Friday, 9 May 2025
NewsFeed

กลับมาอีกครั้ง!! หลักสูตร ‘DAD NIDA’ รุ่นที่ 8 เปิดรับสมัครแล้ว อัดแน่นความรู้ เสริมสกิลผู้นำแห่งยุคดิจิทัล ต่อยอดพัฒนาธุรกิจ

(20 ก.ค. 66) ในยุคดิจิทัล เป็นยุคที่โลกการทำงานมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีสามารถเข้ามาทดแทนการทำงานของมนุษย์ได้มากขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้น เราต้อง Upskill & Reskill ทั้ง Hard & Soft Skills อยู่ตลอดเวลา DAD NIDA จึงออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการพัฒนาตัวเองเป็นผู้นำยุคดิจิทัล

💙 สิ่งที่ผู้เรียนจะได้รับ
✅ ความรู้และประสบการณ์ที่อัดแน่น อัปเดต สอดรับกับโลกยุคดิจิทัล ถ่ายทอดจากผู้เชี่ยวชาญในวงการชั้นนำระดับประเทศ
✅ คอนเนคชันดี ๆ จากหลากหลายวงการ ทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน
✅ ความรู้ไปใช้ต่อยอดกับองค์กรเพื่อทำ Digital Transformation
✅ ได้นำความรู้ไปลงมือปฏิบัติจริง ผ่านกิจกรรม Bootcamp และ Design Thinking Workshop

(Celebrate) [Bonus] พิเศษสุด!! ผู้เรียนจะได้รับประกาศนียบัตร 2 ใบ จากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) และจากการเข้าร่วมกิจกรรม Design Thinking Workshop [ความร่วมมือ 2 สถาบัน DAD X CITU] (deal)

————————————
✨[สมัครด่วน รับจำนวนจำกัด! ] 
ตั้งแต่วันนี้ ถึง 20 ก.ค. 2566 
>> https://forms.gle/Xdjhu5o3T819ydxn9
————————————
📢 กำหนดการ (ปี 2566)
🛅 ปฐมนิเทศ > 24-26 ส.ค. 
🗓️ เริ่มเรียน 2 ก.ย. - 25 พ.ย. ทุกวันเสาร์ 13.00 - 17.30 น.
————————————
(paper) ดูรายละเอียดหลักสูตร
https://www.dadnida.com
(Call) สอบถามเพิ่มเติม  
(line): @dadnida
โทร: 092-728-6722

ระทึก!! เกิดเหตุกราดยิงกลางเมืองโอ๊คแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ ก่อนการแข่งขันฟุตบอลโลกหญิง ดับแล้ว 2 บาดเจ็บอีก 5 ราย!!

เมื่อวันที่ 19 ก.ค. 66 สำนักข่าวบีบีซีและรอยเตอร์รายงานว่า เกิดเหตุกราดยิงในสถานที่ก่อสร้างในเมืองโอ๊คแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ เมื่อวันที่ 19 ก.ค. ที่ผ่านมา เพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนการแข่งขันฟุตบอลโลกหญิง นัดเปิดสนามระหว่างทีมชาตินอร์เวย์และนิวซีแลนด์จะเริ่มขึ้นที่สนามอีเดน พาร์ค ในเมืองโอ๊คแลนด์ เหตุการณ์ในครั้งนี้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 ราย บาดเจ็บ 5 คน เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ 1 นาย ขณะที่ผู้ก่อเหตุถูกยิงเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

นายแอนดรูว์ คอสเตอร์ ผู้บัญชาการตำรวจนิวซีแลนด์ระบุในการแถลงข่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีการระบุตัวตนของผู้ก่อเหตุอย่างเป็นทางการ แต่คาดว่าจะเป็นชายวัย 24 ที่ทำงานในสถานที่ก่อสร้างที่เป็นจุดเกิดเหตุดังกล่าว โดยผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนลูกซองในการกราดยิงพร้อมกับเดินมุ่งหน้าไปในอาคารจุดเกิดเหตุ เมื่อไปถึงชั้นบนของอาคาร มือปืนได้ทำการสาดกระสุนต่อไปก่อนที่จะพบเป็นศพในเวลาต่อมาไม่นาน

ชายคนดังกล่าวต้องโทษกักบริเวณในบ้านพักแต่ได้รับการยกเว้นให้ทำงานในสถานที่ก่อสร้างดังกล่าว นายคอสเตอร์กล่าวว่า “ผู้ก่อเหตุมีประวัติใช้ความรุนแรงในครอบครัวเป็นหลัก ไม่มีอะไรบ่งชี้ว่าเขามีความเสี่ยงที่จะก่ออันตรายในระดับที่มากกว่าที่ระบุในประวัติของเขา”

นายคริส ฮิปกินส์ นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์กล่าวว่า เหตุกราดยิงดังกล่าวไม่ได้ถูกมองว่าเป็นการก่อการร้ายและไม่พบว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้มีมูลเหตุจูงใจมาจากการเมืองหรือคตินิยมแต่อย่างใด ขณะที่การแข่งขันฟุตบอลโลกหญิงที่ประเทศนิวซีแลนด์และออสเตรเลียร่วมกันเป็นเจ้าภาพจะดำเนินต่อไปตามปกติ

