Sunday, 18 May 2025
TheStatesTimes

นราธิวาส-ดีเดย์...ไอแบงก์เปิดบริการ “ibank Appication” สะดวกกว่า ง่ายกว่า ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์สังคมไร้เ​งิน​สด​บนแอปพลิเคชันเป๋าตัง  

เมื่อวันที่ 1 ธค.  ณ มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี ไอแบงก์เปิดตัว "ibank Application" บนแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง อย่างเป็นทางการ โดย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมว.คลัง ให้เกียรติส่งสารแสดงความยินดีผ่านบันทึกวีดิทัศน์ว่า "ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ถือเป็นสถาบันการเงินหลักของรัฐที่ให้การดูแลพี่น้องมุสลิมด้านธุรกรรมทางการเงินที่ปลอดดอกเบี้ยและถูกต้องตามหลักการของศาสนาอิสลาม ขอแสดงความยินดีกับ ไอแบงก์ ที่สามารถยกระดับการให้บริการลูกค้าผ่านแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง ซึ่งปัจจุบันมีผู้ใช้งานแล้วกว่า 40 ล้านคน เป็นบริการที่เข้ากับการใช้ชีวิตของคนยุคสมัยนี้ อำนวยความสะดวกสบายให้ลูกค้าเข้าถึงบริการทางการเงินอย่างสะดวกกว่า ง่ายกว่า และปลอดภัย ที่สำคัญคือ ถูกต้องและสอดคล้องกับวิถีมุสลิม" โดยมีลูกค้า แขกผู้เกียรติ สื่อมวลชน ร่วมงานและร่วมแสดงความยินดีอย่างอบอุ่น ดร..ทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการและผู้จัดการ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย เผยว่า ขณะนี้ไอแบงก์พร้อมให้บริการ “bank Application” 

ซึ่งเป็นโมบายแบงก์กิ้งของธนาคารที่อยู่บนแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง (Paotang) โดยไอแบงก์ได้ร่วมออกแบบและพัฒนาระบบกับธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เพื่อยกระดับการให้บริการทางการเงินแบบดิจิทัล ซึ่งเพิ่มความสะดวกสบาย เข้ากับการใช้ชีวิตในยุคดิจิทัลของลูกค้าธนาคาร “เป็นอีกปรากฏการณ์ของไอแบงก์ที่ทุกคนรอคอย ซึ่งถือเป็นแอปพลิเคชั่นแรกของสถาบันการเงินในประเทศไทยที่ถูกต้องตามหลักชะรีอะฮ วันนี้ไอแบงก์ได้รับเกียรติให้เปิดตัวบริการ ibank Application ที่มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี เพราะนอกจากจะเป็นศาสนสถานทางศาสนาอิสลามที่งดงามที่สุด และเป็นสัญลักษณ์ของความสง่างามของมุสลิมไทยทุกคนแล้ว มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานียังเป็นจุดศูนย์กลางของพี่น้อง 3 จังหวัดชายแดนใต้ที่เป็นฐานลูกค้าสำคัญของไอแบงก์อีกด้วย 

ในระยะแรกนี้ ผู้ใช้บริการ ibank Appication สามารถโอนเงินจากแอปพลิเคชันไปยังบัญชีบุคคลอื่นในธนาคาร บัญชีธนาคารอื่น และโอนเงินไปยังหมายเลขพร้อมเพย์ เรียกดูข้อมูลบัญชี และรายการย้อนหลัง อีกทั้งยังสามารถคำนวณซะกาตซึ่งถือเป็นหน้าที่ทางศาสนาของมุสลิมทั้งหมดที่มีทรัพย์สินตรงตามเงื่อนไข การค้นหาสาขาและเอทีเอ็มของธนาคาร รวมถึงช่องทางในการติดต่อธนาคารอีกด้วย ธนาคารมุ่งหวังให้ลูกค้าได้รับบริการที่ดีที่สุด จึงจะพัฒนาบริการ ibank Application อย่างต่อเนื่อง และทยอยเปิดให้บริการเพิ่มเติมในระยะต่อไป เช่น การจ่ายบิล การเติมเงิน การบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ การสแกนเพื่อซำระเงิน การจัดการรายการโปรด บริการแจ้งเตือน การจัดการบัญชีสินเชื่อ การตั้งรายการโอนเงินล่วงหน้า การสร้างคิวอารโค้ดเพื่อรับเงิน การสมัครใช้บริการพร้อมเพย์ การถอนเงินไม่ใช้บัตร การเปลี่ยนรหัสเอทีเอ็ม และการเปิดบัญชีออนไลน์ เป็นต้น เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายแก่ลูกค้าให้มากกว่าเก่า และให้ใช้งานได้ง่ายยิ่งขึ้นกว่าเดิม ลูกค้าไอแบงก์ที่ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเป๋าตังแล้ว สามารถลงทะเบียนใช้บริการ 'bank Application' บนแอปพลิเคชันเป๋าตัง หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเป่าตังก่อนใช้บริการ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ ibank Contact Center โทร. 1302 หรือแชททาง Messenger @ibank.h และ LINE @ibank ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ขานรับ ตำรวจสากล ออกระเบียบ ระวังการส่งต่อข้อมูลล่วงละเมิดทางเพศเด็ก หลังพบสถิติเด็กถูกล่วงละเมิดซ้ำทางโซเชียลมีเดีย สร้างรอยแผลทางใจแม้ว่าเหยื่อจะเป็นผู้ใหญ่ แต่ภาพความทรงจำยังคงอยู่ในระบบ ลบยาก

ปิดฉากลงแล้วสำหรับ การประชุมสมัชชาใหญ่ตำรวจสากล (INTERPOL) ที่เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน โดยมีซึ่งกลุ่มประเทศสมาชิกกว่า 195 ประเทศ และประเทศที่เพิ่งเข้าร่วมใหม่ล่าสุดอีกหนึ่งประเทศ เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพียงเพื่อฟังรายงานการดำเนินงานของตำรวจสากล (INTERPOL) ที่ผ่านมา โดยเฉพาะในประเด็นการใช้งบประมาณที่ได้จากการสนับสนุนของกลุ่มประเทศ ปีละกว่า 8000 ล้านบาท ในการจัดการปัญหาอาชญากรข้ามชาติ

