Tuesday, 6 May 2025
TheStatesTimes

สำนักงานตำรวจแห่งชาติให้การต้อนรับและแสดงความขอบคุณคณะตำรวจอินโดนีเซียที่เดินทางร่วมในภารกิจควบคุมตัว “แป้ง นาโหนด” กลับมาดำเนินคดียังประเทศไทย

วันนี้ (6 มิถุนายน 2567) เวลา 14.00 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.รรท.ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร.รรท.รอง ผบ.ตร. , พล.ต.ต.วรวัฒน์ อมรวิวัฒน์ รอง ผบช.ส. , พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย รอง ผบช.ก. , พล.ต.ต.ธนิต ไทยวัชรามาศ รอง ผบช.สตม. และ พ.ต.อ.ณัฏฐ์ สุวรรณวัฒนะ รอง ผบก.ตท. ให้การต้อนรับคณะเจ้าหน้าที่ตำรวจอินโดนีเซียจำนวน 10 นาย ที่เดินทางด้วยเครื่องบินเช่าเหมาลำจากประเทศอินโดนีเซีย ในภารกิจควบคุมตัวนายเชาวลิต ทองด้วง หรือ แป้ง นาโหนด กลับมาดำเนินคดียังประเทศไทย นำโดย พ.ต.อ.(พิเศษ) ออดี้ ซนนี ลาตูเฮรู หัวหน้าแผนกอาชญากรรมระหว่างประเทศ ตำรวจสากลอินโดนีเซีย ณ ห้องพรหมนอก อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ทั้งนี้ ตำรวจอินโดนีเซียได้เยี่ยมคารวะ พูดคุยกระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือของตำรวจสองประเทศ จากนั้น รอง ผบ.ตร.รรท.ผบ.ตร. ได้มอบใบประกาศเกียรติคุณความร่วมมือในการคุมตัวนายเชาวลิตฯ ให้กับคณะเจ้าหน้าที่ตำรวจอินโดนีเซียด้วย

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐฯ กล่าวว่า ในนามของสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีความยินดีอย่างยิ่งที่จะแสดงความขอบคุณอย่างสูง ต่อความร่วมมืออันยอดเยี่ยมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติอินโดนีเซีย ที่ได้มอบให้แก่สำนักงานตำรวจแห่งชาติของไทยในคดีส่งตัวนายเชาวลิต ทองด้วง ผู้ร้ายข้ามแดนชาวไทยที่หลบหนีคดีอาญาที่ร้ายแรงในประเทศไทย คดีนี้มีความท้าทายเป็นพิเศษ จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือที่แข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพของทั้งสองประเทศ  ความสำเร็จของการปฏิบัติการครั้งนี้ เป็นหลักฐานแสดงถึงความทุ่มเทอย่างไม่ลดละ และการสื่อสารที่ต่อเนื่องระหว่างหน่วยงานของทั้งสองประเทศ โดยต้องอาศัยความร่วมมือที่ซับซ้อนและความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับระบบกฎหมายของแต่ละประเทศ การส่งมอบตัวผู้ต้องหากลับไทยจนประสบความสำเร็จในครั้งนี้ เสริมสร้างความมุ่งมั่นของสำนักงานตำรวจแห่งชาติของทั้งสองประเทศ ในความร่วมมือเพื่อรักษาหลักนิติธรรม และร่วมกันป้องกันปราบปรามอาชญากรรมระหว่างประเทศต่อไปในอนาคต

‘บริษัทจีน’ ทดสอบ ‘โดรนขนส่ง’ บนภูเขาโชโมลังมาสำเร็จ หนุนการปีนเขา-กู้ภัยฉุกเฉิน-คุ้มครองสิ่งแวดล้อม

เมื่อวานนี้ (5 มิ.ย. 67) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดีเจไอ ผู้ผลิตโดรนชั้นนำของจีน ประกาศความสำเร็จของการทดสอบ ‘โดรนขนส่ง’ บนภูเขาโชโมลังมาจากฝั่งเนปาลเป็นครั้งแรกของโลก ซึ่งปูทางสู่การเกื้อหนุนการปีนเขา การกู้ภัยฉุกเฉิน และการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมบนพื้นที่สูง