ฮิปกินส์กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งชายและหญิงของนิวซีแลนด์ที่ได้เข้าระงับเหตุดังกล่าวอย่างทันท่วงทีเพื่อรักษาชีวิตประชาชน และขอให้สาธารณชนวางใจว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดการกับภัยคุกคามและไม่มีความเสี่ยงใดหลังเหตุกราดยิงที่เกิดขึ้นแล้ว แต่จะเพิ่มกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจในเมือง

นายเวย์น บราวน์ นายกเทศมนตรีเมืองโอ๊คแลนด์ ให้ข้อมูลว่า เหตุกราดยิงที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวข้องกับการแข่งขันฟุตบอลโลกหญิงแต่อย่างใด และเจ้าหน้าที่ทุกคนของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือฟีฟ่า และสมาชิกทุกคนของทีมฟุตบอลทุกทีมปลอดภัยดี ด้านฟีฟ่าก็ได้ออกมาแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของเหยื่อผู้เสียชีวิตและทางฟีฟ่ากำลังติดต่อกับทางการนิวซีแลนด์

ทีมฟุตบอลหญิงของทีมชาตินิวซีแลนด์ นอร์เวย์ อิตาลี สหรัฐ เวียดนาม และโปรตุเกส กำลังพักอยู่ในเมืองโอ๊คแลนด์ขณะเกิดเหตุกราดยิง โดยสถานที่เกิดเหตุอยู่ใกล้กับโรงแรมของทีมชาตินอร์เวย์ ทำให้นักเตะของทีมหลายคนใช้โซเชียลมีเดียเพื่อรายงานว่าตนเองปลอดภัยดี

กูรูหลักทรัพย์มอง ‘เพื่อไทย’ จัดตั้งรัฐบาล เพิ่มแรงส่ง ‘ตลาดหุ้น-คลายกังวลขึ้นภาษี’

(20 ก.ค. 66) หลังจากเมื่อวานนี้ มติศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องคดีหุ้นสื่อไอทีวี และสั่งให้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.ไว้ก่อน ขณะที่ที่ประชุมรัฐสภาลงความเห็นห้ามนำญัตติที่ตกไปแล้วเสนอซ้ำ จึงเสนอชื่อพิธาโหวตนายกฯ รอบ 2 ไม่ได้ โดยเตรียมโหวตนายกฯ ครั้งต่อไปในวันที่ 27 ก.ค. 66 นั้น

ด้าน นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและนักกลยุทธ์ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหุ้นมีความชัดเจนด้านการเมืองพอสมควร ปัจจุบันเหลือเพียง 2 scenario คือ…

1. พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยมี ‘ก้าวไกล’ ร่วมรัฐบาล และ
2. มีพรรคเพื่อไทยแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แต่พรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายค้าน

แต่ไม่ว่าผลจะออกมาทางใด มองเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้น จากการที่ตลาดมีความเชื่อมั่นในทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ทั้งยังลดแรงกดดันจากความกังวลนโยบายพรรคก้าวไกล ในเรื่องการเก็บภาษีหุ้น Capital Gain Tax  ภาษีความมั่งคั่งเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ ภาษีนิติบุคคล ฯลฯ การปรับลดราคาพลังงาน ทำให้เราประเมินว่าว่าภาพโดยรวมของตลาดหุ้น จะมีแรงส่งจากทิศทางการเมืองที่มีความชัดเจนขึ้น และน่าจะเป็นปัจจัยดึงดูดโฟลว์จากต่างประเทศเข้าไทยได้ต่อเนื่องไประยะหนึ่ง

นายกิจพณ กล่าวอีกว่า หากมองเปอร์เซนต์โอกาสที่ ‘พรรคก้าวไกล’ จะมาเป็นพรรคร่วมรัฐบาลแค่ 30% แต่หากได้ทั้ง 2 พรรคมาร่วมรัฐบาล จะส่งผลดีต่อตลาดหุ้นมากกว่าในแง่ความเป็นเอกภาพ แต่หากเป็นการดึงจากหลายพรรค มาแทนที่ ‘ก้าวไกล’ เพื่อให้ได้เสียงเพียงพอ อาจมีความเสี่ยงเรื่องอำนาจต่อรอง เก้าอี้ รมต. และผลประโยชน์การบริหารกระทรวงต่างๆ

ทั้งนี้หากมองถึงปัจจัยเสี่ยงจากภายนอกว่า ปัจจุบันมีความนิ่งพอสมควร ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยุติวงจรการขึ้นดอกเบี้ย อีกทั้งราคาน้ำมันดิบที่เคยกดดันในครึ่งปีแรก ปรับลดลงจนส่งผลต่อกำไรหุ้นพลังงานที่คิดเป็น 1 ใน 3 ของกำไรตลาด แต่ครึ่งปีหลัง เข้าสู่ฤดูหนาว เศรษฐกิจสหรัฐก็ไม่ได้ถดถอยอย่างรุนแรง และประเทศจีนเปิดประเทศ ทั้งหมดนี้ทำให้ภาพของราคาน้ำมันดิบมีโอกาสการฟื้นตัวในครึ่งปีหลัง ซึ่งเป็นผลดีต่อกำไรตลาดในครึ่งปี มีโอกาสจะปรับขึ้นด้วย

