Tuesday, 20 May 2025
TheStatesTimes

รัฐเปอร์ลิสเปิดการท่องเที่ยวปี 2024-2025 มกุฎราชกุมารทรงเป็นประธาน คาดนักท่องเที่ยวเพิ่ม 3.5 ล้านคน สมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย ได้รับเกียรติเข้าร่วม

เมื่อค่ำวันที่ (7 ธ.ค.66) ที่ผ่านมา ณ คอนเวนชั่น ฮอล เมืองคาการ์ (Kangar) รัฐเปอร์ลิส ประเทศมาเลเซีย  ได้จัดให้มีกิจกรรมการเปิดการท่องเที่ยวรัฐเปอร์ลิส ประเทศมาเลเซีย 2024-2025 (2567-2568)ขึ้น หน่วยงานการท่องเที่ยว ภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชน สมาคมการท่องเที่ยว สมาคมนักข่าวจากรัฐต่างๆ รวมถึง สมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย เข้าร่วม 

โดยมี ตวนกูไซยิดไฟซุดดิน ไซยิดจามาลุลไลล์ (Tuanku syed Faizuddin Syed Jamalullail Raja Muda Perlis) มกุฎราชกุมารแห่งรัฐเปอร์ลิส ประเทศมาเลเซีย  พร้อมพระชายา ทรงเป็นประธานในพิธีเปิด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนพิธีเปิด แขกรับเชิญจากภาคต่างๆ ได้เดินทางมาถึงโดยมีการต้อนรับพร้อมกำหนดตามที่นั่งตามจุดที่กำหนด โดยคณะสื่อจากสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้ฯ และสื่อจากรัฐเปอร์ลิสและรัฐต่างๆ ได้รับเกียรติจัดให้มีที่นั่งด้านหน้าติดขอบเวที

เวลาประมาณ 20.00 น.มกุฎราชกุมารแห่งรัฐเปอร์ลิสพร้อมพระชายา และผู้ติดตาม เสด็จมาถึง ได้รับการตั้งแถวต้อนรับจากทางเข้า คณะผู้จัดงานนำเสด็จนขึ้นประทับที่นั่งบนเวที มีการขอดุอาร์ (ขอพร) พร้อมมีการแสดงวัฒนธรรมพื้นบ้าน การขับร้องเพลง การนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวมัลติวิชั่นผ่านจอ

โมฮัมหมัดสุกรี รอมลี  มุขมนตรีรัฐเปอร์ลิส กล่าวว่า ท่านมกุฎราฃกุมารมาเป็นประธานเมื่อค่ำวันที่ 7 ฮันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งพระองค์ท่านได้เชิญชวนประชาชนชาวเปอร์ลิสทุกคนร่วมเป็นทูตการท่องเที่ยว พร้อมที่จะเป็นเจ้าบ้านที่ดี ยิ้มแย้มแจ่มใส พร้อมต้อนรับ ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการท่องเที่ยว ที่พัก โรงแรม  รวมถึงร้านอาหาร 

นอกจากนั้น พระองค์ท่าน ยังกล่าวว่า ทุกฝ่ายจะต้องมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการท่องเที่ยว เพื่อให้รัฐเปอร์ลิสเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวในและต่างประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างเปอร์ลิสกับจังหวัดชายแดนภาคใต้

พระองค์ยังได้กล่าวอีกว่า การเตรียมพร้อมผลิตภัณฑ์ของท้องถิ่นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงต่างๆ ที่จะทำให้นักท่องเที่ยวมีความสุขในขณะที่มาท่องเที่ยว ประชาชนทุกคนทุกกลุ่มทุกเพศทุกวัยในรัฐเปอร์ลิสจะต้องเป็นเจ้าบ้านที่ดี พร้อมต้อนรับ มอบความสุข ความสงบให้กับผู้ที่มาเยือนรัฐเปอร์ลิสทุกคน

“เปอร์ลิสเป็นพื้นที่ทีมีศักยภาพสูงไม่ว่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศก์ แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ วัฒนธรรม ฯลฯ ซึ่งเป็นจุดเชื่อมการท่องเที่ยวระหว่างรัฐต่างๆ ของมาเลเซีย  ความก้าวหน้าทางการท่องเที่ยว จำเป็นที่จะต้องมีการพัฒนาให้ดีขึ้น ให้นักท่องเที่ยวเที่ยวมีความสุข และกลับมาเที่ยวซ้ำอีก” 

