Thursday, 8 May 2025
NewsFeed

48 สาขา และตัวแทนอีสาน ออกแถลงการณ์หนุนอภิสิทธิ์ฯ เป็นหัวหน้า ปชป. ร่วมสร้างเอกภาพจากบุคลากรทุกรุ่น หวังเรียกความเชื่อมั่นจากประชาชน

วันนี้ (4 ก.ค. 66) ที่จังหวัดขอนแก่น ภายหลังการประชุมหารือร่วมกันของสาขาและตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ(อีสาน) ทั้ง 48 แห่งได้แสดงจุดยืนเพื่อสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้เป็นหัวหน้าฯ 

ตามที่พรรคประชาธิปัตย์ จะมีการประชุมเพื่อเลือกหัวหน้า และคณะกรรมการบริหาร พรรคชุดใหม่ ในวันที่ 9 ก.ค. 2566 แทนชุดเดิม ซึ่งได้หมดวาระลงนั้น

พวกเราในฐานะสาขาและตัวแทนพรรคในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ(อีสาน)ได้ร่วมกัน แลกเปลี่ยนความคิดและประมวลความคิดเห็นข้อเสนอแนะจากสมาชิกในระดับต่างๆซึ่งมี ข้อสรุปที่สอดคล้องกันว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นสถาบันทางการเมืองที่มีบทบาทอย่างสําคัญ ต่อการปกครองประเทศในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ที่ประชาชนจะสามารถยึดเหนี่ยวได้ ดังนั้นการเลือกกรรมการบริหารพรรค โดยเฉพาะตําแหน่งหัวหน้าพรรค ที่ต้องทําหน้าที่นำพาองค์กรเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนทั้งประเทศ จึงมีความสําคัญ และจําเป็นที่จะต้องได้บุคคลที่มีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์ และ มีหลักคิดที่จะสร้างประโยชน์สูงสุดให้กับประเทศชาติ และประชาชนได้ 

พวกเราจึงมีมติร่วมกันเพื่อนําเสนอต่อพรรคและเพื่อนสมาชิกทั่วประเทศดังนี้ 
1. พวกเราขอสนับสนุน นาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค และอดีตนายกรัฐมนตรีให้ทําหน้าที่หัวหน้าพรรคเพื่อนําพาองค์กรที่ได้ชื่อว่าเป็นสถาบันทางการเมืองแหง่นี้ ให้เกิดศรัทธา และความเชื่อมั่นที่ประชาชนสามารถยึดเหนี่ยวเพื่อรักษาระบอบการปกครอง ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ต่อไป

2. พวกเราเห็นว่าบุคลากรทุกองค์ประกอบของพรรค ต่างมีคุณค่าตามสถานภาพและความรับผิดชอบจึงอยากเห็นความสามัคคีและความเป็นเอกภาพเพื่อร่วมกันพัฒนาองค์กร แห่งนี้ให้เป็นที่พึ่งหวังของประชาชนได้

3. พวกเราขอสนับสนุนท้ังอุดมการณ์ และประสบการณ์ของบุคลากรรุ่นเก่า และผสม ผสานกับบุคลากรรุ่นใหม่ ที่จะเข้ามาสืบทอดเจตนารมณ์ และอุดมการณ์ เพื่อความยั่งยืนของ พรรคประชาธิปัตย์ ที่ถือเป็นสถาบันทางการเมืองของประเทศต่อไป

จึงเรียนมาเพื่อแสดงจุดยืนของ สาขาพรรค ตัวแทนพรรค และพี่น้องประชาชน ท้ังที่เป็น และไม่ไ่ด้เป็นสมาชิกพรรคจากพื้นที่ภาคตตะวันออกเฉียงเหนือ(อีสาน)และขอเชิญชวนพี่น้องชาวประชาธิปัตย์ทุกท่านทั่วประเทศร่วมสืบทอดเจตนารมณ์ร่วมกัน

