Saturday, 10 May 2025
NewsFeed

‘ทรัมป์’ มั่นใจปิดดีล TikTok สำเร็จแน่นอน สื่อนอกเผย MrBeast - Amazon - Microsoft โผล่ร่วมวงซื้อ

(4 เม.ย. 68) โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกมาแสดงความมั่นใจว่า ข้อตกลงในการซื้อกิจการ TikTok ในสหรัฐฯ จากบริษัท ByteDance ของจีนจะ “ประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน” โดยย้ำว่า เป็นทางออกที่ดีที่สุด เพื่อแก้ปัญหาความมั่นคงด้านข้อมูลและการควบคุมแพลตฟอร์มโดยรัฐบาลจีน

ในการให้สัมภาษณ์กับสื่อสหรัฐฯ เมื่อวันพฤหัสบดี (4 เม.ย.) ทรัมป์ระบุว่า การซื้อกิจการ TikTok ที่กำลังอยู่ในระหว่างการเจรจานั้น “เดินหน้าไปได้ดี เราจะทำให้ TikTok อยู่ภายใต้เจ้าของชาวอเมริกัน และผมมั่นใจว่ามันจะเสร็จสิ้นอย่างเรียบร้อย”

ทรัมป์ซึ่งเคยพยายามผลักดันการขาย TikTok มาตั้งแต่สมัยดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2020 กล่าวอีกว่า การที่บริษัทจีนอย่าง ByteDance ควบคุมข้อมูลของผู้ใช้ชาวอเมริกันหลายสิบล้านคน “เป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้”

สำนักข่าว CBS รายงานว่า Amazon ได้ยื่นข้อเสนอนาทีสุดท้ายต่อทำเนียบขาวเพื่อซื้อ TikTok อย่างไรก็ตาม Amazon ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว นอกจากนี้ จิมมี่ โดนัลด์สัน หรือที่รู้จักกันในชื่อ MrBeast ยูทูบเบอร์ชื่อดังชาวอเมริกันที่มีผู้ติดตามมากที่สุดในโลก กล่าวว่าเขากำลังมองหาที่จะซื้อ TikTok เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มนักลงทุน

ยังมีรายงานว่า บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านการประมวลผลอย่าง Microsoft, บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านการลงทุนจากภาคเอกชนอย่าง Blackstone, บริษัทเงินทุนเสี่ยงอย่าง Andreessen Horowitz และโปรแกรมค้นหาอย่าง Perplexity AI ก็กำลังอยู่ในระหว่างการเจรจาเพื่อซื้อหุ้นด้วย

อย่างไรก็ตามในช่วงหลายปีที่ผ่านมา TikTok เผชิญแรงกดดันจากหลายฝ่ายในสหรัฐฯ ที่มองว่าแอปพลิเคชันยอดนิยมนี้อาจถูกใช้เป็นเครื่องมือในการ สอดแนม หรือ ชี้นำทางการเมือง โดยรัฐบาลปักกิ่ง ซึ่ง ByteDance ปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด

การเจรจาขายกิจการในสหรัฐฯ ของ TikTok ยังคงเป็นประเด็นร้อนทางการเมืองและความมั่นคง โดยคาดว่าหากดีลนี้เกิดขึ้นจริง จะมีการแยก TikTok US ออกเป็นหน่วยธุรกิจอิสระหรือขายให้กับผู้ลงทุนอเมริกัน

“เราต้องทำให้ TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่ปลอดภัย และเป็นของอเมริกา” ทรัมป์ทิ้งท้าย
 

ประกาศเก็บภาษี 34% ตอบโต้สหรัฐฯ หลังทรัมป์ขึ้นภาษี 54% ปลุกมังกรจีนตื่น

(4 เม.ย. 68) จีนประกาศจัดเก็บภาษีศุลกากร 34% กับสินค้านำเข้าทั้งหมดจาก สหรัฐฯ เริ่มตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน นี้ ซึ่งถือเป็นการดำเนินการตามสัญญาที่ให้ไว้ว่าจะตอบโต้กลับหลังจากที่ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ได้ยกระดับ สงครามการค้า ด้วยการเพิ่มภาษีศุลกากรต่อสินค้านำเข้าจากจีนในปีที่ผ่านมา

เมื่อวันพุธ ทรัมป์เปิดเผยภาษีนำเข้าสินค้าจีนทั้งหมดจากสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 34 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือเป็นความเคลื่อนไหวที่จะส่งผลให้ความสัมพันธ์เริ่มกลับมาดำเนินไปตามปกติอีกครั้ง และทำให้ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสองประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลกเลวร้ายลง

“การกระทำเช่นนี้ของสหรัฐฯ ไม่สอดคล้องกับกฎการค้าระหว่างประเทศ ทำลายสิทธิและผลประโยชน์อันชอบธรรมของจีนอย่างร้ายแรง และถือเป็นการกลั่นแกล้งฝ่ายเดียว” คณะกรรมการภาษีศุลกากรแห่งคณะรัฐมนตรีจีนระบุในแถลงการณ์ที่ประกาศกำหนดภาษีตอบโต้

