Wednesday, 14 May 2025
TheStatesTimes

ผลสำรวจ ชี้!! ผู้หญิงดูหนังโป๊บนมือถือมากกว่าผู้ชาย เผย สาวไทยติดโผอันดับต้นๆ ของโลก แถมเพิ่มขึ้นทุกปี

เมื่อวันที่ 8 ก.ย. 66 มีรายงานจากเว็บต่างประเทศชื่อดังอย่าง ‘independent’ ออกมาว่าผลจากการสำรวจว่า ผู้ชายหรือผู้หญิง เข้าดูหนังผู้ใหญ่ผ่านสมาร์ทโฟนมากกว่ากัน ทำให้เราถึงกับร้อง

โดยเว็บโป๊ดังชี้ว่ ผู้หญิงดูหนังโป๊บนสมาร์ทโฟนมากกว่าผู้ชาย แถมสาวไทยติดโผอันดับต้นๆ ของโลกเลยก็ว่าได้ ทั้งนี้ มีการบันทึกไว้อย่างดีว่าสัดส่วนของผู้หญิงที่ดูสื่อลามกนั้นมีเพิ่มมากขึ้นในทุกๆ ปี

ทั้งนี้ จากผลการวิจัยจาก Pornhub ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมว่า ผู้หญิงส่วนใหญ่แล้วเข้าเสพความบันเทิงสำหรับผู้ใหญ่ด้วยช่องทางไหน?

ซึ่งปรากฎว่าผู้หญิง 80 เปอร์เซ็นต์เข้าถึง Pornhub จากอุปกรณ์มือถือ เทียบกับผู้ชาย 69 เปอร์เซ็นต์ โดยผู้หญิง 71 เปอร์เซ็นต์มาจากสมาร์ทโฟน และอีก 9 เปอร์เซ็นต์มาจากแท็บเล็ต ซึ่งหมายความว่าผู้หญิงส่วนใหญ่นั้นใช้งานคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปน้อยกว่าผู้ชายถึง 34 เปอร์เซ็นต์ (ทำไมน้า?)

ทั้งนี้ การใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่เพื่อเข้าถึงสื่อลามกได้เติบโตขึ้นสำหรับทั้งสองเพศในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันคิดเป็นร้อยละ 72 ของการเข้าชมทั่วโลก แต่สัดส่วนของผู้หญิงที่ทำเช่นนั้นกลับสูงกว่าผู้ชายอย่างต่อเนื่อง (แม้บ้านเราจะทำการบล้อก Pornhub แต่ก็มีวิธีง่ายๆ ที่จะทำให้สามารถเข้าดูหนังผู้ใหญ่ได้เหมือนกัน)

และนั้นจึงไม่ทำให้แปลกใจเลยที่คน Gen Y จะเป็นผู้นำในการเข้าถึงสื่อลามกบนมือถือ โดยผู้หญิงร้อยละ 78 ที่ใช้สมาร์ทโฟนดูหนังสำหรับผู้หญ่รวมไปถึงสื่อลามกมีอายุระหว่าง 18 ถึง 34 ปี และยิ่งผู้หญิงอายุมากเท่าไร ก็ยิ่งมีแนวโน้มที่จะใช้แท็บเล็ตหรือเดสก์ท็อปมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งก็เช่นเดียวกันสำหรับผู้ชาย

ซึ่งจากการสำรวจของ Pornhub พบว่าสหราชอาณาจักรมีสัดส่วนการใช้โทรศัพท์มือถือมากเป็นอันดับสามของผู้หญิงที่ร้อยละ 86 รองจากแอฟริกาใต้เท่านั้น (ร้อยละ 91) และสหรัฐอเมริกา (ร้อยละ 89) ส่วนสาวไทยคิดเป็นร้อยละ 79 และดูเหมือนจะเติบโตขึ้นในทุกๆ ปี

ทั้งนี้ นั้นเหตุผลที่ผู้หญิงชอบดูสื่อลามกบนสมาร์ทโฟนยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด

ทีม ‘Alacritas Dart’ 6 เยาวชนอัจฉริยะ ตัวแทนประเทศไทย ไปแข่งใช้ความรู้-ทักษะด้าน STEM สร้างรถแข่งขัน ที่สิงคโปร์

เมื่อวันที่ 8 ก.ย. 66 6 เยาวชนไทย จากทีม ‘Alacritas Dart’ ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวเเทนทีมประเทศไทยที่จะไปเเข่งในงาน F1 in School World Final 2023 ณ ประเทศสิงคโปร์ ในระหว่างวันที่ 8-15 กันยายน 2566 ประชันกับทีมเข้าแข่งขันกว่า 68 ทีม จากตัวแทนทั่วโลก

โดยการแข่งขันรายการนี้ จะให้ผู้เข้าแข่งขันใช้ความรู้และทักษะด้าน วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมและคณิตศาสตร์ (STEM) ในการสร้างรถแข่งขัน (ขนาดเล็ก) แข่งบนทางยาว 20 เมตร ภายใต้ข้อกำหนดของคณะกรรมการ ซึ่งจะมีรางวัล 18 ด้านต่างให้กับผู้เข้าแข่งขัน เช่น ด้านความเร็ว การนำเสนอ ความสวยงาม เป็นต้น

Here we go! ✈️ Our team is at the airport, buzzing with excitement as we're about to take off for the competition. Singapore, here we come!! 🏆😄

