Thursday, 5 June 2025
TheStatesTimes

'ปวิน' ลั่น!! ศาล รธน.เป็นเครื่องมือของสถาบันฯ เอาไว้ใช้กำจัดศัตรูทางการเมืองครั้งแล้วครั้งเล่า

(8 ส.ค. 67) นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการประจำสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยเกียวโต และผู้ต้องหาคดี 112 ซึ่งขอลี้ภัยอยู่ในต่างประเทศ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า...

หลังจากเดินทางไปสหรัฐอเมริกาและแคนาดากว่า 2 อาทิตย์ บวกกับอาการเบื่อการเมืองไทย เลยไม่อยากพูดหรือเชียนอะไรในช่วงที่ผ่านมา แต่วันนี้ขอเขียนนิดนึงเรื่องการยุบพรรคก้าวไกล 

...คุณไม่จำเป็นต้องเป็นติ่งส้มที่ต้องมีความโกรธในวันนี้ เพียงแต่ถ้าคุณเป็นคนที่มีใจเป็นธรรม คุณจะรู้ว่า สิ่งที่ก้าวไกลโดน มันเป็นความอยุติธรรมและเป็นความถดถอยของระบอบประชาธิปไตย

...ศาลรัฐธรรมนูญ คือเครื่องมือของสถาบันกษัตริย์ที่ใช้กำจัดศัตรูทางการเมืองครั้งแล้วครั้งเล่า ความน่ากลัวที่ดิชั้นพูดไปในหลายโอกาสก็คือ ในประเทศหนึ่ง ๆ การล่มสลายของสถาบันใดๆ อาจยังทำให้ประเทศไปต่อได้ เราอาจไม่จำเป็นต้องมีสถาบันกองทัพ (ญี่ปุ่น) เราอาจไม่จำเป็นต้องมีสถาบันกษัตริย์ (ฝรั่งเศส) แต่ถ้าสถาบันยุติธรรมล่มสลาย นั่นคือการล่มสลายของชาติ เราจะอยู่อย่างไรถ้าประเทศไร้ซึ่งความยุติธรรม

...ดิชั้นไม่อยากให้ผู้สนับสนุนก้าวไกลยอมรับความพ่ายแพ้นี้ โดยการพูดว่า ยุบแล้วไง ยักไหล่แล้วไปต่อ ไม่ค่ะ คุณพูดแบบนั้นไม่ได้ เพราะเท่ากับคุณยอมรับความชอบธรรมและความเป็นปกติ (normalisation) ของกระบวนการพิกลพิการนี้ เราต้องลุกสู้กับความอยุติธรรมนี้ เราต้องส่งเสียง เท่าที่เราสามารถทำได้ การรอให้มีการตั้งพรรคใหม่ เลือกตั้งครั้งหน้าแล้วหวังจะกลับมาชนะพวกมัน แม้จะเป็นความพยายามที่มีเกียรติและน่าชื่นชม แต่ไม่มีอะไรการันตีว่า การชนะจากหีบเลือกตั้งจะนำไปสู่ชัยชนะของพรรคที่จะเกิดขึ้นใหม่ในที่สุด

....การต่อสู้วันนี้จึงไม่ใช่แค่การดึงเอาระบบยุติธรรมกลับมาสู่สภาพปกติ แต่เราต้องสู้เพื่อให้พื้่นที่ของการพูดถึงมาตรา 112 ต้องมีอยู่ เราไม่สามารถอยู่โดยไม่เห็นว่ามีช้างอยู่ในห้องอีกต่อไป

‘ชัชชาติ’ โพสต์ให้กำลังใจ ‘ก้าวไกล’ หลังถูกยุบ ผ่านบทเพลง ‘ฤดูที่แตกต่าง’ ของบอยโกสิยพงษ์

