Monday, 19 May 2025
TheStatesTimes

‘นายกฯ’ เผยเลือก ‘หนองบัวลำภู’ พิกัด ‘ครม.สัญจร’ นัดแรก ชี้!! เป็นจังหวัดที่มีรายได้น้อยที่สุดและถูกละเลยมายาวนาน

(4 ธ.ค. 66) ที่โรงแรมณัฐพงษ์ แกรนด์ จ.หนองบัวลำภู นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ครั้งที่ 1/2566 นัดแรก พร้อมกล่าวก่อนเริ่มการประชุมว่า เหตุผลที่เลือก จ.หนองบัวลำภู เป็นจังหวัดแรกในการประชุม ครม.สัญจร เนื่องจากต้องการให้ประชาชนในพื้นที่มีชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งการแก้ไขปัญหายาเสพติด ที่ดินทำกิน ปัญหาภาคการเกษตร

“ขอให้มั่นใจว่าพวกเราไม่ได้สร้างภาพอะไร แต่ที่นี่เป็นจังหวัดที่ประชากรมีรายได้น้อยที่สุดในประเทศ พี่น้องประชาชนใน อ.สุวรรณคูหา ไม่ใช่เพิ่งประสบปัญหานี้ แต่ประสบปัญหากันมานานเป็นชั่วอายุคน แต่ไม่มีใครสนใจที่จะยกระดับชีวิตของพวกเขา” นายกฯ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับอาหารที่ทาง จ.หนองบัวลำภูจัดเตรียมให้นายกฯ และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ประกอบด้วย น้ำพริกลงเรือ ผัดเห็ดหอมกุ้งสด ลาบปลาคังโนนสัง แกงปลาช่อนนาใส่ดอกแค ขณะที่อาหารคาวและอาหารหวาน ประกอบด้วย ลอดช่องกะทิแตงไทย เมี่ยงคำลำภู สังขยาข้าวเหนียวดำ ส่วนผลไม้ คือ แก้วมังกร ฝรั่งกิมจู และกล้วยหอมทอง

เจ้าของลิขสิทธิ์ ‘มิสยูนิเวิร์ส นิการากัว’ ถูกตั้งข้อหาต่อต้านรัฐบาล แถมใช้ผู้ประกวดเป็นกับดัก-โจมตีการเมือง หลังสาวงามเพิ่งคว้ามงไป

เมื่อวานนี้ (3 ธ.ค.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจนิการากัวตั้งข้อหากับเจ้าของลิขสิทธิ์จัดประกวด ‘มิสยูนิเวิร์ส’ นิการากัว ทั้งข้อหาสมรู้ร่วมคิดในการต่อต้านรัฐบาล ฟอกเงิน และเผยแพร่ข่าวปลอม หลังจาก ‘เชย์นิส ปาลาซิออส’ สาวงามจากนิการากัว ซึ่งเคยเข้าร่วมกับการเคลื่อนไหวทางการเมืองในประเทศ คว้ามงกุฎมิสยูนิเวิร์สคนแรกของประเทศ

ตามคำแถลงของสำนักงานตำรวจแห่งชาตินิการากัว กล่าวหาคาเรน เซเลเบอร์ตติ ผู้ถือลิขสิทธิ์จัดประกวดมิสยูนิเวิร์ส นิคารากัว พร้อมด้วยสามีและบุตรชาย ทั้งหมดถูกตั้งข้อหาว่ากระทำความผิดหลายกระทง

สำนักงานตำรวจแห่งชาตินิการากัว ระบุว่า องค์กรมิสยูนิเวิร์สท้องถิ่นของเซเลเบอร์ตติ ถูกใช้เพื่อเปลี่ยนผู้เข้าประกวดให้กลายเป็นกับดักและการซุ่มโจมตีทางการเมือง โดยรับทุนสนับสนุนจากตัวแทนต่างชาติ

เซเลเบอร์ตติ ถูกสั่งห้ามไม่ให้เข้าประเทศตั้งแต่วันที่ 21 ต.ค. ขณะที่สามีและบุตรชายถูกควบคุมตัวอยู่ในนิการากัว ในข้อหาสมคบคิดที่เกิดขึ้นย้อนหลังไปในปี 2018 โดยเจ้าหน้าที่ระบุพวกเขามีส่วนร่วมในการจัดการประท้วง เพื่อต่อต้านรัฐบาล

