Wednesday, 11 June 2025
TheStatesTimes

‘เจนเซน หวง’ ซีอีโอ Nvidia กับหมุดหมายที่แท้จริงคือ 'เวียดนาม'

รู้หรือไม่? เหตุใด ‘เจนเซน หวง’ ซีอีโอ Nvidia จึงปักหมุดลงทุนในเวียดนาม และลงทุนอะไรบ้างไปหาคำตอบกับ รองศาสตราจารย์ ดร.อักษรศรี พานิชสาส์น อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ ที่จะมาไขความจริงให้เรากระจ่าง

‘ประกิต โฮลดิ้งส์’ จัดงานประกวด ‘Idea Excellence 2024’ มอบรางวัลใหญ่ พร้อมโอกาสได้ร่วมงานกับกลุ่มบริษัท

(7 ธ.ค. 67) โครงการ Idea Excellence 2024 เป็นโครงการประกวดแผนงานโฆษณาโดยเน้นความคิดสร้างสรรค์ในการวางกลยุทธ์การสื่อสาร การออกแบบสื่อ และการวางแผนการใช้สื่ออย่างมีประสิทธิภาพ จัดโดย บริษัท ประกิต โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ประกิต แอดเวอร์ไทซิ่ง จำกัด โดยในปีนี้ได้รับการสนับสนุนจาก โรงพยาบาลรวมใจรักษ์ @สุขุมวิท 62 ในการมอบโจทย์ที่น่าสนใจ และเป็นแรงบันดาลใจให้กับน้องๆที่เข้าร่วมโครงการได้ฝึกสมอง ลองภูมิกับสินค้าจริง แบรนด์จริง และสถานการณ์ทางการตลาดจริงๆ

โครงการ Idea Excellence เป็นโครงการจัดประกวดที่ทำมาต่อเนื่องและยาวนานกว่า 30 ปี เพื่อเป็นเวทีให้นิสิต นักศึกษา ที่เรียนในภาควิชาที่เกี่ยวข้องกับสายงานโฆษณา และการตลาด ที่ชอบแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ได้แสดงออก เพื่อเฟ้นหานักโฆษณา เจนใหม่ ไอเดียดุ แปลก แหวก ว้าว ทั้งสายงาน ครีเอทีฟ เออี แพลนเนอร์ คอนเทนต์ มีเดีย ป้อนเข้าสู่วงการโฆษณา

ซึ่งในปีนี้ จัดประกวดในหัวข้อ ‘วาระแห่งชาติ Next Gen Care’  กับแนวคิดใหม่ของการดูแลสุขภาพ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการให้คนรุ่นใหม่เห็นถึงความสำคัญในการดูแลสุขภาพร่างกายก่อนเกิดโรค ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมาก จากกว่า 10 คณะ/ภาควิชา ของมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ โดยในปีนี้มีทีมที่ส่งผลงานเข้าประกวดมากถึง 108 ทีม

บอกเลยว่าปีนี้ เข้มข้น ดุเดือด เชือดเฉือน เป็นที่ปวดเฮดกลุ้มฮาร์ท ของเหล่าคณะกรรมการ เพราะโจทย์ของน้องๆ เจนใหม่ คือ ซ้อมทำงานจริง ฝึกคลอดแคมเปญ ผ่านสื่อทั้ง Digital และ Traditional รวมถึงแคมเปญสร้างสรรค์ในรูปแบบอื่นๆ จากทุกๆ สมาชิกในทีมที่ปลุกระดม Insight คิดไอเดียเชิงกลยุทธ์ Creative Idea & Executions พร้อมวาง Media Strategy ต้องนำเสนอผลงานที่นำไปใช้ได้จริงต่อหน้ากรรมการในรอบสุดท้าย 

นอกจากความภาคภูมิใจ และรางวัลที่ได้รับแล้ว น้องๆ นิสิต นักศึกษาทั้ง 5 ทีม เสมือนมีตั๋ว Fast Track และโอกาสได้เข้าร่วมงานกับบริษัทในเครือ ประกิต โฮลดิ้งส์ อีกด้วย 

‘ผอ.เขตฯ’ ก้มกราบ!! ครูที่เคยสอน เผย!! เจอกันโดยบังเอิญ ขณะลงพื้นที่

(7 ธ.ค. 67) นางนัฑวิภรณ์ จันต๊ะพรมมา ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาน่าน โพสต์ภาพและข้อความแชร์เรื่องราวสุดประทับใจ ในเพจ ‘นัฑวิภรณ์ จันต๊ะพรมมา สหายใบไผ่’ ระบุว่า …

เรื่องน่าประทับใจ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาได้ออกไปตรวจเยี่ยมโรงเรียนน่านนคร เพื่อติดตามการขับเคลื่อนนโยบายเรียนดีมีความสุขสู่ห้องเรียน ขณะที่ลงจากรถก่อนจะขึ้นไปห้องประชุมชั้นสอง ได้ยินเสียงครูกำลังสอนนักเรียน เสียงนักเรียนหัวเราะคิกคักมาแต่ไกล จึงแวะเข้าไปดูว่าใครกำลังสอนทำไมนักเรียนมีความสุขเหลือเกิน