นอกจากการรับฟังผลการดำเนินการมาตลอดทั้งปีแล้วที่ประชุมยังได้เสนอแผนงานที่จะทำร่วมกันในปีต่อไปในแต่ละด้าน โดยเฉพาะการจัดทำข้อมูลอาชญากรข้ามชาติ ซึ่งปัจจุบันพบว่ามีการปรับเปลี่ยนรูปแบบ ตามสังคมยุคใหม่ ทำให้การก่ออาชญากรรมทำได้อย่างรวดเร็วและมีการส่งต่อข้อมูลดิจิทัล ก่อให้เกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง ขณะที่ผู้ก่อเหตุก็ มีช่องทางในการหลบหนีออกนอกประเทศหลังการกระทำผิด หรือไปกบดานตามประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อติดต่อกลุ่มเครือข่าย

ล่าสุดมีการนำเสนอคลิปวิดีโอสั้นที่เผยแพร่อยู่ในประเทศเยอรมนีและปิดบังการเข้าถึงของประเทศไทยภายในคลิปแสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมการค้ามนุษย์ของกลุ่มคนร้าย ซึ่งแม้ว่ากรณีนี้จะมีการจับกุมตัวคนร้ายได้ แต่หนึ่งในบางท่อนของคลิปวิดีโอระบุชัดว่า คนร้ายยอมจ่ายเงินใต้โต๊ะให้แก่ข้าราชการเพื่อเปิดช่องทางในการหลบหนีออกจากประเทศไทย ไปยังประเทศปลายทางซึ่งเป็นแหล่งกบดาน

ที่ประชุมยังได้ เสนอที่จะออกระเบียบควบคุมการส่งต่อข้อมูลการล่วงละเมิดทางเพศของเด็กผ่านช่องทางต่างๆโดยเฉพาะโซเชียลมีเดีย เพื่อให้มีความรัดกุมป้องกันข้อมูลหลุดรอดออกจากระบบไปถึงผู้ใช้รายอื่น รวมถึงการใช้ข้อมูลระหว่างประเทศเพื่อติดตามคนร้าย ป้องกันการกระทำซ้ำในรูปแบบของเครือข่าย 

ซึ่งเรื่องนี้ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กล่าวในเวทีการประชุม ว่า เห็นด้วยกับแนวทางการจัดการปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศกับกลุ่มเยาวชน ซึ่งพบว่าที่ผ่านมามีความรุนแรงขึ้นหลายเท่า โดยเฉพาะเด็กในกลุ่มเอเชีย จะตกอยู่ในเป้าหมายของกลุ่มคนร้าย ทั้งการล่วงละเมิดทางเพศ การถ่ายทำคลิปวิดีโออนาจาร และการล่อหลวงไปขายประเวณี 

รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติยังย้ำด้วยว่า คลิปวิดีโอการกระทำผิดถูกส่งต่อไปอย่างรวดเร็วทางโซเชียลมีเดีย จนยากจะลบออกจากระบบ ทำให้เหยื่อถูกกระทำอนาจารซ้ำซาก แม้ว่าจะโตเป็นผู้ใหญ่ ภาพการถูกกระทำก็ยังฝังอยู่ในระบบ และมีข้อมูลไม่น้อยถูกส่งต่อโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ไม่ระมัดระวังในการใช้ข้อมูล ทำให้ข้อมูลจากหน่วยงานภาครัฐตกไปอยู่ในมือของกลุ่มของคนร้าย

ดังนั้นจึงเห็นด้วย ที่จะออกระเบียบให้ทุกประเทศ เข้ามาร่วมกันจัดการปัญหาการส่งต่อข้อมูลเหยื่อถูกกระทำอนาจารอย่างระมัดระวัง และเปิดให้เข้าถึงข้อมูลในรูปแบบใหม่ๆ ที่ไม่ใช่การส่งต่อคลิปวิดีโออนาจารต้นฉบับ เข้าไปในระบบ 

นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้ประเทศต้นทางของผู้ต้องหาและประเทศใกล้เคียง ร่วมกันสร้างแนวทางสกัดกั้นการหลบหนีของคนร้ายจากประเทศปลายทาง โดยให้กระทำอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการส่งต่อข้อมูลหมายจับ เส้นทางทรัพย์สิน รวมไปถึงกลุ่มเครือข่าย
เพื่อไม่ให้กลุ่มคนร้ายสามารถไปรวมตัวกันได้ และกระทำการอนาจารซ้ำไปซ้ำมา จนยากที่จะแก้ปัญหานี้ให้หมดสิ้นไป

ทั้งนี้ผลจากการส่งต่อข้อมูลอย่างรวดเร็วและทันท่วงทีในช่วงสามปีที่ผ่านมา โดยศูนย์เพื่อเด็กหายและถูกฉวยผลประโยชน์แห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (U.S. National Center for Missing and Exploited Children หรือ NCMEC) และคณะทำงานปราบปรามอาชญากรรมทางอินเตอร์เน็ตที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดต่อเด็ก สำนักงานตำรวจแห่งชาติของไทย (Thailand Internet Crimes Against Children หรือ TICAC) ซึ่งได้ลงนามในข้อตกลงแบ่งปันข้อมูลเพื่อต่อต้านการแสวงประโยชน์จากเด็ก ทำให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย สามารถเข้าถึงรายงานของ NCMEC เกี่ยวกับคดีการแสวงประโยชน์จากเด็กอย่างรวดเร็ว 

และแม้ว่าปัจจุบัน TICAC จะได้รับข้อมูลจาก NCMEC ผ่านสำนักงานในไทยของหน่วยสืบสวนเพื่อความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ กระทรวงความมั่นคงแห่งสหรัฐอเมริกา แล้ว แต่การได้รับข้อมูลโดยตรง จะช่วยให้ TICAC สามารถปฏิบัติการได้รวดเร็วฉับไวต่อกรณีฉุกเฉินและเข้าถึงข่าวกรองด้านอาชญากรรมได้โดยตรง เช่น การปราบปรามการแสวงประโยชน์จากเด็ก

