Thursday, 15 May 2025
TheStatesTimes

สะกิดต่อมผู้ใหญ่ (ใจร้าย) ฮั้วเงินสะพัด 30 ล้าน ทำเด็กๆ อดกินนม หลังการจัดสรรพื้นที่ 'ผลิต-จำหน่าย' ยังเงียบ แม้ใกล้เปิดเทอม

นมวัว 1,100 ตันต่อวัน คือปริมาณที่ใช้ทำนมโรงเรียนแจกจ่ายทั่วประเทศมาหลายปีแล้ว แต่เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2567 มีเอกสารราชการที่ระบุว่า...

"ความต้องการนมโรงเรียน ปี 66 – 67 จะมีมากถึง 2,064.73 ตัน"

ที่ผ่านมานมโรงเรียนมีสัดส่วน 33% หรือ 1 ใน 3 ของการบริโภคน้ำนมโคของคนไทยทั้งประเทศ ด้วยตัวเลขใหม่ที่เพิ่มขึ้นจะทำให้สัดส่วนเพิ่มเป็น 69.22% หรือ 2 ใน 3 ของนมในตลาด

1. หลายปีมานี้ประเทศไทยอยู่ในช่วงขาดแคลนน้ำนมวัวเพราะเกษตรกรเลิกอาชีพไปหลายราย วัวนมจำนวนมากถูกส่งเข้าโรงชำแหละ วัวสาวถูกขายส่งออกไปเวียดนาม เพื่อทดแทนน้ำนมที่ขาดจึงมีการนำเข้านมผงจาก ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์ ประเทศแถบยุโรป และจีน มาผสมน้ำนมเพื่อจำหน่าย

2. หากปล่อยให้นำเข้านมผงมากเกินไป อาจทำให้ราคาน้ำนมดิบตกต่ำ เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมรายย่อยอยู่ไม่ได้หมดกำลังใจในอาชีพนี้

3. น้ำนมวัวสด มีคุณค่าทางโภชนาการสูงกว่านมผงที่มีหลายเกรดหลายราคา อีกทั้งสิบกว่าปีก่อนยังมีข่าวดังไปทั่วโลกเรื่องเด็กเสียชีวิตในประเทศจีน เพราะบริโภคนมผงที่ผู้ผลิตจงใจผสมสารเมลามีนเพื่อเพิ่มปริมาณและน้ำหนักนมผง

4. ในปี 2568 ภาษีนำเข้านมผงจะลดลงหรือเป็นศูนย์ ตามข้อตกลง FTA ที่ไทยร่วมตกลงไว้

นมโรงเรียน เป็นธุรกิจที่มีระบบโควตาจากรัฐ ใครได้มากจะยิ่งมั่นคงและได้เปรียบทางธุรกิจ จึงมีการแย่งชิงจนเกิดคอร์รัปชันหลาย ในหลายรูปแบบ ทำให้การจัดสรรโควตาไม่เป็นธรรม ไม่ทั่วถึง ผู้ประกอบการโรงนมเคยร้องเรียนมาครั้งแล้วครั้งเล่า

กล่าวสำคัญปีการศึกษา 2567 โรงเรียนกำลังเปิดเทอมแล้ว บางโรงในต่างจังหวัดเปิดเทอมแล้ว ในกรุงเทพจะเปิดในวันที่ 16 พฤษภาคมนี้ แต่ยังไม่มีนมให้เด็กนักเรียนกิน

ผู้ประกอบการโรงนมรายหนึ่งโวยวายว่า กรมปศุสัตว์ ซึ่งมีหน้าที่ในการควบคุมสรุปยอดน้ำนมดิบ ในแต่ละปีจะต้องสรุปยอดน้ำนมดิบว่ามีอยู่ที่ไหนเท่าไหร่ เพื่อส่งให้อนุกรรมการจัดสรรพื้นที่ (โควา) ดำเนินการจัดสรรโควตาให้กับโรงนม 

“ปีนี้กรมปศุสัตว์ยังหาข้อสรุปยอดนมดิบให้กับอนุกรรมการจัดสรรโควาไม่ได้ ผู้ประกอบการก็ยังไม่สามารถผลิตนมไปแจกเด็กนักเรียนได้”

มีรายงานว่า ยอดน้ำนมดิบถูกเก็บงำไว้ที่ส่วนกลาง ไม่ยอมแจ้งต่ออนุกรรมการจัดสรรพื้นที่ โทรสอบถามก็ไม่มีใครตอบได้ อนุกรรมการจัดสรรพื้นที่ก็ปวดหัวกับการต้องตอบคำถามจากผู้ประกอบการโรงนม