เมื่อวานนี้ (7 ส.ค.67) จากกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีมติสั่งยุบพรรคก้าวไกล และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคชุดที่มีการกระทำผิด ให้ไม่สามารถไปจดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่หรือเป็นกรรมการบริหารพรรค มีส่วนร่วมในการจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่ภายในกำหนดเป็นเวลา 10 ปี

ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 ส.ค.67 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โพสต์ข้อความลงในเพจ ‘ชัชชาติ สิทธิพันธุ์’ โดยระบุว่า…

”อดทนเวลาที่ฝนพรำ อย่างน้อยก็ทำให้เราได้เห็นถึงความแตกต่าง

เมื่อวันเวลาที่ฝนจาง ฟ้าก็คงสว่างและทำให้เราได้เข้าใจ ว่ามันคุ้มค่าแค่ไหนที่เฝ้ารอ”

เป็นกำลังใจให้กับ คุณพิธา คุณชัยธวัช คุณวิโรจน์ และ พรรคก้าวไกลทุก ๆ ท่านครับ

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าข้อความที่ นายชัชชาติ ยกมานั้น คือ เพลง ‘ฤดูที่แตกต่าง’ โดย บอย โกสิยพงษ์ นักแต่งเพลงชื่อดัง

ด้าน นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ได้เข้ามาคอมเมนต์ ตอบกลับข้อความดังกล่าว ด้วยว่า “ขอบคุณอาจารย์มาก ๆ นะครับ ^^ จะฝนตก หรือฝนจาง ผมก็พร้อมยืนเด่นท่ามกลางแสงแดด และสายฝนเสมอครับ”

‘แอ๊ด คาราบาว’ เสียใจต่อ ‘ก้าวไกล’ ในความไม่เป็นธรรม พร้อมหวังให้สู้ต่อ ย้ำ!! อย่าท้อ ขอให้อดทนถึงวันฟ้าดินเห็นใจ

(7 ส.ค. 67) ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเอกฉันท์ยุบ พรรคก้าวไกล และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุด 1 และชุด 2 รวม 11 คน มีกำหนด 10 ปี นับแต่ศาลมีคำสั่งยุบพรรค ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด ‘แอ๊ด คาราบาว’ หรือยืนยง โอภากุล โพสต์เฟซบุ๊ก ‘Add Bao’ โดยระบุว่า “ขอแสดงความเสียใจต่อพรรคก้าวไกลในความไม่เป็นธรรมของบ้านเมืองเราในยุคนี้ครับ หวังว่าพวกคุณจะยังคงมุ่งมั่นสู้ต่อไปในอุดมส์การณ์ที่พวกคุณเชื่อมั่น ผมจะเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้พวกคุณ ‘คนรุ่นใหม่ผู้เป็นความหวังในระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง’ อย่าท้อขอให้ทนอดทน อดทนถึงวันฟ้าดินเห็นใจ…”

ชื่นชม!! ‘นักเรียนไทย’ หลังแข่งขันคณิตศาสตร์ที่ 'อินเดีย-ฮ่องกง' กวาด 160 รางวัลกลับบ้าน สร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยระดับโลก

(8 ส.ค.67) นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แสดงความยินดี และชื่นชมตัวแทนนักเรียนไทย ที่สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ในการแข่งขันคณิตศาสตร์ระหว่างประเทศระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้น ประจำปี พ.ศ. 2567 (India International Mathematics Competition 2024: InIMC 2024) ระหว่างวันที่ 26 - 31 กรกฎาคม 2567 ณ เมืองลัคเนา สาธารณรัฐอินเดีย และการแข่งขันคณิตศาสตร์และคณิตคิดเร็วนานาชาติประจำปี 2024 (The Hong Kong International Mathematics and Mental Arithmetic Competition 2024) เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2567 ณ เขตบริหารพิเศษฮ่องกง สาธารณรัฐประชาชนจีน ได้รับรางวัลอย่างล้นหลาม รวม 148 รางวัล จากทั้ง 2 รายการแข่งขัน แสดงถึงศักยภาพทางวิชาการ ด้านคณิตศาสตร์ที่ยอดเยี่ยมของนักเรียนไทย