‘Songwriting Notebook’ สมุดเขียนเพลงอัจฉริยะ ช่วยไกด์ไลน์การแต่งเพลง-กระตุ้นไอเดียสร้างสรรค์

สมุดเขียนเพลง ‘Songwriting Notebook’ ช่วยให้คุณเขียนเพลงได้อย่างไหลลื่นและมีทิศทาง🔥🚀

พร้อมช่วยวางแผนการทำเพลงให้กับคุณอย่างครบวงจร
✅ ช่วยไกด์ไลน์ในการแต่งเพลงให้กับคุณตั้งแต่ขั้นตอนแรก
✅ ช่วยให้คุณหาไอเดียและวางคอนเซ็ปต์ในการเขียนเพลงได้อย่างแม่นยำ
✅ สร้างเรื่องราวของคุณ วิเคราะห์ตัวละครในเพลงได้ผ่านสมุดเขียนเพลงเล่มนี้
✅ มีโครงสร้างในการเขียนเพลง ช่วยให้คุณทำงานได้ง่ายขึ้น
✅ มี 10 แบบฝึกหัดช่วยกระตุ้นไอเดียสร้างสรรค์ในเล่ม 
✅ ช่วยวางแผนการเขียนเพลง การโปรโมท และวางแผนการเงิน
✅ มี Quote เจ๋ง ๆ จากศิลปินและโปรดิวเซอร์ อาทิ คุณจอร์จ Seven Dogs, คุณไกร GK, คุณ พัน พลุแตก ฯลฯ
✅ มีหน้าปกหลากสี หลายสไตล์ให้เลือกตามใจชอบ 
✅ ใช้งานง่าย เขียนเพลงได้ทุกที่ ทุกเวลา
สมุดเขียนเพลงเล่มนี้ออกแบบโดยทีม Artist 247 ที่ผลิตออกมาผ่านการเรียนรู้ทฤษฎีการเขียนเพลง และการลงมือเขียนเพลงจริง

รูปแบบไฟล์ .PDF สามารถใช้กับแอป Goodnotes และอื่น ๆ ได้

ด้านในประกอบด้วย
- คู่มือการใช้งาน
- ลิสต์ภาพรวม 10 เพลงที่คุณตั้งใจจะเขียนในเล่มนี้
- หน้าออกแบบคอนเซ็ปต์เพลง
- ไกด์ไลน์ในการวางโครงเรื่อง
- โครงสร้างของทั้งเพลง
- หน้าว่างสำหรับเขียนเพลง
- หน้าวางแผนโปรโมทเพลง
- หน้าวางแผนค่าใช้จ่ายในการทำเพลง
- หน้ารีวิวและให้คะแนนเพลงตัวเอง
- แบบฝึกหัดฝึกความคิดสร้างสรรค์
- ข้อคิดดี ๆ จากศิลปิน

📌🔥 พิเศษ !! 🔥📌
ราคาเพียงเล่มละ 199 บาท
(จากราคาปกติ 399 บาท)
ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2566 เท่านั้น
แถมฟรีสติ๊กเกอร์ตกแต่งสมุดเก๋ ๆ กว่า 30 รูป

‘ชัยวุฒิ’ ร่วมยินดีครบรอบ 5 ปี ‘ทีทรี เทคโนโลยี’ ยกเป็นองค์กรที่มีบทบาทร่วมขับเคลื่อนเทคโนโลยีของไทย

เมื่อวันที่ 8 ก.ย. 66 นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์  รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เป็นประธานเปิดงานในพิธีเฉลิมฉลองครบรอบ 5 ปี ของบริษัท ทีทรี เทคโนโลยี จำกัด พร้อมกล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาร่วมงานครบรอบ 5 ปีของบริษัทที ทรี เทคโนโลยี ซึ่งเป็นบริษัทที่ประสบความสำเร็จ และมีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางการขับเคลื่อนระบบเทคโนโลยีของประเทศไทย ผมขอแสดงความยินดีกับบริษัทที ทรี เทคโนโลยี ในความสำเร็จครั้งนี้ด้วย

ในช่วงระยะเวลาห้าปีที่ผ่านมา บริษัท ที ทรี ได้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งนวัตกรรม การเชื่อมต่อระหว่างความมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศ และการแสวงหาความรู้อย่างไม่หยุดยั้ง อีกทั้งยังเป็นเครื่องมือที่ช่วยในการส่งเสริมเทคโนโลยีของประเทศไทยให้เจริญรุ่งเรืองและการเชื่อมโยงโครงข่ายให้ถึงกันในทุกมิติ 

‘บริษัท ที ทรี เทคโนโลยี’ มีส่วนร่วมในการพัฒนาเทคโนโลยีอันล้ำสมัยในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็น ฟิกส์บรอดแบนด์ (FBB), โมบาย บรอดแบนด์ (MBB), Internet of things (IoT), และโซลูชั่นระดับองค์กร เทคโนโลยีเหล่านี้ล้วนเป็นรากฐานสำคัญซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนธุรกิจอย่างยั่งยืน  และยังแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือทางธุรกิจกับภาคส่วนต่างๆ เพื่อผลักดันเศรษฐกิจของประเทศไทยให้เติบโตยิ่งขึ้นควบคู่กับการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคม ต่อสิ่งแวดล้อม และมีการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีอยู่ตลอดเวลา เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภค เพื่อยกระดับศักยภาพของประเทศไทยในโลกยุคดิจิทัลนี้ และสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทย

แผนสกัด ‘แอน JKN’ ปลุกเฟกนิวส์ ยกเลิกประกวด MU กลยุทธ์แห่งเกมธุรกิจ ต้องเอาคนแพ้ให้ถึงขั้นไม่มีที่ยืน

(9 ก.ย. 66) ดูเหมือนว่าในช่วงสัปดาห์นี้ หนทางสู่ ‘จักรวาล’ ของ ‘แอน จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์’ CEO ข้ามเพศพันล้านของ บมจ.เจเคเอ็น โกลบอลกรุ๊ป (JKN) ต้องฝ่าฟันกับอุปสรรคนานัปการที่ถาโถมใส่แบบรัวๆ เลยทีเดียว

คือถ้าใจไม่นิ่ง หรือหนักแน่นพอ อาจจะมีสิทธิ์ได้จิตตกกันบ้าง แต่ไม่ใช่สำหรับ ‘แอน จักรพงษ์’ อย่างแน่นอน!!

นับตั้งแต่ช่วงต้นสัปดาห์ ที่กลายเป็นข่าวใหญ่ระดับที่เป็น Talk of The Town กับกรณีที่ทาง JKN แจ้งเรื่องผิดนัดชำระหุ้นกู้ ‘JKN239A’ รวมเงินต้นและดอกเบี้ยกว่า 600 ล้านบาท โดยมีการชำระคืนเงินต้นเพียงบางส่วน พร้อมทั้งดอกเบี้ยรวมกว่า 150 ล้านบาท

ต่อจากนั้น ก็กลายเป็นว่า JKN ต้องออกมาสู้รบปรบมือกับสารพัดข่าวลือข่าวลวง ที่ประเดประดังเข้ามาตลอดทั้งสัปดาห์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการยกเลิกการประกวด Miss Universe เพราะขาดสภาพคล่องทางการเงิน

ทั้งที่ในความเป็นจริง ไม่ได้เป็นเช่นนั้น

การจัดประกวด Miss Universe 2023 ที่ แอน ถือลิขสิทธิ์อยู่ในมือนั้น ยังคงดำเนินการตามปกติ โดยจะจัดขึ้นใน วันที่ 18 พฤศจิกายน 2566 ภายใต้การรับหน้าที่เจ้าภาพของ รัฐบาลเอลซัลวาดอร์

งานนี้ทำเอาจักรวาลสะเทือนถึงขนาดที่จะมีการฟ้องร้องผู้ที่เจตนาปล่อย Fake News นี้

ยังไม่พอ ยังมีการขยี้ย้ำหวังจะซ้ำให้จมดิน ด้วยข่าวการเทขายหุ้น JKN ซึ่งถ้ามองแต่พาดหัวข่าว อาจจะแฝงเจตนาที่ชวนให้คิดว่า คงไปต่อไม่ไหวแล้วจริงๆ ถึงขนาดต้องเทหุ้นออกมาขายแบบนี้

ขณะที่ในความเป็นจริงแล้ว ความผันผวนของตัวเลขหุ้น JKN ในมือของ แอน นั้น มีการเปลี่ยนแปลงจริง แต่ก็เป็นกลไกปกติของตลาดอยู่แล้ว มีขึ้น มีลง มีได้มา มีขายไป

สรุปความก็คือ แอน ขายหุ้นในส่วนของตัวเอง จำนวน 92 ล้านหุ้น มูลค่ารวมกว่า 116 ล้านบาท!!

แต่ก็มีการได้รับโอนหุ้นเพิ่มเติมเช้ามาอีก 77 ล้านหุ้น ซึ่งระบุว่า “เป็นการได้มา ‘โดยเสน่หา’”

เมื่อนำมาหักลบกันแล้ว ก็เท่ากับว่า ณ ปัจจุบัน แอน มีหุ้น JKN อยู่ในมือ จำนวน 392,287,682 หุ้น ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนถึง 38 %

นั่นหมายถึงว่า แอน ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 1 ของ JKN อยู่ ทำให้อำนาจการบริหารยังคงไม่ถูกเปลี่ยนมือ

“ดิฉันยืนยันว่า ดิฉันยังยืดหยัดบริหาร JKN และยังถือครองหุ้น JKN กว่า 38% ส่วนเรื่องหุ้นกู้นั้น บริษัทฯ JKN มีแนวทางการแก้ปัญหาเรื่องนี้แล้ว โดยได้ปรึกษาที่ปรึกษากฎหมายและบริษัทผู้จัดจำหน่ายหุ้นกู้ และผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ที่เกี่ยวข้องทุกราย”

ท่ามกลางข่าวลือ ข่าวลวงที่เกิดขึ้น ในช่วงปลายสัปดาห์นี้ สะท้อนให้เห็นถึงกระบวนการดิสเครดิตครั้งยิ่งใหญ่ ที่ JKN กำลังเผชิญ โดยไม่รู้ว่าเป็นน้ำมือของใคร!?!

