Monday, 9 June 2025
TheStatesTimes

‘ดร.ปรเมษฐ์-เนเน่’ เสวนาการศึกษาฯ เร่งพัฒนาคุณภาพครู ยกระดับการศึกษา เสนอ ‘พานิภัค โมเดล’ ชี้!! ‘เด็ก-เยาวชน’ ให้ค้นพบตัวเอง เพื่อมีเป้าหมาย มุ่งสู่ฝัน

เมื่อวานนี้ (17 ส.ค.67) ดร.ปรเมษฐ์ จินา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสุราษฎร์ธานี เขต 5 พร้อมด้วยนางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ ร่วมเสวนาในเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นความเป็นไปได้ในการแก้ไขปัญหาทรัพยากรการศึกษาทั้งในและนอกระบบของ จ.สุราษฎร์ธานี ในกิจกรรม ‘ธนาคารโอกาสและถนนครูเดิน ครั้งที่ 2’ และเวทีเสวนาเพื่อเคลื่อนขบวนความร่วมมือ ‘All for Education -  Education for All’ ซึ่งจัดโดย กองทุนเสมอภาคทางการศึกษา(กสศ.) ร่วมกับมูลนิธิกระจกเงา หน่วยบริการ ALTV องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ไทยพีบีเอส) ในวันเสาร์ที่ 17 สิงหาคม 2567 ณ โรงเรียนศรีสุวรรณ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี

ดร.ปรเมษฐ์ จินา กล่าวว่า ในฐานะที่เคยดำรงตำแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้เคยรับผิดชอบดูแลในเรื่องของทั้งการสาธารณสุขและการศึกษา 

ปัญหาโดยพื้นฐานของสังคมจะมีอยู่ 3 ประเด็นหลัก ๆ คือ เรื่องการแก้ปัญหาขาดความรู้ผ่านการศึกษา การแก้ปัญหาการเจ็บป่วยผ่านการสาธารณสุข แก้ปัญหาความยากจนผ่านการสร้างรายได้ ถ้าแก้ปัญหา 3 ประเด็นนี้ได้ปัญหาสังคมอื่น ๆ จะหมดไป 

ประเด็นสำคัญของสุราษฎร์ธานีคือ การแก้ปัญหาการยุบเลิกโรงเรียน ตนเห็นว่าจะต้องมีการปรับโมเดลของการศึกษาให้สอดคล้องกับพื้นที่มากกว่าการยุบเลิกโรงเรียนขนาดเล็ก โรงเรียนในพื้นที่ที่ทำเรื่องการท่องเที่ยวก็ต้องเพิ่มพูนความรู้ในเรื่องของการท่องเที่ยว โรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่ทำการประมงก็ต้องเพิ่มพูนความรู้เรื่องของการประมง 

จากประสบการณ์การไปดูงานในประเทศที่ประสบความสำเร็จทางการศึกษาระดับต้น ๆ ของโลก มีการปลูกฝังเป้าหมายของเด็กและเยาวชน เพื่อให้ค้นพบตัวตนตั้งแต่ต้น ยกตัวอย่างเมื่อเร็ว ๆ มานี้ เทนนิส นางสาวพาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ นักเทควันโดคนแรกของประเทศไทยที่ได้รับเหรียญทองจากการแข่งกีฬาโอลิมปิก และเป็นนักกีฬาไทยคนแรกที่คว้าเหรียญทองโอลิมปิกสองสมัยติดต่อกัน ที่ได้ตั้งเป้าหมายและเดินตามเส้นทางนักกีฬา ตั้งแต่อายุน้อย ๆ นี่คือสิ่งที่การศึกษาของประเทศไทยจะต้องเปลี่ยนหลักการทางการศึกษา

การพัฒนาในเรื่องการศึกษาอีกหัวใจสำคัญคือการให้คนในพื้นที่มีส่วนร่วม พร้อมทั้งรับฟังความคิดเห็นที่หลากหลาย พร้อมกับการสนับสนุนที่ดีของภาครัฐภาคเอกชน ทั้ง 3 ส่วนนี้จะสามารถผลักดันคุณภาพทางการศึกษาต่อไปได้ 

นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี เปิดเผยว่า ในฐานะคุณแม่คนหนึ่ง สิ่งที่เป็นความฝันและความหวัง ก็คือการที่จะได้เห็นการศึกษาของประเทศไทยดีขึ้น งานครั้งนี้ถือว่าเป็นนิมิตหมายอันดีที่หลาย ๆ ภาคส่วนร่วมมือ ร่วมใจกัน เพื่อยกระดับการศึกษาไทย