พอเข้าไปแค่นั้นแหละ อ้าวครูเรืองฤทธิ์ ครูที่เคยสอนเราตอนเรียนที่สันติสุขนี่หน่า แล้วคุณครูก็รายงานเรื่องการจัดการเรียนการสอนให้ฟัง (อย่างเป็นทางการ) ว่าจัดการเรียนการสอนอย่างไรให้เด็ก ๆ มีความสุข แล้วครูก็ถามนักเรียนว่ารูปเหมือนในจอโปรเจกเตอร์ไหม พอหันไปดู ต้องร้องอ้าวครั้งที่สองเพราะครูกำลังสอนเรื่องการสร้างแรงบันดาลใจให้กับเด็ก ๆ เป็นรูปที่เราถ่ายกับครูกณิศาและครูเรืองฤทธิ์ซึ่งเป็นครูดีในดวงใจของเราทั้งสองท่าน

ครูพูดกับเด็ก ๆ ด้วยความภาคภูมิใจว่า นี่คือตัวอย่างของคนที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจไม่เคยย่อท้อ แล้วครูก็ยื่นไมค์ให้เราได้คุยกับเด็ก ๆ พอเราพูดถึงคุณครู ทุกคนก้มหน้าก้มตาเพราะซาบซึ้งและตื้นตันใจ คุณครูก็น้ำตาซึม นักเรียนก็น้ำตาซึม เราก็น้ำตารื้นขึ้นมา ครูบอกว่าเหลืออีก 10 เดือนครูจะเกษียณแล้วนะ เด็ก ๆ นั่งนิ่งก้มหน้า มีเด็กคนหนึ่งพูดขึ้นมาว่า ผมไม่ทันตั้งตัวเลยครับเพราะมันเร็วเกินไป ในห้องเรียนเงียบไปชั่วขณะ

ขอบคุณความบังเอิญที่ทำให้ได้พบครูในวันนี้ และขอบคุณที่อบรมสั่งสอนตลอด 6 ปี จนทำให้หนูมีวันนี้ได้ค่ะ

รักและเคารพเสมอ

ครูเรืองฤทธิ์_ดวงภูเมฆ

ครูดีในดวงใจ

‘ถาวร’ ยังไม่ชัด ‘ไพเจน-แบน-สุพิศ’ ชัดเจนแล้ว ศึกเลือกตั้ง ครั้งใหญ่!! ชิงนายกฯ อบจ.สงขลา

(7 ธ.ค. 67) แม้ ‘ถาวร เสนเนียม’ อดีตรัฐมนตรีช่วยคมนาคม จะยังไม่ชัดว่าจะลงสมัครชิงเก้าอี้นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลาหรือไม่ แต่สำหรับ ‘นายกฯแบน’ ประสงค์ บริรักษ์ อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลเขารูปช้าง ได้ตัดสินใจแล้ว ลงสมัครนายกฯอบจ.สงขลาแน่นอน แต่ไม่ส่ง ส.อบจ.นะ

“ลงสมัครแน่นอน ถ้าไม่มีปัญหาเกี่ยวกับคดีที่อยู่ระหว่างการอุทธรณ์ รอประชุมกับทีมทนายความประเมินคดี แนวทางการสู้คดี ถ้าทนายความประเมินผลออกมาทางบวก ก็จะลงสมัคร ถ้าผลออกมายังไม่แน่ใจ หรือออกมาเป็นลบ ก็จะไม่ลงสมัคร” ถาวร กล่าว

ถาวร กล่าวต่อว่า คดีในชั้นอุทธรณ์น่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 1 ปี ถ้าตนลงสมัครแล้วได้รับเลือก แต่ประมาณ 1 ปี ถ้าศาลตัดสินจำคุก ก็จะขาดคุณสมบัตินายกฯ อบจ.ต้องจัดเลือกตั้งใหม่

“ผมไม่อยากให้ อบจ.สงขลาต้องสูญเสียงบประมาณร่วม 100 ล้านบาทมาจัดการเลือกตั้งนายกฯอบจ.ใหม่ อันเป็นงบประมาณจากภาษีประชาชน 100 ล้านทำอะไรได้อีกมาก สร้างถนนในระดับหมู่บ้านได้หลายสาย” ถาวร กล่าว

ถาวร กล่าวย้ำว่า กลางเดือนธันวาคมจะทราบผลการประเมินคดีจากทีมทนายความ ทราบผลก็จะได้ตัดสินใจ และแถลงข่าวให้ประชาชนทราบ

หลังสื่อบางสำนักรายงานว่า ถาวรจะจับมือกับโกเกี๊ยะ (ภูมิใจไทย) ส่งถาวรลงชิงนายกฯ อบจ.สงขลา มีกระแสตอบรับดีมาก ร้านน้ำชา-กาแฟ มีการพูดถึงในเชิงบวก บางคนพูดย้ำว่าพร้อมสนับสนุนช่วยเหลือในการหาเสียง รอเพียงถาวรตัดสินใจเท่านั้น

สำหรับ ‘สุพิศ พิทักษ์ธรรม’ อดีตอธิบดีกรมฝนหลวง หลังเปิดตัวลงชิงเก้าอี้นายกฯอบจ.สงขลา ครึกโครม แต่หลังจากนั้นเงียบไปในสถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ของสงขลา เข้าใจว่าเดินทางไปต่างประเทศที่เตรียมการไว้ก่อนน้ำท่วมแล้ว ประกอบกับไม่อยากแจกของในช่วงใกล้วันสมัคร จะวุ่นวายกับการถูกร้องเรียน แน่นอนว่าถ้าถาวรลงก็จะไปชิงคะแนนของสุพิศ เพราะถาวรอยู่คนละขั้วกับ ‘นิพนธ์ บุญญามณี’ และ ‘เดชอิศม์ ขาวทอง’ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ที่ทั้งสองให้การสนับสนุนสุพิศ และคะแนนของไพเจน มากสุวรรณ์ นายกฯอบจ.คนปัจจุบันที่ไม่ลงสมัครต่อ ก็จะไหลไปทางอื่น ไม่ใช่ไหลไปสุพิศ ถ้าถาวรลง คะแนนไพเจนจะไหลไปถาวร ถ้าถาวรไม่ลงสมัครคะแนนอาจจะไหลไปพรรคประชาชน (นิรันดร์ จินดานาค)

