Tuesday, 6 May 2025
TheStatesTimes

‘LINE’ ควบรวม ‘Yahoo’ เปลี่ยนชื่อเป็น ‘LY Corp.’ เริ่มมีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. เป็นต้นไป

LINE Corporation รวมกับ Yahoo Japan Holding เปลี่ยนชื่อเป็น ‘LY Corporation’ พร้อมเปลี่ยนชื่อบัญชีทางการ เริ่มมีผลบังคับใช้ วันที่ 1 ตุลาคม 2566

สืบเนื่องจากเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สื่อญี่ปุ่นรายงานว่า บริษัท Z Holding Corp. ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการอินเทอร์เน็ตและการเงิน ผู้เป็นเจ้าของบริษัท ‘LINE Corp.’ และ ‘Yahoo Japan Holding’ ประกาศจะควบรวมทั้ง 2 บริษัทดังกล่าวเข้าด้วยกันให้ได้ ภายในเดือนมีนาคมปี 2024

ล่าสุด LINE ประกาศว่า ทาง LINE Corp. และ Yahoo Japan Holding จะควบรวมเป็นบริษัทเดียวกัน ภายใต้ชื่อใหม่ ‘LY Corporation’ เป็นที่เรียบร้อย โดยเริ่มมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมนี้ เป็นต้นไป

โดยหลักทั่วไป จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงชื่อหรือการประกาศของแต่ละบัญชีทางการที่จะมีการเปลี่ยนชื่อผู้ให้บริการ หากจะมีการเปลี่ยนแปลงใดเกิดขึ้น บัญชีทางการที่เกี่ยวข้องจะเป็นผู้แจ้งรายละเอียดการเปลี่ยนแปลงเป็นรายบุคคล ซึ่งส่งผลให้บัญชี LINE Official จะเปลี่ยนชื่อผู้ให้บริการ LINE เป็น LY Corporation ดังนี้

-TH-EN translator (@linethen)

-บันเทิง TODAY (@enttoday)

-GIFTSHOP Notice (@linegiftshopnoti)

-LINE STORE (@linestoreth)

-LINE TODAY (@linetodayth)

-LINE TH Help Center (@linehelpth)

-LINE สภาพอากาศ (@lineweather-th)

-LINE MELODY (@linemelodyth)

-MyShop (@linemyshop)

-LINE POD Thailand (@linepodth)

-MyShop Notice (@myshopnotice)

-LINE MELODY Notice (@linemelodynotice)

-Verified Resellers (@verifiedresellers)

-LINE Wallet TH (@linewalletthailand)

หากท่านกำลังใช้บริการบัญชีทางการอื่นที่ให้บริการโดย LINE ในประเทศหรือภูมิภาคที่นอกเหนือไปจากประเทศไทย ชื่อผู้ให้บริการก็จะมีการเปลี่ยนแปลงด้วยเช่นกัน

วปอ.-พระปกเกล้า ฉลองความสำเร็จฟุตบอลรักเมืองไทย มุ่งสู่ความยั่งยืน และร่วมยินดี “อธิบดีกรมพัฒนาชุมชน-ผบ.พล.ร.6”

เมื่อช่วงค่ำวันที่ 28 กันยายน ที่ห้องเมจิ1 โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ ได้มีงานฉลองความสำเร็จ จัดการแข่งขัน ฟุตบอลประเพณี “รักเมืองไทย” ระหว่าง วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร หรือ วปอ. กับ สถาบันพระปกเกล้า 

ภายในงาน ดร.ดำรง ประทีป ณ ถลาง ผู้แทนหลักสูตรการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยสําหรับนักบริหารระดับสูง (ปปร.) รุ่น 26 สถาบันพระปกเกล้า ได้กล่าวต้อนรับ นายถิรชัย วุฒิธรรม (วปอ.34) อดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครพล.อ.ราชรักษ์ เรียนพืชน์ อดีตกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 พลตรี ณัฎฐ์ ศรีอินทร์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 6 นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม อธิบดีกรมพัฒนาชุมชน ดร.วิกร ภูวพัชร์ ประธานนักศึกษา ปปร.26 พร้อมด้วยคณะกรรมการของทั้ง 2 สถาบัน เพื่อเลี้ยงขอบคุณ และร่วมแสดงความยินดีกับผู้ได้รับตำแหน่งใหม่

