Sunday, 8 June 2025
TheStatesTimes

22 ธันวาคม 2431 เสียดินแดนครั้งที่ 8 สยามสูญเสียดินแดนสิบสองจุไทให้ฝรั่งเศส

เมื่อ 22 ธันวาคม 2431 ประเทศสยามต้องทำสัญญากับฝรั่งเศสที่เมืองแถง (ปัจจุบันคือเมืองเดียนเบียนฟูในประเทศเวียดนาม) ส่งผลให้สยามสูญเสียดินแดนสิบสองจุไทและหัวพันทั้งห้าทั้งหกให้กับฝรั่งเศส โดยพื้นที่กว่า 87,000 ตารางกิโลเมตร ซึ่งปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของบริเวณภาคตะวันตกเฉียงเหนือของเวียดนาม ที่ติดต่อกับแขวงพงศาลีของลาว

ดินแดนสิบสองจุไทเคยเป็นบ้านของชาวไทน้อย ซึ่งประกอบไปด้วยชาวไทดำ ไทขาว และไทพวน มีทั้งหมด 12 เมืองที่มีเจ้าผู้ปกครองเป็นของตัวเอง ส่วนหัวพันทั้งห้าทั้งหกประกอบด้วยหกเมืองที่มีการปกครองอิสระเช่นกัน ในยุคก่อนหน้านี้ ดินแดนเหล่านี้เคยเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรล้านช้าง และต่อมาเป็นประเทศราชของสยาม

ในสมัยรัชกาลที่ 5 เกิดการกบฏของกลุ่มจีนฮ่อที่เข้ามายึดครองพื้นที่ทางภาคเหนือของสยาม และส่งผลให้ไทยต้องส่งกองทัพเข้าไปปราบปราม ซึ่งแม้จะได้รับชัยชนะ แต่ฝรั่งเศสซึ่งขยายอิทธิพลในเวียดนามได้อ้างสิทธิ์ในดินแดนสิบสองจุไทและหัวพันทั้งห้าทั้งหก

การเจรจาระหว่างไทยและฝรั่งเศสที่เมืองแถงในปี 2431 ทำให้ไทยต้องยอมรับให้ฝรั่งเศสควบคุมดินแดนสิบสองจุไท โดยฝรั่งเศสยังคงตั้งทหารอยู่ในพื้นที่สิบสองจุไท ขณะที่ทหารไทยอยู่ที่หัวพันทั้งห้าทั้งหก และไม่ให้ฝ่ายใดละเมิดเขตแดนของกันและกัน  แม้ต่างฝ่ายต่างยืนยันสิทธิเหนือดินแดนสิบสองจุไทและหัวพันทั้งห้าทั้งหก และต้องการให้อีกฝ่ายถอนกำลังทหารออกไป แต่ฝรั่งเศสมีกองทัพที่แข็งแกร่งกว่าไทย และดินแดนพิพาทยังอยู่ใกล้กับญวนมากกว่าไทย หากเกิดสงครามขึ้นจริงก็ยากที่ไทยจะเป็นฝ่ายชนะ

จากการทำสัญญาดังกล่าว สยามจึงสูญเสียดินแดนสิบสองจุไทและหัวพันห้าทั้งหกให้กับฝรั่งเศส และในที่สุดก็เสียสิทธิเหนือดินแดนเหล่านี้อย่างสมบูรณ์ในอีก 5 ปีต่อมา ในเหตุการณ์วิกฤติการณ์ ร.ศ. 112

‘เอกนัฏ’ ยัน 'โตโยต้า' พร้อมรักษาฐานผลิตในไทย อัดเงินลงทุนกว่า 5.5 หมื่นล้าน อัปเกรดผลิตรถไฮบริด

‘เอกนัฏ’ เผย โตโยต้า ยืนยันรักษาฐานการผลิตในไทย พร้อมอัดเงินลงทุนกว่า 5.5 หมื่นล้านบาท อัปเกรดฐานผลิตสู่ไฮบริด พร้อมเดินหน้าถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตชิ้นส่วนสำคัญให้ไทย

(18 ธ.ค.67) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เผย การจัดงานมอบรางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี 2567 วันนี้ได้มีการเชิญน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มามอบรางวัลให้กับอุตสาหกรรมดีเด่น จำนวน 42 รางวัล ซึ่งมีทั้งอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ขนาดกลางและขนาดย่อม และรางวัลสูงสุดในฐานะอุตสาหกรรมยอดเยี่ยมมีการมอบรางวัลให้กับบริษัท โตโยต้า ซึ่งได้รับเกียรติจาก นายอากิโอะ โตโยดะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น มารับรางวัลด้วยตนเอง

