Thursday, 15 May 2025
TheStatesTimes

‘นิด้าโพล’ ชี้ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท ไม่คุ้มค่าครองชีพ ที่ปรับสูงตาม ปชช. ส่วนใหญ่ ‘ไม่เชื่อมั่น’ รัฐบาลจะปรับขึ้นได้ทัน 1 ต.ค.นี้

(12 พ.ค.67) ศูนย์สำรวจความคิดเห็น ‘นิด้าโพล’ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชน เรื่อง ‘ค่าแรงขึ้น…คุ้มมั๊ย กับ ค่าแกง?’ ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 3-7 พฤษภาคม 2567 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,310 หน่วยตัวอย่าง

จากการสำรวจเมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการทยอยปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำของรัฐบาล พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 44.50 ระบุว่า เห็นด้วยกับการทยอยปรับขึ้นทั่วประเทศ เริ่มวันที่ 1 ตุลาคม 2567 นี้ รองลงมา ร้อยละ 25.34 ระบุว่า ควรปรับขึ้นเท่ากันทั่วประเทศทันที ไม่ต้องรอวันที่ 1 ตุลาคม 2567 ร้อยละ 16.41 ระบุว่า ไม่เห็นด้วยกับการปรับขึ้นค่าแรง 400 บาท ทั่วประเทศในปีนี้ ร้อยละ 13.05 ระบุว่า ควรปรับขึ้นทั่วประเทศโดยไม่มีการทยอยปรับ เริ่มวันที่ 1 ตุลาคม 2567 นี้ และร้อยละ 0.70 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

ด้านความเชื่อมั่นของประชาชนว่าคณะกรรมการค่าจ้างจะเห็นด้วยกับข้อเสนอของรัฐบาล พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 40.23 ระบุว่า ไม่ค่อยเชื่อมั่น รองลงมา ร้อยละ 24.12 ระบุว่า ไม่เชื่อมั่นเลย ร้อยละ 20.84 ระบุว่า ค่อนข้างเชื่อมั่น ร้อยละ 10.23 ระบุว่า เชื่อมั่นมาก และร้อยละ 4.58 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

สำหรับความเชื่อมั่นของประชาชนว่ารัฐบาลจะเริ่มทยอยปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ในวันที่ 1 ตุลาคม 2567 พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 39.01 ระบุว่า ไม่ค่อยเชื่อมั่น รองลงมา ร้อยละ 25.95 ระบุว่า ไม่เชื่อมั่นเลย ร้อยละ 23.36 ระบุว่า ค่อนข้างเชื่อมั่น ร้อยละ 9.92 ระบุว่า เชื่อมั่นมาก และร้อยละ 1.76 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

และเมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำจะคุ้มกับค่าอาหารและค่าครองชีพในปัจจุบัน พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 60.84 ระบุว่า เชื่อว่าค่าแรงที่ปรับขึ้น จะไม่คุ้มกับค่าอาหาร ค่าครองชีพที่อาจจะสูงขึ้น รองลงมา ร้อยละ 23.97 ระบุว่า เชื่อว่าค่าแรงที่ปรับขึ้น จะคุ้มกับค่าอาหาร ค่าครองชีพที่อาจจะสูงขึ้น ร้อยละ 9.46 ระบุว่า เชื่อว่าค่าแรงที่ปรับขึ้น ไม่ใช่เหตุผลหลักที่ทำให้ค่าอาหาร ค่าครองชีพสูงขึ้น ร้อยละ 4.89 ระบุว่า เชื่อว่าค่าแรงที่ปรับขึ้น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับค่าอาหาร ค่าครองชีพที่สูงขึ้น และร้อยละ 0.84 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

จับกระแส!! เดินเครื่องเศรษฐกิจไทย มองยังไงก็ไม่เห็นความชัดเจน หลังผู้ประกอบการแห่ 'ปิดกิจการ-เลิกจ้าง' โครงการใหญ่ก็ค้างเงียบ

ปรากฏการณ์การปรับ ครม. ของรัฐบาล นายกฯ เศรษฐา ทวีสิน เพื่อเดินเครื่องเศรษฐกิจประเทศไทย แต่งตั้ง ทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ นำโดย รองนายกฯ นายพิชัย ชุณหวชิร ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมแต่งตั้งรัฐมนตรีช่วยเพิ่มอีก 1 ตำแหน่ง นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล จาก เลขานุการ รมว.คลัง ขยับมาเป็น รมช.คลัง ทำให้กระทรวงการคลัง มีรัฐมนตรี 4 คน เต็มอัตราศึก พร้อมรบกู้วิกฤตเศรษฐกิจ  
แต่จากนั้นเพียงไม่กี่วัน หลังจากแบ่งงานภายในกระทรวง นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รมช.คลัง ได้ยื่นใบลาออกจากตำแหน่ง สะท้อนความไม่พอใจต่อ รมว.คลังใหม่ป้ายแดง ส่งผลกระทบต่อรัฐบาล หลังจาก นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เพิ่งยื่นใบลาออกเพียงสัปดาห์เดียว สะท้อนถึงการจัดวางทีมรัฐมนตรีของ นายกฯ เศรษฐา ที่เริ่มเห็นความขัดแย้ง รอยร้าว ของรัฐบาล เพิ่มมากขึ้น

