Monday, 12 May 2025
TheStatesTimes

IG เปิดฟีเจอร์ใหม่!! โพสต์ ‘ภาพ-Reels’ ดูได้แค่‘เพื่อนสนิท’ หลัง 'Close Friends' ในไอจีสตอรี่ กระแสตอบรับดี!!

สายอัพ IG มุงทางนี้! Meta ได้ออกมาเปิดฟีเจอร์ใหม่ล่าสุด ให้กับ 'instagram' สามารถลงโพสต์ภาพ – วิดีโอ reels โดยเลือกแบบ Close Friends เห็นแค่เพื่อนสนิทได้แล้ว

เรียกว่าผู้ใช้งาน 'instagram' หรือ 'IG' (อินสตาแกรม) อาจไม่ต้องสร้างแอคหลุมอีกต่อไป

เพราะล่าสุดทาง 'Lia Haberman' ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดสื่อดิจิทัล นักยุทธศาสตร์ และวิทยากร ออกมาเปิดเผยว่า อินสตาแกรม (Instagram) กำลังทดสอบฟีเจอร์ใหม่ โดยผู้ใช้งานสามารถแชร์โพสต์แบบ Close Friends หรือเพื่อนสนิทได้แล้ว

โดย ผู้ใช้งานอินสตาแกรม จะสามารถเลือกกดผู้ชมหรือผู้เห็นโพสต์ของตัวเอง (Audience) ให้เป็นแบบ Close Friends ซึ่งลักษณะจะขึ้นเป็นวงกลมสีเขียวได้

ขณะที่จะโพสต์รูปภาพ วิดีโอผ่านฟีด เพื่อเป็นการจำกัดให้ผู้ใช้งานบางกลุ่มสามารถมองเห็นโพสต์ได้เท่านั้น

อย่างไรก็ดี สาเหตุการเปิดใช้งาน Close Friends นั้น เพราะก่อนหน้านี้ ฟีเจอร์ Close Friends บนไอจีสตอรี่ ถือเป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ได้รับความนิยมสุด ๆ

สำหรับขั้นตอนมีดังต่อไปนี้

1. เลือกภาพหรือวิดีโอที่ต้องการจะโพสต์

2. ทำทุกอย่างเหมือนเดิม จนถึงการเพิ่มแคปชัน จะมีให้เลือก “Audience” หรือผู้ชม เราสามารถเลือกได้เลยว่า จะให้ผู้ติดตามหรือเพื่อนสนิทเห็น

เท่านี้ เราก็สามารถโพสต์รูปหรือวิดีโอให้เพื่อนสนิทเราเห็นได้แล้ว

'รมว.พิมพ์ภัทรา' ต้อนรับคณะ 'ผู้ว่าฯ ไซตามะ' ขยายความร่วมมือ 'เศรษฐกิจ-การลงทุน' ทุกระดับ

(10 พ.ย. 66) นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ให้การต้อนรับคณะของนายโอโนะ โมโตฮิโระ (Mr.OHNO Motohiro) ผู้ว่าราชการจังหวัดไซตามะ พร้อมด้วยผู้แทนจากภาคเอกชน และผู้แทนสถาบันการเงินประเทศญี่ปุ่น ในโอกาสการเยือนประเทศไทยเพื่อเข้าร่วมงาน Saitama-Thai Network Exchange Meeting 2023 โดยหลังการต้อนรับได้มีการหารือทั้งสองฝ่ายเพื่อขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจการลงทุนในอุตสาหกรรมของประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยข้อมูลภายหลังการหารือว่า ภาคเอกชนของประเทศญี่ปุ่นให้ความสนใจในการลงทุนในประเทศไทย โดยเฉพาะภาคเอกชนญี่ปุ่นให้ความสนใจขยายการลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ข้อมูลที่ได้จากการหารือขณะนี้พบว่าประเทศไทยเป็นเป้าหมายแรกในภูมิภาคอาเซียนที่ผู้ประกอบการญี่ปุ่นให้ความสนใจเป็นลำดับแรก จากศักยภาพความพร้อมในด้านทรัพยากร, การท่องเที่ยว, โลจิสติกส์ และความร่วมมือระหว่างรัฐบาลที่เอื้อต่อการดำเนินธุรกิจของทั้งสองประเทศ 