ดร.วิกร ภูวพัชร์ กล่าวว่า กิจกรรมการแข่งขันฟุตบอลประเพณี “รักเมืองไทย” ได้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี นำมาซึ่งประเพณีที่ดีงาม สร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน สร้างความปรองดองสมานฉันท์ ความรัก ความสามัคคีในทุกภาคส่วน ขอบพระคุณคณะกรรมการทุกท่านที่เสียสละ และช่วยกันขับเคลื่อนทำให้กิจกรรมครั้งนี้ลุล่วงผ่านไปด้วยดี และมีความหมายต่อประเทศชาติ และนี่คือก้าวแรกที่จะก้าวต่อไปอย่างมั่นคง

ด้าน ดร.ดำรง ประทีป ณ ถลาง กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้ เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการทำงานที่ผ่านมาร่วมกัน แจ้งถึงปัญหาและอุปสรรคในการทำงานที่ผ่านมา มองการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบในการจัดการครั้งต่อไป และวางแผนการจัดงานฟุตบอลประเพณีครั้งต่อไปที่ต้องใช้นักศึกษาทั้งสองสถาบัน ร่วมกันต่อยอด การจัดการแข่งขันฟุตบอลประเพณีรักเมืองไทย ให้เป็นแบบอย่างที่ยั่งยืน

ทิ้งทวนก่อนเกษียณ ผบ เด่น นำทีมรวบคอลเซนเตอร์อ้างเป็นพนักงานธนาคาร เสียหายหลักล้าน

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ประสานงาน พล.ต.อ.ซอ เทศ ผบ.ตร.กัมพูชา  นำเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด PCT5 ผนึกกำลังตำรวจกัมพูชา ตามรวบพนักงานคอลเซนเตอร์คนไทย 3 ราย คาตึกพาณิชย์ที่ใช้เป็นฐานปฏิบัติการ เมืองโอเสม็ด จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา โดยจุดดังกล่าว เป็นแก๊งคอลเซนเตอร์ที่แอบอ้างเป็นพนักงานเร่งรัดหนี้สินของธนาคารแห่งหนึ่ง โทรป่วนคนไทยด้วยกัน เสียหายจำนวนมาก

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร./ ผอ.PCT ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. / หน.PCT ชุดที่ 5 , พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. / รอง หน. PCT ชุดที่ 5 , พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์  ทองแพ , พ.ต.อ.พัชรดนัย การินทร์ ผกก.(สอบสวน) บก.สส.บช.น. , พ.ต.ต.คณิตนนท์ ถนอมศรี, ร.ต.อ.วรภัทร แสงเทียนประไพ , ร.ต.ท.พุฒิพงศ์ กองแก้ว ร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ ศปอส.ตร. (PCT) ชุดที่ 5 และ ชุดสืบสวนนครบาล (บก.สส.บช.น.)  ร่วมกับ พล.ต.อ.วรรณวีระ สม ผู้ช่วยผบ.ตร.กัมพูชา ,พ.ต.อ.ปิยวัฒน์ เกียรติก้อง ผชท.ตร.ไทย ประจำประเทศกัมพูชา สืบสวนติดตามจับกุมตัว

1.นายภานุ มาลัย อายุ 22 ปี ที่อยู่ 36/4 หมู่ 01 ตำบลบ้านใหม่ อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา 
ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 615/2566
2.นายกฤษณะ ศรียงค์  อายุ 20 ปี  ที่อยู่ 537 หมู่  04  ตำบลลาดกระทิง อำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา. ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 621/2566
3.นายพงศกร ศรียงค์  อายุ 20 ปี  ที่อยู่ 36/4 หมู่  01  ตำบลบ้านใหม่ อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา 

ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 622/256 ในข้อหา “ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ, ร่วมกันอั้งยี่, ร่วมกันเป็นซอ่งโจร, ร่วมกันฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นบุคคลอื่น, โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าข้อูมลสุ่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และร่วมกันฟอกเงิน”

สืบเนื่องจากชุดปฏิบัติการที่ 5 ศปอส.ตร. (PCT 5) ได้รับการประสานขอความช่วยเหลือจากชาวไทย ที่เดินทางไปทำงานเป็นแก๊งคอลเซนเตอร์ ที่อาคารแห่งหนึ่ง เมืองโอเสม็ด จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา โดยได้ให้ข้อมูลกับชุดสืบสวนว่า ที่อาคารดังกล่าว มีพนักงานคอลเซนเตอร์เป็นชาวไทยทั้งหมด ไม่ต่ำกว่า 100 ราย ทำหน้าที่โทรหลอกผู้เสียหายโดยแบ่งหน้าที่กันทำดังนี้