เศรษฐกิจไทย ที่รัฐบาลหวังจะกระตุ้น จาก โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet (ดิจิทัลวอลเล็ต) ก็ยังไม่อาจคาดหวังได้เต็มร้อย ราคาสินค้าอุปโภคบริโภค ก็แทบจะปรับตัวยกแผง ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ปรับตัวสูงขึ้น กองทุนน้ำมันเริ่มแบกไม่ไหว 

การประกาศปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ พร้อมข่าวการทยอยปิดกิจการของผู้ประกอบการ ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา นำโดยกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม...

- 27 พฤศจิกายน 2566 บริษัท คิตากาว่า (ประเทศไทย) จำกัด ได้ประกาศปิดกิจการแบบถาวร
- 30 พฤศจิกายน 2566 บริษัท ทีเอ็มที โมลด์ เทคโนโลยี จำกัด ประกาศปิดกิจการ

- 28 ธันวาคม 2566 บริษัท โรงงานผลิตเหล็กกรุงเทพฯ จำกัด ประกาศเลิกจ้างพนักงาน
- 27 เมษายน 2567 วอยซ์ ทีวี (Voice TV) ประกาศยุติการออกอากาศ ตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป 

- 29 เมษายน 2567 บริษัทขายรถมือสอง สัญชาติอินเดีย CARs24 ประกาศปิดกิจการ 
- 30 เมษายน 2567 'อร่อยดี' แบรนด์ร้านอาหารไทยจานด่วน ในเครือ CRG โพสต์แจ้งปิดทุกสาขา 

- และ 1 พฤษภาคม 2567 ต้อนรับวันแรงงาน บริษัท วี.เอ็ม.ซี. เซฟตี้กลาส (ประเทศไทย) จำกัด โรงงานย่านเทพารักษ์ ก็ปิดกิจการจากการขาดสภาพคล่อง

หากดูข้อมูลจาก กรมโรงงานอุตสาหกรรม พบว่า ไตรมาสแรกปี 2567 มีโรงงานปิดกิจการพุ่งสูงถึง 367 แห่ง ส่งผลให้สูญเสียเงินลงทุนรวมกว่า 9,417.27 ล้านบาท และพนักงานถูกเลิกจ้างมากถึง 10,066 คน ...!!!

ข่าวคราวการเชิญชวนนักลงทุนต่างชาติ เข้ามาลงทุนในประเทศ ก็เริ่มมีสัญญาณไม่ดี โดยเฉพาะโครงการแลนด์บริดจ์ อภิมหาโปรเจ็กต์ 1 ล้านล้านบาท เส้นทางชุมพร-ระนอง ข่าวคราวของโครงการเงียบหายไปพักใหญ่แล้ว ... ความเคลื่อนไหวล่าสุดของโครงการนี้คือ การจัดโรดโชว์ ที่ประเทศจีน Thailand Landbridge Roadshow เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมา ที่กรุงปักกิ่งโดย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นับจากโรดโชว์ครั้งแรกเมื่อปลายปีที่แล้ว จนถึงครั้งล่าสุดโครงการแลนด์บริดจ์ ‘มีแต่ผู้สนใจ’ แต่ยังไม่มีข่าวเลยว่า จะมีใครแสดงความต้องการที่จะ ‘เข้ามาลงทุน’ อย่างจริงจัง แม้แต่รายเดียว 

นายกฯ เดินสายบินพบผู้นำต่างประเทศ ทำสถิติ ใน 6 เดือน กว่า 16 ประเทศ และเตรียมเดินทางไปเยือนประเทศฝรั่งเศส และอิตาลี ในช่วงระหว่างวันที่ 15-21 พฤษภาคม 2567 นี้ จากนั้นในวันที่ 22-24 พฤษภาคม 2567 นายกฯ และคณะ จะเดินทางไปญี่ปุ่น ภาพการเจรจาการค้าของนายกฯ ที่ได้ฉายาจากสื่อ ว่า ‘เซลล์แมน’ ผลงานการดึงดูดนักลงทุน ก็ยังไม่มากเท่าที่ควร