มีรายงานข่าวว่า สาเหตุของความล่าช้าในการสรุปยอดน้ำนมดิบ และทำให้การจัดสรรพื้นที่ช้า เด็กไม่ได้กินนมมาจากผู้ประกอบโรงนมรายใหญ่รวมตัวกันจ่ายเงินใต้โต๊ะผู้ร่างหลักเกณฑ์นมโรงเรียนให้เข้ากับกลุ่มนายทุนรายใหญ่ที่ได้ผลประโยชน์มหาศาลทำให้กลุ่มผู้ประกอบรายเล็กได้รับผลกระทบในภาคอีสาน, ภาคเหนือ, ภาคกลาง ที่มีโรงนมเป็นจำนวนมากได้รับความเดือดร้อนมากจนนำมาขอการร้องเรียน

รายงานข่าวแจ้งว่า นี้คือขบวนการมาเฟียนมโรงเรียนล่าสุดกลุ่มนายทุนใหญ่ในวงการนมโรงเรียนรวมลงขันจ่ายเงินให้กับผู้ใหญ่ที่มีอำนาจในการลงนามเป็นเงิน 30 กิโลกรัม เป็นกลุ่มทุนที่เคยเข้าไปร้องเรียนเรื่องน้ำนมดิบเมื่อหลายเดือนที่ผ่านมา

ผู้ประกอบการโรงนมรายหนึ่งโวยว่า ไม่เข้าใจว่าทำไมหลักเกณฑ์ต้องเปลี่ยนทุกปี ทั้งๆ ที่บางปีหลักเกณฑ์ดีอยู่แล้ว แต่พอเปลี่ยนผู้บริหารก็เปลี่ยนหลักเกณฑ์ มันมีผลประโยชน์อะไรอยู่ในหลักเกณฑ์นี้หรือเปล่า มันสร้างความวุ่นวายวาย เสียเวลา เสียค่าใช้จ่ายให้กับผู้ประกอบการโรงนม

ฝากไปยังผู้ใหญ่ใจร้ายทำเด็กอดกินนม ให้รีบแจ้งยอดน้ำนมดิบ เพื่อให้อนุกรรมการได้จัดสรรพื้นที่ แบ่งโควตาการผลิตนมโรงเรียน เด็กจะได้กินนม

‘กระทรวงศึกษาฯ’ จัดโครงการ ‘อาชีวะล้างแอร์’ ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ประหยัดค่าไฟ ลดภาระค่าใช้จ่ายของ ปชช.

(11 พ.ค.67) นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ดำเนินโครงการอาชีวะล้างแอร์ เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ซึ่งเป็นโครงการที่กระทรวงศึกษาธิการดำเนินกิจกรรมล้างแอร์ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในช่วงฤดูร้อน ลดภาระค่าใช้จ่ายในครัวเรือน และประหยัดพลังงานไฟฟ้าของประเทศ

นายคารม กล่าวว่า โครงการดังกล่าว มีนักเรียน นักศึกษาอาชีวศึกษา ออกให้บริการในพื้นที่สาธารณะ เช่น วัด โรงเรียน โรงพยาบาล และสถานที่ต่าง ๆ ที่ประชาชนขอรับบริการ พร้อมให้ข้อมูลความรู้พื้นฐาน แนะนำการดูแล บำรุงรักษา 

“ขอเชิญชวนประชาชนลงทะเบียนใช้บริการล้างแอร์ ในกิจกรรมอาชีวะคลายร้อนทั่วไทย ร่วมใจล้างแอร์ฟรี สามารถลงทะเบียนล้างแอร์ฟรีได้ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค. 2567 เป็นต้นไป ผ่านเว็บไซต์ของ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา www.vec.go.th หรือทางFacebook ประชาสัมพันธ์สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา” นายคารม กล่าว

‘รัดเกล้า’ เผย!! ครม.ไฟเขียวขยายเวลา 2 โครงการใหญ่ชลประทาน เหตุเพราะปัญหาและอุปสรรคจากสถานการณ์โควิด19