ด้วยจิตคารวะ สาขา และ ตัวแทนจังหวัดภาคอีสาน ทั้ง 48 แห่ง ที่ประสานงานเบื้องต้น(ตามรายชื่อที่ปรากฏในแถลงการณ์) 

นายปรีชา สถิตเรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา

‘แอนนา’ เล่าชีวิตในคุกของ ‘นารา เครปกะเทย’ เผย “ทุกวันนี้แทบไม่มีกิน เพื่อนก็หายหมด”

(5 ก.ค. 66) หลังจากมีประเด็นสุดร้อนแรงของอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังอย่าง ‘แอนนา’ หรือ แอนนา ทีวีพูล ในประเด็นของกล่องทอง กล่องสุ่ม ที่เหล่าผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความ ทั้งนี้ด้านเจ้าตัวก็ได้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาพร้อมทั้งมีการให้สัมภาษณ์ชี้แจงเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวไปเป็นที่เรียบร้อย และล่าสุดเจ้าตัวได้ออกมาไลฟ์สดขายของอีกครั้ง ซึ่งในช่วงหนึ่งของไลฟ์สดเจ้าตัวได้เล่าชีวิตของ นารา เครปกะเทย ที่ตอนนี้ติดคุก โดยเจ้าตัวได้เผยว่า

“มีคนบอกแอนนา เพื่อนนารา จะบอกเลยนะ นาราตอนนี้อยู่ในคุกไม่มีกินเลยนะ เพื่อนหายหมด ไม่มีคนไปหาหรือไปเยี่ยมเลย เหลือแค่คนสองคนที่ยังไปเยี่ยม” พร้อมเผยต่อว่า “วันก่อนนาราได้ฝากจดหมายออกมาฝากให้แอนนา บอกว่า แม่หนูขอสบู่ ขอยาสระผม”

‘คธอ.-ETDA’ เสนอเพิ่มมาตรการดูแลธุรกิจแพลตฟอร์มดิจิทัล พร้อมช่องทางในการให้ข้อมูล รองรับผู้ประกอบการออนไลน์

(5 ก.ค. 66) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้หารือกับผู้ประกอบการธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัล E-Marketplace ได้แก่ Lazada, AirAsia Super App, Noc Noc, และ Shopee เข้าร่วมการประชุมทำความเข้าใจ สร้างการรับรู้ ถึงความสำคัญของ พ.ร.ฎ.การประกอบธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ต้องแจ้งให้ทราบ พ.ศ. 2565

โดย นายชัยวุฒิ กล่าวว่า จากที่ พ.ร.ฎ.การประกอบธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ต้องแจ้งให้ทราบ ได้ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2565 และจะมีผลใช้บังคับในวันที่ 21 สิงหาคม 2566 ซึ่งเป็นกฎหมายที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (คธอ.) และ ETDA ได้เสนอให้มีการควบคุมดูแลธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัล ภายใต้มาตรา 32 พ.ร.บ.ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยใช้กลไกการกำกับดูแลในระดับการแจ้งให้ทราบ กฎหมายนี้เป็นกฎเกณฑ์กลางในการควบคุมดูแลบริการแพลตฟอร์มดิจิทัล โดยผู้ประกอบธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัล มีหน้าที่แจ้งให้ ETDA ทราบก่อน การประกอบธุรกิจ และหากเป็นผู้ประกอบธุรกิจซึ่งประกอบธุรกิจอยู่นอกราชอาณาจักร แต่ให้บริการแก่ผู้ใช้บริการในราชอาณาจักร จะต้องแต่งตั้งผู้ประสานงานในราชอาณาจักรด้วย โดยมีการกำหนดหน้าที่ให้เหมาะสมกับลักษณะการให้บริการ และผลกระทบที่อาจเกิดจากการให้บริการ

