Wednesday, 21 May 2025
TheStatesTimes

‘แฟนบอล’ แห่ลงชื่อให้ ‘เยอรมนี-สเปน’ แข่งศึกยูโรใหม่ หลังมองการตัดสินของแมตช์ดังกล่าวไม่ยุติธรรม

(8 ก.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แฟนบอลเกิน 30,000 รายได้ลงชื่อบนเว็บไซต์ 'Change.org' ภายหลังจากเยอรมนีในฐานะเจ้าภาพต้องจบเส้นทางของฟุตบอลยูโร 2024 ไว้ที่รอบ 8 ทีมสุดท้าย หลังพ่ายต่อสเปนในช่วงต่อเวลาพิเศษ 1-2 เมื่อวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา เพื่อให้มีการเตะกันใหม่อีกครั้ง

เนื่องจาก ในเกมดังกล่าวเกิดจังหวะปัญหาขึ้นเมื่อ ‘แอนโธนี เทย์เลอร์’ ผู้ตัดสินชาวอังกฤษ ไม่เป่าให้เยอรมนีได้ลูกโทษในจังหวะที่ลูกยิงของ ‘จามาล มูเซียลา’ ไปโดนมือของ ‘มาร์ก กูกูเรยา’ กองหลังสเปนในกรอบเขตโทษช่วงต่อเวลาพิเศษ ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าลูกนี้เป็นการแฮนด์บอลชัดเจน

ล่าสุดมีแฟนบอลเกิน 30,000 ราย ได้ลงชื่อบนเว็บไซต์ 'Change.org' ในการเรียกร้องให้แมตช์ดังกล่าวกลับมาเตะใหม่กันอีกครั้ง เนื่องจากมองว่าการตัดสินของ ‘แอนโธนี เทย์เลอร์’ นั้นไม่ยุติธรรม

ทั้งนี้ ‘โรแบร์โต โรเซ็ตติ’ หัวหน้าผู้ตัดสินของ ยูฟ่า ระบุถึงจังหวะปัญหาดังกล่าวว่า เขาไม่ต้องการเห็นจุดโทษที่ได้รับจากเหตุการณ์ที่แขนของกองหลังอยู่ใกล้ลำตัว

19 กรกฎาคม พ.ศ. 2492 คู่แท้แห่งแผ่นดิน!! พระราชพิธีหมั้น ‘ในหลวง ร.9 - พระบรมราชชนนีพันปีหลวง' การสืบสานความผูกพันของทั้งสองพระองค์ ที่พสกนิกรชาวไทยล้วนปลื้มปีติ

วันนี้เมื่อ 75 ปีก่อน ถือเป็นวันสำคัญในประวัติศาสตร์ของชาติ โดยเป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช (พระอิสริยยศ ณ ขณะนั้น) ทรงประกอบพระราชพิธีหมั้นกับ หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร (พระอิสริยยศ ณ ขณะนั้น) ณ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

จุดเริ่มต้นของการสืบสานความผูกพันของทั้งสองพระองค์ เกิดขึ้นในช่วงปี พ.ศ. 2491 เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ได้เสด็จจากเมืองโลซาน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มายังกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดยการเสด็จครั้งนั้น มีหม่อมเจ้านักขัตรมงคล กิติยากร ในฐานะเอกอัครราชทูต ให้การเฝ้ารับเสด็จฯ พร้อมด้วยครอบครัว

ทั้งนี้ หนึ่งในสมาชิกของครอบครัวที่ให้การเฝ้ารับเสด็จฯ ในครั้งนั้น มีหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร ซึ่งเป็นบุตรีของหม่อมเจ้านักขัตรมงคล เข้าร่วมเฝ้ารับเสด็จฯ ด้วย จึงเป็นที่มาของการที่ทั้งสองพระองค์ทรงได้พบกันเป็นครั้งแรก