โดยในปี 2022 จากสถิติมีนักท่องเที่ยว 2.2 ล้านคน คาดว่าในปีการท่องเที่ยว 2024-2025 รัฐเปอร์ลิสจะมีนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ 3.5 ล้านคน

นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล นายกสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ได้รับการติดต่อประสานงานจากสมาคมท่องเที่ยวรัฐเปอร์ลิส และ สมาคมนักข่าวรัฐเปอร์ลิส โดยผ่าน คุณตูแวตานียา มือนิงิง ประธานอนุกรรมการฝ่ายต่างประเทศของสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้ฯ เป็นผู้ประสานงาน นำคณะของเรา 4 คน มาเยือนและมาเป็นแขกของงานเปิดโลกการท่องเที่ยวรัฐเปอร์ลิส 2024-2025 

“ท่านมกุฎราชกุมารแห่งรัฐเปอร์ลิส ทรงเป็นประธานในพิธีเปิด ซึ่งจัดได้ยิ่งใหญ่มาก เป็นงานอันซีนในการส่งเสริมการท่องเที่ยวรัฐเปอร์ลิส ถือเป็นเกียรติย่างสูงของสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย รวมถึงพวกเราทั้ง 4 คนที่ได้รับเกียรติมาร่วมงานในครั้งนี้  สมาคมฯ พร้อมที่จะประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวได้รับทราบ...

นอกจากนั้น พระองค์ท่านมกุฎราชกุมารแห่งรัฐเปอร์ลิส ก็ยังได้สนทนากับคณะพวกเราและทรงฉายภาพร่วมกัน ถือเป็นเกียรติอันยิ่งใหญ่ของสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทยและคณะที่ได้เดินทางมาครั้งนี้ครับ”

#perlis #thailand #tahunmelawatperlis2024 #PWP #สมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย #ไชยยงค์มณีรุ่งสกุล #ตูแวตานียามือนิงิง #KasemLimaphan #เกษมลิมะพันธุ์

(สุรินทร์) หน่วยฝึกนักศึกษาวิชาทหาร มทบ.25 จัดพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนและสวนสนามของนักศึกษาวิชาทหาร

วันที่ 8 ธันวาคม 2566 เวลา 13.30 น. พลตรี ชินวิช เจริญพิบูลย์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 25 เป็นประธาน พิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนและสวนสนามของนักศึกษาวิชาทหาร ณ ลานสโมสร ค่ายวีรวัฒน์โยธิน มณฑลทหารบกที่ 25 มี พันโท กฤษฎา ตะเภาพงษ์ ผู้บังคับหน่วยฝึกนักศึกษาวิชาทหาร มณฑลทหารบกที่ 25 ผู้กำกับนักศึกษาวิชาทหารและนักศึกษาวิชาทหารทั้งชายและหญิงเข้าร่วมพิธี จำนวน 16 โรงเรียน จำนวนทั้งสิ้น 326 คน ประกอบด้วย กองพันเดินสวนสนาม 2 กองพัน พิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนและสวนสนามของนักศึกษาวิชาทหารอันมีเกียรตินี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักศึกษาวิชาทหาร ได้กระทำสัตย์ปฏิญาณตนต่อหน้าผู้บังคับบัญชาระดับสูง และประชาชนทั้งหลายว่าจะยึดถืออุดมการณ์และดำรงไว้ ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตลอดจนเป็นสถาบันตัวอย่างในการสร้างวินัยให้แก่คนในชาติ พร้อมที่จะปกป้องอธิปไตยและร่วมพัฒนาชาติไทยให้เจริญรุ่งเรืองสืบไป อีกทั้งยังมุ่งหมายให้นักศึกษาวิชาทหาร ผู้กำกับนักศึกษาวิชาทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ดำเนินกิจกรรมร่วมกัน 