สาย 1 อ้างตัวเป็นฝ่ายเร่งรัดหนี้สินธนาคารกสิกรไทย ออกอุบายสอบถามผู้เสียหายว่า เลขท้ายบัตรเครดิตสี่หลักนี้ เป็นของผู้เสียหายหรือไม่ ซึ่งเมื่อผู้เสียหายตอบว่าไม่ใช่ ก็จะแจ้งกับผู้เสียหายว่า ข้อมูลของท่านอาจรั่วไหล แนะนำให้แจ้งกับที่ สภ.เมืองตาก โดยให้กดปุ่มสี่เหลี่ยม (#) 2 ครั้ง ระบบจะโอนสายอัตโนมัติไปยัง สาย 2

สาย 2 อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองตาก (ยศ ส.ต.ต. ถึง ด.ต.) สอบถามผู้เสียหายว่าจะแจ้งความเรื่องอะไร และหลอกว่าข้อมูลของผู้เสียหายนั้น มีคนร้ายได้นำไปใช้ ทำให้ผู้เสียหายมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฟอกเงินและยาเสพติด และผู้เสียหายจะต้องโอนเงินมาตรวจสอบ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ หากผู้เสียหายยังไม่หลงเชื่อ จะทำทีเดินไปเคาะประตูและให้คุยกับตำรวจระดับ ร.ต.อ. ขึ้นไป เพื่อให้ดูน่าเชื่อถือ
 
สาย 3 อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองตาก ระดับ ร.ต.อ. ขึ้นไป หลอกว่าจะดำเนินคดี กับผู้เสียหาย มีการส่งข้อมูลหลอกผู้เสียหายผ่านทางไลน์ เช่น หมายจับ (ปลอม) หรือบางครั้งใช้วิธีวิดีโอคอล และใช้เทคนิคตัดต่อ สร้างความน่าเชื่อถือว่าเป็นตำรวจจริง ๆ ในท้ายที่สุด ผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงได้โอนเงินไปตรวจสอบความบริสุทธิ์ ทั้งที่ไม่ได้กระทำความผิดใดๆ สร้างความเสียหายหลักล้านบาท ชุด PCT 5 จึงได้ประสานงานกับตำรวจกัมพูชา ล่าสุดวันที่ 28 กันยายน 2566 ได้รับรายงานว่าตำรวจกัมพูชา ได้เข้าตรวจค้นและจับกุมตัวพนักงานคอลเซนเตอร์ชาวไทย รายสำคัญได้ 3 ราย ซึ่งทุกคนมีหมายจับไทย ดังนี้
1.นายภานุ มาลัย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 615/2566
2.นายกฤษณะ ศรียงค์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 621/2566
3.นายพงศกร ศรียงค์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 622/2566
ในข้อหา “ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ, ร่วมกันอั้งยี่, ร่วมกันเป็นซอ่งโจร, ร่วมกันฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นบุคคลอื่น, โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าข้อูมลสุ่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และร่วมกันฟอกเงิน”ซึ่งขณะนี้ อยู่ระหว่างนำตัวกลับมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. กล่าวว่า “เราได้ดำเนินการสืบสวนปราบปรามแก๊งคอลเซนเตอร์มาโดยตลอด จะเห็นได้ว่าทุกวันนี้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ยังคงคิดหาวิธีที่ใช้นำมาใช้หลอกลวงเอาเงินของคนไทยอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เช่นในกรณีนี้ที่ถึงขั้นหลอกผู้เสียหายว่า ข้อมูลอาจรั่วไหล หรือ มีคนร้ายนำข้อมูลของท่านไปใช้ จึงอยากขอฝากเตือนพี่น้องชาวไทยทุกท่าน เมื่อมีเบอร์แปลกโทรหา อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ หรือพนักงานบริษัทต่างๆ ให้ระมัดระวังมิจฉาชีพ ขอให้ยึดหลัก ไม่เชื่อ ไม่รีบ ไมโอน ไว้ครับ”