ต่อมา เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2491 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ได้เข้าเฝ้าฯ เยี่ยมพระอาการ และถวายการพยาบาลอย่างใกล้ชิดเป็นประจำ จึงกลายเป็นความรักความเข้าพระราชหฤทัยซึ่งกันและกัน และสืบสานความผูกพันมากขึ้นเป็นลำดับ

ราวเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2492 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ได้มีรับสั่งให้หม่อมเจ้านักขัตรมงคลไปเฝ้าที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ก่อนที่ในวันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2492 พระองค์จะเสด็จไปพบหม่อมเจ้านักขัตรมงคล ที่โรงแรมที่พัก และทรงมีรับสั่งถึงเรื่องการหมั้น

จากนั้นเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2492 จึงได้มีการประกอบพระราชพิธีหมั้นเป็นการภายใน ณ โรงแรมวินด์เซอร์ เมืองโลซาน อันเป็นที่พักของหม่อมเจ้านักขัตรมงคลและครอบครัว โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงสวมพระธำมรงค์เป็นของหมั้นต่อหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ ซึ่งพระธำมรงค์วงนี้ เป็นวงเดียวกับที่สมเด็จพระบรมราชชนกทรงมอบต่อสมเด็จพระบรมราชชนนี ในพระราชพิธีหมั้น เมื่อปี พ.ศ. 2462

ต่อมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ราชเลขานุการประจำพระองค์ ทำหนังสือแจ้งข่าวที่ทรงหมั้นมายังรัฐบาลไทย ซึ่งมี จอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรีในเวลานั้น รัฐบาลได้แจ้งประกาศข่าวอันเป็นมงคลนี้ให้พสกนิกรทราบ ยังความปลื้มปีติยินดีแก่เหล่าประชาชนชาวไทยถ้วนทั่วหน้ากัน

'หนุ่ม กรรชัย' โพสต์สะดุ้ง!! อย่าฉวยโอกาสบนความศรัทธาผู้อื่น ด้าน ‘แม่สามเณรใบบุญ’ รีบแจง!! ไม่ได้เปิดรับบริจาคผ่านการขายสบู่

(8 ก.ค.67) รายงานข่าวระบุว่า ‘หนุ่ม กรรชัย’ พิธีกรชื่อดัง ได้โพสต์เกี่ยวกับประเด็นร้อนที่กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียล กรณีคุณแม่ ‘น้องสามเณรใบบุญ’ เปิดรับบริจาคผ่านการขายสบู่ โดยข้อความระบุว่า… 

"คุณแม่สามเณรบางท่านต้องหยุดกิจกรรมที่ตัวเองทำอยู่นะครับ ผู้มีจิตศรัทธาอยากร่วมบุญควรบริจาคเข้าวัดเลย อย่าฉวยโอกาส อัฐยายซื้อขนมยาย บนความศรัทธาของผู้อื่นครับ"

ล่าสุด มีรายงานว่า แม่น้องใบบุญ ได้ออกมาโพสต์ข้อความเคลื่อนไหวแล้ว โดยโพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงหลังคนมอง ขายสบู่เป็นการรับบริจาค ย้ำสร้างสถานปฏิบัติธรรม ไม่เคยเปิดให้ใครร่วมบุญ บอกตอนนี้หมดกำลังใจเดินต่อ ทั้งนี้ เจ้าตัวได้ระบุข้อความว่า

"ขอแจ้งข่าวFC ทุก ๆ ท่านด้วยความเคารพ”

“แม่นิดขอยุติการขายสบู่ เพราะมีบางเพจและผู้ใหญ่บางท่านกำลังมองว่าแม่นิดขายสบู่เป็นการเปิดรับบริจาค แม่นิดจึงของดการขายเพื่อความสบายใจ และบริสุทธิ์ใจแก่ทุกท่าน แก่ทุกๆเพจ
แม่นิด ขอโทษFCทุก ๆ ท่านนะคะ และแม่นิดขอย้ำว่าการสร้างสถานที่ปฏิบัติธรรมนี้ แม่นิดไม่ได้เปิดรับบริจาคและไม่เปิดให้ทุกท่านร่วมบุญเป็นเด็ดขาดนะคะ เพราะจะทำให้แม่นิดเดือดร้อน ต้องขออภัยและขอโทษผู้ใหญ่ ในการขายสบู่ในครั้งนี้ที่ท่านคิดว่าเป็นการเปิดรับบริจาค
แม่นิดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้ใหญ่ใจดีและเอฟซีทุกท่านจะเข้าใจแม่นิดและความรู้สึกของแม่นิดนะคะ ณ ตอนนี้ แม่นิดรู้สึกเศร้าและหมดกำลังใจที่จะเดินต่อแล้วค่ะทุกท่าน"