ทั้งนี้ การทดสอบดังกล่าวใช้โดรนดีเจไอ รุ่นฟายคาร์ท 30 (FlyCart 30) ขนส่งออกซิเจนกระป๋อง 3 กระป๋อง และสิ่งของอื่น ๆ น้ำหนัก 1.5 กิโลกรัม จากเบสแคมป์ (สูงเหนือระดับน้ำทะเล 5,364 เมตร) ไปยังแคมป์ 1 (สูงเหนือระดับน้ำทะเลราว 6,000 เมตร) ส่วนขากลับขนส่งขยะ

โดยรายงานระบุว่า พื้นที่ระหว่างเบสแคมป์และแคมป์ 1 มีธารน้ำแข็งคุมบู ซึ่งเต็มไปด้วยก้อนน้ำแข็งและอันตรายจากหิมะถล่มบ่อยครั้ง โดย ‘มิงมา กยัลเจ เชอร์ปา’ ไกด์ปีนเขาท้องถิ่น เผยว่ามีชาวเชอร์ปาสังเวยชีวิตในปีก่อน 3 ราย และการเดินทางข้ามธารน้ำแข็งนี้ต้องใช้เวลา 6-8 ชั่วโมงต่อวัน

โดรนดีเจไอสามารถขนส่งสิ่งของน้ำหนัก 15 กิโลกรัม ไปกลับระหว่างเบสแคมป์และแคมป์ 1 ด้วยระยะเวลา 12 นาที ทั้งกลางวันและกลางคืน โดยการทดสอบเมื่อเดือนเมษายน โดรนรุ่นฟายคาร์ท 30 บินสูงถึง 6,191.8 เมตร และสามารถขนส่งสิ่งของอย่างมั่นคง ณ ความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 6,000 เมตร

คริสตินา จาง ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายกลยุทธ์องค์กรของดีเจไอ กล่าวว่า ความสามารถขนส่งอุปกรณ์ เสบียง และขยะอย่างปลอดภัยด้วยโดรน มีศักยภาพปฏิวัติโลจิสติกส์ของการปีนเขาโชโมลังมา เกื้อหนุนการเก็บขยะและเพิ่มความปลอดภัยแก่ทุกฝ่าย

ดีเจไอได้ทำสัญญากับบริษัทโดรนของเนปาล หลังจากเสร็จสิ้นการทดสอบข้างต้น เพื่อจัดตั้งปฏิบัติการโดรนขนส่งบนภูเขาโชโมลังมา ตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค. โดยจากัต ปราสาด พูซัล ซีอีโอของเทศบาลชนบทคุมบู ปาซัง ลามู ของเนปาล เผยว่ามีการใช้โดรนดีเจไอขนส่งขยะอย่างเชือกและบันไดรวม 30 กิโลกรัม เมื่อวันที่ 29 พ.ค.

พูซัลเสริมว่ามีแผนใช้โดรนดีเจไอที่ภูเขาอามาดาบลัมในฤดูปีนเขาช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้ด้วย โดยภูเขาอามาดาบลัม ความสูง 6,812 เมตร ตั้งอยู่แถบเทือกเขาหิมาลัยทางตะวันออกของเนปาล

งานเข้าสังคมชนเผ่าในป่าอเมซอน  หลังอินเทอร์เน็ตเข้าถึง แม้สื่อสารสะดวกขึ้น แต่พฤติกรรม 'ติดจอ-ลามก' เริ่มลุกลาม

(6 มิ.ย.67) สถานีโทรทัศน์ NDTV ของอินเดีย รายงานข่าว Starlink Brings Internet To Remote Tribe. They Get Hooked To Porn ระบุว่า กลุ่มชาติพันธุ์ที่อาศัยในพื้นที่ป่าอเมซอน กำลังประสบกับสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้า-คายไม่ออก เมื่อเทคโนโลยี ‘สตาร์ลิงก์ (Starlink)’ ระบบอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมที่ได้รับมอบจาก อีลอน มัสก์ (Elon Musk) มหาเศรษฐีนักลงทุนด้านเทคโนโลยี แม้จะทำให้พวกเขาสะดวกสบายด้านการติดต่อสื่อสารมากขึ้น แต่ก็ทำให้มีพฤติกรรมที่ไม่ดีเกิดขึ้นด้วย

