Friday, 2 May 2025
TheStatesTimes

ฝ่ายการพยาบาล โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทยจัดวันพยาบาลแห่งชาติ ปี 66 สภากาชาดไทย เทิดไท้สมเด็จย่าเสริมสร้างดูแลสุขภาพปวงประชาห่างไกลไร้โรคา มีคุณภาพชีวิตที่ดี

เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2566 เวลา 8.00-10.00  น.นายเตช บุนนาค เลขาธิการสภากาชาดไทย เป็นประธานเปิดงานวันพยาบาลแห่งชาติ ปี 66 ณ.ระเบียงรมณีย์ ชั้นที่ 14 อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ รพ.จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย

วันพยาบาลแห่งชาติ ถูกกำหนดให้เป็นวันที่ 21 ตุลาคม ของทุกปี ชึ่งเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อปวงชนชาวไทย ทั้งด้านการแพทย์ การสาธารณสุข การศึกษา การศาสนา  การสงเคราะห์ตลอดจนการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน

เพื่อน้อมรำลึกและเป็นการเผยแพร่พระราชกรณียกิจและโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในสมเด็จพระศรีนครืนทราบรมราชชนนี ฝ่ ายการพยาบาล โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์สภากาชาดไทย ได้ตระหนักเห็นความสำคัญ ดังกล่าว จึงได้จัดงานวันพยาบาลแห่งชาตื ประจำปี 2566 เหมือนเช่นทุกปี สำหรับปีนี้จัดงานวันที่ 20  ตุลาคม 2566 ตั้งแต่เวลา 8.00-15.00 น. กืจกรรมภายในงานที่น่าสนใจประกอบด้วยนิทรรศการการดูแลสุขภาพ เละเทคโนโลยีการดูแลสุขภาพจากหน่วยงานต่างๆ ของสภากาชาดไทย รับการประเมินสุขภาพด้วยการทดสอบความจำและความคิด ทดสอบแรงบีบมือ ประเมินภาวะความเสี่ยงต่อการพลัดตกหกล้ม ภาวะอารมณ์และพฤติกรรม สุขภาพ กิจกรรมเกมส์ฝึกสายตาและสมอง การตรวจวิเคราะห์กล้ามเนื้อและมวลไขมันด้วยเครื่อง ,BIA และรับคำแนะนำฟรี นอกจากนี้รับฟังการเสวนาเรื่อง 'ก้าวเข้าสู่ทศวรรษการดูแลสุขภาวะผู้สูงวัย"และเพลิดเพลินกับการสร้างเสริมสุขภาพเพื่อผู้สูงวัยด้วยไลน์แเดนซ์ ร้องเพลงเล่นดนตรีอูคูเลเล่

‘การบินไทย’ เตรียมส่ง ‘ถุงน้ำใจ’ 500 ชุด ช่วยเหลือคนไทยในอิสราเอล เพื่อบรรเทาทุกข์-เรียกขวัญกำลังใจ-ย้ำเตือน ‘คนไทยจะไม่มีทางถูกลืม’

(20 ต.ค. 66) นายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เป็นประธานรับมอบ ‘ถุงน้ำใจ’ จำนวน 500 ชุด จากโครงการ ‘ส่งน้ำใจให้คนไทย ในอิสราเอล’ ซึ่งเป็นโครงการที่เกิดจากความร่วมมือของกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ มูลนิธินักศึกษาสถาบันพระปกเกล้าเพื่อสังคม เครือ RBS group และบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) โดยมี นายนพพล ชูกลิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร RBS group เป็นผู้ส่งมอบ พร้อมด้วย นายรุจ ธรรมมงคล อธิบดีกรมการกงสุล นายกรกฏ ชาตะสิงห์ ประธานเจ้าหน้าที่สายการพาณิชย์ บริษัท การบินไทยฯ ร่วมรับมอบ ณ สำนักงานใหญ่ การบินไทย

โดย ‘ถุงน้ำใจ’ ประกอบด้วย ขนมคาวหวานต่าง ๆ ที่จะพอช่วยบรรเทาความหิว และสร้างความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้กับพี่น้องชาวไทยในอิสราเอล ซึ่งจะถูกขนส่งไปในเครื่องบินของการบินไทย และเครื่องบินของกองทัพอากาศ ที่จะทำการบินไปอพยพคนไทยในอิสราเอล โดยได้รับการอำนวยการจากกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ และการบินไทย โดยหลังจากเครื่องบินลงจอดที่ปลายทาง ‘ถุงน้ำใจ’ จะถูกส่งต่อให้กับเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ นำไปกระจายส่งมอบให้กับผู้อพยพลี้ภัยสงครามชาวไทย ในศูนย์อพยพลี้ภัย 2 จุด ที่อยู่ภายใต้การดูแลของสถานทูตฯ

ทั้งนี้ จากข้อมูลปัจจุบันระบุว่ามีคนไทยจำนวนทั้งหมด 30,000 คน อยู่ในประเทศอิสราเอล จำนวนที่อพยพสำเร็จไปแล้ว 1,000 คน และได้ลงทะเบียนแจ้งขออพยพแล้วจำนวนมากกว่า 8,000 คน โดยความเป็นอยู่และอาหารการกินของผู้อพยพลี้ภัยชาวไทยนั้น จะได้รับการดูแลจากสถานทูตฯ

โครงการ ‘ส่งน้ำใจให้คนไทย ในอิสราเอล’ นั้น นอกจากเป็นการส่ง ‘ถุงน้ำใจ’ ไปช่วยบรรเทาความหิวแล้ว ยังมีวัตถุประสงค์ในการ ‘ส่งน้ำใจ’ และเป็นกำลังใจให้พี่น้องชาวไทยที่กำลังลำบาก ให้รู้ว่าพวกเขาไม่ได้ถูกลืม

วันปิยมหาราช ๒๓ ตุลาคม วันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

วันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2453 นับเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่สร้างความเศร้าโศกให้กับประเทศไทยครั้งใหญ่หลวง เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงเสด็จสวรรคต ณ พระที่นั่งอัมพรสถานพระราชวังดุสิต

