Friday, 9 May 2025
TheStatesTimes

รอง ผบ.ตร.ตรวจเยี่ยม สภ.เมืองนนทบุรี เน้นย้ำมาตรการป้องกันปราบปรามตามนโยบายรัฐบาล พร้อมมอบรางวัลตามนโยบาย ผบ.ตร. “ดีเด่น ต่อเนื่อง” แก่ 2 นายตำรวจ จับกุมคนร้ายและตรวจยึดอาวุธปืนป้องกันไม่ให้การก่อเหตุในพื้นที่

วันนี้ (3 พ.ย.66) เวลา 12.30 น.  พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร.(ปป) ได้เดินทางไปยัง สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อตรวจเยี่ยมอย่างไม่เป็นทางการ โดยมี พ.ต.อ.ปรารถนา แผ่นผา รรท.ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พร้อม รอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี , พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี ให้การต้อนรับ  

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ได้ถ่ายทอดนโยบายที่สำคัญของรัฐบาลในงานป้องกันปราบปราม เกี่ยวกับการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ การยกระดับการดูแลนักท่องเที่ยว การแก้ปัญหายาเสพติด และการดูแลสถานบริการและอบายมุขในพื้นที่

นอกจากนี้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ได้มอบรางวัลเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับ ด.ต.พิเชษฐ จำปาทอง และ ส.ต.ต.นัธทวัฒน์ เกตุแก้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองนนทบุรี จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 28 ต.ค.66 เวลาประมาณ 03.40 น. ได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ จนนำไปสู่การจับกุมคนร้ายและตรวจยึดอาวุธปืนได้ ป้องกันไม่ให้มีการก่อเหตุในพื้นที่ได้ต่อไป ซึ่ง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ได้กล่าวชื่นชมในความตั้งใจในการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจทั้ง 2 นาย โดยการมอบรางวัลครั้งนี้เป็นไปตามแนวความคิดของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ที่ต้องการให้ความสำคัญกับผู้ปฏิบัติงานที่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ ตามนโยบาย “ดีเด่น ต่อเนื่อง” ต่อไป

‘พีระพันธุ์’ ยัน!! เร่งปรับปรุงกฎหมาย-โครงสร้างราคาน้ำมัน ชี้!! ต้องคุมให้ราคาน้ำมันนิ่ง-ไม่หวั่นต่อปัจจัยนอกประเทศ

(3 พ.ย. 66) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ให้สัมภาษณ์ถึง การใช้เงินกองทุนน้ำมันมาสนับสนุนภาษีสรรพสามิต แก๊สโซฮอล์ลง 2.50 บาทต่อลิตร ว่า ไม่มีผลกระทบ ถ้ามีผลกระทบคงทำไม่ได้ แต่ถ้าสถานการณ์โลกทำให้ราคาน้ำมันปรับขึ้น ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งตนเคยพูดไปแล้วว่ามาตรการต่าง ๆ เหล่านี้ เป็นมาตรการระยะสั้น ตนคิดว่า ต้องศึกษาปรับโครงสร้างแบบใหม่ ไม่เช่นนั้นจะเกิดปัญหาว่าเวลาราคาน้ำมันโลกลดลง หรือเกิดสถานการณ์ต่าง ๆ เราต้องเต้นตามกระแส เราควรหาทางทำให้ราคาพลังงานในประเทศนิ่งให้ได้ และทำให้ได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกลดลง ฉะนั้นการจะทำตรงนี้ได้ ต้องปรับปรุงกฎหมาย และรูปแบบการทำงาน หรือการกำหนดวิธีการดูแลระดับราคาพลังงานให้เป็นรูปแบบใหม่ ไม่ใช่แบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

รมว.พลังงงาน กล่าวถึงการสู้รบในประเทศอิสราเอลว่า ถ้ามีปัญหาแบบนี้ก็กระทบทั่วโลกอยู่แล้ว แต่คิดว่าทุกประเทศก็ต้องคิดเหมือนกันว่าเมื่อเจอปัญหาแบบนี้ จะดูแลและป้องกันคนของตัวเองอย่างไร ซึ่งประเทศไทยก็หนีไม่พ้น เราต้องมานั่งคิดว่าควรทำอย่างไร เมื่อเกิดเหตุต่าง ๆ เพื่อกำกับดูแลราคาพลังงานให้อยู่ในหลักที่ประชาชนไม่เดือดร้อน ไม่ใช่ปล่อยนิ่งให้อยู่แบบที่เป็นมา ไม่เช่นนั้นเราจะเจอผลกระทบอีกแบบหนึ่ง

“ขณะนี้ผมกำลังศึกษารูปแบบต่าง ๆ เพื่อจะเร่งดำเนินการปรับปรุงอยู่ ส่วนจะเป็นแนวทางใดยังพูดไม่ได้ ยังไม่สรุปว่า จะเป็นแบบไหน หากพูดไปก่อนอาจทำให้ข้อมูลสับสน เอาเป็นว่าตอนนี้กำลังหาวิธีการใหม่ในการรักษาระดับราคาพลังงาน ไม่ให้กระทบปัจจัยภายนอก” รมว.พลังงานกล่าว

'อนุทิน' ยัน 'ภท.' หนุนเต็มที่ดิจิทัลวอลเล็ต ชี้!! ผ่านขั้นครม. มาแล้ว ต้องสนับสนุน

(3 พ.ย. 66) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์กรณีนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตถูกโจมตี ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลจะสนับสนุนโครงการดังกล่าวหรือไม่ ว่า พรรคร่วมรัฐบาลต้องปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาล ไม่อย่างนั้นจะเป็นพรรคร่วมได้อย่างไร 

อย่างกรณีนี้ถือเป็นนโยบายของพรรคแกนนำ ที่ต้องมีการหารือถึงนโยบาย งบประมาณ และวิธีการ กว่าจะมาถึงคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต้องผ่านกระบวนการทั้งหลายมาแล้ว เรามีหน้าที่ต้องให้การสนับสนุน