แม้ไพเจนจะได้ประกาศชัดผ่านแถลงการณ์ ยืนยันไม่ลงสมัครต่อ แต่แฟนคลับ ขาเชียร์ก็ยังหนาแน่น วันที่ 19 ธันวาคม จะหมดวาระ ก็จะอำลาตำแหน่ง ทราบว่า จะมี ส.อบจ.ปัจจุบัน และว่าที่ผู้สมัคร ส.อบจ.ที่ไม่ใช่สายสุพิศ นำมวลชนมาให้กำลังใจไพเจน 2-3000 คน พร้อมกับโน้มน้าวให้กลับใจลงสมัครอีกสมัย

‘ชาวหาดใหญ่’ ตะโกน!! เสียงดังกึกก้อง ไปทั้งคุ้งน้ำ ขอบคุณ!! คลอง ร.1 ‘เรารักในหลวงรัชกาลที่ 9’

(7 ธ.ค. 67) คลอง ร.1 เป็นคลองอันเนื่องมาจากพระราชดำริในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้ทำหน้าที่อย่างหนักหน่วงในการปกป้องเมืองหาดใหญ่ รักษาชีวิต เศรษฐกิจเมืองหาดใหญ่ไว้อย่างปลอดภัย คลอง ร.1 ได้ทำหน้าที่ในการระบายน้ำบายพาสไม่ให้เข้าตัวเมืองหาดใหญ่ จากคลองอู่ตะเภา เข้าคลอง ร.1 ไหลต่อลงทะเลสาบสงขลา

ไพเจน มากสุวรรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา เคยกล่าวไว้ว่า ทางชลประทานได้จัดสรรงบประมาณปรับปรุงคลอง ร.1 จนแล้วเสร็จทันเวลา มีสมรรถภาพสามารถระบายน้ำได้เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า คือเพิ่มขึ้นอีก 1200 ลูกบาศก์เมตร จากเดิมแค่ 400 โดยไพเจนมั่นใจตั้งแต่ต้นว่า ถ้าไม่ใช่ฝน 1000 ปี ฝน 200 ปี คลอง ร.1 รับมือได้ น้ำจะไม่ท่วมหาดใหญ่ และน้ำท่วมใหญ่ภาคใต้ ได้พิสูจน์แล้วว่า คลอง ร.1 ทำหน้าที่ได้สมบูรณ์แบบแล้ว

พสกนิกรชาวหาดใหญ่และพื้นที่ใกล้เคียงจึงได้จัดกิจกรรมร่วมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ทรงมีพระราชดำริให้กรมชลประทานดำเนินการก่อสร้างคลองภูมินาถดำริ หรือคลอง ร.1 เพื่อช่วยบรรเทาอุทกภัยให้กับเมืองหาดใหญ่และพื้นที่ใกล้เคียง

นายสรรเพชญ บุญญามณี สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ชูโครงการ 'คลอง ร.1' ซึ่งเป็นพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ ครม. ปี 2543 ได้อนุมัติงบประมาณ ให้ดำเนินการที่หาดใหญ่ อันเป็นตัวอย่างสำคัญในการลดความรุนแรงของน้ำท่วมซึ่งรัฐบาลควรมีการขยายผลการพัฒนาโครงการนี้ไปยังพื้นที่ที่มีความเสี่ยงน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะในจังหวัดชายแดนใต้ ทั้งสงขลา สตูล ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการขาดแคลนระบบระบายน้ำที่มีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดน้ำท่วมรุนแรงในทุกปี นายสรรเพชญเห็นว่า หากสามารถพัฒนาโครงสร้างการระบายน้ำจากภูเขาให้ไหลลงสู่ทะเลได้อย่างรวดเร็ว จะสามารถลดผลกระทบและป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้

น้ำท่วมใหญ่ภาคใต้ โดยเฉพาะสงขลา / หาดใหญ่ คลอง ร.1 ได้ทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์แบบ ปกป้องเมืองหาดใหญ่ให้รอดพ้นจากอุทกภัยในครั้งนี้ สมควรแล้วที่รัฐบาลจะได้นำแบบอย่างคลอง ร.1 ไปใช้กับพื้นที่อื่น

‘เมียนมา’ พร้อมช่วยเหลือ ‘ไทย’ เจรจากับ ‘ว้า’ ชี้!! ต้องแสดงความจริงใจ ไม่ใช่เล่นปาหี่

มาวันนี้เอย่ามีข่าวล่าสุดที่หลุดมาจากแหล่งข่าวไทใหญ่ว่าล่าสุดมีการเจรจาทางลับที่เชียงใหม่กับทางกองทัพเมียนมาล่ม โดยฝั่งเมียนมากล่าวว่า

1. การแก้ปัญหาชายแดนระหว่างไทยกับเมียนมามีการคุยมานานแล้ว แต่ประเด็นคือไทยกับเมียนมาถือแผนที่คนละฉบับกับเมียนมาทำให้เกิดพื้นที่ทับซ้อนและตลอดมามีความพยายามที่จะแก้ปัญหาด้วยกันแต่ความไม่สงบในประเทศทั้งฝั่งไทยและเมียนมาเองที่เราสงบเขามีปัญหา พอเขาสงบทางเราเกิดความวุ่นวาย นั่นทำให้ยังสามารถปักปันเขตแดนให้แล้วเสร็จได้

