Sunday, 11 May 2025
TheStatesTimes

10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2531 ‘ทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์’ กลับคืนสู่ประเทศไทย หลังหายกว่า 30 ปี

วันนี้ เมื่อ 35 ปีก่อน ‘ทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์’ ปราสาทหินพนมรุ้ง ที่หายไปกว่า 30 ปี ถูกส่งคืนสู่ประเทศไทย หลังการเรียกร้องขอคืนจากสถาบันศิลปะแห่งชิคาโก สหรัฐอเมริกา

ทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์ โบราณวัตถุสุดล้ำค่า ของประเทศไทย ได้หายไปจากปราสาทหินพนมรุ้ง นานหลายสิบปี โดยสันนิษฐานว่าถูกโจรกรรมไปในช่วงสงครามเวียดนาม ประมาณปี พ.ศ. 2507-2508 ทางกรมศิลปากรในฐานะผู้ดูแลจะได้พยายามค้นหา

กระทั่งวันที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2508 ได้มีรายงานว่ามีการพบชิ้นส่วนด้านซ้ายที่ร้านค้าของเก่า 'Capital Antique' แถวราชประสงค์ กรุงเทพฯ จึงยึดไว้ แต่ก็ไม่พบชิ้นส่วนที่เหลือ

ภายหลังมีคนไปพบ ถูกนำไปจัดแสดงอยู่ที่สถาบันศิลปะชิคาโก ในรัฐอิลลินอยส์ของสหรัฐอเมริกา 

จากนั้น รัฐบาลไทยได้ทำจดหมายขอคืนสองครั้งแต่ไม่สำเร็จ จนชาวไทยในชิคาโก้ได้รวมตัวกันเป็นคณะกรรมการรณรงค์กรณีทับหลังฯ รวบรวมทุนและดำเนินการกดดันด้านสื่อมวลชนจนได้รับการส่งคืนโดยไม่มีเงื่อนไข และส่งกลับมาถึงประเทศไทย เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2531 หลังถูกโจรกรรมไปจากประเทศไทยนานกว่า 30 ปี

'สาวโรงงาน' เฮลั่น!! 'บ.โคมัตซุ' แจกโบนัสจุกๆ 6 เดือน เผย!! บางคนมองน้อย แต่สำหรับคนจบ ม.6 ถือว่าเยอะมาก

เทศกาลปีใหม่ใกล้เข้ามา เชื่อว่าอีกสิ่งหนึ่งที่พนักงานบริษัทเฝ้ารอคอยก็คือเงินโบนัสส่งท้ายปี ซึ่งแต่ละบริษัทก็จะแตกต่างกันออกไป งานนี้ทำเอาชาวเน็ตแห่อิจฉากันยกใหญ่ เมื่อมีสาวโรงงานคนหนึ่งออกมาโพสต์ว่าเธอนั้นได้รับเงินโบนัส ปี 2566 นี้ สูงถึง 6 เดือน แถมยังได้รับเงินพิเศษอีกเกือบแสน

เมื่อวันที่ 8 พ.ย. 66 สาวโรงงานคนหนึ่งได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า “โบนัสปี 2566 ได้ 6 เดือน + 84,999 บาท อู่ข้าวอู่น้ำของฉัน ขอบคุณบริษัท ขอบคุณผู้บริหารที่มองเห็นความเหน็ดเหนื่อยของพนักงาน ขอให้ปัง ๆ แบบนี้ทุกปี สำหรับบางคนอาจมองว่ามันน้อย แต่สำหรับสาวโรงงานที่เรียนจบแค่ ม.6 ได้แค่นี้ก็ถือว่ามากแล้ว #งดเม้นดราม่านะคะ #บริษัทโคมัตซุเซอิกิ #โคมัตซุ #สาวโคมัตซุ #สาวโรงงาน” 

ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ก็ได้มีชาวโซเชียลมีเดียแห่คอมเมนต์กันถล่มทลาย จนกลายเป็นกระแสไวรัล ช่น ปัง ๆ เงินกำลังใจแต่ละปี, วาสนาผู้ใดน้อ, ตัดภาพมาทางนี้ ได้เดือนเดียว ก็ถือว่าบุญล่ะ, สวยและรวยมาก สะออนเด้

'ชัยชนะ' ฟาด!! 2 เดือน 'รัฐบาล-นายกฯ' สอบตก ยก 3 ผ่าน 'อนุทิน-ชาดา-ธรรมนัส' ทำงานเห็นผล

(9 พ.ย.66) นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงการทำงานของรัฐบาลหลังเข้ามาบริหารประเทศ 2 เดือน ว่า  2 เดือนในการทำงานของรัฐบาลภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายก​รัฐมนตรี​ สิ่งที่น่าผิดหวัง คือ ไม่สามารถแก้ปัญหาปากท้องเศรษฐกิจของประเทศได้ ประชาชนยังอยู่ในยุคที่ข้าวของมีราคาแพง อีกทั้งปัญหาการพนันออนไลน์ ทุกวันนี้ก็ยังมีข่าวปัญหาอาชญากรรมทางสังคมที่เกิดขึ้นจากการพนันออนไลน์มากมาย และสุดท้ายการแก้ไขปัญหายาเสพติดก็ล้มเหลว ส่วนการปรับลดราคาพลังงาน ก็เหมือนเป็นการปรับลดแบบไฟไหม้ฟางระยะสั้น แก้ปัญหาไม่ตรงจุด และการทำงานของนายกฯ 2 เดือนที่ผ่านมา ก็เปรียบเสมือนนายกฯ เป็นหัวหน้าทัวร์ศูนย์เหรียญ ส่วนใหญ่จะท่องเที่ยวในต่างประเทศมากกว่า และดูว่าการเดินทางต่างๆ ก็ไม่มีเป้าหมาย

นายชัยชนะ ยังกล่าวต่อด้วยว่า มีรัฐมนตรีแค่ 3 คนที่สอบผ่าน คือ นายอนุทิน ชาญ​วี​ร​กูล​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ออกมาแสดงจุดยืนในเรื่องของสังคมหลายเรื่อง ​ทั้งเรื่องเปิดผับถึงตี 4, นายชาดา ไทยเศรษฐ์​ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย วางแผนแก้ไขปัญหาเรื่องผู้มีอิทธิพลอย่างมีระบบ, ร้อยเอกธรรมนัส พรหม​เผ่า​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ลงพื้นที่แก้ไขปัญหาที่ดินทำกินให้กับประชาชนและดูแลพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ นี่เป็นสิ่งที่รัฐบาลเศรษฐาต้องกลับไปทบทวน เพราะรัฐมนตรีใน ครม. 35 คนสอบผ่านแค่ 3 คน ที่เหลือยังไม่มีผลงานประดับชัดเจน

“ต้องบอกว่าการเป็นนายกรัฐมนตรีไม่ใช่การเดินแบบแฟชันโชว์หรือเป็นไกด์ทัวร์ จุดสำคัญต้องมีวุฒิภาวะ ซึ่งนายกรัฐมนตรียังไม่มีโดยเฉพาะเหตุการณ์ที่จูบมือ ‘อุ๊งอิ๊ง’ อันนี้ถือว่าขาดภาวะความเป็นผู้นำ และตนขอให้คะแนนนายกฯ แค่ 3 คะแนนจากเต็ม 10 และ 3 คะแนนที่ให้คือ 1.นายกไหว้สวย 2.ไปเที่ยวทำให้คนรู้จักประเทศไทยมากขึ้นและ 3.คือนายกแต่งตัวแฟชัน” นายชัยชนะ กล่าว

‘กกต.เชียงใหม่’ จี้!! ‘สส.ก้าวไกล’ แจง ปมปลอมลายเซ็น-ใช้เอกสารเท็จ ขีดเส้น!! ภายใน 15 วัน ยัน ไม่เลือกปฏิบัติ ทำทุกอย่างตามขั้นตอน กม.

