ว่า LLM ของบริษัททำให้ AI สามารถแปลได้ถึง 32 ภาษา แต่จากการตรวจสอบบนเว็บไซต์ของบริษัท บริการนี้ยังไม่รองรับภาษาไทย

เปโดรกล่าวว่า “เมื่อเราเริ่มก่อตั้ง Unbabel เมื่อ 10 ปีก่อน AI ยังไม่สามารถทำงานได้ถึงระดับนี้ เราจึงพัฒนาโซลูชันที่ผสานมนุษย์กับ AI … แต่ตอนนี้เป็นครั้งแรกที่เราเชื่อว่าการแปลภาษาอยู่ในขอบเขตที่ AI สามารถทำได้เต็มรูปแบบ โดยไม่ต้องพึ่งพามนุษย์”

ผลิตภัณฑ์เดิมของ Unbabel เคยใช้ระบบ Machine Learning ร่วมกับการตรวจสอบโดยมนุษย์เป็นขั้นตอนสุดท้าย อย่างไรก็ตาม เปโดรชี้ว่า Widn.AI นั้นไม่จำเป็นต้องใช้มนุษย์เข้ามาช่วยอีกต่อไป

“ผมคิดว่ามนุษย์ยังมีข้อได้เปรียบเล็กน้อยในกรณีการใช้งานที่ซับซ้อนมาก แต่นั่นเป็นข้อได้เปรียบที่เล็กน้อยจริง ๆ ยกเว้นในงานที่ยากและท้าทายอย่างมาก เราเชื่อว่า AI กำลังจะถึงจุดที่สามารถทำงานแทนมนุษย์ได้อย่างสมบูรณ์ และในอีก 3 ปีข้างหน้า ผมมองไม่เห็นว่าเราจะยังจำเป็นต้องใช้มนุษย์ในการแปลอีกต่อไป”

15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2476 ประเทศไทย จัดเลือกตั้ง สส.เป็นครั้งแรก เป็นการเลือกตั้งทางอ้อมครั้งแรก และครั้งเดียว

15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2476 ประเทศไทยจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นการเลือกตั้งทางอ้อมครั้งแรก และครั้งเดียวของไทย โดยเป็นการเลือกผู้แทนตำบลก่อน แล้วให้ผู้แทนตำบลเลือกผู้แทนราษฎรอีกทีหนึ่ง

การเลือกตั้งครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังเหตุการณ์กบฏบวรเดชยุติ รัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรี นายพันเอกพระยาพหลพลพยุหเสนา แถลงต่อสภาในวันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2476 ว่าได้ปราบกบฏเสร็จสิ้นบ้านเมืองสงบแล้ว จึงสมควรจำเป็นต้องมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น

การเลือกตั้ง สส.ในปี 2476 นี้ นับเป็นการเลือกตั้งทั่วไปครั้งแรก เกิดขึ้นในตอนที่ประเทศไทยยังใช้ชื่อว่า สยาม ครั้งนั้น ประเทศไทยมีทั้งสิ้น 70 จังหวัด เป็นอัตราส่วนที่คิดจำนวนประชากรไม่สูงมาก เนื่องจากขณะนั้น ประชากรทั้งประเทศของสยามยังไม่ถึง 18 ล้านคน

มีการเลือกตั้งผู้แทนได้จังหวัดละ 1 คน ยกเว้นจังหวัดพระนคร (จังหวัดในอดีตของไทย ช่วงปี 2408-2515 ก่อนรวมกับจังหวัดธนบุรี เป็นกรุงเทพมหานคร) และจังหวัดอุบลราชธานี สามารถเลือกผู้แทนได้ 3 คน ส่วน จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดมหาสารคาม จังหวัดร้อยเอ็ด และจังหวัดนครราชสีมา เลือกผู้แทนได้ 2 คน มีผู้แทนจากการแต่งตั้งอีก 78 คน รวมแล้วได้ 156 คน

การเลือกตั้งครั้งแรก มีผู้มีสิทธิออกเสียงทั้งหมด 4,278,231 คน
มีผู้ออกมาใช้สิทธิ 1,773,532 คน คิดเป็นร้อยละ 41.5
จังหวัดที่มีผู้ไปใช้สิทธิมากที่สุด คือจังหวัดเพชรบุรี คิดเป็นร้อยละ 78.82
จังหวัดที่มีผู้ออกไปใช้สิทธิน้อยที่สุด คือจังหวัดแม่ฮ่องสอน คิดเป็นร้อยละ 17.71