ทั้งนี้ นายเอกนัฏ เปิดเผยว่า ก่อนเข้ารับรางวัล นายอากิโอะ ได้เข้าหารือกับนายกรัฐมนตรี และได้รับคำยืนยันว่า ทางโตโยต้าจะรักษาฐานการผลิตรถยนต์ในประเทศไทย และจะนำเม็ดเงินมาลงทุนไม่ต่ำกว่า 5.5 หมื่นล้านบาท โดยเป็นการลงทุน เพื่ออัปเกรดสายการผลิตไปสู่รถไฮบริด 

ซึ่งจากเดิมที่เป็นฐานการผลิตของเครื่องยนต์สันดาปภายใน ก็จะมีการเพิ่มเติมในชิ้นส่วนไฟฟ้า เช่น มอเตอร์ เกียร์ ก็จะมีการลงทุนเพิ่ม ซึ่งจะมีการจ้างงาน และส่งต่อถ่ายทอดเทคโนโลยี มีการวิจัยและพัฒนาบุคลากรให้มีการเดินหน้าต่อ 

ทั้งนี้ตนเองได้ขอให้ทางบริษัทโตโยต้า เป็นทูตทางอุตสาหกรรมของกระทรวง ซึ่งจะเป็นตัวแทนของเราในการสื่อสาร เชื่อมโยงกับภาคเอกชน พร้อมกับย้ำว่า จะพยายามขับเคลื่อนอุตสาหกรรมให้ฟื้นกลับมา และดึงภาคเกษตรขึ้นมาด้วย

ดันให้เศรษฐกิจของประเทศโตขึ้นไม่ต่ำกว่า 1% นี้ถือเป็นความตั้งใจของตนที่ไม่ใช้เงินของประเทศแม้แต่บาทเดียว และไม่ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนและสิ่งแวดล้อมด้วย

ขณะที่ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โตโยต้าฯ ยินดีที่จะร่วมมือกับรัฐบาลไทยในการส่งเสริมภาคการผลิตและการส่งออกอุตสาหกรรมยานยนต์ในไทยให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง 

ภายหลังการหารือ นายโตโยดะและคณะ ได้เข้าร่วมพิธีมอบรางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น ประจำปี พ.ศ. 2567 (The Prime Minister’s Industry Award 2024) ซึ่งนายกรัฐมนตรีเป็นประธานมอบรางวัล ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล โดยบริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ได้รับรางวัลใน 3 สาขา 1) Prime Minister's BEST industry Award 2) MIND Ambassador Award และ 3) โรงงานสาขาเกตเวย์ จังหวัดฉะเชิงเทรา ได้รับรางวัลประเภท อุตสาหกรรมและบริการแห่งอนาคตอีกด้วย

ผบ.ตร.แสดงความเสียใจ สดุดีตำรวจกล้า ผบ.หมู่ สภ.เมืองกำแพงเพชร ที่เสียชีวิตถูกรถชนขณะปฏิบัติหน้าที่ตั้งจุดสกัดจับขบวนการขนแรงงานต่างด้าว สั่งจัดพิธีให้สมเกียรติ ดูแลสิทธิประโยชน์อย่างเต็มที่ พร้อมให้ถอดบทเรียนเพิ่มประสิทธิภาพการตั้งด่านตรวจ 

(18 ธ.ค.67) พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีรถขบวนการขนย้ายแรงงงานต่างด้าวชนเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกำแพงเพชร เสียชีวิตขณะตั้งด่าน ว่า ได้รับรายงานจาก สภ.เมืองกำแพงเพชร ก่อนเกิดเหตุตำรวจได้รับแจ้งจากสายลับ ว่าจะมีขบวนการลักลอบขนย้ายแรงงานต่างด้าวจาก อ.วังเจ้า จ.ตาก ผ่านพื้นที่ จ.กำแพงเพชร บริเวณพื้นที่ ต.นาบ่อคำ อ.เมือง จ.กำแพงเพชร จึงวางแผนจับกุม

โดยเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2567 เวลาประมาณ 23.30 น. ขณะตำรวจได้ตั้งจุดสกัดจับกุม บริเวณบนถนนหลวง 1116 (สายรอง) วังเจ้า - กำแพงเพชร หน้าอนามัยนาบ่อคำ บ้านหนองปิ้งไก่ ต.นาบ่อคำ อ.เมือง จ.กำแพงเพชร พร้อมใช้อุปกรณ์สกัดเจาะยางรถยนต์ไว้บนถนนในช่องทางการจราจรที่เปิดไว้ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจใช้ไฟฉายส่องให้สัญญาณเพื่อให้รถหยุด ได้มีรถคนร้ายขนแรงงานต่างด้าวตามที่ได้รับแจ้งผ่านมา โดยรถ 2 คันแรกได้เร่งความเร็วเข้าด่านแต่ถูกอุปกรณ์สกัดเจาะยางรถยนต์วางอยู่ ทำให้ล้อหน้าทั้งสองข้างยางรั่วไม่สามารถไปต่อได้ ส่วนคันที่ 3 มีนายทรงพลฯ เป็นคนขับ ไม่ยอมหยุดรถ แต่กลับพุ่งชนรถตำรวจที่จอดอยู่อย่างจัง ทำให้ตำรวจที่อยู่บริเวณดังกล่าวต้องกระโดดหลบด้วยความรวดเร็ว แต่ปรากฏว่าด้านท้ายของรถได้ฟาดร่างของ ส.ต.ท.ณัฐวัฒน์ ภวัตรัชต์พงษ์ ผบ.หมู่(ป.) สภ.เมืองกำแพงเพชร ที่ยืนปฏิบัติหน้าที่ กระเด็นไปฟาดกับเสาไฟส่องสว่างข้างทาง เสียชีวิตคาที่ และทำให้ ส.ต.ท.บุญญฤทธิ์ แก้วจาเครือ ผบ.หมู่(ป.) สภ.เมืองกำแพงเพชร ได้รับบาดเจ็บบริเวณหัวเข่า มีทรัพย์สินราชการเสียหายเป็นรถยนต์สายตรวจ 1 คัน หลังเกิดเหตุสามารถจับกุมผู้ต้องหาขับขี่รถยนต์นำพาคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองจำนวน 3 คน และผู้ต้องหาสัญชาติเมียนมา เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง 19 คน พร้อมของกลางรถยนต์กระบะ 3 คัน

ส่วนทางคดี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) หลังทราบเรื่องสั่งการให้ พล.ต.ท.กิติศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 และ พล.ต.ต.โอภาส คงเมือง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกำแพงเพชร ลงควบคุมคดี สอบสวนคดีด้วยตนเอง 

นอกจากนี้ โฆษก ตร. กล่าวว่า ผบ.ตร.ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของ ส.ต.ท.ณัฐวัฒน์ ภวัตรัชต์พงษ์ ผบ.หมู่(ป.) สภ.เมืองกำแพงเพชร ที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ นับเป็นการสูญเสียตำรวจน้ำดีของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมขอยกย่องสดุดี 'ส.ต.ท.ณัฐวัฒน์ฯ' เป็นตำรวจกล้า ที่ทำหน้าที่ 'ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์' ทุ่มเท อย่างเต็มกำลังความสามารถ ไม่หวาดหวั่น จนวาระสุดท้ายของชีวิต โดยสั่งการให้ สั่งการให้ตำรวจภูธรภาค 6 และตำรวจภูธรจังหวัดกำแพงเพชร จัดพิธีบำเพ็ญกุศลศพให้อย่างสมเกียรติ ดูแลสิทธิประโยชน์ และสวัสดิการต่าง ๆ อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ยังสั่งการให้งานป้องกันปราบปรามถอดบทเรียนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการตั้งด่าน จุดตรวจ จุดสกัดทั่วประเทศ ให้เกิดความปลอดภัยแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจยิ่งขึ้นทุกมิติ

รัสเซียเชื่อมือบงการสังหารนายพลฝ่ายนิวเคลียร์ เป็นฝรั่งผิวขาวพูดอังกฤษ มั่นใจลากตัวลงโทษให้ได้

(18 ธ.ค.67) กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียออกแถลงการณ์ ยืนยันว่าจะดำเนินการทุกวิถีทางนำตัวผู้เกี่ยวข้องในเหตุสังหารพลโท อิกอร์ คิริลอฟ หัวหน้าหน่วยป้องกันทางชีวภาพ, เคมี และรังสีของกองทัพรัสเซีย มาลงโทษให้ได้

คำแถลงจากมาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงต่างประเทศรัสเซียระบุว่า "เรามั่นใจว่าผู้ที่เป็นผู้จัดการและผู้ลงมือฆ่านายพลอิกอร์ คิริลอฟ จะต้องถูกจับกุมและนำตัวมาลงโทษ ไม่ว่าจะเป็นใครที่ไหนก็ตาม และเราขอประกาศไปยังผู้สนับสนุนระบอบเคียฟ, ผู้ที่เกลียดชังรัสเซียทุกรูปแบบว่า ในฐานะประเทศและประชาชน เราจะไม่ถูกข่มขู่ เรากำลังปกป้องความจริง"