เพื่อแสดงออกถึงพลังของนักศึกษาวิชาทหารซึ่งเป็นกำลังสำรองของชาติ ให้เป็นที่ปรากฏแก่สายตาของผู้บังคับบัญชาและ ประชาชนทั่วไป เนื่องในวันนักศึกษาวิชาทหาร หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน ได้ริเริ่มประกอบพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนและสวนสนามของนักศึกษาวิชาทหารในส่วนกลางครั้งแรก เมื่อ พ.ศ.2509 ณ พระลานพระราชวังดุสิต (ลานพระบรมรูปทรงม้า) โดยมี จอมพล ถนอม กิตติขจร ผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานในพิธี และได้ประกอบพิธีดังกล่าวเป็นประจำทุกปี โดยมอบให้หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน รับผิดชอบการจัดพิธีสวนสนามฯ โดยได้รับการสนับสนุนจากสถานศึกษาวิชาทหารต่างๆ ซึ่งแต่เดิมเคยจัดประมาณเดือนพฤศจิกายนของทุกปี แต่เมื่อปี 2542 กองทัพบก ได้อนุมัติให้วันที่ 8 ธันวาคม เป็น “วันนักศึกษาวิชาทหาร” เพื่อระลึกถึงวีรกรรมของยุวชนทหาร ที่ร่วมต่อต้านทหารญี่ปุ่นยกพลขึ้นบกที่จังหวัดชุมพร ดังนั้น หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน จึงได้กำหนดให้เป็นวันประกอบพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนและสวนสนามของนักศึกษาวิชาทหารทั่วประเทศ สำหรับในส่วนภูมิภาคได้มอบให้หน่วยฝึกนักศึกษาวิชาทหาร ประกอบพิธีนี้พร้อมกันกับส่วนกลาง จึงถือได้ว่าพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนและสวนสนามของนักศึกษาวิชาทหารนั้น เป็นพิธีสำคัญและเป็นเกียรติแก่นักศึกษาวิชาทหารทุกคน

‘จุรินทร์’ ชี้ 2 ภารกิจหลักของหัวหน้าคนใหม่ คอยพัฒนาพรรค - ทำงานในสภาอย่างเต็มที่

(9 ธ.ค.66) ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ หลักสี่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ สัมภาษณ์ก่อนการประชุมใหญ่วิสามัญเพื่อเลือกหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ว่า อยู่ที่ทุกคนต้องช่วยกันให้ได้หัวหน้าพรรคฯ ส่วนตัวหวังว่าน่าจะเรียบร้อย ส่วนกรณีกระแสข่าวนายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะเสนอชื่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค ลงชิงหัวหน้าพรรคนั้น ตนไม่ทราบ แต่การแข่งขันภายในพรรคเป็นเรื่องปกติ

เมื่อถามว่าหลังการเลือกหัวหน้าพรรคครั้งนี้จะเกิดความขัดแย้งหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า อยู่ที่ตัวบุคคล ตนขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคนที่มีความตั้งใจที่จะเข้ามาพัฒนาพรรค โดยยึดถือประโยชน์พรรคเป็นหลัก

นายจุรินทร์ กล่าวว่า ซึ่งตนคิดว่าภารกิจของกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ อย่างน้อยที่สุดต้องมี 2 เรื่องเฉพาะหน้าที่จะต้องทำ เรื่องแรกก็คือทำหน้าที่ในสภาฯ ให้มีความเข้มแข็ง เพราะอันนี้คือการทำหน้าที่แทนคนไทยทั้งประเทศที่เลือกพรรค เรื่องที่สองก็คือภารกิจในการพัฒนาพรรค หมายความว่าทำให้มันดีขึ้นไปเรื่อยๆ หรือทำให้ดีขึ้น เพื่อที่จะได้เป็นที่ยอมรับของประชาชนมากขึ้นต่อไปในอนาคต

'อ.พงษ์ภาณุ' ชี้!! สัญญาณดี แก้ฝุ่น PM 2.5 แบบยั่งยืน เมื่อรัฐบาลจัดมาตรการเชิงรุก และเอกชนช่วยผลักดันอีกแรง

ทีมข่าว THE STATES TIMES ได้พูดคุยกับ อ.พงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ อดีตปลัดกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา อดีตรองปลัดกระทรวงการคลัง และผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์ระดับประเทศ ที่พูดคุยในรายการ Easy Econ ซึ่งออกอากาศทางสถานีวิทยุ ส.ทร. FM93.0 MHz และสื่อออนไลน์ ในเครือ THE STATES TIMES ในประเด็น 'การกลับมาของฝุ่น PM 2.5 ภารกิจสำคัญที่รัฐบาลต้องยกให้เป็นวาระแห่งชาติ' เมื่อวันที่ 10 ธ.ค.66 โดย อ.พงษ์ภาณุ กล่าวว่า...