หลังการเลือกตั้ง ได้มีการจัดตั้งคณะรัฐบาลขึ้นมาใหม่ โดยเสียงส่วนใหญ่เลือกเอา พระยาพหลพลพยุหเสนา เป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง (สมัยที่ 2)

‘นศ. แพทย์พระมงกุฎฯ’ นำทีมคว้าแชมป์ระดับนานาชาติ แข่งเขียนโปรแกรมควบคุมหุ่นยนต์ผู้ช่วยนักบิน NASA

(13 พ.ย. 67) “นศ.แพทย์ฯพระมงกุฎฯ” นำทีมเยาวชนไทยคว้ารางวัลชนะเลิศการแข่งขันเขียนโปรแกรมควบคุมหุ่นยนต์ผู้ช่วยนักบินอวกาศของ NASA ในรายการ Kibo Robot Programming Challenge รอบสุดท้าย 

วันนี้ (13 พ.ย. 2567) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การแข่งขัน Kibo Robot Programming Challenge เป็นการแข่งขันเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อควบคุมหุ่นยนต์ Astrobee หุ่นยนต์ผู้ช่วยนักบินอวกาศของ NASA ให้ปฏิบัติภารกิจบนสถานีอวกาศตามที่วางแผนไว้ โดยมีการแข่งขันจริงบนโมดูลคิโบะของสถานีอวกาศนานาชาติ ภายใต้การควบคุมดูแลของ ฌานเน็ตต์ เจ. เอปส์ นักบินอวกาศของ NASA ซึ่งประเทศไทยเรามีตัวแทนไปแข่งขันคือทีมแอสโทรนัต(Astronut) โดยมี ธรรญธร ไชยกายุต นักศึกษาชั้นปีที่ 1 วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า กองทัพบก เป็นหัวหน้าทีมฯ และมีสมาชิกในทีมประกอบด้วย ชิษณุพงศ์ ประทีปพงศ์ นักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะกายภาพบำบัด มหาวิทยาลัยมหิดล, ชยพล เดชศร นักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และ สิรวิชญ์ แพร่วิศวกิจ นักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี โดยมี ปริทัศน์ เทียนทอง นักวิชาการอาวุโส ฝ่ายสร้างสรรค์สื่อและผลิตภัณฑ์ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เป็นผู้ดูแลทีม

ทั้งนี้ ทีมแอสโทรนัต (Astronut) เป็นตัวแทนเยาวชนไทยเข้าแข่งขันรอบสุดท้ายกับตัวแทนเยาวชนจาก 13 ประเทศทั่วโลก ณ ศูนย์อวกาศสึคุบะ องค์การสำรวจอวกาศญี่ปุ่น หรือ JAXA เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน โดยแต่ละทีมที่เข้าแข่งขันต้องออกแบบการเคลื่อนที่ของหุ่นยนต์ในสภาวะแรงโน้มถ่วงต่ำ เพื่อไปทำภารกิจตามที่ได้รับมอบหมายได้อย่างครบถ้วนและใช้เวลาได้น้อยที่สุด โดยผลปรากฏว่าทีมแอสโทรนัตของประเทศไทยสามารถคว้าอันดับ 1 ด้วยคะแนน 253.09 คะแนน ตามด้วยอันดับ 2 ทีมตัวแทนจากฟิลิปปินส์ 250.88 คะแนน และอันดับ 3 เป็นของตัวแทนจากบังกลาเทศ 153.92 คะแนน โดย โนริชิเงะ คะไน นักบินอวกาศของ JAXA มาร่วมให้ความเห็นระหว่างการแข่งขัน และมอบรางวัลแก่ตัวแทนเยาวชนไทย โดยการแข่งขัน Kibo Robot Programming Challenge ในปีนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 5 โดยมีผู้เข้าแข่งขันรวมกว่า 661 ทีมจาก 35 ประเทศทั่วโลก ก่อนคัดเลือกเหลือ 13 ทีมในรอบสุดท้าย