เพราะเพียงแค่ความเพลี่ยงพล้ำในครั้งแรกนั้น กลับนำพามาสู่การเจตนาทำร้ายล้าง ราวกับตั้งใจจะสกัดหนทางของ แอน ไม่ให้ – เจิดจรัสจักรวาล - อย่างที่ประกาศกร้าวไว้ ซึ่งแน่นอนว่าข่าวในเชิงลบที่ถูกปล่อยออกมาแปบรัวๆ อย่างนี้ ย่อมส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของบริษัท ความเชื่อมั่นในตัวของผู้บริหาร และแน่นอนว่า ย่อมส่งผลไปถึงการพิจารณาของบรรดาคู่ค้า ไม่ว่าจะเป็นพันธมิตรทั้งรายใหญ่ รายย่อย หรือแม้กระทั่งสปอนเซอร์ โดยเฉพาะเป็นเรื่องของการขายงานระดับจักรวาลแบบนี้ด้วย

คำถามก็คือ ใครอยู่ ‘เบื้องหลัง’ งานนี้?

แน่นอนว่าในทุกแวดวง ย่อมต้องมีคู่แข่งทางธุรกิจที่พร้อมจะทำทุกวิถีทางเพื่อชัยชนะ ยิ่งการต่อสู้เข้มข้นเท่าไหร่? วิธีการ และกลยุทธ์ต่างๆ ก็จะยิ่งถูกงัดออกมาใช้มากขึ้นเท่านั้น

เพราะในเกมธุรกิจ ไม่มีที่ยืนสำหรับคนแพ้!!

ก็ต้องมาดูว่าใครที่ได้ผลประโยชน์จากข่าวคราวในเชิงลบของ แอน และ JKN !?!?

‘ไบรท์ ชินวัตร’ อดีตแกนนำม็อบ 3 นิ้ว กลับใจมาเปิดร้านอาหาร พร้อมขอบคุณ ‘พีระพันธุ์’ ผู้ใหญ่ที่คอยชี้แนะแนวทางจนมีชีวิตใหม่

(9 ก.ย. 66) นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง หรือ ‘ไบรท์’ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง อดีตแกนนำม็อบราษฎร ก่อนย้ายข้ามขั้วมาเป็นแนวร่วมกลุ่มปกป้องสถาบัน ปัจจุบันได้เปิดร้านอาหารชื่อ ‘แซ่บไบรท์’ โพสต์เฟซบุ๊กขอบคุณ ‘นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค’ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน

โดยนายชินวัตร ระบุว่า ขอบคุณท่านพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่มีส่วนร่วมทำให้ผมมีวันนี้ ท่านเป็นผู้ใหญ่ที่ผมเคารพนับถืออย่างมากที่คอยให้คำชี้แนะและแนะแนวทางให้กับผมเสมอมา

วันนี้ท่านเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานแล้ว ขอพี่น้องทุกท่านร่วมแสดงความยินดีกับท่านไปโพสต์ร่วมกันครับ

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 2 กันยายนที่ผ่านมา ที่ร้านแซ่บไบรท์ ร้านอาหารของนายชินวัตร จันทร์กระจ่าง ได้รวมตัวจัดกิจกรรมสลายเสื้อสีในชื่อ ‘ปาร์ตี้นัดกระชับมิตร เหลือง & แดง บังเกิดแล้ว’

นายนพดล พรหมภาสิต แกนนำกลุ่มปกป้องสถาบัน เปิดเผยถึงความเป็นมาของร้าน ‘แซ่บไบรท์’ ว่า ไบรท์ ชินวัตร จันทร์กระจ่าง อดีตแกนนำเสื้อแดงนนทบุรีและแนวร่วมพรรคอนาคตใหม่ ได้บรรลุดวงตาเห็นธรรมว่า การต่อสู้ที่ผ่านมาในแนวทางของพรรคสีส้มนั้น เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติและสถาบันฯ ยิ่งต่อสู้ในแนวทางที่ผิดๆ ชีวิตไบรท์ ก็ยิ่งถลำตกต่ำ มีแต่คดีความติดตัวเป็นหางว่าว ไปสมัครงานที่ไหนใครเขาก็ไม่รับ ปากกัดตีนถีบทำงานรับจ้างทุกอย่างชีวิตก็ไม่ดีขึ้น เมียก็ต้องเลี้ยงลูกที่ยังเล็ก วิธีที่จะให้มีชีวิตอยู่รอดไปวันๆ คือการแปะบัญชีเปิดรับบริจาค มุดแชทไปขอยืมเงินทุกคนที่รู้จัก จนมีฉายาว่า ‘ไอ้ไบรท์ขอทานออนไลน์’

การดึงคนที่หลงผิดให้กลับมาเดินบนเส้นทางชีวิตที่ถูกต้อง ตามครรลองนั้นไม่ใช่เรื่อง่าย การมีพี่เลี้ยงคอยประคับประคองจึงเป็นเรื่องจำเป็น ‘มูลนิธิเอื้อมถึง’ ได้ยื่นมือเข้ามาช่วย การช่วยครั้งนี้เพื่อให้โอกาสคนหมดที่พึ่งสามารถยืนได้ด้วยสัมมาอาชีวะของตัวเอง และสัมมาทิฎฐิที่ถูกต้อง การช่วยที่ยั่งยืนคือการให้โอกาส ทำให้คนพึ่งตนเองได้จากการทำงานที่สุจริตจากความรู้ความสามารถพรสวรรค์ที่ตนเองมี เฉกเช่นเมียไบรท์ ที่มีฝีมือในการทำอาหารอีสาน ร้านส้มตำแซ่บไบรท์ จึงเป็นคำตอบ