จากประสบการณ์ที่ตนเรียนจบปริญญาโทมาทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษา (ICT in Education) จากมหาวิทยาลัยด้านการศึกษาเบอร์ 1 ของโลกคือ Institutute of Education (IoE) ในเครือของ University College London (UCL) ประเทศสหราชอาณาจักร  การสนับสนุนอุปกรณ์เทคโนโลยีให้กับโรงเรียนเป็นเรื่องที่ดี แต่สิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องเน้นย้ำคือ การพัฒนาบุคลากรครู

ทุกวันนี้เราพยายามตั้งเป้าในการพัฒนาผ่านอุปกรณ์ในการเรียนการสอน ซึ่งหลายๆ ครั้งต้องใช้ทั้งเวลา และใช้งบประมาณ แต่สิ่งที่เราสามารถผลักดันได้เลยทันทีคือคุณภาพและความเป็นอยู่ของครู เพราะมันเสริมสร้างรากฐานที่ดีให้กับเด็กและเยาวชนอย่างยั่งยืนที่สุด

'อ.พงษ์ภาณุ' ติง!! 'ภาครัฐ' ปกป้องอุตฯ ไทย จากสินค้าราคาถูกจีนล่าช้า สวนทาง 'ยุโรป-เมกา' เดินเกมเก็บภาษีขาเข้าป้องกันจีนทุ่มตลาดแต่เนิ่นๆ

(18 ส.ค.67) ทีมข่าว THE STATES TIMES ได้พูดคุยกับ อ.พงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ อดีตปลัดกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา อดีตรองปลัดกระทรวงการคลัง และผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์ระดับประเทศ ในมุมมองของ 'จีนทุ่มตลาดไทย?' โดย อ.พงษ์ภาณุ กล่าวว่า...

เมื่อเร็ว ๆ นี้มีการเปิดเผยสถิติการค้าแบบทวิภาคี 'ไทย-จีน' ช่วงครึ่งแรกของปี 2567 ซึ่งปรากฏว่าไทยขาดดุลการค้าจีนแบบวินาศสันตะโร ทั้ง ๆ ที่เศรษฐกิจไทยยังไม่ฟื้น ประชาชนยังไม่มีอำนาจซื้อและยังต้องแบกรับหนี้ภาคครัวเรือนจำนวนมหาศาล

ขณะที่เศรษฐกิจจีนเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวชัดเจนยิ่งขึ้น โดยเมื่อเดือนที่แล้ว กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับการคาดการณ์อัตราเติบโตของ GDP ทั้งปีขึ้นเป็น 5% แม้ว่าการบริโภค/การลงทุนในประเทศยังทรงตัว อันเป็นผลมาจากภาคอสังหาริมทรัพย์จีนที่เกิดฟองสบู่แตกเมื่อหลายปีก่อน และยังไม่มีสัญญาณฟื้นตัวเท่าไหร่ แต่การขยายตัวของจีนขับเคลื่อนจากปัจจัยภายนอก โดยเฉพาะการส่งออก ซึ่งมีแนวโน้มขยายตัวเร็วผิดปกติอย่างมีนัยสำคัญ

เมื่ออุปสงค์ในประเทศยังไม่ฟื้น แน่นอนย่อมมีกำลังการผลิตส่วนเกิน (Excess Capacity) ซึ่งหากสามารถผลักดันผลผลิตส่วนเกินนี้ออกสู่โลก แม้ว่าจะต้องกดราคาให้ต่ำเป็นพิเศษ ก็ยังดีกว่าปล่อยให้สินค้าคงเหลือเหล่านี้สูญเปล่าไป ซึ่งจากรายงานมีการส่งออกผลผลิตส่วนเกินออกสู่ตลาดหลายประเทศในราคาต่ำกว่าตลาด

ประเทศตะวันตกหลายประเทศ ทั้งสหรัฐอเมริกา และยุโรป ได้รับผลกระทบจากสินค้าถูกจากจีนมาระยะหนึ่งแล้ว จึงได้มีการเก็บภาษีขาเข้าในรูปของ Anti-dumping Duty และ Countervailing Duty จากสินค้าจีน เพื่อป้องกันความเสียหายต่อผู้ประกอบการภายในประเทศจากการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม แม้ว่าอาจทำให้ผู้บริโภคต้องรับภาระสูงขึ้น

สำหรับประเทศไทย นอกจากจะไม่มีการดำเนินการใด ๆ ในด้านนโยบายการค้า เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมภายในจากการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมแล้ว ระบบภาษีอากรของไทย ยังเอื้อให้มีการเอาเปรียบผู้ประกอบการในประเทศอีกด้วย ดังนี้...