นายธรรญธร ไชยกายุต นักศึกษาชั้นปีที่ 1 วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า หัวหน้าทีมแอสโทรนัต กล่าวว่า พวกเราดีใจเป็นอย่างมากที่สามารถคว้าชัยชนะมาได้จากความตั้งใจและความพยายามของทีมพวกเรา แม้จะเจอปัญหาซึ่งเกิดจากสภาพแวดล้อมจริงในสถานีอวกาศนานาชาติ แต่พวกเราได้เตรียมรับไว้ก่อนอยู่แล้ว จึงทำให้สามารถบรรลุภารกิจได้สำเร็จและยังคงทำเวลาได้ดี การที่ได้นำโค้ดที่พวกเราพัฒนาไปใช้จริงในสถานีอวกาศนานาชาตินับเป็นประสบการณ์อันทรงคุณค่า ซึ่งพวกเราจะนำประสบการณ์เหล่านี้ไปปรับใช้และต่อยอดในงานอื่นๆ ต่อไป

นร.เกาหลีใต้กว่า 5 แสน เข้าสอบ'ซูนึง' เผยปีนี้เด็กสอบซิ่วเพียบ หลังคณะแพทย์รับนศ.เพิ่ม

(15 พ.ย. 67) จะเป็นวันสำคัญครั้งหนึ่งในชีวิตของบรรดานักเรียนชั้นมัธยมปลายในเกาหลีใต้ เนื่องจากถือเป็นวันสอบ “ซูนึง” (Suneung) หรือการสอบเข้ามหาวิทยาลัยของเกาหลีใต้ ถือว่าเป็นการสอบครั้งสำคัญที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของบรรดาวัยรุ่นแดนโสมขาว

สำหรับการสอบซูนึงในปีนี้ ยอนฮับ รายงานว่า มีจำนวนผู้เข้าสอบซ้ำทำสถิติสูงสุด ส่วนหนึ่งมาจากการเพิ่มจำนวนรับนักศึกษาในคณะแพทยศาสตร์ของหลายสถาบัน

ในปีนี้มีนักเรียนเข้าสอบทั้งหมด 522,670 คน แบ่งเป็นนักเรียนระดับมัธยมปลายมีจำนวน 340,777 คน คิดเป็น 65.2 เปอร์เซ็นต์ของทั้งหมด ในขณะที่ผู้สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมปลายแล้วเข้ามาสอบซ้ำ มีจำนวน 161,784 คน ซึ่งเป็นจำนวนสูงสุดตั้งแต่ปี 2003 

โดยผู้สำเร็จการศึกษาประมาณ 93,195 คน เชื่อว่าเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยปีหนึ่งที่ต้องการสอบใหม่เพื่อเข้ามหาวิทยาลัยที่ดีกว่าในปีหน้า ตามข้อมูลจาก Jongro Academy

จำนวนผู้สำเร็จการศึกษาที่เข้าสอบสูงเชื่อมโยงกับการเพิ่มจำนวนรับนักศึกษาในคณะแพทยศาสตร์ปีหน้า โดยมีโรงเรียนแพทย์ 39 แห่งทั่วประเทศที่จะรับนักศึกษา 4,610 คน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีนี้ถึง 1,497 คน

การเพิ่มจำนวนดังกล่าวมาจากนโยบายของรัฐบาลประธานาธิบดียุน ซอก ยอล ที่ตัดสินใจเพิ่มตำแหน่งนักเรียนแพทย์ประมาณ 2,000 ตำแหน่งต่อปีในอีก 5 ปีข้างหน้า เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนแพทย์ภายในประเทศ

การสอบ CSAT หรือ ซูนึง ถือเป็นเหตุการณ์ทางวิชาการที่สำคัญที่สุดของประเทศ เพราะการเข้ามหาวิทยาลัยชื่อดังถือเป็นเส้นทางสำคัญในการมีอาชีพที่ดี

รัฐบาลประกาศว่าจะไม่มีข้อสอบยากพิเศษหรือ "killer" questions ในการสอบปีนี้ตามนโยบายที่วางไว้

การสอบจะเริ่มตั้งแต่ 8:10 น. ถึง 17:45 น. โดยในช่วงเวลานี้ ทางการจะควบคุมเสียงรบกวนบริเวณสนามสอบ 1,282 แห่งทั่วประเทศ

ในช่วงการสอบฟังภาษาอังกฤษตั้งแต่ 13:05 น. ถึง 13:30 น. จะห้ามเครื่องบินขึ้นและลงจอดทั้งหมด โดยมีการปรับตารางบินของเครื่องบิน 156 ลำเพื่อให้เหมาะสม

