Tuesday, 29 April 2025
TheStatesTimes

พาสปอร์ตมาเลเซีย ไปไหนก็ได้...ยกเว้น 'อิสราเอล'

รู้หรือไม่? ในพาสปอร์ตของมาเลเซีย จะมีข้อความระบุไว้ว่า… ‘This passport is valid for all countries except Israel’ หรือแปลว่า ‘หนังสือเดินทางนี้ใช้ได้กับทุกประเทศ ยกเว้นอิสราเอล’

ปัจจุบันความสัมพันธ์ของ ‘มาเลเซีย-อิสราเอล’ อยู่ในระดับคู่ขนาน และเมื่อเกิดสงคราม ‘อิสราเอล-ปาเลสไตน์’ ยิ่งทำให้ทางการของมาเลเซีย ‘ตัดความสัมพันธ์พลเมือง’ โดยไม่ให้เข้าอิสราเอล แต่ในทางกลับกัน ความสัมพันธ์ระหว่าง ‘มาเลเซีย-ปาเลสไตน์’ นั้นดีมาก หนำซ้ำในฉนวนกาซา ยังมีถนนชื่อ ‘มาเลเซีย’ อีกด้วย

‘กรมพัฒน์ฯ’ จับมือ ‘Shopee’ จัดโปรโมชัน แจก Coins-ส่วนลด 50% หวังกระตุ้นยอดขายให้ผู้ประกอบการชุมชนผ่านไลฟ์สด ดีเดย์ 18 ต.ค.นี้

(16 ต.ค.66) นายจิตรกร ว่องเขตกร รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ร่วมกับ Shopee จัดกิจกรรมดันยอดขายผ่านไลฟ์สด ในวันพุธที่ 18 ตุลาคม 2566 โดยได้คัด 3 ร้านค้า ที่ชนะรางวัล Shopee Award of Thailand e-Commerce Genius 2023  เพื่อกระตุ้นยอดขายให้กับผู้ประกอบการชุมชน ภายใต้การส่งเสริมของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าด้วย คือ

1.ร้านขนมทันจิตต์ เวลา 20.00 - 20.30 น.
2.ร้านรสหนึ่ง เวลา 20.30 - 21.00 น.
3.ร้าน Pick Me Please เวลา 21.00 - 21.30 น.

โดยจะไลฟ์สด บนแอปพลิเคชัน Shopee (search ‘สุขใจซื้อของไทย') หรือเข้าเว็บไซต์ https://shopee.co.th/dbdonline พร้อมรับโปรโมชัน 2 ต่อ ต่อที่ 1 : แจก Coins รวมกว่า 6,000 Coins ตลอดช่วงเวลาการไลฟ์ของทั้ง 3 ร้าน และต่อที่ 2 : โค้ดส่วนลด 50% ลดสูงสุด 100 บาท

>> ของดีนำมาขาย

สำหรับสินค้าที่นำมาจัดกิจกรรมครั้งนี้ เป็นสินค้าคุณภาพที่ผ่านการคัดสรรเพื่อผู้บริโภค ได้แก่ ร้านทันจิตต์ เผือกทอดรูปตะแกรง ที่มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์มาอย่างต่อเนื่องกว่า 40 ปีจากรุ่นสู่รุ่น และปัจจุบันได้ยกระดับการผลิตจาก ในครัวเรือนสู่โรงงานที่ได้มาตรฐาน

ร้านรสหนึ่ง สินค้า OTOP จ.สิงห์บุรี ปลาช่อนแม่ลาแดดเดียวของดีเมืองสิงห์บุรี สูตรดั้งเดิม รสกลมกล่อม ไม่เค็มเกินไป ใส่ใจทุกขั้นตอนการผลิต ไม่ว่าจะเป็นกางมุ้งตาก ไม่มีแมลงกวน ทำให้สะอาด ปลอดภัย ผลิตใหม่สดทุกวัน ไม่มีสารกันเสีย