ขณะที่ปาลาซิออส ซึ่งสร้างประวัติศาสตร์ไม่เพียงแต่เป็นสาวงามคนแรกจากนิการากัวที่คว้าตำแหน่งนี้ ยังเป็นสาวงามคนแรกจากอเมริกากลางที่ได้รับมงกุฎอันทรงเกียรติดังกล่าว เธอไม่ได้เดินทางกลับไปยังนิการากัวตั้งแต่คว้าชัย โดยอาศัยอยู่ในนิวยอร์ก

ชาวนิการากัวออกมาเฉลิมฉลองชัยชนะของปาลาซิออสบนท้องถนน แต่ขณะนี้ตำรวจกำลังกล่าวหาผู้จัดงานว่าพยายามจัดการประท้วงเพื่อต่อต้านรัฐบาล

'มาดามแป้ง' พร้อมนั่งประมุขบอลไทย หลัง 60 สโมสรไทยลีกหนุน ลั่น!! อำลาประธานท่าเรือ 25 ธ.ค.นี้ เพื่อขจัดเสียงวิจารณ์

(4 ธ.ค.66) 'มาดามแป้ง' นวลพรรณ ล่ำซำ ได้แถลงข่าวเปิดตัวทีมสภากรรมการ เพื่อลงสมัครตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย โดยมี เนวิน ชิดชอบ นั่งแท่นที่ปรึกษา

อุปนายกสมาคมฯ ประกอบด้วย 'บอสปิ๊ป' ปวิณ ภิรมย์ภักดี ประธานสโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด, วิลักษณ์ โหลทอง ประธานสโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ด, อรรณพ สิงห์โตทอง รองประธานสโมสรชลบุรี เอฟซี, 'บิ๊กป๋อม' อดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ อุปนายกสมาคม ฝ่ายฟุตซอล, 'อ.หรั่ง' ชาญวิทย์ ผลชีวิน อดีตกุนซือทีมชาติไทย

กรรมการกลาง 'บิ๊กฮั่น' มิตติ ติยะไพรัช ประธานสโมสรลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด, 'เสี่ยรุท' อนุรุทธิ์ นาคาศัย ตัวแทนจากชัยนาท ฮอร์นบิล, ประมูลชัย นพสุวรรณวงศ์ จากบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, 'นายกเกียร์' ทรงเกียรติ ลิ้มอนุรักษ์ ประธานสโมสรพีที ประจวบ เอฟซี, 'เสี่ยฟลุ๊ค' ธนวัชร์ นิติกาญจนา ประธานสโมสร 'ราชันมังกร' ราชบุรี เอฟซี, 'มาดามจอย' กฤษยา ภู่มงคลสุริยา รองประธานสโมสรหนองบัว พิชญ เอฟซี, พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผช.ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, น.ท.นพ.พรเทพ ม้ามณี ผู้อำนวยการสถาบันเวชศาสตร์การกีฬาและออกกำลังกายกรุงเทพ (BASEM) โรงพยาบาลกรุงเทพ ในฐานะแพทย์ประจำทีมกีฬาไทย, เลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล ส.ส.พรรคเพื่อไทย, พ.ต.ท.หม่อมหลวง กิติบดี ประวิตร จากสโมสรราชประชา, กุดั่น สุขุมานนท์ และ 'เดอะตุ๊ก' ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน อดีตกองหน้าทีมชาติไทย

โดย 'มาดามแป้ง' กล่าวว่า “ที่ผ่านมาจะเห็นสมาคมฟุตบอลแบ่งคนละฝั่ง แต่วันนี้จะเห็นทุกคนในวงการฟุตบอลมาร่วมมือกัน ไม่มีการแบ่งฝ่าย ทุกคนพร้อมทำงานร่วมกัน ขณะนี้มีสโมสรที่รับรองตนเองเป็นนายกสมาคมกว่า 60 สโมสรแล้ว และจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด แม้ว่าตนเองจะเป็นผู้หญิง แต่การที่อยู่ในวงการฟุตบอลมา 16 ปี แสดงให้เห็นแล้วว่าตัวเองรักในวงการฟุตบอล”

