Friday, 2 May 2025
TheStatesTimes

‘คมนาคม’ ดันเพิ่มส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วง ‘รังสิต-ม.ธรรมศาสตร์’ ชง ครม. เคาะ 24 ต.ค.นี้

(20 ต.ค. 66) นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม เปิดเผยภายหลังมอบนโยบายให้กรมการขนส่งทางราง (ขร.) ว่าได้เร่งรัดการดำเนินการรถไฟชานเมืองสายสีแดง (รถไฟฟ้าสีแดง) ส่วนต่อขยาย ซึ่งขณะนี้ได้เสนอช่วงรังสิต-มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) รอบรรจุเป็นวาระในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) คาดว่าจะพิจารณาในการประชุมวันที่ 24 ต.ค.นี้ 

อย่างไรก็ตามส่วนอีก 2 เส้นทาง ช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา จะเสนอ สลค. ในช่วงต้นสัปดาห์หน้า ส่วนช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช เบื้องต้นสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เห็นชอบทางวาจามาแล้ว คาดว่าจะเสนอ สลค. เพื่อเข้าสู่การพิจารณาของ ครม. ได้ประมาณเดือน พ.ย.นี้ และคาดว่าจะสามารถเปิดประกวดราคา (ประมูล) ทั้ง 3 เส้นทางได้ในต้นปี 67 

นายสุรพงษ์ กล่าวว่า รถไฟฟ้าสายต่าง ๆ โดยเฉพาะสายสีแดงจะประสบความสำเร็จได้ ต้องมีระบบฟีดเดอร์ที่ดีป้อนผู้โดยสารเข้าสู่ระบบรางให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยได้มอบให้ ขร. และกรมการขนส่งทางบก(ขบ.) หารือร่วมกันในการจัดฟีดเดอร์เข้าถึงทุกสถานีโดยเร็วที่สุด ซึ่งเบื้องต้นมี 2 แนวทาง 

1.ปรับปรุงเส้นทางเดิม โดยเป็นแนวทางที่ทำได้เร็วที่สุด 
2.กำหนดเส้นทางใหม่ คาดว่าหากทำได้จะช่วยดึงดูดผู้โดยสารมาใช้รถไฟฟ้ามากขึ้น

สำหรับร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การขนส่งทางราง คาดว่าจะเสนอกลับไปยัง ครม. พิจารณาได้ภายในปี 66 ก่อนเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรต่อไป และคาดว่าร่างกฎหมายฉบับนี้จะมีผลบังคับใช้ในปลายปี 67 ซึ่งจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้บริการให้กับประชาชนมากขึ้น และช่วยคุ้มครองผู้โดยสาร อาทิ กรณีที่รถไฟฟ้าล่าช้า หรือรถไฟขัดข้อง ซึ่งจะกำหนดมาตรการเยียวยาที่ชัดเจนให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตาม 

ทั้งนี้จะช่วยทำให้ค่าโดยสารมีความเป็นธรรม และราคาถูกลงด้วย เพราะกำหนดไว้ชัดเจนว่าห้ามทุกระบบเก็บค่าแรกเข้าซ้ำซ้อนไม่ว่าจะเป็นของผู้ประกอบการรายใดก็ตาม รวมทั้งการดำเนินนโยบายต่าง ๆ ของรัฐบาลก็จะง่ายขึ้น อาทิ รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เพราะกฎหมายจะเขียนชัดเจนว่า ต้องดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล โดยต้องเสนอมายังคณะกรรมการนโยบายการขนส่งทางราง มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เพื่อกำหนดกลไกเยียวยาผู้ประกอบการต่อไป 

นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่านายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม เน้นการพัฒนาระบบรางเชื่อมโลกทั้งหมด จึงได้สั่งการให้ติดตาม และเร่งรัดการก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีด) ตามความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทย-จีน ระยะ (เฟส) ที่ 1 กรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 253 กิโลเมตร (กม.) และโครงการรถไฟทางคู่สายต่างๆ รวมทั้งเคลียร์ปัญหาต่าง ๆ ให้จบภายในสิ้นปี 66 โดยเฉพาะสัญญาที่ 4-1 ช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง ระยะทาง 15.21 กม. ที่ยังติดประเด็นเรื่องการดำเนินงานกับโครงการรถไฟไฮสปีดเชื่อมสามสนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ซึ่งเป็นช่วงที่มีโครงสร้างทับซ้อนกัน 

นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ตลอดจนสัญญาที่ 4-5 ช่วงบ้านโพ-พระแก้ว ระยะทาง 13.3 กิโลเมตร(กม.) ที่ยังรอความชัดเจนเรื่องการสร้างสถานีรถไฟความเร็วสูงอยุธยา ซึ่งในประเด็นนี้ตนจะเป็นผู้เจรจากับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วยด้วยตัวเอง เชื่อว่าเรื่องนี้มีทางออกแน่นอน และยืนยันว่าต้องสร้างสถานีอยุธยา 

“ในการเจรจาจะนำทุกสิ่งวางขึ้นบนโต๊ะทั้งหมด ทั้งประโยชน์ที่จะได้รับ และผลเสีย มั่นใจว่าสถานีอยุธยาสามารถอยู่ร่วมกันกับชุมชน เมืองเก่าได้ และอาจเป็นสถานีที่สวยที่สุด เป็นแลนด์มาร์กดึงดูดให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมก็ได้ อย่างไรก็ตามปัจจุบันโครงการรถไฟไฮสปีดเฟสที่ 1 มีความคืบหน้าประมาณ 27% ซึ่งตามแผนต้องแล้วเสร็จภายในปี 70 โดยปัญหาต่าง ๆ ของ 2 สัญญานี้มีทางออกแล้ว 90%” นายสุรพงษ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการมอบนโยบาย ขร. วันนี้ นายสุรพงษ์ ได้เร่งรัดให้การก่อสร้างโครงการรถไฟไฮสปีด ไทย-จีน ระยะที่ 1 กรุงเทพฯ-นครราชสีมา ให้แล้วเสร็จภายในปี 2569 หรือเร็วกว่าแผนที่กำหนดจะแล้วเสร็จในปี 2570

