Wednesday, 14 May 2025
TheStatesTimes

ช่อง 3 นำนักแสดงร่วมงานแถลงข่าว “24 กันยายน “วันมหิดล” ศิลปินรวมใจช่วยเหลือผู้ป่วยด้อยโอกาส รพ.ศิริราช” น้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณ “พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันของไทย” และร่วมกัน “ให้” ชีวิตใหม่แก่ผู้ด้อยโอกาส รพ.ศิริราช

ศ.นพ.อภิชาติ อัศวมงคลกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล ในฐานะรองประธานกรรมการจัดงานหารายได้  และประธานกรรมการฝ่ายจัดรายการโทรทัศน์ประจำปี 2566   เป็นประธานเปิดงานแถลงข่าว “24 กันยายน “วันมหิดล” ศิลปินรวมใจช่วยเหลือผู้ป่วยด้อยโอกาส รพ.ศิริราช” ร่วมกับ ศ.คลินิก นพ.วิศิษฎ์ วามวาณิชย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช ในฐานะประธานกรรมการขอรับบริจาคเนื่องในวันมหิดล รศ. พญ.นันทกร ทองแตง รองคณบดีฝ่ายกิจการพิเศษและองค์กรสัมพันธ์ ในฐานะคณะกรรมการจัดงานหารายได้เนื่องในวันมหิดล คุณลาวัลย์ กันชาติ ประธานกรรมการ บริษัท เจ เอส แอล โกลบอล มีเดีย จำกัด คุณบงกช อักษรดี ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตรายการ สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก คุณชาคริต ดิเรกวัฒนชัย รองกรรมการผู้อำนวยการสำนักกิจการและสื่อสารองค์กร บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) คุณวรวรรณ ติณสูลานนท์ ผู้จัดการบริหารประชาสัมพันธ์ สำนักกิจการและสื่อสารองค์กร บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด พร้อมสองนักแสดงจากช่อง 3 พทริเซีย-ธัญชนก กู๊ด จากละคร เกมรักทรยศและน้ำหวาน-ภูริต า สุปินชุมภู จากละคร สืบลับหมอระบาด  คุณสมพันธ์ จารุมิลินท รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทรู วิชั่นส์ กรุ๊ป จำกัด คุณณฐนนท์ ดนัยพิริยะ ผู้อำนวยการฝ่ายออกอากาศ บริษัท ทริปเปิล วี บรอดคาสท์ จำกัด(มหาชน)  คุณพลพล พลกองเส็ง ผู้แทนจากบริษัท จีเอ็มเอ็ม  แกรมมี่ จำกัด  (มหาชน) คุณรงวไล หมื่นสวัสดิ์ ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท ทีวี ธันเดอร์ จำกัด (มหาชน) เข้าร่วมงาน

วันที่ 24 กันยายนของทุกปี ถือเป็นวันมหิดล และเป็นวันคล้ายวันสวรรคตของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก หรือพระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันของไทย โดยตลอดพระชนม์ชีพของพระองค์ ทรงทุ่มเทพระวรกาย พระสติปัญญา และพระราชทานพระราชทรัพย์ ในการวางรากฐานพัฒนาการแพทย์และสาธารณสุขไทยให้เจริญก้าวหน้า เพื่อให้พสกนิกรไทยได้รับการรักษาอย่างทั่วถึง โดยไม่เลือกยากดีมีจน ทรงอุทิศพระองค์เป็นแบบอย่างในการ “ให้” อย่างแท้จริง

ในทุกปีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล ถือวันมหิดลเป็นประเพณีปฏิบัติในการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาศิริราชให้เจริญก้าวหน้ามาถึงปัจจุบัน พร้อมเปิดโอกาสให้ประชาชนร่วมเป็นผู้ให้ ด้วยการบริจาคเงินตามรอยพระบาทช่วยผู้ป่วยด้อยโอกาส รพ.ศิริราช โดยคณะฯ ได้รับพระกรุณาธิคุณจากศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงเป็นประธานจัดงานหารายได้ เนื่องในวันมหิดลเสมอมา นับเป็นพระกรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้แก่คณะกรรมการจัดงาน และผู้ป่วยของ รพ.ศิริราช