‘ผบช.กมค.’ ชี้!! PCT ทำคดี ‘มินนี่’ ถูกต้องตามขั้นตอนกฎหมาย ไม่อยากพูดเยอะ เพราะนายกฯ ตั้ง กก.ตรวจสอบด้วยแล้ว

(29 ก.ย. 66) จากกรณี น.ส.ธันยนันท์ หรือ สุชานันท์ สุจริตชินศรี หรือ ‘มินนี่’ หนึ่งในผู้ต้องหาคดีเว็บพนันออนไลน์ ได้ออกมาเปิดใจกรณีการถูกเจ้าหน้าที่ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (PCT ) อย่างน้อย 2 นาย บุกค้นบ้านตอนตีสาม พร้อมยึดโทรศัพท์มือถือนำไปตรวจสอบก่อนมีภาพหลุดส่วนตัวถ่ายคู่กับนายตำรวจที่ถูกกล่าวหาพัวพันกับบัญชีม้าเว็บพนัน ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

ล่าสุด พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและคดี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผบช.กมค.) ในฐานะหัวหน้าชุดปฏิบัติการ PCT กล่าวว่า เรื่องการสอบสวนได้ส่งให้พนักงานสอบสวนตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ทุกเรื่องควรจะอยู่ในสำนวนได้แล้ว เพราะตนได้ชี้แจงไปเยอะแล้ว ประกอบกับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ตั้งคณะกรรมการมาตรวจสอบการปฏิบัติการในวันตรวจค้นด้วยแล้ว ซึ่งจะรอผลการตรวจสอบ

นอกจากนี้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ PCT เข้าตรวจค้นและจับกุม ‘มินนี่’ ได้ปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมายทุกประการ

และเมื่อถามต่อว่า ตำรวจที่ชื่อ ‘เจ’ ที่มินนี่อ้างว่ายึดมือถือไปนั้นมีตัวตนจริงหรือไม่ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ได้ปฏิเสธตอบคำถามดังกล่าว บอกเพียงว่าทุกอย่างอยู่ในสำนวน ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการตามขั้นตอนของกฎหมาย แล้วขออนุญาตให้สัมภาษณ์เพียงแค่นี้ก่อน

นักวิจัยไทยสุดยอด!! คิดค้น ‘มาการีน’ จากโอลีโอเจลน้ำมันรำข้าว ปราศจากไขมันทรานส์ มีกรดไขมันอิ่มตัวต่ำ

โดยปกติแล้ว กรดไขมันอิ่มตัว มักพบได้ในผลิตภัณฑ์อาหารหลายประเภท ได้แก่ มาการีน, เนยขาว, เนย, ชีส, ผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ และอาหารทอด ซึ่งอาหารเหล่านี้นอกจากจะมีกรดไขมันอิ่มตัวสูงแล้ว ยังอาจพบไขมันทรานส์ (Trans fat) ร่วมด้วย 

ดังนั้น หากมีการบริโภคกรดไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์ในปริมาณสูง จะส่งผลต่อการเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด แต่ก็ต้องยอมรับว่าในชีวิตประจำวันของทุกคน แทบจะหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านี้ไม่ได้เลย

อย่างไรก็ตาม การกินไขมันเพื่อสุขภาพที่ดี ก็สามารถทำได้ ด้วยการเลือกอาหารที่เป็นแหล่งกรดไขมันอย่างเหมาะสมและควบคุมปริมาณที่กินให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคลและช่วงวัยต่างๆ 

จากข้อมูลของคณะผู้เชี่ยวชาญขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติและองค์การอนามัยโลก (Food Agriculture Organization of the United Nations/World Health Organization; FAO/WHO) พ.ศ. 2552 ได้แนะนำให้บริโภคไขมันในปริมาณไม่เกินร้อยละ 35 ของพลังงานทั้งหมดที่ได้รับต่อวัน และไขมันอิ่มตัวน้อยกว่าหรือเท่ากับร้อยละ 10 ของพลังงานทั้งหมดที่ควรได้รับต่อวัน และบริโภคกรดไขมันทรานส์ให้น้อยกว่าร้อยละ 1 

จากเงื่อนไขดังกล่าว ทางคณะนักวิจัย ม.มหิดล จึงได้คิดค้นผลิตภัณฑ์มาการีนทางเลือกจากโอลีโอเจลน้ำมันรำข้าวที่ปราศจากไขมันทรานส์และมีกรดไขมันอิ่มตัวต่ำ สำหรับผู้บริโภคทุกเพศวัย โดยใช้เทคโนโลยีที่สามารถประยุกต์ใช้ได้กับอุตสาหกรรมอาหาร และเหมาะสำหรับนำไปผลิตอาหารแก่ผู้ที่สนใจ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการนำไปใช้งานในระดับครัวเรือน ถึงระดับอุตสาหกรรม