ประการแรก 'ไทย-จีน' เป็นเขตการค้าเสรีมาระยะหนึ่งแล้ว ดังนั้น อุปสรรคการค้าทั้งในรูปของอากรขาเข้า และมิใช่อากร ที่พรมแดน ต้องเป็นศูนย์

ประการที่สอง รัฐบาล/กรมสรรพากรในอดีต มีการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% แก่สินค้าที่มีมูลค่าต่ำกว่า 1,500 บาทต่อชิ้น ในขณะที่ผู้ประกอบการไทยต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% โดยไม่มีข้อยกเว้นใด ๆ วันนี้ได้รับรายงานว่า มีการยกเลิกข้อยกเว้นนี้ไปแล้ว

ประการที่สาม ภาษีเงินได้นิติบุคคลของไทยและของอีกหลาย ๆ ประเทศยังคงยึดมั่นในหลักสถานประกอบการถาวร (Permanent Establishment) และได้ยึดมั่นในหลักการนี้อย่างเคร่งครัดเสมอมาเป็นเวลากว่า 100 ปี จนการจัดเก็บภาษีเงินได้ปรับเปลี่ยนไม่ทันกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยีของโลก ซึ่งทำให้รัฐบาลต้องสูญเสียรายได้ภาษีไปจำนวนมากมายจากที่ควรจะจัดเก็บได้ เพราะการทำธุรกิจในปัจจุบันไม่จำเป็นต้องทำในรูปของสถานประกอบการถาวร แต่อยู่ในรูปของ Platform Online ซึ่งจะมีสถานประกอบการอยู่ที่ไหนก็ได้ หรือจะบันทึกกำไรในเขตภาษีที่มีอัตราภาษีเงินได้ต่ำที่สุด จึงทำให้กิจการเหล่านี้มีความได้เปรียบเชิงภาษีเมื่อเทียบกับผู้ประกอบการที่ตั้งถิ่นฐานอยู่ในไทย

นอกจากนี้ ในด้านนโยบายการค้าและการพาณิชย์ นั้น หากทันทีที่มีเหตุต้องสงสัย ว่าสินค้าที่ผลิตในต่างประเทศมีการทุ่มตลาดและ/หรือได้รับการอุดหนุนให้มีราคาขายต่ำกว่าต้นทุน กระทรวงพาณิชย์จะต้องรีบดำเนินการตามกระบวนการ Anti-dumping Duty และ/หรือ Countervailing Duty เช่นที่นานาประเทศเขาทำกันโดยทันที โดยไม่ต้องรอให้ความเสียหายปรากฏชัดเช่นในปัจจุบัน กรอบกฎหมายของประเทศไทยมีหมดอยู่แล้ว ขาดอยู่ก็เฉพาะการบังคับใช้กฎหมาย

ที่พูดมาทั้งหมดไม่ต้องการเรียกร้องให้รัฐบาลไทยใช้มาตรการกีดกันทางการค้า (Protectionist Measures) ในทางตรงกันข้าม เราอยากเห็นการค้าเสรีที่อยู่บนพื้นฐานของการแข่งขันที่เป็นธรรม (Free and Fair Trade) หากรัฐดูแลให้กรอบการแข่งขันมีความเป็นธรรม แล้วผู้ประกอบการไทยยังไม่สามารถแข่งขันได้ ก็สมควรไปขายเต้าฮวยดีกว่า

‘ดร.เอ้’ ฝาก 4 นโยบาย ‘นายกฯคนใหม่’ ให้ยกระดับสังคมไทย เน้น!! ‘การศึกษา-แก้ยาเสพติด-ยกคุณภาพชีวิต-เอาผิดคอร์รัปชัน’

(18 ส.ค.67) นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 พร้อมเสนอ 4 นโยบาย ยกระดับสังคมไทย หากทำได้ จะได้ใจประชาชน ระบุว่า

ขอแสดงความยินดีกับ นายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ‘คนรุ่นใหม่’ และยังเป็น ‘คุณแม่’ ที่ลูกยังเล็ก ซึ่งน่าจะเข้าใจหัวอกคนเป็นแม่เป็นพ่อ ในสภาวะสังคมไทยที่อ่อนแอลงทุกวัน

สังคมไทยที่กำลังห่อเหี่ยวรอความหวัง ในการปฏิรูป สังคม และเศรษฐกิจ สู่โลกยุคดิสรัปชั่น ที่ต้องแข่งขันด้วย ทรัพยากรมนุษย์ เน้นทักษะขั้นสูง ทดแทนการใช้ แต่ทรัพยากรธรรมชาติที่เน้นแต่การท่องเที่ยวแบบแมสที่ผลาญสิ่งแวดล้อม

นายสุชัชวีร์ ระบุว่า นโยบายของรัฐบาล 1 ปีที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่า ยัง ไม่เข้าฝัก ไม่เป็นรูปธรรม แม้นายกฯทุกคน ต้องเน้นเรื่องปากท้อง เพราะเป็นความทุกข์ใกล้ตัวประชาชน แต่มี 4 เรื่องสำคัญ ตนขอฝากนายกฯ ช่วย 'ยกระดับสังคม' เป็นประโยชน์ต่อคนไทยและลูกหลาน หากทำได้ จะได้ใจประชาชนมาก คือ 