ร้าน Pick me please หมูหยองกรอบคั่วเตาถ่าน ซึ่งได้เลือกใช้เนื้อหมูเฉพาะส่วนไร้มันมาปรุงด้วยสูตรลับเฉพาะ และนำมาคั่วบนเตาถ่านด้วยเวลากว่า 4 ชั่วโมง จนกรอบ และมีลักษณะเป็นชิ้นหมูหยองที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ปราศจากผงชูรสเเละสารกันเสีย การันตีความอร่อย เหมาะกับผู้บริโภคที่รักสุขภาพทุกวัย

การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการกระตุ้นยอดขาย ยังช่วยสร้างการมองเห็นให้กับร้านค้ามากขึ้น และถือเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมเฉลิมฉลอง ในโอกาสการสถาปนากรมพัฒนาธุรกิจการค้าครบรอบ 100 ปี ซึ่งช่วยตอกย้ำถึงเจตนารมณ์ของกรมฯ ในการเดินหน้าส่งเสริมและผลักดันให้ธุรกิจของผู้ประกอบการไทยให้เติบโตอย่างมืออาชีพ ส่งผลดีต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศได้

>> ร้านค้า 400 ร้านบนแอปพลิเคชัน

โดยตลอดทั้งปีนี้ กรมฯ มีแผนร่วมมือกับ Shopee อย่างต่อเนื่องในการมอบสิทธิพิเศษต่างๆ ให้กับผู้ประกอบการออนไลน์ไทย เพื่อช่วยส่งเสริมการขาย ขยายโอกาสทางการตลาดออนไลน์ให้กับผู้ประกอบการ

ปัจจุบัน มีผู้ประกอบการรายย่อยของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าที่จำหน่ายสินค้าประเภทต่างๆ อยู่บนแอปพลิเคชัน Shopee จำนวนกว่า 400 ราย การจัดกิจกรรมดังกล่าวจะช่วยส่งเสริมให้ผู้ประกอบการรายย่อยสามารถขายสินค้าได้เพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถเลือกซื้อสินค้า ตามวัน เวลา ดังกล่าวข้างต้น หรือสอบถามรายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ส่วนส่งเสริมการใช้นวัตกรรมพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ กองพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า สายด่วน 1570 โทรศัพท์หมายเลข 0 2547 5961 และ www.dbd.go.th

'รพ.ปาเลสไตน์' จำยอม!! ปรับตู้แช่รถไอศกรีมเป็นตู้แช่ศพชั่วคราว หลังพบผู้เสียชีวิตเพิ่มทุกวัน แต่ห้องดับจิตเก็บได้เพียง 10 ศพ

การสู้รบในฉนวนกาซาระหว่างกองกำลังติดอาวุธฮามาส และกองทัพอิสราเอลยังคงดุเดือดต่อเนื่อง ส่งผลให้ยอดเสียชีวิตจากทั้งสองฝ่าย เพิ่มขึ้นไปเกินกว่า 4 พันราย บาดเจ็บนับหมื่นคนแล้ว 

และต้องยอมรับว่าพื้นที่ในกาซาเสียเปรียบกว่าฝ่ายอิสราเอลมาก เนื่องจากสาธารณูปโภคขาดแคลน และยังถูกตัดน้ำ ตัดไฟ และพลังงานเข้าพื้นที่ ทำให้ปฏิบัติการกู้ภัย และด้านการแพทย์ทำด้วยความยากลำบากอย่างมาก

จนล่าสุด เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในเขตพื้นที่ฉนวนกาซา ได้ออกมายืนยันยอดผู้เสียชีวิตมากกว่า 2,500 คน จากการถล่มด้วยเครื่องบินทิ้งระเบิดของอิสราเอล ในจำนวนนั้นกว่า 1 ใน 4 เป็นกลุ่มเด็กๆ ชาวปาเลสไตน์ มีการเผยแพร่ภาพศพที่ถูกห่อไว้ในผ้าขาวจำนวนมาก ที่ยังไม่สามารถทำพิธีทางศาสนาได้ เพราะการสู้รบติดพัน และการเดินทางขนส่งในช่วงเวลานี้ อาจกลายเป็นเป้าโจมตีจากฝ่ายอิสราเอล 

ด้วยปัจจัยหลายด้านจำกัด ชาวปาเลสไตน์ไม่มีทางเลือก ต้องนำตู้แช่รถไอศกรีมท้องถิ่นมาใช้เป็นตู้แช่ศพชั่วคราวไปก่อน 

