Thursday, 29 May 2025
TheStatesTimes

‘สุกี้ตี๋น้อย’ จัดโปรเด็ดทุกสาขา ลดราคาเหลือ 169 บาท เพียงแค่จ่ายผ่าน ‘เป๋าตังเปย์’ ขีดเส้น 1 ส.ค.- 31 ธ.ค.67

(2 ส.ค.67) ‘เพจสุกี้ตี๋น้อย’ ได้โพสต์รูปภาพพร้อมข้อความ กลับมาแล้วส่วนลดปัง เอาใจสายตี้ สุกี้ตี๋น้อย ลดราคาจาก 219 บาท เหลือ 169 บาท เพียงแค่สแกนจ่ายเงินผ่าน ‘เป๋าตังเปย์’ ก็รับส่วนลดไปเลย โดยลูกค้าใหม่รับส่วนลด 50 บาท เมื่อสมัครสำเร็จ และลูกค้าปัจจุบันรับส่วนลด 20 บาท ทุกเดือน

โปรโมชันตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม - 31 ธันวาคม 2567 ที่สุกี้ตี๋น้อยทุกสาขา!​ (ร้าน Teenoi Express ก็สามารถใช้สิทธิได้)

>> สำหรับเงื่อนไขการรับสิทธิ

-สิทธิพิเศษเมื่อสแกนจ่ายผ่านเป๋าตังเปย์วอลเลตเท่านั้น​
-สำหรับลูกค้าใหม่ เมื่อสมัครเป๋าตังเปย์วอลเลต แลกรับคูปองส่วนลด 50 บาท
-สำหรับลูกค้าปัจจุบัน รับคูปองส่วนลด 20 บาท* (เมื่อมียอดชำระขั้นต่ำ 50 บาท)
-ราคาดังกล่าวยังไม่รวมค่าเครื่องดื่มรีฟิลและภาษีมูลค่าเพิ่ม​
-คูปองส่วนลด 50 บาท จำกัดการได้รับคูปองส่วนลด 1 สิทธิ/ลูกค้า/กิจกรรมส่งเสริมการขาย
-คูปองส่วนลด 20 บาท จำกัดจำนวนกดรับคูปองส่วนลดสูงสุด 1 สิทธิ/ลูกค้า/เดือน
-จำกัด 1 สิทธิ/คน และจำกัด 1 คูปองส่วนลด ต่อ 1 ใบเสร็จ (ไม่สามารถแยกใบเสร็จในทุกกรณี)​
-จำกัด 20,000 สิทธิแรก โดยนับจากการใช้คูปองส่วนลดตามลำดับ​
-ระยะเวลากิจกรรมส่งเสริมการขายตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 เวลา 00.01 น. ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567 เวลา 23.59 น. (ตามเวลาประเทศไทย) (‘ระยะเวลากิจกรรมส่งเสริมการขาย’) เว้นแต่จะครบตามจำนวนสิทธิที่กำหนดก่อนครบระยะเวลาดังกล่าว

-ส่วนลด 50 บาท จำกัดจำนวนคูปองส่วนลด 100,000 สิทธิ ตลอดระยะเวลากิจกรรมส่งเสริมการขาย (เว้นแต่จะครบตามจำนวนสิทธิที่กำหนดก่อนครบระยะเวลาดังกล่าว)
-ส่วนลด 20 บาท จำกัดการใช้คูปองส่วนลดจำนวน 15,000 สิทธิแรก/เดือน รวม 75,000 สิทธิ ตลอดระยะเวลาส่งเสริมการขายนี้ เว้นแต่จะครบตามจำนวนสิทธิ์ที่กำหนดก่อนครบระยะเวลาดังกล่าว
-กรณีใช้คูปองไม่ทันตามลำดับสิทธิ ธนาคารขอสงวนสิทธิไม่ชดเชยคูปองส่วนลดให้แก่ลูกค้า​
-สงวนสิทธิ์เฉพาะลูกค้าที่สมัครเป๋าตังเปย์วอลเลตสำเร็จเท่านั้น​
-คูปองส่วนลดที่ได้รับสามารถใช้ได้ทันที หรือเก็บไว้ใช้ได้ภายใน 30 วันหลังจากวันที่ลูกค้ากดรับคูปองส่วนลด กรณีใช้คูปองส่วนลดไม่ทันในเวลาที่กำหนด หรือจำนวนสิทธิที่ใช้หมดก่อน ธนาคารขอสงวนสิทธิ์ไม่ชดเชยคูปองส่วนลดหรือชดเชยด้วยวิธีการอื่นใดให้แก่ลูกค้า

-ธนาคารขอสงวนสิทธิ์ในการคืนส่วนลดจากมูลค่าของคูปองส่วนลด หากคำสั่งการทำรายการชำระค่าอาหารและบริการถูกยกเลิกหรือถูกปฏิเสธทุกกรณี ​
-ไม่สามารถใช้ร่วมกับโปรโมชันอื่น ๆ ได้​
-ไม่สามารถแลก/เปลี่ยน/ทอนเป็นเงินได้​
-เงื่อนไขการใช้คูปองส่วนลดเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด​
-สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเป๋าตังเปย์วอลเลต บนแอปพลิเคชันเป๋าตัง ได้ที่ Krungthai Contact Center โทร. 0-2111-1111

>> ขั้นตอนการเก็บคูปองสำหรับลูกค้าใหม่ มูลค่า​ 50.-

1.เปิดแอปพลิเคชันเป๋าตัง (โปรดอัปเดตแอปพลิเคชันให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด)
2.กดสมัครบริการเป๋าตังเปย์วอลเลต ทำตามขั้นตอนการสมัครจนสำเร็จ
3.กดไอคอน ภารกิจรับรางวัล และเลือกภารกิจ ภารกิจลูกค้าใหม่เป๋าตังเปย์
4.ลูกค้าสามารถกดแลกรับคูปองอิ่มคุ้มร้านแบรนด์ดัง มูลค่าสูงสุด 50 บาทได้
5.สามารถตรวจสอบคูปองส่วนลดที่ได้รับ โดยเข้าไปที่ ภารกิจรับรางวัล > กดเลือก คูปองของฉัน > กดเลือกรางวัลคูปองส่วนลดที่ได้รับจากกิจกรรมภารกิจลูกค้าใหม่เป๋าตังเปย์ > อ่านรายละเอียดและกดใช้งานคูปอง

