Monday, 19 May 2025
TheStatesTimes

‘มาดามเดียร์’ ปลื้ม!! ผลสำรวจนิด้าโพล ชี้!! เหมาะสมเป็นหัวหน้าพรรคคนต่อไป

‘มาดามเดียร์’ ร่วมเป็นกรรมการตัดสินประกวด ‘Policy Hackathon’ มหาวิทยาลัยขอนแก่น พร้อมพบตัวแทนสาขาพรรคฯ เน้นย้ำความตั้งใจลงชิงหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพื่ออนาคตของพรรคและประเทศ ขอบคุณหลังผลนิด้าโพลประชาชนยกให้เหมาะสมเป็นหัวหน้าคนต่อไป

(3 ธ.ค. 66) ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมืองกรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ เดินทางร่วมกิจกรรมเป็นกรรมการตัดสินกิจกรรม การประกวดนโยบาย Policy Hackathon ในงาน ‘มหกรรมสิงห์วิชาการ ครั้งที่ 9’ ซึ่งจัดโดยสาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ คณะมนุษศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น

ในโอกาสนี้ น.ส.วทันยา ยังได้พบปะตัวแทนสาขาพรรคประชาธิปัตย์ประจำจังหวัด และสมาชิก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือจากหลายจังหวัด เพื่ออธิบายถึงความตั้งใจในการประกาศตัวลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนที่ 9 และแนวทางในการทำงานเพื่อฟื้นฟูอุดมการณ์และความศรัทธาของพรรค ให้ได้รับการยอมรับและเป็นที่ไว้ใจให้กับประชาชนอีกครั้ง รวมถึงยังได้มีการแลกเปลี่ยนรับฟังถึงปัญหาและความต้องการจากตัวแทนสาขาพรรค เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังและเป็นรูปธรรมต่อไป

โดยในการพูดคุยตัวแทนสาขาพรรค มีความเห็นพ้องร่วมกันว่าอยากให้ น.ส.วทันยา ได้รับการเลือกตั้งเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนที่ 9 เพราะเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์ทั้งด้านธุรกิจและด้านการเมือง จึงเชื่อมั่นว่าจะสามารถฟื้นฟูและนำพาพรรคประชาธิปัตย์ให้กลับมาเป็นที่เชื่อมั่นของประชาชนได้อีกครั้ง

ขณะที่ น.ส.วทันยา ได้กล่าวย้ำถึงความตั้งใจที่เสนอตัวลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ว่า ตนมีความตั้งใจที่จะฟื้นฟูอุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ให้กลับมาเป็นที่พึ่งของประชาชนให้ได้ และชวนทุกคนมาร่วมสร้างพรรคการเมืองให้เป็นพรรคของประชาชนอย่างแท้จริง ด้วยการเปิดพื้นที่ให้ประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมในทุกมิติของพรรค

นอกจากนี้ น.ส.วทันยา ยังได้กล่าวถึงผลสำรวจของนิด้าโพล ที่ประชาชนส่วนใหญ่มองว่าตนมีความเหมาะสมที่จะเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่ ว่า ขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ได้เล็งเห็นถึงศักยภาพความตั้งใจของตน ที่ได้เสนอตัวต่อพี่น้องประชาชนและสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์

‘จีน’ มีโรงงานอัจฉริยะ-สถานีฐาน 5G กว่า 2.2 แสนแห่งแล้ว พร้อมผลักดันเครือข่ายขนาดใหญ่-ล้ำสมัยมากที่สุดในโลก

เมื่อไม่นานนี้ สำนักข่าวซินหัว, หางโจว รายงงานว่า สำนักเศรษฐกิจและเทคโนโลยีสารสนเทศ ประจำมณฑลเจ้อเจียงทางตะวันออกของจีน รายงานว่า ปัจจุบันเจ้อเจียง ซึ่งเป็นศูนย์กลางธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ได้ก่อสร้างสถานีฐาน 5G เป็นจำนวน 220,000 แห่งแล้ว