และนี่ทำให้สถิติการแก้ปัญหาในประเทศไทย ดีขึ้นตามลำดับ โดยพบว่า ในปี 2021 มีสถิติการจับกุมจากข้อมูล 79 เคส มีการขยายผลไปสู่ข้อมูลเชื่อมโยงที่เกี่ยวข้อง 589 ข้อมูล กระทั่งรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้เข้ามาดำเนินการแก้ปัญหา ก็พบว่าในปี 2022 มีการจับกุมเพิ่มขึ้นจากข้อมูล 482 เคส มีการขยายผลไปสู่ข้อมูลเชื่อมโยงที่เกี่ยวข้อง 9569 ข้อมูล ขณะที่ในปี 2023 จนถึงปัจจุบันมีการจับกุมจากข้อมูล 461 เคส มีการขยายผลไปสู่ข้อมูลเชื่อมโยงที่เกี่ยวข้อง 8328 ข้อมูล ทำให้คลิปที่ปรากฏอยู่ในระบบเกือบ 600000 คลิป ลดลงมา เหลือเพียง 332639 คลิป ในปีปัจจุบัน

ขณะที่ นายเจอร์เก้น สต๊อก เลขาธิการตำรวจสากล  อินเตอร์โพล กล่าว ขอบคุณกลุ่มประเทศสมาชิกทั้ง 196 ประเทศที่ให้ความร่วมมือเข้ามาติดตามประเมินผลการบริหารงาน ของตำรวจสากล ซึ่งในปีนี้มีผลงานการดำเนินการที่ก้าวกระโดดจากการ แสวงหาความร่วมมือร่วมกัน และเชื่อมั่นว่าในปีต่อไปก็จะประสบความสำเร็จเพิ่มมากขึ้นโดยในปีหน้าจะย้ายสถานที่การประชุมไปที่ประเทศสกอตแลนด์เป็นครั้งที่ 93 หรือปีที่ 101 ของการก่อตั้ง ตำรวจสากล

พังงา หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ส่งชุดครูฝึกฯ ฝึกทบทวน USAR TEAM

ที่ กองพันต่อสู้อากาศยานที่ 22 กรมต่อสู้อากาศยานที่ 2 หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่งและกองพันรักษาฝั่งที่ 11 ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา พลเรือโท สุชาติ ธรรมพิทักษ์เวช ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3,นาวาโท ศักรินทร์ ซื่อสงวน ผู้บังคับกองพันต่อสู้อากาศยานที่ 22 ,นาวาโท กัณฑภณ ศุกระรงคะ ผู้บังคับกองพันรักษาฝั่งที่ 11,นาวาโท พุทธพร สุขอนันต์ รองผู้บังคับการ กองฝึกช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และการบรรเทาสาธารณภัยทางทะเลและชายฝั่ง และชุดครูฝึกค้นหาและกู้ภัยในเขตเมือง(USAR TEAM)ได้ฝึกการอบรมทั้งภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติฝึกทบทวน USAR TEAM 

เป็นการพัฒนาศักยภาพการกู้ชีพและแนะนำอุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัยโดยระบบเชือกขั้นพื้นฐาน และการบำรุงรักษาอุปกรณ์,ระบบบัญชาการณ์เหตุการณ์ และการปฏิบัติงานค้นหาและกู้ภัย,การใช้เปลตะกร้าและเปลSked, การค้นหาและกู้ภัยอย่างรวดเร็ว( ASR3 )การค้นหาทางกายภาพ,เทคนิคการตัดเจาะ,เทคนิคการเคลื่อนย้ายวัตถุหนักออกจากผู้ประสบภัยและการทำระบบเชือกในแบบต่างๆผู้เข้าฝึกในครั้งนี้จำนวน 36 คน การอบรมครั้งนี้อบรมตั้งแต่วันที่ 22 พฤศจิกายน 2566ถึง 2 ธันวาคม2566 รวมเป็นระยะเวลา 11 วันและวันนี้มีการตรวจเยี่ยม ชมการสาธิตต่างๆ การกู้ภัยให้กับ ชุด USAR TEAM ของกองพันต่อสู้อากาศยานที่ 22 กรมต่อสู้อากาศยานที่ 2 และมีหน่วยงานต่างๆเข้าชม การสาธิตครั้งนี้ด้วย

นาวาโท ศักรินทร์ ซื่อสงวน ผู้บังคับกองพันต่อสู้อากาศยานที่ 22 กล่าวว่า การจัดตั้งทีมค้นหาและกู้ภัยในเขตเมือง (Urban Search and Rescue: USAR) มีเป้าหมายเพื่อพัฒนาขีดความสามารถสำหรับเป็นทรัพยากรส่วนหนึ่งของโครงสร้างการสนับสนุนในภาวะฉุกเฉิน (สปฉ.) ในส่วนงานด้านการค้นหาและกู้ภัยหรือ สปฉ.9โดยมีกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงกลาโหมเป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลัก ซึ่งจะถูกสถาปนาขึ้นเพื่อดำเนินการให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนการปฏิบัติงานด้านการค้นหาและกู้ภัยของกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติเมื่อเกิดสาธารณภัยระดับ 3และ 4 และ ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินท้องถิ่น ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อำเภอ และศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัด สำหรับสาธารณภัยระดับ 1 และ 2 ดังที่ระบุไว้ในแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ.2558 ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของ ผบ.ทร. และหน่วยควบคุมทางยุทธการโดย ผบ.ทรภ.3 ที่ต้องการมีหน่วยที่จะใช้งานในการค้นหาและช่วยชีวิตในเขตเมืองในภาวะวิกฤติ นอกจากกำลังพลของ ทร.ปกติที่ได้เข้าช่วยเหลือประชาชนทุกครั้งเมื่อเกิดความเดือดร้อนต่างๆ ที่กระทำในทันทีที่มีภัย  ดังนั้น สอ.รฝ.จึงได้จัดให้มีชุดครูฝึก USAR 

เพื่อมาทบทวนและเพิ่มขีดความสามารถให้กับกำลังพลชุด USAR ในพื้นที่ ได้เกิดความมั่นใจในการดำเนินการเมื่อมีภัยเกิดขึ้นในพื้นที่ และ ชุด USAR ที่เป็นกำลังพลของ พัน.สอ.22 และ พัน.รฝ.11ที่จัดเตรียมไว้สำหรับใช้สนับสนุนงานการค้นหาและช่วยชีวิตในเขตเมืองที่สามารถใช้ทำงานร่วมสนับสนุนการช่วยชีวิตประชาชน เมื่อเกิดภัยได้อย่างทันทีที่ได้รับการร้องขอจากจังหวัดภูเก็ต และพังงา เพื่อให้การค้นหาและช่วยชีวิตใน เขตเมืองในพื้นที่ภูเก็ต พังงา มีประสิทธิภาพและทันท่วงที และมีกำลังพลที่รับการฝึกจัดจากกองพันต่อสู้อากาศยานที่ 22 และกองพันรักษาฝั่งที่ 11 หน่วยละ 1 ทีม ๆ ละ 18 นาย ประกอบด้วยนายทหารสัญญาบัตร 1 นาย และนายทหารประทวน จำนวน 17 นาย โดยได้รับการสนับสนุนทีมครูฝึกจาก สอ.รฝ. ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 18 ภูเก็ต ร่วมกับ สำนักงานบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพังงาและทีมกู้ภัยทางสูงจาก เซาท์เทิร์น โรปทีม (Southern Rope Team)ตัวแทนจาก ระนองและพังงา