ลุ้นกันต่อ ... ลุ้นว่า ประชาชน จะช่วยกันประครองสภาพการเงินของตนเอง ให้ผ่านพ้นปีนี้ไปให้ได้ ลุ้นว่า ผู้ประกอบการ SME รายเล็ก ๆ ที่เป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ให้ยังคงมีเม็ดเงินจ้างแรงงาน ต่อไปได้ ... ลุ้นจริง ๆ   

เปิด 7 กลุ่มน่าสงสัย เอี่ยวนมโรงเรียนหายช่วงเปิดเทอมใหม่นี้ 'ธรรมนัส' โปรดทราบ!! เข้ามารื้อระบบ ตัดวงจรทุจริตด่วน

'กรมปศุสัตว์' ตื่นแล้ว!! หลังจาก #นายหัวไทร เขียนกระตุกไปเมื่อวันก่อน ถึงการเก็บงำไว้ซึ่งตัวเลขยอดปริมาณน้ำนมดิบ จนคณะอนุกรรมการจัดสรรพื้นที่ แบ่งโควตาไม่สามารถทำงานขยับได้ ซึ่งอาจทำให้เด็กนักเรียนไม่มีนมดื่มในวันเปิดเทอมปีการศึกษาใหม่นี้

ที่ว่าตื่นแล้ว เพราะข้อมูลตัวเลยยอดปริมาณน้ำนมดิบ น่าจะถึงมือคณะอนุกรรมการจัดสรรโควตาแล้ว ทางคณะอนุกรรมการจัดสรรโควตาจึงได้ส่งหนังสือเรียกประชุมถึงผู้ประกอบการนมโรงเรียน โดยทุกเขตจะมีการประชุมกันในวันที่ 13 พฤษภาคมนี้ แต่ขบวนการผลิตยังไม่แน่ใจว่า จะทันเปิดเทอมในวันที่ 16 พฤษภาคมหรือไม่ เพราะมีเวลาในการเตรียมการผลิตแค่ 2 วัน

น่าแปลกใจว่าทำไมปีนี้ถึงเกิดความล่าช้าในการประกาศยอดน้ำนมดิบ ไม่มีการประชุม ไม่มีการออกประกาศจัดสรรโซนการผลิต และจำหน่ายนมโรงเรียน ทั้งๆ ที่โรงเรียนจะเปิดการเรียนการสอนในอีก 5 วันข้างหน้าแล้ว แต่กลับเพิ่งแจ้งยอด และเรียกประชุมผู้ประกอบการนมโรงเรียนเมื่อวานนี้ (11) เอง

“ปีนี้ทุกอย่างถูกเก็บงำไว้ที่ส่วนกลางหมด ไม่มีอะไรแพร่งพรายออกมา ทำให้น่าสงสัยยิ่งว่าเกิดอะไรขึ้น ผู้ประกอบการโรงนมโรงเรียนรอด้วยใจจดจ่อ กลัวเด็กนักเรียนจะไม่ได้กินนม” แหล่งข่าวในวงการนมโรงเรียนกล่าว

น่าจะเป็นที่แน่แท้แล้วว่า เปิดเทอมนี้ เด็กนักเรียนจะยังไม่ได้กินนมแน่นอน ด้วยความไม่ชัดเจนในการจัดสรรพื้นที่ผลิต-จำหน่ายนมโรงเรียน แหล่งข่าวกล่าวย้ำ

รายงานข่าวกล่าวอีกว่า องค์การส่งเสริมกิจการโคนม (อสค.) ซึ่งเป็นเลขาฯ ของคณะกรรมการการจัดสรรนมโรงเรียน ก็ไม่รับรู้อะไรเลย การประชุมก็ไม่เชิญ อสค.เข้าร่วม

กล่าวสำหรับการบริหารจัดการนมโรงเรียนจะมีหลายส่วนเข้ามาเกี่ยวข้อง ตั้งแต่ต้นทางคือ เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม ไปจนถึงปลายทางคือโรงเรียนที่รับนมไปแจกนักเรียน

นอกจากนี้ยังมีอีกหลายส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างน้อย 7 กลุ่ม ได้แก่...