เครื่องบินที่กำลังบินอยู่จะต้องรักษาระดับความสูงไม่ต่ำกว่า 3 กิโลเมตร ยกเว้นกรณีฉุกเฉิน และการฝึกซ้อมทางทหารที่ทำให้เกิดเสียงรบกวนจะถูกระงับชั่วคราว

รัฐบาลกรุงโซลประกาศขยายเวลาให้บริการรถไฟใต้ดินช่วงชั่วโมงเร่งด่วนตอนเช้าเป็น 6:00 น. ถึง 10:00 น. จากปกติ 7:00 น. ถึง 9:00 น. เพื่อช่วยให้นักเรียนเดินทางไปยังสนามสอบได้ทันเวลา

ตำรวจจะจัดกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 10,000 นาย เพื่อดูแลการขนส่งเอกสารสอบไปยังสถานที่สอบและรักษาความสงบเรียบร้อยรอบโรงเรียน

MAHASAMUT SEAFOOD ส่งตรงอาหารทะเลขึ้นห้าง ที่สุดของความสดจากทะเลใต้! การันตีด้วยด้วยมาตรฐาน GI

(14 พ.ย. 67) มหาสมุทรซีฟู้ด (Mahasamutfoods) ผู้จำหน่ายวัตถุดิบอาหารทะเลคุณภาพ เปิดบูธในห้างใหญ่ นำเสนออาหารที่ได้รับมาตรฐาน GI ที่ทั้งสดใหม่ สะอาด อร่อย 

โดยเฉพาะ ‘ปลากะพง 3 น้ำ’ จากลุ่มทะเลสาบสงขลา ซึ่งเจ้าแรกในไทยที่ได้การรับรองความสดอร่อย จากมาตรฐาน GI ด้วยความพิเศษที่ไม่เหมือนใครในเรื่องของคุณภาพ ที่สามารถเพิ่มมูลค่าสินค้าได้ดีสำหรับผู้ประกอบการร้านอาหารและร้านตัวแทนจำหน่ายอาหารทะเลสด แม้กระทั่ง ‘เจ๊ไฝ’ เชฟ และเจ้าของร้านอาหารมิชลิน 1 ดาว 7 ปีซ้อน ยังเชื่อมั่นให้ความไว้วางใจในคุณภาพสินค้า มาอุดหนุนถึงร้าน

สำหรับ บูธ มหาสมุทรซีฟู้ด นอกจากปลากะพง 3 จากลุ่มทะเลสาบสงขลา ยังมีผลิตภัณฑ์มาตรฐาน GI อย่าง ปูดำ จากนครศรีธรรมราช และ หอยนางรม จากสุราษฎร์ธานี นำมาจำหน่ายอีกด้วย โดยลูกค้าสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้ที่บูธ 3 แห่ง ประกอบด้วย

Gourmet Market Siam Paragon ชั้น G (โซนซีฟู้ด) โซนงาน Gourmet Tastival, Gourmet Market Siam Paragon (ติดกับโซนสลัดบาร์) Gourmet Market The Mall ท่าพระ ชั้น B1
(หน้าร้าน You Hunt We Cook)

ต่างชาติ แห่ลงทุน Data Center ปีนี้กว่า 1.7 แสนล้าน หนุนไทยสู่ศูนย์กลางนวัตกรรมดิจิทัลของภูมิภาคอาเซียน

(14 พ.ย. 67) ‘รองโฆษกรัฐบาล’ เผย ต่างชาติเชื่อมั่น ลงทุนในกิจการ Data Center ในประเทศไทยต่อเนื่อง ล่าสุด BOI ไฟเขียว 2 โครงการใหญ่ มูลค่ากว่า 60,000 ล้านบาท รวมทั้งปี 47 โครงการ มูลค่าการลงทุนกว่า 1.73 แสนล้านบาท

เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 67 เวลา 9.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ประเทศไทยกำลังเป็นเป้าหมายและยุทธศาสตร์สำคัญด้านการลงทุน Data Center และ Cloud Service อย่างต่อเนื่อง ข้อมูลของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI)  พบว่าในรอบปีที่ผ่านมา มีโครงการลงทุนยื่นขอรับการส่งเสริมฯ ในกิจการ Data Center และ Cloud Service รวม 47 โครงการ มูลค่าลงทุนกว่า 173,000 ล้านบาท โดยเป็นการลงทุนจากบริษัทรายใหญ่ทั้งสัญชาติอเมริกัน ออสเตรเลีย จีน ฮ่องกง สิงคโปร์ ญี่ปุ่น อินเดีย และไทย 