‘สาธารณสุข’ ดันหน่วยในเครือ ติดตั้งระบบโซลาร์ทั่วประเทศ ลดปล่อยคาร์บอนฯ 4.3 หมื่นตันต่อปี ประหยัดไฟ 392 ลบ.

(8 ก.ค. 67) นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ภาวะโลกร้อนเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ ทั้งการเจ็บป่วยจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด การเกิดโรคติดต่อ และภัยจากสภาพอากาศที่รุนแรงต่าง ๆ

กระทรวงสาธารณสุขจึงมีนโยบาย Smart Energy and Climate Action (SECA) : พลังงานอัจฉริยะและการดำเนินการที่มุ่งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศเพื่อให้ทุกหน่วยงานในสังกัดใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ป้องกันการสูญเสียพลังงานอย่างไร้ประโยชน์ และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกสู่ชั้นบรรยากาศ โดยการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์

ข้อมูลล่าสุดถึงเดือนเมษายน 2567 หน่วยงานสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ทั้งหมด 1,857 แห่ง ได้ติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แล้ว 1,496 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 82.02 ขนาดกำลังการผลิตรวม 75,806.09 กิโลวัตต์ ช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 43,137.43 tonCo2/ปี สามารถประหยัดค่าไฟฟ้าได้ถึง 392,238,903 บาท/ปี โดยยังมีหน่วยงานที่อยู่ระหว่างการดำเนินการอีก 206 แห่ง 

ทั้งนี้ ภายใต้นโยบาย SECA ยังมีการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ด้วยการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์เพื่อการประหยัดพลังงาน โดยมีเป้าหมายเพื่อลดการใช้พลังงานร้อยละ 20, ส่งเสริมการใช้ยานพาหนะพลังงานไฟฟ้า (EV), การปรับปรุงและก่อสร้างอาคารอนุรักษ์พลังงาน (Energy Building)

การเพิ่มพื้นที่สีเขียวในโรงพยาบาล, การเพิ่มศักยภาพการให้บริการทางการแพทย์ทางไกลเพื่อลดจำนวนผู้ป่วยที่ไปรับบริการแผนกผู้ป่วยนอกของโรงพยาบาล, การเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการมูลฝอย/น้ำเสีย โดยใช้หลัก 3R (Reduce, Reuse, Recycle) และการรณรงค์ส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทน

อย่างไรก็ดี มีงานวิจัยของหลายหน่วยงานคาดการณ์ว่า หากการลดก๊าซเรือนกระจกของทุกประเทศยังไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด อุณหภูมิเฉลี่ยของประเทศไทยอาจจะเพิ่มขึ้นถึง 2-3 องศาเซลเซียสในปลายศตวรรษนี้

ดังนั้น การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดภาวะเรือนกระจกจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนทุกหน่วยงานต้องร่วมมือกันดำเนินการอย่างจริงจังและต่อเนื่อง

‘นครฮาร์บิน’ เปิด ‘สวนสนุกน้ำแข็ง-หิมะในร่ม’ แห่งใหม่ รับนักท่องเที่ยว ด้าน กินเนสส์เวิลด์ฯ ยก!! ให้ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยพื้นที่ 23,800 ตร.ม.