นอกจากนี้ ยังกำหนดให้ ETDA จัดให้มีช่องทางการรับเรื่องร้องเรียนกลางที่เกิดจากการให้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัล รวมทั้งมีหน้าที่ในการส่งเสริมให้ผู้ประกอบธุรกิจมีการจัดทำแนวปฏิบัติที่ดี (Best-practice) หรือมีกลไกการกำกับดูแลตนเอง (Self-regulation) ที่เหมาะสม อีกทั้งเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบธุรกิจ กฎหมายนี้ยังกำหนดให้มีการตั้งคณะกรรมการร่วมเพื่อเป็นกลไกการทำงานร่วมกัน ลดความซ้ำซ้อน และเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมายด้วย สำหรับแผนการรองรับผู้ประกอบธุรกิจที่ได้ให้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัล อยู่ก่อนแล้ว ให้แจ้งการประกอบธุรกิจต่อ ETDA ภายใน 90 วัน นับแต่วันที่กฎหมายนี้บังคับใช้ หรือภายในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2566

โดยทาง ETDA อยู่ในระหว่างการจัดทำร่างคู่มือการพิสูจน์และยืนยันตัวตน เพื่อลงทะเบียนเป็นผู้ใช้บริการ เพื่อเป็นการส่งเสริมให้เกิดกลไก self-regulate ของผู้ประกอบธุรกิจ ซึ่งจะเน้นสำหรับบริการ Social Media และ e-Commerce ก่อน เพื่อประโยชน์ด้านการคุ้มครองผู้บริโภค (ลดการฉ้อโกงออนไลน์) และการดำเนินคดี (ระบุตัวผู้กระทำความผิด) และอยู่ในระหว่างการขยายขอบเขตให้ครอบคลุมมากขึ้น โดยเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2566 ETDA ได้จัดงานรับฟังความคิดเห็นต่อร่างคู่มือการพิสูจน์และยืนยันตัวตนเพื่อลงทะเบียนเป็นผู้ใช้บริการ และเปิดรับฟังความคิดเห็นในระบบกลางทางกฎหมายจนถึงวันที่ 26 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา

ETDA ในฐานะ Co-Creation Regulator ได้เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นตลอดจนข้อเสนอแนะต่อ กฎหมายลําดับรอง ภายใต้ พ.ร.ฎ.การประกอบธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ต้องแจ้งให้ทราบ มาอย่างต่อเนื่อง การรับความความคิดเห็นครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย จากนั้น ETDA จะเปิดเวทีชี้แจ้งและสรุปภาพรวมของกฎหมายลําดับรองทั้ง 9 ฉบับ ที่เปิดรับฟังความคิดเห็นในระยะแรกนี้ต่อสาธารณะอีกครั้ง ในวันที่ 20 กรกฎาคม 2566 ผ่านทางระบบออนไลน์ เพื่อให้ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มและผู้ที่สนใจได้ทําความเข้าใจภาพรวมของกฎหมายร่วมกันอีกครั้ง

และก่อนที่ พ.ร.ฎ.การประกอบธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ต้องแจ้งให้ทราบ จะมีผลใช้บังคับในเดือนหน้านี้ เพื่อเป็นการปิดข้อสงสัยและให้เกิดความชัดเจนในข้อปฏิบัติภายใต้กฎหมายฉบับดังกล่าว ETDA จึงเปิดระบบ Digital Platform Assessment Tool เพื่อช่วยประเมินเบื้องต้นว่า เป็นบริการที่เข้าข่ายบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลหรือไม่ เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถเตรียมความพร้อมก่อนดําเนินการแจ้งให้ ETDA ทราบ ผ่าน Checklist ออนไลน์ ที่ลิงก์ https://eservice.etda.or.th/dps-assessment