(11 พ.ค.67) นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม. เมื่อวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา มีมติอนุมัติขยายระยะเวลาดำเนินโครงการตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) เสนอขออนุมัติขยายระยะเวลาดำเนินโครงการชลประทานขนาดใหญ่ จำนวน 2 โครงการ สาเหตุเนื่องจากปัญหาและอุปสรรคจากสถานการณ์ Covid - 19 ที่มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินจำกัดการเคลื่อนย้ายการเดินทางให้อยู่ในวงจำกัด ส่งผลให้ผู้รับจ้างประสบปัญหาขาดแคลนวัสดุก่อสร้างเครื่องจักร เครื่องมือไม่เพียงพอ และไม่สามารถเคลื่อนย้ายแรงงานเข้าสถานที่ก่อสร้างได้ นอกจากนี้ ในส่วนของโครงการอ่างเก็บน้ำคลองหลวงฯ ยังมีสาเหตุมาจากสภาพภูมิประเทศ และการใช้ประโยชน์ที่ดินเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม จึงมีความจำเป็นที่ต้องแก้ไขแบบก่อสร้างเพื่อให้มีความสอดคล้องกับสภาพการใช้ประโยชน์ที่ดินในปัจจุบัน และลดผลกระทบกับประชาชนในพื้นที่ ประกอบกับในขั้นตอนการจัดหาที่ดินมีเจ้าของทรัพย์สินบางส่วนไม่ยอมรับราคาค่าทดแทนทรัพย์สินที่ภาครัฐกำหนดและไม่ยินยอมให้เข้าใช้พื้นที่ รวมถึงที่ดินบางแปลงติดปัญหาเรื่องข้อกฎหมาย ซึ่งจากปัญหาอุปสรรคดังกล่าว กษ. โดยกรมชลประทานจึงได้อนุมัติให้มีการขยายอายุสัญญาและอนุมัติงดค่าปรับจากการแก้ไขแบบแก้ไขสัญญา และให้ได้รับสิทธิ์กำหนดอัตราค่าปรับร้อยละ 0 ตามมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการในช่วงแพร่ระบาดโรค Covid - 19 ของทั้ง 2 โครงการด้วยแล้ว

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากข้อเท็จจริงและสภาพปัญหาดังกล่าว กษ. (กรมชลประทาน) จึงมีความจำเป็นต้องขยายระยะเวลาการดำเนินโครงการชลประทานขนาดใหญ่ภายใต้กรอบวงเงินโครงการเดิมจำนวน 2 โครงการ ได้แก่ (1) โครงการอ่างเก็บน้ำคลองหลวง จังหวัดชลบุรี เสนอขออนุมัติขยายระยะเวลาจากเดิม 14 ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2553–2566) เป็น 17 ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2553–2569) และโครงการกิ่วคอหมา จังหวัดลำปาง จากเดิม 19 ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2548–2566) เป็น 22 ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2548–2569) 

“โครงการชลประทานขนาดใหญ่เป็นไปเพื่อใช้เป็นแหล่งน้ำ ทั้งสำหรับพื้นที่เพาะปลูก การอุปโภค บริโภค การอุตสาหกรรม ปศุสัตว์ รักษาสมดุลของระบบนิเวศ และเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ รวมทั้งยังสามารถใช้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ได้ในอนาคตอีกด้วย” รองโฆษกฯ กล่าว

นราธิวาส-มท.1 ลงใต้ เยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน จ.นราธิวาส ยืนยัน!! 'รัฐบาลไม่เคยทอดทิ้ง' พร้อมหนุนทุกภารกิจ เพื่อความปลอดภัยและความสงบสุขของพื้นที่

(10 พ.ค.67) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและผู้บัญชาการกองอาสารักษาดินแดนพร้อมคณะฯ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนในสังกัดกองบังคับการกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดนราธิวาส  โดยจุดแรกได้ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจชุดคุ้มครองตำบลลำภู อำเภอเมือง และมอบสิ่งของบำรุงขวัญกำลังใจจำนวน 49 ชุด และชุดยังชีพให้แก่กำลังพลในพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ จำนวน 1,000 ชุด 

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้เป็นการลงพื้นที่เยี่ยมเยียนให้กำลังใจการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ที่ในช่วงนี้ที่มีสถานการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้นต่อเนื่องโดยเฉพาะการลอบทำร้ายเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งรัฐบาลเอง ก็รับทราบสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และรู้สึกห่วงใยเป็นอย่างมาก โดยจะต้องหาแนวทางมาตราการต่างๆ ในการป้องกันเจ้าหน้าที่ของบ้านเมืองและประชาชนผู้บริสุทธิ์ เพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสียหรือได้รับความเสียหายขึ้นอีก และจะต้องทำให้รู้สึกว่ารัฐบาลไม่เคยทอดทิ้ง โดยจะมีการบูรณาการกันหลายภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นฝ่ายทหาร ตำรวจ ฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายปกครองเพื่อร่วมกันทำให้เกิดความสงบสุขโดยเร็ว 

รองนายกรัฐมนตรี ฯ กล่าวอีกว่า รัฐบาลมีนโยบายจะให้สมาชิกกองอาสารักษาดินแดนมีความใกล้ชิดกับชาวบ้านในท้องที่ให้เข้ามารักษาสถานการณ์ เพื่อให้กำลังทหารปฏิบัติหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันประเทศได้อย่างเต็มที่ ก็จะมีการฝึกร่วมกัน ประสานการทำงาน ทั้งนี้ขอให้เชื่อมั่นว่ากระทรวงมหาดไทยและทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะศอ.บต. กอ.รมน.ภาค 4 สน. ซึ่งมีความร่วมมือและตั้งใจร่วมกันในการปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ เพื่อให้บรรลุทุกๆภารกิจ และมีความปลอดภัยต่อเจ้าหน้าที่ทุกคนต่อไป 