1.การศึกษา ต้องมาก่อน และเริ่มทันที นายกฯ ต้องเน้นเรื่อง การปฏิรูปการศึกษา แบบจริงจัง เพราะเป็นเรื่องระยะยาว ไม่อาจเห็นผลในระยะเวลาอันสั้น ไม่ทำแบบขอไปที ต้องทำหน้าที่แทนพ่อแม่ของเด็กไทย รักลูกท่านอย่างไร ต้องรักลูกชาวบ้านเช่นกัน

ท่านนายกฯ ในฐานะคุณแม่ที่มีลูกเล็ก ย่อมรู้ดีที่สุดว่า คุณภาพการศึกษาของ เด็กปฐมวัย คือ จุดเริ่มต้นที่สำคัญที่สุด ผู้นำรัฐบาลในทุกประเทศชั้นนำ จะลงมากำกับดูแล คุณภาพเด็ก ด้วยตนเอง วางแผนระยะยาว ไม่ปล่อยให้คนอื่นสักแต่ทำ หรือ ทำแบบขอไปที หากนายกฯ ทำเรื่อง การศึกษาเด็ก ให้มีคุณภาพ คนจะชื่นชมมาก นายสุชัชวีร์ กล่าว

2.ขจัดยาเสพติด ทุกรูปแบบ นายกฯ อ่อนโยนได้ทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องยาเสพติด ต้องแข็งกร้าว ไม่เอายาเสพติด คงไม่ต้องไปทำถึงวิสามัญ แต่ต้องใช้กฎหมายอย่างตรงไปตรงมา เป็นธรรม เพื่อป้องกัน ลูกหลานให้ห่างไกลจากอันตรายยาเสพติดทุกประเภท ปัญหายาเสพติดไม่ใช่การต่อรองทางการเมือง แต่ต้องเป็นหน้าที่รับผิดชอบของผู้นำประเทศทุกคน

3.ความปลอดภัยสาธารณะ คือ สิทธิขั้นพื้นฐาน นายกฯ ต้องรักและห่วงใยประชาชนเสมือนคนในครอบครัว ต้องสร้างสังคม ที่ลูกหลานปลอดภัย ไปไหน ไม่ต้องกังวลว่า จะถูกรถมาชนบนทางม้าลาย ของจะหล่นใส่หัว เดินไปโรงเรียนจะตกท่อ โรงงานสารเคมีข้างบ้านจะระเบิด เพราะสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์ คือ การดำรงชีวิตอย่างปลอดภัย คือ มาตรวัดคุณภาพชีวิตของคนไทย และคือ มาตรวัดผลงานรัฐบาล ทั้งเรื่อง ฝุ่นพิษ PM2.5 ที่ทำร้ายสุขภาพเด็กไทย อย่างรุนแรงรัฐบาลที่ผ่านมามักแก้ปัญหาแบบตามฤดูกาลเดี๋ยวก็ลืมกันไป นายกฯต้องแก้ปัญหาอย่างเบ็ดเสร็จ หากทำได้ ได้ใจพ่อแม่ทั้งประเทศไทยแน่นอน

4.รัฐบาลโปร่งใส ไม่คอร์รัปชัน นายกฯต้อง ใจแข็ง ใครก็รู้ การเมืองไทยกับปัญหาการคอร์รัปชัน มันอยู่คู่กันมานาน แต่นายกฯ ได้เปรียบเพราะมีผู้มีพลังหนุนหลัง ไม่ต้องง้อใคร ไม่ต้องขอใคร ไม่ต้องเกรงใจใคร ทำสิ่งที่ถูกต้องได้โดยไม่มี ข้ออ้าง การลดคอร์รัปชันจะเป็นสัญญานบวกที่มีพลังมากที่สุดต่อภาคธุรกิจทั้งภายในและต่างประเทศ ใครก็อยากมาลงทุนในประเทศไทย เพราะไม่ต้องกังวลเรื่อง เงินใต้โต๊ะเงินทุนก็เข้าระบบ เศรษฐกิจก็จะดีขึ้นทันที หากแก้ปัญหาคอร์รัปชันได้นายกฯ จะเป็นซูเปอร์ฮีโร ได้รับการจดจำนานเท่านาน

“ผมในฐานะพลเมืองไทยและมนุษย์พ่อขอเป็นกำลังใจให้ท่าน ทำงานให้สำเร็จ เพื่อประโยชน์ของชาติ จะขอเฝ้าดู ติดตาม และกล้าเห็นต่าง หากท่านลืมไปว่า ท่านเป็นผู้นำที่มีหน้าที่ รับผิดชอบ ต่อประชาชนไทย” นายสุชัชวีร์ กล่าวทิ้งท้าย

‘ภูมิธรรม’ ปัดกระแสข่าวไม่เอา ‘วงษ์สุวรรณ’ ร่วมครม. ยกให้ ‘อุ๊งอิ๊ง’ เป็นผู้ดำเนินการ ตัดสินใจ ใครได้นั่งเก้าอี้

(18 ส.ค.67) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ปฏิเสธที่จะกล่าวถึงความคืบหน้าในการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.)