เมื่อวานนี้ (7 ก.ค.67) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นครฮาร์บิน เจ้าของสมญานาม ‘เมืองน้ำแข็ง’ ในมณฑลเฮยหลงเจียงทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ได้เปิด ‘สวนสนุกน้ำแข็งและหิมะในร่ม’ แห่งใหม่ต้อนรับนักท่องเที่ยว เมื่อวันเสาร์ (6 ก.ค.) ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ รายงานระบุว่า สวนสนุกแห่งใหม่นี้ ได้รับการบันทึกสถิติของกินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ด (Guinness World Record) ให้เป็นสวนสนุกน้ำแข็งและหิมะในร่มขนาดใหญ่ที่สุดโลกด้วยพื้นที่ก่อสร้าง 23,800 ตารางเมตร

โดยสวนสนุกแห่งนี้แบ่งพื้นที่เป็น 9 ส่วน ซึ่งจัดแสดงประติมากรรมน้ำแข็งเหมือนจริง พร้อมประดับแสงไฟหลากสีสัน และควบคุมอุณหภูมิให้คงที่เพื่อสามารถรับรองนักท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี

อนึ่ง สวนสนุกแห่งนี้จะเป็นส่วนเสริมของสวนสนุกโลกน้ำแข็ง-หิมะ ฮาร์บิน (Harbin Ice-Snow World) ซึ่งเป็นสวนสนุกน้ำแข็งและหิมะกลางแจ้งตามฤดูกาล ทำให้ฮาร์บินกลายเป็นจุดหมายท่องเที่ยวในทุกฤดู

อย่างไรก็ตาม สวนสนุกโลกน้ำแข็ง-หิมะ ฮาร์บิน ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ 810,000 ตารางเมตร ได้รับรองนักท่องเที่ยวในฤดูหนาวที่ผ่านมาเฉลี่ยกว่า 30,000 คนต่อวัน

‘ท๊อป จิรายุส’ คว้ารางวัล ‘FinTech CEO of the Year 2024’ นับเป็น CEO ไทยหนึ่งเดียวที่ได้รางวัลด้าน ‘FinTech’ มาครอง

(8 ก.ค. 67) นายจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด เปิดเผยว่า “ผมรู้สึกยินดีที่ได้รับเลือกเป็นผู้บริหารบริษัทฟินเทคแห่งปี 2567 นับเป็นรางวัลแห่งความพยายามกว่า 6 ปีของบิทคับ กรุ๊ปและบริษัทในเครือฯ ที่มีเป้าหมายสำคัญในการมุ่งสู่การเป็นโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจดิจิทัลให้กับประเทศไทย

โดยใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีพร้อมกับความเชื่อของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่กล้าที่จะคิดและกล้าที่จะลองทำสิ่งใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้น ทลายกรอบความเชื่อและความคิดที่เป็นไปไม่ได้ให้สามารถเกิดขึ้นจริง

ซึ่งเบื้องหลังของรางวัลนี้ต้องขอมอบให้กับพนักงานทุกคนที่ตั้งใจเดินหน้าไปสู่ความเชื่อเดียวกัน คือ การเป็นสะพานแห่งวงการฟินเทคที่เชื่อมไปสู่โอกาสให้กับคนไทย”

ทั้งนี้ รางวัล ‘CEO of the Year Awards 2024’ เป็นการคัดเลือกผู้บริหารองค์กรแห่งปีที่เป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและสามารถผลักดันองค์กรสู่ความสำเร็จในระดับเอเชียแปซิฟิกได้อย่างโดดเด่น

‘ท๊อป จิรายุส’ เป็นผู้บริหาร 1 ใน 17 รายชื่อที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้และเป็นผู้บริหารคนไทยเพียงคนเดียว โดยได้รับรางวัล FinTech CEO of the Year 2024 สำหรับผู้บริหารที่มีความโดดเด่นในด้านฟินเทค

'สุกฤษฏิ์ชัย-ปชป.' หวั่น!! เพิกถอนพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน ซ้ำเติมโลกเดือด แนะ!! หน่วยงานเกี่ยวข้อง 'ทบทวน-ยกเลิก' กระบวนการทั้งหมดทันที