กิจกรรมการรับบริจาคเงินพร้อมมอบธงวันมหิดลเป็นที่ระลึก ทำต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี พ.ศ 2503 จนถึงปัจจุบัน ถือเป็นปีที่ 63 โดยตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2566 เป็นต้นมา นักศึกษาวิทยาเขตบางกอกน้อยได้ขอรับบริจาค ตามสถานที่ต่าง ๆ ในปีนี้ คณะฯ กำหนดวันศุกร์ที่ 22 กันยายน 2566 เป็นวันขอรับบริจาคครั้งใหญ่ ทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล และพิเศษสุดกับการเดินสายขอรับบริจาคที่อาคารมาลีนนท์ ร่วมกับศิลปิน นักแสดง ที่กรุณาสละเวลามาช่วยรับบริจาค นำเงินช่วยเหลือผู้ป่วยด้อยโอกาส รพ.ศิริราช โดยผู้มีจิตศรัทธาที่ร่วมบริจาคตั้งแต่ 20 บาทขึ้นไป จะได้รับธงแขวนเป็นที่ระลึกและตั้งแต่ 300 บาทขึ้นไป จะได้รับธงพร้อมเสาเป็นที่ระลึก สำหรับธงในปีนี้จะเป็นรูปสามเหลี่ยมสีแดง เนื่องจากวันที่ 24 กันยายน ตรงกับวันอาทิตย์ พร้อมสกรีนพระรูปสมเด็จพระบรมราชชนกประทับพระเก้าอี้อยู่กลางผืนผ้า และข้อความ “ที่ระลึกวันมหิดล วันที่ ๒๔ กันยายน โรงพยาบาลศิริราช ๒๕๖๖”

อีกหนึ่งกิจกรรม นั่นคือ การจัดรายการพิเศษเนื่องในวันมหิดล ปี 2566 ภายใต้แนวคิดศิริราชกับคุณภาพชีวิตผู้พิการในประเทศไทย เนื่องจากสถานการณ์ของผู้พิการในแต่ละปียังคงมีความน่าเป็นห่วงซึ่งมีมากกว่า 2 ล้านคน แบ่งเป็นผู้พิการทางการเคลื่อนไหวมากถึง 50% หรือประมาณ 1 ล้านคน ต่างรอคอยการเข้าถึงกายอุปกรณ์ที่เหมาะสม แต่ทุกวันนี้โรงเรียนกายอุปกรณ์สิรินธร มีกำลังการผลิตอุปกรณ์เพียง 4,000 ชิ้นต่อปีเท่านั้น ในการนี้ ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี พระราชทานสัมภาษณ์ประเด็น “คุณภาพชีวิตผู้พิการในประเทศไทย” ตลอดจนพระราชทานคำแนะนำการดูแลใจและกายไปยังพสกนิกรที่ในครอบครัวมีผู้พิการหรือทุพพลภาพ นอกจากนี้ ในรายการพิเศษเนื่องในวันมหิดลปีนี้ ยังมีสาระความบันเทิงที่หลากหลายเกี่ยวกับผู้พิการทางการเคลื่อนไหว อาทิ รายการเจาะใจ ตอนพิเศษ ประเด็น “ศิริราชกับกายอุปกรณ์สำหรับผู้พิการ และผู้มีความผิดปกติทางการเคลื่อนไหว” ร่วมสัมภาษณ์ ศ. นพ.อภิชาติ อัศวมงคลกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล และ รศ. พญ.กุลภา ศรีสวัสดิ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนกายอุปกรณ์สิรินธร และ VTR สุด Exclusive ส่งต่อเรื่องราวดีๆ พลิกชีวิตจากผู้ที่มีความบกพร่อง เปลี่ยนสู่ผู้ที่มีร่างกายสมบูรณ์ พร้อมส่งต่อรอยยิ้มอันแสนสุขที่มาจากหัวใจ