'นครพนม' ดึง ‘กรีน-ญิ๋งญิ๋ง’ รำบวงสรวงสะกด นทท. ในชุด ‘ระบำนาคนารี’ Soft Power สุดสง่า เสริมแรงส่งการท่องเที่ยวจังหวัดชายแดนอีสาน

เมื่อวานนี้ (19ต.ค.66) ที่ลานพญาศรีสัตตนาคราชพญานาคศักดิ์สิทธิ์ริมแม่น้ำโขง ถนนสุนทรวิจิตร ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม นายวันชัย จันทร์พร ผวจ.นครพนม พร้อมด้วย นางสงวน จันทร์พร นายกเหล่ากาชาดนครพนม นางสาวกรอปแก้ว ปัญยารชุน รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานกลยุทธ์ ภาพลักษณ์และการสื่อสารองค์กร บริษัทเดอะวัน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัดมหาชน พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้นำชุมชนท้องถิ่น และประชาชน นักท่องเที่ยว ร่วมพิธีบวงสรวงถวายสักการบูชาต่อองค์พญาศรีสัตตนาคราช พญานาคศักดิ์สิทธิ์ นาคาธิบดีสองฝั่งโขง เพื่อเป็นสิริมงคล และส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดชายแดนอีสาน

นอกจากนี้เป็นการประกาศความพร้อมในการต้อนรับประชาชน นักท่องเที่ยว ที่จะเดินทางมาท่องเที่ยว งานประเพณีไหลเรือไฟ ในเทศกาลออกพรรษา ระหว่างวันที่ 20-30 ตุลาคม 2566

สำหรับไฮไลต์ ของงานจะมีขึ้นในคืนเดือนเพ็ญ 15 ค่ำ เดือน 11 ซึ่งเป็นวันออกพรรษา จะมีการไหลเรือไฟ สวยงามอลังการ จากชาวบ้านที่ได้ชื่อว่าเป็นศิลปินเรือไฟ สร้างจากไม้ไผ่มากกว่าลำละ 5,000 ลำ แล้วใช้กระป๋องกาแฟเป็นตะเกียงบรรจุน้ำมันก๊าด หรือน้ำมันดีเซล แขวนบนเส้นลวดประดับลวดลายตามจินตนาการ รวม 12 อำเภอ 

อีกทั้งยังได้รับความร่วมมือการส่งเสริม กระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว  สืบสานประเพณีความเชื่อของคนแถบลุ่มน้ำโขงของทีมละครเรื่องพนมนาคา ที่กำลังออกอากาศทางช่องวัน 31 (one 31) เป็นที่นิยมของแฟนละครอยู่ในขณะนี้ โดยละครดำเนินเรื่องที่เกี่ยวกับความเชื่อสายมูพญานาค รวมถึงเรื่องลี้ลับพญานาค มีดารานักแสดงนำ คือ น้องกรีน-อัษฎาพร สิริวัฒน์ธนกุล ในบทแสดงเป็นตัวละคร ถึงสองบทบาท คือ “อนัญชลี” กับ “หมอเอเชีย” รวมถึง น้องญิ๋งญิ๋ง-ศรุชา เพชรโรจน์ ที่รับบทเป็นนางรอง “โสวันนี”

ในโอกาสนี้ทั้ง 2 นักแสดงสาวสวย ได้ร่วมรำบวงสรวง ในชุดระบำนาคนารี ถือเป็นการรำแสดงในพิธีศักดิ์สิทธิ์ถวายองค์พญานาคสองพี่น้อง อันตชัย กับ อเนกตชาติ พญานาคสองพี่น้อง แห่งเมืองพนมนาคา สร้างมนต์เสน่ห์ สวยงามอลังการ เป็นมนต์ขลังต่อสายต่อประชาชน นักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังได้ร่วม รำบวงสรวงในชุดศรีโคตรบูรณ์ ร่วมกับนางรำชนเผ่านครพนม ถือเป็นการประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการท่องเที่ยวของ จ.นครพนม

ด้าน น้องกรีน-อัษฎาพร สิริวัฒน์ธนกุล แสดงเป็นตัวละคร สองบทบาท คือ “อนัญชลี” กับ “หมอเอเชีย” รวมถึง น้องญิ๋งญิ๋ง-ศรุชา เพชรโรจน์ รับบทเป็นนางรอง “โสวันนี” เปิดเผยว่า รู้สึกดีใจมากที่ได้มา จ.นครพนม เมืองศักดิ์สิทธิ์ลุ่มแม่น้ำโขงอีสาน เชื่อมโยงตำนานความเชื่อพญานาค รวมถึงมีโอกาสมารำถวายองค์พญานาคศรีสัตตนาคราช เป็นสิริมงคลต่อทีมละคร และแก่ตนเอง ส่วนตัวยอมรับมีความเชื่อเรื่องพญานาค มีบ้างเกิดที่เรื่องลี้ลับในขณะการถ่ายละคร โดยน้องกรีนยอมรับ อินมากกับบทละครสองบทบาท ทั้งอนัญชลี รวมถึงหมอเอเชีย

สำหรับน้องญิ๋งญิ๋ง-ศรุชา เพชรโรจน์ ที่รับบทเป็น”โสวันนี” อยากให้แฟนละครติดตาม เพราะยังเหลืออีก 5 ตอน ก็ถึงตอนอวสานแล้ว จะมีเรื่องตื่นเต้นสนุกสนานมากกว่านี้แน่ ขอบคุณที่ให้การติดตาม และในโอกาส จ.นครพนม จะมีการจัดประเพณีออกพรรษาไหลเรือไฟ ฝากเชิญชวนประชาชน นักท่องเที่ยว มาท่องเที่ยวเพราะเป็นจังหวัดที่สวยงาม และมีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำคัญหลายแห่ง มั่นใจว่าจะได้สัมผัสความสวยงาม และเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว

‘นายกฯ’ ถึงกรุงริยาด พร้อมร่วมประชุมสุดยอด ‘ASEAN-GCC’ ครั้งที่ 1 กระชับสัมพันธ์อาเซียน-รัฐอ่าวอาหรับ ก่อนเข้าเฝ้ามกุฎราชกุมารแห่งซาอุฯ