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระนามเดิมว่า สมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ พระราชสมภพเมื่อวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2396 เป็นพระราชโอรสองค์ที่ 4 ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระนางเจ้าฟ้ารำเพยภมราภิรมย์ (สมเด็จพระเทพศิรินทรา พระบรมราชินี) เมื่อพระชนมายุได้ 9 พรรษา ทรงได้รับสถาปนาขึ้นเป็น ‘กรมหมื่นพิฆเนศวรสุรลังกาศ’ ต่อมาเมื่อพระชนมายุได้ 13 พรรษา ทรงได้รับสถาปนาขึ้นเป็น ‘กรมขุนพินิตประชานาถ’ บรมราชาภิเษกครั้งแรกเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2411 ทรงพระนามว่า ‘พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว’

เนื่องจากขณะนั้นมีพระชันษาเพียง 16 ปี ยังไม่ทรงบรรลุนิติภาวะ สมเด็จพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) จึงเป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน และสถาปนากรมหมื่นบวรวิชัยชาญ พระโอรสองค์ใหญ่ของพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญพระมหาอุปราช

ระหว่างที่สมเด็จพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ เป็นผู้สำเร็จราชการอยู่นั้น สมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ ก็ทรงใช้เวลาศึกษาเล่าเรียนศิลปวิทยาเป็นอันมาก เช่น โบราณราชประเพณี รัฐประศาสน์ โบราณคดี ภาษาบาลี ภาษาอังกฤษ วิชาปืนไฟ วิชามวยปล้ำ วิชากระบี่กระบอง และวิชาวิศวกรรม

ในตอนนี้ยังได้เสด็จประพาสสิงคโปร์และชวา 2 ครั้ง เสด็จประพาสอินเดีย 1 ครั้ง การเสด็จประพาสนี้มิใช่เพื่อสำราญพระราชหฤทัย แต่เพื่อทอดพระเนตรแบบแผนการปกครองที่ชาวยุโรปนำมาใช้ปกครองเมืองขึ้นของตน เพื่อจะได้นำมาแก้ไขการปกครองของไทยให้เหมาะสมแก่สมัยยิ่งขึ้น ตลอดจนการแต่งตัว การตัดผม การเข้าเฝ้าในพระราชฐานก็ใช้ยืน และนั่งตามโอกาสสมควร ไม่จำเป็นต้องหมอบคลานเหมือนแต่ก่อน

เมื่อพระชนมายุบรรลุพระราชนิติภาวะ ได้ทรงผนวชเป็นเวลา 2 สัปดาห์ แล้วจึงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเป็นครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2416 และนับจากนั้นมาก็ทรงพระราชอำนาจเด็ดขาดในการบริหารราชการแผ่นดิน

ตลอดระยะเวลาที่ทรงครองสิริราชสมบัติ ทรงปกครองทำนุบำรุงพระราชอาณาจักรให้มั่งคั่งสมบูรณ์ ด้วยรัฐสมบัติ พิทักษ์พสกนิกรให้อยู่เย็นเป็นสุข บำบัดภัยอันตรายทั้งภายในภายนอกประเทศ ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจต่าง ๆ อันก่อให้เกิดคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติ ให้รอดพ้นจากวิกฤตการณ์ และสามารถธำรงเอกราชไว้ตราบจนทุกวันนี้

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวสวรรคตเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2453 รวมพระชนมายุได้ 58 พรรษา ครองราชสมบัติมานานถึง 42 ปี

ในรัชสมัยของพระองค์ สยามประเทศได้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่สร้างความวัฒนาให้กับชาติเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น การไฟฟ้า การไปรษณีย์ โทรเลข โทรศัพท์ ฯลฯ ด้วยพระราชกรณียกิจที่ยังความผาสุกให้เกิดแก่ประชาชน ทวยราษฎร์ทั้งปวงจึงน้อมใจแสดงความจงรักภักดี ด้วยการถวายพระนามว่า ‘พระปิยมหาราช’ หรือพระพุทธเจ้าหลวง และกำหนดให้ทุกวันที่ 23 ตุลาคม เป็น ‘วันปิยมหาราช’

อดีตคณะทำงานก้าวไกล แฉ!! ถูก สส.ฝั่งธนฯ ‘ลวนลาม-ขอมีเซ็กซ์’ นักข่าวโทรพิสูจน์ 6 สส. พบ ‘ปฏิเสธ-ไม่รับสาย-ตัดสาย-ติดต่อไม่ได้’

(20 ต.ค.66) ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ถึงกรณีมีผู้เสียหายซึ่งเป็นอดีตคณะทำงานของสส.พรรค ก.ก. ได้เข้าร้องเรียนกับทางสำนักข่าวเนชั่นทีวี ว่า ถูก สส.กทม. ฝั่งธนบุรี พรรค ก.ก. รายหนึ่ง คุกคามทางเพศ ด้วยพฤติการณ์ อาทิ ลวนลาม แตะเนื้อต้องตัว จนถึงขั้นขอมีเพศสัมพันธ์ โดยผู้เสียหายอ้างว่า เมื่อ สส.คนดังกล่าวทราบเรื่องว่าถูกร้องเรียนให้พรรค ก.ก.ตรวจสอบ ได้โทรศัพท์ไปร้องไห้ขอความเห็นใจจากคณะกรรมการวินัยพรรค อ้างว่า เป็นเรื่องสมยอมกัน และขอให้ลงโทษสถานเบานั้น

เมื่อสำรวจ รายชื่อ สส.กทม. ฝั่งธนฯ พรรคก.ก. มีทั้งหมด 10 คน จาก 10 เขต เป็นชาย 6 คน และหญิง 4 คน

โดยผู้สื่อข่าว โทรศัพท์ไปสอบถาม สส.กทม.ชาย ฝั่งธนบุรี พรรคก้าวไกล เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง ปรากฏว่า นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ เขตบางขุนเทียน นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร เขตธนบุรี นายสิริน สงวนสิน เขตทวีวัฒนา ต่างปฏิเสธเป็นเสียงเดียวกัน ว่า ไม่ใช่ผู้ถูกร้องเรียน และไม่ใช่สส.ฝั่งธนบุรี ที่มีพฤติกรรม ตามที่ร้องเรียนดังกล่าวแต่อย่างใด

ส่วนนายธัญธร ธนินวัฒนาธร เขตบางแค  ไม่รับสาย

นายพงศ์พันธ์ ยอดเมืองเจริญ เขตบางพลัด -บางกอกน้อย ยังติดต่อไม่ได้ เนื่องจากไม่มีสัญญาณโทรศัพท์