นอกจากนี้ยังได้รับเกียรติจาก อาจารย์ธนธัช จรัสรุ่งโอฬาร รองผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร โรงเรียนกายอุปกรณ์สิรินธร พาเปิดบ้านเยี่ยมชมภารกิจการผลิตนักกายอุปกรณ์และนวัตกรรรมที่มีส่วนช่วยในการเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้พิการ โดยผู้ที่มีข้อสงสัยหรือสนใจปรึกษาปัญหาสุขภาพเพิ่มเติมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ติดต่อได้ที่หมายเลข 02 270 2555 จำนวน 20 คู่สาย และในปีนี้ได้รับเกียรติจากคุณสัญญา คุณากร (ดู๋) พ.ท.หญิง ชลรัศมี งาทวีสุข (ทิพย์) คุณสุวิกรม อัมระนันทน์ (เปอร์) คุณอรชพร ชลาดล (มิ้นท์) และ นศพ.อิทธิพัฒน์ อารยะการกุล (พีท) ร่วมเป็นพิธีกร

สามารถรับชมและร่วมบริจาคผ่านหมายเลข 02 270 2222 จำนวน 60 คู่สาย ในวันเสาร์ที่ 16 กันยายนนี้ เวลา 16.00 – 18.00 น. ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก (ททบ. 5) และรับชมได้พร้อมกันทางสถานีโทรทัศน์ไทยรัฐทีวี (ช่อง 32) และทางสถานีโทรทัศน์ TNN 2 (True Visions ช่อง 784) ตลอดจนถ่ายทอดสดผ่านทาง Page Facebook sirirajpr, TV5HD Online, TNN2 True Vision784 และช่องทาง Youtube TNN2 True Vision784 รวมถึงรับชมออนไลน์ผ่านทาง TrueID Application TNN2 True Vision784 และ TrueID TV Box TNN2 True Vision784 อีกช่องทาง

‘ดีเจมะตูม’ คว้าชุดฝีมือเด็กไทย เฉิดฉายบนรันเวย์ที่เกาหลี จนสื่อตปท.รุกถาม ตอกย้ำ!! แบรนด์ไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก

(10 ก.ย. 66) ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากๆ เมื่อ ‘ดีเจมะตูม เตชินท์ พลอยเพชร’ ได้โกอินเตอร์ บินลัดฟ้าไปเดินแบบที่งาน ‘Seoul fashion week’ ที่ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งเจ้าตัวก็เคยเผยว่า “การมาเดินแบบครั้งนี้ถือเป็นปริญญาชีวิตของตัวเองและครอบครัว” ล่าสุดดีเจมะตูมเผยว่าได้นำฝีมือคนไทยติดตัวมาเดินแบบในครั้งนี้ด้วย

โดย ‘ดีเจมะตูม’ ได้โพสต์ภาพความประทับใจลงในอินสตาแกรมส่วนตัว @dj_matoom และระบุแคปชันว่า “Seoul fashion week #day3 สำหรับลุค first gate วันนี้ มะตูมคิดอยู่นานมากว่าจะเลือกใส่แบรนด์ไหนดี จะเป็นไฮเอนหรือแบรนด์ต่างประเทศไปเลย สุดท้ายมะตูมเลือก ‘ชุดนักศึกษาทีสิต’ เป็นแบรนด์เด็กไทยแท้ ตัดเย็บโดยดีไซน์เนอร์เลือดใหม่ไฟแรง @chaytoninblack ซึ่งยอมรับว่าตัดสินใจถูกมากๆๆ เพราะทุกคนมองแล้วชื่นชมชุดนี้มาก แถมโดนสื่อต่างประเทศขอสัมภาษณ์ถึงชุดนี้และแบรนด์ไทยด้วย ตูมดีใจครับที่ได้พรีเซนท์ให้ทุกคนที่นี่เห็นว่า ดีไซนเนอร์ไทย มีฝีมือและเก่งไม่แพ้ของชาติไหนเลยเช่นเดียวกัน และมะตูมก็ภูมิใจมากนะครับที่มีโอกาสได้มารันเวย์ระดับโลก และไม่ได้มาเพียงคนเดียว แต่ยังพาฝีมือคนไทยเก่งๆ ติดตัวมาให้ชาวโลกที่นี่เห็นด้วย ยังไงฝากทุกคนซับพอร์ตให้เหล่าไทยดีไซนเนอร์ด้วยครับ เพราะคำว่า… ‘แฟชั่น ไม่มีเชื้อชาติครับ’ @seoulfashionweek_official'