'นักวิทย์' ค้นพบ!! ใต้พื้นผิวดาวพุธ ลึก 500 เมตร อาจมี 'ชั้นเพชร' หนากว่า 15-18 กิโลเมตรซ่อนอยู่

(2 ส.ค.67) ‘ดาวพุธ’ (Mercury) เป็นดาวเคราะห์ลำดับแรกในระบบสุริยะ มีขนาดเล็กที่สุด และมีความหนาแน่นมากเป็นอันดับ 2 รองจากโลก โดยมีแกนโลหะขนาดใหญ่ครอบคลุมรัศมีของดาวพุธถึง 85% แต่ในขณะเดียวกัน มันยังเป็นดาวเคราะห์หินในระบบสุริยะที่มีการสำรวจน้อยที่สุดอีกด้วย

แต่ตามผลการวิจัยล่าสุดที่ตีพิมพ์ในวารสาร Nature Communications นักวิทยาศาสตร์พบว่า ที่ใต้พื้นผิวของดาวพุธซึ่งเชื่อกันว่าเป็นแกรไฟต์ ลึกลงไปอาจมี ‘ชั้นเพชร’ ซ่อนอยู่

เพชรเหล่านี้อาจก่อตัวขึ้นไม่นานหลังจากที่ดาวพุธก่อกำเนิดขึ้นเมื่อประมาณ 4.5 พันล้านปีก่อนจากกลุ่มฝุ่นและก๊าซที่หมุนวนในสภาพแวดล้อมที่มีแรงดันสูงและอุณหภูมิสูง

ทีมนักวิจัยได้ข้อสรุปดังกล่าว จากการทดลองสร้างสภาพแวดล้อมดังกล่าวขึ้นใหม่ในการทดลองด้วยเครื่องจักรที่เรียกว่า ‘เครื่องอัดแบบทั่ง’ (Anvil Press) ซึ่งปกติจะใช้ศึกษาว่าวัสดุต่าง ๆ มีพฤติกรรมอย่างไรภายใต้แรงกดดันสูง แต่ยังใช้ในการผลิตเพชรสังเคราะห์ด้วย

ด้าน เบอร์นาร์ด ชาร์ลิเยร์ หัวหน้าภาควิชาธรณีวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยลีแยฌในเบลเยียม หนึ่งในทีมวิจัย กล่าวว่า “มันเป็นแรงกดดันมหาศาลที่ทำให้เราสามารถนำตัวอย่างขนาดเล็กมาทดสอบภายใต้ความกดดันและอุณหภูมิสูงเช่นเดียวกับที่เราคาดว่าจะเกิดขึ้นภายในเนื้อโลก (Mantle) ของดาวพุธ”

ทีมวิจัยได้ใส่ส่วนผสมสังเคราะห์ของธาตุต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงซิลิกอน ไททาเนียม แมกนีเซียม และอะลูมิเนียม เข้าไปในแคปซูลแกรไฟต์ เพื่อเลียนแบบองค์ประกอบตามทฤษฎีภายในดาวพุธ

จากนั้นนักวิจัยได้นำแคปซูลไปทดสอบภายใต้ความกดดันที่สูงกว่าความดันที่พบบนพื้นผิวโลกเกือบ 70,000 เท่า และอุณหภูมิสูงถึง 2,000 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นการจำลองสภาพที่น่าจะพบใกล้แกนดาวพุธเมื่อหลายพันล้านปีก่อน

หลังจากตัวอย่างละลาย นักวิทยาศาสตร์ได้ตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงทางเคมีและแร่ธาตุภายใต้กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน และสังเกตเห็นว่า ‘แกรไฟต์ได้เปลี่ยนเป็นผลึกเพชร’

นักวิจัยกล่าวว่า กลไกนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้เราเข้าใจความลับที่ซ่อนอยู่ใต้พื้นผิวดาวพุธได้มากขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยให้เราเข้าใจวิวัฒนาการของดาวเคราะห์และโครงสร้างภายในของดาวเคราะห์นอกระบบที่มีลักษณะคล้ายกันอีกด้วย

ทั้งนี้ อย่างที่บอกไปข้างต้นว่า ดาวพุธเป็นหนึ่งในดาวที่มีการสำรวจน้อยมาก ภารกิจสำรวจดาวพุธครั้งสุดท้ายคือยาน MESSENGER ขององค์การนาซา (NASA) ซึ่งโคจรรอบดาวพุธระหว่างเดือน มี.ค. 2011 ถึงเดือน เม.ย. 2015

ภารกิจดังกล่าวรวบรวมข้อมูลเชิงธรณีวิทยา เคมี และสนามแม่เหล็กของดาวพุธ ก่อนที่ยานอวกาศจะเชื้อเพลิงหมดและพุ่งชนพื้นผิวดาวพุธ

หลิน เหยียนเฮ่า นักวิทยาศาสตร์ประจำศูนย์วิจัยขั้นสูงด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแรงดันสูงในปักกิ่ง หนึ่งในทีมวิจัย กล่าวว่า “เรารู้ว่ามีคาร์บอนจำนวนมากในรูปแบบของแกรไฟต์บนพื้นผิวของดาวพุธ แต่กลับมีการศึกษาน้อยมากเกี่ยวกับส่วนภายในของดาวเคราะห์”

ชาร์ลิเยร์เสริมว่า “เมื่อเทียบกับดวงจันทร์หรือดาวอังคารแล้ว เรารู้เพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับดาวพุธ เนื่องจากเราไม่มีตัวอย่างจากพื้นผิวของดาวเคราะห์ด้วย” และบอกว่า ดาวพุธแตกต่างจากดาวเคราะห์หินดวงอื่น ๆ เนื่องจากมันอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์มาก จึงมีออกซิเจนในปริมาณต่ำมาก ซึ่งส่งผลต่อเคมีของดาวเคราะห์