นับตั้งแต่กลับมามีอำนาจในเดือนมกราคม ทรัมป์ได้เรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนทั้งหมด 2 งวดๆ ละ 10% ซึ่งทำเนียบขาวระบุว่ามีความจำเป็นเพื่อหยุดยั้งการนำเข้าเฟนทานิลผิดกฎหมายจากจีนมายังสหรัฐฯ นั่นหมายความว่าสินค้าจีนที่ส่งมายังสหรัฐฯ จะต้องเสียภาษีนำเข้า 54%

ภาษี 54 เปอร์เซ็นต์นั้นสูงกว่าที่นักวิเคราะห์หลายคนคาดไว้ และอาจเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์โดยพื้นฐาน รวมถึงการค้ามูลค่าราวๆ ครึ่งล้านล้านดอลลาร์ระหว่างทั้งสองเศรษฐกิจหลังจากพึ่งพากันมานานหลายทศวรรษ

การเพิ่มภาษีศุลกากรของจีนในครั้งนี้คาดว่าจะมีผลกระทบต่อ การค้าระหว่างประเทศโดยเฉพาะกับผู้บริโภคและธุรกิจในสหรัฐฯ ซึ่งจะต้องเผชิญกับ สินค้าที่มีราคาสูงขึ้นในตลาด

‘เอกนัฏ’ ลงนามขอยื่นถอดถอนสิทธิ BOI 'ซินเคอหยวน' หลังตรวจพบเหล็กของบริษัทฯ ตกมาตรฐานหลายรอบ

(4 เม.ย.68) นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะโฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ส่งหนังสือด่วนยื่นถอดถอนสิทธิประโยชน์การลงทุน BOI ของ 'ซินเคอหยวน' บริษัทสัญชาติจีน จังหวัดระยอง เหตุผลิตภัณฑ์เหล็กเส้นตกมาตรฐาน หวั่นกระทบความปลอดภัยประชาชนคนไทย หลังมีเหตุตึก สตง. ถล่ม เนื่องจากบริษัทไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.โรงงาน จนต้องปิดชั่วคราวตั้งแต่เดือนธันวาคม 2567 และยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาด้านมาตรการความปลอดภัยในโรงงานได้เสร็จสิ้น รวมถึงเรื่องมาตรฐานเหล็กเส้นข้ออ้อยของบริษัทที่ตกมาตรฐานการทดสอบโดยสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทยถึง 2 ครั้ง ไม่เป็นไปตาม พ.ร.บ.มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม และมีหนังสือแจ้งเตือนให้ปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐาน ตามหนังสือเลขที่ อก0706/12709 ลงวันที่ 27 ธ.ค. 2567 ซึ่งยังไม่สามารถปรับปรุงได้และหนังสือแจ้งเตือนยังมีผลอยู่

ส่วนประเด็นหนังสือแจ้งเตือนเรื่องระบบควบคุมคุณภาพผลิตภัณฑ์บกพร่อง ลงวันที่ 23 ธ.ค. 2567 ที่ปรากฏในข่าวนั้น ทางรัฐมนตรีฯ เอกนัฏ ได้มีคำสั่งให้ทีมตรวจสุดซอยของกระทรวงอุตสาหกรรม นำโดย นางสาวฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ามีการดำเนินการที่ถูกต้องหรือไม่ ทั้งนี้จะไม่กระทบต่อการระงับการประกอบการ การจำหน่าย หรือการยื่นเพิกถอนและประโยชน์การส่งเสริมการลงทุน 

ส่วนกรณีประเด็นเอกสารของกระทรวงอุตสาหกรรมไม่สมบูรณ์ จนทำให้มีการยกเลิกการประชุมถอนสิทธิการส่งเสริมการลงทุนได้นั้น ข้อเท็จจริงคือในวันนี้ (4 เมษายน2568) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้มีการลงนามการถอดสิทธิประโยชน์การลงทุนของบริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด เพื่อเสนอเข้าบอร์ด BOI ต่อไป

“กระทรวงอุตสาหกรรม ยืนยันจะปกป้องอุตสาหกรรมเหล็กไทยให้มีคุณภาพ สร้างความเชื่อมั่นในมาตรฐานวัสดุก่อสร้าง เพราะการรักษาความปลอดภัยของประชาชนเป็นสิ่งสำคัญที่สุด” นายพงศ์พลกล่าว

รัฐบาลทหารเมียนมา ไม่สนประกาศหยุดยิงกู้ภัยแผ่นดินไหว ระดมเครื่องบินทิ้งระเบิด โจมตีกองทัพเอกราชคะฉิ่น (KIA) ต่อเนื่อง

(4 เม.ย. 68) แม้ว่า กองทัพเมียนมา ได้ประกาศหยุดยิงชั่วคราววันที่ 2-22 เม.ย.นี้ เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติการกู้ภัยผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว แต่ในความเป็นจริงการโจมตีทางอากาศของรัฐบาลเมียนมายังคงดำเนินต่อไปอย่างไม่มีท่าทีหยุดยั้ง โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการควบคุมโดยกลุ่มชาติพันธุ์ ซึ่งขัดแย้งกับการประกาศหยุดยิงอย่างชัดเจน

การโจมตีทางอากาศของกองทัพเมียนมาในพื้นที่รัฐคะฉิ่นและเขตสะกาย ยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง แม้ว่าประเทศจะประสบกับแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่คร่าชีวิตผู้คนจำนวนมาก และทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและสูญหายเป็นจำนวนมากเช่นกัน