‘ป.ป.ส.’ บุกยึดยาบ้ากว่า 2 ล้านเม็ด ที่ถูกซุกอยู่บ้านเช่า จ.อยุธยา ส่วนผู้ต้องหาขับรถแหกวงล้อมหนีไปได้ จ่อแถลงใหญ่ 13 ก.ย.นี้

(10 ก.ย. 66) ภาพจากกล้องวงจรปิด บันทึกเสียง และภาพเจ้าหน้าที่ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และกำลังจะเข้าจับกุมกลุ่มเครือข่ายยาเสพติด ไหวตัวทัน ขับรถยนต์ พุ่งชนรั้วบ้าน และรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รับความเสียหาย 2 คัน จากนั้นขับหลบหนี ซึ่งกล้องบริเวณหน้าปากทางสามารถจับภาพได้ขณะที่ต้องสงสัย รายที่ 1 วิ่งหลบหนีออกไปทางด้านหน้าปากซอย จากนั้นก็จะเห็นภาพรถยนต์นั่งส่วนบุคคล อีซูซุ มิวเอ็ก สีขาววิ่งตามมา อย่างรวดเร็ว ตามด้วยเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำกำลังเข้าตรวจค้นจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติดข้ามชาติรายใหญ่ ที่บ้านหลังหนึ่ง ภายในหมู่บ้านจัดสรร ริมถนนโรจนะ ม.5 ต.บ้านสร้าง อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา

ในขณะที่กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ปิดล้อมบ้าน และกำลังจะเข้าจับกุมกลุ่มเครือข่ายยาเสพติด เกิดไหวตัวทัน ขับรถยนต์พุ่งชนรั้วบ้านหลบหนีออกมาจากบ้าน จนชนรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้ได้รับความเสียหายจำนวน 2 คัน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยิงสกัดรถของเครือข่ายยาเสพติด พร้อมกับขับรถรถติดตามไปแต่ไม่สามารถจับกุมตัวได้ ท่ามกลางความตกใจของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ภายในหมู่บ้าน

ในเบื้องต้น ทราบข้อมูลว่า เจ้าหน้า ป.ป.ส. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ทหารเรือ ให้ข้อมูลว่า ได้ติดตามเครือข่ายยาเสพติดมาจากจังหวัดทางภาคอีสาน ที่ขนยาบ้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน ข้ามแม่น้ำโขงมา มีการนำยาบ้ามาซุกซ่อนพักเอาไว้ภายในบ้านหลังดังกล่าว เพื่อเตรียมกระจายจำหน่ายในพื้นที่ภาคกลาง และปริมณฑล ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังจะเข้าจับกุม กลุ่มเครือข่ายยาเสพติด ได้เปิดประตูรั้วบ้านออกมาพอดี เตรียมจะเดินทางออกจากบ้าน จึงเห็นกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ วิ่งหลบหนี และอีก 2 คนได้ขับรถยนต์อีซูซุ สีขาว หลบหนีพุ่งชนรั้วบ้าน และรถเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามไปแล้วไม่ทัน หลบหนีไปได้จำนวน 3 คน

จากการตรวจค้นภายในบ้านเช่า พบจำนวนยาบ้าประมาณ 2 ล้านเม็ด ถูกพันด้วยผ้าเทปสีน้ำตาล ตั้งเรียงไว้อยู่บริเวณมุมบ้านพร้อมกับขวดสเปรย์น้ำหอม ที่ใช้ฉีดกลบกลิ่นยาบ้าไม่ให้เพื่อนบ้านได้กลิ่น จากนั้นเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.ขนย้ายยาเสพติดทั้งหมด เข้าสำนักงาน ป.ป.ส. แล้วจะมีการแถลงใหญ่ในวันที่ 13 กันยายน ที่จะถึงนี้อย่างละเอียดอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวได้ สอบถามเพื่อนบ้านเล่าว่า บ้านหลังดังกล่าว พบว่ามีคนมาเช่าบ้านอยู่ได้ประมาณ 5-6 เดือน เคยพูดคุยกันทราบว่าเป็นผู้รับเหมา มักจะกลับเข้ามาบ้านช่วงดึกๆ มาอยู่ประมาณ 2-3 ชั่วโมงแล้วออกไปไม่เคยมีการพักค้างคืน