(8 ก.ค. 67) นายสุกฤษฏิ์ชัย ธีระเริงฤทธิ์ ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้ช่วยผู้อำนวยการมูลนิธิสถาบันราชพฤกษ์ (หน่วยงานดีเด่นแห่งชาติสาขาอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม) กล่าวว่า เป็นที่น่ากังวลและต้องติดตามอย่างใกล้ จากกรณี 'กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช' เปิดรับฟังความเห็นในการเพิกถอนพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน ฝั่ง จ.นครราชสีมา และปราจีนบุรี นั้น

ในบริเวณพื้นที่โดยรอบอันประกอบด้วย อุทยานแห่งชาติทับลานนั้น ยังมีอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่, อุทยานแห่งชาติปางสีดา, อุทยานแห่งชาติตาพระยา เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ รวมกันเป็นกลุ่มป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ และเป็นพื้นที่มรดกโลกทางธรรมชาติ ผลกระทบจากสิ่งที่จะเกิดขึ้นทั้งทางตรงและทางอ้อม อาจจะประเมินค่ามิได้ ทั้งต่อระบบนิเวศ ธรรมชาติ พืชพันธุ์ สัตว์ป่านานาชนิด ตลอดจนประชาชนทุกคน

ฉะนั้น ภารกิจของทางราชการควรปกป้องผืนป่า ขยายพื้นที่สีเขียว อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ เสริมสร้างความตระหนักรู้และหวงแหนสิ่งแวดล้อมไปด้วยกัน

ทั้งนี้ จากรายงานพื้นที่ป่าไม้ของประเทศโดยกรมป่าไม้ พบว่าในปี 2556 มีพื้นที่ป่าร้อยละ 31.57 แต่ในปี 2566 ลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 31.47 สวนทางกับปัญหาภาวะโลกร้อน โลกเดือดที่พวกเรากำลังเผชิญอยู่ จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาและทบทวนต่อกรณีดังกล่าวนี้ หรือยกเลิกกระบวนการทั้งหมดทันที 

ปัจจุบัน ทางมูลนิธิสถาบันราชพฤกษ์ได้มี 'โครงการมวลชนพัฒนาฟื้นผืนป่าแผ่นดินอิสานใต้' ในปี 2559 และโครงการต่อเนื่องอีกหลายกิจกรรมในพื้นที่นี้ด้วย

โรงพยาบาลตำรวจ โดย มูลนิธิโรงพยาบาลตำรวจ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ เชิญชวนชมคอนเสิร์ตการกุศล ลองไทม์ โนคอน "ว่าน ธนกฤต พานิชวิทย์" พร้อมแขกรับเชิญ

พ.ต.อ.หญิง ศิริกุล ศรีสง่า โฆษกโรงพยาบาลตำรวจ เผย โรงพยาบาลตำรวจ โดย มูลนิธิโรงพยาบาลตำรวจ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ เชิญชวนชมคอนเสิร์ตการกุศล ลองไทม์ โนคอน "ว่าน ธนกฤต พานิชวิทย์" พร้อมแขกรับเชิญ อาทิ เฉลียง, No one Else, ป๊อบ ปองกูล, โอ๊ด ปราโมทย์  ในวันเสาร์ ที่ 13 กรฎาคม 2567 เวลา 13.30 (ประตูเปิดเวลา 12.30 น.) ณ Bhiraj Hall at BITEC  เพื่อสมทบทุน "โครงการปรับปรุงห้องตรวจรักษาผู้ป่วยจิตเวชและยาเสพติดโรงพยาบาลตำรวจ" 

โรงพยาบาลตำรวจขอประชาสัมพันธ์ภาพยนตร์สั้น สถานการณ์จำลองจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ผู้แสดงเป็นบุคลากรทางการแพทย์ โรงพยาบาลตำรวจ อำนวยการผลิต โดย พ.ต.อ.หญิง ศิริกุล ศรีสง่า โฆษกโรงพยาบาลตำรวจ และทีมงานโฆษกโรงพยาบาลตำรวจ