จากนั้นช่วงบ่ายรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ฯ ได้เดินทางไปยังบก.ฉก. นราธิวาส ค่ายกัลยาณิวัฒนา อำเภอเมือง เพื่อรับฟังการบรรยายสรุปในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่และร่วมหาแนวทางมาตรการป้องกันเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง โดยมีพลเอก เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมด้วยพันตำรวจโท วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) พลตรี ศานติ ศกุนตนาค เเม่ทัพภาค 4 /ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม 

นอกจากนี้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ฯ ยังได้เดินทางไปเยี่ยมชมการฝึกเสริมสร้างผู้นำสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. 2567 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 - 10 พฤษภาคม 2567 ณ ที่ว่าการอำเภอสุคิริน

 

รวบ! 'สมาชิกเครือข่ายวิตตอง' แหกโค้งหลบหนีการจับกุม ยึดของกลางมูลค่ากว่า 50 ล้าน บาทผบช.ปส. ลั่น! อย่าหาว่าไม่เตือน!

วันที่ 10 พฤษภาคม 2567 เวลา13.30น. ณกองกับการ2 กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด2 อาคาร ด่านตรวจยานพาหนะสีคิ้วอ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา แถลงจับกุมสมาชิก“เครือข่ายวิตตอง”ภายใต้การทำงานของกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด อำนวยการโดย พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.ปส., พล.ต.ต.สมเกียรติ วัฒนพรมงคล, พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว, พล.ต.ต.ออมสิน ตรารุ่งเรือง และ พล.ต.ต.พลัฏฐ์ วิเศษสิงห์ รอง ผบช.ปส. บก.ปส.2 บช.ปส. อำนวยการโดย พล.ต.ต.ธนรัชน์ สอนกล้า ผบก.ปส.2.บช.ปส.,พ.ต.อ.พัฒนะ บูรณกลัศ รอง ผบก.ปส.2.บช.ปส.,พ.ต.อ.อุทิศ จันทะศรี รอง ผบก.ปส.2.บช.ปส.,พ.ต.อ.พชร โคตะ รอง ผบก.ปส.2.บช.ปส.,พ.ต.อ.ภวินทร์ ภานุมาส รอง ผบก.ปส.2.บช.ปส. ,พ.ต.อ.อัคควิทย์ กำแพงนิล ผกก.๒ บก.ปส.2, พ.ต.อ.ไพโรจน์ เขียวนรภัย ผกก.1 บก.ปส.2 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.ก้องสกล ภูธร สว.กก.2 บก.ปส.2 , พ.ต.ต.ชัยรัตน์ ประสิทธิ์ สว.กก.2 บก.ปส.2

