Wednesday, 14 May 2025
TheStatesTimes

‘จุรินทร์’ โชว์ฟอร์ม จวกนโยบายรัฐบาล ‘เศรษฐา’ เหมือนหาเสียงการละคร ‘เลื่อนลอย-คลุมเครือ’

(11 ก.ย. 66) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายนโยบายรัฐบาลว่า พรรคประชาธิปัตย์จะทำหน้าที่ฝ่ายค้านของประชาชน ตรวจสอบการบริหารอย่างเต็มความสามารถ โดยจะเป็นฝ่ายค้านที่เข้มแข็ง แต่จะไม่ค้านทุกเรื่อง รักษาประโยชน์สูงสุดของประเทศ ส่วนการทำงานกับพรรคร่วมฝ่ายค้านอื่น คือแสวงจุดร่วมสงวนจุดต่าง ยืนยันไม่สนับสนุนการแตะต้องมาตรา 112 แต่จะทำงานร่วมกับฝ่ายค้านอื่น ๆ อย่างเต็มความสามารถ

นายจุรินทร์ มองว่า มาตรฐานของนโยบายชุดนี้ ‘สวนทางกับความสูงท่านนายกฯ’ การตั้งโจทย์ประเทศก็คลุมเครือ ตัวนโยบายเลื่อนลอย ขาดความชัดเจน ฟุ่มเฟือยด้วยวาทกรรม วนไปวนมา กลายเป็นนโยบายน้ำท่วมทุ่ง ผักบุ้งโหรงเหรง นโยบายที่แถลงกับที่หาเสียง เป็นหนังคนละม้วน ไม่ตรงปก เช่น นโยบายค่าแรงปริญญาตรี 25,000 บาท อยู่ๆ ก็เป็นนโยบายนินจา หายไปแบบไร้ร่องรอย หรือคิดว่าอย่างไรรัฐบาลก็อยู่ไม่ถึงปี 2570 ตามที่หาเสียงไว้ เช่นเดียวกับนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทต่อวัน ที่เป็นนโยบายนินจาตัวที่ 2 นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ทำทันทีหายไป รถไฟฟ้าไปจอดหลับอยู่ที่ไหน จนนักข่าวทนไม่ไหว ตามไปสัมภาษณ์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ก็อึกอัก ๆ บอกว่าอีก 2 ปีจะทำ

ส่วนนโยบายเพิ่มรายได้ให้ครอบครัวที่มีรายได้ต่ำกว่า 20,000 บาทต่อเดือน จะเอางบประมาณมาจากที่ใด ขณะที่นโยบายกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น จะให้เลือกตั้งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ ตอนนี้เหลือเป็น ผู้ว่าฯ CEO รวบอำนาจมาสู่การปกครองส่วนภูมิภาค ย้อนหลังไป 20 กว่าปี ที่พูดมา มองว่าเป็นแค่ลมปากตอนหาเสียง ต้องมีความรับผิดชอบ อย่าให้เหมือนตอนไล่หนูตีงูเห่า สุดท้ายทั้งหนูและงูเห่ามาอยู่ด้วยกัน และกลายเป็นนโยบายการละคร

สำหรับนโยบายด้านการเกษตร แม้นายกรัฐมนตรีจะประกาศว่าไม่มีนโยบายจำนำข้าว ถือเป็นเรื่องดี เพราะโครงการนี้สร้างหนี้รวม 884,000 ล้านบาท ยังต้องใช้หนี้อีก 254,000 ล้านบาท ตั้งแต่ปี 2566 อีกทั้งนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ก็ไม่มีการชี้แจงที่มาของเงินที่ชัดเจน ยังไม่มีข้อสรุป แปลว่าเป็นนโยบายไปตายเอาดาบหน้า และต้องขอเตือนว่าอย่าให้เป็นการทุจริตเชิงนโยบาย

นายจุรินทร์กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์พร้อมให้การสนับสนุนการแก้รัฐธรรมนูญ แต่มีข้อสังเกต ว่าในนโยบาย ระบุว่าไม่แก้ไขในหมวดพระมหากษัตริย์ คือหมวด 2 ซึ่งเห็นด้วย แต่แปลว่าหมวด 1 แก้ได้ใช่หรือไม่ คือเรื่องระบอบการปกครอง และรูปแบบของรัฐแบ่งแยกมิได้ เหตุใดนโยบายรัฐบาลไม่ระบุให้ชัด หรือเกรงใจใคร หรือพรรคร่วมรัฐบาลพรรคใด อย่าคิดว่าการแบ่งแยกดินแดนจะไม่เกิด ที่ผ่านมาก็มีการยื่นร้องศาลรัฐธรรมนูญแล้ว

สำหรับนโยบายการแก้ทุจริตคอร์รัปชัน นายจุรินทร์กล่าวว่ารัฐบาลเอาจริงแค่ไหน เพราะมีระบุเพียงเล็กน้อย รัฐบาลต้องตระหนักว่า รัฐบาลท่านในอดีตเคยถูกยึดอำนาจมา 2 ครั้ง เพราะเหตุแห่งการทุจริต และออกกฎหมายล้างผิดการทุจริต จะต้องไม่นำประวัติศาสตร์ให้ซ้ำรอยเดิม

“รัฐบาลต้องฟื้นฟูหลักนิติธรรมให้กลับมาเข้มแข็ง ไม่มีผู้ใดอยู่เหนือกฎหมาย ต้องบังคับใช้กฎหมายโดยเสมอกัน นักโทษทุกคนต้องเท่าเทียมกัน นโยบายนี้จะเป็นจริงได้ อยู่ที่นายกรัฐมนตรี และรัฐบาล การพระราชทานอภัยโทษ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่ผู้ได้รับอภัยโทษต้องสำนึก และรัฐบาลต้องสำนึก ว่าแม้โดนอภัยโทษก็ยังมีความผิด และยังมีโอกาสรับโทษใหม่ในอนาคต หากรัฐบาลก่อนหน้าทำไม่ถูก เราก็ทำให้ถูก อย่าปล่อยเลยตามเลย อย่าสร้างมาตรฐานใหม่ เหยียบย่ำหัวใจคนรักความยุติธรรมและความสุจริต ให้หมดกำลังใจ นี่เป็นโอกาสสำคัญของรัฐบาล ที่จะทำให้วลีที่เราพูดกันติดปากว่า ‘คุกมีไว้แค่ขังคนจน กับคนไม่มีอำนาจ’ มลายไปได้ โดยนายกรัฐมนตรีที่ชื่อ เศรษฐา ทวีสิน” นายจุรินทร์กล่าว 