ซาคาโรวา ยังกล่าวอีกว่า ผู้อยู่เบื้องหลังการก่อเหตุเป็นชนชาติแองโกล-แซกซอน (ฝรั่งผิวขาวพูดภาษาอังกฤษ) เป็นผู้ที่ได้รับประโยชน์หลักจากการโจมตีทางการก่อการร้ายในมอสโกครั้งนี้ โดยกล่าวว่า ระบอบเคียฟเพียงแค่ "เป็นเครื่องมือ" เท่านั้น โดยรัสเซียจะยกประเด็นการสังหารนี้ในการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในวันที่ 20 ธันวาคมนี้ด้วย

สำหรับพลโทคิริลอฟและผู้ช่วยของเขาถูกฆ่าตายจากการระเบิดในมอสโกเมื่อเช้าวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเจ้าหน้าที่จากบริการความมั่นคงของยูเครน (SBU) ยืนยันกับ The New York Times ว่ายูเครนเป็นผู้รับผิดชอบในการสังหารครั้งนี้

ขณะที่ทางหน่วยงานความมั่นคงแห่งรัฐรัสเซีย (FSB) ระบุเมื่อวันพุธว่าได้จับกุมชายผู้ต้องสงสัยเป็นชาวอุซเบกิสถานวัย 29 ปี ในข้อหาวางระเบิดและจุดระเบิดจากระยะไกล โดยผู้ต้องสงสัยคนดังกล่าวให้การซัดทอดว่า ผู้ว่าจ้างชาวยูเครนที่ให้ลงมือจุดระเบิดสัญญาว่าจะให้เงินรางวัล 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ พร้อมให้สัญชาติเป็นพลเมืองสหภาพยุโรป

Temu ครองยอดดาวน์โหลดสูงสุด บน App Store ในสหรัฐฯ

(18 ธ.ค.67) แอปเปิล (Apple) เปิดเผยผลการจัดอันดับแอปพลิเคชันและเกมที่ถูกดาวน์โหลดมากที่สุดบนแอปสโตร์ (App Store) ในสหรัฐฯ ซึ่งพบว่า 'เทมู' (Temu) แอปพลิเคชันชอปปิงของจีนครองอันดับหนึ่งอีกครั้งในฐานะแอปพลิเคชันฟรีที่ถูกดาวน์โหลดมากที่สุดในสหรัฐฯ ในปี 2024

รายงานระบุว่าเทมูขึ้นมาครองอันดับหนึ่งในปี 2023 แทนที่ติ๊กต็อก (TikTok) ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันฟรีที่ถูกดาวน์โหลดมากที่สุดในสหรัฐฯ ในปี 2022 โดยติ๊กต็อกครองอันดับสามในปี 2024 รองจากแอปพลิเคชันเธรดส์ (Threads) ในเครืออินสตาแกรมของเมตา (Meta) ที่ขึ้นมาอยู่อันดับสองหลังจากอยู่อันดับสามในปี 2023

ด้านแอปพลิเคชันแชตจีพีที (ChatGPT) เป็นแอปพลิเคชันฟรีที่ถูกดาวน์โหลดมากที่สุดอันดับ 4 ในสหรัฐฯ ในปี 2024 แซงหน้าแอปพลิเคชันเสิร์ช (Search) สำหรับค้นหาข้อมูลของกูเกิล

หลายแอปพลิเคชันของเมตายังคงติดการจัดอันดับแอปพลิเคชันที่ถูกดาวน์โหลดมากที่สุดในปี 2024 แต่ครองอันดับต่ำลงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยอินสตาแกรมและวอตส์แอป (WhatsApp) ครองอันดับ 6 และอันดับ 7 ตามด้วยแคปคัต (CapCut) ของไบต์แดนซ์ (ByteDance) ยูทูบ จีเมล กูเกิลแมปส์ ชีอิน และเฟซบุ๊กในอันดับ 13

ส่วนอันดับ 14-20 ได้แก่ เทเลแกรม (Telegram) สแนปแชต (Snapchat) แคชแอป (Cash App) สปอติฟาย (Spotify) แม็กซ์ (Max) แม็คโดนัลด์ และแอมะซอน

ย้อนอดีตถึงปัจจุบันปักปันเขตแดน ‘ไทย - พม่า’ ชี้! แนวทางสันติแบ่งเส้นเขตแดนอาจจบได้ด้วยการเจรจา

"ชายแดนไทย-พม่า: เส้นเขตแดนที่ไม่ได้เขียนด้วยลำน้ำ แต่จารึกด้วยการเจรจา"