(9 พ.ย. 66) นายนพดล สุยะ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (ผอ.กกต.) ประจำจังหวัดเชียงใหม่ เผยกรณีผู้ช่วยหาเสียงนายภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ หรือ ‘สส.ตี๋’ สส.เชียงใหม่ เขต 7 พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ร้อง กกต.จังหวัด กรณีนายภัทรพงษ์ ใช้เอกสารเท็จเบิกค่าใช้จ่าย และเบี้ยเลี้ยง ผู้ช่วยหาเสียง สส. และทีมงาน ว่า ผู้ร้องได้มาร้อง กับ ผอ.กกต. พร้อมยื่นเอกสารหลักฐานตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม ก่อน กกต.จังหวัด ได้พิจารณารับเป็นคำร้อง วันที่ 17 ตุลาคม และผู้ร้องมาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน กกต. วันที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา เพื่อบันทึกไว้เป็นหลักฐาน

นายนพดล กล่าวต่อว่า ต่อมา กกต.จังหวัด ได้มีหนังสือเชิญนายภัทรพงษ์ ผู้ถูกกล่าวหา มาให้ปากคำเพื่อแก้ข้อกล่าวหาดังกล่าว วันที่ 3 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา แต่นายภัทรพงษ์ ได้ขอเลื่อนเข้าให้ปากคำดังกล่าว โดยให้เหตุผลว่าไม่พร้อม ทาง กกต.จึงให้โอกาสเพื่อมาชี้แจงและให้ปากคำ ภายใน 15 วัน หรือภายในวันที่ 18 พฤศจิกายนนี้

นายนพดล กล่าวต่อว่า จากนั้นทางพนักงานสอบสวน และ ผอ.กกต.จังหวัด จะเสนอเรื่องให้ กกต.จังหวัดพิจารณา เพื่อชี้มูลความผิดหรือไม่ก่อนเสนอ กกต.กลาง พิจารณาตัดสินตามขั้นตอนระเบียบกฎหมาย ซึ่งเป็นกระบวนการพิจารณาตามปกติ ไม่ยุ่งยากซับซ้อนอะไร

นายนพดล กล่าวต่อว่า ขณะนี้ กกต.ยังไม่ได้ตั้ง หรือแจ้งข้อหากับผู้ถูกร้อง เพราะยังไม่ได้สอบปากคำจนกว่าผู้ถูกร้องมาชี้แจง และให้ปากคำเพื่อประกอบสำนวนคดีดังกล่าวครบถ้วนแล้ว เพื่อความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่ง กกต. ยึดหลักปฏิบัติดังกล่าว ของการเลือกตั้งทุกระดับ ทั้งระดับชาติและท้องถิ่น อย่างเท่าเทียม เสมอภาค ไม่เลือกปฏิบัติ โดยเฉพาะการยื่นบัญชีรายรับ-รายจ่าย หาเสียงเลือกตั้ง ภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด ไม่ว่าสอบได้หรือสอบตก ต้องยื่นและแสดงบัญชีดังกล่าวตามข้อเท็จจริงเท่านั้น ถ้ามีการปกปิด และแสดงเอกสารอันเป็นเท็จ ต้องถูกตรวจสอบ เพราะนักการเมือง ถือเป็นบุคคลสาธารณะ ไม่สามารถละเว้นได้

‘สธ.-สสส.-MBK’ รวมพลังปลุกกระแส ‘อาหารไทยถิ่น กินเป็นยา’ กระตุ้นท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ-เพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจ-ดึงเม็ดเงินเข้าประเทศ