จากข้อมูลล่าสุด BOI อนุมัติส่งเสริมการลงทุนกิจการ Data Center 2 โครงการใหญ่ มูลค่ารวมกว่า 60,000 ล้านบาท ประกอบด้วย บริษัท ควอตซ์ คอมพิวติ้ง จำกัด ในเครือ Alphabet Inc. (สหรัฐอเมริกา) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Google มูลค่าลงทุน 32,760 ล้านบาท เป็นการลงทุนตามแผนธุรกิจที่ Google ได้ประกาศระหว่างการพบนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2567 ว่าจะสร้าง Data Center และ Cloud Region แห่งใหม่ ในประเทศไทย ด้วยมูลค่าเงินลงทุนเฟสแรก 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยจะเป็นศูนย์ Data Center แห่งที่ 5 ในเอเชียของ Google ตั้งอยู่ที่จังหวัดชลบุรี มีแผนเปิดให้บริการในช่วงต้นปี 2570

และโครงการ Data Center ของบริษัท ดิจิทัลแลนด์ เซอร์วิสเซส ในเครือ GDS ซึ่งเป็นผู้ให้บริการ Data Center ชั้นนำระดับโลก ที่ให้บริการทั้งในประเทศจีนและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีมูลค่าลงทุน 28,000 ล้านบาท โดยโครงการใหม่ในประเทศไทย ตั้งอยู่ที่จังหวัดชลบุรี มีแผนเปิดให้บริการในปี 2569

นางสาวศศิกานต์กล่าวว่า จากนโยบายเชิงรุกของรัฐบาล ที่ส่งเสริมด้าน Cloud First Policy ช่วยกระตุ้นให้ภาครัฐและองค์กรต่าง ๆ ใช้เทคโนโลยี Cloud ส่งผลให้ตลาด Data Center ในไทยขยายตัวมากขึ้น ตอกย้ำการพัฒนาก้าวสู่รัฐบาลดิจิทัล อีกทั้งจากผลประโยชน์จากการลงทุนที่เพิ่มขึ้น เป็นการสร้างความเชื่อมั่นและเสริมความแข็งแกร่งด้านโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลของประเทศไทย และเป็นการเปิดโอกาสให้กับอุตสาหกรรมอื่น ๆ เพิ่มเม็ดเงินในหลายมิติ ทั้งภาคการผลิต การค้า และการท่องเที่ยว อีกทั้งยังช่วยขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็น Digital Innovation Hub ของภูมิภาคอาเซียนด้วย

‘สนธิ’ เปิดหน้าแฉ ทนายดาวไถ ผกก.โจ้ 10 ล้าน ชาวเน็ตห่วง ‘ทนายเดชา’ จบไม่สวยตามรอย ‘ทนายตั้ม’

(14 พ.ย. 67) เดือด ‘สนธิ’ ถาม ‘ทนายเดชา’ พอทราบไหมมีทนายผมหยิก ตัวดำ หน้ากล้อ คอสั้น ฟันเหยิน ตบทรัพย์ ผกก.โจ้ 10 ล้าน สะกิดข้อเท็จจริงสืบไม่ยาก เข้าไปเจออดีตนายตำรวจคงทราบชื่อนักกฎหมายจอมไถ ก่อนอีกฝ่ายโร่ย้ำรายการช่องดัง ถูกใส่ร้ายท้าไปดูสรุปสำนวนที่ สน.

จากกรณีเปิดศึกน้ำลายออกมากล่าวหาไปจนพาดพิงกันนอกรอบ ระหว่างนายสนธิ ลิ้มทองกุล กับทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ โดยปมเดือดล่าสุดเป็นประเด็นที่เจ้าของและผู้ก่อตั้งนสพ.ผู้จัดการ ได้ปลุกผีคดีผู้กำกับโจ้ พ.ต.อ. ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีตผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรเมืองนครสวรรค์ ซึ่งมีคดีซ้อมทรมานผู้ต้องสงสัยแต่ลดโทษจากประหารเหลือจำคุกตลอดชีวิต