ในหน้าประวัติศาสตร์ของการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่างไทยและพม่านั้น ย่อมไม่อาจปฏิเสธได้ว่าพื้นที่ชายแดนเหล่านี้เต็มไปด้วยความซับซ้อน ทั้งด้านภูมิศาสตร์ กฎหมาย และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นในช่วงปี พ.ศ. 2530-2531 เมื่อสองประเทศได้เริ่มต้นกระบวนการปักปันเขตแดนที่แม่น้ำสายและแม่น้ำรวกในจังหวัดเชียงราย ระยะทางประมาณ 59 กิโลเมตร เส้นเขตแดนดังกล่าวถูกกำหนดด้วยหมุดหลักเขตแดนจำนวน 492 คู่ ตั้งแต่จุดสบรวกในอำเภอเชียงแสนไปจนถึงหัวเขาดอยคาในอำเภอแม่สาย

แม่น้ำทั้งสองสายนี้ไม่ได้เป็นเพียงพรมแดนธรรมชาติ แต่ยังกลายเป็นสัญลักษณ์ของความพยายามร่วมกันระหว่างไทยและพม่าในการหาข้อยุติให้กับพื้นที่ที่เคยเป็นประเด็นถกเถียงมายาวนาน ในที่สุด เมื่อปี พ.ศ. 2535 ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามรับรองเส้นเขตแดน โดยยืนยันว่าต่อให้ลำน้ำเปลี่ยนทิศทาง เส้นเขตแดนนี้ก็ยังคงอยู่ตามที่กำหนดไว้

จากแผนที่ในอุดมคติ สู่ความจริงที่ยังห่างไกล
ในปี พ.ศ. 2540 มีการประชุมคณะกรรมการเขตแดนร่วมไทย-พม่า (JBC) เพื่อหาทางสำรวจและปักปันเขตแดนเพิ่มเติมตลอดแนวที่เหลือ ระยะทางยาวกว่า 2,342 กิโลเมตร ตั้งแต่จังหวัดเชียงรายจนถึงจังหวัดระนอง แต่ความคืบหน้ากลับต้องสะดุด เมื่อทั้งสองฝ่ายมีมุมมองที่ไม่ตรงกัน พม่ายืนยันให้มีการระบุรายละเอียดเส้นเขตแดนไว้ในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ขณะที่ฝ่ายไทยเห็นว่าหลักฐานเดิม เช่น สนธิสัญญาและแผนที่แนบท้ายเพียงพอแล้วที่จะใช้ในการปักปัน

เมื่อหมุดไม่มั่นคง แม่น้ำเปลี่ยนทิศ เส้นเขตแดนจึงต้องปรับตัว
ช่วงปี พ.ศ. 2543-2547 ทั้งสองฝ่ายกลับมาร่วมมือกันอีกครั้งในการซ่อมแซมหลักเขตแดนบริเวณแม่น้ำสาย-แม่น้ำรวก หลังจากที่หมุดหลักอ้างอิงบางส่วนชำรุด สูญหาย หรือถูกทำลาย รวมถึงการสร้างหลักเขตแดนใหม่ในบริเวณที่แม่น้ำเปลี่ยนทิศทาง จึงมีการติดตั้งหลักแบบ A และ B เพิ่มเติม รวมถึงซ่อมแซมหลักเขตแดนเดิมให้กลับมาใช้งานได้

ระหว่างนั้น ทั้งสองฝ่ายยังได้จัดทำ 'แผนที่แถบ' หรือ Strip Map เพื่อแสดงรายละเอียดเขตแดนบริเวณแม่น้ำสาย-แม่น้ำรวก กระบวนการนี้เสร็จสิ้นในปี พ.ศ. 2547 โดยมีกรมแผนที่ทหารของไทยเป็นผู้ดำเนินการ

บทเรียนที่ย้ำเตือนอนาคต
สิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตสะท้อนให้เห็นว่าการปักปันเขตแดนไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะแก้ไขได้ด้วยแผนที่หรือสนธิสัญญาเพียงอย่างเดียว แต่ต้องอาศัยการเจรจา ความร่วมมือ และความยืดหยุ่นในการปรับตัวกับสภาพภูมิศาสตร์ที่เปลี่ยนแปลง ความคลุมเครือของเส้นเขตแดนไม่ใช่เพียงปัญหาด้านดินแดน แต่ยังเป็นจุดวัดความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

การสำรวจและปักปันเขตแดนไทย-พม่ายังคงเป็นบทเรียนที่สำคัญในเวทีระหว่างประเทศ ความพยายามเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงการวาดเส้นลงบนแผนที่ แต่คือการสร้างความมั่นคงและความไว้วางใจในความสัมพันธ์ที่อยู่ร่วมกันอย่างสันติ