1.คณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นม หรือมิลค์บอร์ด โดยมีปลัดเกษตรฯ เป็นประธานฯ เป็นผู้รับรองบันทึกข้อตกลงซื้อขายน้ำนมโคหรือ MOU จะรับรองข้อมูลจริง หรือสร้างข้อมูลขึ้นว่า ก็ไม่รู้ ผู้ประกอบการรายใหญ่จะมีอิทธิพลต่อการกำหนดการซื้อขายน้ำนมดิบ

2.กรมส่งเสริมสหกรณ์ กำกับดูแลการซื้อขายน้ำนมดิบระหว่างศูนย์รวบรวมน้ำนมดิบกับผู้ประกอบการทั้งหมด อาจจะมีช่องว่างให้มีการสร้างข้อมูลปริมาณน้ำนมดิบไม่ตรงกับข้อเท็จจริงได้ มีจำนวน ปริมาณน้ำนมดิบมากกว่าความเป็นจริงที่มีอยู่ เพื่อหวังผลประโยชน์

3.กรมปศุสัตว์ มีหน้าที่กำหนดหลักเกณฑ์และจัดสรรสิทธิการจำหน่ายนมโรงรียนให้กับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการฯ ปีนี้จนถึงวันนี้ (12 พ.ค.) ยังไม่มีการออกประกาศจัดสรรพื้นที่จำหน่าย

4.ชุมนุมสหกรณ์โคนมแห่งประเทศไทย เป็นกลุ่มสนับสนุนการทำ MOU ซื้อขายน้ำนมดิบ เคยมีปัญหามาแล้วในอดีต

5.สมาคมกลุ่มเกษตรกรผู้รวบรวมน้ำนมดิบ เป็นตัวปั้นข้อมูล ซึ่งเป็นแหล่งรวมศูนย์รรวมน้ำนมดิบภาคเอกชนทั้งหมด ตัวเลขน้ำนมดิบจะจริงจะเท็จ จะเกินจริงหรือไม่อยู่ตรงนี้ เคยมีข่าวไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้นอยู่ ณ จุดนี้

6.สมาคมผู้ผลิตนมพาสเจอร์ไรส์  เป็นแหล่งรวบรวมผู้ประกอบการธุรกิจนมโรงเรียนเพียงอย่างเดียว มีสมาชิกที่มีเจ้าของกิจการแทบจะเป็นรายเดียวกัน หรือเป็นเครือข่ายเพื่อกระจายกันในการขอรับจัดสรรสิทธิจำหน่ายนมโรงเรียนเป็นจำนวนมากที่สุดของประเทศ 

7.สมาคมอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหารนมไทย เป็นฝ่ายสนับสนุนข้อมูลการไซฟ่อนนม เช่น ทำเอ็มโอยู ทำคล้ายบัญชีม้า โดยมีผู้ประกอบการบางราย จะคอยรับซื้อน้ำนมดิบที่เหลือจากการลดสัดส่วนของโครงการนมโรงเรียนในราคาถูก เป็นการซื้อนอก MOU กับบัญชีม้าที่ทำไว้ หรือที่ไม่มีบัญชีไว้เลยก็มี

ขบวนการเหล่านี้ทำให้การประกอบการนมโรงเรียนยุ่งยาก และซับซ้อน เกิดช่องว่างให้เกิดการทุจริตคอร์รัปชัน รวมถึงการเรียกรับผลประโยชน์

กลุ่มผู้ประกอบการโรงนมในกิจการนมโรงเรียนเคยร้องเรียนถึง รอ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์มาแล้ว แต่ปัญหาก็ยังดำรงอยู่ และยังมาซ้ำร้ายเกี่ยวกับความล่าช้าในการจัดสรรพื้นที่ผลิต-จำหน่ายในปีนี้แทรกซ้อนเข้ามาอีก

"อยากเรียกร้องให้ รอ.ธรรมนัส เข้ามาดูปัญหาตรงนี้ รื้อระบบที่ส่อว่าจะทุจริต หรือเปิดช่องให้มีการเรียกรับ สร้างมาตรฐานกลางที่ไม่ต้องมารื้อ หรือออกประกาศใหม่กันทุกปี"

เปิดเทอมปีนี้น่าจะได้ยินเสียงเด็ก-ผู้ปกครอง คร่ำครวญ "นมโรงเรียนหายไปไหน ใครงาบไปกินหรือเปล่า?"

‘นักท่องเที่ยว’ แห่เที่ยวเชียงใหม่ ‘ใส่ชุดไทย-กินอาหารพื้นเมือง-ซื้องานคราฟต์’  ยอดจองห้องพักเพิ่ม เพราะเป็น ‘ช่วงปิดเทอมของจีน-โกลเด้นวีคของญี่ปุ่น’

(12 พ.ค.67) อากาศที่สดใสไร้มลพิษหลังฤดูฝุ่นควันสิ้นสุดลง ส่งผลบรรยากาศตามแหล่งท่องเที่ยวในเมืองเชียงใหม่คึกคักมากขึ้น  โดยในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ที่ตลาดจริงใจมาร์เก็ต อ.เมืองเชียงใหม่ เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งไทย และต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีนที่พากันมาเดินเที่ยวชมงานศิลปะและเลือกซื้อสินค้างานคราฟต์ ที่มีความโดดเด่นไม่เหมือนใคร รวมทั้งลิ้มลองอาหารพื้นเมืองเลื่องชื่อของเมืองเชียงใหม่ สภาพอากาศที่ปลอดโปร่งแจ่มใสยังทำให้นักท่องเที่ยวพากันเลือกมุมถ่ายภาพและไลฟ์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์อวดคนที่บ้านด้วย