นายกฯเศรษฐา เดินทางถึงกรุงริยาด ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียแล้ว เข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-คณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับครั้งที่ 1 ทันที ก่อนเข้าเฝ้าเจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อาล ซะอูด มกุฎราชกุมาร และนายกรัฐมนตรี แห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย

ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจการเยือนและเข้าร่วมการประชุม Belt and Road Forum for International Cooperation (BRF) ครั้งที่ 3 ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อเวลา 05.40 น. ของวันที่ 20 ตุลาคม ตามเวลาท้องถิ่นกรุงริยาด ซาอุดีอาระเบีย (ช้ากว่าประเทศไทย 4 ชม.) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วย นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมคณะ เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติกรุงริยาด ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย เพื่อเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-คณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับครั้งที่ 1 (ASEAN-GCC Summit) ระหว่างวันที่ 20-21 ตุลาคม 2566

โดยเมื่อเดินทางถึง นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะ ร่วมพิธีการต้อนรับ จากนั้นเดินทางไปยังโรงแรม Ritz Carlton ซึ่งเป็นโรงแรมที่พักก่อนปฏิบัติภารกิจ

จากนั้นเวลา 09.00 น. ที่โรงแรม นายกรัฐมนตรีเข้าร่วมการประชุมโดยเมื่อเดินทางถึงบริเวณห้องโถงหน้าห้องประชุม เจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อาล ซะอูด มกุฎราชกุมาร และนายกรัฐมนตรี แห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ต้อนรับและถ่ายภาพร่วมกัน ก่อนเข้าร่วมประชุม

จากนั้น 11.00 น. นายกรัฐมนตรีร่วมงานเลี้ยงอาหารกลางวันโดยเจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดลุ อะซีซ อาล ซะอูด มกุฎราชกุมาร และนายกรัฐมนตรี แห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียเป็นเจ้าภาพ เพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้นำภายหลังการประชุมสุดยอด ASEAN-GCC Summit

จากนั้นเวลา 11.40 น. นายเศรษฐาเข้าเฝ้าเจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุล อะซีซ อาล ซะอูด มกุฎ ราชกุมาร และนายกรัฐมนตรี แห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย

สำหรับประชุมสุดยอดอาเซียน-คณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับครั้งที่ 1 (ASEAN-GCC Summit) เป็นการประชุมครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ความสัมพันธ์อาเซียน-GCC ที่มีมากกว่า 30 ปี การเข้าร่วมการประชุมของนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นการแสดงถึงความมุ่งมั่นในระดับสูงของไทยในการกระชับความสัมพันธ์กับ GCC และประเภทสมาชิกต่างๆ ของ GCC โดยเฉพาะซาอุดีอาระเบียที่ไทยเพิ่งฟื้นฟูความสัมพันธ์นอกจากจะช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นและประชาสัมพันธ์ศักยภาพทางเศรษฐกิจของไทยกับกลุ่มประเทศ GCC ซึ่งถือได้ว่าเป็นตลาดใหม่ที่มีกำลังซื้อสูงและแหล่งทุนขนาดใหญ่ของกลุ่มประเทศ GCC รวม 4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเฉพาะโอกาสในด้านอาหาร พลังงาน และการท่องเที่ยว รวมถึง การพัฒนาความสัมพันธ์ไปสู่การจัดทำ FTA-GCC และอาจเสนอให้พิจารณาจัดตั้ง อาเซียน GCC Business forum เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างภาคเอกชนของทั้งสองฝ่ายและการไปมาหาสู่ของประชาชนในสองภูมิภาค ทั้งในเชิงธุรกิจและการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ

โดยการประชุมครั้งนี้ เห็นพ้องให้ผู้นำรับรองเอกสารผลลัพธ์จำนวน 2 ฉบับ ได้แก่ ร่างแถลงการณ์ร่วมของการประชุมสุดยอด อาเซียน GCC ซึ่งเป็นเอกสารแสดงเจตนารมณ์ทางการเมืองของผู้นำทั้งสองฝ่ายในการกระชับความสัมพันธ์อาเซียน GCC ในความร่วมมือสาขาต่างๆ ที่ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบร่วมกัน ทั้งในด้านการเมือง ความมั่นคง ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ และสังคมวัฒนธรรม ในส่วนร่างกรอบความร่วมมืออาเซียน GCC ค.ศ.2024-2028 เป็นเอกสารแผนงานระหว่างอาเซียนกับ GCC ระยะ 5 ปี 2024-2028 โครงการ กิจกรรมและแนวทางการส่งเสริมความร่วมมือในสาขาต่างๆ ได้แก่ การเมืองและความมั่นคง การป้องกันและต่อต้านการก่อการร้าย แนวคิดสุดโต่งและแนวคิดสุดโต่งนิยมความรุนแรง การค้าการลงทุน การเกษตรและความมั่นคงทางอาหาร พลังงาน การท่องเที่ยว วัฒนธรรมและสารสนเทศ การศึกษา ความเชื่อมโยง ข้อริเริ่มเพื่อการรวมตัวของอาเซียน และการลดช่องว่างการพัฒนา

‘เพชร กรุณพล’ ชี้ เพจ ‘วันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร’ คอยจับผิดให้ร้ายก้าวไกล ซ้ำยังทำงานร่วมกับพรรครัฐบาลและไอโอทหาร

เมื่อวานนี้ (19 ต.ค.) นายกรุณพล เทียนสุวรรณ สส.พรรคก้าวไกล และ รองโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงเพจ ‘วันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร’ ว่า เพจนี้เป็นคนที่ไม่ชอบพรรคก้าวไกลแน่นอน เพราะมอนิเตอร์ทุกอย่าง คาดว่า น่าจะเป็นการทำงานระหว่างพรรครัฐบาลบ้างพรรคกับ IO ทหาร ที่พยายามจับผิด เนื่องจากมีการตามไปถึงสิงคโปร์ Monitor สส. พรรคก้าวไกลรายบุคคล และที่เห็นล่าสุดก็ชัดเจน คือ เพจนี้บอกว่า มีหลักฐานเกี่ยวกับ สส.พรรคก้าวไกล เล่นยาเสพติด แต่สุดท้ายก็ลบทิ้งไป ที่สำคัญ เราสังเกตเห็นว่า มีโหวตเตอร์ของพรรคการเมืองบ้างพรรคแชร์ทุกอย่างจากเพจนี้ เพื่อมาทำลายเรา พอเราเอาข้อเท็จจริงไปต่อสู้ กลายเป็นว่า โหวตเตอร์คนนั้นลบบัญชีหนีไป