เจ้าหน้าที่จากองค์กรช่วยเหลือในพื้นที่กล่าวว่า “การโจมตีทางอากาศของกองทัพเมียนมา ทำให้การดำเนินงานของหน่วยกู้ภัย ถูกขัดขวางอย่างรุนแรง เพราะอากาศยานทหารยังคงบินโจมตีไปทั่วเมืองพะโม และเขตที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มเอกราชชาติพันธุ์ โดยไม่สนใจการหยุดยิงที่ได้รับการประกาศเอาไว้”

พล.ท. กุน มอว์ รองผู้บัญชาการกองทัพเอกราชคะฉิ่น (KIA) ได้โพสต์แผนที่สงครามบนเฟซบุ๊กเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาโดยเผยว่า รัฐบาลเมียนมาได้เปิดฉาก โจมตีฐานที่มั่นของกองทัพ KIA ในเมือง เวียงหม่อ หลังจากที่ได้ทำการโจมตีทางอากาศเมื่อวันพุธ (2 เม.ย.) โดยกล่าวว่า การโจมตีครั้งนี้เป็นการดำเนินการที่ไม่สนคำประกาศหยุดยิงจากฝ่ายต่อต้าน

ตามรายงานจากสื่อท้องถิ่นในรัฐคะฉิ่น โดยอ้างอิงข้อมูลจากประชาชนในพื้นที่ ระบุว่า รัฐบาลเมียนมาใช้การยิงถล่มและโดรนโจมตี บริเวณพื้นที่ที่ควบคุมโดย KIA ในเมืองเวียงหม่อ ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่สำคัญที่มีการควบคุมของกลุ่มชาติพันธุ์

รายงานเพิ่มเติมระบุว่า เมื่อเช้าวันพุธที่ 3 เม.ย. เครื่องบิน Y12 ของกองทัพเมียนมาได้ ทิ้งระเบิด 30 ลูก ที่เมืองพะโม และ 45 ลูก ที่เมืองอินดอว์ ในภูมิภาคสะกาย ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนใหญ่ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของ KIA และพันธมิตร

พ.อ. นอว์ บู โฆษกของ KIA โฆษกของกองทัพกล่าวว่า “เราเห็นพวกเขาออกแถลงการณ์หยุดยิง อย่างไรก็ตามการสู้รบยังไม่หยุดลง หากพวกเขาโจมตี แน่นอนว่าเราจะป้องกันตัวเองด้วยการสู้กลับ ดังนั้นเราคาดว่าจะมีการสู้รบมากขึ้น”

ก่อนหน้านี้ มิน อ่อง ไหล่ ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมาได้ปฏิเสธการหยุดยิงจากฝ่ายตรงข้าม รวมถึงกลุ่ม กองกำลังป้องกันประชาชน (PDF) ที่ภักดีต่อ รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (NUG) และ องค์กรติดอาวุธอื่น ๆ โดยมิน อ่อง ไหล่ได้ให้คำมั่นว่า จะยังคงปฏิบัติการทางทหารต่อกลุ่มฝ่ายค้านต่อไป

ทั้งนี้ การโจมตีดังกล่าวได้ยกระดับความรุนแรงในพื้นที่ที่กำลังเกิดการต่อสู้ระหว่างกองทัพเมียนมาและกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ ขณะที่ประชาชนในพื้นที่ยังคงประสบกับความยากลำบากจากการโจมตีที่ไม่หยุดยั้ง

รู้จัก 'คริสเตียนวิทยาศาสตร์' (Christian Science) ศาสนาที่ดาราฮอลลีวูดและคนดังศรัทธา

การเสียชีวิตของ Val Edward Kilmer พระเอก Batman Forever เมื่อ 1 เมษายนที่ผ่านมา โดยที่เขาเป็นคริสต์ศาสนิกชนภายใต้นิกายคริสเตียนวิทยาศาสตร์ ดังนั้น ในช่วงแรก Kilmer จึงลังเลใจที่จะเข้ารับการรักษาทางการแพทย์เนื่องจากความเชื่อในคริสเตียนวิทยาศาสตร์ แต่สุดท้ายเขาก็เข้ารับการทำเคมีบำบัดและผ่าตัดเปิดคอสองครั้ง ในปี 2020 Kilmer ระบุว่า เขาหายจากอาการป่วยเป็นมะเร็งมาเป็นเวลาสี่ปีแล้ว แต่ยังคงต้องเข้ารับการบำบัดทางการแพทย์ รวมถึงการรับอาหารทางสาย

ทั้งนี้คริสต์ศาสนามีนิกายหลัก ๆ อยู่ 3 นิกายคือ (1)นิกายคาทอลิก (Catholicism) เป็นนิกายสายอนุรักษนิยมและสายปฏิรูปด้านความเป็นสากล (2)นิกายออร์ทอดอกซ์ (Orthodoxy) เป็นนิกายสายอนุรักษนิยมด้านจารีตดั้งเดิมในศาสนาคริสต์ตะวันออก และ(3) นิกายโปรเตสแตนต์ (Protestantism) เป็นนิกายสายเสรีนิยม ซึ่งทั้ง 3 นิกายยังมีนิกายแยกย่อยไปอีกเป็นจำนวนมาก โดยคริสเตียนวิทยาศาสตร์จะอยู่ในร่มใหญ่ของนิกายโปรเตสแตนต์ 