‘S&P’ ผุดนิวโมเดลไซส์ย่อ เจาะปั๊ม ปตท. รับเทรนด์ ‘ซื้อกลับ-สั่งด่วน’ มาแรง

‘เอส แอนด์ พี’ ผุดสาขารูปแบบใหม่ นำร่องเจาะปั๊มน้ำมัน ปตท. 2 สาขาแรก เบเกอรี่ครบไลน์ อาหารเน้นเมนูสะดวกรวดเร็ว เผยแผนทั้งปีนี้ลุยเปิดเบเกอรี่ช็อป 25 สาขา และร้านอาหาร 3 สาขา โชว์ครึ่งปีแรกรายได้รวมโต 12% ส่วนช่องทางนั่งทานในร้านพุ่ง 66%

(11 ก.ย.66) นายอรรถ ประคุณหังสิต ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฎิบัติการธุรกิจเอสแอนด์พี บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) หรือ S&P เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เปิดตัวธุรกิจร้านโมเดลใหม่ ‘คอนเซ็ปท์ ฟุ้ด แอนด์ เบเกอรี่’ (Food and Bakery) ซึ่งเป็นร้านที่มีบริการทั้งเบเกอรี่ เครื่องดื่มครบไลน์ และบริการอาหารด้วย โดยเปิดสาขาแรกที่ปั๊มน้ำมัน ปตท. พระรามสี่ใกล้กล้วยน้ำไท พื้นที่ประมาณ 100ตารางเมตร เปิดบริการเมื่อประมาณ 3 เดือนที่ผ่านมา และเตรียมที่จะเปิดสาขาที่สองอีกที่ปั๊มน้ำมัน ปตท. วิภาวดีรังสิต ซึ่งเป็นปั๊มที่สร้างใหม่

“รูปแบบของสาขาโมเดลใหม่นี้ จะมีขนาดที่ไม่เล็กไม่ใหญ่ แต่มีบริการเบเกอรี่เครื่องดื่มครบไลน์ ส่วนอาหารจะไม่ครบไลน์เหมือนร้านอาหารมาตรฐานเดิม จะเป็นลักษณะคล้ายนั่งทานอาหารหน้าเคาน์เตอร์บาร์ เน้นเมนูสะดวกรวดเร็ว และเน้นเทคอะเวย์กับเดลิเวอรีด้วย อย่างไรก็ตาม ไม่ได้ผูกติดเฉพาะกับปั๊มน้ำมันเท่านั้น ขึ้นอยู่กับว่าได้ทำเลและขนาดพื้นที่ที่มีความเหมาะสมหรือไม่” นายอรรถ กล่าว

ทั้งนี้ การเปิดตัวร้านรูปแบบใหม่ถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนการขยายสาขาอย่างต่อเนื่องของบริษัทฯ โดยปีนี้วางแผนที่จะเปิด ร้านเบเกอรี่ช็อป ประมาณ 25 สาขา ลงทุนเฉลี่ย 2 ล้านบาทต่อสาขา เปิดไปแล้ว 15 สาขา และจะเปิดอีก 10 สาขาต่อถึงสิ้นปีนี้ ส่วนร้านอาหาร ลงทุนเฉลี่ย 8-10 ล้านบาทต่อสาขา ซึ่งจะเปิดเล็กลงประมาณ 150 ตารางเมตร จากเดิมเฉลี่ยมากกว่า 200 ตารางเมตร จะเปิดปีนี้ 3 สาขา โดยเปิดไปแล้วที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และเตรียมจะเปิดอีกที่โรงพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข และอีกแห่งจะเปิดในเครือข่ายค้าปลีกของกลุ่มเซ็นทรัลสาขา

ปัจจุบัน บริษัทฯ มีเครือข่ายร้านค้ารวม 437 สาขา โดยแบ่งเป็น ร้านเบเกอรี 300 สาขา และร้านอาหาร 137 สาขา อีกทั้งยังไม่ได้นับรวม ร้านเดลโก้ ที่่เป็นจุดบริการเดลิเวอรีโดยเฉพาะ อีก 33 สาขา ซึ่งก็ยังคงมีการเติบโตที่ดีแต่อาจจะไม่หวือหวาเหมือนช่วงโควิด-19ระบาดหนัก ที่ความต้องการเดลิเวอรีสูงมาก ส่วนแผนการรีโนเวทร้านเดิมก็ยังมีต่อเนื่อง ซึ่งช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาที่โควิดระบาด มีการรีโนเวทไปมากกว่า 100 สาขาแล้ว ใช้งบไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท ส่วนปีที่แล้วเปิดร้านใหม่ประมาณ 35 สาขา

นายอรรถ กล่าวต่อว่า บรรยากาศการจับจ่ายในภาพรวมขณะนี้ ถือว่าในส่วนของกรุงเทพและปริมณฑลกลับมาดีมากขึ้นแล้ว ขณะที่ในตลาดต่างจังหวัดยังไม่ค่อยคึกคักเท่าที่ควร เพราะกำลังซื้อลดลง แต่คาดว่าจากนี้น่าจะดีขึ้นบ้างจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลังจากที่มีรัฐบาลชุดใหม่แล้ว

สำหรับผลประกอบการที่ผ่านมาเป็นไปในทิศทางที่ดี มีการเติบโตที่ดี โดยในไตรมาสที่2ปี2566 รายได้รวมทั้งกลุ่ม 1,457 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 156 ล้านบาท หรือเติบโต 12% จากไตรมาสสองปีที่แล้ว ส่วนกำไรมีประมาณ 89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6 ล้านบาท

ส่วนช่วงครึ่งปีแรกพบว่า มีรายได้รวมทั้งกลุ่ม 2,892 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 350 บาท หรือเติบโต 12% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และมีกำไรสุทธิครึ่งปีแรกที่ 194 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24 ล้านบาท เติบโต 14% โดยสัดส่วนรายได้หลักกว่า 80% มาจากร้านอาหาร ร้านเบเกอรี่ ในประเทศ ส่วนอีก 20% มาจากกลุ่มรีเทลฟู้ดกับต่างประเทศ

ทั้งนี้ ครึ่งปีแรกพบว่า รายได้จากช่องทางร้านอาหารนั่งทานในร้านเติบโตมากถึง 66% ช่องทางเทคอะเวย์ เติบโต 7% และช่องทางเดลิเวอรี เติบโต 5% สาเหตุหลักที่นั่งทานในร้านเติบโตมากเพราะพฤติกรรมผู้บริโภคกลับมาทานอาหารในร้านมากขึ้นแล้ว รวมทั้งกลยุทธ์ตลาดที่บริษัทฯ ทำด้วยในช่องทางร้านอาหาร เช่น ช่วงเดือนมีนาคมและเมษายน จัดเทศกาลเมนูข้าวแช่ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมาก เดือนพฤษภาคมเริ่ม แคมเปญฉลอง 50 ปี 50 เมนู ซึ่งกิจการจะครบ 50 ปีในวันที่ 14 ตุลาคมนี้ ล่าสุดเทศกาลขนมไหว้พระจันทร์ ซึ่งปีนี้เปิดตัว 2 รสชาติใหม่คือ ใส้เกาลัดและชาอู่หลง ใส้บัวมันม่วง พร้อมโปรโมชั่นมากมาย