สำหรับ บล.ยูโอบีฯ ให้กรอบเป้าหมายดัชนีหุ้นไทยปี 66 ที่ 1450- 1630 จุด พีอี 16 เท่า พร้อมมองการฟื้นตัวของตลาดหุ้นไทยในครึ่งปีหลัง จากปัจจัยการเมืองในประเทศ และผลประกอบบริษัทจดทะเบียนได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว อีกทั้งกลุ่มพลังงานที่จะมีแรงส่งจากราคาน้ำมันดิบที่เริ่มขยับขึ้น จะทำให้ดัชนี SET ค่อยๆ ฟื้นจากระดับ 1500 จุด ในปัจจุบันได้

>> ทรีนีตี้ จับตา ‘ภูมิใจไทย’ มาแรงร่วมรัฐบาล
ด้าน บล.ทรีนีตี้ จำกัด โดยนายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ ได้เผยบทวิเคราะห์ล่าสุด ว่า มองกรณีที่ประชุมรัฐสภา (19 ก.ค.) ลงมติเห็นด้วยกับข้อบังคับการประชุม 41 ที่ห้ามมีการเสนอญัตติซ้ำเป็นครั้งที่สอง เป็นตัวจุดประกายให้ ‘พรรคเพื่อไทย’ ซึ่งจะเป็นพรรคลำดับถัดไปในการเสนอชื่อนายกฯรัฐมนตรีนั้น เดินเกมส์ที่ปลอดภัยมากขึ้น เพื่อสร้างความมั่นใจว่าการโหวตนายกฯ ที่มาจากแคนดิเดตพรรคนั้น จะประสบความสำเร็จตั้งแต่รอบแรก ด้วยวิธีการ 2 แบบ ดังต่อไปนี้…

1) การไปดึงพรรคอื่นมาเพิ่มเติมเสียงให้กับกลุ่มจัดตั้งรัฐบาลที่มีอยู่ 8 พรรคเดิม อาทิ การจับมือกับพรรคภูมิใจไทยเข้ามา ซึ่งก็จะทำให้มีคะแนนเสียงส.ส.ในมือรวมกันใหม่เป็น 384 ที่นั่ง เกินกึ่งหนึ่งของรัฐสภา
2) การตัดสินใจข้ามขั้วไปจับมือกับแกนนำฝั่งพรรคอนุรักษ์นิยมทันที เช่นพรรคภูมิใจไทย พลังประชารัฐ เพื่อเรียกคะแนนเสียงจากสว.ให้ลงมติหนุนนายกที่มาจากแคนดิเดตเพื่อไทย รวมกันเกินกึ่งหนึ่งของรัฐสภา

Winner : ไม่ว่าในกรณีไหน มองโอกาสในการก้าวขึ้นมาเป็นพรรคร่วมรัฐบาลของภูมิใจไทย ซึ่งเป็นพรรคอันดับ 3 ตอนนี้มีสูงมาก ประเด็นนี้อาจทำให้เห็นแรงเก็งกำไรต่อเนื่องไปยังกลุ่มหุ้นที่ STEC, STPI, เชื่อมโยงกับพรรคดังกล่าวอย่างเช่น PTG เป็นต้น

สำหรับใน 3 ตัวนี้มี PTG ที่อยู่ภายใต้ Coverage ของเรา โดยในเชิงพื้นฐานแม้แนะนำ ‘ถือ’ แต่มีประเด็นเชิงบวกล่าสุดได้แก่ การที่กบน.มีมติใช้กองทุนน้ำมันฯ ตรึงราคาดีเซลให้อยู่ที่ 32 บาทต่อลิตร หลังมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลจะสิ้นสุดลงในวันที่ 20 ก.ค.

>> เอเซียพลัส : มองการเมืองบวกกับตลาดหุ้น คาดได้รัฐบาลใหม่ช่วงส.ค.66
ฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส ประเมินว่ามีความเป็นไปได้สูงที่พรรคที่ได้ ส.ส.มากเป็นอันดับ 2 อย่าง ‘พรรคเพื่อไทย’ จะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ ในการประชุมรัฐสภา 27 ก.ค.66 ซึ่งฝ่ายวิจัยฯ คาดว่าพรรคเพื่อไทย จะต้องดำเนินการให้เรียบร้อยในครั้งนี้ (27 ก.ค. 66)

เนื่องจากการประชุมสภารอบที่ผ่านมา มีข้อสรุปว่าไม่สามารถเสนอรายชื่อ บุคคลเดิมเป็นแคนดิเดตนายกฯซ้ำได้ ภายใต้สถานการณ์อื่นไม่เปลี่ยนเป็น ‘ญัตติต้องห้าม’ ตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ข้อที่ 41 ในเบื้องต้น โดยเชื่อว่ามีโอกาสที่จะได้รัฐบาลชุดใหม่เข้ามาบริหารประเทศในช่วง ส.ค.66 โดย Scenario ที่สามารถเกิดขึ้นได้ในการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ มีดังนี้…