หนึ่งในการค้นพบของ MESSENGER คือข้อเท็จจริงที่ว่า ดาวพุธอุดมไปด้วยคาร์บอนและพื้นผิวเป็นสีเทาเนื่องจากมีแกรไฟต์ ซึ่งเป็นรูปแบบหนึ่งของคาร์บอน อยู่ทั่วไป เพชรเองก็ประกอบด้วยคาร์บอนบริสุทธิ์ ซึ่งก่อตัวขึ้นภายใต้สภาวะความดันและอุณหภูมิที่เฉพาะเจาะจง

นักวิจัยต้องการดูว่า กระบวนการนี้เกิดขึ้นระหว่างการก่อตัวของดาวเคราะห์ได้หรือไม่

เมื่อหลิน, ชาร์ลิเยร์ และเพื่อนร่วมทีมวิจัยเตรียมการทดลองเพื่อเลียนแบบสภาวะภายในของดาวพุธไม่นานหลังจากการก่อตัวของดาว องค์ประกอบที่สำคัญอย่างหนึ่งก็คือความรู้ที่ว่า มีกำมะถันอยู่ในดาวพุธด้วย ดังเช่นหลักฐานจากการศึกษาครั้งก่อน ๆ

ชาร์ลิเยร์บอกว่า “เราพบว่าสภาพแวดล้อมนั้นแตกต่างจากโลก เพราะมีกำมะถันจำนวนมากบนดาวพุธ ซึ่งทำให้จุดหลอมเหลวของตัวอย่างของเราลดลง”

เขาเสริมว่า “มันหลอมละลายอย่างสมบูรณ์ที่อุณหภูมิต่ำกว่าเมื่อเทียบกับระบบที่ไม่มีกำมะถัน ซึ่งดีต่อเสถียรภาพของเพชร เนื่องจากเพชรชอบแรงดันสูงแต่มีอุณหภูมิต่ำกว่า”

ชาร์ลิเยอร์บอกว่า ความหนาของชั้นเพชรคาดว่าอยู่ระหว่าง 15-18 กิโลเมตร แต่เป็นเพียงการประมาณการเท่านั้น และอาจเปลี่ยนแปลงได้

ไม่สามารถบอกได้ว่าเพชรแต่ละเม็ดมีขนาดใหญ่เพียงใด “เราไม่มีเบาะแสเกี่ยวกับขนาดของเพชร แต่เพชรทำมาจากคาร์บอนเท่านั้น ดังนั้นเพชรจึงน่าจะมีองค์ประกอบคล้ายกับที่เราทราบบนโลก มันน่าจะมีลักษณะเหมือนเพชรบริสุทธิ์”

ส่วนคำถามว่าเพชรเหล่านี้จะถูกขุดขึ้นมาได้หรือไม่นั้น? ชาร์ลิเยร์บอกชัดเจนว่า “เป็นไปไม่ได้” แม้จะมีเทคโนโลยีขั้นสูงในอนาคตก็เป็นไปไม่ได้ เนื่องจากเพชรเหล่านี้อยู่ที่ความลึกประมาณ 500 กิโลเมตร

“อย่างไรก็ตาม ลาวาบางส่วนบนพื้นผิวของดาวพุธเกิดจากการหลอมละลายของชั้นเนื้อโลกที่ลึกมาก จึงสมเหตุสมผลที่จะพิจารณาว่า กระบวนการนี้สามารถนำพาเพชรบางส่วนขึ้นมาบนพื้นผิวได้” เขากล่าว

ทั้งนี้ ทั้งหมดนี้เป็นเพียงการคาดเดาจากการจำลองสภาวะของดาวพุธเท่านั้น หากจะทราบข้อมูลที่ถูกต้องกว่านี้ อาจต้องฝากความหวังไว้กับภารกิจ ‘เบปีโคลอมโบ’ (BepiColombo) ซึ่งประกอบด้วยยานอวกาศ 2 ลำที่ปล่อยขึ้นสู่อวกาศในเดือน ต.ค. 2018 และคาดว่าจะเข้าสู่วงโคจรของดาวพุธในเดือน ธ.ค. 2025

ภารกิจดังกล่าวซึ่งนำโดยองค์การอวกาศยุโรป (ESA) และสำนักงานสำรวจอวกาศญี่ปุ่น (JAXA) จะศึกษาดาวเคราะห์ดวงนี้จากวงโคจรและเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับภายในและลักษณะเฉพาะของดาวพุธมากขึ้น

ชาร์ลิเยร์บอกว่า “เบปีโคลอมโบอาจสามารถระบุและวัดปริมาณคาร์บอนบนพื้นผิวดาวพุธได้ และอาจยังระบุได้ด้วยว่า มีเพชรอยู่บนพื้นผิวหรือมีแกรไฟต์มากกว่า”

'Intel' จ่อเลิกจ้างพนักงานกว่า 15,000 อัตรา หลังขาดทุนยับ หุ้นร่วง 20% สวนทาง Nvidia

(2 ส.ค.67) เอพี รายงานว่า Intel ผู้ผลิตชิปรายใหญ่เบอร์ต้น ๆ ของโลก ที่มีฐานอยู่ในแคลิฟอร์เนีย ออกมาประกาศแผนเลิกจ้างพนักงาน 15% หรือราว 15,000 คน ของพนักงานทั้งหมดทั่วโลก เพื่อแข่งขันกับคู่แข่งอย่าง Nvidia และ AMD หลังบริษัทขาดทุนหนักต่อเนื่อง

ด้าน นายแพทริก พี. เกลซิงเกอร์ ประธานกรรมการบริหารของบริษัท Intel Corp กล่าวกับพนักงานเมื่อวันพฤหัสบดีว่า บริษัทวางแผนที่จะลดเงิน 10,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2568

“พูดอย่างง่าย ๆ ก็คือ ทางบริษัทต้องปรับโครงสร้างต้นทุนของเราให้สอดคล้องกับรูปแบบการดำเนินงานใหม่ และเปลี่ยนแปลงวิธีการดำเนินการของเราโดยพื้นฐาน” เขาเขียนบันทึกที่เผยแพร่ลงบนเว็บไซต์ และว่า “รายได้ของเราไม่ได้เติบโตอย่างที่คาดไว้ และเรายังไม่ได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่จากเทรนด์ที่กำลังอยู่ในกระแสอย่าง AI ซึ่งต้นทุนของเราสูงเกินไป สวนทางกับกำไรที่ได้”