"ปัจจุบันมีบริษัทญี่ปุ่นเข้าลงทุนในประเทศไทยแล้ว 262 บริษัท กระทรวงอุตสาหกรรม ได้ขับเคลื่อนความร่วมมืออย่างเป็นทางการกับรัฐบาลกลางญี่ปุ่น 4 แห่ง และรัฐบาลท้องถิ่นญี่ปุ่น 24 แห่ง ซึ่งถือเป็นหน่วยงานแรกที่ประสานความร่วมมือกับส่วนท้องถิ่น (Local to Local) ผ่านการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ร่วมกับจังหวัดไซตามะ ตั้งแต่ปี 2562 เพื่อการสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอี พัฒนาองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีอุตสาหกรรม รวมทั้งการพัฒนาบุคลากรของทั้งสองประเทศ"

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ยังกล่าวด้วยว่าได้มีการจัดตั้งโต๊ะญี่ปุ่น (DIPROM Japan Desk) แลกเปลี่ยนเจ้าหน้าที่ของทั้งไทยและญี่ปุ่นเข้าปฏิบัติงานเพื่อประสานความร่วมมืออย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการอำนวยความสะดวกผสานความร่วมมือการจับคู่ทางธุรกิจ (Business Matching) ระหว่างผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยและญี่ปุ่น ซึ่งตลอด 10 ปีที่ผ่านมา สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจในระดับพันล้านและยังมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นด้วย 

กระทรวงอุตสาหกรรม ประเทศไทย และผู้องค์กรธุรกิจภาคเอกชนญี่ปุ่นมีความเชื่อมั่นและด้วยความสัมพันธ์อันดีระหว่างทั้งสองประเทศ จะสามารถยกระดับความร่วมมือเพื่อส่งเสริมการลงทุนในทุกมิติ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการญี่ปุ่นที่สนใจลงทุน เสริมสร้างขีดความสามารถทางเศรษฐกิจและขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมร่วมกัน 

สำหรับจังหวัดไซตามะ ประเทศญี่ปุ่น มีจำนวนประชากรกว่า 7.3 ล้านคน ขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 5 ของญี่ปุ่น และเป็นหนึ่งในจังหวัดที่มีการเติบโตด้านอุตสาหกรรมสูงสุดมูลค่า 5.7 ล้านล้านบาท ผู้ประกอบการส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารแปรรูป

‘ไทยสมายล์’ แจ้งโอนย้าย ‘สำรองที่นั่ง-บริการ’ ไป ‘การบินไทย’ พร้อมเดินหน้าตามแผนฟื้นฟูกิจการ เริ่ม 16 ธ.ค. 66

(10 พ.ย. 66) รายงานข่าวแจ้งว่า เฟซบุ๊ก THAI Smile Airways ของบริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ส จำกัด ได้แจ้งเปลี่ยนแปลงการสำรองที่นั่งและบริการต่างๆ ของสายการบินไทยสมายล์ โดยจะเริ่มถูกโอนย้ายไปยังการบินไทยตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค. 2566 เป็นต้นไป โดยเว็บไซต์ www.thaismileair.com จะให้บริการถึงวันที่ 15 ธ.ค. 2566

ส่วนห้องจำหน่ายบัตรโดยสารไทยสมายล์ (Smile Service Center) จะให้บริการถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2566 ศูนย์บริการลูกค้าทางโทรศัพท์ (Smile Contact Center) 0-2118-8888 (หรือ 1181) และฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ [email protected] จะให้บริการถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2566

ผู้โดยสารสามารถติดต่อขอรับบริการได้โดยตรงที่การบินไทย ได้แก่ เว็บไซต์ www.thaiairways.com ห้องจำหน่ายบัตรโดยสารการบินไทย (THAI ticketing service) ศูนย์บริการลูกค้าทางโทรศัพท์ (THAI Contact Center) 0-2356-1111 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ [email protected]

ก่อนหน้านี้ การบินไทยได้ทยอยเปิดเส้นทางบินภายในประเทศ แทนสายการบินไทยสมายล์ มาตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา เริ่มจากเส้นทางกรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ)-ภูเก็ต ก่อนที่จะทยอยเข้าไปดำเนินการทั้งหมด จำนวน 9 เส้นทาง ได้แก่ เชียงใหม่ อุดรธานี กระบี่ ขอนแก่น นราธิวาส เชียงราย หาดใหญ่ และอุบลราชธานี ซึ่งจะเปิดครบทุกเส้นทางในวันที่ 1 ม.ค. 2567