สำหรับผู้เข้ารับการอบรมในครั้งนี้จัดการอบรมภาคทฤษฎีและปฏิบัติ เพื่อเตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือและบรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่ทัพเรือภาคที่ 3 ซึ่งเป็นไปตามนโยบายผู้บัญชาการทหารเรือครั้งนี้เป็นการอบรมครั้งที่ 2 และครั้งนี้ทางกองพันรักษาฝั่งที่ 11เป็นชุดออกปฏิบัติงานหลักร่วมกับกองพันต่อสู้อากาศยาน ที่22 

ในการฝึกและสาธิตครั้งนี้กองพันรักษาฝั่งที่ 11 กรมรักษาฝั่งที่1จัดชุดค้นหาและกู้ภัยในเขตเมืองหรือชุด USAR TEAM โดยให้กองพันต่อสู้อากาศยานที่ 22 กรมต่อสู้อากาศยานที่ 2 หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง เป็นหน่วยรับผิดชอบจัดกำลังพลเป็นชุด USAR TEAM ในการบัญชาการณ์เหตุการณ์และพร้อมให้การช่วยเหลือและบรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่ เมื่อได้รับการแจ้งจากทัพเรือภาคที่ 3

ผบ.ทรภ.1 เยี่ยมกำลังพลและครอบครัว ในสังกัดสังกัด รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ สร้างขวัญกำลังใจ

พลเรือโท สุระศักดิ์ สิงขรวัฒน์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่1 พร้อมคณะ เข้าเยี่ยมกำลังพลและครอบครัว ในสังกัดทัพเรือภาคที่ 1 ที่เข้ารับการรักษาจากโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ จำนวน 2 นาย 1. พันจ่าเอก วรวุฒิ ยันตะพันธ์ (ภรรยาคลอดบุตร) 2. พลทหาร วีระพล  มรรคผล (ผ่าตัดไส้ติ่ง) เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับกำลังพล และ ครอบครัวของผู้ใต้บังคับบัญชา “ผู้ใต้บังคับบัญชาต้องมีขวัญ กำลังใจ และสวัสดิการที่ดี”

การปฏิบัติเป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารเรือ “ผู้บังคับหน่วยต้องให้ความสนใจ ดูแลกำลังพลและครอบครัวผู้ใต้บังคับบัญชา อย่างสม่ำเสมอ

'อ.เกียรติอนันต์' ชี้!! ความเป็นไปได้ 'ดิจิทัลวอลเล็ต' กระตุ้นเศรษฐกิจไทย สร้างแรงทวีการจับจ่ายที่หดหาย แต่ต้องดีไซน์ไม่ให้ไปกองแค่กลุ่มทุน

(2 ธ.ค.66) จากรายการ 'ถลกข่าว ถลกปัญหา' ทาง THE STATES TIMES เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.66 ได้พูดคุยกับ อ.ดร.เกียรติอนันต์ ล้วนแก้ว อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในประเด็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วย 'ดิจิทัลวอลเล็ต' ดีจริงหรือไหม? ว่า…

“ตัวอย่างแรกเลย…เศรษฐกิจต้องการการกระตุ้นไหม? คำตอบคือ 1.ต้องการ และ 2.หากไปดูอีกฝั่งคือนโยบายการเงินเขาพยายามที่จะเบรก ‘เงินเฟ้อ’ ด้วยการปรับอัตราดอกเบี้ย แต่เวลาปรับอัตราดอกเบี้ยเพื่อเบรกเงินเฟ้อมันจะส่งผลกระทบต่อการลงทุนและทําให้คนระมัดระวังในการใช้เงินมากขึ้น โดยเฉพาะการใช้บัตรเครดิตหรือการกู้เงิน เพราะฉะนั้นเงินมันก็หายไป นอกจากนี้ พอมองอีกตัวคือเงินที่มาจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งก็เข้ามาแค่ประมาณ 50-60% ของที่ควรจะเป็น เพราะฉะนั้นโจทย์แรกคือในเมื่อคนซื้อของมันหายไปทั้งหมดเลย มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจําเป็นไหม คำตอบคือจําเป็น…

ส่วนคําถามต่อมาคือเราจะกระตุ้นแบบไหน? เวลาเรากระตุ้นเศรษฐกิจแบบนี้มันจะผ่าน ‘ตัว C’ หรือ ‘ตัวการบริโภค’ ดังนั้นอะไรก็ตามที่จะทําให้คนบริโภคเยอะขึ้น มันจะเห็นผลเร็ว เพราะว่าตัว C เป็นเงินที่เดินทางเข้าสู่เศรษฐกิจเร็วที่สุด เช่น ออกไปตลาดเพื่อซื้อของอย่างนี้คือได้เงินเลย แต่ถ้าเป็นนักลงทุน อย่างอนุมัติการลงทุนวันนี้อีกปีกว่าเงินลงทุนจะมา ต้องรอหลายเดือน ส่งออก 6 เดือน 8 เดือนกว่าจะเข้า มันจึงไม่มีทางเลือก ดังนั้นเราจําเป็นต้องทำ