เมื่อว่าเป็นไปได้หรือไม่ว่า คนในพรรคก้าวไกลเป็นหนอนบ่อนไส้เสียเอง เพราะมีข้อมูลเยอะ นายกรุณพล กล่าวว่า เป็นไปได้ค่อนข้างยาก เราถึงบอกว่าน่าจะเป็นการทำงานกับพรรคการเมือง เพราะพรรคการเมืองย่อมมีโหวตเตอร์ ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศมากกว่า io ทหาร เพราะฉะนั้นโหวตเตอร์ที่ไม่ชื่นชอบพรรคตรงข้าม ก็จะเก็บภาพ และโยนมาที่ส่วนกลางเพื่อกระจายออก ซึ่งเป็นวิธีการง่าย ๆ เราจึงมั่นใจว่ามีพรรคการเมืองมาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

เมื่อถามว่า เพจนี้ตั้งมาเพื่อโจมตีพรรคก้าวไกลเลยใช่หรือไม่ นายกรุณพล กล่าวว่า แน่นอน ซึ่งเราไม่ได้กังวล ดีเสียอีกพี่มีคนคอยมอนิเตอร์​เรา อะไรที่ทำไม่ดีจะได้แก้ไข แต่อะไรที่ไม่จริงแล้วเอามาตีฟูเพื่อทำลาย เราก็พยายามที่จะเอาข้อเท็จจริงมาสู้

ล่าสุด เพจที่ชื่อว่า ‘วันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร’ โพสต์ข่าวนายกรุณพล พร้อมข้อความระบุว่า “ทุกคนคะ วั้ยย ตัล แร้วววว หลอนหรือคะพี่”

มุกดาหาร-YEC หอการค้าไทย พบ YEC เวียดนาม ดูท่องเที่ยว-โรงเบียร์ดังท้องถิ่น-เครื่องดื่มชูพลัง รับขนส่งระบบราง เชื่อม EWEC

มุกดาหาร YEC ประเทศไทย จากหอการค้าไทย (YEC CONNECT INTERNATIONAL THAILAND) ร่วมกับหอการค้าจังหวัดมุกดาหาร โดยนายกานต์พนธ์ เตชะเดชอภิพัฒธ์ ประธานหอการค้าฯ นำคณะเดินทางโดยรถยนต์ดูการขนส่งสินค้าผ่านสะพานมิตรภาพแห่งที่ 2 มุกดาหาร – สะหวันนะเขต ตามสาย EWEC เส้นทางตะวันออกสู่ตะวันตก พบ 2 กลุ่ม YEC ประเทศเวียดนาม ศึกษาเส้นทางการค้าการลงทุนการท่องเที่ยวยอดฮิต ดูงานอุตสาหกรรมท้องถิ่น ประกอบด้วย เบียร์ดัง CAMEL BEER โรงงานผลิตรั้ว ประตูอัลลอยด์ โรงงานเครื่องดื่มเสริมพลังซุปเปอร์ฮอต ที่ยืนสู้แบนด์ดังระดับประเทศ ชมเขตเศรษฐกิจพิเศษลาวบาว 

นายกานต์พนธ์ เตชะเดชอภิพัฒธ์ ประธานหอการค้ามุกดาหาร เปิดเผยว่า หอการค้ามุกดาหาร ในฐานะเมืองชายแดนประตูทิศตะวันออกของประเทศไทย บนเส้นทางระเบียงเศรษฐกิจสายตะวันออก-ตะวันตก EWEC นำคณะ ผู้ประกอบการ YEC ประเทศไทย จากหอการค้าไทย (YEC CONNECT INTERNATIONAL THAILAND) ร่วมกับหอการค้าจังหวัดมุกดาหาร เดินทางไปเยือนเมืองเศรษฐกิจการค้าและการท่องเที่ยว เวียดนามกลาง ผ่านสะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 2 มุกดาหาร - สะหวันนะเขต ช่วงเดือนตุลาคม 2566 ศึกษาดูงานผ่านกิจกรรมด้านการค้าการลงทุน และการท่องเที่ยว ตามรอยเส้นทางเศรษฐกิจด้านทิศตะวันออก EWEC ประชุมร่วมกับ 2 YEC จังหวัดกวางตรี และนครดานัง ประเทศเวียดนาม ศึกษาเส้นทางท่องเที่ยวกระเช้าลอยฟ้าบานาฮิลล์ เยี่ยมชมผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นดัง โรงงานเบียร์คาเมล (CAMEL BEER) เยี่ยมชมโรงงานผลิตเครื่องดื่ม ซุปเปอร์ฮอส์ ของนักลงทุนไทยจังหวัดมุกดาหาร วางจำหน่ายคู่แบนด์ดังระดับประเทศเวียดนาม ที่เมืองดงฮา และเขตเศรษฐกิจพิเศษลาวบาว จังหวัดกวางตรี 

การเยือนเวียดนามตามรอยเส้นทางเศรษฐกิจ EWEC เส้นทางระเบียงเศรษฐกิจสายตะวันออก-ตะวันตก (East-West Economic Corridor: EWEC) เชื่อม 2 มหาสมุทรจีน - อินเดีย ระยะทางประมาณ 1,450 กม. อยู่ในไทยประมาณ 734 กม. จากมุกดาหารผ่านกาฬสินธุ์ ขอนแก่น เพชรบูรณ์ พิษณุโลก สุโขทัย และจังหวัดตาก ทำให้ประชาชนบนเส้นทางสายนี้เกิดความเคลื่อนไหวในการพัฒนาเศรษฐกิจการค้าการลงทุน และการท่องเที่ยวมากขึ้น เส้นทาง EWEC ตัดผ่าน 4 ประเทศ ตามตอนกลางแผนที่ประเทศพม่า ไทย ลาว เวียดนาม เชื่อมการขนส่งเดินทางสู่จีนตอนไต้ (ระยะทางจากไทยผ่านมุกดาหารประมาณ 1,345 กม.-มีตู้คอนเทนเนอร์ผ่านด่านมุกดาหารทุกวัน) มุกดาหารเป็นประตูด้านทิศตะวันออกเชื่อมแขวงสะหวันนะเขต ลาว เวียดนาม ตอนกลางของ 3 ประเทศ ระยะทางจากมุกดาหารถึงชายแดนเวียดนาม ประมาณ 245 กม. แขวงสะหวันนะเขต ยังมีเขตเศรษฐกิจพิเศษสะหวัน – เซโน มีโรงานนานาชาติที่มีผลประกอบการสูง เส้นทางสายนี้จึงเป็นที่สนใจของนักลงทุนและนักท่องเที่ยวทางบกอย่างมาก 