คริสเตียนวิทยาศาสตร์ก่อตั้งขึ้นในสหรัฐอเมริกาในปี 1879 โดย Mary Baker Eddy (1821–1910) ผู้เขียนหนังสือที่มีคำชี้แจงที่ชัดเจนเกี่ยวกับคำสอนของนิกายนี้ ชื่อว่า Science and Health with Key to the Scriptures (1875) Mary Baker Eddy (Eddy เป็นชื่องสามีคนที่สามของเธอ) เติบโตในบ้านที่เคร่งครัดของคริสตจักร Congregationalism* ในชนบทของมลรัฐนิวแฮมป์เชียร์ 
*คริสตจักร Congregationalism* ซึ่งเป็นคริสต์ศาสนานิกายโปรเตสแตนต์ที่ได้รับการปฏิรูป ซึ่งคริสตจักรใช้การปกครองแบบ 'คริสตจักรคองเกรเกชันนัล' โดยชุมชนแต่ละแห่งดำเนินการกิจการของตนเองอย่างอิสระ หลักการเหล่านี้ได้รับการบรรจุอยู่ใน Cambridge Platform (1648) และ Savoy Declaration (1658) ถือเป็นความต่อเนื่องของประเพณีทางเทววิทยาที่ยึดถือโดยพวก Puritans (ชาวอังกฤษโปรเตสแตนต์ในศตวรรษที่ 16 และ 17 ที่ต้องการกำจัดสิ่งที่พวกเขาคิดว่าเป็นการ ปฏิบัติ แบบโรมันคาธอลิก ออกไปจากคริสตจักรแห่งอังกฤษ โดยยืนกรานว่า คริสตจักรแห่งอังกฤษยังไม่ได้รับการปฏิรูปอย่างสมบูรณ์ และควรจะเปลี่ยนมาเป็นโปรเตสแตนต์มากขึ้น พวก Puritans มีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์อังกฤษ และอเมริกายุคแรก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตปกครองตนเองในบริเตนใหญ่ และการตั้งถิ่นฐานในอเมริกานช่วงแรกแถบนิวอิงแลนด์)

Eddy มีความเชื่อในศาสนาที่แตกต่างไปจากบิดาของเธอ แต่เธอยังคงยึดมั่นในความศรัทธาที่เน้นพระคัมภีร์เป็นหลัก  ความโชคร้ายส่วนตัวและปัญหาสุขภาพเป็นปัจจัยที่ Eddy หมกมุ่นอยู่กับคำถามเกี่ยวกับความรับผิดชอบของพระเจ้าต่อความทุกข์ของมนุษย์ การแสวงทางแก้ไขปัญหาสุขภาพของทำให้เธอได้ทดลองใช้วิธีการรักษาทางเลือกต่าง ๆ รวมถึงโฮมีโอพาธี (อ่านได้ที่ “โฮมีโอพาธีย์ (Homeopathy)” ศาสตร์การแพทย์ทางเลือก https://thestatestimes.com/post/2021071006) การบำบัดด้วยน้ำ และเทคนิคการบำบัดของ Phineas Parkhurst Quimby นักบำบัดพื้นบ้าน นักอ่านใจ และนักสะกดจิต จากมลรัฐเมน ซึ่งผลงานของเขาได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นรากฐานของกระแสความคิดใหม่ (New Thought) ความสัมพันธ์ของ Eddy กับเขาตั้งแต่ปี 1862 ถึง 1865 ทำให้เธอมีความเชื่อมากขึ้น ซึ่งได้รับจากการทดลองโฮมีโอพาธีเกี่ยวกับธรรมชาติทางจิตของโรค นอกจากนี้ยังเป็นแรงผลักดันให้เธอแสวงหาความหมายของเรื่องราวการรักษาโรคในพันธสัญญาใหม่

จากแนวคิดริเริ่มใหม่ของ Eddy โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องจิตวิญญาณและสุขภาพ ได้รับแรงบันดาลใจจากการบำบัดรักษาสุขภาพในปี 1866 ซึ่งเธอได้ใช้เวลาหลายปีในการศึกษาพระคัมภีร์ การอธิษฐาน และการวิจัยรักษาหลากหลายวิธี ผลที่ได้จากการสรุปของเธอก็คือวิธีการรักษาที่เธอขนานนามว่า “คริสเตียนวิทยาศาสตร์” ในปี 1879 หนังสือของเธอ ชื่อ “วิทยาศาสตร์และสุขภาพกับกุญแจไขพระคัมภีร์” ได้เปิดมุมมองความเข้าใจเรื่องความสัมพันธ์กันของร่างกาย จิตใจและจิตวิญญาณ เธอลงมือก่อตั้งวิทยาลัย คริสตจักร ธุรกิจสำนักพิมพ์ และหนังสือพิมพ์ที่ชื่อ “จับตามองคริสเตียนวิทยาศาสตร์” เพราะความคล้ายคลึงกับกลุ่มอื่น ๆ ทำให้หลายคนเชื่อว่า “คริสเตียนวิทยาศาสตร์” เป็นเพียงลัทธิที่ไม่ใช่นิกายของคริสเตียน