2. ฝั่งเมียนมาพร้อมช่วยเหลือไทยฝ่ายไทยในการเจรจากับว้า แต่แหล่งข่าวระดับสูงของเมียนมาบอกว่าถ้าให้เมียนมาขยับ 9 จุดที่มีการล้ำเขตแดนบริเวณฐานทหารว้ามา ไทยก็มีจุดที่ล้ำกว่า 20 จุด ที่มีการรุกล้ำเขตแดนฝั่งเมียนมาด้วยเช่นกัน

3. ฝั่งเมียนมาบอกว่าการแก้ปัญหาชายแดนต้องแสดงความจริงใจ จริงจังไม่เล่นปาหี่  ต้องมีการคุยในระดับคณะกรรมการชายแดนและการทูตควบคู่กันไป ไม่ใช่จบกันแค่พูดคุยทางลับเท่านั้น

4. ฝั่งไทยต้องส่งเสริมสนับสนุนความเป็นมิตรกับฝั่งเมียนมา ในด้านการช่วยจัดการรักษาเสถียรภาพให้เมียนมาด้วย ไม่ใช่หลับหูหลับตาไม่รับรู้ให้ปล่อยให้กลุ่มต่างๆใช้ไทยเป็นแหล่งฟอกเงินและส่งทรัพยากรและยุทโธปกรณ์ให้แก่ฝ่ายต่อต้านกองทัพเมียนมา

ฝั่งไทยเองก็ใช่ย่อยล่าสุดมีข่าวหลุดออกมาจากแหล่งข่าวจากกลุ่ม NGO สามนิ้วว่ากองทัพไทยมีการติดต่อผ่านนักวิชาการที่มีสายสัมพันธ์ดีกับกลุ่ม NGO ที่ต่อต้านกองทัพเมียนมาเพื่อจะหาทางเข้าไปคุยกับว้า เอย่าจึงแค่อยากตั้งคำถามว่าตลอดเวลากลุ่มสามนิ้วด้อยค่าทหาร ด้อยค่าสถาบันมาตลอด แต่ทำไมถึงเรียกใช้คนเหล่านี้เป็นคนกลาง หรือกองทัพไทยยังถูกกลุ่มนี้ด้อยค่าไม่พออีกหรือ

สุดท้ายเอย่ามาวิเคราะห์ว่าจุดเริ่มต้นในการกระพือข่าวครั้งนี้ใครคือผู้ได้รับผลประโยชน์และกระสุนนัดแรกมาจากใคร จากแหล่งข่าวทั้งกูรูกองทัพฝั่งไทยเอง ฝั่งว้าเองรวมกระทั่งแหล่งข่าวระดับสูงจากฝั่งเมียนมาก็มองตรงกันว่า ศึกนี้คนที่ได้รับผลประโยชน์สูงสุด ไม่ใช่ไทยและเมียนมาแต่เป็นกองกำลัง RCSS ของเจ้ายอดศึกนั่นเอง

ที่ผ่านมาว้าเปิดศึกกับ RCSS หลายครั้งจะด้วยเหตุผลที่เป็นชนักติดหลังว้ามาตลอดที่ RCSS อ้างว่าทำศึกกับว้าเพราะกำจัดยาเสพติดหรืออะไรก็ตาม อย่าลืมว่ามันมีอะไรอยู่เบื้องหลังที่เราไม่รู้เสมอ และหากพิจารณาแล้ว สงครามระหว่างไทยกับว้าครั้งนี้ คนที่ไม่ได้เกี่ยวแต่มีการปล่อยข่าวออกมาอย่างต่อเนื่องคือฝั่งกองทัพไทใหญ่นั่นเอง ดังนั้นไทยเองต้องควรจับตาเหตุการณ์ครั้งนี้อย่างไม่กะพริบตา กระสุนนัดแรกแน่นอนว่าไม่ได้มาจากฝั่งไทยแน่ และว้าก็คงไม่หาญกล้าที่จะเป็นคนเปิดก่อนแน่นอน ดังนั้นศึกนี้มีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดสงครามจากมือที่ 3 ซึ่งจากเหตุการณ์ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่ามีความพยายามที่จะผลักดันให้ไทยเข้าสู่สงครามกับประเทศเพื่อนบ้านและกลุ่มว้าที่มีสายสัมพันธ์แนบแน่นกับจีน และพยายามจะออกสื่อเสนอตัวเป็นผู้ช่วยกองทัพไทยในการรบครั้งนี้ด้วย ซึ่งแท้จริงแล้วศักยภาพของกลุ่ม RCSS ไม่สามารถเทียบว้าได้ เพียงแต่อยู่ในชัยภูมิที่ดีและหากศึกดอยหัวม้าไทยชนะ RCSS ก็หวังว่าจะได้ฐานที่ดอยหัวม้านี้กลับมาใช้ประโยชน์กับกลุ่มของตนอีกครั้ง เหมือนสมัยครั้งที่ฐานนี้เป็นของขุนส่าซึ่งตอนนั้นขุนส่าอยู่กับเจ้ายอดศึกนั่นเอง

คนไทยเองก็ควรที่จะเพลาๆ ความคลั่งชาติลงบ้าง เรารักชาติได้ แต่ไม่จำเป็นต้องไปทะเลาะกับใครจนคู่กรณีตัวจริงเอาเราไปชนกับคู่ปรับของเขาแทน สุดท้ายเอย่าหวังว่ากองทัพไทยก็น่าจะมีวิธีในการติดต่อกองทัพว้าโดยไม่จำเป็นต้องไปพึ่งพากลุ่มที่ด้อยค่ากองทัพนะคะ