จนเมื่อเช้า เห็นมีกำลังเจ้าหน้าที่มาจอดหน้าบ้าน คนในบ้านเปิดประตูมาพอดี แล้ววิ่งหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจะพยามจับกุมตัวแต่ไม่ทัน รถที่จอดในบ้านขับชนรั้วออกมาชนรถตำรวจขับหลบหนี ได้ยินเสียงปืนดังหลายนัด ตนเองตกใจกระโดดหลบจนล้มได้รับบาดเจ็บ

‘ป๋อ ณัฐวุฒิ’ รับไม่ได้!! เพลงฮิตที่มีคำหยาบสองแง่สองง่าม หวั่นเยาวชนทำตาม-มองเป็นเรื่องสนุก ลั่น!! เรามาถึงจุดนี้ได้ยังไง

(10 ก.ย. 66) กลายเป็นประเด็นขึ้นจนได้ เมื่อเพลงที่ได้รับกระแสความนิยมกันอย่างมากในโลกโซเชียลในตอนนี้ มีท่อนที่มีคำหยาบอยู่ในเนื้อเพลง ทำเอานักแสดงชื่อดังอย่าง ‘ป๋อ ณัฐวุฒิ สกิดใจ’ ออกมาแสดงความคิดเห็นถึงประเด็นดังกล่าวว่า “พยายามเข้าใจ แต่ก็รับไม่ได้จริงๆ”

โดย ‘ป๋อ’ ได้โพสต์ภาพลงในอินสตราแกรมส่วนตัว @poh_natthawut และระบุข้อความว่า…

“ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี!!...พยายามเข้าใจนะว่าผมอาจจะมาจากดาวดวงอื่น แต่ดันมีชีวิตมาจนถึงต้องอยู่อาศัยบนดาวดวงนี้ พยายามเข้าใจมาตลอด แต่หลายสิ่งที่รับไม่ได้จริงๆ แล้วไม่ตลกด้วย คือมีการร้องเพลง แล้วใส่คำว่า ...ี ,...ย (อวัยวะเพศหญิง-ชาย) ในเนื้อเพลง แล้วก็เห็นว่าเป็นเรื่องตลก ขบขัน ผมว่า มันหยาบคาย หยาบโลน ตื้นเขิน ไม่รับผิดชอบ และกังวลว่าเด็กๆ ในวัยที่ยังไม่พร้อมมาเปิดดูคลิปเพลงพวกนี้จะเห็นว่าเป็นเรื่องธรรมดา ใครๆ ก็พูดกัน ใครๆ ก็ร้องกัน เราร้องบ้างดีกว่า สนุกดี ฮาดี...เอาจริงดิ นี่เรามาถึงจุดนี้ได้ยังไงกันครับ ผมไม่ได้โลกสวยนะ แต่ใครช่วยตอบผมที #ยังมีอีกหลายเรื่องที่ยังอยู่ในใจ เอาไว้มาระบายให้ฟังละกัน วันนี้เอาไปเรื่องเดียวก่อนนะ”

ซึ่งก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นไปในเชิงเห็นด้วยเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวกันอย่างมากมาย

‘สาวใจดี’ รุกช่วยเด็กชายวัย 9 ขวบ กลับคืนสู่ครอบครัว หลังถูกพ่อแท้ๆ พามานั่งขอทาน ริมถนนพัทยาสายสอง

(10 ก.ย. 66) น.ส.อนุธิดา จันทา อายุ 34 ปี แม่ค้าน้ำปั่น ชาวจังหวัดนครสวรรค์ ได้ช่วยเหลือ ด.ช.แจ็ค (นามสมมุติ) อายุ 9 ปี ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามญาติมารับตัวกลับบ้าน หลังถูกบิดาพามานั่งขอทานยามวิกาล ริมถนนพัทยาสายสอง ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จนกระทั่งสามารถติดต่อให้ผู้เป็นป้ามารับตัวกลับที่พัก โดยมีพนักงานสอบสวนลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน

โดย น.ส.อนุธิดา เล่าโดยละเอียดว่าตนเองมาจากกรุงเทพฯ มาเที่ยวพัทยา เจอน้องวันแรกเมื่อวันที่ 6 ก.ย. ที่ผ่านมา สังเกตเห็นน้องนั่งขอทานริมถนน เกิดความสงสาร อยากที่จะช่วยเหลือ พยายามสอบถามถึงผู้ปกครอง แต่น้องก็ไม่ยอมบอก ตอบเพียงว่าพ่อแท้ๆ ให้มานั่งขอเงิน เพราะป่วยเป็นโรคไต

ตนเองซื้อข้าวให้น้องและฝากให้พ่อน้องด้วย รวมถึงยังซื้อเสื้อผ้าให้อีกด้วย ตนเองรู้สึกผิดปกติ เนื่องจากน้องผิวพรรณดี มีมารยาท ลักษณะไม่น่าจะเป็นขอทานได้ จึงเฝ้าดูมาถึงวันนี้ พร้อมทั้งอัดคลิปลงติ๊กต็อก หวังให้ติดต่อญาติมารับกลับไป

กระทั่งวันนี้ ตนเองสอบถามน้องอีกครั้ง เรื่องที่พักอยู่แถวไหนขอให้พาไปหน่อยเพราะตนเองจะกลับกรุงเทพฯ แล้ว กลัวจะไม่ได้เจอกันอีก น้องจึงขอไปหาน้าก่อน น้าขอทานอยู่แถวนี้ เป็นผู้ชายแต่งตัวดี ตนเองเห็นท่าไม่ดี จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ เพราะกลัวว่าน้องจะตกเป็นเหยือของแก๊งจับเด็กมาขอทาน แต่ผู้ชายคนนั้นเชื่อว่าน่าจะเป็นพ่อของน้อง เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจกลับวิ่งหนีทิ้งลูก สร้างความแปลกใจให้กับตนเองและเจ้าหน้าที่เป็นอย่างมาก

จากนั้นตนเองก็พยายามหาทางจนสามารถติดต่อป้าของน้องได้ จึงให้ญาติมารับตัวกลับโดยนัดกันที่ สภ.เมืองพัทยา พร้อมลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน

ซึ่งจากเหตุการณ์พ่อแท้ๆ พาลูกในไส้มานั่งขอทานสร้างสะเทือนใจ หดหู่ใจ ให้กับผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างมาก จึงอยากฝากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยตรวจสอบและติดตามตัวพ่อใจร้ายรายนี้ มาดำเนินคดีตามกระบวนการทางกฎหมายด้วย

‘บีส ดวลเพลงชิงทุน’ ซิ่งเบนซ์ฝ่าฝน แต่ดันเสียหลักพุ่งลงคลอง โชคดี!! บาดเจ็บเพียงเล็กน้อย และรอดมาได้เพราะระบบรถ

(10 ก.ย. 66) แฟนเพลงห่วง นักร้องรายการดัง ‘บีส ดวลเพลงชิงทุน’ เกิดอุบัติเหตุ ซิ่งเบนซ์ลุยฝน พุ่งลงคลอง เมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 10 กันยายน บริเวณหน้าบริษัท เอ็นที ออโตโมดด์ จำกัด ซอยสุขสวัสดิ์ 84 หรือ ซอยวัดคู่สร้าง ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ

อาสาสมัครมูลนิธิปอเต็กตึ้ง จุดพระสมุทรเจดีย์ เล่าว่า "ตนได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุกู้ชีพปราการ ว่ามีอุบัติเหตุรถเก๋งตกลงไปในคลอง ภายในซอยวัดคู่สร้าง จึงรีบมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ ก็พบ รถเก๋ง ยี่ห้อเบนซ์ จมอยู่ในน้ำ ส่วนคนขับรถอยู่ในอาการตกใจ ตัวเปียกปอน ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย"

ด้าน ‘บีส ดวลเพลงชิงทุน’ เผย "ตนขับรถมาจากวัดคู่สร้าง เพื่อมุ่งหน้าออกปากซอย ถนนสุขสวัสดิ์ เพื่อจะกลับบ้านพักแถวพระสมุทรเจดีย์ ช่วงขณะนั้นมีฝนตกหนัก ตนขับรถเพื่อจะแซงรถคันหน้า แต่รถเกิดเสียหลักพุ่งลงไปในคลองข้างทาง ก่อนที่รถจะจมลงไปทั้งคัน ตนได้เปิดกระจก ส่วนประตูก็ดีดเปิดเอง โดยที่ตนไม่ได้ทำอะไร คาดว่าน่าจะเป็นระบบของตัวรถ จากนั้นตนจึงพยายามออกมาจากตัวรถโดยทันที พอออกมาได้ ก็มีชาวบ้านแถวนั้น วิ่งมาช่วยให้ตนขึ้นมาอยู่บนสะพานอย่างปลอดภัย"