สำหรับการเปิดเส้นทางบินภายในประเทศของการบินไทย เป็นส่วนหนึ่งของการปรับโครงสร้างกลุ่มธุรกิจการบินตามแผนฟื้นฟูกิจการของการบินไทยที่ตัดสินใจยุบแบรนด์สายการบินลูกอย่างไทยสมายล์ ซึ่งเปิดให้บริการเมื่อปี 2555 เป็นต้นมา และโอนเครื่องบิน A320 กลับมาที่การบินไทยทั้งหมด 20 ลำ พร้อมกับทยอยโอนนักบิน ลูกเรือและจุดบินมาด้วย

ก่อนหน้านี้ สายการบินไทยสมายล์ได้ยุบเส้นทางบินกรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ)-สุราษฎร์ธานี ไปเมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา

‘อนุทิน’ คลอดมาตรการแบ่งเบาภาระประชาชนต่อเนื่อง ผุดขยายเวลา ‘จัดเก็บภาษีที่ดินฯ’ ปี 67 ต่ออีก 2 เดือน

(10 พ.ย.66) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ได้ลงนามในประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ขยายกำหนดเวลาดำเนินการตามพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 ประจำปี 2567 ซึ่งมีสาระสำคัญเป็นการขยายกำหนดการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างประจำปี 2567 เป็นการทั่วไป ออกไป 2 เดือน ตามที่ รมว.มหาดไทยได้มีนโยบายให้ทุกหน่วยงานภายใต้กระทรวงมหาดไทยมีมาตรการเพื่อแบ่งเบาภาระพี่น้องประชาชนที่เผชิญกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มดำเนินการแล้วในส่วนของไฟฟ้า ขณะที่ส่วนของประปาอยู่ระหว่างการพิจารณา 

ล่าสุดกระทรวงมหาดไทยได้ออกประกาศให้มีการขยายกำหนดการเก็บภาษีที่ดินและท้องถิ่นในปี 2567 ออกไป 2 เดือน ซึ่งท่านอนุทิน ได้ลงนามแล้ว และขณะนี้อยู่ระหว่างรอประกาศในราชกิจจานุเบกษาก่อนมีผลบังคับต่อไป โดยมาตรการนี้จะช่วยทำให้ประชาชนมีเวลาสามารถบริหารค่าใช้จ่าย เหลือสภาพคล่องไปใช้จ่ายในระยะเวลาที่ยืดออกไป สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ขณะนี้อยู่ในช่วงของการฟื้นเศรษฐกิจ

โดยโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า สาระสำคัญของประกาศกระทรวงฯ ได้ขยายระยะเวลาดำเนินการในส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างดังนี้…

1.ขยายกำหนดเวลาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในการจัดทำบัญชีรายการที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเพื่อประกาศ พร้อมจัดทำข้อมูลเกี่ยวข้องกับผู้เสียภาษีแต่ละรายทราบ จากเดิมภายในเดือน พ.ย. 2566 เป็น ภายในเดือน ม.ค. 2567

2.ขยายกำหนดเวลาของ อปท. ในการประกาศราคาประเมินทุนทรัพย์ของที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง อัตราภาษีที่จัดเก็บ และรายละเอียดอื่นที่จำเป็นในการจัดเก็บภาษี จากเดิมก่อนวันที่ 1 ก.พ. 2567 เป็น ก่อนวันที่ 1 เม.ย. 2567

3. ขยายกำหนดเวลาของ อปท. ในการแจ้งการประเมินภาษี โดยส่งแบบประเมินภาษีให้ประชาชนผู้เสียภาษี จากเดิมภายในเดือน ก.พ. 2567 เป็น ภายในเม.ย. 2567

4.ขยายกำหนดเวลาของผู้เสียภาษีในการชำระภาษีตามแบบแจ้งการประเมินภาษี จากเดิมภายในเดือน เม.ย. 2567 เป็น ภายในเดือนมิ.ย. 2567