ขณะที่ นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ เขตจอมทอง ผู้สื่อข่าวได้โทรหาหลายรอบ เมื่อนายไชยามวาน รับสาย และรู้ว่าเป็นสื่อมวลชนโทรหา เจ้าตัวได้วางสายทันที

‘Apollo-Plumbat’ 2 ปฏิบัติการลับของหน่วย ‘MOSSAD’ แห่งอิสราเอล ในการโจรกรรม ‘แร่ยูเรเนียมที่ผ่านกระบวนการเสริมสมรรถนะสูง’ ซึ่งใช้ผลิตอาวุธนิวเคลียร์

‘Apollo’ และ ‘Plumbat’ ปฏิบัติการโจรกรรมยูเรเนียมที่ผ่านกระบวนการเสริมสมรรถนะสูง 
โดยอิสราเอล

‘อิสราเอล’ เป็นหนึ่งในประเทศที่มีอาวุธนิวเคลียร์ไว้ในครอบครอง และเชื่อกันว่า อิสราเอลมีความสามารถในการปล่อยหัวรบนิวเคลียร์ได้มากมายหลายวิธีจากอากาศยาน ขีปนาวุธร่อนที่ปล่อยจากเรือดำน้ำ และขีปนาวุธพิสัยกลางถึงข้ามทวีปแบบ ‘Jericho’ ซึ่ง Revital ‘Tally’ Gotliv สส.หญิงอิสราเอล เรียกร้องให้นำมาใช้ถล่มฉนวน Gaza หวังให้กลายเป็น ‘วันโลกาวินาศ’ (Doomsday) ของชาวปาเลสไตน์ https://thestatestimes.com/post/2023101214

โดยคาดว่า อิสราเอลเมื่อเริ่มแรกที่มีอาวุธนิวเคลียร์พร้อมใช้งานได้นั้น น่าจะเป็นในช่วงปลายปีของ ค.ศ. 1966 หรือต้นปี ค.ศ. 1967 และทำให้อิสราเอลกลายเป็นชาติที่ 6 ของโลกที่พัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ได้สำเร็จ

อย่างไรก็ตาม อิสราเอลรักษานโยบาย ‘จงใจคลุมเครือ’ โดยไม่เคยปฏิเสธหรือยอมรับอย่างเป็นทางการว่ามีอาวุธนิวเคลียร์ แต่ย้ำตลอดหลายปีที่ผ่านมาว่า “อิสราเอลจะไม่ใช่ประเทศแรกที่จะเปิดฉากใช้อาวุธนิวเคลียร์ในตะวันออกกลาง”

นอกจากนี้ อิสราเอลยังปฏิเสธที่จะลงนามใน ‘สนธิสัญญาว่าด้วยการไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์’ (the Treaty on the Non-Proliferation of Nuclear Weapons : NPT) แม้ว่าจะมีแรงกดดันจากนานาชาติให้ลงนามก็ตาม โดยกล่าวว่าการลงนามในสนธิสัญญาดังกล่าวจะขัดต่อผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของชาติ

‘กองทัพอากาศอิสราเอล’ เปิดฉากทำลายเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ของอิรัก
ใน ‘ปฏิบัติการ Opera’ ในปี ค.ศ. 1981

นอกจากนี้ อิสราเอลยังได้พัฒนาหลักการเริ่มต้นในการต่อต้านด้วยการชิงโจมตี โดยปฏิเสธไม่ให้ประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค สามารถซื้อหรือผลิตอาวุธนิวเคลียร์ของตนเองได้ กองทัพอากาศอิสราเอลเปิดฉากทำลายเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ของอิรัก ใน ‘ปฏิบัติการ Opera’ ในปี ค.ศ. 1981 และซีเรีย ใน ‘ปฏิบัติการ Orchard’ ในปี พ.ศ. 2007 ตามลำดับ และการใช้มัลแวร์ ‘Stuxnet’ ที่สร้างความเสียหายอย่างรุนแรงต่อโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่านในปี พ.ศ. 2010 ซึ่งเชื่อว่าได้รับการพัฒนาร่วมกันโดยสหรัฐอเมริกาและอิสราเอล ในปี ค.ศ. 2019

อีกทั้ง อิสราเอลยังคงเป็นประเทศเดียวในตะวันออกกลางที่เชื่อว่าครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ โดยกำหนดให้แผน Samson เป็นกลยุทธ์การป้องกันในการตอบโต้ครั้งใหญ่ด้วยอาวุธนิวเคลียร์ในฐานะ ‘ทางเลือกสุดท้าย’ ต่อประเทศที่ส่งกองทัพมารุกราน และ/หรือ ทำลายอิสราเอล

‘Mordechai Vanunu’ ช่างเทคนิคผู้ที่เปิดเผยรายละเอียดของโครงการอาวุธนิวเคลียร์

อิสราเอลเริ่มโครงการนิวเคลียร์ไม่นานหลังจากประกาศเอกราชในปี ค.ศ. 1948 และด้วยความร่วมมือของฝรั่งเศส โดยอิสราเอลได้เริ่มสร้างศูนย์วิจัยนิวเคลียร์ ‘Negev’ อย่างลับ ๆ ซึ่งเป็นโรงงานใกล้ ๆ กับเมือง Dimona ซึ่งเป็นที่ตั้งเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์และโรงงานปรับกระบวนการที่เกี่ยวข้องในปลายทศวรรษ 1950 ก่อนจะถูกเปิดเผยครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม ค.ศ. 1986 โดย ‘Mordechai Vanunu’ ช่างเทคนิคที่เคยทำงานในศูนย์แห่งนี้และอาศัยอยู่ในสหราชอาณาจักร ไม่นานหลังจากนั้น Mordechai Vanunu ก็ถูกเจ้าหน้าที่ MOSSAD ลักพาตัวและถูกนำตัวกลับมาที่อิสราเอล ซึ่งเขาถูกตัดสินจำคุก 18 ปีในข้อหากบฏและจารกรรม

บริษัท Nuclear Materials and Equipment Corporation (NUMEC) 
เมือง Apollo และเมือง Parks Township