‘หลี่หมิน’ รองผู้อำนวยการสำนักฯ ซึ่งร่วมการประชุม 5G+ อินเทอร์เน็ตอุตสาหกรรมแห่งสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซี ปี 2023 ในเมืองเส้าซิงของเจ้อเจียง กล่าวว่าปัจจุบันผู้อยู่อาศัยในเจ้อเจียงทุก 10,000 คน สามารถเข้าถึงสถานีฐาน 5G มากกว่า 33 แห่ง

นอกจากนั้น เจ้อเจียงได้สร้าง ‘โรงงานแห่งอนาคต’ และโรงงานอัจฉริยะระดับมณฑล จำนวน 653 แห่ง และสร้างแพลตฟอร์มอินเทอร์เน็ตอุตสาหกรรมระดับมณฑล จำนวน 535 แห่ง

อนึ่ง จีนถือเป็นผู้นำโลกด้านการพัฒนา 5G ด้วยจำนวนสถานีฐานรวม 2.84 ล้านแห่ง เมื่อนับถึงสิ้นเดือนพฤษภาคมของปีนี้ โดยจีนกำลังพยายามสร้างโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายที่มีขนาดใหญ่และล้ำสมัยมากที่สุดในโลก

‘แพทย์’ แนะ!! ‘เศรษฐา’ ให้พักผ่อนมากขึ้น หลังผลตรวจพบภาวะ ‘เครียด-ตื่นเต้น-กดดันสูง’

เมื่อวานนี้ (3 ธ.ค.66) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระหว่างลงพื้นที่ตรวจการดำเนินงานตามมาตรการป้องกัน และแก้ไขปัญหายาเสพติด ‘หนองบัวลำภูโมเดล’ และการดูแลผู้ป่วยจิตเวชจากการใช้ยาเสพติด และตรวจเยี่ยมกระบวนการบำบัดรักษาผู้ป่วยจิตเวช ที่โรงพยาบาลสุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู

โดยช่วงหนึ่ง นายกรัฐมนตรีได้เข้าไปตรวจสภาพร่างกายเบื้องต้น บนรถโมบายเคลื่อนที่ ของกรมสุขภาพจิต ประจำโรงพยาบาลสุวรรณคูหา จังหวัดหนองบัวลำภู โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ซักประวัตินายกรัฐมนตรี โดยผลการตรวจร่างกายพบว่า นายกรัฐมนตรีมีสภาวะเครียดสูง ตื่นเต้น และกดดัน ทำให้ระบบประสาทไม่สมดุลกัน ทั้ง 2 ด้าน

ทำให้นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวเสริมว่า เนื่องจาก นายกรัฐมนตรี มีภารกิจเยอะ จะไม่เครียดได้อย่างไร รวมถึงความเหนื่อยล้าของสภาพร่างกาย ทำให้นายกฯ ถึงกับขั้นหัวเราะเสียงดัง เปรียบเสมือนการยอมรับความจริง ซึ่งแพทย์ก็แนะนำให้นายกรัฐมนตรีนอนหลับพักผ่อนให้มากขึ้น

ก่อนที่เดินลงมาถ่ายภาพร่วมกับคณะแพทย์และโรงพยาบาล และรับฟังบรรยาย ระบบการใช้อุปกรณ์รถเคลื่อนที่ ในการรักษา

'พีระพันธุ์’ เชียร์นำเข้าไฟฟ้าจาก สปป.ลาว  จี้!! กฟผ. แจงเหตุผลที่จำเป็นแก่ประชาชน