รองศาสตราจารย์ ดร.สุภัทรา ลิลิตชาญ อาจารย์ประจำภาควิชาโภชนวิทยา คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล หัวหน้าโครงการฯ กล่าวว่า มาการีนเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะเป็นไขมันแข็งที่อุณหภูมิห้อง นิยมใช้เป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์อาหารหลายประเภท ซึ่งมาการีนส่วนใหญ่ผลิตมาจากน้ำมันพืชที่เป็นของเหลว จำเป็นต้องนำมาผ่านกระบวนการผลิตเพื่อเปลี่ยนน้ำมันเหลวให้อยู่ในรูปของไขแข็งด้วยกระบวนการต่างๆ ได้แก่ การเติมไฮโดรเจน (Hydrogenation) การแยกส่วน (Fractionation) การทำปฏิกิริยาอินเตอร์เอสเทอริฟิเคชัน (Interesterification) หรือ การผสมน้ำมัน (Blending) ซึ่งกระบวนการเหล่านี้จะทำให้กรดไขมันอิ่มตัวเพิ่มขึ้น นอกจากนี้พบว่ากระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วน (Partial hydrogenation) จะทำให้เกิดไขมันทรานส์ขึ้นด้วย

ทางคณะผู้วิจัยจึงนำกระบวนการโอลีโอเจลเลชันมาประยุกต์ใช้ในการผลิตมาการีนจากน้ำมันรำข้าว โดยทำน้ำมันให้อยู่ในรูปของโอลีโอเจล (Oleogel) มีลักษณะเป็นของกึ่งแข็ง (Semi-solid) เพื่อให้มีคุณสมบัติในการทดแทนไขแข็ง โดยโอลีโอเจลที่ได้จะเป็นโครงสร้างที่ประกอบขึ้นเองเป็นเครือข่ายเจลต่อเนื่อง สามารถปรับเปลี่ยนรูปร่างได้ตามอุณหภูมิ และมีคุณสมบัติหนืดและยืดหยุ่น 

ที่สำคัญวิธีนี้จะไม่ทำให้องค์ประกอบของกรดไขมันเปลี่ยนแปลงไป ทำให้ได้เป็นผลิตภัณฑ์ไขแข็งที่มีกรดไขมันอิ่มตัวต่ำและปราศจากไขมันทรานส์ จึงจัดว่าเป็นเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมใหม่ที่น่าสนใจและเป็นแนวทางหนึ่งที่สามารถนำไปใช้ช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวได้

รองศาสตราจารย์ ดร.สุภัทรา กล่าวเพิ่มเติมว่า มาการีนจากโอลีโอเจลน้ำมันรำข้าว เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ทางเลือกเพื่อสุขภาพ เนื่องจากน้ำมันรำข้าวมีสัดส่วนของกรดไขมันที่ดีต่อสุขภาพ มีคุณค่าทางโภชนาการ ปราศจากไขมันทรานส์ มีปริมาณสัดส่วนของกรดไขมันอิ่มตัวเพียงร้อยละ 24-25 และมีสารสำคัญที่ดีต่อสุขภาพ ได้แก่ Gamma Oryzanol ซึ่งช่วยลดคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี (Low density lipoprotein cholesterol; LDL-C) และเพิ่มคอเลสเตอรอลที่ดี (High density lipoprotein cholesterol; HDL-C) ในร่างกาย เหมาะที่จะนำไปใช้ประโยชน์ทางด้านการแพทย์อย่างกว้างขวางในรูปอาหารเสริมที่สามารถลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด ลดการรวมตัวของเกล็ดเลือด 