‘นายกฯ’ รับฟัง-ติดตามความคืบหน้าคดี ‘กำนันนก’ แล้ว พร้อมร่วมถกปัญหาเพื่อปราบปรามยาเสพติดหลายเรื่อง

(10 ก.ย. 66) ที่บ้านพิษณุโลก นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวภายหลังการหารือการแก้ไขปัญหายาเสพติดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสั้นๆ ว่า มีการพูดคุยหารือกันหลายเรื่อง ได้รับฟังข้อมูลจากผู้เข้าร่วมประชุม

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้สั่งการอะไร พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร.ที่เข้าพบหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ยังสั่งการอะไรไม่ได้ เป็นการมารับฟังข้อมูลเฉยๆ เมื่อถามว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้รายงานความคืบหน้าคดีกำนันนกหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ได้มีการรายงาน

อย่างไรก็ตาม นายเศรษฐา เปิดเผยอีกว่า วันนี้ได้มีการเดินดูภูมิทัศน์บ้านพิษณุโลก ถือว่าดี สะอาดสะอ้าน การดูแลรักษาดี โดยจะมาใช้บ้านพิษณุโลกประชุมบ้าง จัดเลี้ยงบ้าง แต่จะไม่ได้นอนที่นี่ 

‘อนุทิน’ เตรียม 11 ขุนพล ร่วมแถลงนโยบายรัฐฯ 11-12 ก.ย.นี้ เน้นหลักนโยบายที่เคยหาเสียงกับ ปชช. ไว้เป็นหลัก

(10 ก.ย. 66) ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) มีการประชุมสส.พรรค และกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ก่อนแถลงนโยบายรัฐบาลต่อที่ประชุมร่วมรัฐสภา ระหว่างวันที่ 11 - 12 ก.ย.นี้ โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นประธานการประชุม ซึ่ง นายอนุทิน กล่าวตอนหนึ่งว่า รัฐบาลจะบริหารราชการแผ่นดินอย่างเต็มรูปแบบได้ ต่อเมื่อนายกรัฐมนตรีได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา ต้องถือว่ารัฐบาลชุดนี้มีการเตรียมตัวในการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาด้วยความรวดเร็วมีประสิทธิภาพ เนื่องจากเพิ่งมีการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ในวันพรุ่งนี้ (11 ก.ย.) ก็สามารถที่จะแถลงนโยบายได้แล้ว

“รัฐบาลจะใช้โอกาสนี้อธิบายแนวทางการดำเนินงาน ซึ่งในส่วนของพรรคภูมิใจไทยต้องใช้โอกาสนี้อภิปรายนโยบายรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นที่พรรคเคยหาเสียงไว้หลายๆ เรื่อง ซึ่งพรรคได้เตรียมผู้อภิปรายไว้ทั้งสิ้น 11 คน แม้ว่าสส.ของพรรคมีความประสงค์อภิปรายมากกว่านี้ แต่มีข้อจำกัดเรื่องเวลาทำให้พรรคจัดผู้อภิปรายไว้ 11 คน เฉลี่ยคนละ 5 - 6 นาทีเท่านั้น”

‘เติ้ล วรพรต’ นักบิดดาวรุ่งจาก 'ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม' บิดเปิดตัวครั้งแรกคว้าท็อป 7 'ศึกดาวรุ่งชิงแชมป์ยุโรป' ที่ฝรั่งเศส

(10 ก.ย. 66) ‘เติ้ล’ วรพรต ทองดอนเหมือน ยอดนักบิดดาวรุ่งชาวไทยจาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม สร้างผลงานกระหึ่มเวทีดาวรุ่งยุโรป เปิดตัวครั้งแรกบิดคว้าท็อป 7 ในศึก Yamaha R3 bLU cRU European Championship 2023 ขณะ ‘ไอเดีย’ กฤตภัทร เขื่อนคำ โชคร้ายพลาดล้มในการแข่งขันสนามสุดท้ายเมื่อวันเสาร์ที่ 9 กันยายนผ่านมา ที่ประเทศฝรั่งเศส

การแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบดาวรุ่งชิงแชมป์ยุโรป รายการ Yamaha R3 bLU cRU European Championship 2023 สนามสุดท้าย ดวลความเร็ว 2 เรซเมื่อวันเสาร์ที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา ที่ เซอร์กิต แม็กนีย์-คูร์ส ประเทศฝรั่งเศส

เกม 2 เรซสุดท้ายมีความหมายอย่างมากต่อการไล่ล่าอันดับบนตารางแชมเปียนชิพของดาวรุ่งชาวไทยอย่าง ‘ไอเดีย’ กฤตภัทร เขื่อนคำ เจ้าของหมายเลข 32 นอกจากนี้ ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม ยังมอบโอกาสทองเพื่อสัมผัสการแข่งขันระดับโลกให้กับ 2 ดาวรุ่งอย่าง ‘แฟรงค์’ ภาสกร แสนหลวง หมายเลข 53 และ ‘เติ้ล’ วรพรต ทองดอนเหมือน หมายเลข 54

เรซแรกของสุดสัปดาห์นี้ เกิดจุดเปลี่ยนตั้งแต่รอบแรกของการแข่งขัน เมื่อ ‘ไอเดีย’ กฤตภัทร ซึ่งออกตัวจากกริดที่ 4 พลาดล้มไปอย่างน่าเสียดาย ส่งผลให้ไม่สามารถเก็บแต้มสำคัญและพลาดลงแข่งในเรซที่ 2 ด้วย

ขณะที่ ‘เติ้ล’ วรพรต สตาร์ตจากกริดที่ 14 ไล่บดกับยอดดาวรุ่งจากทั่วโลกอย่างไม่เกรงกลัว บิดเข้าป้ายในอันดับ 11 ตามหลังผู้ชนะเพียง 2.559 วินาทีเท่านั้น ประเดิมเก็บแต้มได้สำเร็จ ส่วนทีมเมทอย่าง ‘แฟรงค์’ ภาสกร เข้าเส้นชัยในอันดับ 19 ตามหลัง 18.048 วินาที

ส่วนเกมเรซที่ 2 นับเป็นเรซที่ดาวรุ่งชาวไทยอย่าง ‘เติ้ล’ วรพรต เฉิดฉายอย่างมาก ไล่บี้กับกลุ่มหน้าอย่างสุดมัน ก่อนคว้าอันดับ 7 มาครองด้วยเวลาตามหลัง อัลดี้ มาเฮนดร้า นักบิดอินโดนีเซียเพียง 1.185 วินาทีเท่านั้น ขณะที่ ‘แฟรงค์’ ภาสกร ขยับขึ้นมาคว้าแต้มได้สำเร็จ หลังบิดเข้าป้ายในอันดับ 15 ตามหลังผู้ชนะ 22.691 วินาที

โดยหลังจบฤดูกาล 2023 ‘ไอเดีย’ กฤตภัทร สร้างผลงานยอดเยี่ยมบิดคว้าโพเดียมมา 3 ครั้งในปีนี้ รั้งอันดับ 6 บนตารางแชมเปียนชิพมีทั้งสิ้น 119 คะแนน ส่วนทีมเมทอย่าง ‘เอิร์ธ’ ธุรกิจ บัวผา ที่ไม่ได้ลงแข่งสนามสุดท้ายจากอาการบาดเจ็บ รั้งอันดับ 19 มีทั้งสิ้น 57 คะแนน ในปีแรกที่เข้าร่วมแข่งขันรายการนี้

การแจ้งเกิดครั้งนี้ของ ‘เติ้ล’ วรพรต ทองดอนเหมือน และ ‘แฟรงค์’ ภาสกร แสนหลวง นับเป็นสัญญาณที่ยอดเยี่ยมของ ‘ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม’ ที่สามารถผลักดันนักแข่งดาวรุ่งชาวไทยขึ้นสู่เวทีระดับโลกอย่างแข็งแกร่ง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top