เมื่อวานนี้ (3 ธ.ค. 66) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ลงพื้นที่สถานีไฟฟ้าแรงสูงอุดรธานี 3 ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ณ บ้านหนองแก ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี ว่าโครงการนี้เป็นโครงการระบบส่งที่รับไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้า IPP พลังน้ำจากเขื่อนน้ำงึม 2 เขื่อนน้ำเงี้ยบ 1 และเขื่อนน้ำเทิน 1 จาก สปป.ลาว มีกำลังการผลิตรวม 1,516 เมกะวัตต์ ก่อสร้างเสร็จเมื่อปี 2559 ด้วยมูลค่าก่อสร้าง 859 ล้านบาท ซึ่งการนำเข้าไฟฟ้าจาก สปป.ลาว จะช่วยเสริมความมั่นคงด้านพลังงานไฟฟ้า เป็นพลังงานสะอาดและสามารถลดการพึ่งพาก๊าซธรรมชาติที่มีราคาผันผวนในระดับสูงอยู่ในปัจจุบันได้ ซึ่งในส่วนของจังหวัดอุดรธานี เป็นจังหวัดที่มีการใช้ปริมาณไฟฟ้าสูงสุดเป็นอันดับ 4 ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

โดยสถานีไฟฟ้าแรงสูง 3 จังหวัดอุดรธานี ที่ได้เยี่ยมชมในวันนี้นับว่าเป็นโครงการที่ดี เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดภาระค่าไฟฟ้าที่กำลังเป็นประเด็นปัญหาในปัจจุบัน เพราะต้นทุนไฟฟ้าพลังงานจาก สปป.ลาว มีราคาค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับราคาก๊าซธรรมชาตินำเข้าในปัจจุบันที่มีราคาผันผวนในระดับที่สูง แต่กระทรวงพลังงานก็พยายามบริหารจัดการทั้งโครงสร้างราคาค่าไฟฟ้าและโครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติให้เกิดความเป็นธรรม ไปพร้อมกับการจัดหาแหล่งพลังงานที่มีต้นทุนต่ำ สร้างความมั่นคงเพื่อสร้างความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ และเพื่อให้ประชาชนได้ใช้ไฟฟ้าในราคาที่เป็นธรรม เหมาะสม และยั่งยืน

“ผมได้แสดงความห่วงใยถึงภาระหนี้ที่ กฟผ. แบกรับอยู่ ณ ปัจจุบัน พร้อมจะช่วยแก้ปัญหา รวมทั้งขอให้ กฟผ.ชี้แจงเหตุผลให้ประชาชนรับทราบถึงความจำเป็นในการรับซื้อไฟฟ้าจากลาว ซึ่งเป็นพลังงานสะอาดและมีต้นทุนที่ต่ำ” นายพีระพันธุ์กล่าว

นายพีระพันธุ์กล่าวว่า นอกจากนี้ ได้เดินทางไปยังโรงไฟฟ้าของบริษัท เรืองสิริวรรณ จำกัด ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี โรงไฟฟ้าประเภทก๊าซชีวภาพจากหญ้าเนเปียร์ กำลังการผลิตไฟฟ้าประมาณ 0.90 เมกะวัตต์ เริ่มจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ตั้งแต่ปี 2561 โรงไฟฟ้าดังกล่าวถูกร้องเรียนจากประชาชนถึงมลภาวะทางกลิ่นและฝุ่น ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน เขต 4 ร่วมกับสำนักงานพลังงานจังหวัดอุดรธานี สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 9 (อุดรธานี) และสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดอุดรธานี ได้เข้าร่วมตรวจสอบการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าและได้สั่งให้มีการแก้ไขปรับปรุงให้ได้มาตรฐานและไม่ให้เกิดผลกระทบกับประชาชนรอบโรงไฟฟ้า