- พรรคเพื่อไทย จับมือพรรคร่วมรัฐบาลเดิมทั้ง 8 พรรค และสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ
- พรรคเพื่อไทย จับมือพรรคร่วมรัฐบาลใหม่ โดยไม่มีพรรคก้าวไกล และยังเป็นรัฐบาลเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร

นอกจากนี้ ยังได้ประเมินภาพการเมืองในช่วงนี้ว่า อยู่ในวิสัยที่สามารถคาดการณ์ได้มากขึ้น และน่าจะทำให้ดาวน์ไซด์ของ SET Index จำกัด โดยเชื่อว่าน่าจะได้รัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารประเทศได้ในช่วงเดือน ส.ค. 66 จะมีก็แค่ ‘ความเสี่ยงนอกสภาฯ’ ที่หากมีความรุนแรงและยืดเยื้อขึ้น จะเป็นปัจจัยกดดัน SET Index อีกครั้ง ซึ่งหากพิจารณา Google Trends คำว่า ‘ม็อบ-ประท้วง-Protest’ ในปัจจุบันยังอยู่ระดับต่ำกว่าในอดีตมาก

‘อรรถกร’ วอนกรมชลฯ แก้ปัญหาผักตบชวาล้นแม่น้ำบางปะกง ลดความเดือดร้อนประกอบอาชีพในลำน้ำของประชาชน .

(20 ก.ค. 66) นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคพลังประชารัฐ กล่าวหารือถึงความเดือดร้อนของพี่น้องจังหวัดฉะเชิงเทราในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ว่า ตนได้รับเรื่องร้องเรียนจากพี่น้องประชาชนที่ได้รับความไม่สะดวกในการสัญจรไปมา โดยเฉพาะในช่วงกลางคืน บนทางหลวงหมายเลข 3076 เส้นพนมสารคาม บ้านซ่า โดยเฉพาะในช่วง จากตำบลหนองยาว อำเภอพนมสารคาม ไปถึงช่วงตำบลดงน้อย อำเภอราชสาน ว่าในช่วงเวลากลางคืนแสงสว่างไม่เพียงพอ จนทำให้เกิดความไม่สะดวก และเกิดอุบัติเหตุขึ้นบ่อยครั้ง จึงขอเรียนผ่านท่านประธานไปยังกระทรวงคมนาคม ขอให้ติดตั้งไฟส่องสว่างเป็นช่วง ๆ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน 

นายอรรถกร ยังกล่าวต่อถึงปัญหาจากประชาชนที่อาศัยอยู่ช่วงถนนสายบางปะอิน หมู่ที่ 6 ตำบลบางกระเจ็ด ว่าในบางช่วงของการใช้ไฟฟ้ามีเหตุการณ์เกิดไฟตกทำให้การใช้ชีวิตภายในบ้านไม่ปกติ หลายครั้ง เครื่องใช้ไฟฟ้าก็เสียหาย่ จึงขอให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ช่วยขยายเฟสไฟใน ช่วงหมู่ที่6 ตำบลบางกระเจ็ดจาก 2 เฟสเป็น 3 เฟสทั้งหมดด้วย จะสามารถบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนได้เยอะ

“ส่วนเรื่องที่สำคัญและเร่งด่วนอีกเรื่อง เนื่องจากในขณะนี้แม่น้ำบางประกง ในช่วงของตำบลกลางตลาด ช่วงตำบลบางขนาด และในบริเวณอำเภอคลองเขื่อน และที่เขตบางปะกง มีปัญหาผักตบชวาล้น ต้องเรียกว่า ‘มวลมหาผักตบชวา’ ก็เป็นไปได้ สร้างความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชน โดยเฉพาะพี่น้องประชาชนที่มีวิถีชีวิตประมงในลำน้ำเพื่อมาเลี้ยงชีพ รวมถึงปัญหาของการสัญจรไปมาในริมคลองแม่น้ำ ซึ่งเป็นปัญหาทุกปี

ซึ่งในอาทิตย์ที่ผ่านมา ผมได้รับความช่วยเหลือจากกรมชลประทาน องค์กรจังหวัดฉะเชิงเทรา รวมไปถึงอำเภอกำนันผู้ใหญ่บ้าน อบต และพี่น้องประชาชนช่วยกันป้องกันปัญหาผักตบชวาที่ต้องจัดการ โดยการต้องเรี่ยไรเงิน ที่จะนำไปแก้ไขปัญหาเบื้องต้น ผมขอให้กรมชลประทานช่วยระดมกำลังเครื่องไม้เครื่องมือมาแก้ไขอย่างต่อเนื่อง” นายอรรถกร กล่าว