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากการเข้าร่วมการแข่งขันคณิตศาสตร์ระหว่างประเทศระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้น 2567 (InIMC 2024) ในครั้งนี้ ตัวแทนนักเรียนไทย สามารถคว้ารางวัลการแข่งขันประเภททีม และบุคคล รวม 12 รางวัล 32 เหรียญ แบ่งเป็นระดับประถมศึกษา ประเภททีมละ 4 คน สามารถทำผลงานรวมได้ 6 รางวัล 16 เหรียญ และระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ประเภททีมละ 4 คน สามารถทำผลงานได้รวม 6 รางวัล 16 เหรียญ

Thailand A ระดับประถมศึกษา ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ประเภททีม และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ประเภทกลุ่มบุคคล ประกอบด้วย 1 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน และ 1 เหรียญทองแดง สำหรับระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ประเภททีม และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ประเภทกลุ่มบุคคล ประกอบด้วย 3 เหรียญเงิน และ 1 รางวัลชมเชย

Thailand B ระดับประถมศึกษา ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ประเภททีม และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ประเภทกลุ่มบุคคล ประกอบด้วย 2 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน และ 1 เหรียญทองแดง สำหรับระดับมัธยมศึกษา ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ประเภททีม ประกอบด้วย 1 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน และ 2 เหรียญทองแดง

Thailand C ระดับประถมศึกษา ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ประเภทกลุ่มบุคคล ประกอบด้วย 2 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง และ 1 รางวัลชมเชย สำหรับระดับมัธยมศึกษา ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ประเภททีม ประกอบด้วย 3 เหรียญทองแดง และ 1 รางวัลชมเชย

Thailand D ระดับประถมศึกษา ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ประเภททีม ประกอบด้วย 2 เหรียญเงิน และ 2 รางวัลชมเชย สำหรับระดับมัธยมศึกษา ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ประเภททีม และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ประเภทกลุ่มบุคคล ประกอบด้วย 1 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน และ 2 เหรียญทองแดง

นายชัย กล่าวว่า ใน รายการการแข่งขันคณิตศาสตร์และคณิตคิดเร็วนานาชาติประจำปี 2024 (The Hong Kong International Mathematics and Mental Arithmetic Competition 2024) มีผู้เข้าร่วมการแข่งขันจากทั่วโลก เช่น ไต้หวัน สิงคโปร์ มาเลเซีย อินเดีย ฮ่องกง กัมพูชา และไทย รวมประมาณ 500 คน ซึ่งในรายการแข่งขันนี้ ไทยได้ส่งตัวแทนนักเรียนเข้าร่วม 93 คน โดยแบ่งเป็นการแข่งขัน ระดับอนุบาล ระดับประถมศึกษา และมัธยมศึกษาตอนต้น

โดยตัวแทนนักเรียนไทยได้เข้าร่วมการแข่งขัน ในประเภทคณิตศาสตร์ (Mathematics Competition) และคณิตคิดเร็ว (Mental Arithmetic Competition) ซึ่งผลปรากฏว่าตัวแทนนักเรียนไทยได้รับรางวัลจากทั้ง 2 ประเภทการแข่งขันดังกล่าว ทั้งในประเภทเดี่ยวและทีม และทุกระดับชั้นตั้งแต่ระดับอนุบาลถึงระดับมัธยมต้น รวม 148 รางวัล เน้นย้ำถึงความสามารถในด้านคณิตศาสตร์ของนักเรียนไทยที่มีความโดดเด่น ตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลจนถึงระดับมัธยม

“นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นในศักยภาพของเด็กไทย เชื่อว่ามีความสามารถอย่างรอบด้าน พร้อมขอบคุณตัวแทนนักเรียนทุกคนที่เข้าร่วมรายการแข่งขันคณิตศาสตร์ ของทั้ง 2 รายการ ในครั้งนี้ ที่สามารถทำผลงานออกมาได้อย่างน่าภาคภูมิใจ เชื่อมั่นว่าจะเป็นบุคลากรสำคัญของประเทศในอนาคต ซึ่งรัฐบาลดำเนินการพัฒนาต่อยอดพื้นฐานของประเทศอย่างต่อเนื่องเพื่อให้คนรุ่นต่อไปจะอยู่ในประเทศไทยอย่างมีความสุข” นายชัย กล่าว

'รพ.ศิริราช' แจ้ง!! ระบบคอมพิวเตอร์ของ รพ. ใช้งานได้ตามปกติแล้ว หลังเกิดปัญหา 'ใช้การไม่ได้' ยัน!! ข้อมูลผู้ป่วยไม่มีรั่วไหล

(8 ส.ค.67) จากกรณีระบบคอมพิวเตอร์ของโรงพยาบาลศิริราช 'ใช้การไม่ได้' ทำให้ไม่สามารถให้บริการผู้ป่วยที่นัดไว้ตามปกตินั้น

ล่าสุด ระบบคอมพิวเตอร์ของ รพ. ศิริราช สามารถใช้งานได้ตามปกติแล้ว โดยไม่มีการรั่วไหลของข้อมูลส่วนตัวของผู้ป่วย

ทั้งนี้ ทางรพ.ได้ขออภัยผู้รับบริการทุกท่านที่ไม่ได้รับความสะดวกในวันนี้ และขอขอบคุณทุกท่านที่เข้าใจ ดำเนินการตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ระหว่างการแก้ไขปัญหา และให้ความอนุเคราะห์แก่ศิริราชด้วยการช่วยเผยแพร่ข้อมูลต่าง ๆ ช่วยเข้าไปอัปเดตข้อมูลบนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว รวมถึงให้กำลังใจบุคลากรอีกด้วย 

ทั้งหมดนี้ทางศิริราชขอรับไว้ด้วยความซาบซึ้งใจอย่างยิ่ง

เปิดโมเมนต์สุดประทับใจของ ‘โค้ชเช-เทนนิส’ หลังศิษย์รักส่งท้ายการเป็นนักกีฬาเทควันโด

(8 ส.ค.67) เปิดภาพสุดประทับใจ ‘โค้ชเช’ ชัชชัย ชเว กับ ‘เทนนิส’ พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ หลังศิษย์รักส่งท้ายการเป็นนักกีฬาเทควันโด คว้าเหรียญทองในโอลิมปิก 2024 ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส มาครองได้สำเร็จ โดยถือเป็นเหรียญทอง 2 สมัยติดต่อกันของเธอ กลายเป็นนักกีฬาไทยคนแรก ที่คว้าเหรียญรางวัลในโอลิมปิกเกมส์ 3 ครั้งซ้อน

‘นายกฯ’ ขอบคุณ ‘เทนนิส-ฟ่าง-ออย’ หลังคว้าเหรียญรางวัลโอลิมปิก ชี้!! ถือเป็นวันประวัติศาสตร์ของไทย ที่กวาด ‘3 เหรียญ’ ในวันเดียว

(8 ส.ค. 67) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความชื่นชม ‘เทนนิส พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ’ , ‘ฟ่าง ธีรพงศ์ ศิลาชัย’ และ ‘ออย สุรจนา คำเบ้า’ ที่คว้าเหรียญจากการเข้าร่วมแข่งขันโอลิมปิก 2024 ว่า…

“เทนนิส พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ พาคนไทยใจฟูอีกแล้ว รอบนี้เอาชนะคู่แข่งจากจีน ในการแข่งขันกีฬาเทควันโดรุ่น 49 กิโลกรัม หญิง คว้าเหรียญทองแรกในโอลิมปิก 2024 ให้ไทย แถมเป็นเหรียญทองในวันเกิดของน้องด้วย สุดยอดเลย