สืบเนื่องก่อนหน้านี้ ทางเจ้าหน้าที่ ตำรวจ ปราบปรามยาเสพติดได้มีการจับกุม เครือข่ายผู้ลำเลียงยาเสพติดทางภาคอีสาน ที่พยายามลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในบริเวณกรุงเทพชั้นในซึ่งเป็นเครือข่ายวิตตองได้แล้วจำนวน6ครั้งด้วยกัน ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 7 โดยการสกัดจับกุมในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งจากการขยายผลและติดตามเป้าหมายมาโดยตลอดจนกระทั้งได้รับข้อมูลว่าเป้าหมายเดินทางขึ้นไปบริเวณริมแม่น้ำโขง โดยรถยนต์จำนวน2คัน มีลักษณะการลำเลียงรูปแบบขับรถยนต์เป็นขบวนมีรถยนต์ขับนำทางและต่อท้ายขบวน หลังจากเจ้าหน้าที่ได้รับข้อมูลก็ดำเนินการสะกดรอยตามเส้นทาง จนพบรถเป้าหมายที่ลำเลียงยาเสพติดเป็นรถยนต์ เก๋ง ยี่ห้อ TOYOTA รุ่น Yaris สีบรอนด์เทา ติดแผ่นป้ายทะเบียน 5กฬ 6401 กรุงเทพมหานคร (ป้ายทะเบียนรถคันอื่น) ขับเข้า ปั้มน้ำมันปตท.คำปิง ถนนสุระนารายณ์ ทล.205 กม.151 ต.บ้านเพชร อ.บำเหน็จณรงค์ จว.ชัยภูมิ จึงเข้าสกัดรถดังกล่าวและขอตรวจค้น พบ 1. น.ส.ณัฐภัคฯ อายุ 36 ปี  ที่อยู่ หมู่ 3 ต.พระพุทธบาท อ.พระพุทธบาท จว.สระบุรี (เป็นผู้ขับขี่รถบรรทุกยาเสพติด)2. นายณัฐพลฯ อายุ 26 ปี ที่อยู่ ม.1 ต.หนองควายโซ อ.หนองแซง จว.สระบุรี (เป็นผู้โดยสารนั่งข้างคนขับรถบรรทุกยาเสพติด) ตรวจค้นในรถพบ ยาเคตามีน 50 ถุง น้ำหนักประมาณ 50 กิโลกรัมยาไอซ์ 50 ถุง น้ำหนักประมาณ 50 กิโลกรัม แต่ในระหว่างการเข้าจับกุมรถยนต์ต้องสงสัยกลุ่มเป้าหมายได้มีการโทรประชุมสายส่งสัญญาณ ทำให้รถยนต์นำทาง ยี่ห้อมิตซูปาเจโร สีขาว ที่เจ้าหน้าที่อีกชุดกำลังติดตามอยู่รู้ตัว รถยนต์คันดังกล่าวจึงได้เพิ่มความเร็วที่200กิโลเมตร/ชม. แต่เนื่องจากถนนมีเส้นทางเป็นที่ลาดชันเชิงเขาและมีลักษณะโค้ง จึงทำให้รถยนต์คันดังกล่าวเสียหลักหลุดโค้ง และจับกุมได้ในเวลาต่อมาบริเวณริมทางหลวงถนนสุรนารายณ์ ทล.205 กม.123+800 ต.วะตะแบก อ.เทพสถิต จว.ชัยภูมิทราบชื่อนายฐิติธรรม ฯ อายุ 37 ปี ที่อยู่ หมู่ 6 ต.พุกร่าง อ.พระพุทธบาท จว.สระบุรี (เป็นผู้ขับขี่รถนำ),น.ส.สิริพร ฯ อายุ 21 ปี ที่อยู่ หมู่ 4 ต.บ้านแก้ง อ.เฉลิมพระเกียรติ จว.สระบุรี (เป็นผู้โดยสารนั่งข้างกับคนขับรถนำ) จึงได้จับกุมผู้ต้องหาทั้งสี่คน ซึ่งให้การรับว่าได้รับจ้าง 600,000 บาทลำเลียงจากบึงกาฬไปส่งแถวสระบุรี โดยได้รับมาเป็นค่าน้ำมันแล้ว 100,000บาท 

ด้านพล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.ปส.กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้ได้ผู้ต้องหาที่เป็นสมาชิกของกลุ่มเครือข่ายที่ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการเฝ้าติดตามและอยู่ในขั้นตอนการขยายผล ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการจับกุมและอยู่ในระหว่างการดำเนินคดีอยู่หลายเคส ยอมรับว่ามีสมาชิกเครือข่ายดังกล่าวมีหน้าใหม่ๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ในข้อมูลเชิงลึกแล้วเชื่อว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะตามตัวได้ไม่ยาก พร้อมทิ้งท้ายฝากเตือนผู้กระทำผิดและกลุ่มมือปืนรับจ้างที่รับงานของเครือข่ายขบวนการดังกล่าวให้คิดไตร่ตรองให้ดีก่อนลงมือกระทำความผิดเพราะ มันจะส่งผลได้ไม่คุ้มเสียซึ่งโทษอาจจะถึงขั้นประหารชีวิต

นักวิชาการ จี้ ‘กระทรวงพาณิชย์’ ให้ส่งข้าวเข้าห้อง Lab เพื่อตรวจเชื้อรา ชี้!!การกินโชว์ พิสูจน์อะไรไม่ได้เลย นอกจาก ‘มีมอด-ต้องซาวน้ำ 15 ครั้ง’

(11 พ.ค.67) รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊กเกี่ยวกับข้าวเก่า 10 ปีว่า 

ใครก็ได้ที่กระทรวงพาณิชย์ ช่วยอธิบายหน่อยได้ไหมครับว่า ถึงวันนี้ทำไมจึงไม่มีการสุ่มตัวอย่างข้าวอายุ 10 ปี ส่งเข้าห้อง lab เพื่อตรวจว่ามีเชื้อรา และสารพิษใดๆ ตกค้างอยู่ในข้าวหรือไม่ เพราะนี่คือสิ่งที่ไม่ใช่ควรทำ แต่ต้องทำ หากจะยังคงดึงดันที่จะเปิดให้คนมาประมูลซื้อ

เรื่องการกินข้าวโชว์ ควรจะหยุดได้แล้วนะครับ เพราะมันไม่ได้พิสูจน์อะไรเลย นอกจากพิสูจน์ว่าข้าวมีมอดเต็มไปหมด และเปลี่ยนสภาพไปจนต้องล้างน้ำ 15 ครั้ง เท่านั้น