การลดตำแหน่งดังกล่าว เกิดขึ้นหลังจากรายได้ในไตรมาสล่าสุด ขาดทุน 1,600 ล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับกำไร 1,500 ล้านดอลลาร์ ในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

โดย เกลซิงเกอร์ ระบุว่า ในสัปดาห์หน้า อินเทลจะประกาศข้อเสนอเกษียณอายุขั้นสูง สำหรับพนักงานที่มีคุณสมบัติเหมาะสม และเสนอโปรแกรมการสมัครใจลาออก

“การตัดสินใจนี้ ท้าทายฉันถึงแก่นแท้และนี่คือสิ่งที่ยากที่สุดที่เคยทำในอาชีพการงาน” เขากล่าว

ทั้งนี้ คาดว่าการเลิกจ้างจำนวนมาก จะแล้วเสร็จในปีนี้

หุ้นของ Intel ร่วงลง 20 เปอร์เซ็นต์ในการซื้อขายต่อเนื่อง ส่งผลให้ผู้ผลิตชิปรายนี้มีแนวโน้มจะสูญเสียมูลค่ามากกว่า 24,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อตลาดหุ้นเปิดทำการอีกครั้งในวันศุกร์

แม้ว่า Intel จะเคยเป็นผู้นำตลาดชิปที่ใช้ในทุกสิ่งตั้งแต่แล็ปท็อปไปจนถึงศูนย์ข้อมูล แต่ปัจจุบัน Intel กลับต้องดิ้นรนอย่างหนัก เพื่อตามให้ทัน Nvidia บริษัทที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ และ AMD ผู้ผลิตและผู้พัฒนาซีพียู และเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดจากปัญญาประดิษฐ์ (AI)

ทั้งนี้ ในเดือนมิถุนายน Intel ประกาศว่า จะยุติการขยายโครงการ โรงงานขนาดใหญ่ในอิสราเอล โดยระบุว่า การตัดสินใจที่จะทำโครงการขนาดใหญ่จะต้องคำนึงถึง ‘เงื่อนไขทางธุรกิจ พลวัตของตลาด และการจัดการทุนอย่างรับผิดชอบ’

วิทยุการบินฯ คว้ารางวัล ITA Awards สาขาพัฒนาการสูงสุด

วิทยุการบินฯ รับรางวัล ITA Awards สาขาพัฒนาการสูงสุด ด้วยคะแนน 92.37 ได้คะแนนเพิ่มสูงสุดในกลุ่มรัฐวิสาหกิจ มุ่งเน้นการให้บริการและการบริหารองค์กรด้วยคุณธรรมและความโปร่งใส

ดร. ณพศิษฏ์ จักรพิทักษ์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (กอญ. บวท.)กล่าวว่า “ตามนโยบายกระทรวงคมนาคมและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม (นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ) วิทยุการบินฯ ตระหนักถึงความสำคัญของการกำกับดูแลกิจการที่ดีและการบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส เป็นธรรม ซึ่งได้จัดทำแผนแม่บทด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดีและใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาการดำเนินงานขององค์กรอย่างเป็นระบบ โดยในปีนี้วิทยุการบินฯ ได้รับรางวัลผลการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใส (Integrity and Transparency Assessment) หรือ ITA Awards สาขาพัฒนาการสูงสุด ซึ่งพิจารณาจากส่วนต่างของคะแนนปีที่แล้วกับคะแนนปีนี้ เดิมปีที่แล้วได้ 83.09 คะแนน ปีนี้ได้ 92.37 คะแนน เพิ่มขึ้น 9.28 คะแนน เป็นคะแนนเพิ่มสูงสุด ในกลุ่มรัฐวิสาหกิจ 51 หน่วยงาน จึงถือเป็นความภาคภูมิใจของวิทยุการบินฯ และเรายังคงพัฒนาปรับปรุงการบริหารจัดการด้านต่างๆ ขององค์กรให้ได้คะแนนที่ดียิ่งขึ้น”

ดร. ณพศิษฏ์ จักรพิทักษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “วิทยุการบินฯ ได้มีการทบทวนผลการดำเนินงานด้านต่างๆ รวมทั้งปัจจัยทั้งภายในและภายนอกองค์กร เพื่อปรับปรุงพัฒนาให้สอดคล้องกับแผนแม่บทการกำกับดูแลกิจการที่ดี โดยมุ่งไปสู่ผลลัพธ์ที่สำคัญ ได้แก่ การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ดำเนินงานอย่างมีจริยธรรม สร้างผลประโยชน์ให้กับสังคมและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการดำเนินงานที่ช่วยให้องค์กรสามารถปรับตัวได้ภายใต้ปัจจัยการเปลี่ยนแปลง 

โดยยังคงมุ่งเน้นภารกิจการให้บริการจรารจราจรทางอากาศที่สนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมการบิน เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่การบินศูนย์กลางการบินภูมิภาคต่อไป”

เจ้าหน้าที่ 3 หน่วยงานกระทรวงทส. ผนึกกำลังจัดงานวันเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าโลก 31 ก.ค.67 เพื่อเชิดชูเกียรติเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า ด้านงานวันเสือโคร่งโลก ประจำปี 2567

กรมอุทยานแห่งชาติฯ กำหนดจัดกิจกรรมภายใต้แนวคิดหลัก 'Go Goal Tigers : ก้าวต่อไป...Tigers' วันที่ 25 – 27 กรกฎาคม 2567

(24 ก.ค.67) นายเถลิงศักดิ์ เพ็ชรสุวรรณ รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รองปลัด ทส.) เป็นประธานแถลงข่าวกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงของ ทส. ผู้บริหารของกรมอุทยานแห่งชาติฯ และสื่อมวลชน ร่วมแถลงข่าวในประเด็น 1.วันเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าโลก (World Ranger Day) 2.วันเสือโคร่งโลก ประจำปี 2567 ณ บริเวณห้องโถง ชั้น 3 กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม กทม. 

กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรมป่าไม้ และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นหน่วยงานที่มีเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า ที่ปฏิบัติงานเป็นแนวหน้าในการอนุรักษ์พื้นที่คุ้มครองทั้งป่าไม้และทะเล และเพื่อเป็นการรำลึกเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต จากการดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสนับสนุนเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าผู้เป็นหัวใจหลัก หรือแนวหน้าในการอนุรักษ์พื้นที่คุ้มครอง ทั้ง 3 หน่วยงาน จึงได้ร่วมกันจัดงานวันเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าโลกขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ส่วนที่มาของวันเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าโลกนั้น สมาพันธ์ผู้พิทักษ์ป่าระหว่างประเทศ หรือ International Federation Ranger (IRF) ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2535 เพื่อสนับสนุนการทำงานของผู้พิทักษ์ป่า ผู้เป็นกำลังสำคัญในการทำหน้าที่ปกป้องพื้นที่คุ้มครองของโลก ได้มีมติในการประชุม World Congress Ranger ปี พ.ศ.2549 ที่สกอตแลนด์ ให้วันที่ 31 กรกฎาคมของทุกปี เริ่มต้นในปี พ.ศ.2549 เป็นวันเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าโลก 

สำหรับการจัดงานวันเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าในปีนี้ พ.ศ. 2567 กรมอุทยานแห่งชาติฯ เป็นเจ้าภาพหลัก ร่วมกับกรมป่าไม้ และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กำหนดจัดงานวันเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าโลก ในวันพุธที่ 31 กรกฎาคม 2567 ณ ศูนย์การประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่ วัตถุประสงค์เพื่อเป็นการรำลึกถึงคุณงามความดีและการทำงานอันเสียสละของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า ในการปกป้องรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทั่วโลก และยังเป็นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผลงานด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า อีกด้วย 

ด้านการจัดงาน วันเสือโคร่งโลก ประจำปี 2567 นั้น ประเทศไทยเป็นหนึ่งใน 13 ประเทศ ที่เป็นถิ่นที่อยู่อาศัยสำคัญของเสือโคร่ง และยังได้เข้าร่วมประชุมสุดยอดผู้นำด้านการอนุรักษ์เสือโคร่ง ณ นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก สหพันธรัฐรัสเซีย ในปี พ.ศ. 2553 ซึ่งที่ประชุมให้การรับรองต่อปฏิญญาเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เพื่อการอนุรักษ์เสือโคร่ง อันเป็นแนวทางปฏิบัติสำคัญของโลกเพื่อการอนุรักษ์เสือโคร่งในปัจจุบันและในอนาคต และยังได้กำหนดให้วันที่ 29 กรกฎาคม ของทุกปี เป็นวันเสือโคร่งโลก ซึ่งเสือโคร่ง ถือเป็นตัวชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศปัจจุบัน จากการสำรวจโดยใช้กล้องดักถ่ายภาพสัตว์และประเมินประชากรประเทศไทยมีเสือโคร่งในธรรมชาติ จำนวน 179-223 ตัว

ขณะที่ การจัดงานวันเสือโคร่งโลก ประจำปี 2567  กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายด้านการอนุรักษ์สัตว์ป่า ได้จัดงานวันเสือโคร่งโลก ประจำปี 2567 ระหว่างวันที่ 25 – 27 กรกฎาคม 2567 ภายใต้แนวคิดหลัก “Go Goal Tigers : ก้าวต่อไป...Tigers” ณ ลาน Zpotlight ชั้น G ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ครังสิต จังหวัดปทุมธานี โดยมีพิธีเปิดวันที่ 25 กรกฎาคม 2567 พร้อมด้วยกิจกรรมและงานเสวนาเกี่ยวกับเสือโคร่งด้วย

'พัชรวาท' เชิดชูเกียรติเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า 3 หน่วยงานผนึกกำลังร่วมจัดงานวันเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าโลก

เมื่อวันที่ (31 ก.ค.67) พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มอบหมายให้ ร.อ.รชฏ พิสิษฐบรรณกร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานในการจัดงานวันเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าโลก (World Ranger Day) 31 กรกฎาคม 2567 พร้อมด้วยนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง นายทศพล เผื่อนอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ คณะผู้บริหารจากทส. โดยมีเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าจาก 3 หน่วยงาน ได้แก่ กรมอุทยานแห่งชาติฯ กรมป่าไม้ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ร่วมพิธีวันเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าโลก (World Ranger Day) ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา จ.เชียงใหม่ 

กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรมป่าไม้ และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เป็นหน่วยงานซึ่งมีเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า ปฏิบัติงานเป็นแนวหน้าในการอนุรักษ์คุ้มครองพื้นที่อนุรักษ์ทั้งพื้นที่ป่าไม้และพื้นที่ทางทะเล ปัจจุบันมีเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าอยู่ประมาณ 21,000 คน โดยในปี 2567 ที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ จำนวน 11 ราย ประกอบด้วย กรมอุทยานฯ 8 ราย กรมป่าไม้ 3 ราย ดังนั้น เพื่อเป็นการรำลึกถึงเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ตลอดจนเพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ทั้ง 3 หน่วยงาน จึงได้ร่วมกันจัดกิจกรรมวันเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าโลกขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มต้นมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2556 มีการจัดงานครั้งแรกที่อุทยานแห่งชาติปางสีดา และล่าสุดในปี พ.ศ. 2566 จัดงานที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน

สำหรับการดูแลขวัญกำลังใจของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติฯได้รับการอนุมัติจากสำนักงบประมาณ โดยในปีงบประมาณ 2568 ให้ปรับอัตราค่าตอบแทนของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า จาก 9,000 บาท เป็น 11,000 บาท โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป นอกจากนั้นแล้ว กรมอุทยานแห่งชาติฯ ยังได้มีโครงการจัดหาวัสดุสำหรับใช้ในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ โดยให้สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1-16 และสาขาทุกสาขา จัดหาวัสดุจำนวน 15 รายการ ที่จำเป็นสำหรับใช้ในการปฏิบัติงาน เช่น เปลนอนประกอบมุ้ง ถุงนอน ฟลายชีท ผ้าใบกันฝน กระบอกกรองน้ำแบบพกพา ฯลฯ เพื่อส่งมอบให้เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าในสังกัด 8,875 คน ในวงเงิน 9,210,000 บาท 