ฝุ่น PM 2.5 กำลังจะเป็นประเด็นขึ้นมาอีก รัฐบาลควรต้องเตรียมการป้องกันแก้ไขและยกเป็นวาระแห่งชาติ

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและปัญหาโลกร้อนมีหลายประเด็นที่น่าสนใจในสัปดาห์ที่ผ่านมา จากการประชุม COP 28 ที่เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) 

ความพยายามที่จะให้มีการยุติการใช้เชื้อเพลิง Fossil Fuels อย่างสิ้นเชิง แม้จะยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน แต่ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี 

ส่วนผลสำเร็จที่เป็นรูปธรรมน่าจะเป็นการจัดตั้งกลไกการเงินที่เรียกว่า กองทุน Loss and Damage ที่จะทำหน้าที่เป็นแหล่งเงินทุนเยียวยาและสนับสนุนการปรับตัวของประเทศที่มีความเสี่ยงสูงและได้รับผลกระทบจากภาวะโลกร้อน 

ประเทศไทยก็อยู่ในกลุ่มประเทศที่มีความเปราะบางและสามารถเข้าถึงแหล่งเงินใหม่นี้ด้วย กองทุนนี้น่าจะเริ่มดำเนินการได้ในปี 2567 โดยมีธนาคารโลกเป็นผู้จัดการกองทุน

ทั้งนี้ ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ในไทย ก็เป็นผลพวงหนึ่งจากภาวะโลกร้อน ความพยายามของรัฐบาลก่อนที่ใช้มาตรการภาคบังคับทางกฏหมายได้พิสูจน์แล้วว่าไม่บังเกิดผลและล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง จนภาคประชาชนที่จังหวัดเชียงใหม่ได้ยื่นฟ้องรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และศาลปกครองจังหวัดเชียงใหม่ได้ตัดสินให้รัฐบาลเป็นฝ่ายแพ้และต้องเร่งแก้ไขสภาพอากาศให้กับคนเชียงใหม่ ซึ่งถือเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ของคนเชียงใหม่และเป็นการยืนยันว่ามาตรการของรัฐไม่สามารถดูแลความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนได้

ทางออกของเรื่องฝุ่น PM 2.5 นี้ จึงน่าจะอยู่ที่การใช้กลไกตลาดและกลไกทางธุรกิจของภาคเอกชน และก็เป็นที่น่ายินดี ที่ขณะนี้ธุรกิจเอกชนได้ริเริ่มโครงการหยุดเผาเรารับซื้อ โดยเข้ามารับซื้อเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรจากชาวไร่ชาวนา เพื่อนำไปแปรรูปเป็นแท่งเชื้อเพลิงชีวมวล (Biomass Pellets) และส่งขายให้กับธุรกิจขนาดใหญ่ทั้งในและต่างประเทศ นอกจากนี้ยังสามารถนำปริมาณคาร์บอนที่ลดได้จากการหยุดเผามาขายเป็นคาร์บอนเครดิต เพื่อส่งต่อเป็นรายได้เสริมให้กับเกษตรกรอีกด้วย

มาตรการริเริ่มของรัฐบาลที่น่าชมเชยคือ การจัดตั้งกองทุน ESG เพื่อระดมทุนจากประชาชนและนักลงทุนและจัดสรรเงินลงทุนไปสู่บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่ได้มาตรฐานด้านการรักษาสิ่งแวดล้อม ความรับผิดชอบต่อสังคม และธรรมาภิบาล จึงเป็นโอกาสอันดีที่คนไทยทุกคนจะได้มีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมด้วย

ลำปาง-ศฝท.มทบ.32 จัดพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตน และสวนสนามของนศท.

เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2566 ศูนย์การฝึกนักศึกษาวิชาทหาร มณฑลทหารบกที่ 32 จัดพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตน และสวนสนามของนักศึกษาวิชาทหาร ประจำปีการศึกษา 2566  เนื่องในวันนักศึกษาวิชาทหาร จากวีรกรรมอันกล้าหาญของ “ยุวชนทหาร” ที่ร่วมกับทหาร ตำรวจ และราษฎรอาสา ต่อต้านทหารญี่ปุ่นยกพลขึ้นบกที่จังหวัดชุมพร และในหลายพื้นที่ทางภาคใต้ของไทย เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ.2484 ณ สนามพิทยุทธยรรยงค์ ศูนย์การฝึกนักศึกษาวิชาทหาร มณฑลทหารบกที่ 32 ค่ายสุรศักดิ์มนตรี อ.เมือง จ.ลำปาง โดยมี พลตรี พรชัย นพรัตน์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32 เป็นประธาน 