ด็อกเตอร์ ยัสเซอร์ อาลี นายแพทย์ประจำโรงพยาบาลชูฮาดา อัล-อัคซอร์ กล่าวว่า ตอนนี้ในห้องดับจิตของโรงพยาบาลสามารถเก็บศพได้เพียง 10 ศพเท่านั้น และการเคลื่อนย้ายศพไปยังสุสานแทบเป็นไปไม่ได้ มิหนำซ้ำ ศพยังล้นสุสาน เพราะมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นทุกวัน จนไม่สามารถจัดการได้ทัน จึงจำเป็นต้องใช้รถตู้แช่ไอศกรีมเอามาเก็บศพก่อน 

ทำให้เราได้เห็นภาพรถขนไอศกรีมหวานเย็น สีสันสดใส ชวนน่ารับประทาน ต้องถูกดัดแปลงให้กลายเป็นตู้แช่เก็บศพจำนวนมาก ที่ขัดแย้งกันอย่างสิ้นเชิง แต่ความน่าหดหู่ยังเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น 

ด็อกเตอร์ ยัสเซอร์ อาลี ย้ำว่า ต่อให้วันนี้เรามีรถตู้แช่ไว้เก็บศพแทนโรงพยาบาลได้ก็จริง แต่ไม่ช้าก็เร็ว รถตู้แช่เหล่านี้ก็จะมีศพเต็มจนล้นเกินความจุเช่นกัน ทางโรงพยาบาลยังต้องหาเต็นท์ชั่วคราวเพิ่มไว้เก็บศพที่จะเข้ามาเพิ่มอีกในวันต่อๆ ไปให้ทัน 

ด้าน ซาลามา มารอฟ ผู้อำนวยการสำนักการข่าวของรัฐบาลปาเลสไตน์ ยอมรับว่า การสู้รบยังเป็นอุปสรรคที่ทำให้ครอบครัว และ ญาติๆ ไม่สามารถเข้ามารับศพในโรงพยาบาลกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาได้ ทางรัฐบาลจึงตัดสินใจเร่งสร้างสุสานฝังศพเฉพาะกิจ เพื่อประกอบพิธีฝังศพผู้วายชนม์จำนวนกว่า 100 ศพ ก่อนที่จะมีศพใหม่เพิ่มเติมเข้ามามากกว่านี้ 

ในขณะที่กองทัพอิสราเอลยังยืนยันที่จะเดินหน้าโจมตีกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา ทั้งทางบก ทางเรือ และ ทางอากาศ กดดันให้ชาวปาเลสไตน์ที่อาศัยอยู่อย่างหนาแน่นในฉนวนกาซา ต้องอพยพลงใต้กลายเป็นคนไร้ที่อยู่อาศัยแล้วกว่า 1 ล้านคน 

ซึ่งชาวปาเลสไตน์จำนวนไม่น้อย รู้สึกเหมือนประวัติศาสตร์แห่งโศกนาฏกรรมวันนักบาห์ในปี 1948 เกิดขึ้นอีกครั้ง ซึ่งเป็นผลพวงจากสงครามอาหรับ-อิสราเอล ทำให้ชาวปาเลสไตน์กว่า 7 แสนคน ถูกกองทัพอิสราเอลขับไล่ออกนอกดินแดน กลายเป็นคนไร้รัฐ นับเป็นปัญหาผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ที่ยังค้างคามาจนถึงปัจจุบัน 

แต่วันนี้ ชาวปาเลสไตน์กำลังเผชิญหน้ากับโศกนาฏกรรมนักบาห์ครั้งที่ 2 ที่ยังไม่สามารถประเมินความเสียหายจากสงคราม และการพลัดถิ่นฐานอีกครั้งของชาวปาเลสไตน์ได้ จนกว่าการปะทะระหว่างอิสราเอล และ กลุ่มฮามาสจะสงบ

'นทท.ต่างชาติ' ขอบคุณทั้งน้ำตาหลังได้กล้องคืน ลั่น!! "ตำรวจไทย คือ ตำรวจที่ดีที่สุดในโลก"