นายพัลลภ แซ่จิว ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ บอกว่า การท่องเที่ยวในช่วงฤดูฝนของจังหวัดเชียงใหม่เป็นอีกเทรนด์ท่องเที่ยวที่ได้รับความที่นิยม หลายคนต้องการมาสัมผัสความสดชื่นและความบริสุทธิ์ของธรรมชาติในช่วงฤดูฝน วันนี้ยอดจองห้องพักเริ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ นักท่องเที่ยวกลุ่มหลักกว่าร้อยละ 80 ยังเป็นนักท่องเที่ยวจีนจากแผ่นดินใหญ่

คาดการว่ากรีนซีซั่นเชียงใหม่ปีนี้การท่องเที่ยวจะคึกคัก โดยเฉพาะช่วงเดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายนที่เป็นทั้งช่วงปิดเทอมของจีนและโกลเด้นวีคของญี่ปุ่นที่มีวันหยุดยาวหลายวัน คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวบินตรงเข้าสู่เชียงใหม่ประมาณ 9 หมื่นคน ไม่นับรวมกับกลุ่มชาติตะวันตกที่บินต่อเนื่องมาจากกรุงเทพมหานคร

ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ บอกด้วยว่า พฤติกรรมการเที่ยวของนักท่องเที่ยวจีนปัจจุบันนิยมมาด้วยตัวเองกันมากถึงร้อยละ 80 เนื่องจากมีข้อมูลมากขึ้นรวมทั้งความสะดวกสบายในการเดินทาง จากเส้นทางบินตรงหลายจากหลายเมืองของจีน  ล่าสุดจังหวัดเชียงใหม่ยังเชิญติ๊กต๊อกเกอร์ชื่อดัง ที่มีผู้ติดตามหลายล้านคนจากประเทศจีน มาเที่ยวชมแหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง และสัมผัสกับกิจกรรมยอดนิยม ทั้ง ปางช้าง ซิปไลน์ คุ๊กกิ้งคลาส นวดสปา และ แหล่งเที่ยวไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ ซึ่งทั้งหมดนี้จะถูกเผยแพร่เพื่อเชิญชวนและดึงนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้ามาอีกจำนวนมาก

'ผู้บริหารจีน' ชิ่งลาออก!! หลังถูกจับได้ว่าไม่สนใจคุณภาพชีวิตพนักงาน  ภายใต้กระแสคนจีนต่อต้านวัฒนธรรมการทำงานหนักแบบอุทิศชีวิต

(12 พ.ค.67) เพจ 'อ้ายจง' ได้โพสต์ข้อความในกรณีที่ผู้บริหารฝ่าย PR ของบริษัทยักษ์ใหญ่จีนลาออกหลังแสดงทัศนคติ สนับสนุนการทำงานหนัก ไม่สนใจ Work-Life Balance ว่า...

ประเด็นนี้เป็นเรื่องราวของผู้บริหารหญิงฝ่ายประชาสัมพันธ์ของ Baidu ที่กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียลจีนเมื่อเร็วๆ นี้ หลังมีการเปิดเผยคลิปหลายคลิปที่แสดงถึงทัศนคติของเธอที่สนับสนุนการทำงานหนัก โดยไม่คำนึงถึงเวลาส่วนตัวหรือคุณภาพชีวิตของพนักงาน

โดยมีบางท่อนในการวิพากษ์วิจารณ์พนักงานคนหนึ่งที่ปฏิเสธการเดินทางไปดีลเรื่องธุรกิจเรื่องงานในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยกล่าวว่า "เหตุใดฉันจึงควรคำนึงถึงครอบครัวของพนักงานด้วย ฉันไม่ใช่แม่สามีของเธอ" 

นั่นเลยกลายเป็นดราม่าในโซเชียลจีนเลย โดยสื่อในจีนมีการรายงานถึงหุ้นของ Baidu ตก ราว 2.17% ในช่วงเวลาที่มีดราม่า

หลังจากโดนกระแสดรามาอย่างหนัก ผู้บริหารคนนี้จึงได้ออกมาขอโทษต่อสาธารณชน แสดงความเสียใจต่อความเข้าใจผิดที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ เธอยังให้คำมั่นว่าจะพัฒนาทักษะการสื่อสารของเธอและแสดงความเอาใจใส่ต่อเพื่อนร่วมงานมากขึ้น แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่ง