ในการนี้ได้มีการจัดแสดงของนศท.อาทิ การแสดง ศิลปะป้องกันตัวมวยไทย, การแสดงประกอบเพลงบ้านเกิดเมืองนอน เป็นต้น และพิธีมอบรางวัลการสวนสนามของ นศท.ในประเภทต่างๆ, รางวัลกองร้อยสวนสนามขวัญใจสื่อมวลชน, รางวัลผู้บังคับกองพันสวนสนาม SMART LEADER ROTCS. และรางวัลปฎิบัติหน้าที่เป็นผู้บังคับกองผสม 

ทั้งนี้เพื่อให้ นศท.ได้แสดงออกถึงสมรรถภาพ ระเบียบวินัย มีโอกาสพบปะและรับฟังโอวาทจากผู้บังคับบัญชาชั้นสูง รวมถึงเป็นการประชาสัมพันธ์เพื่อให้ประชาชนมีความเข้าใจถึงบทบาทหน้าที่ของ นศท. และพร้อมที่จะให้การสนับสนุนกิจกรรมเพื่อความมั่นคงของประเทศชาติต่อไป

#8ธันวาวันนักศึกษาวิชาทหาร

‘จีน’ ออกแผนปฏิบัติการมุ่งปรับปรุง ‘คุณภาพอากาศ’ หวังลด PM 2.5 ให้ได้ร้อยละ 10 ภายในปี 2025

เมื่อวานนี้ (8 ธ.ค.66) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า คณะรัฐมนตรีจีนเผยแพร่แผนปฏิบัติการเพื่อปรับปรุงคุณภาพอากาศ ท่ามกลางความพยายามส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจคุณภาพสูงของประเทศ

แผนปฏิบัติการดังกล่าวประกอบด้วยชุดมาตรการที่มุ่งบรรลุเป้าหมายท้องฟ้าที่มีสีฟ้ามากขึ้น ภายในปี 2025 อาทิ การขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางอุตสาหกรรมสีเขียว การสร้างพลังงานผสมที่สะอาดมากขึ้น และการพัฒนาระบบการขนส่งคาร์บอนต่ำ

เป้าหมายของแผนนี้คือเพื่อลดความเข้มข้นของฝุ่นพิษขนาดเล็ก พีเอ็ม 2.5 (PM2.5) ในเมืองระดับแคว้นขึ้นไป ลงร้อยละ 10 ภายในปี 2025 เมื่อเทียบกับระดับปี 2020 เพื่อควบคุมสัดส่วนวันที่มีมลพิษทางอากาศย่ำแย่แต่ละปีให้อยู่ที่ร้อยละ 1 หรือต่ำกว่า และเพื่อลดการปล่อยก๊าซไนโตรเจนออกไซด์และสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่ายกว่าร้อยละ 10

ภูมิภาคปักกิ่ง-เทียนจิน-เหอเป่ยและพื้นที่โดยรอบ รวมถึงภูมิภาคสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซี และที่ราบเฝินเว่ย ถูกระบุเป็นพื้นที่สำคัญในแผนปฏิบัติการข้างต้น

นอกจากนี้ จีนจะสั่งห้ามกำลังการผลิตเหล็กใหม่ เร่งการยกเลิกกำลังการผลิตที่ล้าสมัยในอุตสาหกรรมหลัก และส่งเสริมอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

จีนจะดำเนินการเพื่อพัฒนาพลังงานใหม่และพลังงานสะอาดเพิ่มเติม เพื่อรับประกันว่าพลังงานที่ไม่ใช่ฟอสซิลจะครองสัดส่วนร้อยละ 20 ของการใช้พลังงานทั้งหมดของประเทศ ภายในปี 2025 โดยการผลิตและการจัดหาก๊าซธรรมชาติจะเพิ่มขึ้นเช่นกัน

ส่วนยานยนต์พลังงานใหม่จะครองสัดส่วนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของรถบัส รถแท็กซี่ และยานพาหนะขนส่งสาธารณะอื่นๆ ในเมืองรุ่นใหม่หรือที่ได้รับการปรับปรุงในพื้นที่สำคัญ