เรายังได้เหรียญเงิน จาก ฟ่าง ธีรพงศ์ ในการแข่งขันกีฬายกน้ำหนักรุ่น 61 กิโลกรัม ชาย ปีนี้น้องเพิ่งมาโอลิมปิกครั้งแรกก็คว้าเหรียญเลย น้องอายุ 20 เท่านั้น อนาคตไกล

ขณะที่ ออย สุรจนา ก็คว้าเหรียญทองแดงจากกีฬายกน้ำหนักรุ่น 49 กิโลกรัม หญิง มาให้คนไทยด้วย น้องยกลูกเหล็กได้ถึง 200 กิโลกรัม แกร่งมาก ๆ

ถือเป็นวันประวัติศาสตร์อีกวันของไทยครับ ที่เราได้ 3 เหรียญในวันเดียว ผมขอแสดงความยินดีกับทุกคนจริง ๆ ทุกเหรียญรางวัลที่ได้รับ คือความสำเร็จ และความภาคภูมิใจของเราชาวไทย”

‘อรรถวิชช์’ ชี้!! ‘ก้าวไกล’ แก้ ม.112 โดยย้ายออกจากหมวดความมั่นคงฯ เสมือนเป็นการนิรโทษกรรมคดีทั้งหมด-เปิดช่องให้คนหมิ่นสถาบันได้เสรี

(8 ส.ค. 67) นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี อดีต สส.กรุงเทพฯ โพสต์วิดีโอที่ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ เจาะข่าวเด็ด MONO 29 เมื่อวันที่ 7 ส.ค.67 ลงในบัญชีติ๊กต็อก @atavit ถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญพิพากษายุบพรรคก้าวไกล มีพฤติการณ์กระทำการล้มล้างการปกครองระบอบ ผิดมาตรา 112 ระบุว่า…

“กรณีผมก้าวไกล ผมคิดว่าในขณะนั้นมีคนเตือนหลายท่านแล้วว่าการแก้ไขกฎหมายมาตรา 112 หากจะลดโทษก็ไปแก้ไขเรื่องบทลงโทษ ให้อยู่มาตราไหนก็อยู่มาตรานั้น แต่ลักษณะการแก้ของก้าวไกลเป็นการแก้แบบยกเลิก ย้ายหมวดจากหมวดความมั่นคงแห่งรัฐ ออกมาเป็นหมวดเหมือนหมิ่นประมาททั่วไป…

“ทำให้มาตรา 112 ประมวลกฎหมายอาญาก็สิ้นสลายหายไป คนที่ชุมนุมอยู่ก็ชุมนุมต่อ ที่เคยพูดได้ หมิ่นได้ก็หมิ่นได้ต่อ ไม่ผิด มาตรา 112 อีกต่อไปแล้ว ส่วนที่ติดอยู่ในคุกก็ต้องออกมายุติการดําเนินคดี ก็จะเป็นการนิรโทษกรรมคดีทั้งหมดที่ดําเนินอยู่”

นายอรรถวิชช์ กล่าวต่อว่า หากแก้ปกติจะไม่เป็นอะไร เช่น บทลงโทษ 3-15 ปี ทางก้าวไกลบอกจะแก้ให้เหลือ 1 ปี ก็ถือเป็นสิทธิ์ของพรรคการเมือง หรือหากจะพูดคุยในสภาก็พูดได้ ฉะนั้นศาลรัฐธรรมนูญจึงออกมาเบรกว่า “แก้ได้ในสภานะ แต่เอามาหาเสียงทําแคมเปญไม่ได้” การกระทำของก้าวไกลไม่ใช่การแก้ไข แต่เป็นการยกเลิก แล้วไปกําหนดโทษให้เบาลงในมาตราอื่น