‘Honda’ ดึง ‘Prelude’ รถสปอร์ตในตำนาน หวนคืนตลาด ชูตัวท็อปพ่วง คาดเปิดตัวปีหน้า ราคาล้านต้น

(11 พ.ค.67) หลังจาก Honda เซอร์ไพรส์เปิดตัว Honda Prelude Concept ในงาน Tokyo Auto Show เมื่อปี 2023 ที่ผ่านมา ในตอนนี้ทางบริษัทได้ยืนยันแล้วว่าจะผลิตรถสปอร์ตไฮบริด 2 ประตูอย่างแน่นอน และจะเปิดตัวในปี 2025

โดยจะมีเครื่องยนต์ 4 สูบ e:HEV ขนาด 2.0 ลิตรแบบเดียวกับที่ใช้กับรุ่นไฮบริดของ Accord และ Civic แต่จะให้กำลังมากกว่าเล็กน้อย โดยมีกำลังรวม 207 แรงม้า

คาดว่าขนาดมิติถัง Honda Prelude Hybrid จะมีความยาว 4,300 มม. กว้าง 1,790 มม. สูง 1,300 มม. และระยะฐานล้อ 2,575 มม. โดยจะมีขนาดเกือบใกล้เคียงกับ Toyota GR86 และใหญ่กว่า Mazda MX-5 Miata

มีรายงานว่า Honda จะวางให้ Honda Prelude Hybrid เป็นรุ่นพรีเมียมและจะเป็นคู่แข่งที่เหนือกว่าโตโยต้าสองประตูอย่าง Toyota GR86 ด้วย

ตามข้อมูล Honda Prelude Concept จะตั้งราคาในญี่ปุ่นอยู่ที่ 4.2 ถึง 4.5 ล้านเยน (ประมาณ 1 - 1.07 ล้านบาท) มากกว่า Toyota GR86 ซึ่งมีราคาอยู่ที่ 2.9 - 3.6 ล้านเยน (ประมาณ 7-8แสนบาท)

‘พิธา’ ชี้ ควรตรวจสอบ ‘ข้าว 10 ปี’ ด้วยห้องแล็บ ย้ำ!! น่าเชื่อถือกว่าการกินโชว์ พร้อมตั้งข้อสงสัย ทำไมไม่พูดถึงการส่งออกข้าวในภาพใหญ่ แต่มาเจาะในภาพย่อย

เมื่อวานนี้ (10 พ.ค.67) ที่ร้าน Sol Bar Chaingmai อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้ร่วมเวทีเสวนา เปิดรายงานก้าวไกล สถานการณ์ไฟป่า-ฝุ่นพิษ 67 และข้อเสนอต่อรัฐบาล

โดย นายพิธา ได้ตอบคำถามของสื่อมวลชน ถึงกรณีที่มีการพยายามนำข้าวในโครงการการจำนำข้าว ที่ค้างอยู่ในโกดัง 10 ปี ออกมาขายและมีการให้สื่อมวลชนร่วมรับประทาน โดยนายพิธา บอกว่า ตนเข้าใจในภาพย่อย แต่สงสัยในภาพใหญ่ ภาพย่อยคือข้าวที่ค้างมา 10 ปี เริ่มต้นมาก็น่าจะกินได้ แต่ก็ต้องมีการตรวจสอบทางด้านวิทยาศาสตร์ มีการจะเริ่มเปิดประมูล มีการส่งออกไปแอฟริกา นี่เป็นภาพย่อยที่ฟังมาเรื่อย ๆ ถ้าข้าวที่เก็บไว้ในโกดัง หรือในไซโล มีมอดหรือไม่มีมอด เป็นเรื่องรายละเอียดที่เดี๋ยวค่อยมาว่ากัน แต่สงสัยในภาพใหญ่ว่า 

ในปีนี้ข้าวมีรอส่งออก เดาว่าน่าจะหลายสิบตัน แต่ภาพใหญ่อยู่ดี ๆ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ไม่พูดถึงเรื่องการส่งออกข้าว ในภาพใหญ่ แต่มาเจาะจงในมูลค่า 270 ล้านบาท ในภาพย่อย คือตนไม่เข้าใจภาพใหญ่ว่า ต้องการจะอธิบายว่าไม่มีปัญหา หรือว่าต้องการจะปิดบัญชี หรือจะบอกว่าโครงการจำนำข้าวไม่ได้สร้างความเสียหายแต่อย่างใด เพราะไม่มีเสียหายเลย สามารถส่งออกได้ ต้องถามจุดประสงค์ในการพูด ถ้าเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พูดถึงเรื่องอุตสาหกรรมข้าวไทยในปีนี้เป็นภาพใหญ่ ตนพอจะเห็นภาพอยู่ ซึ่งถ้าพูดมาทั้งหมดแล้ว มาพูดเรื่องนี้ตนพอจะเข้าใจอยู่ แต่ตนไม่เข้าใจว่าอยู่ดีๆ เรื่องนี้ถึงโผล่ขึ้นมา ตนเลยอยากฝากสื่อมวลชน ไปถามคณะรัฐมนตรี ที่ก็ยังถูกถามว่ากล้ากินไม่กล้ากิน แล้วทำไมต้องมาทดลองกินในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ก็เป็นกำลังใจให้รัฐบาลและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในการแก้ไขปัญหานี้ 