ถัดมา มี 2 ประเด็น ที่ต้องคิดคู่กันคือ 1. เครื่องมือในการกระตุ้นมันดีหรือยัง? และ 2. การกระตุ้นแบบนี้ถูกออกแบบมาให้เงินมันฟู หรือที่เรียกว่าตัวคูณทวี (Multiplier Effect) มันมีพลังมากที่สุดหรือเปล่า? เพราะฉะนั้นถ้าเรามองอย่างแรกคือจะรู้เลยว่าต้องกระตุ้น แต่การกระตุ้นมันมีทั้งแบบเดิมคือนโยบายของรัฐบาลชุดก่อน ซึ่งก็คือ 'โครงการคนละครึ่ง' ซึ่งอันนี้ไม่ใช่คนละครึ่ง ไม่ใช่การเอาเงินต่อเงิน แต่เอาเงินไปเติมเงินด้วยนโยบาย 1 หมื่นบาท โดยตอนแรกเขาออกมาแค่ 1 หมื่นบาท แต่ว่าไม่ได้พูดถึงรายละเอียดมากนั้น จึงทำให้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เกิดขึ้น จากนั้นรัฐบาลได้เก็บคำวิจารณ์เหล่านี้มาปรับปรุงกระบวนการ อย่างเมื่อก่อนบอกเฉพาะในพื้นที่แต่ตอนนี้ใช้ได้ในอําเภอได้แล้ว หรือจาก 25,000 ก็ขยับเป็น 70,000 แล้ว ดังนั้น จะเห็นได้ว่าอย่างน้อยเสียงด่าถึงหูรัฐบาลซึ่งถือเป็นข่าวดี เพราะมีการปรับปรุงและใช้เงื่อนไขที่ตัดข้อกังวลหลายอย่าง เช่น สามารถใช้ซื้อของได้แค่บางอย่าง โดยมีของที่ใช้ในชีวิตประจําวันเป็นหลัก และข้อดีของสิ่งนี้คือมันช่วยให้เงินไปถึงคนที่ต้องการใช้จริง ๆ เพราะคนที่ต้องการใช้เงินและใช้ได้เร็วที่สุดคือคนที่หาเช้ากินค่ำ เพราะเขาสามารถเอาเงินตัวนี้ไปซื้อข้าวของแทนได้ แต่คนที่อาจจะเอ๊ะ…เขาไม่ได้ลําบากขนาดนั้น แต่ด้วยข้อบังคับตัวนี้ มันบังคับให้เขาไม่จําเป็นต้องใช้เงินก้อนนี้ก็ได้ เพราะว่าสิ่งอื่นที่เขาอยากจะซื้อ มันไม่จําเป็นต้องซื้อ เพราะฉะนั้นมันเหมือนกลยุทธ์ของรัฐบาลที่บอกว่าจะใช้เงิน 500,000 ล้าน แต่เอาเข้าจริงๆ พอใช้มันอาจจะไม่ถึงก็ได้

แต่สิ่งที่กังวลคือ…การบอกว่าตัวคูณทวีจะทรงพลังมากถึง 3 เท่า…ดังนั้น อย่างแรกต้องกลับไปเปิดตํานานเศรษฐศาสตร์มหภาคของปี 1 ก่อน เวลาเราคํานวณตัวคูณทวีมันจะมีสูตรคํานวณ และจะต้องคํานวณเป็นสิบ ๆ บรรทัดกว่าจะได้ตัวเลขมา คือ ฉันจ่ายให้เธอ เธอจ่ายต่อคนโน้นคนนี้ไปเรื่อย ๆ ยาวเป็นกิโล เพราะฉะนั้นสมมติฐานการคํานวณตัวคูณทวีคือเงินมันจะวิ่งหลายสิบทอดมากกว่าที่มันจะฟู อันนี้คือข้อที่กังวล เพราะเงินดิจิทัลบอกว่า ต้นทางเอาไปซื้อของจากพ่อค้า ไม่ต้องอยู่ในระบบก็ได้แต่ซื้อได้ สมมติได้ไป 500 บาท และทีนี้หากพ่อค้าคนนี้ไปซื้อของจากแม็คโคร โลตัส หรือว่าอะไรก็ตามที่เป็นบริษัทใหญ่เงินมันจะจบแค่นั้น… เขาสามารถเอาไปขึ้นเงินได้เลย ดังนั้น มันจะเดินทางเพียงแค่ 2 ต่อ แต่ในทฤษฎีเศรษฐศาสตร์บอกว่าต้องเดินทางเป็นสิบ ๆ ต่อ แสดงว่าตัวฟูอาจจะไม่ฟูแล้ว ดังนั้น สิ่งนี้คือสิ่งที่กังวลอย่างมาก และคิดว่ามันอาจจะเกิดขึ้นได้…”

‘วปอ.66’ มอบ ‘เวชภัณฑ์-สิ่งของจำเป็น-เงิน’ รวมมูลค่า 420,000 บ. แก่สาธารณสุขเพชรบุรี-สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งกุ่มสะแก จ.เพชรบุรี

เมื่อวันที่ 30 พ.ย.66 พลโท ฐิตวัชร์ เสถียรทิพย์ ประธานนักศึกษา วปอ.66 พร้อมด้วย ดร.เอ้ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายนิพพิชน์ นริญปพันธุ์ ร่วมกับภาครัฐและภาคเอกชนในหลักสูตร วปอ.66 ร่วมสนับสนุนเงิน สิ่งของเครื่องใช้จำเป็น เช่น ยา เครื่องผลิตออกซิเจน เครื่องกรองน้ำ ข้าวสาร ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ น้ำยาทำความสะอาด รวมมูลค่าประมาณ 420,000 บาท ให้แก่สาธารณสุขเพชรบุรีและสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งกุ่มสะแก จ.เพชรบุรี ณ อุทยานราชภักดิ์ ปราณบุรี เพื่อให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงาน

สำหรับการจัดกิจกรรม วปอ.66 จัดกิจกรรม ‘CSR เพื่อสร้างสังคมแห่งการให้’ ครั้งนี้ โดยมอบให้แก่สาธารณสุขเพชรบุรีและสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งกุ่มสะแก เพชรบุรี ณ อุทยานราชภักดิ์ ปราณบุรี เพื่อให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงาน โดยภาครัฐและภาคเอกชนในหลักสูตร วปอ.66 ยังประกอบด้วย มูลนิธิ รพ.พระจอมเกล้า ธ.ออมสิน บริษัทไทยนครพัฒนา บ.เซ็นทรัลรีเทล คอร์ปอเรชั่น ร่วมสนับสนุนเงิน สิ่งของเครื่องใช้จำเป็น เช่น ยา เครื่องกรองน้ำ ข้าวสาร ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ น้ำยาทำความสะอาด รวมมูลค่าประมาณ 420,000 บาท ดังนี้

1. มูลนิธิโรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารฯ มอบเครื่องผลิตออกซิเจน จำนวน 2 เครื่องให้กับสาธารณสุขจังหวัดเพชรบุรี มูลค่า 200,000 บาท
2. ธนาคารออมสิน โดยคุณวิทัย รัตรากร ผู้อำนวยการธนาคารฯ มอบเงินสด 100,000 บาท
3. คุณวิกร ภุวพัชร์ มอบเครื่องกรองน้ำ 2 เครื่อง มูลค่า 20,000 บาท
4. คุณธัญญา รุ่งชาญชัย บริษัทโรงสีสิงห์โตทองไรซ์มอบข้าวสารขนาด 5 กิโลกรัม จำนวน 100 ถุง มูลค่า 25,000 บาท 
5. คุณวราภรณ์ วีระภุชงค์ บ.ไทยนครพัฒนามอบเวชภัณฑ์ยา มูลค่า 20,000บาท
6. คุณสุภาวดี สุวรรณประทีป บ.เนเจอร์ไลน์ พลัสฯ มอบน้ำยาทำความสะอาดน้ำยาซักผ้า 20 ลังน้ำยาถูพื้น 50 แกลลอนน้ำยาล้างห้องน้ำ 50 แกลลอน น้ำยาล้างจานขวดใหญ่ 5 ลัง ข้าวสาร 5 โล  25 ถุง มูลค่า 30,000 บาท
7. คุณสุกุลยา เอื้อวัฒนะสกุล บริษัท เซ็นทรัลรีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) มอบผ้าอ้อมผู้ใหญ่ จำนวน 25 แพ็ก (600 ชิ้น) ให้แก่สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งกุ่มสะแก จังหวัดเพชรบุรี มูลค่า 15,000 บาท
8. วปอ.66 ร่วมสมทบเงิน 10,000 บาท รวมมูลจำนวน 420,000 บาท

ทั้งนี้ วปอ.66 ได้เลือกพื้นที่ในการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดอีกด้วย โดยครั้งนี้จัดที่อุทยานราชภักดิ์ ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอีกหนึ่งแห่ง หลังจากที่จัดกิจกรรมที่วัดไชยวัฒนาราม จ.อยุธยา

นักศึกษาวปอ66มอบยาเวชภัณฑ์สิ่งของจำเป็นให้สาธารณสุขจ.เพชรบุรีสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งกุ่มสะแกเพชรบุรีรวมมูลค่าประมาณ420,000 บาท  

ศรชล.ภาค 1 ร่วมจัดกิจกรรมปลูกป่าชายเลน เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ ในหลวง ร.9

ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 1 (ศรชล.ภาค ) โดย ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล จว.สมุทรสงคราม และศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือ จว.สมุทรสงคราม (ศรชล./ศคท.จว.สส.) โดย น.อ.อชิตะสิน กำมะณี รอง ผอ.ศรชล.จว.สส.ศรชล.ภาค 1 มอบหมายให้ ร.อ.ไพศาล อิสระฉันท์ จนท.วิเคราะห์นโยบายและแผน ศรชล.จว.สส. และ ร.ท.พรสวรรค์ พึ่งพร จนท.ยุทธการและการข่าว ศรชล.จว.สส. พร้อมด้วย ร.ท.สุชาติ เอี่ยมสะอาด  เจ้าหน้าที่ส่งกำลังบำรุง ศรชล.จว.สส. ร่วมกับสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 8 กอ.รมน.สมุทรสงคราม มณฑลทหารบกที่ 16 ทสจ.สมุทรสงคราม ศูนย์ป่าไม้สมุทรสงคราม รร.วัดคลองโคน อาสาสมัครพิทักษ์ทะเล จัดกิจกรรมปลูกป่าชายเลน เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันพ่อแห่งชาติ วันชาติ และวันดินโลก วันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2566

โดยมีนายเกรียง มหาศิริ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรทางและชายฝั่งที่ 8 เป็นประธานในพิธี โดยปลูกป่าชายเลนภายในพื้นที่โครงการปลูกป่า เพื่ออนุรักษ์ ฟื้นฟู ป่าต้นน้ำ ป่าชายเลนและป้องกันไฟป่า จังหวัดสมุทรสงคราม บริเวณชายฝั่งทะเลตำบลคลองโคน อำเภอเมืองฯ จังหวัดสมุทรสงคราม 

‘พีระพันธุ์’ ยัน!! ‘ค่าไฟฟ้า’ จะไม่แพงตามมติ กกพ. ลั่น!! จะดึงราคาลงมาให้ได้ เพื่อไม่ให้ปชช.ลำบาก

(2 ธ.ค. 66) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน โพสต์เฟซบุ๊กว่า "ขอให้มั่นใจค่าไฟจะไม่สูงอย่างที่เป็นข่าวครับ ผมเข้าใจถึงความกังวลใจของพี่น้องประชาชนที่ถามกันมามากเรื่องราคาค่าไฟฟ้าภายหลังจากสิ้นสุดระยะเวลามาตรการลดค่าไฟฟ้าในเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้ว่าราคาอาจกระโดดสูงขึ้นถึงหน่วยละ 4.68 บาท หรือ 17% จากราคาปัจจุบันหน่วยละ 3.99 บาทตามที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.)ได้เปิดให้มีการสอบถามและมีมติไป

ผมเองก็รับไม่ได้ถ้าราคาค่าไฟจะเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดอย่างนั้น เพราะถึง กกพ.จะมีมติแบบนั้น แต่เราก็ต้องบริหารจัดการเอาราคาค่าไฟลงมาให้ได้ ซึ่งผมได้สั่งการให้หน่วยงานต่างๆ เร่งประสานทุกจุดล่วงหน้าด้วยวิธีการใหม่ๆ หลายรูปแบบแล้ว เพื่อไม่ให้ประชาชนไม่แบกรับค่าไฟฟ้าที่มากเกินไป จะพยายามทำให้ใกล้เคียงกับที่จ่ายอยู่ในปัจจุบันให้มากที่สุด

ผมขอให้ความมั่นใจว่ากระทรวงพลังงานยุคนี้ไม่ได้นิ่งนอนใจและทำงานล่วงหน้ามาระยะหนึ่งแล้วเพื่อให้ราคาค่าไฟอยู่ในระดับที่ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดิมมากนัก ซึ่งต้องใช้หลายกลไกพร้อมๆ กันภายใต้โครงสร้างในปัจจุบันที่ไม่ได้ให้อำนาจกับฝ่ายนโยบายมากนัก แต่จะพยายามทำอย่างเต็มที่เพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชน

ทั้งนี้ การที่ กกพ.ประกาศให้ประชาชนเห็นชอบแนวทางในการปรับอัตราค่าไฟฟ้าก่อนหน้านี้ เป็นเงื่อนไขตามกฎหมายที่จะต้องมีการประกาศเพื่อให้ประชาชนแสดงความคิดก่อนที่จะมีมติ แต่ทั้งนี้ไม่ได้เป็นที่สุด จะต้องมีการบริหารจัดการเพื่อให้ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุดต่อไป ทั้งหมดนี้จะเตรียมการให้เสร็จสิ้นและประกาศโดยเร็วที่สุด

ผมพูดเสมอว่านี่คือการแก้ไขปัญหาระยะสั้นเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนภายใต้โครงสร้างแบบปัจจุบัน แต่ที่กำลังดำเนินการแบบเข้มข้นที่สุด และทำงานกันไม่หยุดหย่อนทุกวัน คือการเร่งรวบรวมข้อมูลทุกด้านเกี่ยวกับพลังงาน ไม่ว่าจะเป็นน้ำมัน ก๊าซ ไฟฟ้า พลังงานทดแทน และพลังงานสะอาด ให้ครบทุกมิติ เพื่อนำไปสู่การ รื้อ ลด ปลด สร้าง พลังงานให้มั่นคง เป็นธรรม และยั่งยืนทั้งระบบ

ไม่ยากครับถ้าแค่พูดเอาเท่ ฟังดูดีทรงภูมิ คนทำแบบนั้นมีเยอะแล้ว แต่ไม่เคยเห็นรูปธรรม พูดไปเรื่อยๆ ใช่ครับ อะไรๆ ก็แก้โครงสร้าง แต่จะแก้อะไร แก้อย่างไรครับ ส่งผลกระทบแบบไหน จะทดแทนด้วยอะไร ทั้งระบบต้องสอดคล้องและไม่ก่อภาระเพิ่มให้กับประชาชน

ย้อนกลับไปดูกันนะครับ กฎหมายแต่ละฉบับ รูปแบบที่ใช้กันอยู่ ใช้มานานเท่าไร ปล่อยกันมาสี่สิบปีแล้วนะครับ

ผมเองหลังแถลงนโยบายมาสองเดือนเศษ ผมไม่พูดมากแต่ลงมือทำ อย่างน้อยผมก็พยายามลดภาระให้ประชาชนไม่ว่าจะตามโครงสร้างแบบไหน ทั้งน้ำมันดีเซล เบนซิน ค่าไฟฟ้า ตรึงราคาค่าแก๊ส ผมดีใจที่พี่น้องประชาชนได้ประโยชน์อย่างเต็มที่ เวลาเดียวกันก็เร่งดำเนินการรวบรวมข้อมูลชนิดลงลึกทุกขั้นทุกตอน ทำงานกันหลายคณะ ทำมากกว่าพูดลอยๆ ว่า “ปรับโครงสร้างๆๆ”

เมื่อข้อมูลครบถ้วนแล้ว ไม่นานครับ เพราะผมและคณะจะร่างกฎหมายเอง เป็นชุดและครอบคลุมทั้งหมด ตอบได้ทุกคำถาม เพราะยึดเอาประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง ผมศึกษา หาข้อมูล ถกเถียง คิดวิเคราะห์ คืบหน้าไปมากแล้ว แต่ยังไม่สมบูรณ์ เพราะนี่คือการลงมือทำจริง ไม่ใช่เพียงแค่พูดแล้วเสกออกมา ขอให้มั่นใจ ผมเอาจริงแน่นอน"

‘ไอซ์ รักชนก’ ลุ้น!! 13 ธ.ค.นี้ วันชี้ชะตาฟังคำพิพากษาคดี ม.112 ชี้ ออกได้ 2 ทาง หนักสุดจำคุก-ไม่ให้ประกันตัวจะพ้นสภาพสส.ทันที

(2 ธ.ค.66) นางสาวรักชนก ศรีนอก สส.กรุงเทพฯ พรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กว่า นับถอยหลัง 13 วัน ฟังคำพิพากษา เดินหน้าเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

หลายคนคงทราบข่าวเรื่องศาลรัฐธรรมนูญ ไม่รับคำร้องที่ไอซ์ฟ้องว่ากฎหมาย พรบ.คอมพิวเตอร์ขัดรัฐธรรมนูญ นั่นหมายความว่าถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ในวันที่ 13 ธันวาคมนี้ ศาลอาญารัชดา ก็จะอ่านคำพิพากษาคดี 112 ของไอซ์

คดีหมายเลขดำที่ อ 683/2565 โจทย์ที่ยื่นฟ้อง มาตรา 112 พรบ.คอมพิวเตอร์คดีก็ดำเนินมาจนถึงวันนี้ นับถอยหลัง 13 วัน ฟังคำพิพากษา ในวันที่ 13 ธันวาคม 2566 เนื่องจากวันนั้นเป็นวันแรกของการเปิดสมัยประชุมสภา โดยจะมีการประชุมสภา ไอซ์จึงทำหนังสือเพื่อขอเลื่อนฟังคำพิพากษา เนื่องจากติดประชุมสภา ซึ่งต้องแล้วแต่ดุลยพินิจของศาล ว่าจะให้เลื่อนหรือไม่

สส.รักชนก ระบุว่าโดยคดีนี้สามารถมีคำพิพากษาออกได้ 2 แนวทาง คือ

1.หากศาลตัดสินว่าไอซ์ไม่มีความผิด ทุกอย่างก็จะจบลง (ถ้าอัยการไม่อุทธรณ์)
2.หากศาลตัดสินว่ามีความผิด ซึ่งก็แบ่งออกเป็น 2 แนวทางย่อย คือ
2.1 ศาลตัดสินว่ามีความผิด โดยให้รอลงอาญา (คดีนี้ก็จะสิ้นสุดเหมือนกันถ้าไม่มีการอุทธรณ์)
2.2 ศาลตัดสินว่ามีความผิด โดยตัดสินจำคุกระหว่าง 3-15 ปี หลังจากศาลตัดสินแล้วตามหลักการ จำเลยสามารถประกันตัวได้ในศาลชั้นต้น เพื่ออุทธรณ์คดีและสู้คดีต่อได้ในชั้นอุทธรณ์