(9 พ.ย. 66) นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เป็นประธานเปิดงานเสวนาวิชาการและนิทรรศการอาหารเป็นยาครั้งที่ 1/2566 ภายใต้แนวคิด ‘อาหารไทยถิ่น กินเป็นยา’ ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-12 พฤศจิกายน 2566 ที่ลาน MBK Avenue A ศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ กรุงเทพมหานคร โดยมี นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รักษาราชการแทนรองปลัด สธ. นพ.ขวัญชัย วิศิษฐานนท์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ผู้บริหาร สธ.ภาคีเครือข่ายร่วมงาน พร้อมทั้งมอบป้ายโลโก้อาหารเป็นยา ให้กับสถานประกอบการ ทั้ง 20 แห่ง ที่ผ่านเกณฑ์การคัดเลือกผู้จำหน่ายอาหารที่มีเมนูสุขภาพจากวัตถุดิบในท้องถิ่น ปลอดสารพิษ

นายสันติกล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายที่จะสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว เพื่อกระตุ้นภาคเศรษฐกิจและสร้างงานให้กับประชาชน โดยเฉพาะการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพด้านอาหารที่สร้างรายได้ให้กับประเทศนับแสนล้านบาท

ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ข้อมูลจากกรมการท่องเที่ยว ระบุว่า ประเทศไทยมีสัดส่วนรายได้จากการท่องเที่ยวด้านอาหาร ถึงร้อยละ 20 ของรายได้การท่องเที่ยวทั้งหมด และในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา รายได้จากอาหารและเครื่องดื่มจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 5.74 สธ.จึงเห็นโอกาสในการขับเคลื่อนนโยบายอาหารเป็นยา เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ ความเชื่อมั่น ให้กับประชาชนเกี่ยวกับการสร้างเสริมสุขภาพด้วยการบริโภคอาหาร นำไปสู่สร้างเศรษฐกิจให้กับประเทศ

“อาหารไทยได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวอย่างแพร่หลาย ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดรายการอาหารยอดนิยมของนักท่องเที่ยวไว้ จำนวน 6 รายการ ได้แก่ ผัดไทย ต้มยำกุ้ง แกงเขียวหวาน ส้มตำ มัสมั่น ต้มข่าไก่ และยังมีรายการอาหารไทยที่ควรส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวได้รู้จักมากยิ่งขึ้น เช่น ผัดกะเพรา ผัดฉ่า เครื่องดื่มสมุนไพรซึ่งมีสรรพคุณตามรสยา เพื่อช่วยให้ร่างกายแข็งแรง และบรรเทาอาการเจ็บป่วยเบื้องต้น” นายสันติกล่าว

นพ.สุรโชค กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้ เป็นความร่วมมือของ สธ.สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ และภาคีเครือข่าย เพื่อขับเคลื่อนการนำอาหารไทย สมุนไพรไทย มาช่วยสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ ภายใต้แนวคิด ‘อาหารไทยถิ่น กินเป็นยา’ เป็นการสร้างกระแสให้ประชาชนหันมาใส่ใจการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพเพิ่มมากขึ้น รวมถึงเยาวชนรุ่นใหม่จะได้ตระหนักรู้ว่าอาหารไทย สมุนไพรไทยมีคุณค่า เป็นการผสม ‘ศาสตร์’ การดูแลสุขภาพด้วยภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย กับ ‘ศิลป์’ ความพิถีพิถัน ความละเอียดอ่อนในการปรุงอาหาร ที่ช่วยสร้างคุณค่าและมูลค่าให้กับอาหารไทย คาดว่าการจัดงานในครั้งนี้จะทำให้เศรษฐกิจเกิดการหมุนเวียนจากการจับจ่ายใช้สอยของนักท่องเที่ยวที่เข้ามาชมงานประมาณ 5-6 หมื่นคนต่อวัน