นายพิธา ยังกล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องการตรวจสอบข้าว เราตรวจสอบด้วยวิทยาศาสตร์ได้ ว่ามีสารทางเคมีอะไรบ้าง แน่นอนว่าพิสูจน์ทางกายภาพได้ ของแบบนี้มีห้องแล็บที่พิสูจน์ได้ หลายๆ มหาวิทยาลัยในประเทศพิสูจน์ได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องมาลองกินข้าว ว่าอร่อยหรือไม่อร่อย เพราะเรื่องรสชาติเป็นเรื่องของแต่ละคน เรื่องข้าวพิสูจน์ผ่านวิทยาศาสตร์ได้ ไม่ต้องมาเถียงกันผ่านสื่อ

'ผู้ปกครอง' ชี้!! 'ปริญญาตรี-สูงกว่า' ไม่มีผลต่อการสมัครงานในอนาคต ยก!! อาชีพขายของออนไลน์ ปั้นตนเป็นอินฟลูเอนเซอร์หาเงินได้ง่ายกว่า

(11 พ.ค.67) BTimes เปิดเผยข้อมูลจาก ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ซึ่งระบุถึงการศึกษาของไทยว่า มีหลายประเด็นที่ภาครัฐคงต้องให้ความสำคัญในการวางแผนแก้ไขอย่างจริงจัง ได้แก่ ความเหลื่อมล้ำด้านการศึกษาที่นับวันจะสูงขึ้น เมื่อค่าใช้จ่ายเพื่อการศึกษามีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะโรงเรียนที่มีชื่อเสียงจะมีการแข่งขันที่สูง หรือโรงเรียนที่มีหลักสูตรพิเศษอย่างภาษาต่างประเทศ หรือการนำเทคโนโลยีมาใช้เป็นสื่อการเรียนการสอนจะมีค่าใช้จ่ายที่สูง ทำให้เกิดช่องว่างทางการศึกษามากขึ้น 

คุณภาพการศึกษาของไทยที่ลดลง สะท้อนผ่านดัชนีการวัดความสามารถด้านความรู้ระดับประเทศหรือ PISA ซึ่งจะมีผลระยะยาวต่ออนาคตของบุตรหลาน และตลาดแรงงานไทย ด้านทัศนคติการเรียนต่อระดับปริญญาตรีขึ้นไปมีลดลง 

ทั้งนี้ จากผลสำรวจพบว่าผู้ปกครองเกือบครึ่ง (49% ของกลุ่มตัวอย่าง) เห็นด้วยกับบุตรหลานที่เริ่มมองว่าการเรียนจบปริญญาตรีหรือสูงกว่าไม่สำคัญต่อการสมัครงานในอนาคต ซึ่งส่วนใหญ่มองว่าอาชีพอิสระหาเงินได้มากกว่า และปัจจุบัน มีหลายคนที่ประสบความสำเร็จและสร้างรายได้จากการใช้เทคโนโลยี ในการสร้างรายได้จากการขายของออนไลน์ การเป็นอินฟลูเอนเซอร์ (Influencer) และการสร้างรายได้ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งมีผลต่อตลาดแรงงานในระยะข้างหน้า

ดังนั้น เพื่อยกระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานของไทย ให้นักเรียนได้เข้าถึงการเรียนรู้ที่เท่าเทียม และเตรียมทักษะความพร้อมให้กับนักเรียน ภาครัฐควรเข้ามามีบทบาทมากขึ้น อาทิ 1. การจัดสรรงบประมาณในการพัฒนาโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกลเพื่อลดความเหลื่อมล้ำด้านการศึกษา 2. การพัฒนาหลักสูตรให้สอดคล้องกับโลกธุรกิจที่เปลี่ยนไป 3. การยกระดับโรงเรียนอาชีวศึกษาด้วยการเพิ่มงบประมาณในด้านการวิจัยและพัฒนา และ 4. การพัฒนาและยกระดับความรู้ใหม่ๆ (Upskill และ Reskill) ให้กับบุคลากรผู้สอน รวมถึงการเพิ่มบุคลากรครูผู้สอน

‘หมอรุ่งเรือง’ เผยข้อมูลทางวิทย์ ‘แกงไตปลา’ มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย ย้ำ!! นี่คือเมนูเพื่อสุขภาพ ‘ป้องกันโรคหัวใจ-รักษาแผลในกระเพาะ-สร้างภูมิคุ้มกัน’