“การเลือกดูงานที่โรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพของบริษัท เรืองสิริวรรณ จำกัด เพราะได้รับรายงานว่าสร้างมลภาวะทางกลิ่นและฝุ่น ส่งผลกระทบกับประชาชนรอบโรงไฟฟ้า จากการรับฟังผู้ประกอบการได้รายงานแนวทางการแก้ไขปัญหา คาดการณ์ได้ว่าแก้ไขได้โดยเร็ว แต่ผมได้กำชับทั้งผู้ประกอบการและส่วนราชการในการหาแนวทางแก้ไขปัญหาในพื้นที่นี้รวมถึงพื้นที่อื่นๆ ด้วย โรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพนี้ แม้จะเป็นโครงการที่ดี สร้างรายได้ให้กับชาวบ้านที่ปลูกหญ้าเนเปียร์ป้อนให้โรงไฟฟ้า และลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงจากต่างประเทศ แต่โรงไฟฟ้าก็ต้องมีมาตรฐาน ไม่สร้างมลภาวะให้กับประชาชนรอบโรงไฟฟ้าด้วย” นายพีระพันธุ์กล่าว

‘เบิร์ด ธงไชย’ ภูมิใจ!! ได้ร่วมสืบสานศิลปวัฒนธรรมประจำชาติ หลังเข้าชมโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ตอนกุมภกรรณทดน้ำ

เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.66 ‘เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์’ ศิลปินแห่งชาติ ร่วมสืบสานศิลปะการแสดงนาฏศิลป์ชั้นสูงของไทย เข้าชมการแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ตอนกุมภกรรณทดน้ำ ท่ามกลางผู้ชมแน่นขนัดเต็มพื้นที่บริเวณด้านหน้าหอประชุมใหญ่ ต่างพากันขอถ่ายรูป ล้อมหน้าล้อมหลัง ด้วยความดีใจอย่างไม่คาดคิดเมื่อต่างหันมาพบ ‘เบิร์ด ธงไชย’ ขวัญใจของมหาชน เดินอยู่ด้านข้าง มาร่วมชมโขนในรอบประชาชน

เพิ่งจบคอนเสิร์ตใหญ่ไปหมาดๆ ‘เบิร์ด ธงไชย’ ศิลปินแห่งชาติ จัดเวลาดูโขนร่วมสืบสานศิลปวัฒนธรรม เป็นแบบอย่างของคนไทยที่ให้ความสำคัญและเห็นคุณค่าของการแสดงศิลปวัฒนธรรมประจำชาติ โดย ‘เบิร์ด ธงไชย’ ภูมิใจที่ได้มาชมโขน ชื่นชมนักแสดงและคณะทำงานทุกด้านที่ร่วมกันสร้างสรรค์การแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ตอนกุมภกรรณทดน้ำ ที่วิจิตรสวยงามครบทุกองค์ประกอบและมีคุณค่ายิ่ง

โดยบรรยากาศของผู้ชมที่เข้าชมรอบนี้อย่างแน่นขนัด พร้อมภาพแห่งความอิ่มเอมใจที่ได้รับชมการแสดงโขนไปพร้อมกับศิลปินที่ชื่นชอบ และได้ถ่ายรูปกับ ‘เบิร์ด ธงไชย’ ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย

สำหรับการแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ตอนกุมภกรรณทดน้ำ บัตรได้เต็มทุกที่นั่ง ยินดีกับผู้ที่จับจองบัตรได้และได้รับชมการแสดงกันไปด้วยความประทับใจ สำหรับผู้ที่พลาดชมปีหน้าพบกันใหม่ ส่วนจะเป็นตอนอะไรนั้นติดตามข่าวสารได้ทางเพจโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ

'หมอยง' ชี้!! โรคปอดบวมในเด็กที่กำลังระบาด เป็นเชื้อที่มีอยู่เดิมแล้ว  เมื่อติดเชื้อจะมีภูมิต้านทาน หากติดปีต่อๆ ไป ความรุนแรงก็จะน้อยลง