5.ขยายกำหนดเวลาของผู้เสียภาษีในการผ่อนชำระภาษี ดังนี้ งวดที่1 จากเดิมชำระภายในเดือนเม.ย. 2567 เป็น ภายในเดือนมิ.ย. 2567 / งวดที่2 จากเดิมภายในเดือน พ.ค. 2567 เป็น ภายในเดือน ก.ค. 2567 และ งวดที่ 3 จากเดิมภายในเดือน มิ.ย. 2567 เป็นภายในเดือน ส.ค. 2567 

6.ขยายกำหนดเวลาของ อปท. ในการมีหนังสือแจ้งเตือนผู้เสียภาษีที่มีภาษีค้าง จากเดิมภายในเดือน พ.ค. 2567 เป็น ภายในเดือน ก.ค. 2567 

และ 7.ขยายกำหนดเวลาของ อปท. ในการแจ้งรายการภาษีค้างชำระให้สำนักงานที่ดินหรือสำนักงานที่ดินสาขา จากเดิมภายในเดือน มิ.ย. 2567 เป็นภายในเดือน ส.ค. 2567

‘ปานปรีย์’ เผย!! ถกขึ้นเงินเดือน ขรก. แนวโน้มดี ชี้!! ต้องเน้น ขรก.แรกเข้า หวั่น!! เทใจไปเอกชน

(10 พ.ย. 66) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เป็นประธานการประชุมหารือกับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เรื่องการปรับเงินเดือนข้าราชการ ร่วมกับตัวแทนกระทรวงการคลัง เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) และสำนักงบประมาณเข้าร่วมประชุม

ต่อมาเวลา 13.35 น. นายปานปรีย์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มอบหมายให้สำนักงาน ก.พ. ไปศึกษาและดูแนวทางที่เหมาะสม เพื่อนำเสนอต่อที่ประชุม ครม.ภายในสิ้นเดือน พ.ย.นี้ โดยการประชุมครั้งนี้ตนมาสังเกตการณ์ ในฐานะกำกับดูแล ก.พ. จึงมาฟังความคิดเห็นที่ทางหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายหารือกัน ซึ่งทิศทางออกมาดี ส่วนรายละเอียดต้องทำเพิ่มเติม คาดว่าก่อนสิ้นเดือน พ.ย. เสร็จแน่นอน 

ผู้สื่อข่าวถามกรณีที่มีข่าวว่าจะขึ้นเงินเดือนเฉพาะข้าราชการชั้นผู้น้อย ส่วนข้าราชการชั้นผู้ใหญ่จะขึ้นน้อยมาก มีหลักการและแนวทางอย่างไร นายปานปรีย์ กล่าวว่า ต้องดู เพราะมีในส่วนข้าราชการแรกเข้า ที่จะต้องปรับฐานเงินเดือน เพื่อให้คนที่เข้ามาใหม่มีความสนใจที่จะเข้ามาสู่ระบบราชการมากขึ้น เพราะถ้าฐานเงินเดือนต่ำเราอาจจะได้คนที่ไม่มีคุณภาพ และคนที่จะเข้ามารับราชการอาจจะตัดสินใจเลี้ยวไปภาคเอกชน การประชุมครั้งนี้ต้องมาดูด้วยว่าเงินเดือนเอกชน ที่จบปริญญาตรี จะเริ่มต้นจากตรงไหน และดูความเหมาะสมในส่วนของราชการว่าควรจะเป็นเท่าไหร่

เมื่อถามว่า ควรจะต้องปรับเป็นจำนวน 25,000 บาท ตามนโยบายของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายปานปรีย์ กล่าวว่า ยังไม่ใช่ ต้องดูรายละเอียดอีกอย่าเพิ่งสรุปว่าจะเป็นเท่าไหร่

ผู้สื่อข่าวถามว่า ข้าราชการชั้นผู้น้อยที่บรรจุตั้งแต่ระดับ 3-7 ที่ไม่ใช่ระดับผู้บริหาร จะคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ใช่หรือไม่ นายปานปรีย์ กล่าวว่า การหารือยังไปไม่ถึงตรงนั้น ตอนนี้กำลังดูในส่วนของข้าราชการแรกเข้าก่อน เมื่อถามย้ำว่าการขึ้นจะเป็นการขึ้นทั้งระบบ ใช่หรือไม่ นายปานปรีย์ กล่าวว่า ขอให้รอฟังก่อน 