ด้าน นพ.ขวัญชัยกล่าวว่า ที่ผ่านมากรมการแพทย์แผนไทยฯ ได้จัดกิจกรรมอาหารเป็นยาโดยนำร่องจังหวัดที่เป็นเมืองสมุนไพร อาทิ สงขลา อุดรธานี จันทบุรี สระบุรี เชียงใหม่ เป็นต้น ซึ่งได้การตอบรับเป็นอย่างดี รวมถึงได้ร่วมมือกับ ‘การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย’ (ททท.) มอบป้ายโลโก้ให้ผู้ประกอบการ สตรีทฟู้ด ร้านอาหารเครื่องดื่ม และโรงแรม แล้วกว่า 200 ร้านค้า เพื่อเป็นเครื่องหมายรับรองคุณภาพ และเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงว่ามีเมนูสุขภาพที่ใช้วัตถุดิบในท้องถิ่น ปลอดสารพิษ เป็นการช่วยสร้างรายได้ให้ชุมชนอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ กิจกรรมภายในงานประกอบด้วย เวทีเสวนาวิชาการ ให้ความรู้เกี่ยวกับสรรพคุณทางสมุนไพรที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย กิจกรรมอาการเป็นยา เช่น กินยังไง? ไม่ให้ป่วย, กินสร้างสุข, กินลดโรค การออกร้านจำหน่ายอาหาร-เครื่องดื่มจากชุมชนทั่วประเทศ

‘บิ๊กต่อ’ ปรามโซเชียล หยุดลือเรื่องส่วยสติกเกอร์ไร้หลักฐาน ชี้!! ทำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเสียหาย

(9 พ.ย. 66) จากกรณีที่รถบรรทุกดินตกบ่อการไฟฟ้าบริเวณถนนสุขุมวิท 64/1 จนถนนพังเสียหาย และสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนที่สัญจรไปมาเป็นวงกว้าง ก่อนที่ต่อมามีการพบว่ารถบรรทุกคันดังกล่าว มีสติกเกอร์รูปดาวสีเขียว อักษร B ติดอยู่ที่กระจกหน้ารถ

จนมีการตั้งข้อสงสัยว่ารถดังกล่าวเกี่ยวข้องกับส่วยสติกเกอร์ตามที่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.พรรคก้าวไกล ออกมาแฉว่ามีหน่วยงานรัฐเข้าไปเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ดังกล่าว แลกกับการให้รถบรรทุกเหล่านี้สามารถวิ่งนอกเวลาที่กฎหมายกำหนด และบรรทุกน้ำหนักเกินได้

เรื่องผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถาม พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ ที่กองบัญชาการสอบสวนกลางถึงประเด็นดังกล่าว ว่าจะสั่งการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงประเด็นนี้อย่างไร 

ซึ่งพลตำรวจเอกต่อศักดิ์ เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวมีกองบัญชาการตำรวจนครบาลที่กำกับดูแลรับผิดชอบ และมีหน้าที่ตรวจสอบประเด็นดังกล่าวแล้ว ว่าสติกเกอร์ที่ปรากฏที่บริเวณหน้ารถบรรทุกเกี่ยวข้องกับการกล่าวหาว่าตำรวจหรือเจ้าหน้าที่รัฐเรียกรับผลประโยชน์ใดหรือไม่ โดยตนเองไม่จำเป็นต้องสั่งการ เพราะมีการแบ่งหน้าที่กันแล้ว ทุกคนรู้หน้าที่ แต่การกล่าวหาว่าสติกเกอร์ดังกล่าว เป็นส่วยสติกเกอร์ ที่สังคมเรียกกันนั้น ควรจะมีหลักฐาน หากกล่าวหาโดยเลื่อนลอย แม้จะเป็นการข้อสังเกตของสังคม แต่ก็ทำให้องค์กรตำรวจหรือหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องเสื่อมเสียชื่อเสียง และทำให้เกิดความขัดแย้งขึ้นในสังคม