ตั้งแต่เลือกตั้งก้าวไกลได้ 151 สส. และเขาขับสส. 3 คนพ้นพรรคออกไป 2 คนแรกผิดมาตรฐานจริยธรรมของพรรค ส่วนอีกท่านหนึ่งที่ต้องขับออกก็คือ ‘หมออ๋อง’ รองประธานสภา เพราะถ้าไม่ขับออก หมออ๋องเป็นรองประธานสภาไม่ได้ เพราะประธานสภาต้องมาจากพรรครัฐบาลเท่านั้น ก็เหลืออยู่ 148 ถ้าวันนี้ศาลตัดสินว่ายุบก้าวไกล สส. ก็จะหายไปอีก 5 คน จะเหลือ 143 ถ้าเกิดกรรมการบริหารพรรคโดนยุบวันนี้ (7 ส.ค.) ต้องไปดูคําพิพากษาไส้ในอีกว่ามันจะมีผลกระทบระลอก 2 หรือเปล่า เพราะตอนที่ก้าวไกลเขาเสนอยกเลิกกฎหมายมาตรา 112 ในขณะนั้น มี สส.ปัจจุบันในสภาที่สังกัดพรรคก้าวไกลอีก 30 คน ถ้าหากมีใครไปร้อง ปปช. ต่อเนื่อง และมีการนําสืบต่อ สส. 30 คนของก้าวไกลก็อาจจะต้องถูกหยุดปฏิบัติหน้าที่ไปอีก ก็จะเหลืออยู่ 113 แต่คงไม่เร็ว ๆ นี้ 

นายอรรถวิชช์ เสริมต่อว่า เป็นบทเรียนสําคัญของการเมืองและก็เป็นบทเรียนสําคัญสำหรับก้าวไกล และผมก็เชื่อว่า สส. ต้องใช้เวลาภายใน 60 วันไปหาพรรคใหม่ ถ้าเขาย้ายทั้งแพ็กไปอยู่พรรคใหม่ โอกาสของพรรคและอนาคตทางการเมืองก็ยังมี และไม่แน่ อาจจะดีกว่าเดิมด้วยซ้ำไป และจะเป็นการเรียนรู้หนึ่งเรื่องว่า ‘อะไรควร’ หรือ ‘อะไรไม่ควร’

'อ.ไชยันต์' ชี้!! แม้แต่คำพิพากษาศาลสหรัฐฯ ก็ยังมีคนที่ 'พอใจ-ไม่พอใจ' มิหนำซ้ำ!! หาก 'ไม่พอใจ' จะประท้วงคำตัดสินศาลฯ ลูกเดียว

(8 ส.ค.67) ศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ 'ประท้วงใหญ่คำตัดสินศาลฯ !' ระบุว่า...

ต่อให้ประเทศที่ที่มาของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะยึดโยงกับประชาชนอย่างสหรัฐอเมริกา

หากประชาชนไม่พอใจคำตัดสิน ก็ออกมาประท้วงใหญ่อยู่ดี

เมื่อสองปีที่แล้ว

คนนับหมื่นออกมาประท้วงอย่างรุนแรงต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญอเมริกา (US Supreme Court)

หลังจากที่ศาลสูงสุดฯ ได้ตัดสินให้การทำแท้งเสรีขัดต่อรัฐธรรมนูญ

ความรู้สึกที่เกิดขึ้นทันทีของชาวอเมริกันต่อคำตัดสินของศาลฯ มีทั้งชื่นชมดีใจ และ เกรี้ยวโกรธ