ผู้สื่อข่าวถามว่า จากการรับฟังข้อมูลครั้งนี้ โอกาสที่จะขึ้นเงินเดือน มีสูงหรือไม่ นายปานปรีย์ กล่าวว่า “เป็นไปตามนโยบาย” 

เมื่อถามย้ำว่า ถึงอย่างไรก็ต้องขึ้นใช่หรือไม่ นายปานปรีย์ กล่าวย้ำว่า “เป็นไปตามนโยบาย จะขึ้นมากหรือขึ้นน้อย ก็ค่อยว่ากัน”

‘ศุลกากรฯ ฮ่องกง’ ยึด ‘ยาบ้าล็อตใหญ่’ หนัก 1.1 ตัน ส่งตรงจากเม็กซิโก ถูกแปลงโฉมเป็น ‘เปลือกหอย’ ซุกซ่อนปะปนมากับเปลือกหอยของจริง

(10 พ.ย. 66) สำนักข่าวซินหัว, ฮ่องกง รายงานว่า เมื่อไม่นานนี้ ศุลกากรเขตบริหารพิเศษฮ่องกงทางตอนใต้ของจีน พบเหตุต้องสงสัยกรณีค้าเมทแอมเฟตามีน (Methamphetamine) หรือ ‘ยาบ้า’ จำนวนมากเป็นประวัติการณ์ และยึดของกลางดังกล่าวได้ราว 1.1 ตัน โดยยาบ้าเหล่านี้ถูกดัดแปลงให้เป็นรูปทรงของ ‘เปลือกหอย’ และบรรจุซุกซ่อนมากับเปลือกหอยจริง

ศุลกากรฯ ระบุผ่านถ้อยแถลงว่า คดีนี้เป็นคดีค้ายาบ้าชนิดแข็งที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่ศุลกากรฯ เคยตรวจพบ

หลังจากการประเมินความเสี่ยง เมื่อวันที่ 26 ต.ค. ศุลกากรฯ ได้ทำการตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์ทางทะเลตู้หนึ่ง ที่ระบุไว้ว่าบรรทุกอาหารทะเล 611 กระสอบ และถูกส่งจากเม็กซิโกมาถึงฮ่องกง

จากการตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์ดังกล่าว พบยาบ้าต้องสงสัยจำนวนหนึ่งซึ่งซุกซ่อนอยู่ โดยถูกอำพรางมาในรูปแบบของเปลือกหอย และปะปนอยู่กับเปลือกหอยของจริงภายในถุงไนลอนจำนวน 104 ใบ

ทั้งนี้ หลังทำการสืบสวน เจ้าหน้าที่ศุลกากรฯ ได้จับกุมชายวัย 60 ปี ซึ่งเป็นคนขับรถ และชายวัย 54 ปี ผู้ดูแลโกดังแห่งหนึ่ง จากนั้นได้จับกุมหญิงวัย 46 ปี ผู้ดูแลโกดังสินค้าของบริษัทโลจิสติกส์ และชายว่างงานวัย 27 ปีรายหนึ่ง โดยคดีนี้ยังคงอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน

อนึ่ง ศุลกากรฯ ตรวจพบกรณีที่เกี่ยวข้องกับยาบ้าจำนวนมากกว่า 1 ตันเป็นเวลา 2 ปีติดต่อกัน โดยเมื่อเดือนตุลาคม 2022 มีการยึดยาบ้าแบบเหลวได้ราว 1.8 ตัน จากการขนส่งทางทะเลที่ระบุว่าเป็นการบรรทุกสินค้าประเภทน้ำมะพร้าว

'อ.พงษ์ภาณุ' ชี้!! ไทยกำลังก้าวเข้าสู่ภาวะเงินฝืด ผลพวงความผิดพลาดเชิงนโยบายของแบงก์ชาติ

(10 พ.ย.66) อ.พงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ อดีตปลัดกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา อดีตรองปลัดกระทรวงการคลัง และผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์ระดับประเทศ ให้มุมมองต่อภาวะความเสี่ยงเงินฝืดกับประเทศไทย ไว้ว่า...

ขณะนี้สัญญาณเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ว่าประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ภาวะเงินฝืด (Deflation) ดังที่ผมมักจะพูดคุยในรายการ Easy Econ ซึ่งออกอากาศทางสถานีวิทยุ ส.ทร. FM93.0 MHz และสื่อออนไลน์ ในเครือ THE STATES TIMES ไว้เสมอ โดยได้เคยส่งสัญญาณเตือนไว้กว่า 6 เดือนมาแล้ว ว่า...