ศูนย์ประชาสัมพันธ์ สื่อสารองค์กร และโฆษกโรงพยาบาลตำรวจ ขออนุญาตเผยแพร่ภาพและข่าวประชาสัมพันธ์ที่มีภาพบุคคลในกิจกรรมดังกล่าว

"ศูนย์กลางข่าวสาร ประสานฉับไว ใส่ใจบริการ เพื่อตำรวจและประชาชน"

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 
FB : โรงพยาบาลตำรวจ Police General Hospital หรือ โทร 02-2076000 ต่อ 6850 ศูนย์ประชาสัมพันธ์ โรงพยาบาลตำรวจ

#ว่านธนกฤตLongTimeNoCon
#ลองไทม์โนคอน
#LongTimeNoCon 
#wan_soloist
#เฉลียง #NoOneElseBand 
#PopPongkool 
#โอ๊ตปราโมทย์
#โรงพยาบาลตำรวจ
#ศูนย์ประชาสัมพันธ์สื่อสารองค์กรและโฆษกโรงพยาบาลตำรวจ
#SPICYDISC #SPICYEVENT

มูลนิธิต้านโกง” ชู “ดร.เอก์” บุคคลดีเด่นด้านต่อต้านการทุจริต “วิชา”ตอกย้ำ“กรีนคอร์รัปชั่น”มหันตภัยร้ายทำลายโลก ห่วงระบบยุติธรรมถูกทำลาย เปิดช่องกินบ้านกินเมือง

ที่ห้องประชุมใหญ่ อาคารอเนกประสงค์ สถาบันป้องกันราชอาณาจักร (สปท.) ถนนวิภาวดีฯ เมื่อวันที่ 8 ก.ค.67  มูลนิธิต่อต้านการทุจริต ได้จัดพิธีทำบุญเนื่องในวันครบรอบ 9 ปี การจัดตั้งมูลนิธิต่อต้านการทุจริต และมอบรางวัลองค์กรและบุคคลดีเด่นด้านการต่อต้านการทุจริต ประจำปี 2567 (Anti–Corruption Awards 2024) โดยมี ศาสตราจารย์พิเศษ วิชา มหาคุณ ประธานกรรมการมูลนิธิต่อต้านการทุจริต เป็นประธานในพิธี

โดย ศาสตราจารย์พิเศษ วิชา กล่าวแสดงความยินดีกับองค์กรและบุคคลที่ได้รับรางวัลฯ ว่า หน่วยงานองค์กร และบุคคลที่ได้รับรางวัลเป็นผู้ที่มีคุณูปการต่อประเทศเป็นอย่างมาก ซึ่งที่ผ่านมาต้องทำงานด้วยความอดทน ยากลำบาก โดยไม่ได้มุ่งหวังสิ่งตอบแทน รางวัลที่ได้รับจึงเป็นภาระหน้าที่ที่จะต้องร่วมกันขับเคลื่อนสร้างความโปร่งใสให้กับบ้านเมืองปราศจากการทุจริตคอร์รัปชั่น

สถานการณ์คอร์รัปชั่นที่น่าหวาดกลัวและเป็นภัยคุกคามต่อชาวโลก ไม่ได้จำกัดอยู่ที่ประเทศหนึ่งประเทศใดนั้น คือการทุจริตได้ทำลายสิ่งแวดล้อม (กรีนคอร์รัปชั่น) ซึ่งเป็นปัญหาที่ร้ายแรงที่สุดในโลก การตัดไม้ทำลายป่าทรัพยากรธรรมชาติ ทำให้โลกวิปริตไปหมด ทั้งยุโรป อเมริกา มีแนวโน้มภัยพิบัติที่รุนแรง ส่งผลกระทบต่อชีวิตการดำรงชีวิตของมนุษย์ เกิดโรคอุบัติใหม่ ซึ่งประเทศไทย จังหวัดเชียงใหม่ประชาชนเดือดร้อนจากปัญหาฝุ่น PM2.5 เป็นอันดับหนึ่งของโลกไปแล้ว  ฉะนั้นต้องเร่งปลูกฝังให้เยาวชนทุกคนตระหนักรู้รักษาผลประโยชน์ของประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