“ส่วนการที่แป้งยังนั่งเป็นประธานสโมสรการท่าเรือ แป้งจะลงจากตำแหน่งประธานท่าเรือ ในวันที่ 25 ธันวาคม เพื่อขจัดเสียงวิจารณ์ต่าง ๆ ที่จะตามมา”

“หลังจากนี้จะเดินทางไปแจงนโยบายกับสโมสรต่าง ๆ และจะเดินทางไปพบกับทุกทีม วันที่ 6 ธันวาคม จะไปยื่นสมัครนายก หากได้ตำแหน่งเรื่องแรกที่จะแก้ไขก็คือ เรื่องสิทธิประโยชน์คงจะมีการพูดคุยกันใหม่ เพราะที่ผ่านมาเงินมาจากลิขสิทธิ์ถ่ายทอด และคงจะแก้ปัญหานี้เป็นเรื่องแรก”

'หมอปลาย' เตือน 3 วันก่อนปีใหม่ 2567 มีเหตุที่ต้องระวังให้ดี ส่วนปีหน้ามีเรื่องใหญ่

(4 ธ.ค.66) เฟซบุ๊ก 'ตีสิบเดย์ At Ten Day' เผยคลิปวิดีโอ สัมภาษณ์ หมอปลาย พรายกระซิบ ซึ่งมีการเปิดคำทำนายในรายการตีสิบเดย์ เมื่อถามถึงคืนปีใหม่จะมีอะไรไหม หลังปีใหม่ ปีหน้าจะมีอะไร

หมอปราย ระบุว่า "ให้ระวังดีกว่า อย่างแรกช่วงก่อนวันที่ 1 วันเลขคู่ ประมาณ 28-29-30 ทั้ง 3 วันนี้ จะมีเหตุเรื่องเกี่ยวกับเวที หรือเครื่องเสียงที่มีปัญหา และมีคนเจ็บ เน้นเรื่องไฟฟ้าลัดวงจร...

"สำหรับในประเทศจะมีเรื่องเปลวไฟ ไฟไหม้ แต่เป็นเขตปริมณฑลมากกว่า ไม่ใช่ในกรุงเทพฯ เป็นเรื่องของโรงงาน หรือสถานที่เก็บของที่เป็นเชื้อไฟ จะมีเรื่องไฟเป็นหลักก่อนที่จะเข้าปีหน้า"

เมื่อถามถึงปีหน้า (2567) ทั้งปี หมอปลาย ตอบว่า "ปีหน้าเรื่องใหญ่ หลังมกราคมจะมีการเปลี่ยนแปลงเยอะมากๆ อะไรที่เกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บ ของที่มาจากของมีปีก ของบินได้ อะไรมีปีกเป็นสิ่งที่ค่อนข้างอันตรายเกือบทั้งหมด ระวังเรื่องเชื้อโรค ถ้าหลังจากนี้มีวัคซีนใหม่ต้องฉีด"

‘ภาษาอังกฤษ’ ไม่ได้มีไว้เพื่อ ‘วัดความฉลาด’

‘ภาษาอังกฤษ’ ไม่ได้มีไว้เพื่อ ‘วัดความฉลาด’

ภาษามีไว้สื่อสาร!!

ประโยคเด็ดกินใจคนไทย ที่พยายามฝึกภาษาอังกฤษ แต่กลับถูกบูลลี่ เหยียบย่ำ ดูแคลนว่าโง่ ซึ่ง Mohamad Safa นักสิทธิมนุษยชน UN เคยทวีตข้อความเกี่ยวกับประเด็นนี้ไว้เมื่อปี 2018 โดยระบุว่า…

“I hope one day people will understand that English is a language. Not a measure of
intelligence.” หรือแปลว่า…

“ผมหวังว่าสักวันหนึ่ง ผู้คนจะเข้าใจว่าภาษาอังกฤษเป็นแค่ภาษา ไม่ใช่สิ่งที่วัดความฉลาดของคน”

‘พีระพันธุ์’ ดัน ‘พลังงานแสงอาทิตย์’ หนุนขับเคลื่อนเศรษฐกิจระดับชุมชน

‘พีระพันธุ์’ ดันพลังงานแสงอาทิตย์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจระดับชุมชน มุ่งลดต้นทุนการผลิตผลิตภัณฑ์ชุมชนของกลุ่มเกษตรกรและวิสาหกิจชุมชน เพื่อลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ พร้อมเดินหน้าช่วยเหลือเกษตรกรทั่วประเทศ