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ข้อเท็จจริงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าการปรับครม.ครั้งนี้ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ระบุว่าจะต้องไม่มีคนในตระกูลวงษ์สุวรรณ นายภูมิธรรม กล่าวว่า นายกฯพูดไปหมดแล้ว ส่วนกระแสข่าวดังกล่าวตนไม่เคยได้ยินและไม่มี และนายกฯก็ได้พูดชัดเจนไปหมดแล้ว วันนี้น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกฯ แล้ว ก็ขอให้ท่านเป็นผู้ดำเนินการ และทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามกระบวนการ ยืนยันว่าไม่มีผู้จัดการรัฐบาล วันนี้นายกฯเป็นตัวหลัก ส่วนตัวก็ให้กำลังใจอย่างเต็มที่ในฐานะที่เป็นผู้นำรัฐบาล วันนี้ขอว่าให้เป็นวันของนายกรัฐมนตรีและเป็นเรื่องของท่านไม่ว่าจะการให้สัมภาษณ์หรือเรื่องราวต่าง ๆ ถือเป็นวันของท่าน และคงต้องรอให้พ้นจากวันนี้ไปรอให้ท่านนายกฯ ดำเนินการตัดสินใจต่าง ๆ แล้วค่อยว่ากันว่ากัน ส่วนโผครม. เสร็จหรือยังใครจะไปรู้ ต้องไปถามนายกรัฐมนตรี

เมื่อถามว่า โดยขั้นตอนอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 ส.ค. ยังคงดำรงตำแหน่งปฏิบัติหน้าที่แทนนายกฯอยู่ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ในวันที่ 20 ส.ค.เรายังทำหน้าที่รักษาการอยู่ เพราะทั้งหมดยังต้องเป็นไปตามขั้นตอน แม้วันนี้จะมีการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายกฯ ลงมาแล้ว แต่ก็ยังมีขั้นตอนในการถวายสัตย์ปฏิญาณ การแต่งตั้งครม.ยังมีอีกหลายอย่าง และขณะนี้ยังไม่มีการหารืออย่างเป็นทางการใด ๆ ทั้งสิ้น จากนี้ไปเป็นหน้าที่นายกฯคนใหม่ ส่วนจะมอบหมายใครเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

เมื่อถามว่า โควตารัฐมนตรียังเป็นสัดส่วนเดิมหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ทราบ เรื่องนี้อยู่ที่นายกฯตัดสินใจ

‘อุ๊งอิ๊ง’ ยัน!! เดินหน้าทำ ‘โครงการดิจิทัลวอลเล็ต’ ย้ำ!! ทำตามกฎหมาย วินัยการคลัง รับฟังความคิดเห็น

(18 ส.ค.67) หลังเข้าร่วมพิธีรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้ง น.ส.แพทองธาร เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 31 น.ส.แพทองธาร ได้กล่าวโดยระบุว่า วันนี้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะทำหน้าที่นี้ให้ดีที่สุด ขอบคุณนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจ ทำเพื่อประเทศชาติตลอด 1 ปีที่ผ่านมาแม้ตนเองจะไม่ ๆ ได้วางแผนในการเป็นนายกรัฐมนตรีมาก่อน แต่ขอให้มั่นใจว่า พร้อม เต็มใจ

ที่จะรับใช้พี่น้องประชาชนอย่างสุดความสามารถ เพราะนายกรัฐมนตรีเป็นตำแหน่งที่มีความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ พาประเทศชาติผ่านอุปสรรค ผ่านปัญหาต่าง ๆ และแน่นอนประเทศไทยของเรามีปัญหาปากท้องที่รอการแก้ไข และตั้งใจว่าการได้รับตำแหน่งนี้มีความมุ่งมั่นที่จะทำให้ปากท้องของพี่น้องประชาชนดีขึ้น

นางสาวแพทองธาร ยังกล่าวอีกว่า ตั้งใจผลักดันนโยบายเศรษฐกิจต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นทั้งการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ปัญหายาเสพติด ระบบสุขภาพถ้วนหน้า 30 บาทรักษาได้ทุกที่ และไทยแลนด์ ซอฟต์พาวเวอร์ อย่างต่อเนื่องที่ทำมาตั้งแต่ต้น และมีความตั้งใจที่จะร่วมงานกับทุกภาคส่วนที่จะผลักดันนโยบายต่าง ๆ เหล่านี้ให้สำเร็จ โดยจะแถลงนโยบายอย่างเป็นรูปธรรมเดือน ก.ย.นี้ 