ด้านการจัดงานวันเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าในปีนี้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เป็นเจ้าภาพหลัก ร่วมกับกรมป่าไม้ และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กำหนดจัดงานวันเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าโลก ในวันที่ 31 กรกฎาคม 2567 ณ ศูนย์การประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่ วัตถุประสงค์เพื่อเป็นการรำลึกถึงคุณงามความดี และการทำงานอันเสียสละของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า ในการปกป้องรักษาทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า ทั้งบนบกและท้องทะเล  อีกทั้งยังเป็นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผลงานด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า 

ส่วนกิจกรรมภายในงานประกอบด้วย การเชิดชูเกียรติ โดยการกล่าวสดุดีเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า กิจกรรมเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจ การมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ การมอบอุปกรณ์ที่จำเป็นในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า อีกทั้งยังมีกิจกรรมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า การแสดงสมรรถนะของรถยนต์ปฏิบัติการเพื่อสนับสนุนอากาศยานไร้คนขับ (UAV) สำหรับเฝ้าระวังและติดตามการลักลอบตัดไม้และล่าสัตว์ การแสดงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) พร้อมรถโมบายและอุปกรณ์เพื่อปฏิบัติงานนอกสถานที่

มูลนิธิพุทธภูมิธรรม ร่วมพลังบุญถวายทุนแด่พระภิกษุสามเณรผู้สอบได้เปรียญธรรรม 9 ประโยค ประจำปี พ.ศ.2567 ปีที่ 3 ของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม

เมื่อวันที่ (31 ก.ค.67) อาจารย์วิจักษณ์ สองจันทร์ ประธานมูลนิธิพุทธภูมิธรรม เป็นตัวแทนกัลยาณมิตร นำปัจจัย 30,000 บาท ร่วมบุญเจ้าภาพภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์ ทรงสมณศักดิ์ 10 รูป และพระภิกษุสามเณรผู้สอบได้เปรียญธรรม 9 ประโยค จำนวน 76 รูป และ เข้าร่วมพิธี ถวายทุนแด่พระภิกษุสามเณรผู้สอบได้เปรียญ 9 ประโยค โดยมี พลเอก สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธี เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษา (28 กรกฎาคม 2567) ณ ห้องพินิตประชานาถ ในศาลาว่าการกลาโหม 

ขอน้อมส่งผลบุญบารมี แด่กัลยาณมิตรผู้ร่วมบุญ และปวงชนชาวไทยทั้งปวง

อานิสงส์จากการถวายภัตตาหารและจตุปัจจัยไทยธรรม

1. เป็นผู้ที่ถึงพร้อมด้วยอายุ จะเป็นผู้มีอายุยืนยาว ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ
2. เป็นผู้ที่ถึงพร้อมด้วยวรรณะ มีผิวพรรณนาวรรณะผ่องใส เป็นที่ดึงดูดตาดึงดูดใจ เป็นที่รักชอบใจของผู้พบเห็น อันเป็นที่มาแห่งโภคทรัพย์สมบัติทั้งหลาย
3. เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยสุข มีความสุขทั้งกาย ทั้งใจ ทั้งอารมณ์ แจ่มใส เบิกบาน ร่าเริงอยู่เป็นนิตย์
4. เป็นผู้ที่ถึงพร้อมด้วยพละ คือ มีเรี่ยวแรงมหาศาล เป็นที่เคารพยำเกรงของคนทั้งหลาย
5. เป็นผู้ที่ถึงพร้อมด้วยปฏิภาณ มีสติปัญญาที่ฉลาด หลักแหลม รอบรู้ในสรรพวิชชาทั้งปวง
6. เป็นที่รักของมนุษย์และเทวดาทั้งหลาย เดินทางไป ณ สถานที่แห่งใด ย่อมได้รับการต้อนรับ อำนวยความสะดวกสบาย
7.  เป็นผู้มีกำลังใจในการสร้างบารมีไม่มีที่สิ้นสุด ประดุจดั่งพระโพธิสัตว์ทั้งหลาย นับตั้งแต่ปัจจุบันชาติ ไปจนกว่าจะถึงที่สุดแห่งธรรม

กราบอนุโมทนาสาธุบุญ

พิพัฒน์ ส่งโฆษก พบเครือข่ายแรงงานอิสระเมืองสุพรรณฯ สร้างการมีส่วนร่วม ประชาสัมพันธ์งานประกันสังคมสู่ผู้ประกันตน

(2 ส.ค.67) นายภูมิพัฒน์ เหมือนจันทร์ โฆษกกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ท่านพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของกลุ่มแรงงานอิสระ เพื่อประชาสัมพันธ์งานประกันสังคมสู่ผู้ประกันตน จึงได้มอบหมายให้ผมเป็นประธานกล่าวเปิดโครงการส่งเสริมการมีส่วนร่วม เผยแพร่ประชาสัมพันธ์งานประกันสังคมสู่ผู้ประกันตน ประจำปี 2567 โดยมี ประกันสังคมจังหวัดสุพรรณบุรี ผู้อำนวยการเสริมสร้างความั่นคงแรงงานนอกระบบ เครือข่ายประกันสังคมจังหวัดสุพรรณบุรี ณ วัดใหม่เพชรรัตน์ ตำบลศรีสำราญ อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี

นายภูมิพัฒน์ กล่าวว่า ผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้รับเกียรติมาเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการส่งเสริมการมีส่วนร่วมเผยแพร่ประชาสัมพันธ์งานประกันสังคมสู่ผู้ประกันตน ประจำปี 2567 ในวันนี้ กระทรวงแรงงาน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ท่านพิพัฒน์ รัชกิจประการ ได้มีความมุ่งมั่นตั้งใจในการสร้างหลักประกันทางสังคมสู่แรงงานภาคอิสระ ให้มีความมั่นคงในชีวิต ที่ครอบคลุมและเหมาะสมกับทุกช่วงวัยและทุกกลุ่ม ภายใต้นโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน “ทักษะดี มีงานทำ หลักประกันทางสังคมเด่น เน้นขับเคลื่อนเศรษฐกิจ” สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ “การสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม ลดความเหลื่อมล้ำสร้างความเป็นธรรมในทุกมิติ” ซึ่งกล่าวได้ว่า การมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนการสร้างหลักประกันทางสังคมในพื้นที่ เป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาประเทศ

นายภูมิพัฒน์ กล่าวต่อว่า ในการดำเนินโครงการส่งเสริมการมีส่วนร่วมเผยแพร่ประชาสัมพันธ์งานประกันสังคมสู่ผู้ประกันตน ประจำปี 2567 ในครั้งนี้ เพื่อประชาสัมพันธ์เชิญชวน พระภิกษุ สามเณร 
ผู้ประกอบอาชีพอิสระ และประชาชนทั่วไป ที่มาร่วมโครงการให้สามารถรับรู้สิทธิประโยชน์ประกันสังคมมาตรา 40 ที่ได้รับความคุ้มครอง กรณีเงินทดแทนการขาดรายได้จากการเจ็บป่วย กรณีทุพพลภาพ กรณีเสียชีวิต กรณีชราภาพ และกรณีสงเคราะห์บุตร รวมทั้งสร้างการมีส่วนร่วมนำไปเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้กับพระภิกษุ สามเณร ผู้ประกอบอาชีพอิสระ ประชาชนทั่วไปได้เข้ำถึงสิทธิประโยชน์จากระบบประกันสังคมมาตรา 40 เพิ่มมากขึ้นตามนโยบายของรัฐบาล

“กระทรวงแรงงาน ขอกราบขอบพระคุณคณะสงฆ์ รวมถึงขอขอบคุณผู้สนับสนุน และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนที่ทำให้การจัดโครงการในวันนี้ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการนี้จะเป็นประโยชน์ต่อทุกท่าน และทุกสาขาอาชีพ ซึ่งจะช่วยลดความเหลื่อมล้ำในสังคมต่อไป” นายภูมิพัฒน์ กล่าว

'แรงงานนอกระบบ' เสี่ยงเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ในไทย บนความสบายใจของคนไทยที่รักสบายจนเคยตัว

อย่างที่เราทราบกันว่าตอนนี้มีแรงงานผิดกฎหมายเดินทางเข้ามายังประเทศไทยเป็นจำนวนมาก ซึ่งกลุ่ม NGO ทั้งหลายก็พยายามผลักดันและกดดันให้ไทยรับแรงงานเหล่านี้เข้าระบบ ซึ่งไม่ใช่เรื่องของไทยเลย  

จากการเรียกร้องของกลุ่ม NGO โดยเฉพาะฝั่งพม่าที่พยายามผลักดันมากเสียจนดูน่าสงสัยไปหมด เมื่อไปตามดูสายสัมพันธ์ของคนเหล่านี้จะพบว่าคนเหล่านี้มีสายสัมพันธ์กับเจ้าหน้าที่ในไทยทั้งในระดับปฏิบัติการและระดับนโยบายถึงขั้นพยายามผลักดันนโยบายอะไรบางอย่างในไทยได้ 

เพราะล่าสุดเห็นระบบการขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวในไทย ระบบใหม่มีภาษาต่างชาติทั้งอังกฤษ, พม่า, ลาว, เวียดนาม และภาษาเขมร โดยเหมือนตั้งใจที่จะให้แรงงานสามารถแจ้งเองได้เลย ซึ่งจะต่างจากในอดีตที่จะให้นายจ้างไทยเป็นคนแจ้งออก

ถามว่าการทำแบบนี้ใครเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์ นายจ้างชาวไทย? หรือ แรงงานข้ามชาติ? 

บางที เอย่า ก็สงสัยจุดประสงค์ของกรมแรงงาน ว่าต้องการให้ไทยพัฒนาไปได้ในทิศทางที่ถูกต้องหรือต้องการแค่ใครก็ได้ที่มาทำแล้วผลักงานให้พ้นตัวไป?

มาอีกเรื่องที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ไม่นานมานี้ เอย่า ได้รับรายงานมาว่า สนามกอล์ฟแห่งหนึ่งมีสาขาที่จังหวัดท่องเที่ยวในประเทศไทย มีเจ้าของเป็นคนไทย ประกาศรับแคดดี้ชาวพม่าเป็นผู้หญิงอายุระหว่าง 18-25 ปี โดยต้องมีทักษะพูดภาษาต่างประเทศได้ เช่น จีน, เกาหลี โดยจะได้รับเงินเดือน 12,000 บาท พร้อมสวัสดิการชุดพนักงาน ที่พักและอาหารฟรี

นอกจากนี้ ผู้สมัครจะต้องผ่านการทดสอบทักษะทางภาษาก่อน หากได้งานต้องทำงานไปก่อน 6 เดือน หลังพ้นระยะทดลองงาน 6 เดือนถึงจะทำบัตรชมพูให้ และในช่วงดังกล่าวพนักงานต้องห้ามเดินทางออกนอกสถานที่เด็ดขาด โดยการทำงานนี้มีสัญญาจ้าง 2 ปี ถ้าลาออกก่อนหรือทำงานไม่ครบสัญญาจะถูกปรับเป็นเงิน 300,000 บาท

หากมองว่าเป็นงานถูกกฎหมาย ก็น่าจะไม่ผิดกฎหมาย แต่การรับสมัครงานแบบนี้ไม่ถูกต้องไปตามการจ้างแรงงานต่างด้าว และบริษัทน่าจะรู้ดีว่าการจ้างต่างด้าวที่ไม่มีเอกสารเป็นความผิด เพราะนายจ้างจะต้องไปขึ้นทะเบียนจ้างคนต่างด้าวก่อน จึงจะสามารถรับคนงานได้ 