(4 ธ.ค. 66) นพ.ยง ภู่วรวรรณ ราชบัณฑิต สำนักวิทยาศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊ก Yong Poovorawan เรื่อง ‘โรคปอดบวม ปอดอักเสบ ที่เพิ่มมากขึ้น’ ระบุว่า มีการระบาดและเพิ่มมากขึ้นของปอดอักเสบ โดยเฉพาะในเด็ก ไม่ใช่เฉพาะประเทศจีน ยังพบมากในเนเธอร์แลนด์ เดนมาร์ก อเมริกาในหลายรัฐ และแม้แต่ในประเทศไทย

จากการระบาดของโควิด-19 มาถึงขณะนี้เป็นเวลา 4 ปี ในช่วง 3 ปีแรก มีมาตรการเข้มงวด เคร่งครัด ควบคุมการระบาดของโรค ใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือ ใช้แอลกอฮอล์เช็ดมือ ปิดบ้านปิดเมือง รวมทั้งปิดโรงเรียน ทำให้โรคทางเดินหายใจ ไม่ระบาด เด็กที่เกิดในช่วงนี้ จึงยังไม่เคยเป็นโรคดังกล่าว หรือถ้าเป็นมาแล้วในเด็กโตก็นานมาแล้ว ทำให้ประชากรส่วนใหญ่โดยเฉพาะเด็ก ง่ายต่อการติดเชื้อ เกิดระบาดได้ง่าย เป็นกลุ่มใหญ่ ชดเชยกับปีที่ผ่านมาที่ไม่มีการระบาด

โรคทางเดินหายใจในเด็กส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัส โควิด-19 ไข้หวัดใหญ่ RSV parainfluenza virus rhinovirus hMPV เป็นเชื้อที่มีอยู่เดิมแล้ว ไม่ได้เป็นเชื้ออุบัติใหม่แต่อย่างใด เมื่อติดเชื้อไปแล้ว ก็จะมีภูมิต้านทานเกิดขึ้น ปีต่อ ๆ ไปถึงจะมีการติดเชื้ออีก อาการความรุนแรง ก็จะน้อยลง

ความรุนแรงของโรคส่วนใหญ่จะอยู่ในเด็กเล็ก กลุ่มเปราะบางที่มีโรคประจำตัว ผู้สูงอายุ ถ้าเป็นในเด็กโตหรือผู้ใหญ่ที่แข็งแรงจะมีอาการน้อย

‘อนุทิน’ ย้ำ!! ดีเดย์เปิดสถานบันเทิง ถึงตี 4 คาด!! เริ่ม 15 ธันวาคมนี้ นำร่อง 5 จังหวัด

(4 ธ.ค.66) ที่โรงแรมณัฐพงษ์ แกรนด์ จ.หนองบัวลำภู นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงนโยบายการเปิดผับถึงเวลา 04.00 น. ในพื้นที่ 5 จังหวัดนำร่อง (กทม. ภูเก็ต ชลบุรี เชียงใหม่ และเกาะสมุย) จะเริ่มในวันที่ 15 ธ.ค.นี้ หรือไม่ ว่า ทางกระทรวงมหาดไทย (มท.) ส่งร่างประกาศต่างๆ ที่เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบไปแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนรายละเอียดต่างๆ ต้องไปถามอธิบดีกรมการปกครอง

ด้าน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง เปิดเผยว่า คาดว่าการเปิดสถานบันเทิงถึงเวลา 04.00 น. ใน 5 จังหวัดดังกล่าวจะสามารถเปิดได้ในวันที่ 15 ธ.ค.นี้ ตามนโยบายรัฐบาล

‘นายกฯ’ ปลื้ม!! โชว์ผ้ามัดหมี่สีชมพูทอชื่อ ‘เศรษฐา ทวีสิน’ ของขวัญจากกลุ่มแม่บ้านโนนสูง จ.หนองบัวลำภู

(4 ธ.ค. 66) ที่ โรงแรมณัฐพงศ์แกรนด์ อ.เมืองหนองบัวลำภู จ.หนองบัวลำภู ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ครั้งที่ 1/2566 ครั้งแรกที่ จ.หนองบัวลำภู ที่ห้องประชุมโรงแรมณัฐพงษ์ แกรนด์ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เป็นประธานการประชุม