แต่สิ่งสำคัญที่อิสราเอลไม่สามารถหาได้เลย คือ วัตถุดิบหลักในการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ ได้แก่ ‘ยูเรเนียม’ ที่ผ่านกระบวนการเสริมสมรรถนะสูง จึงเป็นที่มาของ 2 ปฏิบัติการโจรกรรมยูเรเนียมเสริมสมรรถนะสูง โดย ‘หน่วย MOSSAD’ ของอิสราเอล

‘ปฏิบัติการ Apollo’ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1965 โดยบริษัทของสหรัฐอเมริกา บริษัท Nuclear Materials and Equipment Corporation (NUMEC) เมือง Apollo และเมือง Parks Township เขตชานเมืองพิตส์เบิร์ก มลรัฐเพนซิลวาเนีย ถูกสอบสวนในข้อหาสูญเสียสารยูเรเนียมที่มีสมรรถนะสูงไปราว 200–600 ปอนด์ (91–272 กิโลกรัม) โดยสงสัยว่าได้มีการยักย้ายเข้าสู่โครงการอาวุธนิวเคลียร์ของอิสราเอล

‘Dr. Zalman Shapiro’ ประธานฯ บริษัท Nuclear Materials and Equipment Corporation (NUMEC)

ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1965 ถึง พ.ศ. 1980 สำนักงานสืบสวนกลางแห่งสหรัฐอเมริกา (FBI) ได้ทำการสอบสวน Dr. Zalman Shapiro ประธานบริษัทฯ ในเรื่องการสูญหายของยูเรเนียมที่ผ่านกระบวนการเสริมสมรรถนะสูง จำนวน 206 ปอนด์ (93 กิโลกรัม) Shapiro เป็นชาวอเมริกันเชื้อสายยิว ที่มีผลประโยชน์ทางธุรกิจและการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลอิสราเอล รวมถึงได้รับสัญญาที่จะสร้างเครื่องกำเนิดไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ให้อิสราเอลด้วย คณะกรรมาธิการพลังงานปรมาณู, สำนักข่าวกรองกลาง (CIA), หน่วยงานรัฐบาลอื่น ๆ และผู้สื่อข่าวที่สอบสวนได้ดำเนินการสืบสวนในลักษณะเดียวกันนี้ แต่ก็ไม่มีการตั้งข้อหาใด ๆ เลย

การศึกษาของสำนักงานบัญชีทั่วไปเกี่ยวกับการสืบสวนที่ไม่เป็นความลับอีกต่อไป ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2010 ระบุว่า “เราเชื่อว่าความพยายามร่วมกันอย่างทันท่วงที ในส่วนของหน่วยงานทั้ง 3 นี้ จะช่วยได้อย่างมาก และอาจช่วยแก้ปัญหาการเบี่ยงเบนความสนใจของ NUMEC ได้ หากพวกเขาต้องการทำเช่นนั้น”

บริษัท Nuclear Materials and Equipment Corporation (NUMEC) 
เมือง Apollo และเมือง Parks Township

ในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1976 ‘CIA’ ได้บรรยายสรุปแก่เจ้าหน้าที่อาวุโสของคณะกรรมการกำกับดูแลนิวเคลียร์ (NRC) เกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยระบุว่า CIA เชื่อว่ายูเรเนียมที่ผ่านกระบวนการเสริมสมรรถนะสูงที่หายไปนั้น ถูกส่งไปยังอิสราเอล เมื่อ NRC แจ้งต่อทำเนียบขาว ส่งผลทำให้ประธานาธิบดี ‘Jimmy Carter’ เมื่อได้รับฟังบรรยายสรุปเกี่ยวกับการสอบสวน จึงสั่งให้ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติประเมินผล ซึ่งผลสรุปว่า “ข้อสรุปของ CIA มีความเป็นไปได้ แม้ว่าจะไม่ได้ข้อสรุปก็ตาม” บางคนยังคงเชื่อว่า อิสราเอลได้รับยูเรเนียมที่ผ่านกระบวนการเสริมสมรรถนะสูง จำนวน 206 ปอนด์ (93 กิโลกรัม) หรือมากกว่าจาก NUMEC โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อได้รับหลังการมาเยือนของ ‘Rafi Eitan’ ซึ่งถูกเปิดเผยในภายหลัง ว่าเป็นสายลับอิสราเอลและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ ‘Jonathan Pollard’ ในเวลาต่อมา

เหตุการณ์ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1986 นักวิเคราะห์ ‘Anthony Cordesman’ บอกกับสำนักข่าว United Press International (UPI) ว่า “ไม่มีเหตุผลที่เป็นไปได้ใด ๆ สำหรับ Eitan ที่จะไปยังโรงงาน Apollo นอกจากไปเพื่อวัสดุนิวเคลียร์” การสอบสวนในภายหลังได้ดำเนินการโดยคณะกรรมการกำกับดูแลนิวเคลียร์ (ต่อจาก AEC) เกี่ยวกับยูเรเนียมจำนวน 198 ปอนด์ (90 กิโลกรัม) ซึ่งพบว่าหายไประหว่างปี ค.ศ. 1974 ถึง ค.ศ. 1976 หลังจากที่บริษัท Babcock & Wilcox และ Dr. Shapiro ได้ซื้อโรงงานดังกล่าว การสืบสวนพบว่า ยูเรเนียมที่ผ่านกระบวนการเสริมสมรรถนะสูง น้ำหนักมากกว่า 110 ปอนด์ (50 กิโลกรัม) อาจถูกเรียกว่า ‘กลไกการสูญเสียที่ไม่สามารถระบุได้ และไม่มีเอกสารก่อนหน้านี้’ รวมถึง ‘การปนเปื้อนของเสื้อผ้าของคนงาน การสูญเสียจากระบบขัดพื้น วัสดุที่ฝังอยู่ในพื้น และคราบตกค้างในอุปกรณ์แปรรูป’ โดยอีกหนึ่งในผู้สืบสวนหลัก ‘Carl Duckett’ ได้กล่าวว่า “ผมไม่พบอะไรเลยที่บ่งชี้ว่า Shapiro มีความผิด”