การที่ “คริสเตียนวิทยาศาสตร์” สอนว่าพระเจ้า บิดามารดาของทุกคนนั้น ดีพร้อม และอยู่ฝ่ายจิตวิญญาณ และกล่าวว่า สรรพสิ่งที่พระเจ้าทรงสร้างทั้งหมด รวมถึงลักษณะนิสัยแท้จริงของทุกคน เหมือนพระเจ้าด้านจิตวิญญาณที่ดีพร้อม เพราะสรรพสิ่งที่พระเจ้าทรงสร้างเป็นสิ่งที่ดี ความชั่วร้ายเช่นโรคภัย ความตายและความบาปไม่สามารถมีส่วนในสัจธรรมพื้นฐาน แต่ ความชั่วร้ายเหล่านี้เป็นผลมาจากการมีชีวิตที่ออกห่างจากพระเจ้า การอธิษฐานเป็นทางสายกลางที่เข้าใกล้ชิดพระเจ้าและรักษาความเจ็บป่วยของมนุษย์ ซึ่งสิ่งนี้แตกต่างจากพระคัมภีร์ ที่สอนว่าคนเกิดมาในความบาปที่สืบสายมาจากอาดัมที่ล้มลงในความและสอนว่าความบาปแยกเราขาดจากพระเจ้า ถ้าไม่มีพระคุณแห่งความรอดของพระเจ้าโดยการพลีพระชนม์ของพระคริสต์บนกางเขน เราจะไม่มีวันได้รับการรักษาโรคภัยไข้เจ็บขั้นสูงสุดคือความบาป

ดังนั้นชาว “คริสเตียนวิทยาศาสตร์” ส่วนใหญ่จึงถือเอาการบำบัดด้านจิตวิญญาณเป็นตัวเลือกอันดับแรกและทำให้พวกเขายึดเอา “พลังแห่งการอธิษฐานแทนการรักษาทางการแพทย์” อย่างไรก็ตาม คริสตจักร “คริสเตียนวิทยาศาสตร์” ไม่มีนโยบายจัดการด้านบริการสุขภาพแก่สมาชิกแต่อย่างใด “คริสเตียนวิทยาศาสตร์” ไม่มีนักเทศน์ผู้รับใช้ โดย พระคัมภีร์ และหนังสือวิทยาศาสตร์และสุขภาพ ทำหน้าที่เป็นบาทหลวงและนักเทศน์ โดยมีผู้ที่ศึกษาบทเรียนพระคัมภีร์ประจำวันและอ่านออกเสียงดังในวันอาทิตย์ซึ่งคัดเลือกจากสมาชิกสองคนในคริสตจักร คริสเตียนวิทยาศาสตร์ ท้องถิ่นแต่ละแห่ง โบสถ์ “คริสเตียนวิทยาศาสตร์” ยังมีการประชุมเป็นพยานทุกสัปดาห์ เป็นที่ซึ่งสมาชิกคริสตจักรจะมาบอกเล่าประสบการณ์ของการบำบัดรักษาและการฟื้นฟูใหม่

กล่าวกันว่า ในบรรดาหลักความเชื่อ “คริสเตียน” ที่มีอยู่นั้น “คริสเตียนวิทยาศาสตร์” น่าจะเป็นชื่อที่เรียกอย่างไม่ถูกต้องมากที่สุด ทั้งนี้เพราะ “คริสเตียนวิทยาศาสตร์” ไม่เป็นมีความเป็นทั้ง “คริสเตียน” หรือ “มีพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์” เลย เพราะ “คริสเตียนวิทยาศาสตร์” ปฏิเสธแก่นความจริงของทุกสิ่งที่เป็นระบบ “คริสเตียน” ที่แท้จริง “คริสเตียนวิทยาศาสตร์” ขัดแย้งกับวิทยาศาสตร์ และมุ่งไปที่ด้านจิตวิญญาณยุคใหม่ที่ลึกลับ ว่าเป็นแนวทางสำหรับการรักษาฝ่ายร่างกายและจิตวิญญาณ “คริสเตียนวิทยาศาสตร์” ถูกมองว่าเป็นที่มาของการพัฒนาของลัทธิสตรีนิยมในโลกแห่งศาสนา แม้ว่าจะไม่ใช่ “นักสตรีนิยม” แต่ Eddy ก็ได้ “ทำการปลดปล่อย” อย่างชัดเจน โดยมอบหมายให้ผู้หญิงที่เข้มแข็งดำรงตำแหน่งผู้นำที่สำคัญ และสอนว่าความเท่าเทียมกันทางจิตวิญญาณระหว่างผู้ชายและผู้หญิงจะต้องมีผลทางการเมืองและสังคม เธอเป็นบุคคลที่ก่อให้เกิดการโต้เถียงกันอย่างมาก แต่บรรดานักวิชาการตั้งแต่ทศวรรษ 1960 เป็นต้นมาได้ท้าทายการรับรู้เชิงลบของนักวิจารณ์และนักเขียนชีวประวัติในยุคแรก ๆ ได้สำเร็จ