‘เอกนัฏ’ ลั่น 36 สส. รวมไทยสร้างชาติ ยังปึ้ก ยืนยันไม่ทิ้ง ‘พีระพันธุ์’ ซบพรรคโอกาสใหม่

‘เอกนัฏ’ ยัน 36 สส. รวมไทยสร้างชาติ ยังปึ้ก ไม่ทิ้ง ‘พีระพันธุ์’ ซบพรรคโอกาสใหม่ ลั่นเลือกตั้งครั้งหน้า ยังมี รทสช. พร้อมมั่นใจกวาด สส.ได้เพิ่ม

(18 ธ.ค.67) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าว 25 สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ เตรียมย้ายไปสังกัดพรรคโอกาสใหม่ ว่า

ตนเห็นข่าวนี้จากติ๊กต็อก เป็นเพียงข่าวลือ ยืนยันไม่ใช่ความจริง วันก่อนนายจิรวุฒิ สิงห์โตทอง สส.ชลบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ออกมายืนยันแล้วและตนขอยืนยันด้วยว่า สส.ทุกคนยังอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่ไปไหน วันนี้ยังเดินหน้าทำงานต่อ ที่ผ่านมาในการทำงานร่วมกับรัฐบาลก็ได้รับการตอบรับจากประชาชนที่ดี ทุกคนยังยึดในจุดยืนของพรรค

เมื่อถามว่ายืนยันใช่หรือไม่ในการเลือกตั้งครั้งต่อไปจะยังมีพรรครวมไทยสร้างชาติ นายเอกนัฏ กล่าวว่า มีแน่นอน มีแล้ว มีอยู่ มีต่อ สมาชิกทุกคนจะยังอยู่ถึงการเลือกตั้งครั้งหน้า ตนขอเอาตำแหน่งเลขาธิการพรรคเป็นประกัน ตนอยู่ที่นี่แล้วมีความสุข ไม่ไปไหนแน่นอน วันนี้พรรคหลอมรวมเป็นเหมือนครอบครัวเดียวกัน และยังเชื่อมั่นใจนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค ในการทำหน้าที่รัฐบาลและการทำการเมืองต่อไป

เมื่อถามว่าความสัมพันธ์ในพรรคยังเหนียวแน่นอยู่หรือไม่ นายเอกนัฏ กล่าวว่า เหนียวแน่นเหมือนเดิม อนาคตก็ด้วย แม้ตอนเลือกตั้งเราจะโดนปรามาส ไม่ได้ สส. แต่ก็ได้มา 36 ที่นั่ง แต่ก็โดนปล่อยข่าวว่าพรรคแตก มีปัญหา ซึ่งตนมองว่าไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะปล่อยมาเป็นปีแล้ว แต่ยืนยันว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าจะยังอยู่เหมือนเดิม วันนี้นายพีระพันธุ์ ยังเดินหน้าสร้างกระแสให้พรรค ทำงานร่วมกับ สส. สร้างฐานการเมือง และเชื่อว่าเที่ยวต่อไปจะได้ สส.มากกว่าเดิม ย้ำว่าทุกคนมีกำลังใจ และไปในทิศทางเดียวกัน

‘สุทธิชัย หยุ่น’ บิ๊กเซอร์ไพรส์รับบทพระสงฆ์ ร่วมเล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'

(19 ธ.ค. 67) จากกรณีปรากฏภาพของชายรายหนึ่งในลุคของพระสงฆ์จากซีรีส์เรื่อง The White Lotus ซีซัน 3 ทำให้มีชาวเน็ตสงสัยเป็นอย่างมากว่าใช่ สุทธิชัย หยุ่น นักข่าวอาวุโสหรือไม่

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 2567 ที่ผ่านมา เพจ “Suthichai Live” ออกมาเฉลยว่าตกลงใช่ตนเองหรือไม่ โดยทางเพจได้ระบุข้อความว่า

“หลายคนอาจจะงงๆ สับสน 🫢
เอ๊ะ ใช่ไหม หรือไม่ใช่ 🙂‍↔️🙂‍↕️
เสียงเหมือนมากกกกก เสียงคุ้นมากก
ได้ยินเสียงทุกเช้าเลย แต่จะใช่จริงๆ เหรอ? จะเล่นจริงๆ เหรอ?
แอดมินไขข้อข้องใจให้แล้วค่ะ 🤫🤫🤫