นอกจากนี้ ยังมีชาวเน็ตออกมาสำทับด้วยว่า สิ่งที่คทำงานยุคนี้ต่อต้าน จริงๆ แล้วไม่ใช่เรื่องของการทำงานหนักหรอก แต่ต่อต้าน การเอาเปรียบของบริษัทมากกว่า

โดยทางเพจได้โพสต์เสริมประเด็นนี้ ว่า...ทุกวันนี้คนจีนเรียกร้องเรื่องทำงานหนักจนไม่มีเวลาส่วนตัวกันมากขึ้น อย่างที่เคยได้ยินประเด็น 996 หรือ ทำงาน 9AM ถึง 9PM 6 วันต่อสัปดาห์ จนจุดให้เกิดกระแสต่อมาจากคนจีนรุ่นใหม่ที่เริ่มมีแนวคิดที่เรียกว่า 躺平 หรือ 'นอนราบ' ซึ่งเป็นภาวะหมดความทะเยอะทะยานในชีวิต คือ ปล่อยจอยแล้ว เพราะเริ่มสงสัยว่า แนวคิดที่เคยมีมาตั้งแต่สมัยก่อน เรื่องทำงานให้หนักแล้วจะสบายในภายภาคหน้า มันจริงหรือไม่ ด้วยสภาพสังคมที่แข่งขันสูงกดดันมากและภาวะเศรษฐกิจ จะเป็นแบบนั้นได้จริงๆ หรือ

'รมว.ปุ้ย' สั่ง 'ดีพร้อม' เร่งเยียวยาพี่น้องประชาชนในพื้นที่มาบตาพุด ระดมของใช้จำเป็น มอบให้คนในพื้นที่และชุมชนใกล้เคียง

(12 พ.ค.67) นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม สั่งการให้ นายภาสกรชัยรัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เร่งเยียวยาและฟื้นฟูให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการและพี่น้องประชาชนในพื้นที่จากเหตุเพลิงไหม้ถังเก็บวัตถุดิบสารไพโรไลสีส แก๊สโซลีนของบริษัท มาบตาพุดแทงค์เทอร์มินัล จำกัด จ.ระยอง โดยเน้นการเคียงข้าง พัฒนา และช่วยเหลือผู้ประกอบการและประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้ดังกล่าวโดยตรง เพื่อให้พี่น้องประชาชนและชุมชนมีขวัญกำลังใจที่ดี พร้อมทั้งเร่งสำรวจความต้องการในพื้นที่เพื่อเป็นการสร้างศักยภาพเกิดการสร้างรายได้ และอาชีพอย่างยั่งยืนในอนาคต

นายภาสกร ชัยรัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า จากเหตุเพลิงไหม้ดังกล่าว ทาง รมว.อุตสาหกรรม มีความกังวลและเป็นห่วงพี่น้องประชาชนที่อยู่รอบๆ บริเวณพื้นที่ที่เกิดเหตุ จึงได้สั่งการให้หน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงอุตสาหกรรมร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเยียวยาและให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างเร่งด่วน 

“กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม ขานรับข้อสั่งการดังกล่าว จึงได้มอบหมายให้ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมที่เป็นหน่วยรับผิดชอบในพื้นที่ เร่งลงพื้นที่และบูรณาการความร่วมมือกับอุตสาหกรรมจังหวัด และผู้ประกอบการของดีพร้อม ซึ่งเบื้องต้นจะเร่งระดมของใช้ที่จำเป็น เครื่องอุปโภคบริโภค เครื่องเวชภัณฑ์ มอบให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่และชุมชนใกล้เคียงที่ได้รับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้ดังกล่าวโดยตรง เพื่อให้พี่น้องประชาชนและชุมชนมีขวัญกำลังใจที่ดี พร้อมทั้งเร่งสำรวจความต้องการในพื้นที่เพื่อเป็นการสร้างศักยภาพ เกิดการสร้างรายได้ และอาชีพอย่างยั่งยืนได้ต่อไปในอนาคต” นายภาสกร กล่าว

นายภาสกร กล่าวต่อว่า จากผลการสำรวจ ดีพร้อม ได้เตรียมแผนระยะกลาง และระยะยาว ภายใต้โครงการ/กิจกรรมต่างๆ เพื่อฟื้นฟูผู้ประกอบการ ประชาชน ชุมชนโดยรอบและใกล้เคียงที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว เพื่อส่งเสริมและพัฒนาองค์ความรู้ ทักษะการประกอบธุรกิจให้พี่น้องประชาชน และชุมชนโดยรอบทั้งในด้านทักษะพื้นฐานการผลิต การบริการ และการใช้ความคิดสร้างสรรค์ 