ครม.สัญจร ครั้งแรก บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก นายกฯ และครม.ได้สวมเสื้อผ้าขิดสลับหมี่ ลายบัวลุ่มภู ซึ่งเป็นลายประจำจังหวัดหนองบัวลำภู สอดคล้องกับคำขวัญของจังหวัด ‘ดินแดนแห่งอารยธรรม ธรรมชาติรายล้อม ผ้าไหมงดงามตา’ 

นอกจากนี้ทางจังหวัดได้เตรียมผ้าพันคอมัดหมี่ลายขอประยุกต์สีน้ำตาล ย้อมจากเปลือกมะพร้าวและหมักลงโคลนสระบัวหลวง ผลิตโดยกลุ่มทอผ้าพื้นเมืองบ้านกุดดู่ ให้นายกฯ ด้วย

เมื่อมาถึงนายกฯ ได้เดินมาหาสื่อมวลชน พร้อมนำผ้าทอมัดหมี่สีชมพูเข้มทอเป็นชื่อและนามสกุลของนายกรัฐมนตรี ที่ทางจังหวัดมอบให้เป็นที่ระลึก มาโชว์สื่อมวลชน ซึ่งเป็นผ้าจากกลุ่มแม่บ้านโนนสูง ต.บ้านถิ่น อ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู ที่ต้องใช้เวลาทอประมาณ 1 เดือน เพราะใช้ 40 กว่าหมี่ ความยาว 7 เมตร โดยจะนำผ้าดังกล่าวไปตัดเป็นเสื้อ ขณะที่นายกฯ ระบุว่า อยากจะซื้อตั้งแต่เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. แต่ความยาวแค่ 2 เมตร

นอกจากนั้นทางกลุ่มแม่บ้านฯ ยังได้ทอผ้าอีกหนึ่งผืน เพื่อเตรียมมอบให้กับน.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟพาวเวอร์แห่งชาติ โดยทอเป็นชื่อ ‘อุ๊งอิ๊ง ชินวัตร’ โดยจะมอบให้ ในช่วงบ่ายที่จะลงพื้นที่ร่วมกับนายกฯ

จากนั้นนายกฯ เยี่ยมนิทรรศการ ณ บริเวณหน้าห้องประชุม ภาพรวมการดำเนินงานของจังหวัดหนองบัวลำภู ได้แก่ เกษตรเพิ่มมูลค่า จังหวัดสีขาว เมืองผ้า น่าอยู่ น่าเที่ยว เทคโนโลยีระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ และโครงการความร่วมมือพัฒนาระบบการให้ความรู้ทางการเงินและมาตรการแก้ปัญหาหนี้รายย่อย

ก่อนที่เวลา 09.50 น. นายกรัฐมนตรี ถ่ายภาพร่วมกับคณะรัฐมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตอนบน 1 และผู้แทนภาครัฐ ณ ห้องประชุม โรงแรมณัฐพงษ์ แกรนด์ หนองบัวลำภู

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะที่ บรรดา ครม.ต่างสวมเสื้อผ้าขิตสลับหมี่ สีชมพู เข้าร่วมประชุม อย่างพร้อมเพรียง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผ้าทอมัดหมี่ที่กลุ่มแม่บ้านแม่บ้านโนนสูง ต.บ้านถิ่น อ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู นำมามอบให้กับนายกรัฐมนตรีเป็นที่ระลึกนั้น นายกฯ ได้จ่ายเงินส่วนตัวเพื่อซื้อผ้าผืนดังกล่าวในราคา 7,000 บาท เพื่อ เป็นกำลังใจให้กับกลุ่มแม่บ้าน

'ต้อม-ยุทธเลิศ' อัปเดต!! บทหนัง 1410 เวอร์ใหม่!! โครงเรื่องเปลี่ยน!! มุ่งเจาะ 'ตั๋วปารีส-ม็อบต้มตุ๋น'