โดยนายสนธิมีการเกริ่นเนื้อหาบางช่วงที่ระบุ “มีทนายผมหยิก ตัวดำ หน้ากล้อ คอสั้น ฟันเหยิน ตบทรัพย์ ผกก.โจ้ 10 ล้าน” ก่อนจะร่ายยาวในรายการ sondhitalk ระบุ ตนไม่ได้ข่มขู่ใครส่วนนายเดชาเคยไปข่มขู่ใครหรือไม่ ตนไม่อาจทราบได้จริง ๆ แต่มีคนเล่าให้ฟังถึงผู้กำกับโจ้ว่ามีทนายคนหนึ่งมีคลิปว่าคนตายนั้นเสียชีวิตจากที่ผกก.โจ้นั้นคลุมถุง ถ้าไม่ให้เปิด ขอ 10 ล้าน แต่ทนายความของนายตำรวจปฏิเสธ คลิปจึงถูกส่งต่อมาที่ทนายตั้ม

“ตนไม่ทราบว่าใคร ใครทราบช่วยแจ้ง คุณเดชาพอทราบหรือไม่”

หลังจากเปิดโปงพฤติกรรมจนชัดเจนในความไม่ชอบมาพากล นายสนธิยังยืนกรานเรื่องนี้ตรวจสอบไม่ยาก เพียงแค่ตนทำเรื่องขอเข้าไปสอบถามผู้กำกับโจ้ในเรือนจำคลองเปรม “โจ้ครับ มีเรื่องนี้จริงไหม ถ้าเขาบอกว่าจริงก็อาจรบกวนให้ช่วยบอกชื่อหน่อยได้หรือไม่“

ขณะที่นายเดชาหลังถูกพาดพิงก็ออกมาชี้แจงด้วยสีหน้าเคร่งขรึมกว่าทุกครั้ง โดยกล่าวในรายการคนดังนั่งเคลียร์ของช่อง 8 ยืนกรานไม่ใช่คนที่ได้คลิปคลุมถุงผกก.โจ้ ก่อนแล้วไปเรียกเงิน พอไม่ได้จึงส่งให้ทนายตั้ม

ทนายเดชาย้ำเรื่องนี้ไม่เป็นความจริงแน่นอน เนื่องจากสรุปสำนวนคดีอยู่ที่ สน.โคกคราม พร้อมกับเตือนไปถึงคนที่พาดพิง ถ้ายังนำมาเป็นประเด็นนี้มาใส่ร้ายก็เตรียมรอหมายศาลได้เลย

“อันนี้ไม่จริงเป็นความเท็จ และผมได้แจ้งความดำเนินคดีกับทนายตั้มไว้ที่ สน.โคกครามแล้วก็พนักงานสอบสวนได้เดินทางไปพบผกก.โจ้แล้วสอบปากคำเรียบร้อยแล้วว่าทนายเดชาไม่ได้เข้าไปเรียกเงินแต่อย่างใด สามารถไปขอดูหลักฐานดังกล่าวได้ ถ้าใครอยากจะได้ตนก็พาไปได้ เรื่องพวกนี้เป็นข่าวใส่ร้าย อันนี้ 100% ถ้าใครยังพูดอยู่ เดี๋ยวผมก็จะเอาหมายศาลใส่ไปให้ที่บ้าน” นายเดชา ระบุ

‘ผู้นำพรรคฝ่ายค้านญี่ปุ่น’ ถูกชาวเน็ตถล่มยับ หลังผุดไอเดียจับผู้หญิงตัดมดลูกทิ้ง ถ้าไม่ยอมมีลูกก่อนอายุ 30

(14 พ.ย. 67) ชาวเน็ตญี่ปุ่นจัดทัวร์กฐิน ผ้าป่า ทัวร์สารทิศไปจอดลงที่บ้านนายฮายากุตะ นาโอกิ ผู้นำพรรคอนุรักษ์นิยมแห่งญี่ปุ่น หนึ่งในพรรคฝ่ายค้านโดยพร้อมเพรียง เมื่อเขานำเสนอไอเดียสุดพิสดารผ่านรายการ News Asahi 8 o'clock! ทาง Youtube เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ในการแก้ปัญหาเด็กเกิดน้อยในญี่ปุ่นด้วยการกดดันให้ผู้หญิงรีบแต่งงาน และมีลูกให้ได้ก่อนอายุ 30 ไม่เช่นนั้น ก็จับไปตัดมดลูกทิ้งซะ 