ซึ่งที่ผ่านมามีผู้ให้บริการแพลตฟอร์มรายใหญ่ และรายเล็กเข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง และ ในเร็วๆ นี้เตรียมขยายผลสู่การจัดกิจกรรม Pre-Consultation Checklist ที่จะมีทีมงานคอยให้คําปรึกษา แก่ผู้ให้บริการ เพื่อเตรียมความพร้อมในการจด แจ้งข้อมูลและการปฏิบัติตามกฎหมาย ผ่านทางระบบ e-Meeting โดยจะเริ่มเปิดระบบให้จองนัดประชุม ทางเว็บไซต์ของ ETDA ก่อนเปิดให้บริการให้คําปรึกษาอย่างเป็นทางการในวันที่ 17 กรกฎาคม 2566

นอกจากนี้ ยังเตรียมยกระดับบทบาทของศูนย์ช่วยเหลือและจัดการปัญหาออนไลน์ หรือ 1212 ETDA สู่การเป็นช่องทางกลางในการรับเรื่องร้องเรียนที่เกิดจากการใช้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัลโดยผู้ประกอบการ เพื่อเป็นช่องทางการรับเรื่องร้องเรียนของผู้ใช้บริการ รวมถึงประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย DPS เพื่อให้ผู้ร้องเรียนเข้าถึงกระบวนการดูแลที่เหมาะสมโดยเร็วที่สุด

‘ฟูจิอิ คาเซะ’ นักร้องดังชาวญี่ปุ่น อวดรูปเที่ยวไทยรัวๆ พร้อมบอก “เกินบรรยายความรักที่มีให้เมืองไทย”

(5 ก.ค. 66) ทำเอาแฟนคลับชาวไทยปลื้มปริ่มสุด ๆ หลังนักร้องชื่อดังชาวญี่ปุ่น ‘Fujii Kaze’ หรือ ‘ฟูจิอิ คาเซะ’ ที่แสดงคอนเสิร์ตในไทยเสร็จสิ้นไปเมื่อ 1-2 ก.ค. ที่ผ่านมา และทันทีที่จบงาน Fujii Kaze ได้ไปเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ เช่น วัดพระแก้ว และบริเวณรอบ ๆ กำแพงวัง นอกยังมีภาพที่เขาโพสต์ภาพอย่างสนุกสนานกับรถตุ๊กตุ๊ก รวมถึงใส่กางเกงช้างและกางเกงมวยไทย ที่เป็นหนึ่งในไอเท็มยอดฮิตที่หากชาวต่างชาติมาจะต้องใส่กันทุกคนแน่นอน

โดย Fujii Kaze ได้ลงภาพขณะที่ตัวเขาท่องเที่ยวในเมืองไทย ผ่านทางอินสตราแกรมและเฟซบุ๊กของเขา และเขียนข้อความว่า..

“Asia Tour in Bangkok 🇹🇭
คำพูดไม่สามารถอธิบายความรักของฉันสำหรับประเทศไทย 🙏 words cannot describe my love for Thailand.”

ครม. ไฟเขียว!! เปลี่ยนชื่อ ‘กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม’ เป็น ‘กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม’

(5 ก.ค. 66) นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้เปลี่ยนชื่อ ‘กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม’ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็น ‘กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม’ (Department of Climate Change and Environment) เพื่อให้สอดคล้องกับการปรับปรุงภารกิจของส่วนราชการ เป็นหน่วยงานขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศ รวมทั้ง เห็นชอบการปรับปรุงโครงสร้างการแบ่งส่วนราชการ ของหน่วยงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

นายอนุชา กล่าวว่า จากปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก ส่งผลให้ไทยต้องรับมือกับปัญหาที่ตามมา ทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงได้ทบทวนและปรับปรุงบทบาท ภารกิจ และโครงสร้างหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ให้สอดคล้องกับบริบทด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป

โดยนำภารกิจของกองประสานการจัดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มารวมกับภารกิจของกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม และปรับปรุงหน้าที่ และอำนาจ เปลี่ยนชื่อ “กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม” เป็น “กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม” โดยมีชื่อภาษาอังกฤษว่า Department of Climate Change and Environment