ว่าไปแล้วว้าก็ไม่ใช่ผู้ผลิตยาเสพติดกลุ่มเดียวอย่างที่เราคิดเสมอไป ล่าสุดกลุ่ม PDF ได้ตั้งโรงงานในบ่อนตรงข้ามบ้านช่องแคบ อ. พบพระ จ. ตาก อาศัยพื้นที่อิทธิพลของ พันเอก ไซ จอ ละ หรือ โกไซ ผลิตยาและขนเป็นกองทัพมดเข้ามาในไทยเช่นกัน ด้วยเหตุผลว่าเงินสนับสนุนจากตะวันตกลดลง และรายได้จากการเก็บค่าผ่านทางไม่พอเพราะด่านจากที่เคยเก็บเงินได้เป็นกอบเป็นกำกลับมีด่านลอยเพิ่มขึ้นมา 10 เท่าในช่วงที่ผ่านมาตั้งแต่มีสงครามที่เมียวดี นั่นทำให้รายได้ที่จัดเก็บในแต่ละด่านลดลงอย่างชัดเจน งานนี้ทหารไทยก็เหนื่อยหน่อยนะคะ แต่เอย่าและคนไทยอีกจำนวนมากเป็นกำลังใจให้ค่ะ

‘ชุมชนบ่อสวก’ จ.น่าน คว้ารางวัล ‘ชุมชนท่องเที่ยวยอดเยี่ยมโลก’ เผย!! มีความโดดเด่น ด้านการจัดการแหล่งท่องเที่ยว อย่างยั่งยืน

(7 ธ.ค. 67) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกรัฐบาล เปิดเผยว่า องค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ (UN Tourism) ได้มอบรางวัลให้แก่ ชุมชนตำบลบ่อสวก จังหวัดน่าน ของประเทศไทยได้รับรางวัลชุมชนท่องเที่ยวยอดเยี่ยมโลก (Best Tourism Village 2024) ซึ่งถือว่าเป็นแห่งแรกของประเทศไทย ที่สะท้อนความสำเร็จในการบูรณาการความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ชุมชนและภาคีเครือข่ายมาร่วมกันพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล และมีความโดดเด่นด้านการจัดการแหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชนอย่างยั่งยืนของไทย

“บ่อสวกมีความหมายถึงบ่อเกลือที่นักท่องเที่ยวเมื่อไปเยือนจังหวัดน่านมักจะแวะชมเสมอ นอกจากนี้ยังมีชื่อเสียงเรื่องแหล่งโบราณคดีเตาเผาเครื่องปั้นโบราณ ศิลปะพื้นบ้าน และภูมิปัญญาท้องถิ่น มีกิจกรรมที่น่าสนใจให้นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้วิถีชุมชนผ่านงานหัตถกรรมพื้นบ้าน ที่หลากหลาย” นายจิรายุ กล่าว

นายจิรายุ กล่าวว่า ทั้งนี้ตามนโยบายของรัฐบาลที่ให้ระดับท้องถิ่นช่วยกันนำเสนอและผลักดัน เพื่อให้ประเทศไทยเข้าสู่เป้าหมายการเป็น Tourism Hub ที่สำคัญของโลก ซึ่งการคว้ารางวัลชุมชนท่องเที่ยวยอดเยี่ยมโลก (Best Tourism Village 2024) จากองค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ (UN Tourism) ของชุมชนตำบลบ่อสวก จังหวัดน่าน ครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าไม่ว่าจะเป็นระดับหมู่บ้าน ระดับตำบล อำเภอ หรือจังหวัดล้วนแต่มีศักยภาพ สามารถเป็นแหล่งท่องเที่ยวชั้นนำของโลกได้ หากทุกภาคส่วนร่วมมือร่วมใจสนับสนุนจะสามารถพลิกโฉมประเทศด้านการท่องเที่ยวได้แน่นอน

นายจิรายุ กล่าวอีกว่า สำหรับ โครงการประกวดรางวัล Best Tourism Villages by UN Tourism หรือองค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ ได้เริ่มขึ้นในปี พ.ศ. 2563 มีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับการพัฒนาชุมชนท้องถิ่นสู่มาตรฐานสากล ลดความเหลื่อมล้ำ ส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ ส่งเสริมพลังของสตรีและเยาวชน รวมถึงการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อการพัฒนา รวมทั้งยังเน้นการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและวัฒนธรรม ซึ่งมีหลักเกณฑ์การประเมินชุมชนเพื่อพิจารณาเป็นชุมชนท่องเที่ยวยอดเยี่ยมโลก Best Tourism Village ด้วยกัน 9 ประเด็น ได้แก่ 1) การจัดการทรัพยากรทางธรรมชาติและวัฒนธรรม 2) การส่งเสริมและอนุรักษ์ทรัพยากรทางวัฒนธรรม 3) การยกระดับเศรษฐกิจชุมชนอย่างยั่งยืน รวมถึงการกระจายรายได้และการสร้างงาน สร้างอาชีพให้กับชุมชน 4) การจัดการสังคมวัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างเป็นธรรมและทั่วถึง 5) การจัดการสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากทั้งการท่องเที่ยวและการดำรงชีวิต 6) การพัฒนาศักยภาพด้านการท่องเที่ยวและการบูรณาการห่วงโซ่คุณค่าทางการท่องเที่ยว 7) การมีธรรมาภิบาลและให้ความสำคัญกับการพัฒนาพื้นที่เพื่อการท่องเที่ยวและชุมชนท้องถิ่น 8) ระบบสาธารณูปโภคและการเชื่อมต่อสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการท่องเที่ยวและชุมชนท้องถิ่น และ 9) การบริการสุขภาพ สุขอนามัยและความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวและชุมชนท้องถิ่น