ขอบคุณพลังประชาชนทั้งที่เลือกและไม่ได้เลือก สัญญาว่าจะทำหน้าที่นี้อย่างเต็มความสามารถ โดยที่ไม่มีความแบ่งแยกในความแตกต่างทุกเพศ ทุกวัย และความหลากหลายทั้งในฐานะ นายกรัฐมนตรี แม่ ลูก เพื่อน มีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะทำให้ประเทศไทยทุกตารางนิ้วเป็นของโอกาสที่คนไทยทุกคนกล้ามีความฝัน ความคิดที่สร้างสรรค์และกล้ากำหนดอนาคตของตัวเอง 

นอกจากนี้ นางสาวแพทองธาร ตอบคำถามสื่อมวลชน ได้กล่าวถึงโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท โดย ยืนยันว่า นายทักษิณ ชินวัตร ไม่ได้สั่งโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ซึ่งการทำนโยบายอะไรต้องปรึกษาพรรคร่วมด้วย และขอให้แยกบทบาทเพราะเข้าใจดีว่า นายทักษิณ ก็คงไม่สามารถลบภาพทางการเมืองออกได้ เพราะก็ยังเป็นคนที่หลายคนเคารพนับถือ และหลายคนคงขอคำปรึกษาตามประสบการณ์ที่ท่านมี 

ส่วนโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท มีความตั้งใจทำเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของประเทศ ซึ่งปีที่แล้วที่หาเสียงเรื่องนี้ เป็นการศึกษาและสังเคราะห์มาอย่างดีแล้ว แต่ช่วงเวลา 1 ปีที่ผ่านมา มีเหตุการณ์มากมายเกิดขึ้น สภาพเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงไป เราจะต้องศึกษาและรับฟังความคิดเห็นเพิ่มเติม แน่นอนต้องอยู่ในระเบียบ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังด้วย และในเนื้อหารายละเอียดต้องชัดเจนและฟังความเห็นต่อเนื่อง เป้าหมายคือการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะฉะนั้นความตั้งใจนี้จะยังอยู่แน่นอน

ต่อข้อซักถามผู้สื่อข่าวที่ระบุว่า นายทักษิณจะครอบงำทางการเมือง นางสาวแพทองธาร ยืนยันว่า ไม่ใช่การครอบงำแน่นอน ทุกคนในครอบครัวมีความคิดเป็นของตัวเอง เราปรึกษากันและให้เกียรติกันทางความคิด แต่สุดท้ายเมื่อใครอยู่บทบาทไหน ทุกคนมีความคิดเป็นของตัวเอง แน่นอนว่าความคิดของครอบครัวหรือคนที่เคารพนับถือ ย่อมมีส่วนสำคัญ และยังเร็วไปมากในเรื่องคณะรัฐมนตรี ยังไม่ได้คุยกับพรรคร่วมรัฐบาล

ส่วนคำถามที่ว่า จะซ้ำรอยพ่อ รอยอา นางสาวแพทองธาร ระบุว่า ปัญหาประเทศต้องได้รับการแก้ไขก่อน และจะทำเรื่องนี้อย่างเต็มที่ และพร้อมเข้าหาทุกภาคส่วน เข้าหาทุกคน ทั้งอดีตนายกรัฐมนตรีหลาย ๆ ท่านพรรคร่วม และเชื่อว่าไม่มีงานใหญ่ขนาดนี้ที่คนหนึ่งคนจะทำสำเร็จได้ แต่มีความตั้งใจ เคารพ และเชื่อในความสามารถของทุก ๆ คน เพราะฉะนั้นคงไม่สามารถสร้างประสบการณ์ได้โดยการดีดนิ้วทีเดียว และขอคำแนะนำจากผู้มีประสบการณ์ทั้งหมด

ไม่มีใครอยากโดนอย่างคุณพ่อ คุณอา วันนี้คุณพ่อ คุณอาก็ไม่อยากให้เป็นแบบนี้ เพราะฉะนั้น มีความตั้งใจที่ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ให้ถูกต้องที่สุด ต้องมองไปที่เป้าหมาย ถ้ามานั่งกังวลทุกอย่าง ก็คงไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้ เพื่อไม่ให้มีคดี นางสาวแพทองธาร กล่าวทิ้งท้าย

‘อโกด้า’ จัดอันดับให้ ‘หาดใหญ่’ เป็นเมืองคุ้มค่าทางการท่องเที่ยว ช่วยกระตุ้น!! ให้ภาคธุรกิจโรงแรมคึกคัก เพิ่มรายได้ให้คนในพื้นที่