“ผลจากการปรับปรุงหน้าที่ และอำนาจ และเปลี่ยนชื่อ “กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม” เป็น “กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม” เป็นเรื่องที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ ด้านการบริหารราชการแผ่นดิน ทั้งนี้ ไม่มีการตัดโอนงบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ จึงไม่มีผลเป็นการเปลี่ยนแปลงงบประมาณเพิ่มเติม เพิ่มวงเงิน หรือก่อหนี้ผูกพันงบประมาณที่จะเป็นการสร้างความผูกพันต่อคณะรัฐมนตรีชุดต่อไป” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุ

‘หนุ่ม กะลา’ โต้กลับชาวเน็ต ลั่น!! เก็บไว้สอนตัวเองนะ หลังเจอคอมเมนต์ชี้นำแนวทาง ล่าสุดเจ้าตัวลบข้อความทิ้งแล้ว

(5 ก.ค. 66) ประเด็นเดียวโซเชียลไม่ลืม กับปมนอกใจเมียของนักร้อง 'หนุ่ม กะลา' หลังออกมายอมรับว่าคบกับสาวมือที่สามจนทำให้ครอบครัวแตกแยก ซึ่งตอนนี้ศาลได้รับฟ้องคดีเรียบร้อยแล้ว มีการนัดไกล่เกลี่ยในวันที่ 16 สิงหาคม เวลา 09.00 น. 2566 และนัดชี้สองสถานในวันที่ 28 สิงหาคม 2566

ล่าสุดในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์คอมเมนต์ของ 'หนุ่มกะลา' ที่เข้ามาตอบกลับชาวเน็ตที่เข้ามาคอมเมนต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัวของนักร้องหนุ่ม โดยบอกว่า “ว่างจากร้องเพลงก็เข้าวัดสนทนาธรรมกับพระบ้าง เผื่อพระจะได้ชี้แนะนำทางเดินที่ดีและถูกต้อง ไม่ใช่ฟังแต่คนรอบข้างอย่างเดียว”

ด้าน 'หนุ่ม กะลา' ไม่ทน ฟาดกลับคอมเมนต์ดังกล่าวว่า “เก็บไว้สอนตัวเองในช่วงสุดท้ายของชีวิตนะป้า อย่ามาก้าวก่ายในเฟซนี้อีกนะ ที่นี่ส่วนบุคคล” ซึ่งในตอนนี้คอมเมนต์ของเจ้าตัวก็ได้ถูกลบไปเรียบร้อยแล้ว

รู้หรือไม่ประเทศไทยเคยใช้ธงชาติเป็น ‘รูปช้างเผือก’

🔍 กว่าจะมาเป็นธงชาติแบบปัจจุบันนี้ รู้หรือไม่ประเทศไทยเคยใช้ธงชาติเป็น ‘รูปช้างเผือก’ ซึ่งชาวไทยเชื่อกันว่าช้างเผือกเป็นสัตว์คู่บารมีของพระมหากษัตริย์ ช้างเผือกจึงได้รับการยกย่องเสมือนเจ้านาย และเป็นสัตว์ประจำชาติไทย ว่าแต่ช้างไทย อยู่บนธงรัชกาลใดบ้าง? มาดูกันเลย!!