ฮายากุตะ ได้กล่าวถึงสมมติฐานที่ว่าทำไมญี่ปุ่นถึงประสบปัญหาเด็กเกิดน้อยมาก อาจเป็นเพราะ ผู้หญิงญี่ปุ่นส่วนใหญ่คิดว่าพวกเธอมีเวลาเหลือเฟือจะมีลูกเมื่อไหร่ก็ได้ จึงไม่คิดที่จะรีบมีในขณะที่ยังอยู่ในวัยสาว ดังนั้นเขามีแนวคิดที่จะกดดันให้ผู้หญิงควรรีบมีลูก ก่อนที่จะไม่มีโอกาส ด้วยการจำกัดช่วงเวลาที่จะให้ผู้หญิงสามารถแต่งงาน หรือตั้งครรภ์ได้ 

อาทิเช่น หากเราแบนผู้หญิงที่อายุเกิน 18 ปี เข้าเรียนในมหาวิทยาลัย ห้ามผู้หญิงอายุเกิน 25 ปี มีสิทธิ์แต่งงาน หรือ หากผู้หญิงไม่มีลูกก่อนอายุ 30 ต้องถูกตัดมดลูกทิ้ง จะทำให้ผู้หญิงเริ่มตระหนักถึงช่วงเวลาจำกัดของตนในการวางแผนครอบครัว ที่จะเป็นตัวเร่งให้พวกเธอต้องรีบเรียน รีบแต่งงาน และมีลูกไวขึ้น ซึ่งฮายากุตะเชื่อว่า จะทำให้มีเด็กเกิดใหม่ในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นได้ 

แต่เขายอมรับว่า ไอเดียเหล่านี้ เป็นเพียงจินตนาการในโลกนิยายวิทยาศาสตร์เท่านั้น ไม่อาจเกิดขึ้นจริงได้ 

เป็นการแสดงความเห็นแบบสุดโต่งที่ แม้แต่ อาริโมโตะ คาโอริ สมาชิกพรรคอาวุโส ที่ร่วมรายการด้วยกันยังท้วงติงว่าไม่เหมาะสม แม้จะอ้างว่าเป็นแค่เรื่องสมมติในนิยายก็ตาม แต่ทั้งนี้เขายืนยันว่าเป็นเพียงยกตัวอย่างเพื่ออธิบายให้ตระหนักถึงช่วงเวลาที่จำกัดของผู้หญิงในการมีลูกนั้นสั้นเพียงใด  

แต่คำแก้ตัวของหัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน ไม่อาจยับยั้งคณะทัวร์จากสาวญี่ปุ่นทั่วประเทศ ที่ต่างออกมาตำหนิอย่างรุนแรงถึงการแสดงความเห็นผ่านสื่อออนไลน์เช่นนี้ เข้าข่ายเหยียดเพศ มีทัศนคติเชิงลบกับสตรี ไม่เข้ากับบริบทของสังคมปัจจุบัน แม้นาย ฮายากุตะ จะอ้างว่าเป็นเพียงเรื่องจินตนาการในนิยาย และตัวเขาเองก็เคยมีอาชีพเป็นนักเขียนนิยายมาก่อนที่จะมาเล่นการเมืองก็ตาม 

และล่าสุด นาย ฮายากุตะ นาโอกิ ต้องยอมออกมากล่าวขอโทษออกสื่อ จากความเห็นสาธารณะที่ได้กล่าวออกไปด้วยความคิดน้อยของเขา จนสร้างความไม่สบายใจในสังคม 

ฮายากุตะ นาโอกิ ถือเป็นนักการเมืองสายชาตินิยมขวาจัด โดยได้ตั้งพรรคอนุรักษ์นิยมแห่งญี่ปุ่น เพื่อต่อต้านพระราชบัญญัติส่งเสริมความหลากหลายทางเพศที่ได้ผ่านสภาในญี่ปุ่นเมื่อปี 2023  โดยพรรคมีนโยบายต่อต้านการเรียกร้องสิทธิ์ของกลุ่ม LGBT ในญี่ปุ่น หรือการรับชาวต่างชาติย้ายถิ่นเข้าประเทศ แล้วมักแสดงความเห็นเชิงเหยียดสตรี และ ชนกลุ่มน้อยทางเพศ ออกสื่ออยู่เสมอ นอกจากนี้ ฮายากุตะ ยังปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องการสังหารหมู่ของกองทัพญี่ปุ่นในสงครามนานกิงเมื่อปี 1937 อีกด้วย  


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top