อย่างไรก็ตามยืนยันว่า หากตรวจสอบพบว่าสติกเกอร์ดังกล่าวเป็นส่วยสติกเกอร์เรียกรับผลประโยชน์ของตำรวจจริง ตนเองในฐานะผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก็จะดำเนินการตามขั้นตอนทั้งทางอาญาและทางวินัยอย่างเด็ดขาด ไม่เอาไว้ แต่ปัจจุบันเรื่องดังกล่าวยังไม่มีความชัดเจน จึงยังไม่ได้มีการสั่งการประเด็นใดเป็นพิเศษ พร้อมยืนยันที่ผ่านมาเน้นย้ำข้าราชการตำรวจมาโดยตลอดว่า จะต้องไม่ยุ่งเกี่ยวกับสิ่งผิดกฎหมายใดๆ ทั้งสิ้น

พลิกโฉมประเทศไทย!! เปิดภารกิจ 60 วัน 'นายกฯ เศรษฐา' ‘เคลียร์ปัญหา-เดินหน้าพัฒนา’ อะไรไปแล้วบ้าง?

ผ่านมาร่วม 2 เดือน กับรัฐบาลภายใต้การนำของ ‘นายเศรษฐา ทวีสิน’ นายกรัฐมนตรี ก็ต้องบอกว่ามีหลายเรื่องที่กำลังทำ และหลายเรื่องที่เดินหน้าไปได้แล้วอย่างรวดเร็ว ภายใต้แผนนโยบายทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว โดยมุ่งเน้น Quick Win 3 ประการ ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ และขยายโอกาส เพื่อเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านการท่องเที่ยว, การเกษตร, การต่างประเทศ, การคมนาคม และอีกหลายเรื่อง

ลองมาดูกันว่า 60 วันมานี้ รัฐบาลเศรษฐา ทำอะไรไปแล้วบ้าง? และโดนใจคนไทยสักแค่ไหน?

'เนเน่ รัดเกล้า' เผยภาพเข้ากราบเยี่ยม 'ลุงตู่' ท่านยังห่วง 'ประเทศ-ประชาชน' เหมือนเดิม

(10 พ.ย. 66) ‘เนเน่’ รัดเกล้า สุวรรณคีรี ลูกสาว ไตรรงค์ สุวรรณคีรี สมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ‘เนเน่ รัดเกล้า สุวรรณคีรี’ ระบุว่า... 

#วันนี้วันดี ดีใจที่สุดที่วันนี้​ #เนเน่​ ได้มีโอกาสไปกราบเยี่ยม​ #ลุงตู่ ค่ะ​ ท่านสบาย​ดี​ หน้าตาแจ่มใส​ ใจดี​ น่ารัก​ อบอุ่น​ กันเองเหมือนเดิม... เนเน่ได้ทำหน้าที่เป็นตัวแทนทุกคน​ นำความรัก​ ความห่วงใย​ ความคิดถึงของทุกคนไปส่งต่อให้ลุงตู่เรียบร้อยแล้ว​นะคะ​ 

ลุงตู่ให้กำลังใจเนเน่ บอกขอให้ทำงานให้เต็มที่​ งานทุกงานมีความท้าทาย​ ขอให้ทำให้ดีที่สุด​ และทำงานโดยคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศ​เสมอ

ลุงตู่ยังคงเป็นห่วงประเทศและประชาชนคนไทยเหมือนเดิม และแอบเป็นกำลังใจให้คนทำงานทุกคน​ ให้ช่วยกันพาประเทศไทยเดินไปข้างหน้า​ด้วยกัน

‘DTI’ เซ็น MOU ร่วม ‘THAICOM’ พัฒนาท่าอวกาศยาน เพิ่มขีดความสามารถด้านอวกาศไทยขึ้นไปอีกขั้น

(10 พ.ย.66) สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (สทป.) หรือ ‘DTI’ จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือด้านการพัฒนาท่าอวกาศยาน ภาครัฐเชิงพาณิชย์ (Commercial Governmental Spaceport) สิ่งอำนวยความสะดวกท่าอวกาศยานต่างๆ และ เทคโนโลยีทางอวกาศอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ระหว่าง สทป. กับ บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) 

