'Intel' จ่อเลิกจ้างพนักงานกว่า 15,000 อัตรา หลังขาดทุนยับ หุ้นร่วง 20% สวนทาง Nvidia
(2 ส.ค.67) เอพี รายงานว่า Intel ผู้ผลิตชิปรายใหญ่เบอร์ต้น ๆ ของโลก ที่มีฐานอยู่ในแคลิฟอร์เนีย ออกมาประกาศแผนเลิกจ้างพนักงาน 15% หรือราว 15,000 คน ของพนักงานทั้งหมดทั่วโลก เพื่อแข่งขันกับคู่แข่งอย่าง Nvidia และ AMD หลังบริษัทขาดทุนหนักต่อเนื่อง
ด้าน นายแพทริก พี. เกลซิงเกอร์ ประธานกรรมการบริหารของบริษัท Intel Corp กล่าวกับพนักงานเมื่อวันพฤหัสบดีว่า บริษัทวางแผนที่จะลดเงิน 10,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2568
“พูดอย่างง่าย ๆ ก็คือ ทางบริษัทต้องปรับโครงสร้างต้นทุนของเราให้สอดคล้องกับรูปแบบการดำเนินงานใหม่ และเปลี่ยนแปลงวิธีการดำเนินการของเราโดยพื้นฐาน” เขาเขียนบันทึกที่เผยแพร่ลงบนเว็บไซต์ และว่า “รายได้ของเราไม่ได้เติบโตอย่างที่คาดไว้ และเรายังไม่ได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่จากเทรนด์ที่กำลังอยู่ในกระแสอย่าง AI ซึ่งต้นทุนของเราสูงเกินไป สวนทางกับกำไรที่ได้”
การลดตำแหน่งดังกล่าว เกิดขึ้นหลังจากรายได้ในไตรมาสล่าสุด ขาดทุน 1,600 ล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับกำไร 1,500 ล้านดอลลาร์ ในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
โดย เกลซิงเกอร์ ระบุว่า ในสัปดาห์หน้า อินเทลจะประกาศข้อเสนอเกษียณอายุขั้นสูง สำหรับพนักงานที่มีคุณสมบัติเหมาะสม และเสนอโปรแกรมการสมัครใจลาออก
“การตัดสินใจนี้ ท้าทายฉันถึงแก่นแท้และนี่คือสิ่งที่ยากที่สุดที่เคยทำในอาชีพการงาน” เขากล่าว
ทั้งนี้ คาดว่าการเลิกจ้างจำนวนมาก จะแล้วเสร็จในปีนี้
หุ้นของ Intel ร่วงลง 20 เปอร์เซ็นต์ในการซื้อขายต่อเนื่อง ส่งผลให้ผู้ผลิตชิปรายนี้มีแนวโน้มจะสูญเสียมูลค่ามากกว่า 24,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อตลาดหุ้นเปิดทำการอีกครั้งในวันศุกร์
แม้ว่า Intel จะเคยเป็นผู้นำตลาดชิปที่ใช้ในทุกสิ่งตั้งแต่แล็ปท็อปไปจนถึงศูนย์ข้อมูล แต่ปัจจุบัน Intel กลับต้องดิ้นรนอย่างหนัก เพื่อตามให้ทัน Nvidia บริษัทที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ และ AMD ผู้ผลิตและผู้พัฒนาซีพียู และเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดจากปัญญาประดิษฐ์ (AI)
ทั้งนี้ ในเดือนมิถุนายน Intel ประกาศว่า จะยุติการขยายโครงการ โรงงานขนาดใหญ่ในอิสราเอล โดยระบุว่า การตัดสินใจที่จะทำโครงการขนาดใหญ่จะต้องคำนึงถึง ‘เงื่อนไขทางธุรกิจ พลวัตของตลาด และการจัดการทุนอย่างรับผิดชอบ’
ที่มา : Matichon