‘ซิซเลอร์’ เผย!! เทรนด์ทานที่ร้านกลับมาฮิต พร้อมขยายสาขาใน ‘ห้าง-หัวเมือง’ เพิ่ม ส่ง ‘3 เมนูสเต๊ก’ ไฮไลต์ ชิงดีมานด์ปลายปี มั่นใจ!! โตตามเป้าก่อนปี 67

(3 พ.ย. 66) นายอนิรุทร์ เดวิด คอลลินส์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอสแอลอาร์ที จำกัด (ซิซซ์เล่อร์) ภายใต้ บริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันลูกค้ากว่า 90% ของฐานสมาชิกกว่า 4 แสนคน เข้ามาใช้บริการในรูปแบบไดน์อิน (Dine-in)

ปรากฏการณ์นี้ส่งผลให้ประสบการณ์ในทั้งการออกแบบและตกแต่งบรรยากาศร้าน รวมถึงเมนูอาหารมีความสำคัญมากขึ้น

ดังนั้นช่วงไฮซีซันไตรมาส 4 นี้จะใช้ กลยุทธ์ 'Festive Marketing' เชื่อมโยงเทศกาลเข้ากับเมนูอาหารและกิจกรรมส่งเสริมการตลาดหลากหลาย เพื่อดึงดูดผู้บริโภคที่ชื่นชอบการทานอาหารนอกบ้าน

มีไฮไลต์เป็น 3 เมนูสเต๊ก Festive Season ทั้งสำหรับการทานคนเดียวและเป็นกลุ่มประกอบด้วย สเต๊กปลากะพง และเบคอน (Bacon-Wrapped Sea Bass Steak), สเต๊กบีฟลอยน์ และเบคอน (Bacon-Wrapped Beef Loin Steak), สเต๊กเนื้อไพร์มริบ (สำหรับ 2 ท่าน) (Grilled Sous Vide Beef Prime Rib Cote De Boeuf)

เชื่อว่าจะช่วยผลักดันให้ผลการดำเนินธุรกิจในปีนี้คาดว่าจะเติบโตตามเป้าหมายได้อย่างแน่นอน

ผู้บริหารซิซซ์เล่อร์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับทิศทางธุรกิจในปี 2567 จะขยายสาขาให้ครอบคลุมพื้นที่ห้างสรรพสินค้าและหัวเมืองสำคัญทั่วประเทศมากยิ่งขึ้น ควบคู่กับเมนูสเต๊กและสลัดบาร์ใหม่ ๆ

รวมถึงจัดกิจกรรมลอยัลตี้ โปรแกรมมอบสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าสมาชิกทุกระดับต่อเนื่อง ตามแผนเน้นสร้างประสบการณ์เอกซ์คลูซีฟ

ศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร คว้านักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ ปี 2567 สาขารัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ ผ่านงานวิจัยที่ตอบโจทย์ทางสังคมและการเมืองการปกครอง

(3 พ.ย. 66) ศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร ภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ได้รับการประกาศเกียรติคุณจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ให้ได้รับรางวัลนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2567 สาขารัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์

ศ.ดร.ไชยันต์ กล่าวถึงจุดเริ่มต้นที่สนใจทำงานวิจัยว่า ตนเป็นคนชอบคิดชอบเขียนอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นงานวิชาการ กึ่งวิชาการ หรืองานที่ไม่เป็นวิชาการ ความสำเร็จในการทำงานวิจัยจึงเกิดจากความชอบ และความขยันหมั่นเพียร

สำหรับรางวัลนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ จะพิจารณาจากงานวิจัยในภาพรวมตั้งแต่งานชิ้นแรกจนถึงล่าสุด  ส่วนผลงานที่คัดสรรมาเป็นพิเศษจากงานวิจัยทั้งหมด ได้แก่

-Postmodern: ชะตากรรมโพสต์โมเดิร์นในอุ้งมือนักปรัชญาการเมืองโบราณ. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์ Openbooks, 2550.

-ข้อวิพากษ์ทฤษฎีการเมืองกระแสหลักของ คลิฟฟอร์ด เกียทซ์. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์ Openbooks, 2551.

-นิธิ เอียวศรีวงศ์ใน/กับวิกฤตการเมืองไทย. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์คบไฟ, 2557. ได้รับรางวัลวิจัย ระดับดี สาขารัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ ประจำปี 2555 สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ

-จอน เอลสเตอร์กับทฤษฎีการเลือกอย่างเป็นเหตุเป็นผล. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์ Way of Book, 2557

-ประเพณีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข: บทวิเคราะห์มาตรา 7 จากรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2540 ถึงรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน (จากมุมมองทางรัฐศาสตร์). กรุงเทพฯ: สถาบันพระปกเกล้า, 2560. ได้รับรางวัลงานวิจัย ระดับดี สาขารัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ ประจำปี 2560 สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ

-ปิยกษัตริย์: เส้นทางสู่ระบอบกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญเดนมาร์ก, 1849. กรุงเทพฯ:  สำนักพิมพ์คบไฟ, 2561

แนวทางการทำงานวิจัยสาขารัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ของ ศ.ดร.ไชยันต์ เป็นการพัฒนาและถ่ายทอดองค์ความรู้เกี่ยวกับแนวทางและระเบียบวิธีวิจัยที่เป็นแบบอย่างของการศึกษาตีความตัวบทเชิงวิพากษ์ แนวทางการศึกษาบริบททางความคิด ซึ่งจะสามารถสร้างการรับรู้ทางทฤษฎีจากมุมมองที่เปิดกว้าง หลากหลาย ไม่ยึดติดกับ ‘กรอบ’ หรือ ‘วิธีวิจัย’ แบบใดแบบหนึ่งในการวิเคราะห์และตีความข้อมูล ซึ่งข้อเท็จจริงจากกรอบหรือ ‘อคติ’ ทางวิชาการ จะเป็นประโยชน์ในการค้นคว้าวิจัยเพื่อตอบโจทย์ให้กับปัญหาทางสังคมและการเมืองการปกครองไทยอย่างแท้จริง