ศาสตราจารย์พิเศษ วิชา ยังแสดงความห่วงใยต่อการทำลายระบบยุติธรรม ว่า การทุจริตนั้นบั่นทอนความเจริญของเศรษฐกิจ ทำให้ไม่สามารถไปช่วยเหลือคนยากจนที่ด้อยโอกาสได้  โครงการช่วยเหลือสังคม  ช่วยเหลือคนด้อยโอกาส ถูกนักการเมืองทุจริตแกร่งแย่งช่วงชิงผลประโยชน์ไปอย่างน่าเศร้าสลดใจ ทั้งนี้องค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International)  ได้เรียกร้องให้ไทยยุติทำลายระบบยุติธรรม และเห็นว่าการทำลายระบบยุติธรรมเป็นพวกตะกละตะกลาม (greedily) เป็นพวกกินบ้านกินเมือง

ทั้งนี้ การเปิดเผยข้อมูลเพื่อความโปร่งใสมีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนที่ต้องต่อสู้กับกระบวนการทุจริตที่เผชิญกับการถูกฟ้องปิดปาก (SLAPP)  ดังนั้นจึงต้องเร่งผลักดันให้มีการแก้กฎหมาย เพื่อป้องกันการฟ้องปิดปากสื่อมวลชน ตลอดจนภาคประชาชนโดยเร็ววัน

“มูลนิธิต่อต้านการทจริตได้ขับเคลื่อนกิจกรรมต่อต้านทุจริตและปลูกฝังหลักธรรมาภิบาลมาเป็นเวลา 9 ปีเข้าสู่ปีที่ 10 แล้ว ขอเรียกร้องให้องค์กรและบุคคลที่ได้รับรางวัลอย่าท้อถอย เราต้องร่วมกันยืนหยัดต่อสู้กับปัญหาคอร์รัปชั่นให้หมดสิ้นไป เร่งเพาะบ่มปลูกฝังเด็กเยาวชนให้เห็นถึงภัยอันตรายการคอร์รัปชั่น ให้เขาเหล่านั้นเป็นอนาคตของบ้านเมืองที่เข้มแข็งสืบไป” ศาสตราจารย์พิเศษ วิชา กล่าวทิ้งท้าย ด้าน ดร.เอก์ เหลืองสอาด นายกสมาคมผู้สื่อข่าวต้านคอร์รัปชั่น(ประเทศไทย) และประธานสภาธรรมาภิบาลสื่อมวลชนแห่งชาติ เปิดเผยว่า รู้สึกยินดีและภูมิใจที่มูลนิธิต่อต้านการทุจริตได้มอบรางวัลอันทรงคุณค่า “บุคคลดีเด่นด้านการต่อต้านการทุจริต” เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการทำหน้าที่สื่อที่ดี พร้อมสานต่อเจตนารมณ์ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ในการสร้างความสุจริตให้เกิดขึ้นในสังคมไทย โดยจะร่วมมือกับองค์กรพันธมิตรและรัฐบาลในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติต่อต้านการทุจริตทุกรูปแบบ แม้ว่าจะต้องฝ่าฟันอุปสรรคนานัปการก็จะไม่ย่อท้อต่อสู้กับขบวนการมิชอบอย่างไม่หยุดยั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจาก ดร.เอก์ เหลืองสอาด นายกสมาคมผู้สื่อข่าวต้านคอร์รัปชั่น(ประเทศไทย) และประธานสภาธรรมาภิบาลสื่อมวลชนแห่งชาติ ได้รับรางวัลบุคคลดีเด่นด้านการต่อต้านการทุจริตแล้ว ยังมีบุคคลสำคัญได้รับรางวัลอีก 2 ท่าน ได้แก่ ดร.มานะ นิมิตรมงคลม เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน และนายสุทธิรักษ์ ยังยิ้ม หัวหน้ากองประจำการรถไฟฯ สำนักงานอาณาบาล การรถไฟแห่งประเทศไทย ส่วนรางวัลองค์กรดีเด่นด้านการต่อต้านการทุจริตมี 3 องค์กร ได้แก่ ภาคีเครือข่ายธรรมาภิบาลแห่งชาติ ,บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุภาพ(สสส.)