อีกทั้งยังมีการศึกษาวิจัยพบว่าช่วยปรับสมดุลของระดับฮอร์โมนในสตรีวัยทอง และ Policosanol ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยปรับสมดุลการสร้างคอเลสเตอรอล และเสริมการทำงานของตับในการเผาผลาญไขมัน ส่งผลให้ระดับของคอเลสเตอรอลในเลือดลดลง ช่วยสร้างคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL-C) ลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจ รวมถึงลดการจับตัวของเกล็ดเลือดและลดการทำลายของเยื่อบุผนังหลอดเลือด โดยผลิตภัณฑ์มาการีนจากโอลีโอเจลน้ำมันรำข้าวมีลักษณะเป็นไขแข็งทาปาดได้ดี สามารถนำไปประยุกต์ใช้เป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์บราวนี่ คุกกี้ ไอศกรีม ครีมชีส และช็อกโกแลตสเปรด 

ฉะนั้นมาการีนจากโอลีโอเจลน้ำมันรำข้าว จึงเป็นผลิตภัณฑ์ทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจและนำไปสู่การผลิตเชิงการค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับกลุ่มผู้บริโภคทั่วไป และผู้บริโภคที่มีภาวะเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด ภาวะคอเลสเตอรอลและไขมันในเลือดสูง และความดันโลหิตสูง

สำหรับโครงการดังกล่าว ได้รับทุนวิจัยจากสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) ปีงบประมาณ 2560 และ 2562 โดยผลงานวิจัยนี้อยู่ในระดับของเทคโนโลยีที่ ‘พร้อมจะถ่ายทอด’ สู่ผู้ประกอบการ ภาคอุตสาหกรรมและเกษตรกร โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคอุตสาหกรรมอาหารที่สนใจนำไปประยุกต์ใช้เพื่อผลิตอาหารต่างๆ รวมทั้งผู้ประกอบการที่สนใจที่จะนำไปประยุกต์ใช้เป็นส่วนประกอบสำหรับอาหารฟังก์ชัน (Functional Food) อาหารทางการแพทย์ (Medical food) และโภชนเภสัชภัณฑ์ (Pharmaceutical) เป็นต้น

‘หนุ่มนักรังสีฯ’ อวดผมทรงใหม่ ไถเป็นรูปใบหน้า ‘น้องเทนนิส’ เป็นของขวัญหลังคว้าชัยให้ไทย ในศึกเอเชียนเกมส์ครั้งสุดท้าย

(29 ก.ย. 66) เป็นที่ฮือฮากันทั่วโซเชียล หลังจากที่ คุณไมตรี จิตตินันทน์ นักรังสีการแพทย์ คณะทันตแพทย์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เผยภาพโดนใจใครหลายๆ คน อวดผมทรงใหม่ ที่เนรมิตเป็นใบหน้า ‘น้องเทนนิส พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ’ หลังจากที่คว้าชัยชนะ เหรียญทองเอเชียนเกมส์ 2022

โดยเฟซบุ๊ก ‘Mitree Mike Chitinunda’ โพสต์ภาพพร้อมข้อความว่า…

“เอเชียนเกมส์ครั้งสุดท้ายของเทนนิส นักกีฬาที่มีหัวใจนักสู้ คนนี้ตัวจริง”

‘RedLife’ ได้รับเลือกเข้าประกวดในหมวด ‘Asian Future’ พร้อมฉายรอบเวิลด์พรีเมียร์ในเทศกาลหนังนานาชาติโตเกียว

นับเป็นข่าวดีของวงการภาพยนตร์ไทยที่ไปสร้างชื่อบนเวทีรางวัลระดับโลกอีกครั้ง เมื่อภาพยนตร์เรื่อง ‘RedLife เรดไลฟ์’ ผลงานดราม่า-ทริลเลอร์ โดยผู้กำกับ ลักญ เอกลักญ กรรณศรณ์ จากสตูดิโอ BrandThink Cinema ได้รับเลือกเข้าประกวดในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติโตเกียวครั้งที่ 36 #TIFF (Tokyo International Film Festival 2023) ที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้นระหว่างวันที่ 23 ตุลาคม - 11 พฤศจิกายนนี้

โดยล่าสุด ได้ประกาศรายชื่อภาพยนตร์จากทั่วโลกที่ได้รับคัดเลือกเข้าร่วมประกวดในสายต่าง ๆ ซึ่งถือเป็นข่าวดีของวงการภาพยนตร์ไทยอีกครั้ง เมื่อภาพยนตร์เรื่อง ‘RedLife เรดไลฟ์’ ได้รับเลือกเข้าประกวดในสาย ‘Asian Future’ ซึ่งเป็นสายประกวดของผู้กำกับภาพยนตร์หน้าใหม่จากเอเชีย นับเป็นภาพยนตร์ไทยเรื่องแรกที่ได้รับเลือกให้เข้าประกวดในสายนี้นับตั้งแต่ปี 2560 