“ปีนี้คาดว่ารายได้รวมน่าจะเติบโต 15% ซึ่งขณะนี้รายได้รวมกลับไปถึงปี 2562 แล้วประมาณ 80% และคาดว่าปีหน้าน่าจะกลับคืนมา 100% ได้แน่นอน” นายอรรถ กล่าว

'อ.ไชยณรงค์' โต้!! 'ป๋อ ณัฐวุฒิ' กรณี 'เพลงคนจนมีสิทธิ์ไหมคะ' ชี้!! บทนางเอกถูกขืนใจ 'เลวร้าย-หยาบโลน' กว่าหลายพันเท่า

จากกรณี ‘ป๋อ ณัฐวุฒิ สกิดใจ’ ไม่ขำด้วย เมื่อเพลงที่กำลังเป็นกระแสตอนนี้ คือเพลงที่มาจากลำซิ่งของคณะทิวลิป เอ็นเตอร์เทนเมนท์ เมื่อช่วง 30 ปีก่อน ซึ่งมาพร้อมกับเนื้อเพลงแบ่งแยกชนชั้นและมีคำหยาบคายที่ใช้เรียกอวัยวะเพศอย่างชัดเจน ส่งผลให้มีเยาวชนและคนไทยมากมายนำไปคัฟเวอร์และร้องเพลงนี้กันอย่างสนุกสนาน

ล่าสุด (11 ก.ย. 66) ผศ.ดร.ไชยณรงค์ เศรษฐเชื้อ อาจารย์คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม แสดงความคิดเห็นผ่านเฟซบุ๊กถึงกรณีเพลง ‘คนจนมีสิทธิ์มั้ยคะ’ ที่กำลังเป็นกระแสไวรัลอยู่ในขณะนี้ โดยระบุว่า…

คนจนมีสิทธิ์มั้ยคะ ถ้าคุณป๋อไม่เข้าใจ ผมจะอธิบายให้ฟัง

1. เพลงนี้ที่ติดหูและถูกใจโลกโซเชียลอย่างล้นหลาม แม้ร้องเมื่อ 30 ปีที่แล้ว เพราะเพลงได้สะท้อนความเหลื่อมล้ำทางสังคม แม้ผ่านไป 30 ปี แต่ความจริงนี้ก็ยังดำรงอยู่ในสังคมไทย

2. เพลงนี้ยังสะท้อนความเหลื่อมล้ำทางเพศสภาพด้วย และความเหลื่อมล้ำนี้ ผ่านไป 30 ปีแล้ว แต่ก็ยังดำรงอยู่ในสังคมไทย

3. การที่นักร้องคือคุณเดือนเพ็ญหยิบท่อนนี้มาจากเพลงสมองจนจนของพลอยมาเล่นต่อ ไม่ใช่เพื่อความสนุกสนานอย่างเดียว แต่การแสดงนี้คือศิลปะการแสดงที่เป็นอาวุธของผู้อ่อนแอ (weapons of the weak) หรือศิลปะของผู้อ่อนแอ (art of the weak) ลองนึกดูครับว่า ถ้ายุคนั้นหรือแม้แต่ยุคนี้ หากคนจนลุกขึ้นมาเดินขบวนชุมนุมประท้วงเรื่องความเหลื่อมล้ำ ก็ย่อมถูกปราบปรามจากรัฐได้ง่าย หรืออาจนึกภาพว่าคนจนเดินไปหานายกฯ หรือข้าราชการระดับสูง แล้วถามว่า “คนจนมีสิทธิ์มั้ยคะ” คุณคิดว่าเขาจะฟังหรือ?

ในสังคมไทย อาวุธหรือศิลปะของผู้อ่อนแอไม่ได้มีแค่หมอลำ แต่ยังมีในศิลปะการแสดงและประเพณีอย่างอื่น เช่น หนังตะลุง ขบวนแห่บั้งไฟ นิทานก้อม ฯลฯ สำหรับชาวบ้านชาวช่อง เขาถือว่าปกติ เช่น นายหนังตะลุงเดี่ยว เอาประยุทธ์มาล้ออย่างหนักเป็นที่ตลกขบขันของผู้ชม แต่ผู้มีอำนาจไม่มีสิทธิ์ที่จะโกรธเคือง

ประเด็นท่อนเพลง ‘คนจนมีสิทธิ์มั้ยคะ …’ จึงควรให้ความสำคัญต่อสาระที่แท้จริง คือความเหลื่อมล้ำ ซึ่งรวมถึงความเหลื่อมล้ำทางเพศสภาวะที่เกิดขึ้นในสังคมนี้ และสาระตรงนี้ควรสะกิดต่อมความคิดแบบอนุรักษนิยมให้คิดมากกว่าภาษาที่หยาบโลน

คุณป๋อไม่ได้มาจากดาวดวงอื่นหรอกครับ คุณอยู่บนโลกใบเดียวกันนี่แหละ เพียงแต่คุณอยู่ในโลกของการแสดงอีกแบบที่คิดว่าดีกว่าคนอื่น ทั้งที่คุณเกิดและดังในยุคที่พระเอกละครไทยข่มขืนนางเอก ที่หากพิจารณาแล้ว มันเลวร้ายกว่าหยาบโลนกว่าหลายพันเท่า ซึ่งคุณป๋อควรออกมาแสดงจุดยืนว่ารับไม่ได้

กองทัพอากาศ ได้นำเสนอผลการปฏิบัติงานที่สำคัญ

กองทัพอากาศ ได้นำเสนอผลการปฏิบัติงานที่สำคัญให้ที่ประชุมฯ ได้รับทราบ ได้แก่ ด้านการพิทักษ์เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยได้นำส่งสิ่งของพระราชทานไปช่วยเหลือและบรรเทาทุกข์แก่ประชาชนชาวตุรกีที่ประสบเหตุภัยพิบัติแผ่นดินไหว และสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา กรณีพายุไซโคลน MOCHA การจัดกิจกรรมจิตอาสาพระราชทาน การแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันในวันสำคัญต่าง ๆ การจัดหน่วยทหารรักษาพระองค์ถวายพระเกียรติ/ถวายความปลอดภัยในหมายที่สำคัญ ด้านการป้องกันประเทศ โดยการบินลาดตระเวนรบทางอากาศตามแนวชายแดนด้านทิศตะวันตก ทั้งกลางวัน/กลางคืนเพื่อป้องปราบการบินล้ำแดน ให้ครอบคลุมพื้นที่ปฏิบัติการ และในห้วงเวลาปฏิบัติการของฝ่ายตรงข้าม ให้เกิดการรับรู้ของประชาชนโดยทั่วกัน ด้านการรักษาความมั่นคงของรัฐ โดยการรักษาความปลอดภัยและการรองรับการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจ APEC ครั้งที่ ๒๙ การนำขีดความสามารถกำลังทางอากาศเข้าบูรณาการเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติด ด้านการพัฒนาประเทศเพื่อความมั่นคงและการช่วยเหลือประชาชน อาทิ การบรรเทาสาธารณภัย สนับสนุนอากาศยานปฏิบัติภารกิจฝนหลวง ปฏิบัติการควบคุมไฟป่า 