(18 ส.ค.67) อโกด้า เผยผลสำรวจ ‘หาดใหญ่’ เป็นเมืองที่คุ้มค่าที่สุดในเอเชีย ในราคาห้องพักเฉลี่ย 1,250 บาท/คืน ส่งผลบวกต่อการท่องเที่ยวในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลาเพิ่มมากขึ้น

ดร.สิทธิพงษ์ สิทธิภัทรประภา นายกสมาคมโรงแรมหาดใหญ่ สงขลา เผยว่า ผลสำรวจ แพลตฟอร์ม 
อโกด้า ส่งผลเชิงบวกต่อการท่องเที่ยว ทำให้อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ถูกกลับมาพูดถึงอีกครั้ง

โดยเฉพาะในเรื่องราคาห้องพักโรงแรม ที่ถือว่าคุ้มค่าที่สุดในเอเชีย สามารถกระตุ้นกลุ่มนักท่องเที่ยวใน 2 กลุ่มได้อย่างดี คือ กลุ่มที่ไม่เคยมาท่องเที่ยวในอำเภอหาดใหญ่เลย อยากจะลองมาเที่ยวสักครั้ง และ กลุ่มที่ 2 คือ กลุ่มที่เคยมาแล้ว แต่ไม่ได้กลับมานานแล้ว ก็อยากจะกลับมาอีกครั้ง

ขณะนี้ ผลสำรวจของอโกด้า ได้ถูกนำไปต่อยอด ขยายผล มีการรีวิว การเดินทางมาเที่ยวที่หาดใหญ่ รวมถึง มีอะไรน่าเที่ยว น่ากิน ทำให้ภาคการท่องเที่ยวเราคึกคักมากยิ่งขึ้น โดยห้องพักโรงแรมในอำเภอหาดใหญ่ขณะนี้มีอยู่กว่า 2 หมื่นห้อง พร้อมให้การต้อนรับนักท่องเที่ยว

อย่างไรก็ตาม แม้ภาพการท่องเที่ยวในอำเภอหาดใหญ่ ขณะนี้จะเป็นบวก มีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจ แต่ก็อยากให้รัฐบาลชุดใหม่ ภายใต้การนำของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ร่วมกันผลักดันการท่องเที่ยวทั้งภาพรวมของประเทศและภาพพื้นที่ เฉพาะจังหวัด เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวได้ตรงเป้าหมาย เพิ่มรายได้ให้กับภาคธุรกิจและประชาชนมากยิ่งขึ้น

‘บิลลี่-หมออั้ม’ ซัดพรรคส้ม เหตุผู้สมัครนายก อบจ. ด้อยค่า ‘โรงเรียนในจ.ราชบุรี’ ลั่น!! คนพูดไม่รู้จริง อย่ามาพูดแบบนี้จะดีกว่า ชาวโซเชียลแห่คอมเมนต์เห็นด้วย

(18 ส.ค.67) กรณีนายชัยรัตน์ ศักดิ์อิสระพงศ์ ผู้สมัครนายก อบจ.ราชบุรี ของพรรคประชาชน ปราศรัยหาเสียง ในทำนอง ด้อยค่าโรงเรียนในราชบุรี โดยพูดว่า ความเจ็บปวดของตนในวัยเด็กก็คือ การต้องถูกพ่อส่งไปเรียนที่กรุงเทพฯ เนื่องจากว่าในราชบุรีไม่มีโรงเรียนดี ๆ ให้ผมเรียน

ล่าสุด ‘เพจวันนี้พรรคส้มโกหกอะไร’ โพสต์เฟซบุ๊ก พร้อมคำพูด คนดัง ที่ออกมาโต้ นายชัยรัตน์ พร้อมระบุข้อความว่า...

#ทุกคนคะ ขอบคุณพี่ Billy Ogan และ หมออั้ม อิราวัต ที่ออกมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับ โรงเรียนในราชบุรีค่ะ

พรรคส้มรู้จักอะไรในราชบุรีจริงๆบ้างมั๊ยเนี่ยยย

โดย บิลลี่ โอแกน นักร้อง นักแสดง ชื่อดัง โพสต์โต้กลับระบุข้อความ ผมเด็กสารสิทธิ์ บ้านโป่ง ราชบุรี ไม่ควรบอกว่า ราชบุรีมีแต่โรงเรียนห่วยๆ เพราะราชบุรี มีแต่ของดี ที่พวกนี้ไม่เคยมาดู ไม่รู้จริงอย่ามาพูดดีกว่า  

ขณะที่ หมออั้ม อิราวัต อารีกิจ อดีตนักร้องชื่อดัง ก็ได้โพสต์ ระบุข้อความว่า ผมเรียน มัธยม ประถม ที่ราชบุรี จบเทศบาลวัดไทรฯ โพธาวัฒนาเสนี และเบญจมราชูทิศ ราชบุรี แล้วเข้าแพทย์จุฬา เลยครับ ไม่เคยเรียน กทม.