‘ณัฐวุฒิ’ ยัน!! สถานะ ‘พิธา’ ครบถ้วนทุกประการ จ่อเสนอชื่อชิงเก้าอี้นายกฯ อีกรอบ

(20 ก.ค.66) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาคนที่หนึ่ง เป็นประธานการประชุม ได้แจ้งให้ที่ประชุมรับทราบ ถึงคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญ ที่สั่งให้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล หยุดปฏิบัติหน้าที่ ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยชี้ขาดในคดีที่ถูกตรวจสอบว่าขาดคุณสมบัติ กรณีถือครองหุ้นสื่อหรือไม่ ทำให้ขณะนี้มี ส.ส.ที่ปฏิบัติหน้าที่ได้ จำนวน 499 คน

จากนั้น นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ลุกหารือต่อประชุม ว่า นายพิธา ประกาศต่อที่ประชุมรัฐสภา เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม ว่า รับทราบ แต่ไม่ยอมรับ ทั้งนี้ ตนยืนยันว่า คำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญที่อ้างรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่นั้น ถือว่าไม่มีผลกระทบต่อการถูกเสนอชื่อฐานะแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคก้าวไกล ดังนั้น นายพิธา จึงมีสถานะครบถ้วนสมบูรณ์ทุกประการ ดังนั้น จึงมีโอกาส มีสิทธิ ถูกเสนอชื่อให้ต่อสู้ฐานะแคนดิเดตนายกฯ และลงมติเห็นชอบให้นายพิธาเป็นนายกฯ ได้

“การให้ความเห็นชอบประเด็นเสนอชื่อนายพิธาให้เป็นนั้น หากให้ผมยืนยันอาจจะเร็วไป แต่สิ่งที่ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ที่พยายามจะพูดกับที่ประชุมรัฐสภา เมื่อ19 กรกฎาคม แต่ไม่มีโอกาส คือ ข้อบังคับการประชุมข้อ 41 วรรคท้าย กำหนดให้ ประธานรัฐสภาพิจารณาต่อได้ หากมีสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ดังนั้น ผมขอยืนยันความสมบูรณ์ครบถ้วนต่อสภา ว่า นายพิธา สามารถเสนอชื่อให้เป็นนายกฯ ของประเทศไทย คนไทยทุกคนไม่เฉพาะคนที่เลือกพรรคก้าวไกลเท่านั้น” นายณัฐวุฒิ อภิปราย

นายณัฐวุฒิ อภิปรายย้ำด้วยว่า กรณีของศาลรัฐธรรมนูญต่อกรณีของนายพิธานั้น ยังไม่มีคำวินิจฉัยชี้ขาดว่า นายพิธา นั้นกระทำผิด หรือมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ ดังนั้น ตามหลักการของกฎหมาย ถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ ขณะเดียวกัน ศาลจะวินิจฉัยอย่างไร ไม่มีใครทราบ ซึ่งการเลือกนายกฯ นั้นรัฐธรรมนูญกำหนดให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 159 และมาตรา 272 ดังนั้นนายพิธาจึงมีสถานะและความสมบูรณ์ที่จะได้รับการเสนอชื่อให้เป็นนายกฯ ต่อรัฐสภา

‘เสก โลโซ’ ลั่น!! การเมืองมันห่วยแตก ขอมอบเพลง ‘เคยรักฉันบ้างไหม’ ให้คนที่อกหักทางการเมือง

เมื่อคืนวันที่ 19 ก.ค.66 ที่สถานบันเทิงโรงเหล้ามิตรภาพโคราช ศิลปินร็อกรุ่นใหญ่ 'เสก โลโซ' หรือนายเสกสรรค์ ศุขพิมาย ขึ้นแสดงบนเวทีคอนเสิร์ต โดยมีผู้มารอรับชมจำนวนมาก

โดยช่วงก่อนจบการแสดง ร็อกสตาร์ชื่อดังได้กล่าวกับผู้ชมหลากหลายสถานะจำนวนหลาย 100 คนว่า...

“วันนี้เราจะเมานะครับเพื่อน อุทิศให้กับการเมืองที่มันห่วยแตกครับเพื่อน ๆ ครับ พูดมากไม่ได้ เดี๋ยวเขาจับไปขังอีก”

“ผมมีเรื่องที่จะพูดเยอะแยะเต็มไปหมด แต่ถ้าพูดไปก็จะขัดความสนุกของเพื่อน ๆ เปล่า ๆ จะบอกว่า 14 ล้านเสียงของเรานั้น ไม่มีเหตุผลเลย ใช่ไหมครับ 14 ล้านเสียงคือประชาชน พูดต่อไปแม่งก็การเมืองมันห่วยแตก กินส้มตำใส่ปลาแดกเวิร์กกว่า (เป็นทำนองเพลง) จะร้องเพลงนี้ให้กับคนที่อกหักในการเมืองในวันนี้นะครับ เคยรักฉันบ้างไหม เพื่อน ๆ ครับ”

ท่ามกลางเสียงตบมือเป่าปากที่ 'เสก โลโซ' ได้สะท้อนความรู้สึกในภาวะการเมืองที่ไม่ปกติ

'อัครเดช' แนะ 'ก้าวไกล' ทบทวนถอยนโยบายแก้ ม.112 เดี๋ยวอาสาขอเสียง ส.ส.หนุน 'พิธา' ขึ้นนายกฯ เอง