‘ปฏิบัติการ Plumbat’ เชื่อกันว่าเป็น ‘ปฏิบัติการลับ’ ของอิสราเอลในปี ค.ศ. 1968 เพื่อให้ได้มาซึ่ง ‘Yellowcake’ (แร่ยูเรเนียมแปรรูป) เพื่อนำมาใช้สนับสนุนในความพยายามด้านอาวุธนิวเคลียร์ของอิสราเอล สาเหตุมาจากการที่ฝรั่งเศสหยุดจัดหาเชื้อเพลิงยูเรเนียมให้กับอิสราเอล สำหรับเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ Dimona หลังจากสงครามอาหรับ-อิสราเอล ในปี ค.ศ. 1967 แหล่งข่าวจำนวนมากเชื่อว่าในปี ค.ศ. 1968 อิสราเอลได้รับ Yellowcake (แร่ยูเรเนียมแปรรูป) ราว 200 ตันจาก ‘Union Minière’ บริษัทเหมืองแร่ของเบลเยียม และจัดส่งยูเรเนียมแปรรูปที่ขุดในคองโก จากเมืองแอนต์เวิร์ปไปยังเมืองเจนัว ให้กับบริษัทแนวหน้าของยุโรป โดยทำการขนถ่ายย้ายแร่ไปยังเรือลำอื่นกลางทะเล

ปฏิบัติการลับของ MOSSAD นี้ เป็นการละเมิดมาตรการควบคุมวัสดุนิวเคลียร์ของ ‘Euratom’ (The European Atomic Energy Community) โดยสมบูรณ์ ชื่อของปฏิบัติการ Plumbat มาจากภาษาละตินว่า ‘plumbum’ ซึ่งหมายถึง ‘ตะกั่ว’ อันเป็นวัสดุไม่อันตรายในการขนส่ง Yellowcake โดยสายลับของ MOSSAD ได้จัดตั้งบริษัทสมมติชื่อ ‘Biscayne Trader's Shipping Corporation’ ในไลบีเรีย เพื่อซื้อเรือขนส่งสินค้าทางทะเล จากเมือง Scheersberg A. (เมืองทางตอนเหนือของเยอรมนี ใกล้ชายแดนติดกับเดนมาร์ก) ด้วยความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ผู้เป็นมิตรของบริษัทปิโตรเคมีของเยอรมนี มีการจ่ายเงิน 3.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ให้กับ Union Minière เพื่อซื้อ Yellowcake จำนวน 200 ตัน Yellowcake เหลืออยู่ในสินค้าคงคลังจากยูเรเนียมที่ขุดได้จาก Shinkolobwe ใน Katanga ตอนบน โดยบรรทุก Yellowcake นี้ลงบนเรือบรรทุกสินค้าที่เพิ่งเปลี่ยนชื่อใหม่ และมีการทำสัญญากับบริษัทสีสัญชาติอิตาลี เพื่อดำเนินการผลิต Yellowcake

‘Yellowcake’ (แร่ยูเรเนียมแปรรูป)

‘Yellowcake’ ถูกบรรทุกในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1968 ในถังที่มีเครื่องหมาย ‘PLUMBAT’ (ผลิตภัณฑ์ตะกั่วที่ไม่เป็นอันตราย) ลูกเรือชาวสเปนถูกแทนที่ด้วยกะลาสีเรือที่ MOSSAD เตรียมไว้ และได้รับหนังสือเดินทางปลอมที่จัดเตรียมไว้ให้ เรือสินค้าลำนี้แล่นไปยังเมืองเจนัว เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน ค.ศ. 1968 หลังจากเดินทางได้ประมาณ 7 วัน เรือก็พบกับเรือบรรทุกสินค้าสัญชาติอิสราเอล ภายใต้ความมืดบริเวณที่ใดที่หนึ่งทางตะวันออกของเกาะครีต สินค้าถูกขนถ่ายไปอย่างเงียบ ๆ ขณะที่เรือรบของอิสราเอลคอยเฝ้าดูอยู่ใกล้ ๆ หลังจากบรรทุก Yellowcake แล้ว ก็ออกเดินทางสู่เมืองท่าไฮฟา และในที่สุดก็ถึงอุโมงค์ซึ่งเป็นโรงงานเคมีอัตโนมัติระดับ 6 เพื่อทำการแปรรูปให้เป็น ‘พลูโตเนียม’ ที่เมือง Dimona เมื่อเรือ Scheersberg A. เข้าเทียบท่าที่ตุรกี 8 วันต่อมา โดยไม่มีการขนส่งสินค้าใด ๆ สัญญากับบริษัทสีสัญชาติอิตาลีจึงถูกยกเลิก บันทึกของเรือหายไปหลายหน้าโดยไม่มีคำอธิบายใด ๆ บริษัทสีอิตาลีสันนิษฐานว่า สินค้าสูญหายเนื่องจากการปล้น

คำสารภาพของฝ่ายปฏิบัติการ MOSSAD ในปี ค.ศ. 1973 ‘Dan Ert’ ผู้ต้องสงสัยว่าเป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ Mossad ถูกจับกุมในนอร์เวย์ โดยถูกกล่าวหาว่ามีส่วนในการลอบสังหารผู้ก่อการร้ายชาวปาเลสไตน์คนหนึ่ง ที่สังหารนักกีฬาอิสราเอล 11 คน ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกปี ค.ศ. 1972 ที่นครมิวนิก ซึ่งได้เล่าเรื่องราวขณะถูกคุมขังเพื่อพิสูจน์ให้ชาวนอร์เวย์เห็นว่า เขาเป็นเจ้าหน้าที่ของ MOSSAD เรื่องราวดูน่าเชื่อถือมากขึ้นเมื่อตรวจสอบพบว่า Ert ได้รับเลือกให้เป็นประธานของบริษัทขนส่งในไลบีเรียที่เคยซื้อเรือ Scheersberg A. ในปี 1977 เรื่อง Plumbat Affair ถูกเปิดเผยโดย ‘Paul Leventhal’ อดีตนิติกรของวุฒิสภาสหรัฐอเมริกา ในการประชุมลดอาวุธ เขากล่าวว่า “การขนส่ง Yellowcake ที่ถูกขโมยมานั้น เพียงพอที่จะเดินเครื่องปฏิกรณ์เช่นที่ Dimona ได้นานถึง 10 ปี”

ในตอนแรกเจ้าหน้าที่อิสราเอลนิ่งเงียบเมื่อมีการสอบสวน จากนั้น จึงออกมาปฏิเสธทุกแง่มุมในเรื่องราวที่อิสราเอลที่เกี่ยวข้องกับ Yellowcake ที่ถูกขโมย ปัจจุบันประมาณการว่า คลังอาวุธของอิสราเอลมีหัวรบนิวเคลียร์อยู่ระหว่าง 80 ถึง 400 หัว