ชนเผ่า ‘มารุโบ (Marubo)’ ในบราซิล ซึ่งมีสมาชิกประมาณ 2,000 คน ได้รับมอบระบบสตาร์ลิงก์ เมื่อเดือน ก.ย. 2566 ซึ่งผู้อาวุโสของเผ่า ไซนามะ มารุโบ (Tsainama Marubo) หญิงชราวัย 73 ปี เล่าว่า ด้านหนึ่งอินเทอร์เน็ตทำให้คนในเผ่าสามารถพูดคุยกับคนรักที่อยู่ห่างไกล และขอความช่วยเหลือหากเกิดเหตุฉุกเฉินได้ แต่อีกด้านหนึ่ง ดูเหมือนมันจะทำให้คนหนุ่ม-สาว มีนิสัยเกียจคร้าน รวมถึงทำให้เด็กและเยาวชนเสพติดการพูดคุยและใช้ชีวิตกับหน้าจอ ไปจนถึงการรับข้อมูลสื่อลามกอนาจารและข้อมูลที่ผิดต่างๆ อย่างไรก็ตาม ตนก็ไม่เห็นด้วยหากจะรื้อถอนระบบออกไป

อัลเฟรโด มารุโบ (Alfredo Marubo) หัวหน้าสมาคมชุมชนหมู่บ้านมารุโบ กล่าวว่า ตนไม่สบายใจกับเรื่องสื่อลามกอนาจารมากที่สุด มีการแชร์คลิปเนื้อหาด้านเพศกันในกลุ่มแชทของบรรดาชายหนุ่ม และผู้นำชุมชนบางคนบอกกับตนว่า พวกเขาสังเกตเห็นหนุ่มๆ ในเผ่า มีพฤติกรรมทางเพศที่ดูก้าวร้าวขึ้น ทั้งนี้ เสาอากาศรับสัญญาณอินเทอร์เน็ตระบบสตาร์ลิงก์ ได้รับบริจาคจาก อัลลิสัน เรโน (Allyson Reneau) นักธุรกิจชาวอเมริกัน

สมาชิกรายหนึ่งในเผ่า กล่าวถึงประโยชน์ของอินเทอร์เน็ต ว่า ในอดีตการถูกงูพิษกัด ถือเป็นความเสี่ยงอย่างสูงที่คนในเผ่าอาจเสียชีวิตได้ ในอดีตการขอความช่วยเหลือต้องใช้วิทยุสื่อสาร ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่รีบนำเฮลิคอปเตอร์มารับ แต่อินเทอร์เน็ตทำให้ทุกอย่างรวดเร็วขึ้น จึงเพิ่มโอกาสการรอดชีวิตได้มากขึ้น ขณะที่สมาชิกอีกราย กล่าวว่า อินเทอร์เน็ตสามารถให้อิสระแก่ปัจเจกบุคคลได้ ด้วยสิ่งนี้ พวกเขาสามารถสื่อสารได้ดีขึ้น ในการให้ข้อมูลและบอกเล่าเรื่องราวของตนเอง

นักพัฒนา AI ของ OpenAI และ Google DeepMind ออกโรงเตือน ความเสี่ยงร้ายแรงจากเทคโนโลยีเหล่านี้ อาจทำ 'มนุษย์สูญพันธุ์'

เมื่อวันที่ (4 มิ.ย.67) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กลุ่มอดีตและพนักงานปัจจุบันของบริษัท AI ชั้นนำอย่าง OpenAI และ Google DeepMind ได้ออกจดหมายเตือนถึงอันตรายของปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ขั้นสูง อาจนำไปสู่การสูญพันธุ์ของมนุษยชาติพนักงาน 13 คน ซึ่ง 11 คนเป็นอดีตหรือพนักงานปัจจุบันของ OpenAI บริษัทผู้สร้าง ChatGPT ได้ลงนามในจดหมายชื่อว่า 'สิทธิในการเตือนเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ขั้นสูง' (A Right to Warn about Advanced Artificial Intelligence) ส่วนอีก 2 คนเป็นอดีตและพนักงานปัจจุบันของ Google DeepMind โดยมี 6 คนไม่เปิดเผยตัวตน

รายละเอียดของจดหมายเตือนฉบับดังกล่าวระบุว่า เราเป็นทั้งพนักงานปัจจุบันและอดีตพนักงานของบริษัท AI ชั้นนำ และเราเชื่อมั่นในศักยภาพของเทคโนโลยี AI ที่จะมอบประโยชน์ที่ไม่เคยมีมาก่อนให้แก่มนุษยชาติ