ฝั่งชังชาติมีทุนสีเทา มีกองทุน มีท่อน้ำเลี้ยงคอยสนับสนุนเส้นทางการเงิน ให้กับคนที่ก่อความไม่สงบสุขในบ้านเมืองอยู่ตลอดเวลา ในขณะที่ฝ่ายคอยปกป้อง รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ไม่เคยมีผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง หน่วยงานหรือองค์กรใดมาให้ความช่วยเหลือ ภาคประชาชนต้องช่วยกันเองตามมีตามเกิด ‘แซ่บไบรท์’ เป็นมากกว่าร้านอาหาร ร้านนี้แฝงไปด้วยสัจธรรม และความจริงของชีวิต การให้โอกาสคนที่หลงผิดมีชีวิตใหม่คือทานที่ยิ่งใหญ่ การมีแล้วแบ่งปันคือการทำให้สังคมน่าอยู่

‘พนง.เวียดนาม’ เห็นคุณยายขายลอตเตอรี่มือสั่น-กินข้าวคนเดียว รีบมาช่วยหั่นไก่-คุยแก้เหงา ชาวเน็ตซึ้ง แห่ชี้พิกัดอุดหนุนคุณยาย

(9 ก.ย. 66) กระแสไวรัลในโลกออนไลน์เวียดนาม กำลังแห่ชื่นชมพนักงานบริการที่ทำเอาอบอุ่นใจไปทั่วโซเชียล หลังคลิปวิดีโอแสดงภาพหญิงชราคนหนึ่งกำลังนั่งกินข้าวคนเดียวอยู่ในร้าน ซึ่งสวมเสื้อผ้าเรียบง่ายและเดินเท้าเปล่า อีกทั้งขณะตักอาการด้วยความแก่ชรา เธอจึงมือสั่น แทบไม่มีแรงตักอาหารเข้าปาก

เมื่อเห็นเช่นนั้น พนักงานในร้านอาหารฟาสฟู้ดก็รีบวิ่งไปช่วยเหลือลูกค้าผู้สูงอายุทันที พนักงานสาวช่วยคุณยายหั่นบะหมี่และไก่ทอดให้กินง่าย ๆ พร้อมพูดคุยกับคุณยายอย่างเป็นกันเองเพื่อให้คุณยายไม่เหงา การกระทำของพนักงานบริการรายนี้ได้รับความสนใจจากคนรอบข้าง

นับตั้งแต่เรื่องราวดังกล่าวถูกแชร์ก็มียอดดูมากกว่า 6 ล้านครั้งในเวลาไม่กี่ชั่วโมงพร้อมมีชาวติ๊กต็อกเข้ามาคอมเมนต์เป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่ชื่นชมความมีน้ำใจของพนักงานร้านไก่ทอดหญิง อาทิ

“การกระทำเล็กๆ น้อยๆ แต่สมควรได้รับการยกย่องอย่างยิ่ง”
“ไลฟ์สไตล์และทัศนคติเป็นสิ่งสำคัญมาก มันแสดงให้เห็นถึงศักดิ์ศรีของแต่ละคน ไม่ใช่ว่าคุณต้องทำอะไรที่ใหญ่โตเกินไป”
“ขอบคุณ Jollibee ขอบคุณทีมงาน การกระทำของคุณน่ารักมาก”
“มองดูแล้วน้ำตาฉันก็ไหล เธอเดินคนเดียวเท้าเปล่า เสื้อผ้าไม่เรียบร้อย มือสั่น หากคุณยังคงมีแม่หรือญาติอยู่โปรดถนอมพวกเขาไว้”
“เธอไม่สวมรองเท้าแตะด้วยซ้ำ 😔”

ต่อมามีคนจำคุณยายได้ว่า เธอสู้ชีวิตเอาชนะความชราเพื่อความอยู่รอดโดยดำรงชีพด้วยการขายลอตเตอรี่ที่สี่แยกเมืองกายเหล่ย จังหวัดเตี่ยนซาง ประเทศเวียดนามทุกวัน ซึ่งหหลังจากชมวีดีโอชาวเน็ตจึงชวนกันมาซื้อสลากและอุดหนุนเธอ

เชียงใหม่-สายบุญ สายอาร์ต ห้ามพลาด !”WUALAI WEEK 2023 มหัศจรรย์วัวลาย The Silver Shine of Chiang Mai"

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมกับ วัดศรีสุพรรณ ชวนเปิดประสบการณ์ใหม่ เที่ยววัดยามค่ำคืน ชวนตื่นตากับสีสันมหัศจรรย์แห่งแสงสี 3D Mapping อุโบสถเงินแห่งเดียวในโลก ในงาน "WUALAI WEEK 2023 มหัศจรรย์วัวลาย The Silver Shine of Chiang Mai" วันที่ 8 - 16 กันยายน 2566 ณ วัดศรีสุพรรณ จ.เชียงใหม่ โดยมีนายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน

WUALAI WEEK 2023 จัดขึ้นเพื่อกระตุ้นและพลิกฟื้นเศรษฐกิจในพื้นที่ ยกระดับและพัฒนาการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ในช่วง Low Season ด้วยการสร้างสรรค์กิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวมุมมองใหม่ เที่ยวได้ทั้งปี ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สอดรับกับยุทธศาสตร์การส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ ในการต่อยอดการท่องเที่ยวผ่านแนวคิด “From SPOT (Soft Power Of Thailand) to TRIP” อันจะนำไปสู่การกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายและเสริมสร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวอันทรงคุณค่าและความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยว

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวถึงความสำคัญในการจัดงานครั้งนี้ว่า “WUA LAI WEEK 2023 เป็นการริเริ่มกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวในมุมมองใหม่ โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยให้การสนับสนุน โดยมีแนวคิดในการการยกระดับการท่องเที่ยวในชุมชนของเมืองเชียงใหม่ ผ่านการศึกษา และวิเคราะห์จนสามารถนำจุดเด่นด้านศิลปวัฒนธรรมของชุมชนท้องถิ่น มาต่อยอดให้เกิดความร่วมสมัย และน่าสนใจอย่างมีเอกภาพ ด้วยการออกแบบกิจกรรมที่สร้างความดึงดูด เพื่อสร้างแรงจูงใจให้เกิดการมาเยือนในช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว ผ่านกิจกรรมทางด้านวัฒนธรรมที่มีศักยภาพ คือ ศิลปหัตถกรรม อาหาร และแสงสี โดยคำนึงถึงหลักการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม”

ด้าน นายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงกิจกรรมในครั้งนี้ว่า เป็นกิจกรรมท่องเที่ยวในรูปแบบสร้างสรรค์ที่มีส่วนผลักดันให้การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมเชียงใหม่มีความโดเด่นและแตกต่างเกิดความยั่งยืน สร้างความประทับใจให้กับนักเดินทางท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ขณะเดียวกันยังคำนึงถึงผู้คนในท้องถิ่นชุมชนในพื้นที่ และมีความรับผิดชอบต่อผลกระทบที่อาจจะตามมา ไม่ว่าจะเป็นแง่ทางสังคมหรือสิ่งแวดล้อมเป็นการท่องเที่ยวที่ทุกฝ่ายต่างได้รับประโยชน์ร่วมกัน

“หวังเป็นอย่างยิ่งว่า “เทศกาลวัวลายวีค 2023” ในครั้งนี้จะประสบความสำเร็จดังความมุ่งหมายของทุกฝ่าย ที่มีความตั้งใจอยากเปิดมิติใหม่ๆให้กับการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่นำมาซึ่งผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจให้กับพี่น้องประชาชนชาวเชียงใหม่ และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับจังหวัด”      
 
สำหรับไฮไลต์ภายในงาน WUA LAI WEEK 2023 ชวนตื่นตาตื่นใจกับงานแสดงศิลปะ ปลุกชีวิตให้พื้นที่ในแหล่งวัฒนธรรมบริเวณชุมชนวัวลาย และวัดศรีสุพรรณ จ.เชียงใหม่ ประกอบไปด้วยกิจกรรมที่น่าสนใจ ได้แก่
 
1. Light & Live จัดแสดงงานศิลปะในรูปแบบแสงสี  3D Mapping และจุดถ่ายรูปจุดเช็กอินสำหรับนักท่องเที่ยว เพื่อให้เช็กอินผ่านสื่อ Social Media ภาพใต้รูปแบบศิลปะ Night & Nice @ วัดศรีสุพรรณ สอดรับกับสถาปัตยกรรมอุโบสถเงินแห่งแรกของโลก โดยเชื่อมโยงเรื่องราวของวิถีแห่งล้านนา วิถีแห่งหัตถกรรมท้องถิ่น สีสันของดนตรี ในรูปแบบ Sound Therapy สร้างสรรค์บรรยากาศไปพร้อมกับ การสร้างสรรค์ภาพประกอบเคลื่อนไหวปรากฎบนอุโบสถเงิน พร้อมภาษาเล่าเรื่อง 3 ภาษา ไทย อังกฤษ และจีน
 
2. จัดกิจกรรมส่วนพื้นที่ศิลปะ ART SPACE  กับการโชว์สาธิตวิถีสล่าเครื่องเงินแห่งชุมชนวัวลาย พร้อมจัดช่วงเวลาเวิร์คชอป การแกะดุนลาย และการทำของที่ระลึกเครื่องเงิน เป็นของฝากกลับบ้าน พร้อมโชว์ผลงานการแกะสลักเครื่องเงินที่ได้กลายเป็นสินค้าที่ระลึกในระดับสากล From Local to Global  โดยจัดแสดงผลงานการแกะสลักของศิลปินสล่าเครื่องเงินในชุมชนวัวลายที่มีชื่อเสียง
 
3. Food from Local อาหารพื้นถิ่น ซุ้มอาหารชุมชน ในบรรยากาศกาดยามค่ำ นำเสนออาหารพื้นถิ่น ซุ้มอาหารชุมชน คัดเลือกร้านค้า ร้านอาหารจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม โดยสนับสนุนคนในท้องถิ่น
 
4. นำเสนอโซนสินค้าโอทอป และสินค้าชุมชน เพื่อเกิดการจับจ่ายซื้อหา ภายในบริเวณโดยรอบชุมชน  
 
5.กิจกรรมเสริมดวงชะตา บูชาเทียนออนไลน์มหามงคลแบบปราศจากมลพิษ และพิธีถวายน้ำสักการะพระพุทธปาฏิหารย์พระเจ้าเจ็ดตื้อ ในยามค่ำคืน