(11 พ.ค.67) จากกรณีเว็บไซต์ต่างประเทศที่ให้ข้อมูลอาหารจากทั่วโลก ออกมาเผยการจัดอันดับ 100 เมนูยอดแย่ของโลก ซึ่งปรากฏว่าเมนู ‘แกงไตปลา’ ของประเทศไทย ได้อันดับ 1 เมนูยอดแย่ของโลก นั้น

ล่าสุด นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ออกมาเปิดเผยเกี่ยวกับกรณีนี้ โดยระบุว่า แกงไตปลา เป็นอาหารที่เป็นภูมิปัญญาชาวปักษ์ใต้ กระบวนการทำแกงไตปลาอาศัยการสืบทอดต่อกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ จากรุ่นหนึ่งสู่อีกรุ่นหนึ่ง เป็นวัฒนธรรมในด้านอาหารของชาวใต้ จากข้อมูลศูนย์วิทยาศาสตร์ วศ.อว. ยืนนยันว่า เมนูแกงไตปลานิยมใช้วัตถุดิบส่วนใหญ่ที่ผลิตได้ในชุมชนและท้องถิ่น มีส่วนประกอบหลัก ได้แก่ พริกแกง (นิยมใช้กระเทียม พริกขี้หนู พริกไทย ตะไคร้ ขมิ้นชัน หอมแดง) ปลาย่าง (นิยมใช้ปลาโอ) ไตปลา (นิยมใช้เครื่องในปลากะพงขาว) กะปิ และเครื่องปรุงรส มีกระบวนการผลิตโดยนำไตปลาสดหรือไตปลาหมัก ใส่น้ำสะอาด ต้มให้เดือด กรอง ใส่เครื่องแกงและเครื่องปรุงรส ซึ่งแกงไตปลาเป็นอาหารที่มีรสจัด จึงนิยมรับประทานร่วมกับผักชนิดต่างๆ เช่น แตงกวา ถั่วฝักยาว มะเขือเปราะ ใบมะม่วงอ่อน สะตอ ลูกเนียงหรือลูกพะเนียง

ข้อมูลด้านวิทยาศาสตร์ยืนยันว่า แกงไตปลาเป็นเมนูสำหรับผู้รักสุขภาพอย่างแท้จริง แกงไตปลามีคุณประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย เนื่องจากมีส่วนประกอบของสมุนไพรหลากหลายชนิด เช่น กระเทียมช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล ป้องกันโรคหัวใจ ขมิ้นชันรักษาแผลในกระเพาะอาหาร ตะไคร้ช่วยขับปัสสาวะ ขับสารพิษ ขมิ้นชันรักษาแผลในกระเพาะอาหาร หอมแดงเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยบรรเทาอาการหวัด คัดจมูก พริกขี้หนูช่วยลดระดับไตรกลีเซอไรด์และไขมันเลว เป็นต้น อีกทั้งแกงไตปลายังมีโปรตีนสูงจากปลาย่างและให้พลังงานต่ำ เป็นผลดีต่อสุขภาพ

นายแพทย์รุ่งเรือง กล่าวเพิ่มเติมว่า กรณีที่ผู้บริโภคไม่คุ้นเคยกับอาหารไทยที่มีอัตลักษณ์เฉพาะตัว ในด้านรสชาติอันเผ็ดร้อนถึงใจ มีกลิ่นไตปลาและสมุนไพร อาจเป็นสาเหตุทำให้ไม่เป็นที่ถูกใจของผู้ได้ลิ้มลองรสชาติแกงไตปลา

อย่างไรก็ตามในปัจจุบันมีร้านอาหารที่ได้ปรับรสชาติของแกงไตปลาให้มีความนุ่มนวลมากขึ้น มีความเผ็ดน้อยลง เหมาะกับผู้บริโภคที่ไม่สามารถรับประทานอาหารรสจัดมากได้ แต่ยังคงคุณประโยชน์ของแกงไตปลา ซึ่งในท้องตลาดนอกจากจะมีแกงไตปลาสดจำหน่ายแล้ว ผู้บริโภคยังสามารถหาซื้อแกงไตปลาสำเร็จรูป เช่น แกงไตปลาบรรจุกระป๋อง แกงไตปลาคั่วแห้งบรรจุกระป๋องหรือบรรจุถุง ที่สะดวกต่อการบริโภค เก็บรักษาได้นาน โดยในการซื้อผลิตภัณฑ์แกงไตปลาสำเร็จรูป ควรสังเกตผลิตภัณฑ์ที่ได้เครื่องหมาย อย. (มาตรฐานสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา) หรือ มผช. (มาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน) เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและความปลอดภัย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top