อย่างไรก็ตาม เราก็ตระหนักถึงความเสี่ยงร้ายแรงที่เกิดจากเทคโนโลยีเหล่านี้ ความเสี่ยงเหล่านี้มีตั้งแต่การซ้ำเติมความไม่เท่าเทียมที่มีอยู่เดิม การบิดเบือนข้อมูลและข่าวสาร ไปจนถึงการสูญเสียการควบคุมระบบ AI อิสระ ซึ่งอาจนำไปสู่การสูญพันธุ์ของมนุษย์ บริษัท AI เองก็ได้ยอมรับถึงความเสี่ยงเหล่านี้ เช่นเดียวกับรัฐบาลทั่วโลก และผู้เชี่ยวชาญด้าน AI อื่น ๆ

เราหวังว่าความเสี่ยงเหล่านี้จะสามารถบรรเทาได้อย่างเหมาะสมด้วยคำแนะนำที่เพียงพอจากชุมชนวิทยาศาสตร์ ผู้กำหนดนโยบาย และประชาชน อย่างไรก็ตาม บริษัท AI มีแรงจูงใจทางการเงินที่แข็งแกร่งที่จะหลีกเลี่ยงการกำกับดูแลที่มีประสิทธิภาพ และเราไม่เชื่อว่าโครงสร้างการกำกับดูแลกิจการขององค์กรเพียงอย่างเดียวจะเพียงพอที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งนี้ได้

บริษัท AI มีข้อมูลที่ไม่เปิดเผยต่อสาธารณะจำนวนมากเกี่ยวกับความสามารถและข้อจำกัดของระบบ มาตรการป้องกันที่เพียงพอ และระดับความเสี่ยงของอันตรายประเภทต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันพวกเขามีภาระผูกพันเพียงเล็กน้อยที่จะแบ่งปันข้อมูลบางส่วนนี้กับรัฐบาล และไม่มีเลยกับภาคประชาสังคม เราไม่คิดว่าพวกเขาจะสามารถพึ่งพาให้แบ่งปันข้อมูลเหล่านี้โดยสมัครใจได้

ตราบใดที่ยังไม่มีการกำกับดูแลที่มีประสิทธิภาพของรัฐบาลต่อบริษัทเหล่านี้ พนักงานปัจจุบันและอดีตพนักงานจึงเป็นหนึ่งในคนไม่กี่คนที่สามารถทำให้พวกเขารับผิดชอบต่อสาธารณชนได้ แต่ข้อตกลงการรักษาความลับที่กว้างขวางขัดขวางไม่ให้เราแสดงความกังวล ยกเว้นกับบริษัทที่อาจล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ การคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแสทั่วไปไม่เพียงพอ เพราะมุ่งเน้นไปที่กิจกรรมที่ผิดกฎหมาย ในขณะที่ความเสี่ยงหลายประการที่เราเกี่ยวข้องยังไม่ได้รับการควบคุม บางคนกลัวการตอบโต้ในรูปแบบต่าง ๆ อย่างสมเหตุสมผล เนื่องจากประวัติของคดีดังกล่าวในอุตสาหกรรม เราไม่ใช่คนแรกที่พบหรือพูดถึงปัญหาเหล่านี้
 
ดังนั้น เราจึงขอเรียกร้องให้บริษัท AI ขั้นสูงให้คำมั่นสัญญากับหลักการเหล่านี้

1. บริษัทจะไม่เข้าร่วมหรือบังคับใช้ข้อตกลงใด ๆ ที่ห้าม 'การดูหมิ่น' หรือวิพากษ์วิจารณ์บริษัทสำหรับข้อกังวลที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยง หรือตอบโต้การวิพากษ์วิจารณ์ที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงโดยขัดขวางผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจใด ๆ

2. บริษัทจะอำนวยความสะดวกในกระบวนการที่ไม่เปิดเผยตัวตนที่สามารถตรวจสอบได้สำหรับพนักงานปัจจุบันและอดีตพนักงาน เพื่อแจ้งข้อกังวลที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงต่อคณะกรรมการของบริษัท ต่อหน่วยงานกำกับดูแล และต่อองค์กรอิสระที่เหมาะสมที่มีความเชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้อง

3. บริษัทจะสนับสนุนวัฒนธรรมของการวิจารณ์อย่างเปิดเผย และอนุญาตให้พนักงานปัจจุบันและอดีตพนักงานแสดงความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงเกี่ยวกับเทคโนโลยีของบริษัทต่อสาธารณะ ต่อคณะกรรมการของบริษัท ต่อหน่วยงานกำกับดูแล หรือต่อองค์กรอิสระที่เหมาะสมที่มีความเชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้อง ตราบใดที่ความลับทางการค้าและทรัพย์สินทางปัญญาอื่น ๆ ได้รับการคุ้มครองอย่างเหมาะสม