นายกานต์พนธ์ เตชะเดชอภิพัฒธ์ ประธานหอการค้ามุกดาหาร กล่าวปิดท้ายว่า การเปิดตลาดความสัมพันธ์ของ YEC หอการค้าไทย กับ YEC เวียดนาม ครั้งนี้ นับว่าประสบผลตามวัตถุประสงค์ด้วยดี เป็นก้าวสำคัญของ YEC ประเทศไทย ในการเชื่อมความสัมพันธ์ร่วมมือกับ YEC ประเทศคู่ค้าไทย-เวียดนาม เป็นการสานต่อด้านการค้าการลงทุนและการท่องเที่ยวบนเส้นทาง EWEC ทั้งยังเตรียมรับการขนส่งระบบรางในอนาคตที่จะผ่านเข้ามาในภูมิภาคนี้อีกด้วย

‘ไบเดน’ จ่อขอสภาฯ อนุมัติงบเสริมแกร่งกองทัพ ‘อิสราเอล’ ชี้!! เพื่อความมั่นคงของสหรัฐฯ และเป็นการลงทุนที่ชาญฉลาด

(20 ต.ค. 66) สำนักข่าวรอยเตอร์ เสนอข่าว Biden to seek billions in military aid for Israel as invasion of Gaza nears ระบุว่า ในการปราศรัยของ โจ ไบเดน (Joe Biden) ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 19 ต.ค. 66 ผู้นำสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ในวันที่ 20 ต.ค. 66 ตนจะขอให้รัฐสภาอนุมัติงบประมาณเพิ่มเติมสำหรับการสนับสนุนอิสราเอล เพื่อเสริมขีดความสามารถของกองทัพอิสราเอลให้แข็งแกร่งขึ้น โดยย้ำว่า เพื่อรักษาความมั่นคงของสหรัฐฯ จำเป็นต้องสนับสนุนพันธมิตรที่สำคัญอย่างอิสราเอล นี่เป็นการลงทุนที่ชาญฉลาดที่จะจ่ายผลตอบแทนให้กับสหรัฐฯ ไปอีกหลายชั่วอายุคน

รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า หากคำขอของไบเดนได้รับการอนุมัติงบประมาณด้านนี้ของสหรัฐฯ จะมีมูลค่ารวมถึง 1.4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือมากกว่า 3.5 แสนล้านบาท อีกด้านหนึ่ง บนพื้นดินในฉนวนกาซา ดูเหมือนว่าอิสราเอลกำลังเข้าใกล้การเปิดปฏิบัติการภาคพื้นดิน บุกเข้าสู่ฉนวนกาซาเต็มรูปแบบที่ปกครองโดยกลุ่มฮามาส ซึ่งปัจจุบันกองทัพอิสราเอลระดมกำลังพลและยุทโธปกรณ์อยู่บริเวณใกล้ชายแดนฉนวนกาซา 

โดย โยฟ กัลลันท์ (Yoav Gallant) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอิสราเอล กล่าวกับทหารอิสราเอล เมื่อวันที่ 19 ต.ค.66 ว่า ตอนนี้เราเห็นฉนวนกาซาจากระยะไกล แต่อีกไม่นานเราจะเห็นมันจากด้านใน คำสั่งกำลังจะตามมาในเร็ว ๆ นี้

อิสราเอลโจมตีฉนวนกาซาด้วยการโจมตีทางอากาศหลังเหตุการณ์เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 66 ที่นักรบของกลุ่มฮามาสบุกโจมตีอิสราเอล ซึ่งคร่าชีวิตชาวอิสราเอลไป 1,400 ราย อีกทั้งยังปิดล้อมฉนวนกาซาประชาชน 2.3 ล้านคนและส่งสัญญาณการบุกภาคพื้นดินเต็มรูปแบบ พลเรือนในฉนวนกาซากล่าวว่าสถานการณ์ของพวกเขาสิ้นหวังมากขึ้น เนื่องจากขาดแคลนอาหาร น้ำ เชื้อเพลิง และเวชภัณฑ์ มีผู้เสียชีวิตแล้วประมาณ 3,500 ราย และอีกกว่าล้านคนกลายเป็นคนไร้บ้าน ตามการระบุของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขปาเลสไตน์ ด้าน อัยมาน ซาฟาดี (Ayman Safadi) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจอร์แดน กล่าวว่า สิ่งที่เลวร้ายที่สุดที่กำลังจะเกิดขึ้น

ในระหว่างการเยือนอิสราเอลเป็นเวลา 8 ชั่วโมงเมื่อวันที่ 18 ต.ค. 66 ไบเดนพยายามทำข้อตกลงเพื่อขอความช่วยเหลือในฉนวนกาซา แต่ประสบความสำเร็จอย่างจำกัด เขากล่าวว่าอิสราเอลและอียิปต์เห็นพ้องกันว่ารถบรรทุก 20 คันพร้อมสิ่งของบรรเทาทุกข์สามารถข้ามเข้าไปในเขตนี้ได้ ขณะที่แหล่งข่าวด้านความมั่นคงของอียิปต์ 2 รายกล่าวว่า อุปกรณ์ถูกส่งไปเมื่อวันที่ 19 ต.ค. 66 ผ่านการข้ามพรมแดนเพื่อซ่อมแซมถนนในฝั่งฉนวนกาซา ท่ามกลางรถบรรทุกมากกว่า 100 คันยังกำลังจอดรออยู่ในอียิปต์ ด่านดังกล่าวปิดตั้งแต่อิสราเอลเริ่มโจมตีในฝั่งปาเลสไตน์

กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า เดวิด แซทเทอร์ฟิลด์ (David Satterfield) ทูตพิเศษสหรัฐฯ ที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งให้ทำงานด้านประเด็นด้านมนุษยธรรมในตะวันออกกลาง ยังคงเจรจากับทางการอิสราเอลและอียิปต์ ในเรื่องของรูปแบบที่แน่นอนในการส่งมอบความช่วยเหลือ ซึ่งปัจจุบันประสบความล่าช้า ขณะที่อิสราเอลเรียกร้องการรับรองว่ากลุ่มติดอาวุธฮามาสไม่สามารถควบคุมสิ่งของบรรเทาทุกข์ได้

องค์การสหประชาชาติ (UN) เรียกร้องให้ความช่วยเหลือเร่งกลับไปสู่ระดับก่อนเกิดความขัดแย้ง ซึ่งปกติแล้วจะมีรถบรรทุก 100 คันต่อวันลำเลียงสิ่งของไปช่วยเหลือชาวกาซา โดยมีรายงานว่า วันที่ 20 ต.ค. 66 อันโตนิโอ กูเตร์เรส (Antonio Guterres) เลขาธิการสหประชาชาติ จะเดินทางไปเยือนด่านพรมแดนราฟาห์ จุดเชื่อมระหว่างอียิปต์กับฉนวนกาซา ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่ กิลาด เออร์ดาน (Gilad Erdan) เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำสหประชาชาติ กล่าวในการชุมนุมในนิวยอร์ก ตำหนิว่า เลขาธิการใหญ่ UN ให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือผู้ก่อการร้าย

ขณะเดียวกัน เหตุระเบิดในโรงพยาบาลในฉนวนกาซาเมื่อวันที่ 18 ต.ค. 66 สร้างความโกรธเคืองแก่โลกอาหรับ และการรุกรานภาคพื้นดินของอิสราเอลที่คาดการณ์ไว้ เพิ่มความหวาดกลัวว่าความขัดแย้งจะขยายวงออกไป ชาวปาเลสไตน์กล่าวโทษการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลว่าเป็นต้นเหตุของเหตุระเบิดในโรงพยาบาล แต่อิสราเอลกล่าวว่ามีสาเหตุมาจากการยิงจรวดที่ล้มเหลวโดยกลุ่มติดอาวุธในปาเลสไตน์ ซึ่งผู้นำสหรัฐฯ สนับสนุนอิสราเอล

เมื่อวันที่ 19 ต.ค. 66 กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ระบุว่า เรือรบของกองทัพเรือสหรัฐฯ ลำหนึ่งสามารถสกัดกั้นขีปนาวุธร่อน 3 ลูก และโดรนหลายลำที่กลุ่มติดอาวุธฮูตียิงมาจากประเทศเยเมน ซึ่งคาดว่ามีเป้าหมายมุ่งหน้าสู่อิสราเอล โดยกลุ่มฮูตีนั้นเหมือนกับกลุ่มฮามาสที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน ในวันเดียวกัน กลุ่มติดอาวุธฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน ซึ่งเป็นพันธมิตรอีกรายหนึ่งของอิหร่าน เปิดเผยว่าา ได้ยิงจรวดใส่ที่มั่นของอิสราเอลในหมู่บ้านมานารา และดึงการโจมตีด้วยปืนใหญ่ของอิสราเอล เพื่อตอบโต้หลังจากความรุนแรงบริเวณชายแดนเพิ่มความรุนแรงครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบ 17 ปี

แหล่งข่าวด้านความมั่นคงของเลบานอน และกองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ ให้ข้อมูลตรงกันว่า เหตุปะทะระหว่างกองทัพอิสราเอลและกลุ่มติดอาวุธฮิซบอลเลาะห์ บริเวณชายแดนเลบานอน-อิสราเอล เมื่อวันที่ 19 ต.ค. 66 มีพลเรือนเสียชีวิต 1 ราย ขณะที่กองทัพเลบานอน กล่าวเพิ่มเติมว่า มีผู้สื่อข่าวชาวเลบานอนเสียชีวิต 1 ราย โดยอ้างว่ามาจากการโจมตีของอิสราเอล นอกจากนั้นยังมีสื่อมวลชน 7 คน ติดอยู่ในวงล้อม และประสานให้กองกำลังของ UN เข้าไปช่วยเหลือ ขณะที่ฝ่ายอิสราเอล ชี้แจงว่า เรื่องนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ

ท่ามกลางความกังวลว่าเวสต์แบงก์ ดินแดนเชื่อมต่อระหว่างอิสราเอลกับเลบานอน อาจกลายเป็นแนวรบที่ 3 ในสงครามที่กว้างขึ้น ชาวปาเลสไตน์ 13 คนถูกสังหารในการปะทะกับกองกำลังอิสราเอลในค่ายผู้ลี้ภัยนูร์ชามส์ในเมืองทูลคาร์ม ฝั่งตะวันตก ตามรายงานเมื่อวันที่ 19 ต.ค. 66 โดยสภาเสี้ยววงเดือนแดง (สภากาชาด) ปาเลสไตน์ ด้าน อาบู โอเบดา (Abu Obeida) โฆษกของกลุ่มฮามาส กล่าวว่า พวกตนได้เตรียมพร้อมสำหรับการทำสงครามยืดเยื้อกับกองทัพอิสราเอล และเรียกร้องให้ผู้คนในประเทศอาหรับและมุสลิมประท้วงต่อต้านอิสราเอล.