‘Impact’ มั่น!! ‘สายสีชมพู-เมืองทอง’ พร้อมเปิดปี 68 พ่วง Sky Entrance 195 ล้าน เชื่อม ‘อิมแพ็ค-สีชมพู’

(20 ต.ค. 66) นายพอลล์ กาญจนพาสน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางกอกแลนด์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม ‘อิมแพ็ค เมืองทองธานี’ กล่าวถึงโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยายเมืองทองธานี ปัจจุบันดำเนินงานก่อสร้างไปแล้วเกือบ 30%

โดยรายละเอียดโครงการก่อสร้างแบ่งเป็น 3 ช่วง คือ ช่วงที่ 1 จากสถานีเมืองทองธานี บริเวณห้างแม็คโคร ถนนแจ้งวัฒนะ ต่อเข้ามายังเมืองทองธานี ช่วงที่ 2 งานก่อสร้างสถานี MT-01 บริเวณวงเวียนหน้าอิมแพ็ค และช่วงที่ 3 ระหว่างสถานี MT-01 ถึง MT-02 บริเวณลานริมทะเลสาบเมืองทองธานี โดยภาพรวมงานก่อสร้างยังคงตรงตามกำหนดระยะเวลา และคาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดบริการได้ในปี 2568

นอกจากงานโครงสร้าง 2 สถานีหลักแล้ว ทางอิมแพ็คได้เตรียมแผนงานก่อสร้าง ‘Sky Entrance’ เชื่อมต่อสถานีรถไฟฟ้า MT-01 (สถานีอิมแพ็ค เมืองทองธานี) และอาคารอิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ โดยทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ อิมแพ็ค โกรท หรือ ‘IMPACT’ ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์เกี่ยวกับการก่อสร้างโครงการ Sky Entrance มีการเข้าทำบันทึกข้อตกลง เพื่อสนับสนุนการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยายเมืองทองธานี ซึ่งมีแนวเส้นทางโครงการเป็นระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร และเส้นทางของรถไฟฟ้าสายดังกล่าวจะเป็นเส้นทางขนานทางด่วนอุดรรัถยา ผ่านบริเวณด้านข้างอาคาร อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ และสิ้นสุดโครงการที่ริมทะเลสาบเมืองทองธานี

สำหรับโครงการ Sky Entrance จะใช้งบประมาณการก่อสร้างทั้งสิ้นรวม 195 ล้านบาท เป็นการดำเนินงานก่อสร้างสะพานทางเชื่อม และพื้นที่ล็อบบี้ด้านข้างอาคารชาเลนเจอร์เชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้า ซึ่งโครงการ Sky Entrance ทางกองทรัสต์ฯ มีความจำเป็นต้องให้การสนับสนุนการก่อสร้างเพื่อเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างสถานี MT-01 กับอาคารอิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทรัพย์สินหลักที่กองทรัสต์เข้าลงทุน สามารถต่อยอดธุรกิจ และอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า ทั้งนี้ ตามประกาศรถไฟฟ้าสายสีชมพูเส้นทางหลักแคราย-มีนบุรี จะเปิดบริการช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ ทาง อิมแพ็ค ได้เตรียมรถรับส่งจากสถานีศรีรัช เข้าสู่ศูนย์ฯ เพื่ออำนวยความสะดวกลูกค้าเบื้องต้นจนกว่าสถานีส่วนต่อขยายจะเปิดบริการ

นายวัชระ จันทระโสภา หัวหน้าฝ่ายบริหารโครงการ บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด กล่าวเสริมว่า โครงการ Sky Entrance เป็นการดำเนินงานก่อสร้างโดยทีมอิมแพ็ค ค่าใช้จ่ายเป็นงบประมาณในส่วนของ อิมแพ็ค โกรท รีท ถือเป็นโครงการต่อเนื่องในการสร้างสะพานทางเชื่อม (Link Bridge) รอบศูนย์ฯ โดยเป็นการเชื่อมต่อจากสถานีรถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยายเมืองทองธานี สถานี MT-01 (อิมแพ็ค เมืองทองธานี) ตรงวงเวียนหน้าอิมแพ็ค ไปยังอาคารอิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ระยะทางรวม 230 เมตร พร้อมพื้นที่ล็อบบี้เชื่อมอาคารอิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ 1 และจะติดตั้งจอ LED ขนาดใหญ่ภายนอก สามารถมองเห็นได้จากรถไฟฟ้า และทางด่วน อีกทั้งติดตั้งจอทันสมัยภายในล็อบบี้ด้วย

อาคารนี้ถูกออกแบบมาให้มีรูปลักษณ์ทันสมัยเป็นอาคารแห่งอนาคต พร้อมนวัตกรรมที่ก้าวล้ำโดดเด่นเรื่องของความยั่งยืน ทั้งการออกแบบด้านสิ่งแวดล้อม และทางพลังงาน โดยจะเริ่มก่อสร้างในช่วงต้นปี 2567 ใช้ระยะเวลาก่อสร้างราว 14 เดือน แล้วเสร็จเดือนมีนาคม 2568 รอเปิดบริการรองรับรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายเมืองทองธานีแล้วเสร็จ อย่างไรก็ตาม ในระหว่างงานก่อสร้างโครงการทั้งหมด ทีมวิศวกรของอิมแพ็คจะเข้มงวดทำหน้าที่ตรวจสอบสัญญาจ้าง ประสานงานบริษัทก่อสร้างเพื่อดูแลผลกระทบ เช่น การจราจร ทัศนียภาพ ความสะดวก และความปลอดภัยในพื้นที่จนกว่าจะเสร็จสิ้นส่งมอบโครงการทั้งหมดราวเดือนกรกฎาคม 2568

‘นพ.อนุชิต’ แชร์อุทาหรณ์ ‘พระพิฆเนศ’ ติดหลอดลมคนไข้ เตือน!! ‘อย่าไปอมพระแล้วพูดกับใคร’

เมื่อวานนี้ (19 ต.ค.66) นพ.อนุชิต นิยมปัทมะ อายุรแพทย์โรคระบบทางเดินหายใจ รพ.มหาราชนครราชสีมา ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก หมอเอ หมอปอดโคราช ถึงกรณีอุทาหรณ์จากคนไข้รายหนึ่ง มีสิ่งแปลกปลอมติดอยู่ในหลอดลม เมื่อเอกซเรย์พบว่ามีสิ่งแปลกปลอมอยู่ด้านในหลอดลมข้างขวาของคนไข้ แพทย์จึงรีบทำการส่องกล้องและคีบออกมาได้สำเร็จ จึงพบว่าเป็น ‘พระพิฆเนศ’ ขนาดประมาณ 1x2 เซนติเมตร

ด้านนพ.อนุชิต ยังได้โพสต์เป็นอุทาหรณ์ในเฟซบุ๊กอีกว่า...