(16 ต.ค. 66) "กล้อง ผมซื้อใหม่ได้ แต่รูปภาพพวกนี้ ผมจะหาได้จากที่ไหนอีก" นักท่องเที่ยวชาวสเปนกล่าวทั้งน้ำตา หลังได้รับ E-Mail จากสืบดอนเมืองให้มารับกระเป๋ากล้อง และเมื่อเปิดกระเป๋าเพื่อตรวจสอบของมีค่าด้านใน ปรากฏว่าสิ่งของภายในอยู่ครบหมด ไม่มีหายเลยสักชิ้น ทั้งกล้องและเมมโมรี่การ์ดและอื่น ๆ ซึ่งมีมูลค่ามหาศาล 

โดยคลิปดังกล่าวนี้กลายเป็นไวรัลชั่วข้ามคืน หลังจากผู้ใช้ TikTok รายหนึ่งที่ชื่อว่า @vikkipatara หรือ หมวดไวกิ้ง ได้แชร์คลิปนักท่องเที่ยวชายชาวสเปนรายหนึ่งที่ได้กระเป๋ากล้องคืนหลังทำหายไป โดยทางนักท่องเที่ยวชายรายนี้ดีใจมากที่เมมโมรี่การ์ดของเขายังอยู่ เพราะเขารู้สึกว่าต่อให้กล้องจะหายไป เขายังสามารถเก็บเงินซื้อได้ใหม่ แต่หากเมมโมรี่การ์ดในกล้องที่บันทึกภาพความสวยงามของเมืองไทยนั้นหายไป เขาคงเสียใจเป็นอย่างมาก

เขากล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจดอนเมืองทั้งน้ำตา พร้อมกับบอกอีกว่าเมื่อเขากลับสเปน เขาจะไปบอกกับชาวสเปนทุกคนว่า ‘ตำรวจไทย’ ดีขนาดไหน สำหรับใครที่จะมาเที่ยวเมืองไทย จะได้รู้สึกปลอดภัย และย้ำอีกว่า "พวกคุณคือตำรวจที่ดีที่สุดในโลก" งานนี้เล่นเอาคุณตำรวจในคลิปถึงกับซึ้งจนน้ำตาไหลเลยทีเดียว

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง "ช่วยชีวิต รักษาชีวิต" จัดงบอีกกว่า 70 ล้านบาท มอบครุภัณฑ์และอุปกรณ์ทางการแพทย์แก่โรงพยาบาลในส่วนภูมิภาค รวม 39 แห่ง พร้อมมอบรถพยาบาลติดตั้งอุปกรณ์ให้แก่โรงพยาบาลแม่ระมาด จังหวัดตากอีกจำนวน 1 คัน

วันนี้ (วันจันทร์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2566) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการ พร้อมด้วย นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ ที่ปรึกษาประธานกรรมการ นายวิชิต ชินวงศ์วรกุล รองประธานกรรมการ  นายจารุรัตน์ คุณัตถานนท์ กรรมการและเหรัญญิก และคณะกรรมการมูลนิธิฯ จัดพิธีมอบครุภัณฑ์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ อาทิ กล้องส่องตรวจลำไส้ใหญ่ชนิดวิดีทัศน์ แบบคมชัดสูง กล้องส่องตรวจและผ่าตัดสำหรับการผ่าตัดแบบปิดชนิดสร้างภาพ ด้วยการเปล่งแสงฟลูออเรสเซนต์ (fluorescence) เครื่องเอกซเรย์ฟัน ปาก และกะโหลกศีรษะ ระบบดิจิทัลแบบ 3 มิติ เป็นต้น ให้แก่โรงพยาบาลต่างๆ ในส่วนภูมิภาค จำนวน 39 แห่ง รวม 26 จังหวัด รวมมูลค่ามอบการครุภัณฑ์และอุปกรณ์ทางการแพทย์แก่โรงพยาบาลในส่วนภูมิภาคในครั้งนี้ กว่า 70 ล้านบาท พร้อมกันนี้ ยังได้มอบรถพยาบาลพร้อมอุปกรณ์ให้แก่โรงพยาบาลแม่ระมาด จังหวัดตากอีกจำนวน 1 คัน โดยมี ผู้อำนวยการโรงพยาบาล และผู้แทนจากโรงพยาบาลแต่ละโรงพยาบาลเป็นผู้รับมอบ ณ ห้องประชุมชั้น 2 อาคาร 2 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ

นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เปิดเผยว่า มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้จัดสรรงบประมาณเพื่อจัดหาอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ตามความต้องการของแต่ละโรงพยาบาล เพื่อมอบให้แก่โรงพยาบาลต่าง ๆ ในส่วนภูมิภาคในวันนี้ เพราะเล็งเห็นว่าถึงแม้โรงพยาบาลจะมีบุคคลากรที่มีความรู้ ความสามารถเพียงใด แต่หากขาดซึ่งอุปกรณ์และเครื่องมือที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ ก็มิอาจจะให้การช่วยชีวิต รักษาชีวิตประชาชนได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพ ดังนั้นเพื่อเพิ่มศักยภาพของแพทย์และโรงพยาบาลในการบริการด้านสาธารณสุข และกระจายการรักษาให้ทั่วถึง โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลที่ยังขาดแคลนอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ที่จำเป็น จึงได้จัดทำโครงการนี้ขึ้นมา ทั้งนี้ต้องขอขอบพระคุณผู้มีจิตศรัทธาทั้งหลายที่ได้ให้การสนับสนุนกิจกรรมของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งด้วยดีเสมอมา

สำหรับการสนับสนุนเครื่องมือทางการแพทย์ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ริเริ่มสนับสนุนครั้งใหญ่เนื่องในโอกาสครบรอบ 110 ปี มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง  ในปีพ.ศ.2563 รวมมูลค่า 110 ล้านบาท โดยได้มีการสนับสนุนเรื่อยมา ซึ่งตลอดระยะเวลากว่า 113 ปี มูลนิธิฯ ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ  ศาสนา  เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลาย ๆ ทาง เพื่อเป็นองค์กร สาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ดังปณิธาน “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”
ติดตามข่าวสารกิจกรรม การช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”

‘ผู้ว่าฯ กทม.’ ไม่ขัดหากเปิดผับบาร์ถึงตี 4 คาด!! เริ่มทดลอง ธ.ค.นี้ ก่อนปีใหม่

(16 ต.ค. 66) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยถึงความพร้อมในการขยายเวลาเปิด-ปิดสถานบันเทิง ถึงเวลา 04.00 น. ในพื้นที่กรุงเทพฯ ตามนโยบายของรัฐบาล ว่า กทม. ไม่ขัดข้องในนโยบายดังกล่าว โดยก่อนหน้านี้ ได้หารือกับทางคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟพาวเวอร์แห่งชาติ เรื่อง Soft Power ที่เสนอความคิดร่วมกันที่จะทำให้เรื่องดังกล่าวชัดเจน และมีมาตรการรองรับในการป้องกันไม่ให้เยาวชนเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง

“ในปัจจุบันยังเห็นผับที่เปิดเกินเวลาอยู่บ้าง ถ้าทุกคนออกมาร่วมกันทำให้ถูกกฎหมาย และทำให้มีระเบียบในการเข้า-ออกให้ชัดเจน ในส่วนของ กทม. ก็ไม่น่าจะมีข้อขัดข้องใด และคิดว่าเป็นเรื่องที่ดี” นายชัชชาติ กล่าว

พร้อมระบุว่า ในส่วนของการปฏิบัติ อาจจะต้องปรับปรุงการแบ่งโซนให้เหมาะสมกับปัจจุบัน เนื่องจากไม่ค่อยทันสมัยตามการขับเคลื่อนของเมืองที่เปลี่ยนไป โดยต้องหารือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกทางหนึ่ง เพื่อไม่ให้เกิดเสียงดังสร้างความรำคาญให้ผู้อยู่อาศัยบริเวณใกล้เคียง โดยต้องมีกรอบในการปฏิบัติให้ชัดเจน รวมถึงในแง่ของการกำกับดูแล ไม่ให้เยาวชนเข้าสถานบันเทิงและการทำผิดกฎหมายในเรื่องยาเสพติดในพื้นที่ ซึ่งเชื่อว่าหากทำให้โปร่งใส และมีระเบียบปฏิบัติชัดเจน ย่อมดีกว่าการลักลอบเปิดแบบผิดกฎหมายแน่นอน