การลำเลียงผู้ป่วยทางอากาศ การสนับสนุนกระทรวงการต่างประเทศ ปฏิบัติการนภารักไทย ร่วมกับ กองบัญชาการกองทัพไทย ในภารกิจการอพยพคนไทยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความรุนแรงในสาธารณรัฐซูดาน การบรรจุเข้าประจำการระบบอากาศยานไร้คนขับพิสัยกลางแบบ DominatorXP (Maned - Unmaned Teaming)

ซึ่งเป็นอากาศยานไร้คนขับแบบ Medium Altitude Long Endurance หรือ MALE แบบแรกของประเทศไทย การจัดทำแผนงานสำหรับพัฒนาพื้นที่สนามบินเชียงราย เพื่อให้เป็นศูนย์กลางรองรับการปฏิบัติการช่วยเหลือ
ด้านมนุษยธรรมและบรรเทาภัยพิบัติในเขตพื้นที่ภาคเหนือและภารกิจช่วยเหลือประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ การลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) ระหว่างกองทัพอากาศและองค์การต่าง ๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์ในการ
ให้ความช่วยเหลือประชาชน

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้สรุปผลการปฏิบัติงานที่สำคัญให้ที่ประชุมฯ ได้รับทราบ ได้แก่ การจัดกิจกรรมจิตอาสาภัยพิบัติ การป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดและอำนวยความยุติธรรมทางอาญา การป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ซึ่งเป็นนโยบายเร่งด่วน โดยได้กำหนดนโยบายและมาตรการสำคัญ ๒ ด้าน ได้แก่ มาตรการแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยการยกระดับความสำคัญในการป้องกันยาเสพติด แสวงหาความร่วมกับภาคีเครือข่าย จัดทำโครงการชุมนุมยั่งยืน ซึ่งเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๖๔ จนถึงปัจจุบัน และมาตรการปราบปรามยาเสพติด ได้แก่ การปราบปรามยาเสพติด 213,104 คดี โดยจากการปฏิบัติงานด้านยาเสพติดได้มีข้อเสนอแนะเชิงนโยบายและเชิงปฏิบัติ เพื่อให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจรตามยุทธศาสตร์ชาติ การป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยได้วางระบบการรับแจ้งความออนไลน์ จำนวน ๓๐๕,๙๕๒ คดี มูลค่าความเสียหาย๔๑,๓๓๖ ล้านบาท สามารถอายัดเงิน ๗๔๗ ล้านบาท ซึ่งพบว่าสถิติประเภทคดีสูงสุด ๕ ลำดับ ได้แก่ หลอกซื้อขายสินค้าหรือบริการ ร้อยละ ๓๘.๔๐ หลอกให้โอนเงินเพื่อทำงาน ร้อยละ ๑๓.๓๙ หลอกให้กู้เงิน ร้อยละ ๑๓.๑๕ หลอกให้ลงทุนผ่านระบบคอมพิวเตอร์ ร้อยละ ๘.๑๕ และข่มขู่ทางโทรศัพท์/Call Center ร้อยละ ๗.๔๗ การผลักดัน พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.๒๕๖๖ ซึ่งบังคับใช้เมื่อวันที่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๖๖ โดยพบว่าภายหลังกฎหมายบังคับใช้สถิติคดีอาชญากรรมออนไลน์ลดลง สามารถจับกุมบัญชีรับเงิน หรือบัญชีม้า ๒๕๒ ราย ซิมการ์ด ๘๔ ราย และใช้กลไกคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อบูรณาการและเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการป้องกัน ปราบปราม และจัดการคดี จัดทำโครงการประชาสัมพันธ์สร้างภูมิคุ้มกัน สร้างภาคีเครือข่ายป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สำหรับการบังคับใช้กฎหมายจราจร มีการปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับการจราจร เช่น การกำหนดเรื่องที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก การกำหนดการโดยสารท้ายรถกระบะให้มีความปลอดภัย การเพิ่มโทษของผู้ที่กระทำผิดซ้ำข้อหาเมาแล้วขับ การกำหนดโทษของการรวมกลุ่มมั่วสุมเพื่อแข่งรถในทางตั้งแต่ ๕ คันขึ้นไป การยกระดับสถานีตำรวจและการให้บริการประชาชน การพัฒนาคุณภาพชีวิตและสร้างขวัญกำลังใจข้าราชการตำรวจ โครงการธรรมนำใจ โครงการทำดี มีรางวัล การจัดหาเครื่องแบบรูปแบบใหม่ให้กับตำรวจจราจรทั่วประเทศ โครงการครอบครัวตำรวจเราไม่ทิ้งกัน โครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการตำรวจและลูกจ้าง นอกจากนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังได้ให้ความสำคัญในการปฏิบัติงาน กับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในการเสนอร่างกฎหมายเพื่อกำหนดมาตรการเชิงรุกในการแก้ไขปัญหาการหลอกลวงประชาชนผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ โดยมีสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงแรงงาน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการจัดทำโครงการชุมชนยั่งยืน เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจรตามยุทธศาสตร์ชาติ การพัฒนาปรับปรุงระบบการทำงาน และความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มุ่งเน้นการดำเนินการในทุกมิติ ภายใต้วิสัยทัศน์ “เป็นตำรวจมืออาชีพ ทำงานเชิงรุก เพื่อความสงบสุขของประชาชน” และวางแนวทางการปฏิบัติให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้ว่า “ความทุกข์ร้อนของประชาชน เป็นหน้าที่ของตำรวจต้องเข้าไปแก้ไขอย่างรวดเร็วและทันท่วงที” เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติ และสังคมส่วนรวมต่อไป

ในโอกาสนี้ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้กล่าวขอบคุณเหล่าทัพ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ได้ทุ่มเท เสียสละ ร่วมแรง ร่วมใจตลอดระยะเวลา ๑ ปีที่ผ่านมาในการทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชน สามารถแก้ปัญหาในภารกิจต่าง ๆ ที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้สำเร็จด้วยดีอย่างมีประสิทธิภาพ และขอให้ดำรง
ความร่วมมือระหว่างเหล่าทัพ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการดูแลประเทศชาติและประชาชน พร้อมกับปกป้องสถาบันหลักของชาติอย่างต่อเนื่องตลอดไป

กองทัพไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมปฏิบัติหน้าที่เพื่อรักษาอธิปไตยและความมั่นคงของชาติ รวมทั้ง สนองตอบนโยบายของรัฐบาล โดยจะใช้ศักยภาพและทรัพยากรที่มีอยู่ในการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาด้านต่าง ๆ เพื่อเป็นหลักประกันด้านความมั่นคงให้กับประเทศชาติ และประชาชนสืบไป 
--------------------------------------------
กองประชาสัมพันธ์ สำนักประชาสัมพันธ์ กรมกิจการพลเรือนทหาร ๑๑ กันยายน ๒๕๖๖

‘สมบัติ’ จวก!! นโยบายด้านการเกษตรของ รบ.เศรษฐา ‘เลื่อนลอย-ไร้หลักเกณฑ์’ เป็นนโยบาย Metaverse ที่เสมือนจริง แต่ไม่ใช่ความจริง

(12 ก.ย. 66) จากรัฐสภา อภิปรายการแถลงนโยบายรัฐบาลของ ครม.เศรษฐา วันแรก 11 ก.ย. 2566 นายสมบัติ ยะสินธุ์ สส.แม่ฮ่องสอน เขต 2 พรรคประชาธิปัตย์ ได้อภิปรายนโยบายด้านการเกษตรของรัฐบาล ไว้ว่า...

นโยบายด้านการเกษตรของรัฐบาลชุดนี้ ยังกว้าง เลื่อนลอย สร้างความฝัน ไม่มีหลักเกณฑ์ หลักประกันให้แก่พี่น้องเกษตรกร

โดยเฉพาะที่กล่าวไว้เรื่อง นโยบาย 'ตลาดนำ' นำแบบไหน เขียนไว้แต่หัวข้อ วิธีแนวปฏิบัติก็ไม่มี เช่น...

นโยบาย เพิ่มประสิทธิภาพ เพิ่มประสิทธิผล ก็เขียนไว้ลอยๆ ทางสมาชิกสภา และคนที่อยู่ทางบ้าน ฟังแล้วก็ไม่เข้าใจ ว่ารัฐบาลจะหาทางออก หรือทำให้เกษตรกรอยู่ดีกินดีได้อย่างไร เกษตรกร รอความหวัง รอทางรอด กันต่อไป

นอกจากนี้ ยังมีนโยบายหาเสียง โดยจะทำให้ราคาสินค้า 'ขึ้นยกแผง' และกล่าวว่า รายได้เกษตรกรจะเพิ่มอีก 3 เท่าภายใน 4 ปี

แต่ในคำแถลงนโยบายของท่าน เผยว่า มีเป้าหมายทำให้รายได้ของเกษตรกรทั้งประเทศเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ... ตรงไหน คือ 3 เท่า ก็ไม่มีบอก บอกว่าจขึ้นเป็นนัย และนี่คือความไม่ชัดเจนของรัฐบาลชุดนี้

สำหรับพี่น้องเกษตรกร ที่กำลังมีความหวังกับรัฐบาลชุดนี้ แต่กลับต้องมาเจอกับการไม่มีหลักเกณฑ์ใดๆ เพื่อออกมาให้เขาชื่นอกชื่นใจ

ผมขอยกตัวอย่าง พืชเศรษฐกิจ 5 ชนิด (ข้าว, ยางพารา, มันสำปะหลัง, ปาล์มน้ำมัน, ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์) ซึ่งในที่นี้ขอยกตัวอย่าง 'ข้าว' อย่างเดียวก็ได้ เพราะประเทศไทยเราผลิตข้าวได้มาก

เวลาผลผลิตข้าวออกมาในช่วงฤดู แน่นอนว่าคนย่อมต้องการขาย เยอะกว่าคนต้องการซื้อ แต่ถ้าราคาตกต่ำแล้ว ท่านจะมีมาตรการอย่างไร ที่จะรองรับสถานการณ์ข้าวล้นตลาดได้บ้าง

เพราะตอนข้าวล้นตลาด ท่านก็เคยบอกว่าไม่เอาประกันราคาข้าว ไม่เอาจำนำราคาข้าว แล้วท่านจะมีวิธีการทำให้ข้าวราคาดีได้อย่างไร

สมัยพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล เรามีโครงการ 'ประกันรายได้' ซึ่งได้ช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร เฉพาะข้าวอย่างเดียวมากกว่า 4.6 ล้านครัวเรือน และถ้ารวมพืชเศรษฐกิจทั้ง 5 ชนิด เกษตรคนไทยที่ได้รับประโยชน์ก็มีมากกว่า 8 ล้านครัวเรือน สะท้อนให้เห็นถึงการดูแลจากรัฐบาลหลังเกษตรกรปลูกพืชต่างๆ ขึ้นมาแล้ว จะไม่ต้องประสบกับความยากลำบาก

แต่ว่าวันนี้รัฐบาลชุดนี้ มีแต่โยบายภาพลวงๆ กว้างๆ ไม่ชัดเจน ไม่มีแนวปฏิบัติ

ดังนั้น ผมจึงอยากเรียกนโยบายชุดนี้ว่า 'นโยบาย Metaverse อยู่ในโลกเสมือนจริง ที่ไม่ใช่ความจริง'

มีแต่นโยบายที่สร้างให้คนฝัน ปิดสวิตช์เมื่อไร เราก็จะกลับสู่โลกแห่งความจริง ก็คือ 'เกษตรกรลำบากเหมือนเดิม'

อันที่จริงรัฐบาลนี้ ยังมีนโยบายหาเสียงอีกมากมาย แต่กลับไม่ได้นำมาบรรจุไว้ เช่น...

นโยบายโคขุนเงินล้าน ... หายไปไหนครับ? เกษตรกรที่อยากรวยเงินล้าน เขารอท่านอยู่ แต่กลับไม่มีอยู่ในเนื้อนโยบายแถลง

นโยบายทุเรียนล้านไร่ ... อยู่ไหนครับ? 