ทั้งนี้ จีนจะพยายามเสริมสร้างการกำกับดูแลและการบังคับใช้กฎหมาย การปรับปรุงกฎหมาย การปรับปรุงนโยบายสิ่งแวดล้อมและนโยบายเศรษฐกิจ ขยายความร่วมมือระหว่างประเทศในการจัดการสภาพแวดล้อมในชั้นบรรยากาศ ตลอดจนการป้องกันและควบคุมการแปรสภาพเป็นทะเลทราย

‘การบินไทย’ แจงปมผู้โดยสารโวยซื้อตั๋วชั้นธุรกิจ แต่ได้นั่งชั้นประหยัด เหตุปรับโครงสร้าง บินแทนไทยสมายล์ ขออภัยที่ไม่บอกเงื่อนไขให้ชัด

(9 ธ.ค. 66) สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) หรือ กพท. แจ้งว่า จากข้อร้องเรียนของผู้โดยสารสายการบินไทยที่ปรากฏบนสื่อสังคมออนไลน์ กรณีซื้อบัตรโดยสารเครื่องบินชั้นธุรกิจแต่ได้ที่นั่งชั้นประหยัด นั้น

เมื่อวันศุกร์ที่ 8 ธันวาคม 2566 สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) ในฐานะหน่วยงานกำกับ ดูแล ควบคุม และส่งเสริมการดำเนินงานของกิจการการบินพลเรือนให้เป็นไปตามกฎระเบียบและมาตรฐานสากลจึงได้ประชุมร่วมกับบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงในประเด็นดังกล่าว โดยมีรายละเอียดดังนี้

1.บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้ปรับโครงสร้างธุรกิจการบิน โดยทำการบินทดแทนสายการบิน ไทยสมายล์ ซึ่งปัจจุบันสายการบินไทยได้ทยอยทำการบินทดแทนเส้นทางบินต่างๆ ของสายการบิน ไทยสมายล์ ด้วยเครื่องบินแบบแอร์บัส A320 อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งปรับเปลี่ยนการให้บริการรูปแบบใหม่ โดยบัตรโดยสารแบบ Smile Plus ที่สายการบินไทยสมายล์เคยให้บริการนั้น สายการบินไทยได้ปรับเปลี่ยนเป็นบัตรโดยสารแบบ Silk Class ด้วยการเพิ่มบริการต่างๆ ให้เทียบเท่ากับบัตรโดยสารแบบชั้นธุรกิจ (Business Class) ของสายการบินไทย

เช่น เพิ่มน้ำหนักกระเป๋า 40 กิโลกรัม ให้บริการช่องเช็กอินและเกท สามารถพักผ่อนที่เลานจ์ ณ สนามบิน บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน เป็นต้น แต่ยังคงใช้ที่นั่งแบบชั้นประหยัด (Economy Class) ซึ่งจะอำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสารด้วยการเว้นที่นั่งตรงกลางไว้

อย่างไรก็ตาม การจัดจำหน่ายบัตรโดยสารแบบ Silk Class ในช่วงแรก บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ไม่ได้แจ้งข้อมูลเรื่องการให้บริการรวมถึงรูปแบบการจัดที่นั่งอย่างชัดเจน จึงส่งผลต่อการเลือกซื้อบัตรโดยสารของผู้ใช้บริการ

2.บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้รับทราบถึงข้อร้องเรียนของผู้โดยสารและได้ติดต่อไปยังผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาดังกล่าว พร้อมเสนอมาตรการแก้ไขปัญหาให้ผู้โดยสารแล้ว

3.บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้ตรวจสอบผู้โดยสารที่ซื้อบัตรโดยสารแบบ Silk Class ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2566 พบว่า ผู้โดยสารซื้อบัตรโดยสารในคลาสนี้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566 เท่านั้น ซึ่งสายการบินไทยจะติดต่อผู้โดยสารเรื่องข้อมูลการเดินทางและรายละเอียดการให้บริการที่ผู้โดยสารจะได้รับ หากไม่เป็นไปตามที่ผู้โดยสารคาดหวัง สายการบินไทยจะพิจารณาปรับเปลี่ยนเงื่อนไขหรือคืนเงิน ค่าโดยสารตามความต้องการของผู้โดยสาร โดยจะเริ่มต้นจากเส้นทาง กรุงเทพฯ-เกาสงก่อน