ทั้งนี้ ดีพร้อม ได้มีการดำเนินการเช่นเดียวกันนี้ ในพื้นที่เทศบาลตำบลภาชี จ.อยุธยา ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้โกดังเก็บสารเคมี เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2567 และในพื้นที่ชุมชนหนองพะวา ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุไฟไหม้โรงงานวิน โพรเสส เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2567 โดย ดีพร้อมเตรียมแผนสำหรับการเยียวยาและฟื้นฟูพร้อมให้ความช่วยเหลือชุมชนอย่างเต็มที่

‘YG’ ประกาศขาดทุน 7 พันล้านวอน หลังชวดต่อสัญญา ‘ลิซ่า BLACKPINK’

(12 พ.ค.67) YG Entertainment อดีตค่ายเพลงของ ลิซ่า BLACKPINK ประกาศผลประกอบการไตรมาสแรกของปีที่ 10 พบว่าการไม่มีอยู่ของวงดังส่งผลกระทบให้ค่ายเพลงขาดทุนทันที 7,000,000,000 วอน ซึ่งต่างจากปีก่อนช่วงเวลาเดียวกัน บริษัททำกำไร 36,500,000,000 วอนและตั้งแต่หมดสัญญาราคาหุ้นก็ตกลงอย่างต่อเนื่อง ในช่วงเวลาแค่ 6 เดือน หุ้นของบริษัทตกลงมาเกือบ 30%

ทางบริษัทอ้างว่าการขาดทุนนี้มาจากการลงทุนใน 
ทรัพย์สินทางปัญญา และการปั้นวงใหม่ชื่อ BABYMONSTER โดยไม่ได้กล่าวถึงวง BLACKPINK แต่อย่างใด

และถึงแม้ทางค่ายจะพยายามต่อสัญญากับ ‘ลิซ่า’ ด้วยราคาแพงหูฉี่ 2,700 ล้านบาท แต่ลิซ่าก็ปฏิเสธ และไปเซ็นสัญญาแบบพาร์ตเนอร์กับ RCA รับเงินค่าสัญญาพร้อมอิสรภาพในการทำเพลงรวมถึงได้ครอบครองลิขสิทธิ์ผลงานตนเองในราคา 6,000 ล้านบาท

‘พีเค’ ขอโทษ ยอมรับผิด ลั่น!! อยากเดินหน้าจีบ ‘อดีตภรรยา’ ชี้!! คนที่ตนอยากเห็นหน้าในทุกเช้าคือ ‘โยเกิร์ต’ 

(12 พ.ค.67) กลายเป็นข่าวที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์สนั่นโลกโซเชียล กับเรื่องราวของพิธีกรหนุ่ม ‘พีเค ปิยะวัฒน์’ ที่ก่อนหน้านี้ถูกนางแบบสาวชาวเวียดนาม ‘โจลี่ เหงียน’ ออกมาแฉว่าเป็นสตอล์กเกอร์

ก่อน พีเค จะออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ขอเลิกยุ่งกับ ‘โจลี่ เหงียน’ 100 % ซึ่งที่ผ่านมาเคยคบกับ ‘โจลี่ เหงียน’ หลังจากหย่ากับ ‘โยเกิร์ต’ และฝ่ายหญิงก็เคยแนะนำตัวเองว่าเป็นแฟนกับเพื่อนๆเขา พร้อมยืนยันตัวเองไม่ใช่สตอล์กเกอร์อย่างที่ถูกอีกฝ่ายแฉ

ล่าสุดทาง ‘พีเค ปิยะวัฒน์’ ก็ได้ออกมาพูดถึงโอกาสที่จะกลับมารีเทิร์นกับ ‘โยเกิร์ต’ โดยพีเคได้เปิดใจว่า “เรายังคุยกันตลอด ยังดูแลหมาด้วยกัน ตนถามเสมอว่าจีบใหม่ได้ไหม”

ซึ่งทาง โยเกิร์ต ก็ตอบว่า “ยังไม่ใช่ตอนนี้ ถามว่าตนมีหวังไหม มันก็หวังจะได้ใช้ชีวิตด้วยกัน โยคือคนที่ตนอยากเห็นหน้าในทุกเช้า ตนยังหวังดีและรักเขาเหมือนเดิม ที่ผ่านมาตนรู้ว่าตนพลาด ตนขอโทษและยอมรับความผิดตลอดเวลา ตนยอมรับทุกๆอย่าง”

‘สส.ก้าวไกล’ ฟ้องหมิ่นประมาท ‘อ.ทัน’  เหตุตั้งคำถาม ‘หนีเกณฑ์ทหารมาหรือไม่?’