ไม่เพียงเท่านี้ RedLife ยังได้รับเกียรติให้จัดฉายรอบเวิลด์พรีเมียร์ในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติโตเกียวครั้งนี้ เป็นรอบแรกของโลกอีกด้วย

‘RedLife เรดไลฟ์’ บอกเล่าเรื่องราวผ่านตัวละครวัยรุ่นไร้ทางเลือกที่จะมาตั้งคำถามกับคนดูว่าคุณอยากเป็นคนที่ ‘ถูกรัก’ หรือ ‘ถูกทิ้ง’ นอกจากนี้ ยังได้เห็นการปรากฏตัวของทีมนักแสดงรุ่นใหม่ฝีมือแรงครบทีม นำโดย แบงค์ ธิติ, ซิดนีย์ สุพิชชา, จ๋อมแจ๋ม กานต์พิชชา, บิ๊ก ดีเจอร์ราร์ด และฝ้าย สุพิชชา ร่วมดัวยนักแสดงฝีมือประจักษ์อย่าง มานพ มีจำรัส และกรองทอง รัชตะวรรณ

ชวนคนไทยร่วมส่งกำลังใจให้หนังรักฟีลแบดเรื่องนี้บนเวทีเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติโตเกียวครั้งที่ 36 (Tokyo International Film Festival 2023) และพิสูจน์อีกรสชาติของภาพยนตร์รักที่จะอยู่ในความทรงจำ ‘RedLife เรดไลฟ์’ กำหนดเข้าฉายในไทย 2 พฤศจิกายน 2566

ร้านคาเฟ่แมว เงิบ!! เจอลูกค้านัดช่างมาทำเล็บ อ้างร้านให้ทำ ด้านร้านสุดเสียใจ ลูกค้าท่านอื่นต้องมาเจอเรื่องแย่ๆ แบบนี้

(29 ก.ย. 66) เพจร้านคาเฟ่แมว 'a daily' ซึ่งเป็นร้านคาเฟ่ที่ขายทั้งอาหาร เครื่องดื่ม และมีน้องแมวในร้าน ออกมาโพสต์ประสบการณ์เมื่อเจอลูกค้าที่มีพฤติกรรมสุดจะทน ระบุว่า...

เปิดร้านมา 7 ปี พึ่งเคยเจอเคสนี้ค่ะ ไม่รู้ร้านอื่นเคยเจอเหมือนเรามั้ย 

ก่อนอื่นทางร้าน a daily ต้องขออภัยคุณลูกค้าที่ใช้บริการ ในช่วงเวลา 14.30น. - 19.30น. ของวันนี้เป็นอย่างสูง ที่อาจทำให้ไม่สบายใจ และรู้สึกถูกรบกวนกับสิ่งที่เกิดขึ้น ทางร้านรู้สึกผิดและต้องขออภัยอีกครั้งที่ปล่อยให้เหตุการณ์นี้เกิดในเวลานาน โดยไม่ได้จัดการในทันที

เหตุการณ์ คือ วันนี้มีลูกค้าเข้ามาสั่งอาหาร เครื่องดื่ม ขนมทานตามปกติ ผ่านไปสักครู่ก็เริ่มวางข้าวของ ขยายโต๊ะ เสียบอุปกรณ์ ทำเล็บกันอย่างจริงจัง โดยตอนที่เจ้าของร้านมาถึง อย่างแรกค่ะรู้สึกงง ตกใจ รีบหันไปถามพนักงานของเราว่าเค้าได้แจ้ง หรือขออนุญาตเรารึยัง และตำหนิพนักงานก่อนอันดับแรก คำตอบที่ได้จากน้องพนักงาน คือ ลูกค้าเข้ามาใช้บริการตามปกติในตอนแรก แต่ไม่ทราบว่าจะมาใช้พื้นที่ทำเล็บแบบนี้ 

จนตอนท้ายที่สุดของเหตุการณ์ ได้คุยกับช่างที่ทำเล็บ ก็ได้ทราบว่าลูกค้าเป็นคนนัดมาทำที่นี้ โดยทางช่างได้สอบถาม และย้ำกับลูกค้าแล้วว่าสามารถมาทำที่ร้านนี้ได้จริง ๆ หราค่ะ ลูกค้าก็เป็นคนยืนยันเองว่าได้ ทั้งที่จริงแล้วทางร้านไม่ทราบอะไรเลย ซึ่งช่างก็ได้ขอโทษกับทางร้าน