ในพื้นที่รอบ ๆ ศาลฯ ฝูงชนที่แตกแยกซึ่งเริ่มรวมตัวกันตั้งแต่เช้าตรู่ของวันตัดสิน  

ฝ่ายสนับสนุนการทำแท้งเสรีมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

เมื่อถึงช่วงเย็น

ผู้ประท้วงสิทธิการทำแท้งที่โกรธแค้นส่วนใหญ่หลายพันคนปะทะกับนักเคลื่อนไหวต่อต้านการทำแท้งกลุ่มเล็ก ๆ ที่สนุกสนานกับการเป่าฟองสบู่และเฉลิมฉลองการสิ้นสุดการทำแท้งเสรี และการเข้าถึงวิธีการยุติการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัยและถูกกฎหมาย

ฝูงชนที่ไม่พอใจพากันรวมตัวกันในเมืองต่าง ๆ เช่น วอชิงตัน, นิวยอร์ก, แอตแลนต้า และลอสแอนเจลิส 

ในขณะที่หลายรัฐออกคำสั่งห้ามทำแท้งและคลินิกต่าง ๆ ต้องหยุดให้บริการการทำแท้ง

ในรัฐแมสซาชูเซตส์ ฝูงชนตะโกนประณามศาล และเดินขบวนท่ามกลางคลื่นความร้อนที่บอสตัน และได้รับเสียงปรบมือจากผู้ที่รับประทานอาหารกลางแจ้งที่ร้านอาหารบนถนน Boylston Street 

ในรัฐเทนเนสซี คู่รักที่มีเด็กทารก นักศึกษาวิทยาลัย มารดาและลูกสาวมุ่งหน้าไปยังจัตุรัสสาธารณะของแนชวิลล์

ในฟลอริดา 17.00 น. การชุมนุมนอกศาลาว่าการเพิ่มสูงขึ้นภายในครึ่งชั่วโมง ผู้คนหลายร้อยคนแสดงความโกรธเคืองต่อการพิจารณาคดี 

ในฟิลาเดลเฟีย ฝูงชนด้านนอกศาลาว่าการหลั่งไหลเข้าไปในจัตุรัสใกล้เคียงของอาคารเทศบาล จากนั้นก็ขยายเป็นแม่น้ำหลายพันสายไหลเข้าสู่ถนนจอห์น เอฟ. เคนเนดี

ในรัฐวอชิงตัน ผู้ประท้วงสิทธิการทำแท้งประมาณ 500 คนได้ยึดครองช่วงตึกในเมืองในซีแอตเทิล ส่งผลให้การจราจรติดขัด และในรัฐโอเรกอน มีผู้ประท้วงอีก 1,500 คนมารวมตัวกันที่ใจกลางเมืองพอร์ตแลนด์ ในนิวยอร์กซิตี้ ฝูงชนหลั่งไหลท่วม Union Square และ Washington Square Park

ในลอสแอนเจลิส ฝูงชนด้านนอกศาลรัฐบาลกลางในตัวเมืองรวมตัวกันตอนเที่ยงและเพิ่มขึ้นในชั่วโมงเร่งด่วนจนกลายเป็นทะเลที่มีผู้คนนับพัน ทำให้การจราจรเป็นอัมพาต

คติคิดที่ได้จาก อเมริกา คือ คำพิพากษาของศาลย่อมมีทั้งคนที่พอใจและไม่พอใจ

ต่อให้ที่มาของศาลยึดโยงกับประชาชนก็ตาม ก็ยังมีที่ไม่พอใจและออกมาประท้วงใหญ่โต

Sahm Rule คืออะไร? ทำไมทุกคนถึงกลัว? จนต้องหันมามองการลดดอกเบี้ยอย่างจริงจัง

ช่วงสัปดาห์นี้ เราจะได้ยินข่าวที่น่าเป็นกังวลสำหรับนักลงทุนทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นการเข้าสู่ช่วงเศรษฐกิจถดถอย การว่างงานที่สูงขึ้น และตัวเลขเศรษฐกิจต่าง ๆ ที่ออกมาแย่ จนทำให้มีการกดดันให้ธนาคารกลางหรือ FED ปรับลดดอกเบี้ยเร็วขึ้นกว่ากำหนดการที่ตอนแรกจะเป็นในเดือนกันยายนค่ะ 