‘พนักงานปั๊ม’ น้ำตาตก!! ลูกค้าชักดาบค่าน้ำมันกว่าครึ่งหมื่น เผย ตนได้ค่าแรงวันละ 300 ไม่พอชดใช้ วอนลูกค้ากลับมาจ่ายเงิน

(5 ก.ค. 66) พ.ต.ท.ชัยทัต แย้มโพธิ์ใช้ รอง.ผกก.(สอบสวน) สภ.ปลวกแดง ได้รับแจ้งความจาก น.ส.ฐิติรัตน์ แซ่เตียว อายุ 23 ปี พนักงานเสมียนปั๊มเชลล์ ที่หมู่ 5 ตำบลแม่น้ำคู้ อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง ได้รับมอบหมายจากเจ้าของปั๊ม ให้มาแจ้งความ ว่าเมื่อวันที่ 5 ก.ค. เวลา 02.00 น. ถูกลูกค้าชาย ขับรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ โตโยต้า วีออส สีดำ ไม่ทราบแผ่นป้ายทะเบียน เข้ามาเติมน้ำมันใส่ถังสำรอง จำนวน 1 ถัง ที่อยู่ท้ายกระโปรงหลังรถ หลังจากเติมเสร็จ บอกว่าจะสแกนจ่ายเงินยอด 5,000.40 บาท พอเด็กปั๊มหันหลัง สุดท้ายก็รีบขึ้นรถ ขับหนีออกไปโดยไม่จ่ายเงิน จึงนำหลักฐานเป็นกล้องวงจรปิด มาแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ร้อยเวรเพื่อให้นำตัวลูกค้าคนดังกล่าวมารับผิดชอบและดำเนินคดีตามกฎหมาย
.
จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดจากผู้เสียหาย พบรถยนต์เก๋งสีดำไม่ทราบยี่ห้อ และเลขทะเบียน ขับเข้ามาเติมน้ำมันที่จุดจ่ายที่ 1 โดยมีชายรูปร่างสูงผอม สวมใส่เสื้อสีเหลือง กางเกงขายาวสีดำ เดินลงจากรถฝั่งคนขับ และเดินมาเปิดท้ายกระโปรงหลัง เพื่อให้พนักงานปั๊มเติมน้ำมันลงในถังสำรอง ที่จัดเตรียมมาหลังจากเติมเสร็จก็ขับออกไป ตามที่ผู้เสียหายได้มาแจ้งความ

นายสมยศ พนักงานปั๊มในคลิป ให้การณ์ว่า ได้มีลูกค้าชายขับรถยนต์เก๋งเข้ายี่ห้อ โตโยต้า วีออส สีดำ จอดที่จุดจ่ายที่แรก บอกตนว่าขอเติมน้ำมัน ดีเซล 5,000 บาท ใส่ถังสำรองด้านหลัง ตนก็เอะใจทำไมรถเก๋งเติมน้ำมันดีเซล ปกติเคยเห็นแต่รถกระบะมาเติม พอตนเติมให้เต็มถัง ลูกค้าก็ไม่จ่ายเงินและก็ขับหนีไป อยากวอนให้ลูกค้าสงสารตน ช่วยมาจ่ายเงินด้วย เพราะตนโดนทางปั๊มหักเงิน ต้องชดใช้เอง ค่าแรงตนแค่ 300 กว่าบาท กี่วันถึงจะชดใช้หมด

ด้านเจ้าหน้าที่ร้อยเวรรับแจ้งความ พร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิดจากผู้เสียหาย เพื่อดูลักษณะรูปพันสันฐานผู้ก่อเหตุ และประสานชุดสืบตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ เพื่อติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

‘แจ๊บ’ พ่อเลี้ยงฆ่าโบกปูนลูกบุณธรรม ขอ ตร.ยกเลิกทำแผน หวั่นไม่ปลอดภัย เตรียมฝากขังพรุ่งนี้ ลุ้นคัดค้านประกันตัว