#อย่าไปอมพระแล้วพูดกับใครอีกนะ
พระพิฆเนศ สำลักลงในหลอดลมด้านขวา
คีบออกมาแล้วนะ
#chestMed korat
มาเรียนfellowที่เราสิครับ
ปล. ไม่ต้องถามเลขนะ เดี๋ยวเลขเคลื่อน

‘เศรษฐา’ เข้าเฝ้า ‘มกุฎราชกุมารซาอุฯ’ กระชับความสัมพันธ์สองชาติ ด้าน ซาอุฯ รับปากจะช่วย ‘ตัวประกันไทย’ ในสงครามอย่างเต็มที่

เมื่อวานนี้ (20 ต.ค.66) ณ โรงแรม Ritz Carlton กรุงริยาด ซาอุดีอาระเบีย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เข้าเฝ้าฯ เจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อาล ซะอูด (His Royal Highness Prince Mohammed bin Salman bin Abdulaziz Al Saud) มกุฎราชกุมาร และนายกรัฐมนตรีซาอุดีอาระเบีย ในโอกาสการหารือทวิภาคี ระหว่างการเข้าร่วมการประชุม ASEAN – GCC Summit โดยนายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญดังนี้

นายกรัฐมนตรีและมกุฎราชกุมาร และนายกรัฐมนตรีซาอุดีฯ ต่างยืนยันความตั้งใจร่วมกันในการส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือของทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะด้านการค้า การลงทุน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การท่องเที่ยว รวมถึงพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนไทยและซาอุดีฯ ให้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในวิสัยทัศน์ของพระราชาธิบดี รวมถึงมกุฎราชกุมาร และนายกรัฐมนตรีซาอุดีฯ ที่ทรงวางรากฐาน นำไปสู่การฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างทั้งสองประเทศ โดยไทยยืนยันมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือด้าน ต่าง ๆ ให้พัฒนายิ่งขึ้น เพื่อประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมแก่ประชาชนไทยและซาอุดีฯ

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีและ มกุฎราชกุมารและนายกรัฐมนตรีซาอุดีฯ หารือประเด็นความร่วมมือดังนี้

ด้านความสัมพันธ์ ทั้งสองฝ่ายหารือถึงการดำเนินความสัมพันธ์ในช่วง 2 ปี ที่ผ่านมา โดยเฉพาะควรส่งเสริมการค้าและการลงทุนซึ่ง นายกฯ เสนอการจัดทำ Thai-GCC FTA รวมทั้งแสดงการสนับสนุนการเป็นเจ้าภาพ Expo 2030 จัดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2034 ของซาอุดีอาระเบีย รวมถึงแนวทางความร่วมมือและประเด็นที่คั่งค้างในด้าน 1) การเมืองและการกงสุล 2) การลงทุน 3) ความมั่นคงและการทหาร 4) วัฒนธรรมและการท่องเที่ยว และ 5) เศรษฐกิจและการค้า โดยไทยพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสภาความร่วมมือซาอุดี - ไทย (Saudi – Thai Coordination Council: STCC) ครั้งที่ 1 เพื่อทบทวนการดำเนินความสัมพันธ์ และกำหนดแนวทางความร่วมมือทั้ง 5 ด้าน

ด้านความมั่นคง ทั้งสองฝ่ายพร้อมส่งเสริมความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ซึ่งที่ผ่านมามีการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูง เพื่อเข้าร่วมงานนิทรรศการด้านการป้องกันประเทศของทั้งสองฝ่ายแล้วในงาน Defense and Security ของไทย และงาน World Defense Show ของซาอุดีฯ ซึ่งทำให้ไทยและซาอุดีฯ มีโอกาสขยายความร่วมมือในด้านความมั่นคงมากยิ่งขึ้น ซึ่งไทยจะให้ศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร และสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ เร่งรัดความร่วมมือให้เป็นรูปธรรมต่อไป

ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีขอบคุณรัฐบาลซาอุดีอาระเบียที่ดูแลคนไทยกว่า 6,000 คน ที่อยู่ในซาอุดีอาระเบีย และแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล ซึ่งมีคนไทยเสียชีวิต บาดเจ็บ และถูกลักพาตัว ซึ่งซาอุดีอาระเบียรับที่จะดำเนินการอย่างเต็มที่ในการให้ความช่วยเหลือคนไทยที่ถูกจับกุมตัว

‘SENA’ เปิดโครงการคอนโดใหม่ 'บ้านร่วมทางฝัน 6' ยืนยัน!! กำไรทั้งหมดบริจาคให้ ‘รพ.วชิรพยาบาล’

เมื่อวานนี้ (20 ต.ค.66) ‘SENA’ เปิดตัวโครงการใหม่ ‘บ้านร่วมทางฝัน 6′ คอนโดมิเนียมบนถนนบรมราชชนนี อสังหาริมทรัพย์เพื่อสังคมภายใต้การดำเนินงาน มูลนิธิบ้านร่วมทางฝัน นำกำไรทั้งหมดหลังหักค่าใช้จ่ายบริจาคให้โรงพยาบาล วชิรพยาบาล เพื่อนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการช่วยเหลือและรักษาผู้ป่วย

ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)  ได้เผยถึงการดำเนินงานของมูลนิธิฯ ผ่านโครงการบ้านร่วมทางฝัน ว่า โครงการบ้านร่วมทางฝัน โดย ‘SENA’ ดำเนินมาถึง โครงการที่ 6 ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2546 เป็นเวลากว่า 20 ปี