โดยมีอยู่คำหนึ่งที่จะเริ่มได้ยินจากบรรดานักวิเคราะห์พูดซ้ำ ๆ มากขึ้น นั่นก็คือคำว่า Sahm Rule ซึ่งคำนี้มีที่มาจากการตั้งตามชื่อของ Claudia Sahm อดีตนักเศรษฐศาสตร์ประจำธนาคารกลางสหรัฐ โดยกฎนี้จะนำเอา 'อัตราการว่างงานรายเดือน' มาเปรียบเทียบส่วนต่างระหว่างอัตราการว่างงานเฉลี่ยย้อนหลังสามเดือนกับอัตราการว่างงานที่ต่ำที่สุดในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา และถ้าส่วนต่างอันนี้สูงกว่า 0.50% ก็จะหมายถึงว่าเศรษฐกิจนั้นอยู่ในช่วงภาวะเศรษฐกิจถดถอยไปเรียบร้อยแล้วค่ะ 

(เศรษฐกิจถดถอย Economic Recession คือ ภาวะการลดลงของกิจกรรมทางเศรษฐกิจเป็นวงกว้างอย่างมีนัยสำคัญ และกินเวลาหลายเดือน และยังต้องมีตัวชี้วัดหลายตัวร่วมด้วย ได้แก่ 1. รายได้ของบุคคลหักด้วยรายจ่าย 2.ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร 3.ตัวเลขการจ้างงานของครัวเรือน 4.รายจ่ายเพื่อการบริโภค 5.ยอดขายสินค้า และ 6.การผลิตในภาคอุตสาหกรรม ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย)

ก่อนหน้านี้ได้มีการนำเอากฎ Sahm Rule มาใช้และก็สามารถคาดการณ์วิกฤตได้อย่างแม่นยำในการเกิดวิกฤตถดถอยทั้ง 11 ครั้งนับตั้งแต่ปี 1950 เป็นต้นมาค่ะ และคนก็มักเอามาใช้เพื่อให้บรรดาผู้ที่มีอำนาจในการกำหนดนโยบายสามารถเตรียมรับมือได้ทันท่วงทีค่ะ 

และที่ทุกคนต่างพากันกลัว ก็เป็นเพราะทุกครั้งที่ตัวเลขนี้มากกว่า 0.50% ก็มักจะเกิดขึ้นหลังจากที่เศรษฐกิจเข้าสู่ช่วงถดถอยไปแล้วอย่างน้อย 2-5 เดือน แต่ก็มีบางครั้งที่ตัวเลขนี้เกิดขึ้นช้ากว่าการเข้าสู่เศรษฐกิจถดถอยถึง 8 เดือนอย่างในปี 1974 และจะเกิดก่อนที่หน่วยงานสำนักวิจัยเศรษฐกิจแห่งชาติหรือ NBER จะประกาศภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างเป็นทางการ 

โดยรอบนี้ตัวเลขการว่างงานของสหรัฐฯ ที่มีการรายงานไปเมื่อวันศุกร์ที่ 2 สิงหาคมที่ผ่านมามีการรายงานตัวเลขอัตราการว่างงานเดือนกรกฎาคมที่สูงขึ้นจาก 4.1% ไปแตะที่ระดับ 4.3% ซึ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี ทำให้อัตราเฉลี่ยสามเดือนสูงกว่าผลเฉลี่ย 3.6% ของปีที่แล้ว และส่งผลให้ตัวเลข Sahm Rule มาที่ระดับใกล้ 0.50% ค่ะ

เราต้องรอดูกันค่ะว่าถ้า Sahm Rule เกิดขึ้นจริงในรอบนี้ก็อาจจะทำให้ FED ต้องหันมาพิจารณาเรื่องการลดดอกเบี้ยอย่างจริงจังค่ะ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top