นอกจากนี้ ยังมีผู้ที่เกี่ยวข้องในแง่เศรษฐกิจอีกมากมาย เช่น พ่อค้า-แม่ค้าในตลาดที่ขายของและทำอาหาร คนขับรถสาธารณะ เป็นต้น ซึ่งส่วนหนึ่งก็เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจอีกทางด้วย จึงเป็นสิ่งที่ต้องวิเคราะห์ให้รอบด้านหลายมิติ โดยคาดว่าเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการทดลองเปิดสถานบันเทิงจนถึง 04.00 น. คือ ช่วงเทศกาลปีใหม่ประมาณเดือนธ.ค.นี้

‘จีน’ เร่งพัฒนาระบบ ‘สิทธิบัตร’ รองรับอุสาหกรรมดิจิทัล หลังขึ้นแท่นผู้ส่งออกสินค้าสร้างสรรค์ เป็นที่ยอมรับในเวทีโลก

เมื่อวานนี้ (15 ต.ค. 66) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมื่อวันเสาร์ (14 ต.ค.) สำนักบริหารทรัพย์สินทางปัญญาแห่งชาติจีน รายงานว่าการเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัลของจีนได้รับแรงสนับสนุนจากการเติบโตของสิทธิบัตรในอุตสาหกรรมดิจิทัล

เซินฉางอวี่ หัวหน้าสำนักบริหารฯ เผยว่าจำนวนการออกสิทธิบัตรการประดิษฐ์ในกลุ่มธุรกิจหลักของเศรษฐกิจดิจิทัลของจีนเติบโตด้วยอัตราเฉลี่ยร้อยละ 18 ต่อปีในช่วงปี 2016-2022

ขณะเดียวกันจำนวนสิทธิบัตรการประดิษฐ์ทั้งหมดในภาคธุรกิจเหล่านี้สูงแตะ 1.6 ล้านฉบับ เมื่อนับถึงสิ้นปี 2022 ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 38 ของปริมาณสิทธิบัตรภายในประเทศ

จีนได้เพิ่มความพยายามสร้างระบบสิทธิบัตรที่ดียิ่งขึ้น เพราะเป็นเครื่องมือช่วยส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัล พร้อมกับยกระดับกฎเกณฑ์การตรวจสอบสิทธิบัตรเทคโนโลยีใหม่ เช่น อินเทอร์เน็ต คลังข้อมูลขนาดใหญ่ และปัญญาประดิษฐ์

ดาเรน ถัง ผู้อำนวยการองค์กรทรัพย์สินทางปัญญาโลก กล่าวว่าเศรษฐกิจดิจิทัลของจีนเป็นที่ยอมรับในระดับสากล โดยเศรษฐกิจของจีนได้เปลี่ยนผ่านสู่การเป็นหนึ่งในเครื่องจักรขับเคลื่อนนวัตกรรม ความคิดสร้างสรรค์ และเทคโนโลยีอันทรงพลังที่สุดของโลก

“จีนได้เติบโตเป็นผู้ส่งออกสินค้าสร้างสรรค์ (creative goods) จากประเทศกำลังพัฒนาในระดับชั้นนำ และทรัพย์สินทางปัญญามีส่วนสำคัญต่อการเติบโตนี้” ถังกล่าวเสริม

'วราวุธ' เผย!! ขอควงล่ามภาษามือทุกครั้งที่ 'แถลง-สัมภาษณ์' หวังเปิดโอกาสให้ผู้พิการทางหู รับรู้ทุกข้อมูลข่าวสาร

(16 ต.ค. 66) นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยถึงความช่วยเหลือแรงงานไทยที่เดินทางจากอิสราเอลว่า พม.ได้ส่งสหภาพวิชาชีพ เข้าไปพูดคุย 90 ราย แบ่งเป็นผู้ชาย 88 ราย ผู้หญิง 2 ราย ในจำนวน 90 รายนี้ ประสงค์รับการสนับสนุนเรื่องที่พักและค่าใช้จ่ายเดินทาง 29 ราย เป็นจำนวนเงินที่สนับสนุน 28,880 บาท ซึ่งได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว และในส่วนแต่ละจังหวัด ได้ให้เจ้าหน้าที่ พม.จ.ทุกจังหวัด ที่มีความพร้อมเข้าไปพูดคุย กับครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบ มีอยู่ทั้งหมด 18 จังหวัด  