หลังจาก ‘เพชร กรุณพล เทียนสุวรรณ’ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้ออกมาชักชวนให้ประชาชน ร่วมกันแจ้งความผู้กำกับดัง ที่ขอเงินระดมทำหนัง แต่ก็เงียบหายไปนั้น 

ต่อมา ทาง ‘ต้อม ยุทธเลิศ สิปปภาค’ ผู้กำกับหนังคนดัง ได้แจ้งความคืบหน้าผ่าน instagram baddirector.nmg ดังนี้...

นี่คือหนังที่ ‘สัตว์เลี้ยง’ ของพรรคก้าวไกลพูดถึงและพยายามปั่นมาให้กลบข่าวแพ้คดีของตัวเอง ดีเลยจะได้ถือโอกาสนี้อัปเดตในทีเดียว

ครั้งแรกหนังเรื่องนี้สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นอุบายรวมมวลชนไปสบทบกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่เป็นนักเรียนนักศึกษาที่สนามหลวงเพื่อดูหนังผ่านมือถือ 

แต่เมื่อม็อบถูกสลายได้อย่างเบ็ดเสร็จ โครงเรื่องที่แต่แรกจะเล่าเรื่องแกนนำของนักเรียนนักศึกษา จึงเปลี่ยนไป 

ตัวดำเนินเรื่องจะเปลี่ยนเป็นเรื่องราวของศิลปินหนุ่มคนหนึ่งในกลุ่มขบวนการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ศิลปินหนุ่มผู้ถูกเชิญไปพบกับท่อน้ำเลี้ยงของขบวนการล้มเจ้าที่มีอยู่จริงที่ฝรั่งเศส

ใช่ครับ Base on @headache_stencil 's True story ตีแผ่ขบวนการล้มเจ้าและขบวนการตุ๋นม็อบที่มาในนาม #บุ๊ง18มงกุฎ #นนท์ต้มตุ๋น และแม่ยกแซนเจริญ อย่างถึงแก่น 

สถานการณ์โครงการตอนนี้คือ เตรียมเรื่องเสนอ งบจากฝ่ายความมั่นคงของประเทศไทย

*โครงการนี้ไม่เคยเปิดรับบริจาคเข้าบัญชีส่วนตัวเหมือนมิจฉาชีพหลายคนในม็อบทำกัน แต่โครงการเปิดรับในลักษณะของผู้ร่วมลงทุนผ่านบัญชีบริษัท และบริษัทได้ปิดรับการโอนแต่ตั้งแต่มีเรื่องขัดแย้งกับมิจฉาชีพในม็อบ เป็นกลุ่มผู้อ้างตัวเองว่าเป็นเจ้าของม็อบราษฎร โครงการจึงปิดรับนายทุนไป แต่ครั้งนั้นระดมทุนได้ ล้านกว่าภายในเวลาเพียง 1 อาทิตย์ (จินตนาการถึงยอดเงินของพวกมิจฉาชีพที่จนปัจจุบันยังไม่ยอมเปิดเผยยอดบัญชีออกกันรึเปล่า?) หลังจากปิดรับเงิน ผู้กำกับก็เปิดวอร์ใช้กฎหมายไล่เช็กบิลพวกตุ๋นม็อบทีละคนทีละ จนถึงปัจจุบัน

*สำหรับใครที่เคยโอน แล้วต้องการเงินกลับ แจ้งแสดงหลักฐานได้ที่ทวิตเตอร์ ผู้กำกับเลว ได้ตลอดเวลา

'อิสราเอล' กร้าว!! จะไล่ล่า 'ฮามาส' ทั้งใน 'เลบานอน-ตุรกี-กาตาร์' แม้ต้องใช้เวลาหลายปี หลังดับชีวิต 'เด็ก-สตรี' ในกาซาไปแล้วกว่า 15,000 คน

(4 ธ.ค.66) อิสราเอลจะไล่ล่าฮามาสในเลบานอน ตุรกีและกาตาร์ แม้ต้องใช้เวลานานหลายปี จากคำประกาศกร้าวของสำนักงานความมั่นคงชินเบต (Shin Bet) ระบุในถ้อยแถลงในเทปบันทึกภาพที่ออกอากาศผ่านสำนักข่าวข่าน สื่อมวลชนแห่งรัฐอิสราเอลเมื่อวันอาทิตย์ (3 ธ.ค.)