(5 ก.ค. 66) จากกรณี น.ส.นิรมล หรือ ‘มิ้นท์’ พรหมคุณ อายุ 30 ปี เดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางเขน ว่า นายยุทธนา หรือ ‘แจ๊บ’ มาดี อายุ 29 ปี สามีของ น.ส.นิรมล ก่อเหตุฆาตกรรมใช้ไม้เบสบอลทุบตี ด.ญ.อริศสา หรือ ‘ใหม่’ (สงวนนามสกุล) อายุ 12 ปี ลูกบุญธรรม ที่รับอุปการะมาจากญาติห่างๆ จนเสียชีวิต ก่อนจับยัดถังพลาสติกโบกปูนทับ เพื่ออำพรางศพ หลังจากนั้น ทั้งคู่ได้เดินทางเพื่อไปสารภาพกับญาติเด็ก แต่ นายยุทธนา ออกอุบายว่า ไปหาเพื่อน ก่อนหลบหนีไป โดยเหตุเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 01.00 น. วันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมา กระทั่งเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมนายยุทธนา ไว้ได้ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (5 ก.ค.) ที่ สน.บางเขน พ.ต.อ.อนันต์ วรสาตร์ ผกก.สน.บางเขน เปิดเผยถึงความคืบหน้าว่า เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหานายยุทธนาใน 2 ข้อหาคือ ทำร้ายร่างกายผู้อื่น เป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย และลอบฝังซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนของศพ เพื่อปิดบังการเกิดการตายหรือเหตุแห่งการตาย ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา และไม่ประสงค์ที่จะทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย

ส่วน น.ส.นิรมล พนักงานสอบสวนกำลังเตรียมแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันลอบฝังซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนของศพ เพื่อปิดบังการเกิดการตายหรือเหตุแห่งการตาย ส่วนประเด็นที่ น.ส.นิรมลทำร้ายผู้ตายจริงหรือไม่ จากการไล่กล้องวงจรปิดเราดูเฉพาะวันเกิดเหตุ และการมาให้ปากคำในช่วงที่ผ่านมา เป็นการให้ปากคำในฐานะพยาน แต่หลังจากที่แจ้งข้อกล่าวหากับ น.ส.นิรมล ตำรวจต้องไปไล่ดูกล้องวงจรปิดทั้งหมด เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน

ส่วนเรื่องที่ผู้ต้องหาอ้างว่าผู้ตายติดการพนัน และขโมยเงินไปเล่นการพนันนั้น ต้องรอการตรวจสอบสวนก่อน ซึ่งผู้ต้องหาให้การแต่เพียงว่า ผู้ตายมักจะขโมยเงิน และสินค้าอยู่บ่อยครั้ง ทำให้ น.ส.นิรมลต้องรับผิดชอบลูกค้า ในฐานะที่เป็นบริษัทแพ็คของส่ง ซึ่งครั้งนี้มีการขโมยเงินจำนวนมากถึงหลักหมื่น

อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้ (6 ก.ค.) พนักงานสอบสวน สน.บางเขน จะนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังที่ศาลอาญารัชดา ส่วนจะคัดค้านการประกันตัวหรือไม่ ให้อยู่ในดุลยพินิจของพนักงานสอบสวนต่อไป

‘WMO’ เตือนทั่วโลก!! เตรียมรับมือสภาพอากาศผันผวน หลังเกิดปรากฏการณ์ ‘เอลนีโญ’ ส่งผลกระทบร้ายแรงทั่วโลก

(5 ก.ค. 66) องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) ประกาศว่า ปรากฏการณ์ ‘เอลนีโญ’ เกิดขึ้นแล้ว และมีโอกาส 90 เปอร์เซ็นต์ ที่จะดำเนินต่อไปในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 นี้ และจะเพิ่มความเป็นไปได้อย่างมากในการทำให้อุณหภูมิสูงเป็นประวัติการณ์ และเกิดความร้อนรุนแรงยิ่งขึ้นในพื้นที่หลายส่วนของโลก รวมถึงในมหาสมุทร

ทั้งนี้ การประกาศดังกล่าว เป็นการส่งสัญญาณให้รัฐบาลทั่วโลกเตรียมการ และดำเนินการล่วงหน้าในการรับมือกับเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้ว เพื่อจำกัดผลกระทบต่อสุขภาพ ระบบนิเวศ และเศรษฐกิจ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top