ฝากนักแสดงหนุ่มหน้าใหม่มากกกกก
เดบิวต์เรื่องแรกในวัย 78 ดาราน้องใหม่ของวงการ ประสบการณ์ในวงการ (ข่าว) กว่า 50 ปี ไว้สักคน (รูป) ด้วยนะคะ เดบิวต์มาใหม่ๆ สดๆ ร้อนๆ
ฝีมือการแสดงยังไม่ทราบ 555555 🤣🤣🤣

พระรูปนี้จะ live หรือ Breaking News ในวัดไหม ต้องติดตามค่ะ

รับบทเป็นพระเอก ❌
รับบทเป็นพระสงฆ์ ✅✅✅✅

ปล.ใบ้ว่ามีเซอร์ไพรส์ให้ตกใจมากกว่านี้อีก 1 กรุบ รอลุ้นกันนะคะ”

สำหรับซีรีส์ยอดฮิต The White Lotus ซึ่งครั้งนี้เดินทางมาถ่ายทำที่ประเทศไทย โดยมีดาราชาวไทยชื่อดังอย่าง ลลิษา ‘ลิซ่า’ มโนบาล ร่วมแสดงด้วย ตัวอย่างเผยให้เห็นบรรยากาศตระการตาของเกาะสมุย

ซีรีส์มีกำหนดฉายวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2025 บนแพลตฟอร์ม Max และคาดว่าจะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวไทย โดยเฉพาะเกาะสมุย ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ถ่ายทำหลัก

นอกจากนี้ ยังมีนักแสดงชั้นนำชาวไทยมากมายที่จะมาร่วมสร้างความเข้มข้นให้กับซีรีส์เรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็น ครูเล็ก-ภัทราวดี มีชูธน รวมถึงนักแสดงหนุ่ม ดอม เหตระกูล, เมธี ทับทิมทอง  

แถมคลิปตัวอย่างซีรีส์เรื่อง The White Lotus ซีซัน 3 ยังสร้างความฮือฮา เพราะมีการใช้เพลง เมดอินไทยแลนด์ ของคาราบาว ประกอบตัวอย่างซีรีส์อีกด้วย

‘หมอยง’ เผยโนโรไวรัส ระบาดทุกปีในฤดูหนาว ชี้! ข่าวระบาดใหญ่เป็นเรื่องเก่าไม่ควรตื่นตระหนก

(19 ธ.ค. 67) ศ.นพ.ยง เผยผลศึกษาระบาดวิทยา โนโรไวรัส 10 ปี พบมากปี 2017 ระบาดพร้อม ไวรัสโรต้า ย้ำ! ไม่ใช่โรคใหม่ เผยปมข่าวระบาดใหญ่เรื่องเก่า ไม่ควรตื่นตระหนกจนเกินไป

วันที่ 19 ธ.ค. 2567 ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ ราชบัณฑิต สำนักวิทยาศาสตร์ ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กถึง โนโรไวรัส ระบาดวิทยาในประเทศไทย ว่า ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ทำการศึกษาระบาดวิทยา ของโนโรไวรัสมาเป็นเวลายาวนานกว่า 10 ปี โดยมีการจำแนกสายพันธุ์อย่างละเอียด พบว่าสายพันธุ์ที่ระบาดมีความหลากหลายมาก

โรคนี้จะพบมากในฤดูหนาว จะเห็นว่าในช่วงโควิด 19  ที่มีการล็อกดาวน์ มีการปิดโรงเรียน เป็นช่วงที่ไม่พบการระบาดของโนโรไวรัส เรามีการเข้มงวดในการ กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ เรามีการสอนการล้างมือ 5 ขั้นตอน แต่เมื่อหลังโควิด 19  จะเห็นได้ชัดว่ามีการระบาดของโนโรไวรัสเกิดขึ้น เหมือนก่อนยุคของโควิด 19 ระบาด ดังแสดงในรูปแสดงให้เห็นการศึกษาระยะยาวกว่า 10 ปี ดังแสดงในรูป

การระบาดใหญ่ของโนโรไวรัสในเด็กนักเรียน และผู้ใหญ่พบมากในปี 2017 ในปีนั้นมีการระบาดพร้อมกับไวรัสโรต้า แต่การระบาดในปีนี้พบโรตาไวรัสน้อยมาก เพราะเรามีวัคซีนให้กับเด็กเล็ก จึงทำให้พบโรคลดน้อยลงอย่างมาก แต่โนโรไวรัสไม่ได้ลดลง

สิ่งสำคัญขณะนี้ จะอยู่ที่เด็กหรือบุคคลที่อยู่รวมกันหมู่มาก เช่น ในโรงเรียน โรงงาน จะต้องมีมาตรการในการควบคุมป้องกันไม่ให้เกิดการระบาด เพราะจะทำให้เด็กเสียเวลาเรียน และโรงงานก็จะเสียผลผลิตได้