นโยบายปลูกพืชทดแทน ... พืชตัวไหนราคาตกต่ำ จะหาพืชมาทดแทนให้ คำถามคือ ชนิดไหนบ้าง หรือแม้แต่เลี้ยงสัตว์ทดแทนชนิดไหนบ้าง ที่จะทำให้เกษตรกรมีรายได้จริง

นโยบายสนับสนุนประมงพื้นบ้าน ... ไม่มีครับในคำแถลง

ทั้งหมดเป็นคำพูด เป็นนโยบายที่สวยหรู เพื่อขอคะแนนจากพี่น้องประชาชน ให้ชนะเลือกตั้งเท่านั้นหรือไม่ ท่านไม่ได้มุ่งมั่นตั้งใจที่จะแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริงใช่หรือไม่

ผมหวังให้พวกท่านหลุดออกจาก Metaverse แล้วกลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริง เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรไทยได้อย่างตรงจุดและเป็นความหวังให้พวกเขาได้จริงๆ

‘ป๋อ ณัฐวุฒิ’ กราบขอโทษ ‘เดือนเพ็ญ’ ชีวิตนี้ไม่เคยคิดเหยียดพี่น้องหมอลำ ยืนยัน!! ไม่ได้เจาะจงเพลงใด เพียงแค่ห่วงคำหยาบใน ‘เพลงทั่วไป’ เท่านั้น

(12 ก.ย. 66) สเตตัสพระเอกดัง ‘ป๋อ ณัฐวุฒิ สกิดใจ’ ถูกตีความไปเรื่อยๆ หลังเจ้าตัวระบุถึงความไม่เข้าใจที่เพลงไทยเอ่ยถึง อวัยวะเพศหญิงและชาย เต็มปากเต็มคำ พร้อมมองว่าหยาบโลน ไม่รับผิดชอบ กังวลว่าเด็กๆ วัยที่ยังไม่พร้อมมาเปิดคลิปดูแล้วร้องเอาสนุกบ้าง กระทั่งแวดวงวิชาการออกมาแสดงทรรศนะต่อจากมุมมองพระเอกดัง

ล่าสุด ‘ป๋อ ณัฐวุฒิ’ เคลื่อนไหวอีกครั้งเมื่อช่วงดึก (11 ก.ย.) โดยระบุ ‘ลบโพสต์แล้ว’ พร้อมถามหาความรับผิดชอบจากสื่อมวลชนที่ทำให้เกิดความเสียหาย ความดังนี้

“ผมลบโพสต์แล้วนะครับ…เหตุผลเดียวเลย คือ ผมไม่อยากเป็นต้นเหตุของความขัดแย้งใดๆ ทั้งสิ้น สิ่งที่ผมอยากจะพูดมี 2 เรื่องนะครับ

1.) ผมชื่นชมและเคารพพี่น้องเพลงหมอลำมาตลอดครับ สาบานได้เลย ชีวิตนี้ผมไม่เคยคิดดูถูกเหยียดหยามพี่น้องหมอลำ และเรื่องชนชั้นใดๆ แม้แต่นิดเดียว (ถ้าอ่านในเนื้อหาที่ผมเขียน ผมพูดถึงเพลงทั่วไปครับ ผมไม่ได้พูดอะไรเลยเจาะจงเกี่ยวกับเพลงหมอลำเลย)

2.) พี่ๆ สื่อมวลชนทั้งหลายครับ การที่พี่เอารูปผมและบทความของผมในพื้นที่ส่วนตัวของผม ไปต่อยอดรายงานข่าว โดยมีการตัดต่อรูปผมคู่กับ พี่เดือนเพ็ญ เด่นดวง นักร้องหมอลำ…แล้วทำให้ตอนนี้สังคมเข้าใจผมผิดทั้งหมด เกิดความขัดแย้ง ทำให้เนื้อหาที่ผมจะสื่อบิดเบือนจากเจตนาของผมไปมาก…ผมอยากจะถามว่า…พี่จะรับผิดชอบต่อการกระทำครั้งนี้กับผมยังไงครับ

ถ้าอ่านบทความของผมดีๆ ผมพูดในบริบทของเพลงทั่วไป ผมพูดในฐานะพ่อคนหนึ่งที่กังวลใจ ตกใจ กังวลต่อคำที่ใช้ในเพลงที่ไม่สมควรมีคำหยาบ (อวัยวะเพศ) มาอยู่ในเพลง…ในบทบาทของความเป็นพ่อ ผมก็เลยอยากจะฝากแง่คิดไปถึงคนที่มีส่วนรับผิดชอบในการคัดกรองเนื้อหาต่างๆ ให้อยู่ในจุดที่เหมาะสม เพื่อให้เด็กได้เติบโตมาในสังคมที่ดีงาม

ผมต้องกราบขอโทษพี่น้องหมอลำและคุณเดือนเพ็ญ เด่นดวง กับเรื่องเข้าใจผิดในครั้งนี้ด้วยนะครับ ผมทราบมาตั้งแต่แรกแล้วว่าคลิปมันนานมาแล้ว แล้วผมไม่ได้พูดเจาะจงถึงเพลงเพลงนี้เลย ผมพูดถึงเพลงทั่วไปในปัจจุบัน ผมหวังว่าพี่ๆ จะเข้าใจและให้อภัยผมในเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วยนะครับ

ผมต้องตกเป็นจุดสนใจของการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนหลายสำนัก มีการเอารูปและข้อความจากพื้นที่ส่วนตัวของผมไปขยายความโดยไม่ได้รับอนุญาตแล้วทำให้เรื่องบานปลาย กลายเป็นความเข้าใจผิดครั้งใหญ่ขนาดนี้…ผมหวังว่าพี่ๆ สื่อจะรับผิดชอบกับการกระทำในครั้งนี้ต่อผมด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ”

‘บุอิจิ เทราซาวา’ เสียชีวิตด้วยอาการหัวใจวายในวัย 68 ปี ปิดตำนานนักเขียนการ์ตูนอมตะ ‘คอบร้า เห่าไฟสายฟ้า’

‘บุอิจิ เทราซาวา’ ซึ่งเคยผ่าตัดเนื้องอกในสมองมาก่อน เสียชีวิตด้วยอาการหัวใจวายเมื่อวันที่ 8 กันยายน สิ้นตำนานนักเขียนการ์ตูนเจ้าของผลงานอมตะอย่าง ‘คอบร้า เห่าไฟสายฟ้า’

บัญชี Twitter อย่างเป็นทางการของ บุอิจิ เทราซาวา ผู้เขียนมังงะ Space Adventure Cobra เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ว่านักเขียนการ์ตูนระดับตำนานของวงการการ์ตูนญี่ปุ่นเสียชีวิตด้วยอาการหัวใจวายเมื่อวันที่ 8 กันยายน เขาอายุ 68 ปี

ในปี  2003 เทราซาวา เปิดเผยว่าเขาได้รับการวินิจฉัยว่ามีเนื้องอกในสมองที่เป็นเนื้อร้ายในปี 1998 และเขาได้รับการผ่าตัด นอกจากนี้เขายังเปิดเผยว่าแม้จะได้รับรังสีและเคมีบำบัด แต่มะเร็งก็ยังกลับเป็นซ้ำ การผ่าตัดครั้งที่สองทำให้เขาเป็นอัมพาตที่ด้านซ้ายของร่างกาย