ในช่วง 20 ปีหลังจากการเสียชีวิตของ Eddy ในปี 1910 จำนวนคริสตจักร “คริสเตียนวิทยาศาสตร์” เพิ่มขึ้นจาก 1,213 เป็น 2,400 แห่ง จากรายงานของสำนักงานสำมะโนประชากรของสหรัฐอเมริกาในปี 1936 ระบุว่า มีสมาชิกคริสตจักรแม่ในสหรัฐอเมริกาประมาณ 269,000 ราย หลังจากการเติบโตอย่างรวดเร็วนี้ ก็มีช่วงเวลาหนึ่งที่ปรับระดับลงในช่วงทศวรรษที่ 1930 และ 1940 และลดลงอย่างต่อเนื่องนับแต่นั้นเป็นต้นมา ยกเว้นในบางพื้นที่ (โดยเฉพาะบางประเทศในโลกที่สาม) ที่สมาชิกเพิ่มขึ้นในช่วงทศวรรษที่ 1970 เพื่อกระตุ้นสภาวะที่ซบเซา คริสตจักร “คริสเตียนวิทยาศาสตร์” จึงพยายามฟื้นฟูการเคลื่อนไหวนี้ ในปี 1972 ศูนย์กลางคริสตจักร “คริสเตียนวิทยาศาสตร์” ได้เปิดทำการในนครบอสตันและกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ Christian Science Monitor ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์รายวันระดับนานาชาติที่คริสตจักร “คริสเตียนวิทยาศาสตร์” จัดพิมพ์ในนครบอสตันประสบความสำเร็จอย่างมาก และในช่วงทศวรรษที่ 1980 คริสตจักร “คริสเตียนวิทยาศาสตร์” พยายามขยายการเข้าถึงผ่านวิทยุและโทรทัศน์ แต่ในที่สุดการพบว่า การนำเสนอทางโทรทัศน์มีค่าใช้จ่ายสูงเกินไปและถูกยกเลิกไปท่ามกลางข้อโต้แย้งภายใน ช่วงต้นศตวรรษที่ 21 คริสตจักร “คริสเตียนวิทยาศาสตร์” อ้างว่ามีคริสตจักรภายใต้ “คริสเตียนวิทยาศาสตร์” มากกว่า 1,700 แห่งใน 80 ประเทศ และคาดว่าสมาชิกจะอยู่ระหว่าง 100,000 ถึง 400,000 รายทั่วโลก

อย่างไรก็ดี “คริสเตียนวิทยาศาสตร์” ก็มีผู้นับถือศรัทธาที่เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงมากมาย โดยเฉพาะในวงการภาพยนตร์ อาทิ Carol Channing และ Jean Stapleton, Colleen Dewhurst, Joan Crawford, Doris Day, George Hamilton, Mary Pickford, Ginger Rogers, Mickey Rooney, Horton Foote, King Vidor, Robert Duvall และ Val Kilmer ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นผู้ศรัทธาใน 'คริสเตียนวิทยาศาสตร์' นอกจากนั้นยังมี  Helmuth James Graf von Moltke นักกฎหมายผู้มีชื่อเสียง Daniel Ellsberg นักวิเคราะห์ทางทหาร Ellen รวมทั้งดาราดังในอดีต เช่น DeGeneres, Henry Fonda, Audrey Hepburn,  James Hetfield, Marilyn Monroe, Robin Williams, Elizabeth Taylor และ Victor Cazalet นักการเมืองชาวอังกฤษ พ่อทูนหัวของ Taylor อีกด้วย

ไม่พลาด!!!
ตลอดเดือนเมษายน 2568 พบกับเรื่องราวของมหากาพย์แห่งสงครามอินโดจีน ในวาระครบรอบ 50 ปีแห่งการสิ้นสุดสงครามอินโดจีน 30 เมษายน พ.ศ. 2568

ธรรมะประจำวันอาทิตย์ที่ 6 เมษายน 2568

การพนันเป็นอบายมุข
นำมาแต่ความเสื่อมเสีย แก่ตัวเองและหมู่คณะ
ตลอดแก่พระพุทธศาสนา

.....นำมาแต่ภัยเวร
นำมาแต่ความประมาท

เพราะฉะนั้นผู้ปฏิบัติธรรม จึงไม่ควรเล่นการพนัน

หลวงปู่ทอง สิริมงฺคโล

ทร.โดย สอ.รฝ.เร่งขนย้ายเตียงสนามเข้าสนับสนุน เหตุแผ่นดินไหว ตึกถล่ม กรุงเทพมหานคร

(4 เม.ย.68) เวลา 18.00 น. กองทัพเรือ โดยหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จัดกำลังพลลำเลียงเตียงสนาม จำนวน 60 เตียง เข้าทำการสนับสนุนในส่วนของ กองทัพเรือ เพื่อเป็นที่พักเพิ่มเติมให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบ และญาติผู้สูญหาย จากเหตุการณ์อาคารถล่ม ในพื้นที่เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 