4. บริษัทจะไม่ตอบโต้พนักงานปัจจุบันและอดีตพนักงานที่เปิดเผยข้อมูลลับที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงต่อสาธารณะหลังจากกระบวนการอื่นล้มเหลว เรายอมรับว่าความพยายามใด ๆ ในการรายงานข้อกังวลที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงควรหลีกเลี่ยงการเปิดเผยข้อมูลลับโดยไม่จำเป็น ดังนั้น เมื่อมีกระบวนการที่เพียงพอสำหรับการแจ้งข้อกังวลต่อคณะกรรมการของบริษัท ต่อหน่วยงานกำกับดูแล และต่อองค์กรอิสระที่เหมาะสมที่มีความเชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องแล้ว เรายอมรับว่าควรแจ้งข้อกังวลผ่านกระบวนการดังกล่าวก่อน อย่างไรก็ตาม ตราบใดที่ยังไม่มีกระบวนการดังกล่าว พนักงานปัจจุบันและอดีตพนักงานควรคงไว้ซึ่งเสรีภาพในการรายงานข้อกังวลของตนต่อสาธารณะ

‘นายกฯ เทศมนตรี’ เม็กซิโก โดนยิงดับ หลังได้ ปธน.ใหม่ไม่นาน ตอกย้ำ!! แม้เลือกตั้งจบ แต่ความมั่นคงของประเทศยังไม่เริ่ม

(6 มิ.ย. 67) เอเอฟพี รายงานว่า นายกเทศมนตรี ของเมืองทางตะวันตกของเม็กซิโก ถูกสังหารเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาเพียงไม่ถึง 24 ชั่วโมง หลังจากที่ ‘คลอเดีย เชนบัม’ ได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของเม็กซิโก 

ทั้งนี้ ด้านกระทรวงมหาดไทย ได้โพสต์ลงเอ็กซ์ว่า รัฐบาลของรัฐมิโชกัน ประณามการฆาตกรรมนายกเทศมนตรีของโกติจา ‘โยลันดา ซานเชซ ฟิเกโร’

การฆาตกรรมนายกเทศมนตรีหญิงรายนี้ เกิดขึ้นหลังจากชัยชนะอย่างถล่มทลายของ คลอเดีย เชนบัม ที่ทำให้เกิดความหวังในการเปลี่ยนแปลงในประเทศ ที่เต็มไปด้วยความรุนแรงทางเพศ

ด้าน ซานเชซ ได้รับเลือกเป็นนายกเทศมนตรี ในการเลือกตั้งปี 2564 ถูกยิงเสียชีวิตบนถนนสาธารณะ ตามการรายงานของสื่อท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับการฆาตกรรมครั้งนี้ แต่กล่าวว่าได้เริ่มดำเนินการรักษาความปลอดภัย เพื่อจับกุมฆาตกรแล้ว

ก่อนหน้านี้ นักการเมืองรายนี้ ถูกลักพาตัวเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว ขณะออกจากห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ในเมืองกวาดาลาฮารา ในรัฐฮาลิสโก ซึ่งติดกับมิโชกัน 3 วันต่อมา รัฐบาลกลาง ได้ออกมาระบุว่า ได้พบเธอยังมีชีวิตอยู่

ตามการรายงานของสื่อท้องถิ่น ผู้ลักพาตัวเป็นกลุ่ม Jalisco Cartel - New Generation (CJNG) ซึ่งถูกกล่าวหาว่าข่มขู่นายกเทศมนตรี ที่ต่อต้านกลุ่มอาชญากร ที่ยึดอำนาจตำรวจในเขตเทศบาลของเธอ

อย่างไรก็ตาม มิโชกัน มีชื่อเสียงในด้านสถานที่ท่องเที่ยว และอุตสาหกรรมส่งออกด้านเกษตรกรรมที่เจริญรุ่งเรือง แต่ยังเป็นรัฐที่มีความรุนแรงที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศ เนื่องจากมีแก๊งขู่กรรโชก และค้ายาเสพติด

นอกจากนี้ ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า อัตราการฆาตกรรมของเม็กซิโก อยู่ในกลุ่มที่สูงที่สุดในโลก และยังคงเป็นสถานที่อันตรายสำหรับผู้หญิง โดยตัวเลขแสดงให้เห็นว่ามี ผู้หญิงประมาณ 10 คน ถูกฆาตกรรมทุกวัน มีผู้สูญหายมากกว่า 100,000 คนในประเทศ โดยไม่มีคำอธิบายถึงชะตากรรมของพวกเขา