และได้มีการบูรณาการร่วมกับกาชาด และกรมสุขภาพจิตแต่ละจังหวัด เยี่ยมบ้านทุกบ้านที่ได้รับผลกระทบ และมีการประเมินความต้องการปรึกษาฟื้นฟูสภาพจิตใจ 87 ราย พิจารณาเงินสงเคราะห์ 13 ราย และมีการทำแผนช่วยเหลือรายบุคคล ในระยะสั้น ระยะยาว โดยการเยี่ยมครอบครัว แบ่งเป็นผู้ได้รับบาดเจ็บ 16 ราย ครอบครัวที่ถูกจับตัวประกัน 17 ราย และมีสายด่วน 1330 พร้อมให้คำปรึกษา 24 ชั่วโมง 

ขณะเดียวกัน ให้รายงานกับตนทุกวัน พร้อมแสดงความเสียใจกับครอบครัว รัฐบาลกำลังประสานงานเร่งพิสูจน์อัตตลักษณ์ ซึ่งต้องใช้เวลา เพราะทางการอิสราเอลได้การประสานจากหลายประเทศ  ทั้งนี้ รัฐบาลไทยเร่งดำเนิการอยู่ ยืนยันเจ้าหน้าพม.มีพอเพียงในการเข้าไปดูแลเยียวยา

อย่างไรก็ตาม การให้สัมภาษณ์ นายวราวุธ นำล่ามภาษามือ มาแปลในการให้สัมภาษณ์ข้างๆ โดยชี้แจงว่า จากนี้ไปจะมีล่ามภาษามือทุกครั้ง ในการแถลง หรือการสัมภาษณ์ ในการประชุมครม.ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ประชาชนที่มีปัญหาผู้พิการทางหู ส่วนการเดินทางไปภารกิจต่างประเทศ จะพิจารณาเป็นกรณีไป เพราะแต่ละประเทศจะแตกต่างกัน และการฟังภาษามือต้องเรียน ซึ่งตนเองก็ต้องเรียนและฝึกใช้ภาษามือ พร้อมกันยังได้โชว์สกิลภาษามือ เพลงหมอกและควัน ให้สื่อมวลชนดูด้วย

'พีระพันธุ์' ขีดเส้นอีก 2 สัปดาห์ ราคาเบนซินต้องได้ข้อยุติ ลั่น!! ต้องลงอีกลิตรละ 2.50 บาท เป็นของขวัญปีใหม่ให้คนไทย

(16 ต.ค. 66) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า กระทรวงพลังงาน เตรียมกลับไปพิจารณาแนวทางการปรับลดราคาค่าน้ำมันเบนซิน เพื่อช่วยลดค่าครองชีพให้กับประชาชน เบื้องต้นจะทำให้เทียบเคียงกับการลดราคาน้ำมันดีเซลในช่วงที่ผ่านมา เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน สำหรับการประชุม ครม. ครั้งนี้ กระทรวงพลังงานรายงานรายละเอียดมาแล้วเบื้องต้น 2 ทางเลือก และได้นำมารายงานให้กับที่ประชุม ครม. รับทราบแล้ว แต่ยังไม่โดนและครอบคลุมการช่วยเหลือตามที่รัฐบาลตั้งใจไว้ 

โดยทางเลือกแรก คือ การช่วยเหลือกลุ่มผู้ขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง เหมือนที่ทำมาก่อนหน้านี้ โดยใช้เงินเดือนละ 95 ล้านบาท 

ส่วนทางเลือกที่ 2 คือ การช่วยเหลือขยายจากผู้ขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง เพิ่มไปยังกลุ่มผู้มีรายได้น้อย โดยใช้เงินเดือนละ 4,000 ล้านบาท