ไม่เป็นที่ชัดเจนว่า ‘โรเนน บาร์’ หัวหน้า Shin Bet แสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่และกับใคร ในขณะที่ตัวสำนักงานความมั่นคง ปฏิเสธแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว

"คณะรัฐมนตรีกำหนดเป้าหมาย ในการพูดอย่างไม่เป็นทางการ ในการกำจัดฮามาส นี่คือมิวนิคของเรา เราจะทำสิ่งนี้ในทุกหัวระแหวงของกาซา ในเวสต์แบงก์ ในเลบานอน ในตุรกีและในกาตาร์ มันจะใช้เวลาหลายปี แต่เราจะทำมัน"

ในการกล่าวถึงมิวนิค ‘บาร์’ อ้างถึงปฏิบัติการตอบโต้ของอิสราเอล ต่อเหตุการณ์เมื่อปี 1972 ที่คณะนักกีฬาโอลิมปิกของอิสราเอล 11 คนเสียชีวิต จากกรณีที่พวกมือปืนจากกลุ่มปาเลสไตน์ กันยายนทมิฬ (Black September) เปิดฉากโจมตีมิวนิคเกมส์

อิสราเอล ตอบโต้ด้วยการเปิดยุทธการณ์ลอบสังหารแบบเล็งเป้าหมาย กับพวกมือปฏิบัติการและพวกผู้วางแผนของกลุ่มกันยายนทมิฬ เป็นเวลาหลายปีและในหลายประเทศ

ทั้งนี้ อิสราเอล ประกาศกำจัด ฮามาส หลังกลุ่มมือปืนของนักรบปาเลสไตน์ บุกจู่โจมข้ามชายแดนจากฉนวนกาซา เข้าไปสังหารผู้คนในอิสราเอลกว่า 1,200 รายเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน และจับตัวประกันราว 240 คน

นับตั้งแต่นั้น อิสราเอล ตอบโต้ด้วยการประกาศทำลายล้างฮามาส และเริ่มปฏิบัติการโจมตีทั้งทางอากาศ ทางทะเลและจู่โจมทางภาคพื้น สังหารผู้คนในฉนวนกาซามากกว่า 15,000 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก

นอกเหนือจากกาซาแล้ว พวกผู้นำฮามาสมักไปอาศัยอยู่หรือเดินทางเยือนเลบานอน ตุรกีและกาตาร์ บ่อยครั้ง ในขณะที่ กาตาร์ ช่วยเป็นคนกลางในข้อตกลงหยุดยิง 1 สัปดาห์ ที่พังครืนลงไปเมื่อวันศุกร์(1ธ.ค.)

ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา ชาติต่างๆ หลายประเทศก็เสนอมอบความคุ้มครองบางอย่างแก่พวกฮามาส แม้ว่าฮามาสอยู่ในบัญชีดำก่อการร้าย ทั้งในออสเตรเลีย แคนาดา สหภาพยุโรป อิสราเอล ญี่ปุ่นและสหรัฐฯ

ในปี 1997 หน่วยข่าวกรอง Mossad อิสราเอล ลอบวางยาพิษ คาเลด เมชาล ผู้นำฮามาส ณ ขณะนั้นใน จอร์แดน แต่ท้ายที่สุดแล้ว อิสราเอล ยอมมอบยาถอนพิษช่วยชีวิต เมชาล แก่จอร์แดน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top