นสพ.The Guardian ของอังกฤษ เสนอข่าว New York’s Jewish community rallies for release of Israeli hostages: ‘They should be on the front page’ ระบุว่า ที่เมืองนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา วันที่ 19 ต.ค. 66 ชุมชนชาวยิวได้รวมตัวกันบริเวณจตุรัสไทมส์ สแควร์ เรียกร้องให้กลุ่มฮามาสปล่อยตัวประกัน 203 คน ที่ถูกจับไปในเหตุการณ์กลุ่มฮามาสบุกโจมตีอิสราเอล วันที่ 7 ต.ค. 66

การชุมนุมจัดโดยสภาอิสราเอล-อเมริกัน ดึงดูดผู้เข้าร่วมทางการเมือง เช่น ชัค ชูเมอร์ (Chuck Schumer) นักการเมืองพรรคเดโมแครต ผู้นำฝ่ายเสียงข้างมากในวุฒิสภาสหรัฐฯ กิลาด เออร์ดาน เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำสหประชาชาติ และ เอริก อดัมส์ (Eric Adams) นายกเทศมนตรีเมืองนิวยอร์ก ซึ่งที่เมืองนี้มีผู้นับถือศาสนายิวประมาณ 1.6 ล้านคน มากกว่าใน 2 เมืองของอิสราเอลอย่างเทลอาวีฟและเยรูซาเลมรวมกัน

ในการชุมนุมครั้งนี้ ทูตอิสราเอลประจำ UN ให้คำมั่นว่า จนกว่าที่ตัวประกันชาวอิสราเอลจะต้องได้กลับบ้าน คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) และฉนวนกาซาจะไม่มีช่วงเวลาที่เงียบสงบ พร้อมกับ ยังตำหนิท่าทีของ อันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ ที่มองข้ามความเจ็บปวดของชาวอิสราเอล ซึ่งมีกำหนดการเดินทางไปเยือนด่านชายแดนราฟาห์ จุดเชื่อมต่อระหว่างอียิปต์กับฉนวนกาซา ในวันที่ 20 ต.ค. 66 ว่า ดูเหมือนจะให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือผู้ก่อการร้ายที่ลักพาตัวคนที่เรารัก 

“หากเลขาธิการใส่ใจต่อความต้องการด้านมนุษยธรรมอย่างแท้จริง ตัวประกันของเราก็ต้องมีความสำคัญสูงสุดของเขา” เออร์ดาน กล่าว

ห้ามพลาด!! งานหนังสือบนเรือ ‘MV Doulos Hope’ ที่ท่าเรือคลองเตย ลงทะเบียนขึ้นเรือได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 26 พ.ย. 66 ‘เด็ก-ผู้สูงวัย’ ขึ้นฟรี!!

งานหนังสือลอยน้ำบนเรือ ‘MV Doulos Hope’ ขององค์กรการกุศลของประเทศเยอรมนี (GBA Ships) เนื่องในโอกาสเยือนกรุงเทพมหานคร ณ ท่าเทียบเรือใกล้โรงพักสินค้า 3 (รส.3) ท่าเรือกรุงเทพ เขตคลองเตย สนใจขึ้นเรือได้ถึงวันที่ 26 พ.ย. นี้

เรือ MV Doulos Hope เดินทางมาจากเมืองโกตากินาบาลู รัฐซาบาห์ ประเทศมาเลเซีย และจะเดินทางไปยังเมืองสีหะนุห์วิลล์ ราชอาณาจักรกัมพูชา หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจที่ประเทศไทย

ซึ่งในการล่องเรือมาจอดที่ท่าเรือคลองเตย ได้นำหนังสือต่างประเทศที่เป็นภาษาอังกฤษแนวส่งเสริมการเรียนรู้ จากสำนักพิมพ์ต่าง ๆ มาจำหน่ายบนเรือในราคาพิเศษ เพื่อเป็นการส่งเสริมการรู้หนังสือและการศึกษา ความร่วมมือข้ามวัฒนธรรม และความตระหนักทางสังคมในประเทศที่เรือเดินทางไปเยือน

อีกทั้งอาสาสมัครของเรือจะมีการลงพื้นที่ชุมชนใกล้บริเวณท่าเรือ เพื่อให้ความช่วยเหลือและความห่วงใยต่อชุมชน โดยมีส่วนร่วมกับกลุ่มชุมชนท้องถิ่นในการแบ่งปันความรู้ ความช่วยเหลือ และความหวังให้แก่ผู้คนในชุมชนโดยไม่คำนึงถึงสถานะ วัฒนธรรม และภูมิหลังของผู้คนในชุมชนนั้น ๆ

นอกจากซื้อหนังสือแล้วยังมีโอกาสได้พบปะพูดคุยกับลูกเรือนานาชาติอีกด้วย โดยจะเปิดให้บริการระหว่างวันที่ 17 ตุลาคม – 26 พฤศจิกายน 2566 (เฉพาะวันอังคาร – วันอาทิตย์) เวลา 14.00 – 21.00 น. ค่าเข้า 30 บาท เด็กต่ำกว่า 12 ปี และผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป ฟรี!! ไม่มีค่าใช้จ่าย

ลงทะเบียนขึ้นเรือ และดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ >> https://thelittleboxoffice.com/douloshope/

'แพทองธาร' วอน!! อดใจรอเงินดิจิทัลวอลเล็ต อาจไม่ทัน 1 ก.พ.นี้ ส่วนความพร้อมนั่งแท่นหัวหน้าพรรค เจ้าตัวยัน!! "พร้อม"

(20 ต.ค. 66) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ออกมาระบุว่านโยบายดิจิทัลวอลเล็ตอาจเริ่มใช้ไม่ทัน วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ตามกรอบเวลาเดิม ที่พรรคเพื่อไทยหาเสียงไว้ ว่า เราก็ต้องทำให้มั่นคง ซึ่งตอนที่เราเสนอนโยบายนี้ เราก็ศึกษามากพอสมควร แต่แน่นอนว่าในขั้นตอนปฏิบัติ มีปัจจัยอื่น ๆ มากมายที่รัฐบาลและคณะรัฐมนตรีกำลังหาคำตอบเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดประชาชน ฉะนั้น “ก็ขอให้อดใจกันหน่อยนะคะ” 

ส่วนความพร้อมในการจัดประชุมวิสามัญพรรคเพื่อไทยวันที่ 27 ตุลาคมนี้ ส่วนตัวมีความพร้อมแล้วหรือไม่ นางสาวแพทองธาร ปฏิเสธตอบคำถาม ก่อนกล่าวว่า “วันที่ 27 นี้ใช่ไหมคะ” พร้อมยิ้มรับ และพยักหน้า

เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า พร้อมจะเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยหากถูกเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่ง หรือไม่นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า "พร้อมค่ะ"

เปิดค่าบริการ ‘เอ็กซ์’ แบบรายปี ‘นิวซีแลนด์-ฟิลิปปินส์’ 2 ชาติแรก ราคาไม่เกิน 30 บาท หวังลดปัญหาสแปม ไม่จ่าย อ่านได้อย่างเดียว!!