ถ้าศาลให้ประกันตัวตามสิทธิ์ที่ถูกรับรองไว้ในรัฐธรรมนูญ ไอซ์ก็จะสามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้ จนกว่าคดีจะถึงที่สิ้นสุด (ในมาตรา 29 ที่ระบุไว้ว่า "บุคคลไม่ต้องรับโทษอาญาเว้นแต่ได้กระทำการอันกฎหมายที่ใช้อยู่ในเวลาที่กระทำนั้นบัญญัติเป็นความผิดและกำหนดโทษไว้และโทษที่จะลงแก่บุคคลนั้นจะหนักกว่าโทษที่บัญญัติไว้ในกฎหมายที่ใช้อยู่ในเวลาที่กระทำความผิดมิได้ ในคดีอาญา ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ต้องหาหรือจำเลยไม่มีความผิด และก่อนมีคำพิพากษาอันถึงที่สุดแสดงว่าบุคคลใดได้กระทำความผิด จะปฏิบัติต่อบุคคลนั้นเสมือนเป็นผู้กระทำความผิดมิได้”)

แต่ปัญหาจะเกิดขึ้น ถ้าศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัวและส่งตัวไอซ์เข้าเรือนจำ แม้แต่นาทีเดียวก็หมายความว่าสถานะ สส.ที่ได้รับการเลือกตั้งมาเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 ด้วยคะแนนเสียงจากประชาชน 47,592 ก็จะสิ้นสุดลง และ กกต. จะจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่แทนตำแหน่งที่ว่าง

ในฐานะประชาชน แน่นอนว่าไอซ์ยินดีที่จะเดินหน้าเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมในการพิจารณาคดี 112 ถึงแม้ว่าจะเห็นว่าประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 นั้นมีปัญหาทั้งข้อกฎหมายและการบังคับใช้ก็ตาม และ ไอซ์ก็เป็นหนึ่งเสียงที่สนับสนุนนโยบายของพรรคก้าวไกลในการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ให้สอดคล้องกับระบอบประชาธิปไตย

ในฐานะสส.ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ตระหนักดีว่าการทำหน้าที่เป็นปากเสียงของประชาชนนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญ ซึ่งไอซ์จะพยายามอย่างถึงที่สุดที่จะรักษาสถานภาพที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนตามสิทธิ์ที่พึงมี ทั้งนี้ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ของไอซ์หรือพรรคก้าวไกล แต่เป็นการยืนยันเจตจำนงของประชาชนที่ลงคะแนนให้ไอซ์ในฐานะตัวแทนของพรรคก้าวไกล ไอซ์ไม่ร้องขออะไรมากไปกว่าสิทธิ์ที่พึงได้รับตามรัฐธรรมนูญ

ขั้นต้น ไอซ์จะทำจดหมายขอให้เลื่อนการอ่านคำพิพากษาออกไป ให้ไม่กระทบกับภารกิจในฐานะผู้แทนราษฎรที่กินภาษีประชาชน เพื่อให้การทำหน้าที่ในฐานะตัวแทนประชาชนในสมัยประชุมไม่ว่าจะการพิจารณากฎหมาย การตั้งกระทู้ถามรัฐมนตรี การอภิปรายในโอกาสวาระต่างๆ รวมทั้งร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 หรือแม้กระทั่งร่าง พ.ร.บ. กู้เงิน 500,000 ล้านบาทที่รัฐบาลจะเสนอเข้าสู่ การพิจารณาของรัฐสภา พ.ร.บ. อีก 31 ฉบับ ที่พรรคก้าวไกลยื่นและการทำหน้าที่โฆษก คณะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ไม่ติดขัด

พร้อมกันนั้นไอซ์ก็จะใช้ทุกวันวินาทีที่มีค่าสำหรับการเป็นปากเสียงของพ่อแม่พี่น้องในพื้นที่พร้อมกับทีมรังนก อาสาสมัครในพื้นที่ทำงานอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันไอซ์ก็ต้องรักษาสิทธิ์ที่ได้บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญก็ ถ้ามีการพิพากษาว่ากระทำผิด ขอให้ผู้พิพากษาไม่ว่าจะเป็นศาลอาญาหรือผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ พิจารณาให้สิทธิ์ประกันตัวมาสู้คดีในขั้นตอนต่อไป เพื่อไม่ให้เป็นเหตุในการตัดสิทธิ์และหลุดจากสภาพสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เพื่อไม่ให้ผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนโดยตรง ถูกถอดลงด้วยคดีทางการเมืองหรือการเทคนิคทางกฎหมาย

4 ธันวาคม ของทุกปี กำหนดเป็น ‘วันสิ่งแวดล้อมไทย’ วันที่ ในหลวง ร.9 ดำรัสถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม

วันสิ่งแวดล้อมไทย ตรงกับวันที่ 4 ธันวาคมของทุกปี เพื่อระลึกถึงพระราชดำรัสของของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เกี่ยวกับการจัดการทรัพยากรน้ำและสิ่งแวดล้อม 

ประวัติของวันสิ่งแวดล้อมไทย เกิดจากพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2532 ทรงมีพระราชดํารัสแก่คณะบุคคลต่าง ๆ ที่เข้าเฝ้าฯ ถวายพระพร เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาลาดุสิดาลัย พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต มีใจความตอนหนึ่งที่กล่าวถึงปัญหาการจัดการน้ำว่า

“สถานการณ์สิ่งแวดล้อมของประเทศไทย และของโลกที่มีความรุนแรงขึ้น และทรงห่วงใยต่อปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ประชาชนชาวไทยกําลังประสบอยู่ พร้อมทั้งตรัสเตือนพสกนิกรให้ร่วมมือกันแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง ด้วยความสุขุมรอบคอบ โดยให้ถือเป็นหน้าที่ของทุกคนที่จะต้องปฏิบัติ มิใช่เพียงเพื่อประเทศไทยเท่านั้น หากเพื่อความอยู่รอดปลอดภัยของโลกด้วย”

กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อมได้เสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในปี พ.ศ. 2534 ให้กำหนดวันที่ 4 ธันวาคมของทุกปีเป็นวันสิ่งแวดล้อมไทย เพื่อช่วยกระตุ้นให้ประชาชนทุกภาคส่วนตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อันมีความสำคัญต่อชีวิตทั้งในปัจจุบันและอนาคต โดยต้องร่วมมือกันปกป้อง รักษาให้คงอยู่สมบูรณ์ในประเทศอย่างยั่งยืนตลอดไป


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top