เทราซาวะเกิดในปี 1955 ที่ฮอกไกโด ในปี 1976 เขาย้ายไปโตเกียวเพื่อศึกษาการเขียนการ์ตูนกับนักเขียนระดับปรมจารย์ โอซามุ เทสึกะ

เทราซาวา ตีพิมพ์มังงะเรื่อง Cobra ในนิตยสาร Weekly Shonen Jump ของสำนักพิมพ์ Shueisha ตั้งแต่ปี 1978 ถึง 1984 มังงะเรื่องนี้เล่าเรื่องของโจรสลัดอวกาศ ‘คอบบร้า’ เจ้าของปืน ‘ไซโคกัน’ ที่ซ่อนอยู่ในแขนซ้าย ที่ต้องหลบหนีจากทั้งเจ้าหน้าที่แห่งอวกาศ และองค์กรชั่วร้าย ๆ เนื่องจากความทรงจำของเขาที่ถูกลบทิ้งไปแล้ว

มังงะเรื่องนี้ได้รับการดัดแปลงเป็นอนิเมะทางโทรทัศน์และภาพยนตร์จำนวน 31 ตอนในปี 1982 ส่วนอนิเมะ The Space Adventure Cobra - The Movie เข้าฉายในเดือนกรกฎาคมปี 1982

เมื่อเดือน พ.ค. 2019 บุอิจิ เทราซาวา ยังได้เปิดตัวมังงะภาคต่อเรื่อง Cobra: Over the Rainbow บนเว็บไซต์ Comic Walker และ Nico Nico Manga ของ Kadokawa ด้วย

บุอิจิ เทราซาวา ยังมีผลงานมังงะเรื่อง Goku - Midnight Eye ในปี 1987 ที่ถูกสร้างออกมาเป็นนอนิเมะวิดีโอ (OVA) สองเรื่องในปี 1989

ในช่วงทศวรรษ 1980 เทราซาวา ได้เริ่มใช้คอมพิวเตอร์เพื่อสร้างมังงะ เขาเป็นผู้สร้างมังงะเรื่อง Kabuto และ Black Knight Bat นอกจากนี้เขายังสร้างมังงะ Takeru ซึ่งถือเป็นหนังสือการ์ตูนชุดแรกที่สร้างขึ้นโดยใช้คอมพิวเตอร์กราฟิก

'อังกฤษ' เปิดฉาก!! กล่าวหารัสเซียยิงขีปนาวุธเป็นชุด  โจมตีเรือสินค้าในทะเลดำ พังธัญพืชหล่อเลี้ยงชีวิตชาวยูเครน

(12 ก.ย. 66) กองทัพรัสเซียเล็งเป้าหมายโจมตีเรือสินค้าพลเรือนลำหนึ่งในทะเลดำ ด้วย ‘ขีปนาวุธหลายลูก’ เมื่อเดือนที่แล้ว แต่กองกำลังยูเครนประสบความสำเร็จในการยิงสกัด จากคำกล่าวหาเมื่อวันจันทร์ (11 ก.ย.) ของสหราชอาณาจักรที่อ้างข้อมูลข่าวกรอง

จากคำกล่าวอ้างของรัฐบาลสหราชอาณาจักร ระบุว่าเรือลำหนึ่งในกองเรือทะเลดำของรัสเซีย ยิงขีปนาวุธหลายลูก ในนั้นรวมถึงขีปนาวุธร่อนคาลิเบอร์ มุ่งหน้าสู่โอเดสซา เมืองท่าทางใต้ของยูเครน เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม

กระทรวงการต่างประเทศและการพัฒนาของสหราชอาณาจักร (Foreign, Commonwealth & Development Office - FCDO) ระบุว่าข้อมูลข่าวกรองชั้นไม่เป็นความลับ เผยว่าเป้าหมายโดยเจตนาของการโจมตีดังกล่าวคือเรือสินค้าประดับธงลิเบียลำหนึ่ง ซึ่งเทียบท่าอยู่ที่นั่น

นอกจากนี้แล้วกระทรวงการต่างประเทศและการพัฒนาของสหราชอาณาจักร ยังบอกอีกว่าระบบป้องกันภัยทางอากาศของยูเครนสามารถทลายการโจมตีที่มุ่งเป้าเล่นงานเรือพลเรือน โดยที่ไม่มีขีปนาวุธคาลิเบอร์ใดๆ ที่พุ่งโดนเป้าหมาย "แม้ประสบความล้มเหลว แต่มันพิสูจน์อย่างชัดเจนว่า รัสเซียยังคงพยายามบีบรัดเศรษฐกิจของยูเครน" FCDO กล่าวในถ้อยแถลง

ในถ้อยแถลงยังกล่าวหาด้วยว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ไม่แยแสต่อชีวิตพลเรือน และพยายามใช้อาหารและการค้าอันบริสุทธิ์เป็นอาวุธ ที่ทั่วทั้งโลกต้องเป็นฝ่ายชดใช้

ทะเลดำ กลายเป็นสมรภูมิที่มีการต่อสู้กันอย่างดุเดือดมากขึ้น หลังจากรัสเซียถอนตัวจากข้อตกลงส่งออกธัญพืชที่มีสหประชาชาติและตุรกีเป็นคนกลางเมื่อเดือนกรกฏาคม ในขณะที่ข้อตกลงดังกล่าวมีเป้าหมายรับประกันความปลอดภัยในการล่องเรือของเรือสินค้า

นับตั้งแต่นั้น มอสโกโจมตีโครงสร้างพื้นฐานท่าเรือของยูเครนซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในสิ่งที่เคียฟกล่าวหาว่าเป็นความพยายามก่อความเสียหายแก่การส่งออกของพวกเขา และบ่อนทำลายความมั่นคงทางอาหารโลก

ในการพาดพิงคำกล่าวหาเกี่ยวกับเหตุโจมตีเรือพลเรือนเมื่อวันที่ 24 มีนาคม ริชี ซูแน็ก นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ใช้โอกาสแถลงต่อรัฐสภา เกี่ยวกับการประชุมซัมมิตจี 20 เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ระบุว่ามันแสดงให้เห็นว่า ปูติน กำลังจนตรอกอย่างหนัก

เขาบอกด้วยว่าการโจมตีของรัสเซียที่เล่นงานสถานที่ต่างๆ ของยูเครน ได้ทำลายธัญพืชไปมากกว่า 270,000 ตัน ซึ่งมันเพียงพอสำหรับเลี้ยงดูประชาชน 1 ล้านคนเป็นเวลา 1 ปีเลยทีเดียว "ยูเครนมีสิทธ์ส่งออกสินค้าของพวกเขาผ่านน่านน้ำสากล และพวกเขามีสิทธิทางศีลธรรมที่จะส่งออกธัญพืชไปช่วยหล่อเลี้ยงคนทั้งโลก" ซูแน็ก กล่าว

'สื่ออาวุโส' เอือม!! 'เท่าพิภพ' โพสต์แซะที่จอดรถสภากับความเท่าเทียม แต่ตนเองก็ยังได้ที่จอดรถประเภทจอง แนะ!! วันหลังวนหาที่จอดเองดู

(12 ก.ย. 66) นายเฉลียว คงตุก ผู้สื่อข่าวอาวุโสได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า...