(4 ธ.ค.66) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานได้ดำเนินสนับสนุนเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านการลดรายจ่ายให้แก่กลุ่มเกษตรกรในการนำแผง โซลาร์เซลล์ เพื่อผลิตไฟฟ้าไปใช้กับเครื่องสูบน้ำในพื้นที่ที่ต้องการน้ำในภาคเกษตรกร

โดยเฉพาะในฤดูแล้ง ทั้งระบบสูบน้ำจากบ่อบาดาลและการสูบน้ำจากแหล่งน้ำ ซึ่งสามารถลดค่าใช้จ่ายน้ำมันดีเซลได้ค่อนข้างมาก 

นอกจากนี้ ยังสนับสนุนให้ผลิตภัณฑ์ชุมชนนำเทคโนโลยีด้านพลังงานมาใช้ในกระบวนการผลิต ทำให้ผลิตภัณฑ์ชุมชนที่ได้นั้นสามารถลดระยะเวลาในการผลิต ลดต้นทุนการผลิต เพิ่มรายได้ให้เกษตรกรและกลุ่มวิสาหกิจชุมชนมากขึ้น และผลิตภัณฑ์ที่ได้มีความสะอาด ผ่านมาตรฐานจนได้รับรางวัลผลิตภัณฑ์ชุมชนดีเด่น

“เป้าหมายสำคัญนอกจากการลดรายจ่ายด้านพลังงานทั้งค่าน้ำมันและค่าไฟฟ้าให้กับประชาชนทั่วไปแล้ว ยังต้องการให้ประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกรสามารถนำเทคโนโลยีพลังงานมาใช้ ในกระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์ชุมชน”

อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมากระทรวงพลังงานก็ได้ส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการใช้เทคโนโลยีพลังงาน ทั้งพลังงานแสงอาทิตย์จากแผงโซล่าเซลล์ในการสูบน้ำ รวมทั้งเทคโนโลยีโรงอบแห้งที่ใช้อบผลิตภัณฑ์ชุมชน 

นอกจากจะลดรายจ่ายค่าเชื้อเพลิงซึ่งต้นทุนในการผลิตผลิตภัณฑ์ชุมชนแล้ว ผลิตภัณฑ์ที่ได้ยังมีความสะอาดได้มาตรฐาน จนหลายผลิตภัณฑ์ได้รับรางวัล OTOP และ ไทยเด็ด 

อย่างไรก็ตาม จะพยายามเร่งดำเนินการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีพลังงาน ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาได้มีการสำรวจความต้องการของเกษตรกรผ่านพลังงานจังหวัด คาดว่าจะสามารถช่วยเหลือเกษตรกรและวิสาหกิจชุมชนให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นได้

‘รมว.ปุ้ย’ โปรยข่าวดีรับปีใหม่ ครม. อัดฉีดงบ 8 พันล้าน ให้เกษตรกรชาวไร่อ้อย 140,000 ราย ตัดอ้อยสดคุณภาพดี รับเงินเพิ่มตันละ 120 บาท

(4 ธ.ค. 66) นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวภายหลังจากการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรที่จังหวัดหนองบัวลำภู กรณีกระทรวงอุตสาหกรรม ได้เสนอวาระพิจารณาเรื่องโครงการเงินสนับสนุนตัดอ้อยสด ในโครงการสนับสนุนเกษตรกรชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสดคุณภาพดีเพื่อลดฝุ่น PM 2.5 ต่อคณะรัฐมนตรีในการประชุม ครม.สัญจรวันนี้ โดยในการประชุมพิจารณาที่ประชุม ครม.ได้มีมติเห็นชอบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ คือเกษตรกรพี่น้องชาวไร่อ้อยจะได้รับเงินสนับสนุนตัดอ้อยสดตันละ 120 บาท ซึ่งต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดคือการเก็บตัดอ้อยสดมีคุณภาพ

นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า โครงการช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยชุดนี้จะมีชาวไร่อ้อยเข้าร่วมประมาณ 140,000 ราย ที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้ และเป็นผลสืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ตัวแทนสมาพันธ์ สมาคมชาวไร่อ้อยที่ได้ประสานงานเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่อง จนเห็นตรงกันคือเกษตรกรต้องควบคุมคุณภาพการตัดอ้อยสดมีคุณภาพดีไม่มีการเผาที่ก่อให้เกิด PM2.5 ต้นตอของปัญหาทางอากาศที่เกิดขึ้นในแทบทุกปี เมื่อเป็นไปตามมาตรฐานกำหนดจะมีการช่วยเหลือวงเงินสนับสนุนตันละ 120 บาท วงเงินส่วนนี้จะกระจายไปยังเกษตรกรชาวไร่อ้อย ราว 8 พันล้านบาท และยังส่งผลต่อการสร้างสมดุลทางกลไกราคาน้ำตาลทราย ปริมาณน้ำตาลในตลาดภายในประเทศ และตลาดส่งออก ให้มีเสถียรภาพมากขึ้น

“ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และพี่น้องเกษตรกรชาวไร่อ้อยทุกพื้นที่ ต้องขอบคุณนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีทุกท่าน ที่ได้กรุณาร่วมกันพิจารณาเรื่องนี้และมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมได้เสนอ การสนับสนุนในกรอบที่ได้มีมติจะทำให้ชาวไร่อ้อยจะมีรายได้เพิ่มขึ้น สามารถบรรเทาภาระความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรชาวไร่อ้อยในขั้นตอนการควบคุมคุณภาพให้มีการตัดอ้อยสดคุณภาพดี คาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการได้ตั้งแต่เดือนมกราคม 2567 ถือเป็นข่าวดีของเกษตรกรชาวไร่อ้อยรับปีใหม่” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมกล่าว 

'อดีตทูตนริศโรจน์' โพสต์!! ส่วนตัวไม่ขัดสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึง ช่วย 'อำนวยความสะดวก-ดูแลจราจรมนุษย์-ธรรมชาติไม่เสื่อม'

(4 ธ.ค.66) นายนริศโรจน์ เฟื่องระบิล อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก Fuangrabil Narisroj ว่า...

โดยส่วนตัวผมเห็นด้วยกับการสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึงครับ ด้วยเหตุผล...

1.กระเช้าไม่ได้ทำลายธรรมชาติ ต้นไม้ก็ยังขึ้นได้ด้านล่าง ยกเว้นแค่ที่ตั้งเสาเท่านั้น National Park ในต่างประเทศเขามีมานานแล้ว

2.ข้างบนภูกระดึงมีชุมชน มีคนอาศัย มีสำนักสงฆ์ ที่ต้องการเดินทางโดยสะดวก

3.การมีกระเช้าสามารถควบคุมการบริหารจัดการจำนวนคนได้ดีกว่าปล่อยให้เดินขึ้นไปแบบสะเปะสะปะ แบบควบคุมไม่ได้

4.กรณีมีเหตุฉุกเฉินที่ต้องขนย้ายคนก็สามารถทำได้รวดเร็วกว่า

5.ถ้ามีรถกระเช้าขนส่งสิ่งของเหลือใช้ / ขยะก็สามารถขนย้ายระบายนำมาฝังกลบ / กำจัดด้านล่างได้แทนที่จะทิ้งบนยอดภู

‘สว.วีระศักดิ์’ ปลุกพลังทุกภาคส่วนในเชียงใหม่ ร่วมป้องกัน - หยุดเผา คืนอากาศบริสุทธิ์ให้ชาวเชียงใหม่

นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา รองประธานกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา เป็นองค์ปาฐกถาพิเศษในเวทีการประชุมระดับชาติ เรื่อง มลพิษทางอากาศ ฝุ่น PM2.5 ครั้งที่ 1 (Thailand National PM2.5 Forum) หัวข้อ ‘อากาศสะอาด : ความรับผิดชอบร่วมของรัฐ เอกชน และประชาสังคม’ ซึ่งจัดขึ้นที่อาคารศูนย์ประชุมนานาชาติเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดเชียงใหม่ 