ซึ่งก่อนหน้านี้ สอ.รฝ. ได้จัดส่งชุดค้นหาและกู้ภัยในเขตเมือง (USAR TEAM) เป็นกำลังพล และยุทธโธปกรณ์ ร่วมกับส่วนภาคพื้น (Ground Control) เข้าค้นหาผู้ประสบภัยบริเวณพื้นที่ที่ได้รับผิดชอบอย่างต่อเนื่อง เข้าร่วมค้นหาและ สนับสนุนชุดเคลื่อนย้ายเคสดำ เพศชาย 1 นาย  สนับสนุนภารกิจเคลื่อนย้ายสิ่งกีดขวางบริเวณช่องทางสำหรับการเข้าค้นหาผู้ประสบภัย และสนับสนุนภารกิจในการส่องกล้อง เพื่อค้นหาผู้ประสบภัย เมื่อ 29 มี.ค.68 หลังเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว ตึกถล่มกรุงเทพฯ มีผู้เสียชีวิตและติดอยู่ภายในจำนวนมาก

ทัพเรือภาคที่ 1 จัดการประชุมคณะกรรมการพัฒนาเพื่อความมั่นคงในระดับพื้นที่ในเขตทัพเรือภาคที่ 1 (ระดับผู้บริหาร) ครั้งที่ 1/2568

พลเรือโท อาภา  ชพานนท์ ประธานคณะกรรมการพัฒนาเพื่อความมั่นคงในระดับพื้นที่ในเขตทัพเรือภาคที่ 1/ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการพัฒนาเพื่อความมั่นคงในระดับพื้นที่ในเขตทัพเรือภาคที่ 1 (ระดับผู้บริหาร) ครั้งที่ 1 ปีงบประมาณ 68 ณ โรงแรม แคนทารี เบย์ ศรีราชา อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี

เพื่อรับทราบผลการดำเนินงานตามแนวทางการเสริมสร้างความมั่นคงเชิงพื้นที่ ภายใต้นโยบายและแผนความมั่นคงที่ 17 การเสริมสร้างความมั่นคงเชิงพื้นที่ ปีงบประมาณ 68 รวมถึงรับทราบปัญหา อุปสรรค ข้อขัดข้องในการทำงานของหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่รับผิดชอบ ประกอบด้วยหน่วยงานระดับนโยบาย (สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร) และ จังหวัดต่าง ๆ ในพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อประสานความร่วมมือ และบูรณาการในการแก้ไขปัญหาร่วมกันให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

กองบัญชาการกองทัพไทย โดยศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติฯ จัดงาน 'วันรณรงค์การดำเนินงานด้านทุ่นระเบิดสากล' ประจำปี 2568

(4 เ.ม.ย.) ที่อาคารนิมมาณกลยุทธ ค่ายนิมมาณกลยุทธ กองพันทหารราบที่ 2กรมทหารราบที่ 12รักษาพระองค์ ตำบลแซร์ออ อำเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว พลเอก ศักดิ์สิทธิ์  แสงชนินทร์ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ  ศูนย์บัญชาการทางทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย เป็นประธานในงาน “วันรณรงค์การดำเนินงานด้านทุ่นระเบิดสากล” ประจำปี 2568 ของประเทศไทย  โดยมีผู้แทนจากส่วนราชการ ภาคเอกชน ภาคประชาชน และองค์กรพัฒนาเอกชนด้านการปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม รวมทั้งหน่วยงานต่างประเทศ เข้าร่วมงานด้วย อาทิ เอกอัครราชทูตนอร์เวย์ ประจำประเทศไทย กระทรวงการต่างประเทศ, กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคง ของมนุษย์, สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.), องค์การความช่วยเหลือแห่งประชาชนชาวนอร์เวย์ สมาคมเก็บกู้ทุ่นระเบิดพลเรือนไทย  

สืบเนื่องจากสหประชาชาติ ตระหนักดีว่าทุ่นระเบิดสังหารบุคคลและสรรพาวุธระเบิดที่ตกค้างจากสงคราม ยังคงเป็นภัยคุกคามต่อชีวิตของประชาชนผู้บริสุทธิ์ในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก จึงมีมติกำหนดให้วันที่ 4 เมษายน ของทุกปี เป็น “วันรณรงค์การดำเนินงานด้านทุ่นระเบิดสากล” เพื่อให้ประเทศต่าง ๆ ได้ตื่นตัว ร่วมกันสร้างความตระหนักรู้ถึงอันตรายจากทุ่นระเบิดสังหารบุคคล และให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากทุ่นระเบิด ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ศูนย์บัญชาการทางทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ในฐานะเป็นผู้รับผิดชอบการดำเนินงานด้านทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมของประเทศไทย 

ภายใต้ศูนย์บัญชาการทางทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย จึงได้จัดกิจกรรมฯ ครั้งนี้ขึ้น เพื่อรณรงค์ส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนได้ตื่นตัวและตระหนักรู้ถึงภัยอันตรายจากทุ่นระเบิด โดยมีกิจกรรมที่สำคัญได้แก่ การมอบหนังสือส่งมอบและประกาศรับรองพื้นที่ปลอดภัยให้กับจังหวัดสระแก้ว การมอบรางวัลการประกวดวาดภาพระบายสี การจัดบูธนิทรรศการเพื่อสร้างความตระหนักรู้ถึงอันตรายจากทุ่นระเบิด การแจ้งเตือนและให้ความรู้เกี่ยวกับอันตรายของทุ่นระเบิด การจัดแสดงเครื่องมือและยุทธโปกรณ์ที่ใช้ในการปฏิบัติงาน การมอบถุงยังชีพ ขาเทียม รถโยก และเงินช่วยเหลือให้แก่ผู้พิการซึ่งได้รับผลกระทบจากภัยทุ่นระเบิด การมอบโล่และใบประกาศเกียรติคุณให้แก่หน่วยงานที่สนับสนุนการจัดกิจกรรมฯ รวมทั้งสาธิตการปฏิบัติงานของหน่วยปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 1 