ผลงานวิจัยเรื่อง “ผลจากการศึกษาหลักว่าด้วยสัมพันธภาพทางอำนาจสำหรับจัดการปกครองและหลักนิติรัฐ-นิติธรรม โดยเฉพาะต่อกรณีปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง อันเนื่องมาจากประเด็นเรื่องรูปแบบการปกครองในระบอบประชาธิปไตยและสถาบันพระมหากษัตริย์” เป็นงานวิจัยที่สะท้อนถึงลักษณะเฉพาะของการปกครองแบบ Constitutional Monarchy ที่มีพัฒนาการแตกต่างกันตามเงื่อนไขเฉพาะของแต่ละสังคม ซึ่งทำให้เกิดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องต่อบทบาทและความสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์ในฐานะที่เป็นสถาบันหลักของสังคมไทยบนหลักการและเหตุผลอย่างแท้จริง เป็นการลดความขัดแย้งของคนในสังคมที่มีสาเหตุมาจากการขาดความเข้าใจหรือไม่ตระหนักถึงความสำคัญของการมีอยู่ของสถาบันพระมหากษัตริย์

สำหรับประโยชน์ของงานวิจัยในทางสังคม ศ.ดร.ไชยันต์ กล่าวว่าการพัฒนาและถ่ายทอดองค์ความรู้ทางปรัชญาการเมืองจะทำให้คนและสังคมมีเครื่องมือสำหรับวิเคราะห์และทำความรู้จักตัวตนของตนเอง ที่สำคัญยังเป็นพื้นฐานสำคัญในการทำให้เกิดกระบวนการคิดและเรียนรู้เชิงวิพากษ์และค้นหาประเด็นที่มีความสำคัญในการดำเนินชีวิตอันเกี่ยวข้องกับความรู้ ความดี ความยุติธรรม รูปแบบการเมืองการปกครอง ฯลฯ ซึ่งจะเป็นการติดอาวุธทางปัญญาให้กับสังคมได้มีสติไตร่ตรองเรื่องราวต่างๆ อย่างเท่าทันและรอบคอบ

ศ.ดร.ไชยันต์ ได้วางแผนการทำงานวิจัยในอนาคตว่า จะศึกษาวิจัยพัฒนาการของระบอบพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญของประเทศต่างๆ เพื่อนำมาเปรียบเทียบกับพัฒนาการระบอบพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญของไทย ศึกษาการเมืองไทยในประวัติศาสตร์จากเอกสารหลักฐานชั้นต้น และศึกษาในมิติที่ยังไม่เคยมีใครทำวิจัยมาก่อน

สุดท้าย ศ.ดร.ไชยันต์ ได้ฝากข้อคิดสำหรับนักวิจัยรุ่นใหม่ในการทำงานวิจัยให้ประสบความสำเร็จว่า “ต้องมีใจรัก มีอุตสาหะ ขยัน มีวินัย ซื่อสัตย์และไม่ย่อท้อ”

‘การบินไทย’ ช่วยชีวิตผู้โดยสารหญิงวัย 99 ปี หลังหมดสติในห้องน้ำ ชาวเน็ตแห่ชม!! ‘แพทย์-ลูกเรือ’ รับมือสถานการณ์ฉุกเฉินได้ดีเยี่ยม

เมื่อวันที่ 2 พ.ย. 66 ผู้ใช้งานติ๊กต็อก ชื่อ nakokatt หรือ ‘ครูคัท คัทลียา’ คุณครูผู้ฝึกสอนแอร์โฮสเตส และเป็นแอร์โฮสเตสของ ‘การบินไทย’ ได้โพสต์คลิปวิดีโอแชร์ประสบการณ์การกู้ชีพฉุกเฉินบนเครื่องบิน และบอกเล่าเรื่องราวอันน่าประทับใจที่เกิดขึ้นบนเครื่องบินโบอิ้ง TG 624 ของ ‘การบินไทย’ เส้นทางบินจากกรุงเทพฯ ไปยังกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 28 ต.ค. 66 โดยระบุว่า…

“เหตุการณ์ทั้งหมด ได้เกิดขึ้นก่อนที่เครื่องบินจะทำการลงจอดประมาณ 1 ชั่วโมง มีผู้โดยสารชายท่านหนึ่ง แจ้งกับลูกเรือว่า คุณแม่วัย 99 ปีของเธอ หมดสติอยู่ในห้องน้ำ หลังจากได้รับข้อมูลจากลูกชายแล้ว ลูกเรือของโบอิ้ง TG 624 จึงได้ทำการช่วยเหลือคุณยายผู้โดยสารที่หมดสติ และทำการตรวจสัญญาณชีพ จากนั้นจึงนำอุปกรณ์ถังออกซิเจนออกมา เพื่อทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นโดยทันที

ขณะเดียวกัน หัวหน้าลูกเรือได้มีประกาศหาแพทย์จากกลุ่มผู้โดยสารบนเครื่องบิน โดยในเที่ยวบินนั้นมีผู้โดยสารที่เป็นแพทย์หลายท่านแสดงตัว และรีบเข้าช่วยเหลือผู้ป่วยทันที โดยแอร์โฮสเตสอีกคนหนึ่งที่เคยเป็นพยาบาล ทำหน้าที่เป็นลูกมือในการช่วยเหลือแพทย์อย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้ ยังมีผู้ฝึกงานด้านบริการการแพทย์การบินและอวกาศ (Air Force Combat Medic) คอยช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้ทุกฝ่ายอีกแรงด้วย