(20 ต.ค. 66) สื่อต่างประเทศ รายงานว่า ‘อีลอน มัสก์’ เตรียมจะเปลี่ยนแปลงแอปพลิเคชันเต็มรูปแบบ จากแอปฯ ที่ให้ใช้ฟรี เป็นแอปฯ ที่ต้องจ่ายเงินเพื่อใช้บริการ

โดยเมื่อวันที่ 17 ต.ค. 66 ‘เอ็กซ์’ (ทวิตเตอร์) ประกาศว่าได้เริ่มทดสอบระบบ ‘ไม่ใช่บอต’ เป็นวิธีการสมัครสมาชิกใหม่ 2 ประเทศ คือ นิวซีแลนด์ และฟิลิปปินส์ พร้อมระบุว่า เพื่อสนับสนุนความพยายามที่สำคัญในการลดสแปม ขณะเดียวกันก็รักษาความสมดุลในการเข้าถึงแพลตฟอร์ม

ขั้นตอนแรก คือ การยืนยันทางโทรศัพท์ บัญชีใหญ่ที่สร้างขึ้นบนเอ็กซ์ของทั้ง 2 ประเทศนี้ จะต้องยืนยันหมายเลขโทรศัพท์ก่อนใช้งาน ขั้นตอนที่ 2 คือ เลือกแผนการสมัครสมาชิก

สำหรับค่าธรรมเนียมนี้ จะคิดราคา 1 ดอลลาร์ต่อปี (แตกต่างกันไปตามประเทศและสกุลเงิน) ผู้ใช้ใหม่จะสามารถดำเนินการบางอย่างในเอ็กซ์เวอร์ชันเว็บได้ อาทิ โพสต์เนื้อหา ถูกใจโพสต์ ตอบกลับ โพสต์ซ้ำ โควท หรือ บุ๊กมาร์กโพสต์

ผู้ใช้ใหม่ที่เลือกไม่สมัครรับข้อมูลจะสามารถดำเนินการ อ่านอย่างเดียวเท่านั้น เช่น อ่านโพสต์ ดูวิดีโอ และติดตามบัญชี

สำหรับราคาของ 2 ประเทศนั้น นิวซีแลนด์ อยู่ที่ 1.43 ดอลลาร์นิวซีแลนด์ (ประมาณ 30.43 บาท) ขณะที่ ฟิลิปปินส์ อยู่ ที่ 42.51 เปโซ (ประมาณ 27.33 บาท)

พิษณุโลก ม.นเรศวร จัดเสวนา 'สงครามยูเครน: สงครามร้อนแรกในสงครามเย็นใหม่' ชี้ต้องเตรียมรับวิกฤตไปอีกนาน

วันนี้ 20 ตุลาคม 2566 ณ ห้อง Main Conference  อาคารศูนย์บริการเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มหาวิทยาลัยนเรศวร คณะสังคมศาสตร์ร่วมกับบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยนเรศวร จัดโครงการสังคมเสวนา ซีรีส์#๓ : หัวข้อ “สงครามยูเครน : สงครามร้อนแรกในสงครามเย็นใหม่” โดยมี ศาสตราจารย์ ดร. กรกนก อิงคนินันท์ รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรม เป็นประธานเปิด และศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.สุรชาติ บำรุงสุข กรรมการสภามหาวิทยาลัยนเรศวรผู้ทรงคุณวุฒิ และอาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้เขียนหนังสือ “สงครามยูเครน : สงครามร้อนแรกในสงครามเย็นใหม่” เป็นวิทยากร พร้อมเปิดตัวหนังสือที่เขียนเกี่ยวกับสงครามยูเครน ซึ่งเป็นเล่มแรกที่ตีพิมพ์เป็นภาษาไทย โดยสำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยนเรศวร เพื่อให้อาจารย์ นิสิต นักวิชาการ และภาคประชาสังคมส่วนต่าง ๆ ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ และการเตรียมความพร้อมต่อการเป็นพลเมืองโลกที่ต้องปรับตัวกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในประชาคมโลกบนความเปลี่ยนแปลงในหลากหลายมิติ

ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.สุรชาติ บำรุงสุข กล่าวถึงสงครามที่ผ่านมา 600 กว่าวันและจะอยู่ไปอีกนานว่า ผลกระทบที่คนไทยจะได้รับจากการทับซ้อนของสถานการณ์ COVID 19 กับสงครามยูเครน คือวิกฤตของเศรษฐกิจที่ทับซ้อนกันไปด้วย ซึ่ง COVID 19 ยังไม่มีวิกฤตด้านพลังงานเหมือนสงครามยูเครน และจะมีวิกฤตเรื่องอาหารตามมา สืบเนื่องจากราคาปุ๋ยที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่ปลายปี 2564 ที่มีผลพวงมาจากสงคราม แต่สังคมที่กินข้าวเจ้ายังโชคดีกว่าสังคมที่กินข้าวสาลี ขนมปัง หรือแป้งโรตี ที่ได้รับผลกระทบค่อนข้างหนักเนื่องจากแป้งสาลีและธัญพืช ราคาสูงขึ้นมาก ขณะเดียวกันก็มีสงครามตะวันออกกลางทับซ้อนขึ้นมาอีก ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากังวล สังคมไทยควรต้องเตรียมตัวรับเงื่อนไขวิกฤตเศรษฐกิจและพลังงาน ปีหน้าอาจจะเป็นปีที่ต้องรัดเข็มขัดกัน เพราะสุดท้ายสิ่งที่ตามมาคือวิกฤตค่าครองชีพ 

หนังสือ “สงครามยูเครน : สงครามร้อนแรกในสงครามเย็นใหม่” เป็นหนังสือที่เขียนตั้งแต่ก่อนเริ่มสงครามยูเครน มิติต่าง ๆ ของสงคราม สงครามโดรน สงครามปืนใหญ่ และอุปกรณ์ไฮเทคทั้งหลาย แม้สถานการณ์สงครามจะอยู่ไกลทางภูมิศาสตร์ แต่วันนี้ผลกระทบไม่หนีจากเราเลย และเราก็หนีไม่ได้ด้วย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top