“รัฐบาลขอเชิญชวนผู้นำท้องถิ่นองค์การปกครองท้องถิ่น และส่วนราชการต่างๆ ได้ค้นหาสิ่งดีๆ ตามแนวทางของสหประชาชาติด้านการท่องเที่ยวเพื่อนำเสนอในการประกาศสถานที่ต่าง ๆ ในประเทศไทยต่อไป ซึ่งเชื่อว่า ในทุกพื้นที่ของประเทศไทยที่มีอยู่กว่า 74,000 หมู่บ้าน กว่า 800 อำเภอมีสถานที่ท่องเที่ยว ที่ให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกได้รับรู้ว่าประเทศไทยเที่ยวได้ทุกหมู่บ้าน ทุกตำบล ทุกอำเภอ” นายจิรายุ กล่าวทิ้งท้าย

Vat 15% เศรษฐกิจถึงทางตัน หรือรัฐบาลถังแตก กระแสต่อต้านรุนแรง นายกฯ แจง!! แค่กำลังศึกษา

(7 ธ.ค. 67) เป็นเรื่อง !!! หลัง รมว.คลัง ขึ้นเวทีกล่าวถึงแผนงานเตรียมปรับโครงสร้างภาษี ขึ้นภาษี VAT 15% ลดอัตราภาษีนิติบุคคลเหลือ15% จาก 20% เพื่อดึงดูดนักลงทุน และแข่งขันกับชาวโลกได้ เพิ่มจัดเก็บรายได้เข้ารัฐขับเคลื่อนเศรษฐกิจ 

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษในงาน Sustainability Forum 2025 : Synergizing for Driving Business ว่า ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เช่น สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เร่งพิจารณาเรื่องการปรับโครงสร้างภาษีเพื่อสนับสนุนเรื่องการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาล

เรียกเสียงฮือฮาจากผู้คนในแวดวงเศรษฐกิจ และกระแสโจมตีจากประชาชนกับนโยบายดังกล่าว เนื่องจากเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันยังคงซบเซา รอคอยพายุหมุนทางเศรษฐกิจทั้ง 4 ลูก มากระตุ้นเศรษฐกิจ ถึงแม้เงินหมื่นดิจิทัลวอลเล็ต (โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 10,000 บาท) จะคลอดออกมาแล้วก็ตาม

คล้อยหลังไม่กี่วัน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์กล่าวชี้แจงแนวความคิดการขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ของรัฐบาล ยืนยันไม่ปรับ VAT 15% กระทรวงการคลังกำลังศึกษาปรับโครงสร้างภาษีให้ครบทุกมิติ ฟังทุกภาคส่วน นโยบายของรัฐบาลมุ่งเน้นลดรายจ่ายประชาชน

สำทับด้วย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ออกมาชี้แจงแนวคิดขึ้น ภาษี VAT จาก 7% เป็น 15% ยังไม่มีข้อสรุป กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการพิจารณา ยืนยันไม่ได้มาจากปัญหารัฐบาลถังแตก และไม่เกี่ยวกับการแจกเงินหมื่น เป็นแผนปรับภาษีเพื่อความยุติธรรม

เหมือนปล่อยลอยคอ รมว.คลัง ให้โดดเดี่ยวเดียวดายกลางทะเล...

หากมองย้อนกลับไปในอดีต สมัยรัฐบาล นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็เคยประกาศนโยบายเตรียมขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม คล้าย ๆ กับการโยนหินถามทาง หยั่งกระแสจากประชาชน เมื่อส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย ก็ยกเลิกนโยบายดังกล่าว

รวมทั้งสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ที่มีความคิดขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 1 % จาก 7% เป็น 8% กลับโดนกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก โดยเฉพาะจากกลุ่มคนของรัฐบาลในปัจจุบัน ที่ก่นด่า และโจมตีมากที่สุด

แต่คราวนี้ เมื่อได้เป็นรัฐบาลเอง กลับมีแนวคิดจะปรับขึ้น 8% จาก 7% เป็น 15% มากกว่าเท่าตัวจากอัตราเดิม

บางทีคงต้องบอกว่า หากนโยบายยังไม่สะเด็ดน้ำ แนวทางยังไม่ชัดเจน การโยนหินถามทางแบบนี้ แทบจะสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ในการทำงานของรัฐบาล รวมทั้งการแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจที่น่าจะถึงทางตัน คำปราศรัยที่เคยหาเสียงช่วงก่อนเลือกตั้ง การกล่าวโจมตีรัฐบาลชุดที่ผ่านมา กลายเป็นดาบที่ย้อนกลับมาทิ่มแทงตัวเอง

ประชาชนคงต้องแบกภาระหนักกันต่อ โดยเฉพาะกลุ่มผู้เสียภาษีรายได้บุคคลธรรมดา ที่ต้องร่วมแบกหนี้ทางภาษีจากนโยบายประชานิยมของนักการเมือง ลากยาวไปอีกหลาย 10 ปี หนักหนาเอาการอยู่นะ รัฐบาลประชาธิปไตย

‘หมูเด้ง’ คว้ารางวัล ‘คนมีสไตล์แห่งปี’ ของ New York Times พี่เบนซ์ เผย!! กำลังโตเป็นสาว ถ้าได้เป็นของกิน จะดีมากเลย