จนกระทั่งในที่สุด อาการของคุณยายก็กลับมาเป็นปกติ และยิ้มได้อีกครั้งหนึ่ง ในตอนที่เครื่องบินกําลังทำการลดระดับเพื่อเตรียมลงจอดพอดี”

ครูคัท ยังเล่าเรื่องราวที่น่าประทับใจไว้อีกด้วยว่า “หลังสถานการณ์กลับสู่สภาวะปกติ Combat Medic ก็ได้ลุกขึ้นยืน เพื่อแจ้งให้ผู้โดยสารทราบว่า เมื่อสักครู่นี้ได้เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น และที่สําคัญคือ Combat Medic ได้กล่าวชื่นชมความเป็นมืออาชีพของลูกเรือการบินไทย ในการตอบสนองและรับมือต่อสถานการณ์ฉุกเฉินได้เป็นอย่างดี”

“ถ้ารอยยิ้มของผู้โดยสาร คือรางวัลสําหรับลูกเรือ รอยยิ้มของคุณยายและญาติๆ ก็คือรางวัลพิเศษสําหรับลูกเรือในเที่ยวบินนี้ รวมถึงลูกเรือการบินไทยทุกๆ คน และนี่คืออีกหนึ่งความภูมิใจของพวกเราชาวการบินไทยค่ะ” ครูคัท กล่าวทิ้งท้าย

มีดีต้องกล้าโชว์!! ‘อนุทิน’ ชม สินค้าไทยคือของดีน่าอวด แนะ รัฐบาลเร่งหาตลาดส่งออกเพิ่ม ปั้นสินค้าไทย สู่ Soft Power ระดับโลก

เมื่อไม่นานนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวชื่นชมสินค้าไทย โดยฝีมือของคนไทย มั่นใจว่าไม่แพ้ใครในโลก

“อย่าง OTOP สำหรับผม ผมว่าหลายอย่างงดงามระดับโลกเลยนะ ผ้าไทย ผมใส่โชว์เลย ก็มันสวย แล้วผมก็เป็นคนที่ภาคภูมิใจในการใช้ของไทยอยู่แล้ว ถ้าเรากล้าอวดซะอย่าง ของที่เราอวดมันก็มีคุณค่าขึ้นมาแล้ว ใครอยากจะปั้น Soft Power ไทย ต้องกล้าทำ กล้าโชว์ก่อน ถ้ามานั่งกล้าๆ กลัวๆ หรือที่แย่กว่าคือการด้อยค่ากันเอง แบบนั้นไปไม่รอด ถ้วยกาแฟใบโปรดของผมก็ซื้อจากงาน OTOP สวยงามมาก ผมยังโพสต์อวดอยู่เลย” นายอนุทินกล่าว

'โฆษกรวมไทยสร้างชาติ' วอน!! ต่อไปหากเลือก สส.ต้องดูภูมิหลังดีๆ อย่าดูที่พรรคอย่างเดียว รับ!! สส.คุกคามทางเพศกระทบภาพรวม

(3 พ.ย.66) นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงพฤติกรรมของสส.พรรคก้าวไกล คุกคามทางเพศว่า ตนไม่อยากไปก้าวล่วงถึงการจัดการภายในพรรคก้าวไกล กรณีที่จะดำเนินการกับสส.ที่คุกคามทางเพศอย่างไร เพราะแต่ละพรรคมีวิธีการบริหารจัดการแตกต่างกันไป แต่จากเหตุการณ์ครั้งนี้ จะเป็นเครื่องบ่งชี้ในอนาคต เพื่อให้ประชาชนต้องตระหนักถึงการเลือกผู้แทนเข้ามาทำหน้าที่เป็นสส.ในสภาฯ ไม่ใช่เลือกจากพรรคการเมืองเพียงอย่างเดียว แต่ต้องดูคุณสมบัติ และผลงานของแต่ละบุคคลที่ลงสมัครด้วย

นายอัครเดช กล่าวว่า ในอนาคตตนอยากให้ประชาชนได้พิจารณาคุณสมบัติของผู้ที่อาสามาเป็นตัวแทนของประชาชนด้วย ว่ามีภูมิหลังอย่างไร ทั้งวุฒิการศึกษา ประวัติในการทำงาน ความรู้ความสามารถ ประวัติการมีคดีและพฤติกรรมส่วนตัวมีความด่างพร้อยหรือไม่ 

นายอัครเดช กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาประชาชน อาจจะเลือกสส.จากพรรคการเมืองที่สังกัด โดยไม่ได้ดูคุณสมบัติส่วนตัวของคนที่แต่ละพรรคเสนอให้เลือก  ดังนั้นเหตุการณ์ในครั้งนี้จะเป็นอุทาหรณ์ว่าการเลือกตั้งครั้งหน้า จะต้องพิจารณา โดยดูหลายองค์ประกอบ มาเป็นส่วนในการตัดสินใจ ไม่ใช่ดูจากพรรคที่สังกัดอย่างเดียว

“พรรคการเมืองต้องให้เกียรติประชาชน ควรส่งคนที่มีคุณสมบัติพร้อมให้ประชาชนเลือกด้วย ไม่ใช่ส่งคนที่ไม่เคยผ่านการทำงานเพื่อส่วนรวมมาเลย หรือมีพฤติกรรมที่สุ่มเสี่ยงการทำผิดกฎหมายแล้วมาให้พี่น้องประชาชนเลือก เหมือนที่เคยมีบางพรรคการเมืองกล่าวไว้ ส่งเสาไฟฟ้าลงก็ได้รับเลือกตั้ง เหตุการณ์ สส.คุกคามทางเพศที่เกิดขึ้นในครั้งนี้อยากให้พี่น้องประชาชนใช้เป็นอุทาหรณ์ในการเลือกสส.ครั้งต่อไป ต้องดูภูมิหลัง และประวัติของคนที่แต่ละพรรคส่งมาให้เลือกด้วย” นายอัครเดชกล่าว

โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวยอมรับว่า เหตุการณ์สส.คุกคามทางเพศในครั้งนี้หลีกเลี่ยงผลกระทบที่มีต่อนักการเมืองโดยรวมไม่ได้ แต่ตนอยากให้ประชาชนได้เข้าใจว่า พฤติกรรมนี้เป็นพฤติกรรมส่วนบุคคล ทุกวงการมีทั้งคนดีและคนไม่ดี แต่ถ้าใครเป็นคนไม่ดี อยากให้ประชาชนได้จดจำ เพื่อเป็นบทเรียนในการเลือกตั้งครั้งหน้า ถ้าพรรคไหนส่งคนที่มีประวัติไม่ดีมาก็อย่าไปเลือก แต่ละพรรคต้องกรองมาก่อน ประชาชนก็ต้องกรองอีกชั้นหนึ่ง เพื่อให้ได้นักการเมืองที่มีคุณภาพมาเป็นตัวแทนของประชาชนอย่างแท้จริง เพราะสส.มีความสำคัญเข้าไปใช้อำนาจทางนิติบัญญัติและบริหาร ถ้าเลือกคนไม่ดีเข้ามาก็จะได้ผู้แทนราษฎรและรัฐบาลที่ไม่ดีเข้ามาด้วย ส่งผลกระทบต่อประชาชนโดยตรง

มติพรรคขับ ‘2 สส.ก้าวไกล’ 2 มาตรฐาน การเมืองคอนเนกชัน ที่ดูท่าจะมีอยู่จริง

ต้องยอมรับว่าปมร้อนที่กำลังส่งผลกระทบต่อพรรคก้าวไกลอย่างหนัก อย่างรณี การล่วงละเมิดทางเพศ หรือ บ้างจะเรียกว่าคุกคามทางเพศ ดูจะเป็นไฟที่ยากจะมอดลงได้ยาก แม้ที่ประชุมพรรคก้าวไกล จะมีมติลงโทษ สส.ทั้ง 2 คน โดย มติ 120 เสียง ให้ ‘สส.แจ้’ วุฒิพงศ์ สส.ปราจีนบุรี ออกจากพรรคก้าวไกล แต่กลับกัน ‘สส.ปูอัด’ ไชยามพวาน มั่นเพียรจิต สส.กทม. กลับมีสมาชิก 106 เสียงที่มีมติเห็นควรให้ขับออก ซึ่งเท่ากับว่าเสียงไม่ถึง 3 ใน 4 หรือ 116 เสียง จึงทำให้ ไม่สามารถขับ ‘ปูอัด’ ออกจากพรรคได้ 

กระแส 2 มาตรฐานในสังคม รวมถึงภายในพรรคก้าวไกล จึงเกิดเป็นไฟลามทุ่งให้นักวิชาการ รวมถึงประชาชนให้ความสนใจต่อมาตรฐานดังกล่าวนี้

แน่นอนว่า เมื่อวาน ปฏิกิริยาจาก ‘สส.แจ้’ หลังที่ประชุมมีมติขับออกจากพรรค ซึ่งเจ้าตัวก็ยอมรับต่อมติขับออกจากพรรค แต่ดูเหมือนจะมีถ้อยคำให้สังคมต้องเก็บไปคิดอย่าง ‘ไม่มีเพื่อนทางการเมือง’ จึงทำให้เสียงหายไปและถูกขับออกจากพรรคในที่สุด โดยระบุว่า...

“ผมเป็น สส.ภูธรทำงานในพื้นที่หนัก และทำงานในเชิงมลพิษ และค้านเรื่องเหมือง มีเพื่อนทางสิ่งแวดล้อมเยอะ ไม่มีเพื่อนในทางการเมือง ทำให้เสียงหายไป และเรื่องนี้เป็นเรื่องการเมือง”

ถึงตอนนี้ ก็ดูเหมือนชะตากรรมของ ‘สส.แจ้’ ก็ไม่รู้ว่าจะลงเอยเช่นไรต่อไป เพราะเจ้าตัวก็ยอมรับว่า การไม่มีคอนเนกชันเรื่องพรรคการเมืองเลยนั้น ทำให้ยังคิดไม่ออกว่าจะไปพรรคไหนหรือไปต่อในเส้นทางการเมืองอย่างไรต่อไป

สถานการณ์นี้ต่างกับ ‘สส.ปูอัด’ ที่ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 3 พ.ย.66 เจ้าตัวนอกจากจะยังไม่ถูกขับออกจากพรรคแล้ว ยังออกมาแถลงโต้ถึงหลักฐานที่สะท้อนให้เห็นว่าพฤติการณ์ที่ถูกโจมตี ไม่เข้าข่าย ‘ละเมิด-คุกคาม’ ทางเพศ พร้อมทั้งยังไม่มีการประกาศลาออกจากพรรคแต่อย่างใด ตามกระแสของกลุ่มคนในพรรคก้าวไกลที่แห่กันออกมากดดัน

ว่ากันว่า ‘ปูอัด’ ถูกตั้งคำถามว่า มี ‘แบ็กดี’ โดยเฉพาะกับปูมหลังที่มีการร่วมทำงานด้วยกันมานานในกลุ่ม Resolution รณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน รวมถึงเคยอยู่กลุ่มนิวเดม ตั้งแต่สมัยพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่ กับ ‘ไอติม’ พริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคก้าวไกล ส่งผลให้ผลการลงมติที่ยังทำให้ ‘ปูอัด’ รอดจากการถูกขับออกจากพรรคหรือไม่? ซึ่ง ‘ไอติม’ เองก็ถูกตั้งคำถามด้วยเช่นกันว่า ‘เพราะเป็นพวกพ้องของไอติม จึงรอดพ้นการถูกอัปเปหิออกจากพรรคหรือเปล่า’ 