(20 ก.ค.66) ที่รัฐสภา นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี และโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวว่า ตนขอแนะนำให้พรรคก้าวไกล ยอมทบทวนนโยบายแก้ไขมาตรา 112 เพื่อให้เป็นสถานการณ์ใหม่ และสามารถเสนอชื่อนายพิธา กลับเข้ามาให้รัฐสภาพิจารณาเป็นนายกรัฐมนตรีใหม่ได้ในสมัยการประชุมถัดไป โดยตนจะอาสาไปทำความเข้าใจ ส.ส.ฝั่งที่ไม่สนับสนุนนายพิธา และพร้อมสนับสนุนพรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาลบริหารประเทศ จึงขอให้พรรคก้าวไกลทบทวนในเรื่องนี้  

หากพรรคก้าวไกลยอมถอนมาตรา 112 ตนมั่นใจว่า เหตุการณ์การประชุมรัฐสภา 19 ก.ค.จะไม่เกิดขึ้น และสามารถโหวตนายพิธาได้ เนื่องจากพรรคก้าวไกล ไม่ยอมถอยมาตรา 112 ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญที่ทำให้นายพิธา ไม่ได้รับการลงมติให้เป็นนายกฯ และเชื่อว่า พรรคก้าวไกลยังมีโอกาสเป็นรัฐบาลด้วยการทบทวนการแก้ไขมาตรา 112 และคิดถึงประชาชนจำนวนมาก ที่สนับสนุนให้เข้ามาบริหารประเทศ ไม่ต้องการให้แตะมาตรา 112 ที่มีผลกระทบต่อสถาบัน

เมื่อถามว่า แนวทางของพรรค รทสช. ในการเสนอนายกรัฐมนตรีในการประชุมรัฐสภาวันที่ 27 ก.ค.นี้ จะเป็นอย่างไรนั้น นายอัครเดช กล่าวว่า ตนเป็นเพียงโฆษกพรรคไม่สามารถตอบได้ เพราะจะต้องรอให้พรรคมีการพิจารณา เพื่อมีข้อสรุปออกมาเป็นมติพรรคก่อน

‘สนามมวยราชดำเนิน’ จับมือ ‘แกร็บ’ ทุ่มเงิน 100 ล้าน ปลุก ‘มวยไทย’ ดันซอฟต์เพาเวอร์ หนุนท่องเที่ยวเชิงกีฬา

(20 ก.ค. 66) นายเธียรชัย พิสิฐวุฒินันท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โกลเบิล สปอร์ต เวนเจอร์ส จำกัด หรือ ‘GSV’ กล่าวว่า…

“มวยไทยถือเป็นศิลปะการต่อสู้ประจำชาติที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนานจนกลายเป็นมรดกทางวัฒนธรรม โดยปัจจุบันรัฐบาลได้ผลักดันให้เป็นหนึ่งใน Soft Power อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ ด้วยความมุ่งมั่นที่จะพัฒนามวยไทยให้สามารถเข้าถึงทุกคน และกลายเป็นหมุดหมายสำคัญของคนทั่วโลก สนามมวยเวทีราชดำเนิน ซึ่งเป็นเวทีมวยไทยมาตรฐานแห่งแรกของโลก และเป็นต้นกำเนิดของมวยไทยอาชีพจึงได้มีการปรับภาพลักษณ์ใหม่ พร้อมจัดให้มีการแข่งขันหลากหลายรายการ ทุกวันตลอดทั้งสัปดาห์

รวมถึงการสร้างรายการใหม่ อย่างรายการ ‘ราชดำเนิน เวิลด์ ซีรีส์’ ที่มีการปรับกติกาและรูปแบบการแข่งขันให้เข้าใจง่ายและน่าติดตาม ด้วยโปรดักชันมาตรฐานระดับสากล โดยถ่ายทอดไปกว่า 200 ประเทศและเขตการปกครอง เพื่อรองรับกลุ่มคนดูใหม่ๆ พร้อมสร้างสีสันและยกระดับมาตรฐานวงการมวยไทยไปสู่ระดับสากล”

“หลังสถานการณ์โควิดเริ่มคลี่คลายกระแสความนิยมมวยไทยได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งมีสัดส่วนมากถึง 70% ของผู้ชมทั้งหมด โดยนักท่องเที่ยว 5 ชาติแรกที่เดินทางมาชมแมตช์การชกที่สนามของเรา คือ จีน, สหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักร, ฝรั่งเศส และเยอรมนี ทั้งนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬาและปลุกกระแสมวยไทยให้เป็นที่นิยมอย่างต่อเนื่องในกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ล่าสุด GSV จึงจับมือร่วมกับ ‘แกร็บ’ ซึ่งเป็นแอพพลิเคชันเรียกรถยอดนิยมอันดับหนึ่ง ทุ่มงบประมาณกว่า 100 ล้านบาท เพื่อโปรโมตกีฬามวยไทยผ่านสื่อ และกิจกรรมการตลาดอย่างเต็มรูปแบบในช่วงครึ่งปีหลัง ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ พร้อมมอบส่วนลด 10% สำหรับบัตรเข้าชมการแข่งขันมวยไทย ณ สนามมวยเวทีราชดำเนิน สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติทุกวันจนถึงสิ้นปี”

นายวรฉัตร ลักขณาโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า การเจาะตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์หลักของเราในปีนี้เพื่อสร้างการเติบโตทางธุรกิจ โดยเฉพาะบริการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชันของแกร็บ

ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา แกร็บได้ดำเนินกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวและพัฒนามาตรฐานบริการ เพื่อยกระดับประสบการณ์การเดินทาง โดยมีไฮไลต์สำคัญอย่างการปรับโฉมบริการ GrabCar Premium ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘The Ultimate 5 Senses Experience’ รวมถึงการร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยทำแคมเปญ ‘อะเมซิ่งทั่วไทย มั่นใจไปกับ Grab’ และจัดทำไกด์บุ๊ก Grab&Go เพื่อแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับชาวต่างชาติโดยเฉพาะ

สำหรับการผนึกความร่วมมือกับสนามมวยเวทีราชดำเนินในครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งความตั้งใจที่จะช่วยส่งเสริมและกระตุ้นการท่องเที่ยวให้กับประเทศไทยโดยใช้ Soft Power อย่างมวยไทยมาเป็นจุดขายเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยนอกจากการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อและกิจกรรมการตลาดในช่องทางต่างๆ แล้ว แกร็บยังมอบส่วนลดพิเศษ 30% สำหรับผู้ใช้บริการ GrabCar Premium และ GrabSUV เมื่อเดินทางไปยังสนามมวยเวทีราชดำเนินเพียงใส่รหัส RAJADAMNERN ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ธันวาคม 2566

‘ลุกซ์’ พา ‘น้องเวทย์มนต์’ ลูกสาวใบเตย-ดีเจแมน ทำบุญใส่บาตร พร้อมเผย “จะดูแลหนูให้ดีที่สุด จนกว่าจะอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา”

(20 ก.ค. 66) ผ่านไป 2 เดือนแล้ว สำหรับมรสุมชีวิตของครอบครัว ‘ใบเตย อาร์สยาม’ ที่รุมเร้าเข้ามาพร้อม ๆ กัน ทั้งแฟนหนุ่มของ ‘ลุกซ์ ชาญวิทย์’ น้องชายใบเตย ต้องจากไปกะทันหันด้วยอุบัติเหตุ ซ้ำพี่สาวและพี่เขยอย่าง ‘ดีเจแมน’ ยังถูกคุมตัวอยู่ในเรือนจำจากคดี Forex-3D อีก 

ซึ่ง ลุกซ์ แม้ตัวเองจะสูญเสียหนักแต่ในฐานะน้า ก็รู้สึกเห็นใจหลานสาว ‘น้องเวทย์มนต์’ เป็นอย่างมาก ที่ต้องห่างอกพ่อแม่

ล่าสุด ‘ลุกซ์ ชาญวิทย์’ ได้เผยคลิปขณะมาใส่บาตรกับ ‘น้องเวทย์มนต์’ ด้วยรอยยิ้มสดใส โดย ลุกซ์ เขียนแคปชันเอาไว้ว่า…

"ครบรอบ 2 เดือน ของการจากไปของลุงภูมิ และ 2 เดือน ที่หลานต้องห่างจากคุณพ่อและแม่ น้าขอให้ทุก ๆ วันของเรามีแต่สิ่งดี ๆ ขึ้นนะลูกนะ น้าจะดูแลหนูให้ดีที่สุด จนกว่าจะถึงวันที่หนูได้อยู่กับครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตา"

‘อ.เฉลิมชัย’ ชวนคิด ยุคสมัยเปลี่ยนไป ต้องตามเด็กให้ทัน รับ!! ตนเป็นคนแก่ แต่ฟังเด็กรุ่นใหม่ หวังดันชาติเดินต่อ

เมื่อไม่นานมานี้ ผู้ใช้ TikTok บัญชี @jaramphonsornphong แชร์คลิปวิดีโอของ ‘อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์’ ที่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อเด็กรุ่นใหม่ในประเทศไทย พร้อมเผยว่า ตนนั้นก็รู้สึกศรัทธาในความคิดของเด็กรุ่นใหม่เช่นกัน โดยในคลิประบุว่า…

“ความสามารถของคุณดีกว่าเขาหรือ? ก็ไม่ใช่ คนรุ่นใหม่เขารวดเร็ว เพราะเขาต้องแข่งกับโลกทั้งหมด ไม่ใช่เพียงแค่แข่งกันในประเทศ แต่มันคือการแข่งขันกับโลกทั้งหมด ดังนั้น ความคิดของเด็กเหล่านี้มันจึงต้องรวดเร็ว ฉับไว ทุกอย่างมันเปลี่ยนแปลงเร็วจนทำให้คนแก่ทุกคนรู้สึกหวาดกลัว แต่คุณต้องยอมรับว่านี่คือ ‘โลกใหม่’ โลกใหม่ไม่ใช่เพียงในประเทศของเราอย่างเดียวที่เปลี่ยน แต่มันเปลี่ยนทั้งโลก จงจําไว้ว่า ถ้าตราบใดที่คนรุ่นใหม่ของเรา ไม่เกิดการแปลงเปลี่ยนที่รวดเร็วขนาดนี้ เราจะสู้กับคนทั้งโลกได้อย่างไร?”