(7 ธ.ค. 67) เรียกได้ว่า ไม่มีแผ่ว สำหรับ น้องหมูเด้ง ล่าสุดเพจ ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง โพสต์ภาพน้อง พร้อมข้อความระบุ หนังสือพิมพ์ฝรั่ง เขาประกาศว่า หนูเด้ง ได้รางวัล อะไรสักอย่าง…แต่หนูไม่สันทัด ภาษาปะกิด … แฟนๆ ท่านใด อ่านแล้ว สรุปให้ฟังหน่อยนะ : รางวัล อะไร ให้มาก็รับหมดแหละ แต่ช่วงนี้กำลังโตเป็นสาว … ขอเป็นของกินได้จะดีมากเลยนะคะ

หลังโพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ออกไป มีพี่ๆ FC หมูเด้ง เข้ามาแสดงความดีใจกับน้องจำนวนมาก พร้อมเฉลยในคอมเมนต์ว่า รางวัลตามข่าวเป็นรางวัลที่ให้กับคนหลากหลายสาขา ชื่อรางวัล ‘คนมีสไตล์แห่งปี’ ของ New York Times แถมยังบอกอีกว่า มันแน่นอนอยู่แล้ว ดูแฟชั่นของเด้งก่อน!!!!!!, รางวัล ทั้งโลกพร้อมใจละลายหลงรักในความตะมุตะมิ แต่เกรี้ยวกราด น่ารักใจละลายไปเลย, ‘ฮิปโปแคระผู้ขโมยหัวใจและชอบงับพี่เลี้ยง (พ่อเบนซ์)’

‘เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ’ รมต.ต่างประเทศรัสเซีย เผยกับ ‘นักข่าวอเมริกัน’ เงื่อนไขที่สำคัญที่สุด 4 ประการในการยุติ!! สงครามยูเครน

เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2024 มีการเผยแพร่บทสัมภาษณ์ระหว่างนายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียกับนายทัคเกอร์ คาร์ลสันนักข่าวชาวอเมริกัน ที่เคยสัมภาษณ์ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซียเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2024 ที่ผ่านมาโดยได้พูดคุยกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินเกี่ยวกับสาเหตุของการเริ่มปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครนและความสัมพันธ์กับตะวันตก ครั้งนี้นักข่าวชาวอเมริกันรายนี้เดินทางกลับมายังมอสโกเพื่อพูดคุยกับนายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซีย การสัมภาษณ์ของนายทัคเกอร์ คาร์ลสันครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่การทูตเกี่ยวกับการหยุดยิงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้ทวีความรุนแรงมากขึ้นนับตั้งแต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ได้รับเลือกตั้งและในขณะที่รัสเซียยังคงเดินหน้าในสนามรบทางตะวันออกของยูเครน การสัมภาษณ์ใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่ง ภายใน 3 ชั่วโมง มีผู้เข้าชมเกือบ 2.3 ล้านครั้ง โดยรัฐมนตรีเซอร์เกย์ ลาฟรอฟได้ตอบคำถามเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและสหรัฐอเมริกา ความขัดแย้งในยูเครน และเงื่อนไขที่สำคัญที่สุดสำหรับประเทศรัสเซียในการยุติปัญหานี้ โดยสามารถสรุปประเด็นการสัมภาษณ์ดังกล่าวที่สำคัญได้ 4 ประเด็น ดังนี้

ประเด็นแรก ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับสหรัฐอเมริกา
- รัสเซียต้องการมีความสัมพันธ์ตามปกติกับทุกประเทศโดยเฉพาะประเทศที่ยิ่งใหญ่เช่นสหรัฐอเมริกา ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินแสดงความเคารพต่อชาวอเมริกันและความสำเร็จของพวกเขาหลายครั้ง เราไม่เห็นเหตุผลว่าทำไมรัสเซียและสหรัฐอเมริกาจึงไม่สามารถร่วมมือกันได้
- สำหรับมอสโกสิ่งสำคัญคือการหลีกเลี่ยงสงครามกับสหรัฐอเมริกา เนื่องจากสงครามอาจลุกลามบานปลายกลายเป็นสงครามนิวเคลียร์ได้
- โดนัลด์ ทรัมป์เป็นมิตร แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะโปรรัสเซีย
- สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในยูเครนถูกเรียกว่าสงครามลูกผสม ยูเครนจะไม่สามารถทำสิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่ด้วยอาวุธสมัยใหม่ที่มีพิสัยไกลได้เลยหากไม่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ ซึ่งมีบทบาทอย่างแข็งขันในการจัดหาอาวุธให้กับทางเคียฟ 
โดยเขากล่าวว่า “ผมจะไม่พูดว่าในวันนี้รัสเซียและสหรัฐอเมริกากำลังทำสงครามกัน เราไม่ได้ทำสงครามอย่างเป็นทางการ และนี่ไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการ เราอยากจะมีความสัมพันธ์ตามปกติกับทุกประเทศ”