แน่นอนว่า แม้ ‘ไอติม’ จะออกมาบอกว่า ตนเองไม่ได้ปกป้องปูอัด แถมยังประกาศกร้าวว่าตนเองก็เป็นหนึ่งในผู้ที่โหวตขับ ‘ปูอัด’ ให้พ้นพรรค พร้อมทั้งโพสต์จุดยืนและการทำงานของตน ว่ายืนอยู่บนหลักการที่ถูกต้องและข้อเท็จจริงเท่านั้นในทุกกรณี ไม่ว่าจะเกี่ยวข้องกับคนที่รู้จัก หรือเคยร่วมงานกันมามากน้อยแค่ไหนก็ตาม

แต่อย่างไรเสีย จากเหตุการณ์ดังกล่าว ก็อดคิดไม่ได้ที่จะต้องกลับมาทบทวนคำพูดของอดีต สส.ก้าวไกล ที่ลี้ภัยไปก่อนหน้าหลายๆ คน รวมถึงอดีตคนอนาคตใหม่บางคนด้วยว่า … พรรคที่มักชูเรื่องความเทียมทางสังคมพรรคนี้ ท่าจะมี ‘มุ้ง’ หรือ ‘ก๊ก’ จริงๆ เสียแล้ว… 

ผลสำรวจ เผย!! ‘ไทย’ ติดอันดับ 4 ประเทศที่ ‘นอกใจ’ สูงที่สุด นิยม 'ความรักออนไลน์' ผ่านแอปหาคู่ แสวงหาความตื่นเต้นเร้าใจ

จากการจัดอันดับ “อัตราการนอกใจ” ประจำปี 2023/2566 ของ World Population Review ระบุว่า “ประเทศไทย” ติดอันดับ Top10 ประเทศที่มีอัตราการนอกใจสูงที่สุดในโลก!

นอกจากนี้ ในยุคปัจจุบันผู้คนส่วนมากให้ความนิยมในการหารักออนไลน์ผ่านแอพพ์หาคู่เดตหรือเว็บไซต์หาคู่ที่มีกลาดเกลื่อน โดยผลสำรวจจาก iResearch ระบุว่า ในประเทศไทย มีผู้ใช้งานแอปพลิเคชันหาคู่ต่างๆ รวมกันไม่ต่ำกว่าเดือนละ 10,000,000 คน ซึ่งจะมีความเกี่ยวข้องกันกับอัตราการนอกใจและการหย่าในไทยที่สูงขึ้นหรือไม่ บริษัทจัดหาคู่ ระดับไฮเอนด์ Bangkok Matching ได้วิเคราะห์สถานการณ์ไว้ดังนี้

ผลจัดอันดับ 10 อันดับประเทศทั่วโลกที่พบอัตรานอกใจสูงสุด ไทยติดอันดับที่ 4

อันดับประเทศที่มีการนอกใจสูงสุด คือ 1.สหรัฐอเมริกา 71% 2.เยอรมนี 68% 3.สหราชอาณาจักร 66% 4.ไทย 61% 5.บราซิล 57% 6.ฝรั่งเศส 57% 7.รัสเซีย 53%  8.ญี่ปุ่น 49% 9.โรมาเนีย 46% 10.ออสเตรเลีย 44%

โดยในปีนี้ 2566 ไทยครองอันดับที่ 4 มีอัตราสูงถึง 61% พร้อมขยายความไว้ว่า คนไทยมักจะนอกใจไปกับ “คนแปลกหน้า” ซึ่งทางแม่สื่อบริษัทจัดหาคู่ Bangkok Matching ขอให้คำจำกัดความคนแปลกหน้านี้ให้เข้าใจง่ายขึ้น ซึ่งก็คือการนอกใจในรูปแบบความสัมพันธ์ประเภท One Night Stand ที่เน้นถูกใจฉาบฉวยเพียงข้ามคืนโดยไม่ต้องสนใจทำความรู้จักกันก่อนนั่นเอง และสำหรับคู่รักที่แต่งงานกันไปแล้วก็หนีไม่พ้นการนอกใจด้วยเช่นกัน เพราะผลสำรวจยังพบว่าคนไทยส่วนมาก เคยนอกใจอย่างน้อยหนึ่งครั้ง แม้จะอยู่ในฐานะแต่งงานแล้วก็ตาม เชื่อมโยงกับสถิติการหย่าในไทยที่พุ่งสูงขึ้นกว่าเก่าเกือบ 1.4 แสนคู่

สำหรับ 5 สาเหตุ ต้นตออาการนอกใจ ที่มักพบได้เป็นสาเหตุหลักๆ ในคนที่มีคู่ หรือกระทั่งแต่งงานแล้ว ได้แก่

1.ขาดความใกล้ชิดทางอารมณ์ เมื่อคู่รักขาดความลึกซึ้งทางอารมณ์ ทำให้พยายามแสวงหาความลึกซึ้งทางอารมณ์จากที่อื่นมาทดแทนเพื่อตอบสนองความต้องการของตัวเอง

2.รสนิยมทางเพศไม่ตอบโจทย์ ความรักมาพร้อมกับความแนบชิดทางกาย หรือความพึงพอใจทางเพศ รสนิยมทางเพศที่สอดรับกัน ทำให้บางคนใช้เหตุผลนี้เป็นข้ออ้างในการหาความตื่นเต้น หรือหาคู่นอนที่ตอบรับรสนิยมของตัวเอง