4.สำหรับการให้บริการในอนาคต บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) อยู่ระหว่างการพิจารณาปรับปรุงบริการให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ซึ่งอาจรวมถึงการปรับแผนการจำหน่ายบัตรโดยสาร เพื่อให้สามารถใช้อากาศยานแบบแอร์บัส A320 ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งบริษัทจะประชาสัมพันธ์ให้ผู้โดยสารทราบในการเปลี่ยนแปลงต่อไป ในการนี้ CAAT ได้กำชับให้บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ประชาสัมพันธ์การเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ อย่างครบถ้วน เพื่อประโยชน์ของผู้โดยสารในการเลือกใช้บริการตามความคาดหวังต่อไป

5.บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้ดำเนินการแก้ไขระบบการจองบัตรโดยสารในเว็บไซต์แล้ว เพื่อให้ผู้โดยสารทราบบริการและลักษณะที่นั่งตรงตามประเภทบัตรโดยสารที่เลือกซื้อ

6. CAAT เน้นย้ำให้ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ให้ความสำคัญเรื่องการแจ้งเงื่อนไขบัตรโดยสารให้ผู้โดยสารรับทราบขณะเลือกซื้อบัตรโดยสาร ดังนั้น CAAT จึงกำหนดให้ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ปรับปรุงวิธีการขายบัตรโดยสาร โดยต้องระบุบริการที่ชัดเจน และจัดทำแนวทางการเยียวยาผู้โดยสารส่งให้ CAAT พิจารณา เมื่อผ่านการพิจารณาแล้วให้บริษัท ดำเนินการประชาสัมพันธ์ให้ผู้โดยสารทราบต่อไป

States TOON EP.150

อิ่มแสง!!

***สงวนลิขสิทธิ์ภาพดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ห้ามมิให้ผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียนแบบ ดัดแปลง หรือนำส่วนใดส่วนหนึ่งไปใช้ แต่อนุญาตให้นำไปเผยแพร่ต่อได้ ตามต้นฉบับนี้ โดยไม่ต้องขออนุญาต 

‘เฉลิมชัย ศรีอ่อน’ ผงาดนั่งหัวหน้า ‘ปชป.’ คนที่ 9 ด้วยคะแนนเสียง 88.5% จาก 260 องค์ประชุม

(9 ธ.ค.66) ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น หลักสี่ กทม. ที่ประชุมใหญ่วิสามัญพรรคประชาธิปัตย์ ครั้งที่3/2566 ได้เข้าสู่ช่วงสำคัญคือการลงมติเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ คนที่ 9 ภายหลังจากเมื่อช่วงครึ่งวันเช้านายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ได้เสนอนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สมาชิกพรรค อดีตหัวหน้าพรรค ลงสมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค จนเกิดการเคลียร์ใจส่วนตัวในประเด็นที่คาใจของพรรค ระหว่างนายอภิสิทธิ์ กับนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการหัวหน้าพรรค และรักษาการเลขาธิการพรรค และทำให้นายอภิสิทธิ์ ประกาศลาออกจากสมาชิกพรรค หลังพักการประชุม 10 นาที ได้กลับเข้าสู่วาระเพื่อเสนอชื่อบุคคลชิงหัวหน้าพรรค

จากนั้นได้เข้าสู่กระบวนการเสนอชื่ออีกครั้ง โดยนายเดชอิศม์ ขาวทอง สส.สงขลา และรักษาการรองหัวหน้าพรรค ภาคใต้ เสนอชื่อนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เป็นหัวหน้าพรรค ส่วน น.ส.ผ่องศรี ธารภูมิ สมาชิกพรรคเสนอชื่อ พันโทหญิงฐิฏา รังสิตพล มานิตกุล ขณะที่นายขยัน วิพรหมชัย อดีต สส.ลำพูน เสนอชื่อน.ส.วทันยา บุนนาค มีเสียงรับรองเพียงพอ แต่เนื่องจากคุณสมบัติเป็นสมาชิกไม่ถึง 5 ปี และไม่เคยเป็นสส.ของพรรค ขัดกับข้อบังคับพรรค ข้อ31(6) และข้อ32(1 ) จึงต้องใช้เสียง 3 ใน 4 ของจำนวนผู้มาประชุม หรือ 195 เสียง เพื่อยกเว้นข้อบังคับดังกล่าว

ปรากฏว่า น.ส.วทันยา ได้เพียง 139 เสียง เท่ากับที่ประชุมไม่อนุญาตให้ลงสมัคร จึงถือว่าไม่ได้รับการคัดเลือกชิงหัวหน้าพรรค เช่นเดียวกับ พันโทหญิงฐิฏา ที่ไม่ผ่านคุณสมบัติชิงตำแหน่งเช่นเดียวกัน  ทำให้เหลือผู้ถูกเสนอชื่อคือ นายเฉลิมชัย เพียงคนเดียว