ประเด็นที่สอง ความเสี่ยงจากสงครามนิวเคลียร์
- ทางการรัสเซียมีความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่สงครามนิวเคลียร์จะลุกลาม
- หลักคำสอนทางทหารของเรากล่าวว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการหลีกเลี่ยงสงครามนิวเคลียร์
- แนวคิดของชาติตะวันตกที่มองว่ารัสเซียไม่มี ‘เส้นแดง’ นั้นถือเป็นความผิดพลาดร้ายแรง หลายครั้งที่ตะวันตกประกาศเส้นแดงเองและเปลี่ยนเส้นแดงนั้นไปมา โดยเขากล่าวว่า “นี่เป็นเกมที่อันตรายมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ทางตะวันตกมีการเรียกร้องภายในเพนตากอนและ NATO ให้ชิงโจมตีก่อนโดยมองว่าการโจมตีเป็นการป้องกันที่ดีที่สุด รวมถึงการโจมตีด้วยนิวเคลียร์อย่างจำกัด ซึ่งเป็นการก่อให้เกิดหายนะที่เราไม่ต้องการ

ประเด็นที่สาม การทดสอบขีปนาวุธ ‘Oreshnik’
- รัสเซียไม่ต้องการให้สถานการณ์เลวร้ายลง แต่เนื่องจากขีปนาวุธ ATACMS และอาวุธระยะไกลอื่น ๆ ถูกใช้กับแผ่นดินรัสเซีย ทางการรัสเซียหวังว่าการทดสอบขีปนาวุธ 'โอเรชนิก' จะเป็นการส่งสัญญาณไปยังสหรัฐฯ เพื่อให้ได้รับการพิจารณาอย่างจริงจัง
- รัสเซียจะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องผลประโยชน์อันชอบธรรมของตน สหรัฐอเมริกาและผู้ที่จัดหาอาวุธพิสัยไกลให้กับเคียฟต้องเข้าใจว่าเราจะพร้อมที่จะใช้วิธีการใด ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ชาติตะวันตกประสบความสำเร็จในการสร้าง ‘ความพ่ายแพ้ทางยุทธศาสตร์’ ให้กับเรา 

ประเด็นสุดท้าย ปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครน
- เราไม่ได้เริ่มสงคราม ในทางตรงกันข้าม เราได้เปิดปฏิบัติการพิเศษทางทหารเพื่อยุติสงครามที่ระบอบการปกครองของเคียฟได้ปลดปล่อยต่อประชาชนใน Donbass ซึ่งสิทธิมนุษยชนของประชากรรัสเซียและที่พูดภาษารัสเซียในยูเครนถูกละเมิดอย่างร้ายแรงรัสเซียเริ่มปฏิบัติการพิเศษทางทหารเพื่อยุติสงครามที่ระบอบเคียฟกำลังดำเนินการกับประชาชนของตนเองในพื้นที่ดอนบาส 
- ชาวตะวันตกกำลังต่อสู้เพื่อรักษาอำนาจของตนในโลก แต่เรากำลังต่อสู้เพื่อผลประโยชน์ด้านความปลอดภัยที่ถูกต้องตามกฎหมายและต่อสู้เพื่อผู้คนที่อาศัยอยู่ในดินแดนเหล่านี้
- เราไม่มีเจตนาที่จะทำลายชาวยูเครน พวกเขาเป็นพี่น้องกันกับชาวรัสเซีย
- รัสเซียเรียกร้องหลายครั้งในปี 2014 และ 2017 ให้ในระดับข้อตกลงอนุญาตให้บางส่วนของ Donbass และ Novorossiya พูดและเรียนเป็นภาษารัสเซียได้ ประการแรกมีข้อตกลงมินสค์ซึ่งกำหนดไว้เพื่อบูรณภาพแห่งดินแดนของยูเครนยกเว้นไครเมียแต่ข้อตกลงเหล่านี้ถูกทำลายตั้งแต่เริ่มแรก และเราถูกบังคับให้เปิดปฏิบัติการพิเศษทางทหาร จากนั้นข้อตกลงอิสตันบูลในปี 2022 พูดถึงการที่ยูเครนไม่เข้าสู่ NATO เพื่อแลกกับการรับประกันความปลอดภัย แต่ถูกล้มหลังจากการมาถึงของนายบอริส จอห์นสันนายกรัฐมนตรีอังกฤษ 
- อย่าคิดว่ารัสเซียและสหรัฐฯ กำลังตัดสินใจประเด็นของยูเครนแทนทุกคนเพราะนี่ไม่ใช่สไตล์ของมอสโก
- เมืองหลวงบางแห่งเบื่อหน่ายกับความขัดแย้งในยูเครน มีการพูดคุยกันว่าสหรัฐฯ ต้องการปล่อยให้เรื่องนี้ตกเป็นหน้าที่ของยุโรป
- รัสเซียพร้อมสำหรับสถานการณ์ต่าง ๆ แต่ต้องการการเจรจาอย่างสันติ โดยตั้งใจที่จะดำเนินการเจรจาตามหลักการที่ตกลงกันในอิสตันบูล และต้องคำนึงถึงพื้นฐานความเป็นจริงที่ว่าขณะนี้มีสาธารณรัฐใหม่สี่แห่งในรัสเซีย แต่ข้อตกลงเหล่านี้ถูกตะวันตกปฏิเสธ

โดยรัฐมนตรีเซอร์เกย์ ลาฟรอฟกล่าวว่า ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีสั่งห้ามการเจรจากับรัสเซีย และทางรัสเซียก็พร้อมสำหรับการเจรจา หากคำนึงถึงความสมดุลทางผลประโยชน์ 

ซึ่งทั้ง 4 ประเด็น ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์จากบรรดานักวิชาการด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ถึงท่าทีและการส่งสัญญาณของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซียต่อทางสหรัฐอเมริกาและพันธมิตรตะวันตกผ่านทางนายทัคเกอร์ คาร์ลสันซึ่งผู้กำหนดนโยบายจากชาติตะวันตกจำเป็นจะต้องศึกษาและถอดความหมายจากการให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ต่อไป


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top