ในส่วนของลูกจ้างที่ควรจะคำนึงคือ การที่ต้องไปทำงานในที่ใดที่หนึ่งไม่สามารถเดินทางออกไปไหนได้เลยไม่ต่างอะไรกับการถูกหลอกไปทำงานในเขตจีนเทา เขาจะทำอะไรกับคุณก็ได้ เพราะคุณอยู่ในอาณาเขตของเขา อีกอย่างหากถูกลวนลามจากนักกอล์ฟจะสามารถหาทางเอาตัวรอดได้หรือไม่ อย่างไรกัน เพราะไม่สามารถเดินทางออกไปไหนได้เลย แม้ทางรีสอร์ตจะเสนอว่าหากทำครบ 1 ปีแล้วสามารถขอลาได้ 15 วัน และมีรถรับส่งไปยังชายแดนหรือสนามบินก็ตาม

ปัจจุบันนี้แรงงานที่หนีเข้าประเทศไทยอย่างผิดกฎหมายคงไม่มีทางเลือกมากนัก แต่ถึงกระนั้นขบวนการฟอกขาวที่นำโดยกลุ่มที่มาก่อนถึง แม้บางคนจะได้สัญชาติไทยไปแล้ว ก็ยังพยายามที่จะทำให้คนเหล่านั้นเข้ามาในระบบอย่างไม่ถูกต้อง โดยพยายามเรียกร้องว่า ไม่จำเป็นต้องมีการพิสูจน์สัญชาติหรือประวัติอาชญากรรม 

ประเด็นคือ ประเทศไทยมีความจำเป็นต้องใช้แรงงานพวกนี้จริงหรือไม่ หรือแท้จริงแล้วคือ เรารักสบายจนเคยตัว และใช้เงินแก้ปัญหาจนเคยชิน โดยที่ไม่เคยสนใจว่าสิ่งที่เราก่อขึ้นจะส่งผลอะไรกลับมาบ้างในประเทศของเรา ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว  

หากทุกท่านยังไม่เข้าใจ อาจจะต้องลองไปถามคนไทยในแม่สอดดูว่า เขารู้สึกอย่างไรที่พม่าเข้าเมืองผิดกฎหมาย เข้ามาอาศัยเพิ่มมากขึ้น

เปิด 2 มุมมอง นักชกผู้ที่เคยขึ้นสังเวียน ปะทะ ‘อิมาน เคลิฟ’ หลังมีกระแสในโลกโซเชียล ร่างกายเธอเป็น ‘ชาย-หญิง’

กลายเป็นประเด็นถกเถียงกันอย่างกว้างขวางในโลกโซเชียล จากกรณีโอลิมปิกปารีส 2024 อนุญาตให้ ‘อิมาน เคลิฟ’ จากแอลจีเรีย เข้าแข่งขันในกีฬามวยสมัครเล่นหญิง แม้เธอถูกตัดสิทธิจากศึกชิงแชมป์โลกของผู้หญิงเมื่อปีที่แล้ว หลังไม่ผ่านการตรวจเพศ สืบเนื่องจากมีระดับเทสโทสเตอโรน หรือ ‘ฮอร์โมนเพศชาย’ สูงกว่าปกติ

โดย คาลิฟ ต้องขึ้นสังเวียนพบกับ ‘แองเจล่า คารินี’ นักมวยจากอิตาลี แน่นอนว่าการแข่งขันจบลงในเวลาเพียงแค่ 46 วินาทีเท่านั้น หลังจาก คารินี ตัดสินใจขอยอมแพ้ หลังจากถูกหมัดของ คาลิฟ เข้าไป

ทั้งนี้ คารินี พยายามกลั้นน้ำตาหลังจบการแข่งขัน และต่อมาได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า "มันอาจเป็นการแข่งขันครึ่งหนึ่งในชีวิต แต่ฉันจำเป็นต้องรักษาชีวิตตัวเองเช่นกันในช่วงเวลาดังกล่าว"

"ฉันให้เกียรติกับประเทศของฉันด้วยความซื่อสัตย์เสมอ ไฟต์นี้ฉันไม่ประสบความสำเร็จเพราะฉันไม่สามารถสู้ต่อไปได้ ตั้งแต่เกิดมาฉันไม่เคยเจอหมัดหนักขนาดนี้มาก่อน" เธอกล่าว

คารินี บอกต่อว่า "ฉันตัดสินใจยุติการชกเพราะหลังจากโดนชกไปสองหมัด จากประสบการณ์หลายปีบนสังเวียน และตลอดชีวิตการชกมวย ฉันรู้สึกเจ็บมาก ๆ ที่จมูก ฉันบอกว่า ‘พอแล้ว’ เพราะ...ฉันไม่สามารถที่จะเอาชนะไฟต์นี้ได้ ดังนั้นฉันคิดว่าบางทีมันคงจะดีกว่าถ้ายุติการชกไปซะ"

"ฉันขึ้นสังเวียนเพื่อที่จะต่อสู้ ฉันไม่เคยยอมแพ้ ฉันไม่กลัว ไม่หวั่นการขึ้นเวที หรือการที่ต้องรับหมัด แต่การโดนต่อยครั้งนี้มันเจ็บมาก ๆ และฉันพูดกับตัวเองว่าพอเหอะ ฉันออกจากการแข่งขันแต่ก็ยังคงความภาคภูมิใจ" คารินี กล่าว

ขณะที่ทางด้าน เอมี บรอดเฮิร์สต์ นักมวยหญิงทีมชาติสหราชอาณาจักร ที่เคยชนะ อิมาน เคลิฟ มาแล้ว ก็ได้โพสต์ถึงเรื่องนี้ผ่าน X ว่า "หลายคนส่งข้อความมาถามฉันเกี่ยวกับเคลิฟ ซึ่งในความเห็นของฉัน การขึ้นชกของเธอไม่ได้เป็นการโกง เธอเกิดมาแล้วร่างกายเป็นแบบนั้น มันอยู่เหนือการควบคุมทุกอย่าง นอกจากนี้ในอดีตเธอก็เคยแพ้มาแล้วถึง 9 ไฟต์ ตัวเลขนี้คือการบ่งบอกทุกอย่าง"


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top