“กระทรวงพลังงานได้มารายงานข้อเสนอ 2 มาตรการเมื่อเช้า ก็ไม่ค่อยเห็นด้วยเพราะนโยบายของรัฐบาลต้องลดราคาน้ำมันในภาพรวมไม่ใช่ช่วยเหลือเป็นกลุ่ม ๆ จึงได้บอกให้เจ้าหน้าที่กลับไปทำรายละเอียดโดยให้เพิ่มทางเลือกที่ 3 คือลดราคาน้ำมันเบนซินในภาพรวมแบบน้ำมันดีเซล ซึ่งจะนำมาเสนอ ครม. ต่อไป” นายพีระพันธุ์ กล่าว

รมว.พลังงาน กล่าวว่า กระทรวงพลังงาน ได้นำเรื่องนี้รายงานในที่ประชุมครม.รับทราบแล้วว่าวันนี้มีการรายงานความคืบหน้าว่ามี 2 ทาง ซึ่งส่วนตัวไม่เห็นด้วย เพราะไม่เป็นไปตามนโยบายที่เคยประกาศไปก่อนหน้านี้ว่าจะลดราคาเบนซินให้ได้ราคาต่ำสุดของน้ำมันเบนซิน ส่วนภาระค่าใช้จ่ายที่รัฐบาลจะเข้าไปสนับสนุนมากแค่ไหน รัฐบาลจะตัดสินใจอีกครั้ง แต่ตอนนี้ขอให้เสนอมา โดยเมื่อเสนอ ครม. แล้ว ครม.ก็เห็นด้วยว่าเอาแนวทางเลือกที่ 3 คือ ลดราคาน้ำมันเบนซินทั้งระบบ

ผู้สื่อข่าวถามว่า เป้าหมายที่จะลดราคาน้ำมันเบนซิน จะทำได้แค่ไหน นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า เป้าหมายตั้งใจว่าลดให้ไม่น้อยกว่าดีเซล แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องหารือกับกระทรวงการคลังอีกครั้ง เช่น ลดลงประมาณ 2.50 บาทต่อลิตร เป็นต้น แต่ตัวเลขชัด ๆ คงต้องไปหารือก่อนว่าจะทำได้มากน้อยแค่ไหน รวมไปถึงวิธีการดำเนินการด้วยว่า จะใช้กลไกไหน ทั้ง การใช้กลไกของการลดภาษีสรรพสามิต หรือ ใช้กลไกของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ในรายละเอียดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะไปศึกษารายละเอียดอีกครั้ง โดยเอาเป้าหมายตามหลักการและนโยบายของรัฐบาลไปทำงาน ส่วนวิธีการจะให้ผู้เกี่ยวข้องไปดูอีกที และจะทำให้เสร็จภายใน 2 สัปดาห์ เช่นเดียวกับวงเงินของการทำเรื่องนี้ ตอนนี้ยังตอบไม่ได้ และขอให้ไปศึกษารายละเอียดอีกว่าทำอย่างไร

รมว.พลังงาน กล่าวอีกว่า ปัจจุบันเห็นว่ามีปัญหาเกี่ยวกับโครงสร้างน้ำมันเบนซินหลายอย่าง ทั้งเรื่องระเบียบ กฎหมายต่าง ๆ และควรต้องปรับใหม่ ส่วนการแก้ปัญหาเรื่องค่าการตลาดนั้น ล่าสุดได้ตั้งคณะกรรมการมาศึกษาโครงสร้างค่าการตลาดน้ำมันขึ้นมาหนึ่งชุด เพื่อไปรายละเอียดทั้งหมด หากเอกชนไม่ให้ความร่วมมือก็ต้องยึดของทางราชการเป็นหลัก 

ทั้งนี้ รัฐบาลกำลังตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเรื่องค่าการตลาดอย่างเป็นทางการ เพราะคุยไปก็ไม่มีประโยชน์ และที่ผ่านมาก็แจ้งว่าเป็นความลับทางการค้า เมื่อเป็นอย่างนั้นจึงตั้งคณะกรรมการขึ้นมาศึกษาอย่างจริงจัง เอาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้คำตอบเลย และถือข้อมูลของเราเป็นทางการ เมื่อให้โอกาสมาชี้แจงทำความเข้าใจเอาตัวเลขมา แล้วไม่มา เมื่อไม่มาก็ช่วยไม่ได้ และคณะกรรมการชุดนี้จะประชุมนัดแรก 18 ตุลาคม นี้ และจะสรุปให้ได้ใน 60 - 90 วัน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top