วัตถุประสงค์และเป้าหมายที่จะพัฒนาโครงการเพื่อเป็นการตอบแทนสังคม โดยนำกำไรทั้งหมดหลังหักค่าใช้จ่าย สนับสนุนและช่วยเหลือโรงพยาบาลภาครัฐ เพื่อพัฒนาชีวิตผู้ที่เข้ามาทำการรักษาให้ดีขึ้น สร้างแนวทางการบริหารจัดการธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน

มูลนิธิบ้านร่วมทางฝัน จึงเป็นเป้าหมายการพัฒนาที่อยู่อาศัยอย่างยั่งยืนที่สร้างความสุขให้ผู้อยู่อาศัย อีกทั้งยังเป็นส่วนร่วมในการพัฒนาชีวิตของคนในสังคมอย่างยั่งยืนอีกด้วย โดยโครงการบ้านร่วมทางฝัน 6 นี้ เป็นโครงการล่าสุด ที่จะนำกำไรทั้งหมดมอบให้โรงพยาบาลวชิรพยาบาล เพื่อนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดทางการแพทย์

“โครงการบ้านร่วมทางฝัน เป็นหนึ่งในวิธีคิดที่จะบริจาคอย่างยั่งยืน ที่ SENA สามารถทำได้ในระยะยาว โดยใช้สิ่งที่เราถนัดที่สุด คือการเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ มาต่อยอดพัฒนาไปสู่การช่วยเหลือสังคมด้วยการสร้างที่อยู่อาศัยในราคาที่คุ้มค่า และนำกำไรหลังหักค่าใช้จ่ายมอบให้โรงพยาบาลรัฐ เป็นโครงการที่ตั้งใจทำเพื่อตอบแทนคืนสู่สังคมอย่างแท้จริงและจริงใจ”

ศ.ดร.สุรพล นิติไกรพจน์ นายกสภามหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช เปิดเผยว่า ความพร้อมทางด้านสาธารณสุขและทางการแพทย์ถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุด เพื่อให้สอดรับกับจำนวนผู้ป่วยที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ ปัจจุบันโรงพยาบาลภาครัฐหลายแห่งยังขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นอยู่มาก แม้ว่าจะมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง แต่การรักษาจะสำเร็จไปไม่ได้หากยังขาดเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย ในนามตัวแทนโรงพยาบาลวชิรพยาบาลรู้สึกขอบคุณเป็นอย่างยิ่งที่ มูลนิธิบ้านร่วมทางฝัน โดย SENA เห็นถึงความสำคัญต่อบุคลากรทางการแพทย์ โดยทางโรงพยาบาลจะนำเงินที่ได้รับมอบมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ป่วยและการศึกษาแพทย์ต่อไป

โครงการบ้านร่วมทางฝัน 6 ตั้งอยู่บนถนนบรมราชชนนี บนเนื้อที่ 2 ไร่เศษ คอนโดมิเนียม สูง 19 ชั้น จำนวน 1 อาคาร รวมห้องพักอาศัยทั้งหมด 354 ยูนิต มีห้องแบบ 1 BEDROOM,1BEDROOM PLUS และ 2 BEDROOM ขนาดตั้งแต่ 24 ตารางเมตร จนถึง 47 ตารางเมตร รองรับที่จอดรถมากกว่า 134 คัน ราคาเริ่มต้นเพียง 1.7 ล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน ไตรมาส 2/2569

การออกแบบห้องพัก ภายในเปิดโล่ง กว้างขวางรับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ทุกมุมมอง เห็นวิวคลองบางกอกน้อย สัมผัสอากาศบริสุทธิ์ ร่มรื่นด้วยธรรมชาติ ด้วยบรรยากาศสุดผ่อนคลาย พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ อาทิ Lobby lounge, สระว่ายน้ำระบบเกลือ พร้อม Jacuzzi, ฟิตเนส, สวน Rooftop, Laundry Room, ห้องประชุม, Co-Working Space ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนวัยทำงาน, Wi-Fi บริเวณพื้นที่ส่วนกลาง, กล้องวงจรปิด CCTV, เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง, แบ่งโซนระหว่างลูกบ้านและผู้มาติดต่อชัดเจน, รองรับจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า(EV Charger ), Access Card สำหรับเข้า - ออก พร้อมระบบควบคุมรถเข้า - ออกโครงการ แบบบลูทูธ

การเดินทางสะดวกทั้งรถยนต์ส่วนตัวและรถสาธารณะ โครงการตั้งอยู่ติดถนน ทางคู่ขนานถนนบรมราชชนนี  (ขาเข้า) สามารถเชื่อมต่อ ใจกลาง 3 เส้นทางหลัก ถนนบรมราชชนนี ถนนกาญจนาภิเษก และ ทางด่วนพิเศษประจิมรัถยา เข้า - ออกเมืองได้อย่างง่ายดาย ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าสายสีแดง (สถานีตลิ่งชัน หรือ บางบำหรุ) เพียง 3 ก.ม. และ รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน สถานีบางขุนนนท์ เพียง 3 ก.ม. ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกและสถานที่สำคัญต่าง ๆ อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นแหล่งคอมมูลนิตี้มอลล์ ศูนย์การค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต โรงพยาบาล อาทิ เช่น ช่างชุ่ย, เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า, เมเจอร์ ปิ่นเกล้า, เดอะเซ้นส์ ปิ่นเกล้า, เดอะเซอร์เคิล ราชพฤกษ์, เทสโก้ โลตัส, โรงพยาบาลเจ้าพระยา, โรงพยาบาลศิริราช, โรงพยาบาล ตา หู คอ จมูก, โรงพยาบาลธนบุรี ถือเป็นอีกหนึ่งทำเลศักยภาพที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในทุกด้าน มีสภาพแวดล้อมที่ดีเหมาะแก่การอยู่อาศัย ไม่ว่าจะเลือกซื้อที่อยู่อาศัยหรือสำหรับลงทุน

บ้านร่วมทางฝัน 6 พร้อมเปิดให้ชมห้องตัวอย่างได้แล้ววันนี้ กำหนดเปิดขายอย่างเป็นทางการ 18 พ.ย. 2566 พบโปรโมชัน ห้องแต่งครบ Fully Furnished ราคาพิเศษ พร้อมร่วมลุ้นรางวัลต่าง ๆ ในงานมากมายสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 1775 กด 99 หรือ sena .co.th


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top