ในมุมของทางร้านนะคะ เรารู้สึกไม่โอเคมาก ๆ เพราะเราเป็นคาเฟ่ที่ขายอาหาร ขนม เครื่องดื่ม 

อย่างแรก การทำเล็บไม่เหมาะจะมาทำในคาเฟ่ ด้วยเรื่องของความสะอาด เศษเล็บ กลิ่นเคมี และพื้นที่ 

อย่างที่สอง หากลูกค้าอยากทำเล็บควรใช้พื้นที่ส่วนตัว หรือไปร้านทำเล็บจะเหมาะกว่า

อย่างที่สาม การมาอุดหนุนทางร้านทางเรายินดีและขอบคุณ แต่ควรแยกความต้องการของลูกค้าเองให้เหมาะ

ตั้งแต่วันนี้ ทางร้าน a daily ไม่อนุญาตให้ใช้พื้นที่แบบนี้นะคะ และเราจะปรับปรุงบริการให้ดียิ่งขึ้นค่ะ

'อดีตทูตนริศโรจน์' เผย!! ความเปรี้ยง 'ตัวเงินตัวทอง' ไทย Soft Power สร้างชื่อ จนกองถ่ายสารคดีหลายชาติมาขอถ่ายทำ

(29 ก.ย.66) นายนริศโรจน์ เฟื่องระบิล อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก Fuangrabil Narisroj ว่า...

ภาพตอนน้องตัวเงินตัวทองกำลังข้ามถนน เหมือนหน้าปกแผ่นเสียงของ The Beatles เลย ตอนนี้น้องเค้าเป็นบุคคลากรทางด้าน Soft Power ที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศอย่างแท้จริง มีกองถ่ายสารคดีจากหลายประเทศติดต่อขออนุญาตถ่ายทำเกี่ยวกับน้องๆ หลายประเทศแล้ว

‘ไรเดอร์หัวร้อน’ ลูกค้าไม่รับสาย-ปล่อยให้รอนาน แต่พอเห็นเจ้าตัวออกมารับอาหาร รู้สึกผิดทันที!!

เมื่อวันที่ 28 ก.ย. 66 เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ได้รับความสนใจอย่างมาก เมื่อเว็บไซต์ต่างประเทศรายงานว่า โลกออนไลน์ได้การแชร์คลิปสุดพีค หลังจากไรเดอร์หนุ่มชาวมาเลเซียโพสต์คลิปไปส่งอาหารให้ลูกค้า แต่ด้วยความที่ลูกค้าไม่ยอมรับสาย และต้องยืนรอนานท่ามกลางอากาศร้อน ทำให้เขาทั้งโมโหและหงุดหงิดอย่างมาก ก่อนเห็นลูกค้าออกมารับอาหาร ถึงกับรู้สึกผิดเลยทีเดียว

โดยผู้โพสต์เล่าว่า ในวันดังกล่าวเขาส่งอาหารไปยังที่อยู่ที่ระบุ แต่ไม่มีใครรับสาย เขาต้องยืนรอหน้าประตูรั้วบ้าน ท่ามกลางอากาศร้อน ๆ และมีแดดจัด ทำให้เขารู้สึกไม่พอใจและโกรธ จนกระทั่งมีเสียงในบ้านบอกให้เดินเข้าไปภายในบริเวณบ้าน และเมื่อประตูบ้านเปิดจึงทำให้เขาเห็นว่าลูกค้าที่เขาต้องมาส่งอาหารให้นั้น เป็น ‘ชายพิการนั่งรถเข็น’ ความโกรธของเขาก็กลายเป็นความรู้สึกผิดทันที

ทั้งนี้ แม้ว่าคำสั่งดังกล่าวจะระบุว่า ‘เป็นคำสั่งสำหรับคนพิการ’ แต่เขาไม่ทันได้สังเกตเห็น เขายังบอกด้วยว่า “คุณลุงดูมีความสุขเมื่อได้รับอาหาร เพราะมีคนสั่งอาหารให้เขา” ซึ่งท้ายที่สุดเขาก็กลั้นน้ำตาไม่ไหว ถึงปล่อยโฮออกมาเลยทีเดียว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top