ไทยอาจจะตามจีนเข้าสู่ภาวะเงินฝืด โดยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนตุลาคม ที่กระทรวงพาณิชย์ประกาศออกมาที่ -0.31% น่าจะถือเป็นการตบหน้าธนาคารแห่งประเทศไทย ที่อ้างเงินเฟ้อสูงในการปรับดอกเบี้ยขึ้นจาก 2.25% เป็น 2.50% เมื่อเดือนที่แล้ว ท่ามกลางความตกใจและถือเป็นการกระทำที่สวนทางกับการคาดการณ์ของตลาด 

ดังนั้นเงินฝืดที่กำลังจะเกิดขึ้นในครั้งนี้ จึงมิใช่เป็นผลกระทบจากโลก แต่มีสาเหตุมาจากความผิดพลาดทางนโยบายเป็นหลัก และเป็นความผิดพลาดที่สร้างความเสียหายสูงมากกับเศรษฐกิจไทย ซึ่งควรจะต้องมีผู้รับผิดชอบและน่าจะยังความจำเป็นให้รัฐบาลต้องมี Fiscal Stimulus ออกมาแก้ไขความผิดพลาดของแบงก์ชาตินี้

ชาวเน็ต ห่วง!! หลังเด็ก 9 ขวบ สูบบุหรี่ไฟฟ้าอวดลงไอจี ลั่น!! ‘ฟันน้ำนมยังไม่หมดปากเลย’ จี้ พ่อ-แม่ ดูแลใกล้ชิด

เมื่อวานนี้ (9 พ.ย. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจ ‘Drama-addict’ โพสต์ข้อความระบุว่า

“เจอเด็กไทยอายุ 9 ขวบ เล่นไอจี สูบบุหรี่ไฟฟ้า โพสต์อวดลงไอจีรัวๆ แย่แล้วเด็กไทย”

หลังจากโพสต์ไปไม่นาน ก็มีเพจดังเพจหนึ่ง โพสต์คลิป เด็กผู้หญิงคนหนึ่ง อายุประมาณ 9 ปี กำลังสูบบุหรี่ไฟฟ้า พร้อมกับโพสต์ข้อความวิพากษ์วิจารณ์ ระบุว่า

“ฟันน้ำนมยังไม่หมดปากเลย พ่อแม่ไปไหน ไม่ใช่ลงคลิปเดียวด้วย ดูดบุหรี่ไฟฟ้าอัปคลิปลงไอจีไม่รู้กี่คลิปแล้ว”

หลังจากโพสต์ไปไม่นาน มีเข้ามาแสดงความคิดเห็น และเป็นห่วงเด็กหญิงคนนี้ และเด็กคนอื่นๆ ที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าด้วย เช่น

โทษครอบครัวอันดับแรกค่ะ พ่อแม่ต้องเป็นเพื่อนที่ใกล้ชิด เป็นครูที่ดี เป็นคนที่ลูกเข้าถึงได้ บอกสอน แนะนำในสิ่งดีงามให้เค้า

คนมีลูกเล็กคือวิตกจริงๆ นะ กับสภาพแวดล้อม กับสังคม แบบนี้

กัญชา บุหรี่ พนันออนไลน์ เข้าถึงทุกวัย น่าสงสารเด็กๆ ค่ะ

ผู้ปกครอง คือ แบบอย่างแรกของลูกๆ เราเชื่อแบบนั้น

เด็กหญิง- ป.5 พกบุหรี่ไฟฟ้า 3 อัน ผู้ปกครองรับรู้ว่าน้องดูด เรานี่ตกใจ เป็นห่วงสุขภาพของเด็กในอนาคต