โดยมีผู้บริหารและตัวแทนหน่วยงานของรัฐ เครือข่ายอากาศสะอาด สภาลมหายใจ และสถาบันการศึกษา องค์กรพัฒนาเอกชน ตลอดจนนักวิชาการต่างๆเข้าร่วมอย่างคับคั่ง กว่าหนึ่งพันคน

การจัดการประชุมระดับชาตินี้ เป็นความร่วมมือระหว่าง สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ศูนย์วิชาการเพื่อขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษอากาศ และสภาลมหายใจเชียงใหม่ พร้อมกับอีกกว่า 50 ภาคีเครือข่ายร่วมจัด

นายวีระศักดิ์ ชี้ว่า แม้จะกำลังมีร่างกฎหมายอากาศสะอาดเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาในสมัยประชุมที่จะมาถึงนี้ แต่ฤดูเผา ฤดูฝุ่นก็กำลังจะเกิดก่อน รวมทั้งเป็นปีแล้งจากผลของปรากฏการณ์เอลนีโญ่ ป่าจะแห้ง เชื้อเพลิงใบไม้และทุ่งหญ้าจะเป็นเชื้อเพลิงที่อ่อนไหวมาก การร่วมมือทำความเข้าใจเหตุที่ทำให้เกิดการเผาทั้งในแปลงเกษตรและในพื้นที่ตามกฎหมายป่าไม้จึงต้องเร่งใช้เครื่องมือทางเศรษฐกิจ การเมือง และสังคมในการป้องกันหรืออย่างน้อยก็ลดการจุดเผาลงให้ได้มากที่สุด การทำความเข้าใจเพื่อสร้างความรู้ในการวิเคราะห์จากข้อมูลดาวเทียม จะช่วยให้แต่ละพื้นที่จับทิศทางลม และที่ตั้งจุดเริ่มการเผาได้จากสถิติที่ดาวเทียมบันทึกไว้มาตลอด 20 ปีย้อนหลัง 

นอกจากนี้ ภาคประชาสังคมควรสื่อสารร่วมกับรัฐไปยังผู้ประกอบการนำเข้าเมล็ดข้าวโพดและอ้อยที่มาจากประเทศข้างเคียง ให้เร่งใช้มาตรการตรวจสอบย้อนกลับเพื่อปฏิเสธการรับซื้อผลผลิตที่มาจากพื้นที่เผา เพราะในหลายปีที่ผ่านมา จุดความร้อนในไทยลดลงเป็นลำดับแต่ในประเทศข้างเคียง ยังมีอัตราการพบจุดความร้อนเพิ่มขึ้นสวนทางกัน

“เราทุกฝ่ายควรเดินหน้าแก้ปัญหาร่วมกัน เพราะปอดของเราก็รอไม่ได้ อัตราตายจากโรคทางเดินหายใจทะยานสูงขึ้นมาก รอบบ้านทั้งภูมิภาคก็มีอัตราเร่งเผาสูงขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้น การบูรณาการใช้พลังหน่วยงานของรัฐ ภาคเอกชน ภาคธุรกิจ ภาคชุมชน ภาคท้องถิ่น ภาควิชาการที่มีฐานทางวิทยาศาสตร์ และพลังสื่อสารที่เข้าถึงทั้งคนทั่วไป และลึกถึงกลุ่มที่ไม่ใช้ภาษาไทยจะมาจากไหน และจะไปถึงกลุ่มชายป่า ในไร่ ในโรงกลั่น และในรถยนต์ รถเก่า ตลอดถึงคนข้ามชายแดนกลุ่มต่าง ๆ ได้อย่างไร ผมคาดหวังว่า งานประชุมระดับชาติครั้งนี้ จะช่วยหาคำตอบ และแบ่งบทบาทการต่อสู่เพื่อสิทธิในอากาศสะอาดของเรา ที่ต้องใช้ความรู้รอบ และตอบสนอง อย่างมีระบบและทุ่มเท เพื่อนำไปสู่ความสำเร็จให้ได้ครับ”

สำหรับการประชุมระดับชาติ เรื่องมลภาวะทางอากาศ ฝุ่น PM2.5 นี้ จัดขึ้น 2 วัน ระหว่างวันที่ 3-4 ธันวาคมนี้ โดยจะมีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มารับข้อสรุปข้อเสนอจากการประชุมระดมข้อคิดที่มาจากกลุ่มผู้ติดตามสถานการณ์เรื่องฝุ่นในวันที่ 4 ธันวาคมเพื่อนำไปพิจารณาดำเนินการต่อไป