สายบุญ – สายอาร์ต ห้ามพลาด !‘WUALAI WEEK 2023 มหัศจรรย์วัวลายThe Silver Shine of Chiang Mai’ มิติใหม่การเที่ยววัดยามค่ำคืน
สุดอลังการกับแสงสี 3D Mapping อุโบสถเงินหลังแรกของโลก
เพิ่มมุมมองการท่องเที่ยววัดยามค่ำคืนแนวใหม่ ตั้งแต่วันที่ 8-16 กันยายน 2566 ณ วัดศรีสุพรรณ จังหวัดเชียงใหม่

วิภาดา/เชียงใหม่

“หมอเดว” ชี้ผู้นำยุคใหม่ ต้องมีจิตสำนึก-มีคุณธรรม จะทำให้สังคมอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข

เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2566 ที่ห้องเรียน วปอ.121 พลเอก นรินทร์ แทบประสิทธิ์ ประธานมูลนิธิคลังสมอง วปอ. เพื่อสังคม รวมถึง กรรมการมูลนิธิฯ ให้การต้อนรับ รศ.นพ.สุริยเดว ทรีปาตี ผู้อำนวยการศูนย์คุณธรรม ได้รับเชิญจาก มูลนิธิคลังสมอง วปอ. เพื่อสังคม ร่วมกับ กองบัญชาการกองทัพไทย บรรยายพิเศษภายใต้หัวข้อ “การส่งเสริมคุณธรรมอย่างยั่งยืนตามรอยพระราชา” ในการอบรมหลักสูตรผู้นำพอเพียงเพื่อความมั่นคง (นพม.) รุ่นที่ 16 

รศ.นพ.สุริยเดว ได้เน้นย้ำ บ้านเมืองใดที่ผู้คนมี “จิตสำนึก” ถึงไม่มีกฎหมาย ก็สามารถอยู่เย็นเป็นสุข ทั้งนี้ คุณธรรม เป็นเรื่องของความละเมียดละไมของจิตใจ เป็นเรื่องที่ติดตัวเราจนกลายเป็นพฤตินิสัยที่ดี (Individual Characteristic)

สำหรับหลักสูตรผู้นำพอเพียงเพื่อความมั่นคง เพื่อให้ข้าราชการทหาร ข้าราชการพลเรือน / รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม
ร่วมกันสานต่อ พระราชปณิธานองค์พระบาทสมเด็จพระชนกาธิเบศมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมราชบพิตร และเพื่อให้สังคมมีความเป็นอยู่ที่ดีและมั่นคงยั่งยืน เสริมทักษะการเรียนรู้ในการเป็นผู้นำพอเพียง ภายใต้หลักคุณธรรม จริยธรรม 

ในส่วนของการดำเนินการหลักสูตร ประกอบด้วย การบรรยาย การสัมมนากลุ่ม การแสดงผลงานวิชาการกลุ่ม การศึกษาดูงานหน่วยความมั่นคง โรงเรียนผู้นำ องค์กรภาคเอกชน และหน่วยงานการเกษตรพอเพียง 

นอกจากนี้ช่วงบ่าย นางพรพิมล มฤคทัต Senlor Assoclate Director -CSR for SD Enterprise Brand Management Office,SCG" ได้บรรยายการขับเคลื่อนชุมชนภายใต้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง"อีกด้วย 

‘ถนนพระราม 2’ ตำนาน 50 ปี ที่ยังก่อสร้างไม่เสร็จ แต่ 'แลนด์ลอร์ด' เพียบ รอวันเส้นทางลงสู่ใต้ เปลี่ยนแปลง!!

เมื่อวันที่ 9 ก.ย.66 จากผู้ใช้เฟซบุ๊กเพจ Property Expert Live ได้โพสต์ข้อความระบุว่า…

ถนนพระราม 2 กับตำนาน 50 ปี ที่ก่อสร้างไม่เสร็จ แต่แลนด์ลอร์ดเพียบ เส้นทางลงสู่ภาคใต้กำลังรอการเปลี่ยนแปลง!!

- ถนนพระราม 2 ก่อสร้างกว่า 50 ปียังไม่เสร็จ
- ถนนพระราม 2 เป็นเส้นทางหลักการใช้สัญจรของประชาชนฝั่งธนบุรีมายังพระนคร และเป็นเส้นทางลงสู่ภาคใต้ แต่ละวันมีปริมาณรถมาก กว่า 150,000 คันต่อวัน
- ทำให้ต้องมีการขยายถนนและก่อสร้างไม่สิ้นสุด ไม่ต่ำกว่า 50 ปี จนถูกขนานนามว่า ‘ถนนเจ็ดชั่วโคตร’
- การก่อสร้างถนนพระรามเริ่มก่อสร้างครั้งที่แรก เมื่อปี 2513-2516 มีการก่อสร้างถนน 2 เลน สวนทางกัน
- ซึ่งแล้วเสร็จและเปิดใช้อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2516 ซึ่งสามารถย่นระยะเวลาการเดินทางมากกว่า ถนนเพชรเกษม เส้นทางหลักสู่ภาคใต้เดิม ได้มากถึง 40 กม.
- นำพาความเจริญจากกรุงเทพฯ มาสู่พื้นที่ ‘สองสมุทร’ ได้แก่ สมุทรสาคร และ สมุทรสงคราม แบบก้าวกระโดด