อย่างไรก็ตามทาง กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ออกมาเตือนผู้ปกครองให้ดูแลบุตรหลาน และได้บอกถึงโทษของบุหรี่ไฟฟ้าว่า มีการศึกษาเกี่ยวกับผลกระทบจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้ามีผลต่อสมอง พบว่า การสูบบุหรี่ไฟฟ้าที่มีสารนิโคตินในปริมาณสูง สารเสพติดจะออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทและสมอง รวมทั้งส่งผลโดยตรงต่อพัฒนาการของสมองในเด็กและเยาวชน โดยเฉพาะในส่วนของสมองที่รับผิดชอบด้านความสนใจ การเรียนรู้ และความจำ ทำให้เกิดภาวะนอนไม่หลับ ความจำลดลง เรียนหนังสือไม่รู้เรื่อง รวมถึงเสี่ยงต่อการเกิดภาวะวิตกกังวล หงุดหงิด และมีความหุนหันพลันแล่น อารมณ์รุนแรงมากขึ้น

11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2411 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกครั้งแรก

วันนี้เมื่อ 155 ปี ก่อน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกครั้งแรก ขณะพระชนมายุเพียง 15 พรรษา

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นพระราชโอรสพระองค์ใหญ่ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 และสมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี ประสูติ เมื่อวันอังคารที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2396 ทรงพระนามตามจารึกในพระสุพรรณบัฏว่า สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ บดินทรเทพยมหามกุฎ บุรุษรัตนราชรวิวงศ์ วรุตมพงศ์บริพัตร ศิริวัฒนราชกุมาร 

ทรงได้รับการสถาปนาเป็นเจ้าฟ้าต่างกรม มีพระนามกรมว่า กรมหมื่นพิฆเณศวรสุรสังกาศ หลังจากทรงผนวชเป็นสามเณรทรงได้รับการเฉลิมพระนามาภิไธยขึ้นเป็นสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ฯ กรมขุนพินิตประชานาถ ทรงเป็นพระราชปิโยรสที่สมเด็จพระบรมชนกนาถโปรดให้เสด็จอยู่ใกล้ชิดติดพระองค์เสมอเพื่อให้มีโอกาสแนะนำสั่งสอนวิชาการต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิชารัฏฐาภิบาล ราชประเพณีและโบราณคดี นอกจากนั้นยังทรงศึกษาภาษามคธ ภาษาอังกฤษ การยิงปืนไฟ กระบี่กระบอง มวยปล้ำ รวมทั้งการบังคับช้างอีกด้วย

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงได้รับการกราบบังคมทูลเชิญขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์สืบต่อจากสมเด็จพระบรมราชชนกเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2411 ด้วยพระชนมายุเพียง 15 พรรษา ทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกครั้งแรกเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2411 โดยมีเจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ จนหลังจากพระราชพิธีบรมราชาภิเษกครั้งที่ 2 เมื่อพระชนมายุ 20 พรรษา ในวันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2416 จึงทรงปกครองแผ่นดินด้วยพระองค์เองอย่างสมบูรณ์ ทรงครองราชย์อยู่เป็นเวลายาวนานถึง 42 ปี และได้ทรงพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศทุกวิถีทาง

ในบั้นปลายพระชนมชีพ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงมีพระพลานามัยไม่สมบูรณ์นัก หลังจากเสด็จประพาสยุโรปครั้งที่ 2 แล้ว พระอาการก็ค่อยทรุดลงเป็นลำดับ และเสด็จสวรรคตด้วยพระโรคพระวักกะพิการเมื่อเวลา 2 ยาม 45 นาที ของวันเสาร์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2453 สิริพระชนมายุ 58 พรรษา ทรงครองสิริราชสมบัติ 42 ปี ทรงมีพระราชโอรส พระราชธิดารวมทั้งสิ้น 77 พระองค์ ด้วยทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อไพร่ฟ้าประชาชนอย่างหาที่สุดมิได้มาตลอดรัชกาลอันยาวนาน ประชาชนจึงพร้อมใจกันถวายพระบรมราชสมัญญานาม ว่า สมเด็จพระปิยมหาราช อันมีความหมายว่า พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นที่รักยิ่งของปวงชน และถือวันที่ 23 ตุลาคม เป็นวันปิยมหาราชมาจนตราบเท่าทุกวันนี้

‘ทีมแพทย์มะกัน’ เจ๋ง!! ผ่าตัดปลูกถ่ายตาทั้งดวงครั้งแรกของโลก ด้านผู้ป่วยฟื้นตัวดี รอลุ้นผลลัพธ์ ปลุกความหวังทางการแพทย์