ทั้งนี้ การจัดกิจกรรม “วันรณรงค์การดำเนินงานด้านทุ่นระเบิดสากล” ดังกล่าว นอกจากเป็นการแสดงออกถึงการให้ความร่วมมือของประเทศไทยในฐานะรัฐภาคีอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคลแล้ว ยังเป็นโอกาสอันดีที่จะกระตุ้นเตือนให้ ทั้งภาครัฐและภาคประชาชน ได้ตระหนักรู้ว่าปัญหาทุ่นระเบิดสังหารบุคคลและสรรพาวุธระเบิดที่ตกค้างจากสงครามยังคงส่งผลร้ายแรงต่อชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนตามชายแดนและพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งภาครัฐไม่ควรทอดทิ้งและต้องดูแลให้ผู้ประสบภัยจากทุ่นระเบิดเหล่านี้ ได้รับความช่วยเหลือ  เท่าที่จำเป็นอย่างทั่วถึง อาทิ ความช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉิน การบริการทางการแพทย์ การฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกาย  การสวัสดิการเบื้องต้น รวมทั้งการฝึกอาชีพ เพื่อให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างปกติสุข และมีศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์

กองบัญชาการกองทัพไทย โดยศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติฯ พร้อมด้วยองค์กรพัฒนาเอกชนด้านการปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมที่เกี่ยวข้อง มีความมุ่งมั่นพร้อมที่จะดำเนินการในทุกด้านเพื่อทำให้พื้นที่อันตรายจากทุ่นระเบิดที่ตกค้างดังกล่าว กลายเป็นพื้นที่ปลอดภัย และส่งมอบคืนให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์อย่างทั่วถึง โดยจะดำเนินการสำรวจและเก็บกู้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลให้หมดไปจากประเทศไทยตามระยะเวลาที่กำหนดไว้โดยเร็ว

ดอกประดู่ช่อใหม่ พร้อมเบ่งบานในหน่วยต่างๆ ของกองทัพเรือ

 

ศูนย์ฝึกทหารใหม่ฯ ส่งมอบทหารใหม่ ผลัดที่ 4/67 ให้หน่วยขึ้นตรง กองทัพเรือ เปรียบดังดอกประดู่ช่อใหม่ พร้อมเบ่งบาน ในหน่วยงานต่างๆ ของกองทัพเรือ น.อ.อภิวัฒน์ นวลรัตนตระกูล รองผู้บังคับการศูนย์ฝึกทหารใหม่ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ )รอง ผบ.ศฝท.ยศ.ทร.) สายงานการฝึก เป็นผู้แทน ผู้บังคับการศูนย์ฝึกทหารใหม่ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ (ผบ.ศฝท.ยศ.ทร.) เป็นประธานพิธีส่งมอบทหารใหม่ ผลัดที่ 4/67 จำนวน 2,889 นาย ให้แก่หน่วยต่างๆ ของกองทัพเรือ ณ ลานสวนสนาม บก.ศฝท.ยศ.ทร. ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

พิธีดังกล่าว มีวัตถุประสงค์ เพื่อให้ทหารใหม่ทุกนายมีความภาคภูมิใจในความสำเร็จก้าวแรกของการฝึกอบรม จนเป็นที่ยอมรับ และรับทราบแนวทางในการนำความรู้ไปใช้ในการปฏิบัติงาน ตระหนักรู้ถึงการประพฤติตนให้ถูกต้องตามแบบธรรมเนียมทหาร ตลอดจนการเป็นตัวอย่างที่ดีในสังคม สามารถเป็นที่พึ่งของประชาชน ในทุกโอกาส ให้สมกับปณิธานที่ศูนย์ฝึกทหารใหม่เน้นย้ำที่ว่า "ทหารเรือจะอยู่เคียงข้างประชาชน"

ทั้งนี้ ศูนย์ฝึกทหารใหม่ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ ดำเนินการฝึกอบรมหลักสูตรทหารใหม่ ภาคสาธารณศึกษา ผลัดที่ 4/67 ตั้งแต่ 1 ก.พ.68 - 3 เม.ย.68 เป็นระยะเวลา 8 สัปดาห์ ทหารใหม่ ผลัด 4/67 ทุกนายมีความพร้อมทั้งด้านความเข้มแข็ง มีวินัย และความรู้ทหารเรือเบื้องต้น พร้อมปฏิบัติราชการตามภารกิจของหน่วยต่างๆ ในกองทัพเรือต่อไป

ทั้งนี้การฝึกอบรมฯ อยู่ภายใต้นโยบายผู้บัญชาการทหารเรือ ที่กำหนดให้เป็นปีแห่งความปลอดภัยของกองทัพเรือ 'Navy-Safety 2025' อย่างเคร่งครัด


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top