“ผมจึงศรัทธาต่อคนรุ่นใหม่ ผมบอกได้เลย ผมสอนคน ผมให้โอกาสเด็กรุ่นใหม่นําเสนอผลงาน ผมชอบความคิดเด็กรุ่นใหม่ ผมรับฟังเขา ในการประชุมทุกครั้งเด็กรุ่นใหม่ เด็กอายุเพียงแค่ 20 กว่าปี สามารถยกมือแล้วบอกว่าสิ่งที่อาจารย์คิดมันผิด ผมคิดว่าน่าจะเป็นเช่นนี้ อาจารย์เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย อาจารย์พิจารณา เป็นต้น ผมเป็นคนแก่ที่ไม่ได้มองเด็กว่าก้าวร้าว แต่ผมเห็นว่าประโยชน์ที่เด็กคอยเสนอนั้นคือประโยชน์ของส่วนรวม ผมไม่เคยคิดว่า สิ่งนี้จะทำให้เด็กกลายเป็นคนที่ก้าวร้าวต่อตัวเอง หรือคอยมาทับถมความคิดของผม แต่กลับกัน ผมกลับศรัทธาต่อความคิดเหล่านี้”

“การบริหารจัดการวัดของผมจึงยิ่งใหญ่และงดงาม เด็กรุ่นใหม่ของผมขึ้นครองอํานาจทั้งหมด คุณรู้ไว้เลยว่าที่วัดผมไม่มีคนแก่ และคนแก่กลายเป็นที่ปรึกษาหมด คนหนุ่มได้มีโอกาสเติบโตก้าวหน้าหมด ทั้งหัวหน้าฝ่ายทุกฝ่าย นี่คือสิ่งที่ผมใช้คนรุ่นใหม่ในการคิดริเริ่มสิ่งใหม่ๆ ดังนั้น ผมจึงศรัทธาสิ่งนี้มากกว่า ผมเป็นคนไม่เชื่อในอายุ แต่ผมเชื่อในความคิดของทุกคน และมองทุกคนคือ ‘คนเท่าเทียมกัน’ ไม่ใช่คิดว่าคนนี้เป็นคนแก่แล้วคนรุ่นใหม่จะต้องเชื่อฟัง ผมไม่มีความคิดอย่างงั้น ถ้าคิดแบบนั้นแล้วคุณจะเจริญได้อย่างไร?”

“ดังนั้น ในการประชุมของผม คนกว่า 145 คน เด็กรุ่นใหม่ อายุ 20 กว่าปี สามารถยกมือแล้วสวนทางกับคนอายุ 60 ปีได้แบบเสรีภาพ แล้วความคิดของเขาจึงนําเสนอมาสู่สิ่งที่ดีที่สุดให้แก่วัดมากกว่าผม ผมจึงขอบอกว่าพวกเขาเก่งกว่าผม ณ เวลานี้”

“ผมรู้สึกดีใจที่พวกเขาคิดได้ดีกว่า แล้วผลลัพธ์ที่ออกมาก็ทําได้ดีอีกด้วย โดยตอนนี้ผมได้วางมือกับ ‘วัดร่องขุ่น’ ทั้งหมด เพราะผมต้องการให้อิสรภาพทางความคิดพวกเขา ต่อยอดจากความคิดที่ยอดเยี่ยมของผม ไปสู่ความคิดที่ยอดเยี่ยมยิ่งกว่า แต่ถ้าพวกเขาใช้ความคิดของผมที่ยอดเยี่ยมตลอดเวลา ความคิดของผมก็จะ ‘ล้าสมัย’ ไปในที่สุด ผมรู้ตัวเองดีว่า วันเวลาของผมจะล้าสมัย ผมต้องสร้างคนรุ่นใหม่ และความใหม่ๆ ให้เกิดขึ้น เมื่อผมอายุ 50 ปี ผมได้ใช้เวลาทั้งหมด 15 ปีในการสร้างคน เพื่อต่อยอดสมองอันบัดซบของผม ความงี่เง่าของผม สมองแก่ ๆ ของผมจะจบลงแล้ว… ดังนั้น ผมต้องการ ‘สร้างสมองใหม่’ ขึ้นมา”

“ณ เวลานี้ สมองของผมใช้ไม่ได้แล้ว สู้เด็กเขาไม่ได้ ดังนั้น ผมจึงต้องยอมรับเลยว่า ผมเป็นคนแก่ที่สู้เด็กไม่ได้ คุณจงยอมรับซะ อย่างเช่นผม ผมยอมรับเลย ผมเป็นนักประชาธิปไตย ผมไม่รู้สึกว่าผมแก่กว่าเขา แต่ผมเห็นว่าเด็กเขาต้องกล้าหาญในการแสดงออก และกล้าแสดงความคิดเห็นออกมา ความคิดเห็นของเขาคือ ‘ความร่วมสมัย’ คุณจําไว้เลยว่านั่นคือสิ่งที่จะทําให้ชาติเติบโตต่อไปได้”


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top