(10 พ.ย. 66) สำนักข่าวเอเอฟพีและเอพีรายงานว่า ทีมแพทย์จากโรงพยาบาล ‘NYU Langone Health’ ในรัฐนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ทำการผ่าตัดปลูกถ่ายดวงตามนุษย์ทั้งดวงเป็นครั้งแรกของโลก ให้กับ ‘นายอารอน เจมส์’ คนไข้วัย 46 ปี โดยการผ่าตัดดังกล่าวถูกยกให้เป็นความก้าวหน้าทางการแพทย์ ถึงแม้ว่ายังไม่มีใครตอบได้ว่าเจมส์จะกลับมามองเห็นด้วยตาดวงใหม่ของเขาหรือไม่

เจมส์ ทำงานเป็นช่างสายส่งไฟฟ้าในรัฐอาร์คันซอและถูกกระแสไฟฟ้า 7,200 โวลต์ดูดเมื่อเดือนมิถุนายน 2021 อาการบาดเจ็บที่รุนแรงทำให้เจมส์ต้องสูญเสียดวงตาซ้าย แขนซ้ายตั้งแต่ช่วงศอกลงไป จมูก ริมฝีปาก ฟันหน้า แก้มซ้าย และคาง เขาต้องรอรับการบริจาคดวงตาอยู่นาน 3 เดือนก่อนที่จะเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายใบหน้าและดวงตาที่โรงพยาบาล NYU Langone Health เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา

ในปัจจุบันการปลูกถ่ายกระจกตาเป็นวิธีการรักษาทั่วไป ให้กับคนไข้ที่สูญเสียการมองเห็นบางประเภท แต่การปลูกถ่ายตาทั้งดวงซึ่งประกอบไปด้วยลูกตา หลอดเลือดของดวงตา และเส้นประสาทตาที่ต้องเชื่อมต่อกับสมองของคนไข้ ยังคงถือเป็นเรื่องที่ยากมากในทางการแพทย์ ถึงแม้นักวิจัยจะเคยประสบความสำเร็จในการปลูกถ่ายดวงตาทั้งดวงให้กับสัตว์มาบ้างในอดีต จนทำให้การมองเห็นของสัตว์กลับมาบ้างบางส่วน แต่ยังไม่เคยมีการปลูกถ่ายดวงตาทั้งดวงในมนุษย์มาก่อน

คณะแพทย์ของโรงพยาบาลให้ข้อมูลเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน ว่าจนถึงตอนนี้เจมส์กำลังฟื้นตัวดีจากการผ่าตัดและตาดวงใหม่ของเขาที่ได้จากการบริจาคก็ดูปกติดีเช่นกัน และสามารถส่งสัญญาณไฟฟ้าออกมา ถึงแม้เจมส์จะยังไม่สามารถมองเห็นด้วยตาดวงใหม่ของเขาก็ตาม “มันรู้สึกดีนะ ผมยังไม่สามารถขยับตาของผมได้ ผมยังกะพริบตาไม่ได้ แต่ผมเริ่มรู้สึกอะไรบางอย่างที่ตาแล้ว” เจมส์กล่าว

นายเอดูอาร์โด โรดริเกซ หัวหน้าทีมแพทย์ที่ทำการผ่าตัด ซึ่งก่อนหน้านี้เคยทำการปลูกถ่ายใบหน้าให้กับคนไข้มาแล้ว 4 ครั้ง กล่าวให้ความรู้สึกว่าการผ่าตัดปลูกถ่ายตาทั้งดวงเป็นเรื่องที่ไม่เคยมีการทำมาก่อน ทีมแพทย์สามารถลดระยะเวลาในการผ่าตัดจาก 36 ชั่วโมง เมื่อครั้งแรกที่เขาเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายใบหน้าในปี 2012 จนเหลือเพียง 21 ชั่วโมงในการผ่าตัดครั้งนี้

“เราไม่ได้บอกว่าเราจะฟื้นฟูการมองเห็น แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเราเข้าใกล้เข้าไปอีกขั้นแล้ว” โรดริเกซ กล่าว พร้อมกับบอกอีกว่าการผ่าตัดปลูกถ่ายใบหน้าไม่ใช่การทดลองอีกต่อไป และควรถูกมองว่าเป็นขั้นตอนการรักษาทั่วไป สำหรับอาการบาดเจ็บรุนแรงบริเวณใบหน้า


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top