3.ต้องการความแปลกใหม่ ในบางคนไม่มีเหตุผลอะไรซับซ้อนนอกจากนิสัยในการชอบลองอะไรที่ตื่นเต้น แปลกใหม่ ชอบอยู่ในสถานการณ์เสี่ยง นอกใจคู่รักเพื่อความตื่นเต้นท้าทายส่วนตัว โดยเฉพาะในปัจจุบันมีสิ่งเร้าที่มากกว่ายุคก่อนๆ เพียงแค่เปิดมือถือขึ้นมาก็สามารถสร้างโลกอีกใบของตัวเองขึ้นมาได้ ทำให้คนใฝ่หาสิ่งใหม่ๆ ที่ไม่เคยทำ หนึ่งในนั้นก็คือการนอกใจคู่รักผ่านโลกออนไลน์ และบนแอพพ์ และเว็บไซต์หาคู่ต่างๆ

4.ความเบื่อหน่ายและปัญหาซ้ำๆ รอยร้าวในความสัมพันธ์เป็นประเด็นที่อาจนำไปสู่ปัญหาการนอกใจได้เช่นกัน เพราะเมื่อย้อนนึกถึงปัญหาที่เกิดขึ้นซ้ำไปซ้ำมา ก่อให้เกิดความรู้สึกเบื่อหน่าย เหน็ดเหนื่อยกับปัญหาเดิมๆ อยากหาทางออก จึงเลือกการพาตัวเองไปเจอกับคนใหม่ หาความสนุกแบบใหม่ให้กับชีวิต

5.ความไม่มั่นใจในตัวคู่รัก บางคนอาจมีความเคลือบแคลง สงสัย ไม่มั่นใจในตัวคนรัก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการสร้างอนาคต ด้านการเงิน หรือด้านบุคลิกนิสัย เมื่อเกิดความไม่เชื่อมั่นในความสัมพันธ์ก็ไม่แปลกที่จะมองหาคนที่สามในความสัมพันธ์เพื่อตามหาคนที่คิดว่าใช่มากกว่า หรือมีอะไรที่ทำให้มั่นใจมากกว่าคนรักของตัวเอง

ส่วนการใช้ “แอพพ์หาคู่” เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้คนนอกใจจริงหรือไม่นั้น บริษัทจัดหาคู่ระดับ Bangkok Matching ยกเอาผลสำรวจจากบริษัทวิจัย Global Web Index ที่เคยทำการสำรวจผู้ใช้งานแอพพ์หาคู่ชื่อดังผ่านผู้ใช้งานทั้งหมด 47,000 ราย และได้พบว่า 42% ที่ใช้งานแอพพ์หาคู่นั้นเป็นคนที่ “ไม่โสด” แถมยังแบ่งเป็นคนที่แต่งงานแล้วถึง 30% และกำลังมีความสัมพันธ์หรือมีคู่แล้ว 12% และต่อมาในปี 2018 นักวิจัยทีมเดิมก็ได้ทำการวิเคราะห์ผลสำรวจรวมถึงปัจจัยประกอบต่างๆ ทำให้ได้ข้อสรุปว่า “แอปพลิเคชันหาคู่ออนไลน์นั้นมีแนวโน้มถูกใช้เป็นหนึ่งในช่องทางสำหรับผู้ที่มีคู่อยู่แล้ว และทำให้เกิดการนอกใจกันขึ้น”

ซึ่งบริษัทจัดหาคู่ Bangkok Matching ขยายปัจจัยย่อยๆ ที่ทำให้แอปหาคู่ หรือเว็บไซต์หาคู่ออนไลน์กลายเป็นช่องทางหนึ่งที่เพิ่มอัตราการนอกใจ โดยวิเคราะห์จากประสบการณ์ในการดูแลและให้คำปรึกษาคู่รักมาอย่างยาวนานของเรา ดังนี้

ส่วนสำคัญหนึ่งที่ทำให้คนที่ตั้งใจหลอกลวงผู้อื่นเลือกใช้แอพหาคู่และเว็บหาคู่ออนไลน์นอกจะเป็นจากความสะดวกสบายในการเข้าใช้งาน ตั้งแต่การสมัครเข้าใช้งาน เพราะแอพหาคู่เดตหรือเว็บไซต์หาคู่ 90% มักใช้การคัดกรองโดยระบบอัตโนมัติ ผ่านการตั้งค่าที่เซ็ตไว้ ไม่ได้มีการตรวจสอบ/เช็กประวัติ หรือสัมภาษณ์ด้วยมนุษย์ ทำให้ใครๆ ก็สมัครได้ ทำให้ขาดการตรวจสอบคุณสมบัติที่แท้จริง

อีกทั้งการตั้งค่าประวัติ bio รวมถึง status ต่างๆ ที่มีให้เลือกนั้นก็มักเอื้อต่อการสร้างความคลุมเครือมากกว่าความชัดเจน นำไปสู่ความสัมพันธ์ลับซ่อนเร้น เพราะระบบมักไม่มีการตรวจสอบว่าสถานะโสดที่ตั้งไว้นั้นเป็นเรื่องจริงหรือหลอกลวง รวมถึงการพูดคุยผ่านแชต ตัวอักษร หรือวิดีโอแชต ไม่สามารถยืนยันความจริงใจของคู่เดทได้ 100% ทำให้เกิดการ “ถูกหลอก” หรือการเข้ามาเพื่อ “หลอกลวง” ผู้อื่น

ยิ่งไปกว่านั้น ปัจจุบัน ด้วยความฉลาดล้ำลึกของ AI ยังสามารถช่วยมิจฉาชีพหรือคนที่ตั้งใจจะสร้างตัวตนขึ้นมาหลอกลวงคนโสดที่หาคู่จริงจังคนอื่นๆ บนโลกออนไลน์อย่างเว็บแอพพ์หาคู่ ด้วยการสร้างคนเสมือนจริงมาวิดีโอคอลกับคุณได้อีกด้วย