- ปี พ.ศ. 2531 ‘วันชาติ ลิ้มเจริญ’ นักพัฒนาที่ดินยุคบุกเบิก นำที่ดิน 500 ไร่ บริเวณสี่แยกเอกชัย พัฒนาเป็น ‘โครงการมหาชัยเมืองใหม่’
- ปี พ.ศ. 2532 นักลงทุนก่อตั้ง ‘โรงพยาบาลมหาชัย’ อาคารสูง 6 ชั้น บนที่ดิน 2.5 ไร่ บริเวณสี่แยกมหาชัย
- ปี พ.ศ. 2533 การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ก่อตั้ง ‘นิคมอุตสาหกรรมสมุทรสาคร’ บนพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ บริเวณฝั่งตะวันตกของแม่น้ำท่าจีน กลายเป็นทำเลทองเพราะใกล้ท่าเรือคลองเตย ปัจจุบันมีโรงงานเข้ามาตั้ง 116 แห่ง
- ความเจริญที่เข้ามาแบบก้าวกระโดด สวนทางกับสภาพถนนที่มีเพียงแค่สองเลน คับแคบและชำรุด ในที่สุดเมื่อปี พ.ศ. 2532 จึงได้เริ่มขยายถนนออกเป็น 4 ช่องจราจร ตลอดสาย 84 กิโลเมตร ใช้งบประมาณ 3,504.70 ล้านบาท
- ครั้งที่ 2 ปี 2532-2537 มีการขยายถนนจาก 2 เลนเป็น 4 เลน พร้อมก่อสร้างทางแยกต่างระดับ 4 แห่ง ได้แก่ บางขุนเทียน สมุทรสาคร สมุทรสงคราม และวังมะนาว
- ปี พ.ศ. 2539 กลุ่มทุนอสังหาริมทรัพย์ก่อตั้งเมืองใหม่ ‘สารินซิตี้’ ขนาด 5,935 ไร่ ทุ่มโฆษณาทั้งโทรทัศน์ และหนังสือพิมพ์มหาศาล

- ส่วนหนึ่งแบ่งพื้นที่ให้กลุ่มเจริญอักษร ก่อตั้ง ‘นิคมอุตสาหกรรมการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์สินสาคร’ บนพื้นที่ 991 ไร่ ถือเป็นคลัสเตอร์อุตสาหกรรมการพิมพ์แห่งแรกในประเทศไทย
- ครั้งที่ 3 ปี 2539-2543 ถือเป็นงานก่อสร้างครั้งใหญ่ ขยายถนนช่วงสามแยกบางปะแก้วถึงทางแยกต่างระดับบางขุนเทียน เป็น 14 เลน แบ่งออกเป็นทางหลัก 8 เลน และทางขนานข้างละ 3 เลน
- ครั้งที่ 4 ปี 2544-2546 ขยายช่องจราจรจาก 4 เลน เป็น 8 และ 10 เลนตามลำดับ ระหว่างทางแยกต่างระดับบางขุนเทียน - นิคมอุตสาหกรรมสมุทรสาคร ความยาวรวมประมาณ 22 กม.
- พ.ศ. 2545 กลุ่มเซ็นทรัลก่อตั้ง ‘ห้างเซ็นทรัลพลาซา พระราม 2’ พื้นที่ 210,000 ตารางเมตร โดยเช่าที่ดินระยะยาว 96 ไร่ จากกลุ่มโรงพยาบาลบางปะกอก
- ครั้งที่ 5 ก่อสร้างระหว่างปี 2549-2552 เพื่อเป็นการรองรับปริมาณการจราจรที่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์และเทศกาล จึงมีการก่อสร้างโครงการส่วนต่อขยายจนถึงทางแยกต่างระดับวังมะนาว จากเดิม 4 เลน เป็น 6 - 8 เลน
- โรงเรียนอัสสัมชัญ ก่อตั้ง ‘อัสสัมชัญ แคมปัส พระราม 2’ บนพื้นที่ 230 ไร่ ริมคลองโคกขาม ใช้งบลงทุนกว่า 2,500 ล้านบาท เปิดการเรียนการสอนเมื่อปี พ.ศ. 2555

- ครั้งที่ 6 ปี 2561-2563 โครงการการขยายถนนพระรามที่ 2 ระหว่างแยกต่างระดับบางขุนเทียน - แยกเอกชัย จาก 10 เลน เป็น 14 เลน
- ความเจริญของถนนพระราม 2 ที่มียานพาหนะสัญจรเฉลี่ยแต่ละวันมีปริมาณรถมากกว่า 150,000 คันต่อวัน
- นอกจากนี้ ยังมีโครงการก่อสร้างอื่น ๆ ที่คาบเกี่ยวกับถนนเส้นนี้อีกหลาย เช่น ทางยกระดับบางขุนเทียน - มหาชัย เริ่มก่อสร้างตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2562 - ปี 2565
- นอกจากนั้น ทางพิเศษสายพระราม 3 - ดาวคะนอง - วงแหวนรอบนอกตะวันตก ที่เริ่มก่อสร้างตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายน 2563 ไปจนถึงปี 2566
- และในอนาคตจะมีการก่อสร้าง มอเตอร์เวย์ หมายเลข 8 (นครปฐม - ปากท่อ / ปากท่อ - ชะอำ) ซึ่งยังไม่นับรวมงานซ่อมแซมพื้นผิว ก่อสร้างสะพานกลับรถ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top