จากข้อมูลของหน่วยงาน Think Tank ‘Mexico Evalua’ ระบุว่า ประมาณ 95% ของอาชญากรรมทั้งหมดทั่วประเทศยังไม่ได้รับการแก้ไขในประเทศในปี 2022

ทั้งนี้ คลอเดีย เชนบัม นักวิทยาศาสตร์ด้านสภาพอากาศ และอดีตนายกเทศมนตรีเมืองเม็กซิโกซิตี้ แคนดิเดตประธานาธิบดีเม็กซิโกจากพรรคโมเรนา (Morena) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายซ้าย คว้าชัยถล่มทลายในการเลือกตั้ง โดยก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของประเทศเม็กซิโก ต่อจากผู้นำคนปัจจุบัน ‘อันเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์’

นอกจากเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของเม็กซิโกแล้ว ยังเป็นผู้หญิงคนแรกที่ชนะการเลือกตั้งทั่วไปในสหรัฐอเมริกา เม็กซิโก และแคนาดา หรือทวีปอเมริกาเหนือ

เธอให้คำมั่นว่าจะปรับปรุงความมั่นคง แต่ให้รายละเอียดเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และการเลือกตั้งครั้งนี้ ซึ่งเป็นการเลือกตั้งที่มีความรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของเม็กซิโก มีผู้สมัครถูกสังหาร 38 ราย ได้ตอกย้ำปัญหาความมั่นคงครั้งใหญ่ของประเทศ จนถึงวันเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 มิถุนายนที่ผ่านมา ก็ยังมีการสังหารคน 2 คนที่หน่วยเลือกตั้งในรัฐปวยบลาด้วย

‘จิราพร‘ เอาจริง สั่งระงับการขายอาหารเสริมแบรนด์ดังหลังพบสารเสพติด ‘ไซบูทรามีน‘

‘จิราพร‘ เอาจริง สั่งระงับการขายอาหารเสริมแบรนด์ดังบนแพลตฟอร์มออนไลน์ หลังตรวจพบสารเสพติด ’ไซบูทรามีน’

วันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2567 จากกรณีที่ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ตรวจพบไซบูทรามีน ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร อิชช่า เอ็กซ์เอส (ตรา อิชช่า) วันที่ผลิต MFG : 10/01/2024 วันหมดอายุ EXP : 09/01/2026 โดยประกาศให้ประชาชนระมัดระวังในการซื้อหรือบริโภคผลิตภัณฑ์อาหารดังกล่าว

ล่าสุด นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เร่งสั่งการให้แพลตฟอร์มขายสินค้าออนไลน์ Shopee Lazada  TikTok  และแพลตฟอร์มอื่นๆ ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) นำสินค้าดังกล่าวออกจากระบบโดยทันทีแล้ว เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นกับผู้บริโภค พร้อมกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมต่อไปเพื่อป้องกันการเกิดกรณีข้างต้นในผลิตภัณฑ์อื่นๆ

ทั้งนี้ “ไซบูทรามีน” (Sibutramine) จัดเป็นวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทในประเภท 1 ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ระบุชื่อวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 1 พ.ศ.2565 ซึ่งเป็นอาหารที่น่าจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพหรืออนามัยของประชาชน อ้างอิงตามผลการตรวจวิเคราะห์ที่ชี้ให้เห็นผลกระทบต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด ทำให้เกิดผลเสียร้ายแรงจนถึงแก่ชีวิต

ศรชล.ภาค 1 ฝึกซ้อมลำเลียงผู้ป่วยจากเหตุเรือไฟไหม้ในทะเล

เมื่อ 6 มิ ย.67 ศรชล.ภาค 1 โดยนายธวัชชัย ศรีทอง ผอ.ศรชล.จว.ชบ./ผวจ.ชลบุรี น.อ.พินัย จินชัย รอง ผอ.ศรชล.จว.ชบ., น.อ.คงศักดิ์ อยู่คง หน.ศคท.จว.ชบ. และกำลังพล ศรชล./ศคท.จว.ชบ. พร้อมด้วย เรือปฏิบัติการความเร็วสูง ของ ศรชล.ภาค 1 รวมกำลังพล 15 นาย ร่วมการฝึกซ้อมแผนเคลื่อนย้ายผู้ป่วยทางทะเลโดยเรือ ประจำปี 2567 ณ ห้องประชุมลีลาวดี 1 ชั้น 5 อาคารอนุสรณ์ 100 ปี และบริเวณสถานที่ฝึกท่าเรือสำหรับรับผู้ป่วยฉุกเฉิน รพ.สมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี 