ทั้งนี้ อัตราการหย่าในไทยพุ่งสูงขึ้นทุกปี โดยมีสาเหตุจากการ “นอกใจ” โดยจากสำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง สถิติการหย่าร้างประจำปี 2565 ชี้ให้เห็นว่า คนไทยมีอัตราการหย่าร้างที่สูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านๆ ถึง 1.4 แสนคู่ โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ที่นำโด่งมาเป็นอันดับ 1 (17,635 คู่) ลากยาวมาจนถึงไตรมาสแรกของปี 2566 กรุงเทพฯ ก็ยังติดอันดับ 1 ทำสถิติหย่าร้างไป 2,955 คู่ แล้วในช่วงต้นปี

สาเหตุในการหย่า มักพบว่าจะมี 4 สาเหตุหลักที่ทำให้คู่รักตัดสินใจหย่าร้างกัน คือ 1.ปัญหาการทะเลาะเบาะแว้ง จนลามไปสู่การไม่เข้าใจกัน การใช้ความรุนแรงในครอบครัว เป็นสาเหตุอันดับ 1 ที่ทำให้คู่รักตัดสินใจเลิกราหย่าร้างกัน 2.ปัญหาการนอกใจ เป็นปัญหาใหญ่รองลงมาที่ทำให้คู่รักไปต่อไม่ได้ เพราะการนอกใจเมื่อเกิดขึ้นหนึ่งครั้งแล้ว ก็เป็นเรื่องยากที่จะไม่เกิดครั้งต่อๆ ไป แถมในปัจจุบันนี้การนอกใจยังทำได้ง่ายและหลายช่องทาง เช่น แอพพ์หาคู่ออนไลน์ เว็บหาคู่ไทย/ต่างชาติ กลุ่มหาคู่ ฯลฯ

3.ขาดความรับผิดชอบ เป็นปัญหาที่ทำให้เกิดการเบื่อหน่าย ปัญหาซ้ำซากที่เกิดขึ้นในด้านของบทบาทการรับผิดชอบด้านต่างๆ ในชีวิตคู่ที่ไม่ลงรอยกัน และ 4.ปัญหายาเสพติด การใช้ยาเสพติดในครอบครัวเป็นปัญหาใหญ่และเรื้อรังมานาน และเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดความรุนแรง ความไม่ปลอดภัยในครอบครัว

สำหรับการป้องกันไม่ให้ “แอปหาคู่ออนไลน์” ทำลายความสัมพันธ์ แม่สื่อมืออาชีพ Bangkok Matching มีข้อแนะนำดีๆ เพื่อรักษาความรักของคุณมาแนะนำ ว่า

1. หมั่นเสริมสร้างความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นอยู่เสมอ

การหมั่นเติมความหวานและความรู้สึกดีๆ ให้แก่กันบ้าง ไม่ว่าจะเป็นการจัดทริปเที่ยวเปลี่ยนบรรยากาศ การมีค่ำคืนโรแมนติกที่แตกต่างจากวันธรรมดา หรือการหาอะไรที่พิเศษมอบให้กันและกันช่วยเติมความรู้สึกดีๆ ให้แก่กันได้ เมื่อรู้สึกเติมเต็มก็จะทำให้คู่รักไม่อยากหันหน้าไปพึ่งคนอื่น การเติมความรู้สึกดีๆ จึงเป็นคีย์สำคัญที่แนะนำให้คู่รักหมั่นเติมให้กันบ่อยๆ เพื่อไม่ให้เกิดความห่างเหินในความสัมพันธ์

2.ทำสัญญาใจ ให้ความมั่นใจต่อกัน

ในการคบหากันแม้จะไม่มีการกำหนดกฎเกณฑ์ตายตัว แต่คู่รักควรจะต้องหันหน้าพูดคุยซึ่งกันและกันเพื่อมอบความเชื่อใจ มั่นใจ ว่าเมื่อมีปัญหาหรือมีความไม่พอใจใดๆ ต่อกันจะต้องพูดคุยเพื่อปรับความเข้าใจ หาทางออกร่วมกัน ไม่ซุกปัญหาไว้ใต้พรมและหันหน้าไปพึ่งแอพพ์หาคู่เดทออนไลน์เพื่อหาเพื่อนคุย หาที่ระบาย หรืออื่นๆ ใดที่เป็นการกระทำสื่อไปในทางนอกใจ

3.จริงใจ เปิดเผย ไม่มีอะไรซ่อนเร้นปิดบัง

พฤติกรรมที่โปร่งใสไม่ซ่อนเร้น ไม่แอบเล่นแอพพ์หาคู่หรือแอบคุยซ้อนกับคนอื่นขณะที่อยู่ในความสัมพันธ์ เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สร้างความเชื่อมั่นและเชื่อใจให้กับคู่รักได้ เพราะการโกหกและถูกจับได้ภายหลังจะสร้างความหมางใจ รอยร้าวฝังลึกในความสัมพันธ์ที่ต่อให้ผ่านไปนานแค่ไหนก็ไม่มีทางลืมได้ลงและอาจกลับกลายมาเป็นปัญหาใหญ่ในอนาคตจนทำให้ความสัมพันธ์ต้องจบลงไปได้

4.พบผู้ช่วยบำบัดความสัมพันธ์เมื่อมีปัญหา

อย่ามองข้ามการจูงมือคู่รักเข้ารับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ หรือนักจิตวิทยาเฉพาะด้าน เพราะการพูดคุยกันเองเมื่อเกิดปัญหาระหว่างกันนั้นมักไม่ได้คำตอบหรือทางออกที่เหมาะสม เพราะต่างคนก็ต่างมองจากมุมของตัวเอง แต่ถ้ามีคนกลางเป็นคนรับฟังและให้คำแนะนำอย่างมืออาชีพ ก็ช่วยป้องกันไม่ให้ความสัมพันธ์พังทลายลงไปได้

นับได้ว่า “แอพพ์หาคู่” เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ทำให้เกิดการนอกใจและเพิ่มเปอร์เซ็นต์หย่าร้างในไทย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top