‘มาดามเดียร์’ แลกเปลี่ยนมุมมอง ผู้นำฯ นักศึกษา มข.  รับฟังไอเดีย ‘ศก.-การเมือง’ เพื่อปรับสู้เลือกตั้งหนหน้า

‘มาดามเดียร์’ ล้อมวงคุย ผู้นำองค์การนักศึกษา ม.ขอนแก่น แลกเปลี่ยนมุมมองเศรษฐกิจ-การเมือง-ความคาดหวัง พร้อมนำปรับใช้ทำนโยบายสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้า ขณะนักศึกษาเชียร์นั่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่ 

เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 66 ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมืองกรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ พบปะแลกเปลี่ยนรับฟังความคิดและข้อเสนอแนะกับกลุ่มผู้นำองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น นำโดย นายวรเชษฐ์ อสิพงษ์ ประธานกลุ่มเลือดสีอิฐ มหาวิทยาลัยขอนแก่น น.ส.บุญยานุช อ่อนนางใย อุปนายกองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น และมีนายวีระยุทธ งามจิตร อดีตผู้สมัคร ส.ส. ขอนแก่น เขต 2 พรรคประชาธิปัตย์ เข้าร่วมด้วย ซึ่งได้มีการแลกเปลี่ยนถึงมุมมองของนักศึกษาที่มีต่อการเมืองระดับชาติ มุมมองด้านเศรษฐกิจและสังคม สิ่งที่ต้องการให้ภาครัฐหรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้ขับเคลื่อนหรือปรับเปลี่ยน เช่น เรื่องของระบบการศึกษา เรื่องของกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) รวมถึงยังได้มีการแลกเปลี่ยนมุมมองในการบริหารงานขององค์การนักศึกษา 

โดย น.ส.วทันยา ได้อธิบายถึงเรื่องของ กยศ. ว่า เมื่อการเลือกตั้งในปี 2566 พรรคประชาธิปัตย์ได้มีนโยบายในเรื่องของการเรียนฟรีถึงปริญญาตรีเพื่อเป็นการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อให้นักศึกษาจะได้ไม่ต้องกู้ยืมเงินในกองทุน กยศ.เพื่อนำมาเป็นค่าเทอมอีกต่อไป และจะปรับกองทุน กยศ. ให้นักศึกษาสามารถกู้ยืมเงินเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวันแทน 

น.ส.วทันยา ยังกล่าวอีกว่า วันนี้ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีที่ได้มาพูดคุยกับน้องนักศึกษาที่เป็นองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้ช่วยเสนอมุมมองแลกเปลี่ยนในหลายเรื่องที่ทำให้เข้าใจในเรื่องของปัญหาในแต่ละช่วงวัย รวมถึงความคาดหวังของพวกเขาต่ออนาคตที่อยากจะเห็นในรูปแบบของการเมืองไทย และเศรษฐกิจที่จะเติบโตต่อไปในอนาคต ซึ่งการพูดคุยนี้ถือว่าเป็นการเริ่มต้นจุดหนึ่ง ที่จะทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้แล้วทำให้เราเข้าใจในมุมมองของแต่ละช่วงวัยได้อย่างถ่องแท้มากยิ่งขึ้น รวมถึงทำให้เราเข้าใจถึงสภาพปัญหาและความคาดหวังขอเขาเพิ่มมากขึ้น โดยสิ่งที่วันนี้ได้มีโอกาสร่วมพูดคุยจะได้นำกลับไปปรับใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ในการที่จะนำเสนอต่อประชาชนในการเลือกตั้งครั้งต่อไป 

นอกจากนี้ ในช่วงท้ายของการพูดคุย น.ส.วทันยา ได้ให้กำลังใจน้องนักศึกษากลุ่มเลือดสีอิฐให้ประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะลงรับเลือกตั้งนายกองค์การนักศึกษาที่จะเกิดในช่วงเดือนมกราคม 2567 ขณะที่น้องนักศึกษาก็ได้ให้กำลังใจกับ น.ส.วทันยา ขอให้ประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ คนที่ 9 ด้วย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top