‘ดาวติ๊กต็อก’ โดนถล่มยับ!! ถ่ายคอนเทนต์เยาวราชตอนไฟไหม้ ไม่สนแม้ข้างหลังควันสีดำพวยพุ่ง - รถฉุกเฉินจอดจำนวนมาก

(9 ก.ค.67) จากกรณีเหตุการณ์ไฟไหม้ชุมชนตรอกโพธิ์ เยาวราชที่ผ่านมานั้น มีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 66 หลังคาเรือน ลุกลามโรงแรม-ร้านอาหาร และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 5 ราย

โดยในโลกออนไลน์ มีการแชร์คลิปของดาวติ๊กต็อก ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 1.4 ล้านคน ไปถ่ายคอนเทนต์ตามรอยลิซ่า ในขณะที่ด้านหลังกำลังมีเหตุไฟไหม้ ควันสีดำพวยพุ่งเต็มท้องฟ้า มีรถกู้ภัย และรถพยาบาล เปิดสัญญาณไฟ และมีจังหวะหนึ่งในคลิปจะเห็นรถ จยย.ของเจ้าหน้าที่ ต้องขี่หลบดาวติ๊กต็อก ที่กำลังเดินขวางทางอยู่

จากคลิปหญิงสาวได้ถ่ายคลิปขณะที่ด้านหลังมีฉากเป็นไฟไหม้เยาวราช มีรถฉุกเฉินจอดอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งเหมือนว่าขณะนั้นมีการปิดการจราจรจนสามารถไปยืนถ่ายกลางถนนได้ในบางช่วง โดยจะเห็นว่าตอนนั้นมีนักท่องเที่ยวและผู้คนเหลืออยู่เพียงบางตา เพราะจุดดังกล่าวใกล้กับเหตุไฟไหม้และมีควันลอยเป็นจำนวนมาก โดยก่อนคลิปนี้ หญิงรายดังกล่าวได้ลงคลิปเล่าว่า "คนบาปมาถ่ายรูปค่ะ เยาวราชไฟไหม้ (หัวเราะ) นี่คือไซด์เอฟเฟกต์อย่างแท้จริง"

หลังจากคลิปนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ปรากฏว่ามีชาวเน็ตจำนวนไม่น้อยวิจารณ์ว่าเป็นคอนเทนต์ที่ดูจะไม่เหมาะสม เพราะกลายเป็นเหมือนว่า ทั้งที่เกิดเหตุแบบนี้ แต่ยังกลับเลือกจะถ่ายในเชิงมีความสุข เป็นการทำคอนเทนต์บนความทุกข์ของคนอื่นหรือไม่

ต่อมา เจ้าของช่อง TikTok ดังกล่าว อัดคลิปชี้แจง ระบุว่า "หนูจะขอน้อมรับคำติชมและคำแนะนำมาปรับปรุงตัวเองต่อไป ขอโทษจากใจจริง ๆ ค่ะ" โดยกล่าวว่า หนูอยากขอโทษกับการกระทำของหนูกับคอนเทนต์ที่ไม่เหมาะสมเลย ทำให้โซเชียลอาจไม่พอใจกับการกระทำของหนูกับเรื่องที่เกิดขึ้น ยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาที่ไม่ดี ขอโทษจากใจ และจะนำไปเป็นบทเรียนที่สำคัญที่สุดในชีวิต ขอน้อมรับคำติชม และส่งกำลังใจให้ผู้เสียหาย รวมทั้งชื่นชมเจ้าหน้าที่ทุกคน โดยจากนี้จะคิดไตร่ตรองก่อนจะลงเนื้อหา ตัวหนูเองอยากจะขอโทษมากๆ ในการกระทำครั้งนี้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top