(12 พ.ค.67) เพจ ‘วันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร-สำรอง’ ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับเรื่องที่ สส.แบงค์ ศุภณัฐ มีนชัยนันท์ สส.จากพรรคก้าวไกล ได้ยื่นฟ้อง อ.ทัน แนวร่วมเพจฯ ด้วยคดีหมิ่นประมาท ม.326 และ ม.328 รวมทั้งหมด 7 กรรม โดยได้ระบุว่า ...

#ทุกคนคะ สส.แบงค์ ฟ้อง อ.ทัน แนวร่วมเพจฯ ด้วยคดีหมิ่นประมาท ม.326 และ ม.328 รวมทั้งหมด 7 กรรม 

ตัวอย่างถ้อยคำที่ถูกฟ้อง อ.ทัน ถามว่า " คุณศุภณัฐ มีนชัยนันท์ ครับ คุณก็หนีทหารนี่ครับ ใช่ไหมครับ บอกหน่อยครับ "

โดย สส. แบงค์ ขอ ศาลเรียกร้อง 4 ข้อ ดังนี้

1. ขอให้ อ.ทัน ลบข้อความบน X ออก
2. ขอให้ อ.ทัน โพสต์ขอโทษ 30 วัน
3. ขอให้ อ.ทัน ชดใช้ค่าเสียหาย 5 ล้านบาท รวมดอกเบี้ย
4. ขอให้ อ.ทัน จ่ายค่าธรรมเนียมและค่าทนาย

คิดเห็นอย่างไรกันบ้างคะ

‘ดร.เสรี’ ชี้ ‘ข้าว 10 ปี’ กินไม่ได้ เพราะมีสารพิษ เป็นอันตรายต่อร่างกาย ฟาด!! ‘ภูมิธรรม’ แสดงละครกินโชว์ หวังผลเอา ‘คนหนีคุก’ กลับประเทศ

(12 พ.ค.67) ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านการตลาดและการสื่อสาร โพสต์ข้อความเกี่ยวกับกรณีที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งมีความพยายามในการจะนำเอาข้าวเก่า 10 ปี ออกมาขาย โดยได้ระบุว่า … 

อาจารย์เคมีนำข้าว 10 ปีไปทำการพิสูจน์ตามหลักวิชาการ ได้ผลออกมาบอกว่าข้าว 10 ปีกินไม่ได้ เพราะมีสารพิษ เป็นอันตรายต่อร่างกาย

หมอบอกว่ากินไม่ได้เพราะมี Aflatoxin ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง คนทำธุรกิจข้าวบอกว่าเกิน 2 ปี ก่อมีเชื้อราแล้ว เหม็นหืน กินไม่ดี 
คนส่วนใหญ่ซาวข้าว 1-2 น้ำเท่านั้นเพื่อทำความสะอาดข้าวและรักษาคุณค่าทางอาหารของข้าว ไม่มีใครซาวข้าว 15 น้ำ

รัฐมนตรีพาณิชย์ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีพรรคร่วม บอกว่ากินได้ และมีการกินโชว์ให้ดู สื่อมวลชนที่เป็นนายแบก นางแบกทั้งหลายก็ร่วมเป็นตัวแสดงในการแสดงละครนี้ด้วย กินโชว์แค่หนเดียวอาจจะไม่เป็นอะไร แต่ถ้าชาวบ้านซื้อไปกินต่อเนื่องเป็นเดือนเป็นปี ผลลัพธ์อาจจะต่างกัน

กรมวิทยาศาสตร์บริการจะช่วยพิสูจน์ด้วยไหมคะ อย. จะมีบทบาทอะไรได้บ้างคะ นี่เป็นเรื่องอาหารนะ สคบ. จะคุ้มครองผู้บริโภคยังไงได้บ้างคะ

ถ้าพ่อค้าประมูลมาใส่ถุงขาย ประชาชนไม่รู้ ซื้อมากินต่อเนื่อง ถ้ามีปัญหาทางด้านสุขภาพกันมากๆ จะทำยังไง แล้วที่จะส่งไปขายAfrica ภาพลักษณ์ของข้าวไทยในตลาดโลกจะเป็นยังไง ลูกค้ายังจะเชื่อถือข้าวไทยอีกไหม

จะซักข้าว 10 ปี เพื่อซักผิดในอดีตคงไม่ได้หรอกนะ

นี่คือสารตั้งต้นของการเอาคนหนีคุกกลับประเทศหรือเปล่า อย่าทำอะไรล้ำเส้นมากเกินไปเลยนะ แค่นี้คนไทยก็เอือมระอาเต็มทนแล้ว

แทนที่จะ ‘ทำงาน’ ทำไมจึง ‘ทำแต่เรื่อง’ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำหน้าที่กันหน่อยนะคะ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top