โดยมี รศ.นพ.โศภณ นภาธร ผช.เลขาธิการสภากาชาดไทย และ ผอ.รพ.สมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา เป็นประธานเปิดการฝึก มี นพ.ขจรยุทธ์ บางท่าไม้ แพทย์เวชศาสตร์ทางทะเลฯ รพ.สมเด็จฯ ณ ศรีราชา เป็นผู้อำนวยการฝึกฯ

โดยได้มีการบรรยายถึง การขนส่งวัตถุและสินค้าอันตราย ในอุตสาหกรรมพาณิชยนาวี มีนายภาณุวัฒน์ ผิวพรรณ สจป. เป็นวิทยากร มีการบรรยายถึงขั้นตอนการดำเนินการ เมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้เรือสินค้า มีนายเลิศชาย อินทรชิต หัวหน้าแผนกการจัดการท่าเรือแหลมฉบัง เป็นวิทยากร 

มีการบรรยาย ถึงขั้นตอนการลำเลียงผู้บาดเจ็บทางทะเล โดย น.อ.ณัฐศักดิ์ วรเจริญศรี หน.กองปฎิบัติการ ศูนย์การแพทย์ฉุกเฉินทางทะเล  รพ.อาภากรเกียรติวงศ์ ฐานทัพเรือสัตหีบ เป็นวิทยากร 

โดย นายธวัชชัย ศรีทอง ผอ.ศรชล.จว.ชบ./ผวจ.ชลบุรี ได้เดินทางมาสังเกตการณ์การฝึก และลงเรือ ศรชล.4001 ชมการฝึกลำเลียงผู้ป่วย จากเรือ Pilatus 33 ซึ่งได้สมมุติเป็นเรือไฟไหม้ที่ร้องขอความช่วยเหลือ รับ-ส่ง ผู้ป่วยเร่งด่วน และเริ่มสถานการณ์ ฝึกการช่วยเหลือและลำเลียงผู้ป่วยทางทะเล โดยเรือ ศรชล.+ เรือ ตรน. รวม 3 ลำ และทีมแพทย์ฉุกเฉินฯ ที่ร่วมการฝึกในครั้งนี้

โดย นายธวัชชัย ศรีทอง ผอ.ศรชล.จว.ชบ./ผวจ.ชลบุรี ได้กล่าวให้โอวาท และให้คำแนะนำการฝึกกับผู้ร่วมการฝึกฯ เพื่อนำไปใช้ในสถานการณ์จริง ต่อไปอีกด้วย

ซึ่งผลการปฏิบัติของเรือ ศรชล.4001 ได้รับการชื่นชม จากแพทย์ผู้รับผิดชอบการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเลของ รพ.สมเด็จฯ ณ ศรีราชา, รพ.สมิติเวช ศรีราชา และ รพ.อาภากรเกียรติวงศ์ฯ ว่ามีความเหมาะสมในการลำเลียงผู้ป่วยทางทะเล เนื่องจากมีพื้นที่ในการรับผู้ป่วยที่อาจจะมีการลำเลียงด้วยเครน บันไดลิง รวมถึงการลำเลียงผู้ป่วยผ่านบันไดข้างเรือ (Gangway) 

และสำคัญ เรือ ศรชล.4001 มีความคล่องตัวสูง และการทรงตัวที่ดี ทำให้การปฏิบัติการทางการแพทย์ที่เข้าให้การช่วยเหลือ เป็นไปด้วยความคล่องตัวและมีประสิทธิภาพ

ทัพเรือภาคที่ 1 จัดพิธีถวายภัตตราหารเพลแด่พระภิกษุสงฆ์ในโครงการอุปสมบทหมู่เฉลิมพระเกียรติ ฯ

ในวันพฤหัสบดีที่ 6 มิถุนายน 2567  เวลา 09.30 น. พลเรือโท สุระศักดิ์  สิงขรวัฒน์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 พร้อมผู้บังคับบัญชา  และกำลังพลทัพเรือภาคที่ 1 ร่วมถวายภัตตาหารเพลแด่พระภิกษุในโครงการอุปสมบทหมู่เฉลิมพระเกียรติ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ณ ศูนย์ปฏิบัติธรรมสิริบูรพาธรรมสถาน ตำบลบึง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี

มูลนิธิราชสกุลอาภากร ในพลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ร่วมกับกองทัพเรือ จัดโครงการอุปสมบทหมู่เฉลิมพระเกียรติ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยมีกำลังพลของกองทัพเรือร่วมอุปสมบท จำนวน 73 นาย ซึ่งจะปฏิบัติธธรรม ศึกษาพระธรรมวินัย ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน  ณ ศูนย์ปฏิบัติธรรมสิริบูรพาธรรมสถาน ตำบลบึง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี

#ทัพเรือภาคที่1  
#เทิดทูนสถาบัน_ ยึดมั่นระเบียบวินัย_ประชาชนภูมิใจ_ทะเลไทยมั่นคง
#Fit_For_ The_Future

สำนักงานตำรวจแห่งชาติมุ่งมั่นคุ้มครองประชาชนจากภัยอาชญากรรมไซเบอร์ เดินหน้า 'ล้มคน-ล้มเสา-ล้มบัญชี'

วันนี้ (7 มิถุนายน 2567) พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตามนโยบายของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.รรท.ผบ.ตร.) ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการสืบสวนปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีอย่างเข้มข้นนั้น

สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ดำเนินการตามข้อสั่งการดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง โดยมีผลการปฏิบัติ 3 ด้านดังต่อไปนี้

- “ล้มคน” สืบสวนจับกุมกลุ่มผู้กระทำความผิดแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แก๊งหลอกลงทุน เว็บพนันผิดกฎหมาย โดยในห้วง 1 ต.ค.66 ถึง 30 เม.ย.67 ได้มีการจับกุมผู้กระทำความผิดรวมกว่า 14,826 คน

- “ล้มเสา” ร่วมมือกับสำนักงาน กสทช. สืบสวนการลักลอบติดตั้งอุปกรณ์ส่งสัญญาณบริเวณชายแดน ซึ่งเป็นเครื่องมือของมิจฉาชีพที่ใช้ในการกระทำความผิดอย่างต่อเนื่อง และสามารถยึดอุปกรณ์ของกลุ่มมิจฉาชีพได้เป็นจำนวนมาก

- “ล้มบัญชี“ สืบสวนขยายผลผ่านเส้นทางการเงิน บัญชีม้า และมีการอายัดเงินอย่างต่อเนื่อง โดยระหว่างวันที่ 1 พ.ย.66 ถึง 30 เม.ย.67 อายัดเงินได้รวม 4,561,641,953 ล้านบาท และได้ร่วมมือกับ ป.ป.ง. เพื่อเฉลี่ยทรัพย์คืนให้กับผู้เสียหายต่อไป

ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติยังคงมุ่งมั่นตั้งใจในการปกป้องคุ้มครองชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน จากภัยอาชญากรรมทุกรูปแบบ และขอให้พี่น้องประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสาร เกี่ยวกับอาชญากรรมรูปแบบต่าง ๆ เพื่อป้องกันตนเองไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ โดยหากประชาชนได้รับความเสียหายจากคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สามารถแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่เว็บไซต์ www.thaipoliceonline.go.th เว็บไซต์เดียวเท่านั้น และที่หมายเลขโทรศัพท์ 1441 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

แต่งตั้ง 'สุรเกียรติ์ เสถียรไทย' นั่งนายกสภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

เมื่อวานนี้ (6 มิ.ย.67) ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งนายกสภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุว่า...

ตามที่ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง นายภิรมย์ กมลรัตนกุล ให้ดำรงตำแหน่ง นายกสภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ต่อไปอีกวาระหนึ่ง ตั้งแต่วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2567 ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 27 พฤษภาคม 2564 ซึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่งในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2567 นั้น

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 19 (1) แห่งพระราชบัญญัติจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พ.ศ. 2551 ที่ประชุมสภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ครั้งที่ 882 เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2566 ได้มีมติเห็นชอบให้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง 'นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย' ดำรงตำแหน่ง นายกสภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งต่อไปแล้ว

บัดนี้ ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งบุคคลดังกล่าว ให้ดำรงตำแหน่งนายกสภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายน 2567

ประกาศ ณ วันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2567

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ

อนุทิน ชาญวีรกูล
รองนายกรัฐมนตรี


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top