ทั้งนี้ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ลุกขึ้นกล่าวกับที่ประชุมว่า "กราบเรียนท่านชวน หลีกภัย ท่านบัญญัติ บรรทัดฐาน ท่านจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ท่านผู้บริหารพรรค ท่านผู้อาวุโส ท่านสมาชิกพรรคที่เคารพทุกท่านครับ

ผมเรียนอย่างนี้ว่า ที่ผมขึ้นมาพูดนี้ ขออนุญาตอาจจะไม่ใช่เป็นวิสัยทัศน์ แต่อยากจะมาพูดในบางสิ่งบางอย่างที่เป็นความรู้สึกของผม ผมขอกราบเรียนท่านสมาชิกทุกท่านว่า ผมรู้ว่าการตัดสินใจของผมในวันนี้มันเจ็บ มันทำลายสิ่งที่ผมสร้างมาทั้งชีวิต เข้าใจครับ แต่ผมพูดอยู่ตลอดเวลาว่า ผมคุยกับท่านหัวหน้าอภิสิทธิ์เมื่อสักครู่ ผมกรีดเลือดออกมาก็เป็นสีฟ้า ไม่มีสีอื่นเลย แล้วตลอดระยะเวลาที่ผมอยู่ในประชาธิปัตย์ ก็ยึดหลักการ และอุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยเปลี่ยนแปลง และเป็นคนเคร่งครัดในหลักการด้วยซ้ำ ก็เรียนท่านหัวหน้าอภิสิทธิ์ 

แล้วเมื่อผมมาเป็นรัฐมนตรี พรรคให้โอกาส ผมยืนยันเรื่องความซื่อสัตย์ สุจริต กล้าพูดนะครับว่า ผมไม่มีมลทินเรื่องนี้ ผมเป็นคนหนึ่งที่เวลาที่ผมอยู่กระทรวงเกษตรฯ ผมกล้าท้าข้าราชการให้ตรวจสอบผมอีกครับ เพราะว่าผมไม่ได้ไปในนามของตระกูลศรีอ่อน ผมไปในนามพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งติดตัวผม 

แล้ววันนี้ก็เช่นเดียวกัน เมื่อวานผมก็สัมภาษณ์ไป บอกวันนี้ถึงผมจะมีแต่วิญญาณแต่ผมยังมีความสำนึกในพระคุณ ในทุกอย่างที่เป็นประชาธิปัตย์ ที่ทำให้ผมมีโอกาสมายืนวันนี้ ผมเรียนท่านสั้นๆ ว่าผมมีความจำเป็นครับ และผมก็อยากจะเห็นพรรคเดินไปข้างหน้า

ผมจะทำทุกอย่างให้พรรคมีเอกภาพ ผมจะทำให้พรรคซึ่งมีอยู่แล้วนี้ ยึดมั่นในหลักการ และอุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ และที่สำคัญเมื่อสักครู่ที่ผมคุยกับท่านหัวหน้าอภิสิทธิ์ก็คือ ผมยืนยันกับหัวหน้าอภิสิทธิ์ว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยเป็นพรรคอะไหล่ ไม่ใช่ว่าเราจะไม่เป็นนะครับ เราไม่เคยเป็นตลอดระยะเวลา 22 ปี ที่ผมอยู่ประชาธิปัตย์ เราไม่เคยเป็นพรรคอะไหล่ หลายสิ่งหลายอย่างที่ผ่านมา มันอาจจะทำให้การเมืองของพรรคสะดุด ผมก็จะพยายามทำทุกอย่าง เหมือนที่ผมบอกละครับว่า ผมมาทำงานในภารกิจหนึ่ง ผมจะพยายามทำตรงนี้ให้ดีที่สุด จะพยายามทำให้เป็นเอกภาพ และทำให้ดีที่สุดและจะไม่มีวันทำลายหลักการ และอุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ ขอบคุณมากครับ" นายเฉลิมชัย กล่าว

จากนั้นในเวลา 13.31 น. ที่ประชุมได้ลงมติเลือกนายเฉลิมชัย เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนที่ 9 ด้วยคะแนน 88.5 เปอร์เซ็นต์โดยที่ประชุมมีองค์ประชุม 260 คน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top