4 โจทย์ใหญ่เศรษฐกิจไทย ที่ตกถึงมือ 'นายกฯ หญิงคนใหม่' 'โรงงานปิด-อสังหาฯ ชะลอตัว-ทุนจีนบุกหนัก-เงินหมื่นรอทบทวน'

เมื่อวันที่ (14 ส.ค.67) ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี กรณีแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรี ส่งผลให้คณะรัฐมนตรีทั้งคณะสิ้นสุดลง รวมไปถึงตำแหน่งข้าราชการการเมือง ที่นายกฯแต่งตั้ง ก็ต้องพ้นจากตำแหน่งไปด้วยทั้งหมด    

คณะรัฐมนตรีสิ้นสุดลง แต่ต้องอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไป โดยไม่เรียกว่ารักษาการ ยังคงสามารถบริหารราชการได้หมดทุกเรื่อง ทุกประการ จนกว่าจะแต่งตั้งใหม่

แต่...โครงการใหญ่ ยังไงก็คงต้องรอ มติ ครม. ชุดใหม่ โดยเฉพาะ 'โครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท' ซึ่ง นายวิษณุ เครืองาม อดีตที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน ได้แถลงในวันที่ 15 สิงหาคม 2567 

การเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจต่าง ๆ อาจสะดุดเล็กน้อย ซึ่งการแต่งตั้ง ครม.ชุดใหม่ ก็น่าจะยังคงรูปเดิม เกือบทุกกระทรวง เพื่อไม่ให้เกิดอุปสรรค ต่อความร่วมมือของพรรคร่วมรัฐบาล

18 สิงหาคม 2567 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าแต่งตั้ง เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 31 ที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย 38 ปี (เกิด 21 สิงหาคม 2529) แถลงข่าวภายหลังรับสนองพระราชโองการฯ เล็งกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยผลักดันโครงการซอฟต์พาวเวอร์ แต่โครงการสำคัญ 'ดิจิทัลวอลเล็ต' จะไปหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลอีกครั้ง...ซึ่งเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงความกังวลในการเดินหน้าโครงการนี้

ภาคอสังหาริมทรัพย์ ปีนี้ 'หนัก' ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ (REIC) ปรับลดคาดการณ์ปี 2567 โอนติดลบ 4.4% หวังมีปัจจัยบวกฉุดภาพทั้งปี ติดลบน้อยลง ระบุภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ครึ่งแรกของปี 67 ชะลอตัวแรงกว่าช่วงโควิด-19 ส่งผลให้จำนวนพื้นที่การออกใบอนุญาตก่อสร้างไตรมาส 2/67 มีจำนวนลดลง 19% ต่ำสุดในรอบ 26 ไตรมาส

การปิดกิจการของโรงงาน และผู้ประกอบการ SMEs ที่ปิดตัวมากขึ้น เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา กับข่าวเปิดตัวผลิตภัณฑ์การเงินเพื่อความยั่งยืน จากธนาคารพาณิชย์ (ธพ.) ทั้ง 8 แห่ง ที่ร่วมกันสนับสนุนการปรับตัวของธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ในงาน 'Financing the Transition: การเงินเพื่อการปรับตัวสู่ความยั่งยืนของภาคธุรกิจ' หวังว่า ผู้ประกอบการ SMEs ที่ยังไม่ปิดกิจการ จะสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อประคองธุรกิจให้อยู่รอดต่อไปได้

อีกด้านประเด็นสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ คือ การอุปโภคบริโภคของประชาชน ท่ามกลางทะเลเดือดของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ (E-Commerce) ที่กลายเป็นแพลตฟอร์มจากต่างประเทศ ที่จะเข้ามาโกยรายได้จากคนไทย และจะไปกระทบต่อกับธุรกิจคนไทยด้วยกัน ที่ไม่สามารถขายสินค้าแข่งได้...จะล้มไปอีกเท่าไหร่ ถ้ายังไม่อุดช่องว่างที่เราจะเสียเปรียบในการนำรายได้เข้าประเทศ

ในภาวะที่เศรษฐกิจไทยยังเปราะบาง นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่เดินเครื่องไม่ได้เต็มสูบ และต้องรอดูกันต่อว่า หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ จะถูกปรับเปลี่ยนอีกหรือไม่ กับความหวังจะให้เกิดพายุหมุนทางเศรษฐกิจ 4 ลูก คงลุ้นยิ่งกว่าลุ้นรางวัลที่ 1 สักงวดในปี 2567 นี้

อ้างอิง: ธนาคารแห่งประเทศไทย (https://www.facebook.com/share/p/g7A1x6aLiwUi2MfQ/)

THAI PUBLICA (https://thaipublica.org/2024/08/cabinet-holds-special-meeting-to-appoint-bhumtham-to-act-as-prime-minister/)


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top