มีการเผยแพร่ในออนไลน์ ในสื่อสังคมกันมาก ว่ามีการระบาดหนักในโรงเรียน น่าจะเป็นข่าวเก่า ที่มีการระบาดเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน การให้ข้อมูลทางสื่อออนไลน์ น่าจะมีการลงวันที่ ถ้าไม่เช่นนั้นก็จะมีการ วนมาส่งใหม่ทำให้เข้าใจผิด คิดว่ากำลังระบาด โดยเฉพาะเอามาผสมกับการระบาดที่ประเทศจีน แต่อย่างไรก็ตาม ในทุกฤดูหนาว โรคนี้จะพบได้เพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับโรต้าไวรัส เป็นการพบเพิ่มขึ้นในทุกปี ไม่ควรตื่นตระหนกจนเกินไป

‘สงครามไทย – ว้า’ ไม่เกิด หลังผ่านเส้นตายกองทัพไทย สวนทางสื่อโซเชียลขยันปั่นเฟคนิวส์หวังให้สงครามปะทุ

เป็นเวลามากกว่า 24 ชั่วโมงมาแล้วหลังเส้นตายของกองทัพไทยที่ประกาศให้ทางกองทัพว้าถอนกำลัง แต่จนถึงปัจจุบัน ณ ตอนนี้ไม่มีสัญญาณใด ๆ เกิดขึ้น ซึ่งเหตุการณ์ความเป็นจริงสวนทางกับสิ่งที่เกิดขึ้นในโซเชียลที่ปลุกปั่นปล่อยเฟคนิวส์ออกมาว่าสงครามเกิดแล้ว

อย่างที่ทาง THE STATES TIMES และเอย่าได้นำเสนอข่าวไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเรื่องของเรื่องก็คือทุกอย่างจบแล้วบนโต๊ะเจรจาระหว่างผู้นำว้าและตัวแทนของกองทัพไทย  โดยการแก้ปัญหาดังกล่าวจะเข้าไปสู่การหารือในคณะกรรมการร่วมชายแดนต่อไป  ซึ่งนั่นไปขัดใจคนบางกลุ่มเข้า ซึ่งวันนี้เอย่าจะมาวิเคราะห์ให้ทราบกัน

กลุ่มแรกที่ดูเหมือนจะได้รับผลประโยชน์หากไทยเกิดสงครามกับว้าคือกองกำลังไทใหญ่ใต้หรือ RCSS/SSA ของเจ้ายอดศึกที่มีประเด็นความแค้นกับกองกำลังว้ามาก่อน ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่าถ้าไทยเปิดศึกกับว้า ไทใหญ่ย่อมต้องช่วยไทย เพราะการที่จะขอไทยคืนเพื่อใช้เป็นฐานเหมือนสมัยที่ขุนส่ายังอยู่

กลุ่มที่ 2 คือกลุ่มที่ให้การสนับสนุนกลุ่มต่อต้านกองทัพเมียนมาที่จะใช้โอกาสนี้ในการขนส่งยุทธภัณฑ์ผ่านชายแดนไปให้กลุ่มต่อต้านและกองกำลังชนกลุ่มน้อยอื่น ๆ ได้ง่ายขึ้น

กลุ่มสุดท้ายคือกลุ่มที่ต้องการสร้างสถานการณ์ เพราะสงครามจะนำเม็ดเงินมหาศาลในการจัดซื้อยุทธภัณฑ์เข้าสู่ตน 

นี่เอย่าไม่นับพวกที่ต้องการให้สถานการณ์ในไทยไม่ดีและกลุ่มที่พยายามจะด้อยค่ากองทัพด้วยนะคะ เพราะเราไม่ให้ราคากับ 2 กลุ่มที่เหลือนี้

อีกประเด็นคือต้องขอบคุณทหารชั้นยศสูงทุกท่านที่ยอมอดทน อดกลั้นรับคำด่า คำด้อยค่า ยั่วยุในสื่อโซเชียล เพื่อที่จะไม่ให้มีการเสียเลือดเนื้อของคนในชาติ ดังคำที่นายพลเกษียณราชการท่านหนึ่งเคยกล่าวกับเอย่าว่า สิ่งที่ยากยิ่งกว่าการรบคือการพาลูกน้องในสังกัดส่งกลับถึงครอบครัวโดยปลอดภัย ส่วนคนในโซเชียลก็เพลา ๆ กันบ้างนะคะ สงครามไม่เกิดประโยชน์ไม่ว่าจะกับใคร


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top