โดยมี พลเอกพอพล มณีรินทร์ ประธานกรรมการ สทป. ร่วมเป็นสักขีพยานกิตติมศักดิ์ และมี พลเอกชูชาติ บัวขาว ผอ.สทป. และ นายปฐมภพ สุวรรณศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) ให้เกียรติในการลงนาม พร้อมด้วย ดร.ปิยะวัฒน์ จริยเศรษฐพงศ์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการค้าร่วมเป็นสักขีพยาน เพื่อร่วมมือกันศึกษา วิจัย พัฒนา ส่งเสริม และสนับสนุน การจัดตั้งท่าอวกาศยานภาครัฐเชิงพาณิชย์ หรือ ‘Commercial Governmental Spaceport’ รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกท่าอวกาศยานต่างๆ และเทคโนโลยีทางอวกาศอื่นๆ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ทั้งในด้านความมั่นคงทางการทหาร ด้านเศรษฐกิจและสังคม และด้านการพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและวิทยาการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี Hall 9-12

สำหรับงานด้านอวกาศ ถือเป็นโอกาสที่จะทำให้ประเทศเกิดการพัฒนาและเติบโตขึ้นในหลายมิติ โดยสิ่งหนึ่งที่มีความจำเป็น หากต้องการแข่งขันทางด้านอวกาศในระดับนานาชาติ คือ การพัฒนา Spaceport หรือ ‘ท่าอวกาศยาน’ ซึ่งมีความคล้ายกับแอร์พอร์ต หรือท่าอากาศยาน แต่ Spaceport นี้จะถูกใช้เป็นฐานยิงจรวด ยิงดาวเทียมขึ้นสู่อวกาศ รวมทั้งเป็นจุดสำหรับรับจรวดรับดาวเทียมกลับสู่โลก

ทั้งนี้ ประเทศไทย อยู่ในฐานะประเทศที่มีลักษณะทางภูมิศาสตร์ได้เปรียบและเหมาะสมในการสร้าง Spaceport ฉะนั้น การบุกเบิก Spaceport จะนำไปสู่เศรษฐกิจใหม่แห่งอนาคตที่เรียกว่า ‘เศรษฐกิจอวกาศ’ หรือ ‘Space Economy’ ต่อไป

'เสธ.นุ้ย' นำทีม 288 ผู้ทรงคุณค่าแห่งสังคมไทยจาก 'วปอ.66' ผนึกพลังแห่งการให้ ส่งสุขให้สังคมใต้แนวทาง Project The Ten

(10 พ.ย.66) วาสนา นาน่วม ผู้สื่อข่าวชื่อดังสายทหาร ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก 'Wassana Nanuam' ระบุว่า...

ท่าน ประธาน!!

'เสธ.นุ้ย' พลโท ฐิตวัชร์ เสถียรทิพย์ ประธาน นักศึกษา วปอ.66 เตรียมนำผองเพื่อนรวม 288 คน เดินหน้าปรับโฉม วปอ. มุ่งสู่ Project The Ten ตามแนวทางของ ผบ.ทหารสูงสุด เพื่อเป็นเข็มทิศในการใช้เครือข่าย วปอ. ทำกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างยั่งยืน CSV : Creative Sharing Values ตามแนวคิด ‘สามัคคี มีความสุข’ นำบุคคลที่มีคุณค่าในทุกภาคส่วนนำพลังความสามัคคี และส่งพลังให้เป็นสังคมแห่งความสุขและสังคมแห่งการให้

สำหรับเป้าหมายสำคัญของ Project The Ten นั้น จะมุ่งเน้นนำศักยภาพของนักศึกษา วปอ.66 ให้เป็นกลไกความร่วมมือแบบองค์รวมที่ทุกภาคส่วนจะต้องนำมาเป็นหนึ่งในการแก้ปัญหาระดับนโยบายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสนับสนุนการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนทั้งโดยเฉพาะด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม รวมถึงความเหลื่อมล้ำ เพื่อสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลทุกมิติเป้าหมายสำคัญ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top