ในวันที่มีเสียงบ่นเรื่องรถติดหน้าสภา และไม่มีที่จอดรถ

'เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร' สส. #พรรคก้าวไกล ขี่จักรยานยนต์เข้าไปจอดในช่องจอดมีการจัดเตรียมไว้รองรับรถประจำตำแหน่งของสมาชิกรัฐสภา บริเวณชั้น B2 อาคารรัฐสภา ระหว่างมีการ #ประชุมสภา #แถลงนโยบาย ของรัฐบาล

เท่าพิภพ โพสต์ภาพรถจักรยานยนต์คู่ใจใช้มาตั้งแต่ในสมัยรัฐบาลที่แล้ว จอดติดกับรถเบนซ์หรู พร้อมแคปชันประกอบว่า...

“มาใช้สิทธิ์ที่จอดรถ สส. ทางจอดก็แคบเวลาถอยเลยลำบากนิดนึง” พร้อมติดแฮชแท็ก ‘เท่ากับประชาชน’ และ ‘ก้าวไกล’

การหันมาใช้รถจักรยานยนต์ในวันที่รถติดถือว่าเป็นทางเลือกในการเดินทาง นอกจากใช้รถยนต์ส่วนตัว ซึ่งทางเลือกมีมากขึ้นกว่าเดิมและสะดวกขึ้น จะเป็นรถไฟฟ้าบนดิน ใต้ดิน มอเตอร์ไซค์รับจ้าง หรือแท็กซี่ก็สะดวกขึ้นมาก

เท่าพิภพ เลือกที่จะใช้รถจักรยานยนต์ส่วนตัว ก็ถือว่าเป็นสิทธิ์ แต่การบรรยายว่า ทางจอดแคบ ถอยลำบาก ไม่น่าจะใช่แล้ว รถยนต์เขายังถอยเข้าไปได้ รถจักรยานยนต์จะเอากว้างขนาดไหน แถมบอกว่าใช้สิทธิ์ที่จอดรถเท่าประชาชนก็ไม่น่าจะใช่ ประชาชนคนธรรมดาเข้าไปในสภา ไม่มีการจองที่ไว้ให้จอดครับ วนหาเอาเอง บางทีที่จอดรถไม่ว่างต้องวนออกไปหาที่จอดข้างนอก วนกันเป็นชั่วโมงกว่าจะหาที่จอดได้ บางคนวนไปจอดในวัดข้างสภา แล้วบอกว่าใช้สิทธ์เท่าคนธรรมดา เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า

อย่างเมื่อวาน หรืออาจจะวันนี้ด้วย ซึ่งเป็นวันประชุมรัฐสภา (ประชุมร่วมระหว่าง สส.กับ สว.เพื่อแถลงนโยบายของรัฐบาล) รถก็จะมากเป็นพิเศษ อยากให้เท่าพิภพใช้สิทธิ์เหมือนประชาชนธรรมดาอย่างที่พยายามสร้างภาพไว้ ไม่ต้องจองที่จอดรถไว้ แล้วขับรถจักรยานยนต์วนหาที่จอดเอง เหมือนประชาชนธรรมดา จะได้รับรู้ว่า ประชาชนธรรมดาจริงๆ เขาลำบากกันอย่างไรในการวนหาที่จอดรถกันแค่ไหนอย่างไร

CR: ปฏิภัทร จันทร์ทอง

‘ลิเบีย’ ประกาศภาวะฉุกเฉิน หลัง ‘พายุแดเนียล’ ถล่มหนักต่อเนื่อง รบ.เร่งให้ความช่วยเหลือ หวั่นดับทะลุ 2 พัน-สูญหายพุ่ง 6 พันคน

(12 ก.ย. 66) สำนักข่าวบีบีซี และเอเอฟพีรายงานความคืบหน้าสถานการณ์ภัยพิบัติในประเทศลิเบีย หลังเผชิญหน้ากับ ‘พายุแดเนียล’ พัดถล่มพื้นที่ภาคตะวันออกของประเทศ ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา หลังโจมตีหลายประเทศในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน รวมถึงตุรกี บัลแกเรีย และกรีซ

อิทธิพลของพายุก่อให้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง และน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้าง มีผู้เสียชีวิตยืนยันแล้วอย่างน้อย 200 ราย

ขณะที่รัฐบาลฝ่ายลิเบียตะวันออกแถลงกังวลว่ายอดผู้เสียชีวิตสูงกว่า 2,000 รายแล้ว พร้อมประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อเร่งรับมือและให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย รวมถึงบังคับใช้มาตรการเคอร์ฟิว และสั่งให้สถานศึกษาปิดการเรียนการสอน

รายงานระบุว่า พื้นที่ได้รับผลกระทบรุนแรง ครอบคลุมเมืองเบงกาซี เมืองซูสส์ เมืองเดอร์นา และเมืองอัล-มาร์จ ด้านหน่วยงานกาชาดลิเบียระบุว่า นอกจากผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมากแล้ว บ้านเรือนหลายร้อยหลังยังพังถล่มเสียหาย เขื่อนอย่างน้อย 2 แห่งในเมืองเดอร์นา ซึ่งมีประชากรราว 100,000 คนพังทลายลงมา เป็นเหตุให้มวลน้ำมหาศาลไหลทะลักเข้าท่วมชุมชนและพื้นที่ส่วนใหญ่จมอยู่ใต้น้ำ

ด้าน นายกรัฐมนตรีโอซามา ฮาหมัด ผู้นำรัฐบาลฝ่ายลิเบียตะวันออก แถลงผ่านสถานีโทรทัศน์ว่ามีผู้ประสบภัยสูญหายหลายพันคน และเสียชีวิตมากกว่า 2,000 ราย ย่านใกล้เคียงทั้งหมดในเมืองเดอร์นาถูกกระแสน้ำเชี่ยวกรากพัดหายไปพร้อมกับชาวบ้าน

ขณะที่ รอยเตอร์ รายงานจากโฆษกกองทัพฝ่ายลิเบียตะวันออกระบุว่า ผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นกว่า 2,000 ราย และมีผู้สูญหายระหว่าง 5,000-6,000 รายเฉพาะในเมืองเดอร์นา


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top