Saturday, 24 May 2025
NewsFeed

‘ป้าเขียด นภาพร’ นักแสดงอาวุโสเสียชีวิตแล้ว ในวัย 76 ปี หลังมีโรครุมเร้า มานานนับปี

(7 มี.ค. 66) วงการละครไทยพบกับข่าวเศร้าอีกแล้ว เมื่อเพจ สื่อปราจีนบุรี ได้โพสต์แจ้งข่างการเสียชีวิตของดาราอาวุโส ‘ป้าเขียด นภาพร หงสกุล’ หรือที่แฟนละครเรียกกันติดปากจากบทละครว่า อีตุ่ม ได้เสียชีวิตอย่างสงบที่บ้านพัก ด้วยวัย 76 ปี หลังจากที่รักษาอาการป่วยมานานหลายปี ด้วยหลายโรครุมเร้า

ขณะนี้ทางครอบครัวเตรียมนำศพไปชันสูตรที่ รพ.ก่อนจะนำร่างป้าเขียดมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดสุทธิธรรม(คลองรั้ง)

ป้าเขียด มีใจรักในการแสดงมาตั้งแต่จำความได้ป้าเขียดเริ่มเล่นละครเร่มาตั้งแต่อายุ 2 – 3 ขวบ จากการที่พ่อแม่เป็นนักแสดงละครโบราณ

ป้าเขียด นภาพร เดินทางเข้า กทม. ก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงเต็มตัว โดยใช้วิชาที่สั่งสมมาจากวงดนตรี ละครเร่ มาเป็นนักร้อง เล่นหนังบ้างเป็นครั้งคราว

‘ครม.’ ไฟเขียวเพิ่มค่าตอบแทน อสม.-อสส. จาก 1,000 เป็น 2,000 ต่อเดือน

ครม.ไฟเขียว เพิ่มค่าป่วยการ อสม.-อสส. จากเดือนละ 1,000 บาท เป็น 2,000 บาท เตรียมตั้งคำของบประมาณตั้งแต่ปี 67 คาดใช้งบปีละ 1.3 หมื่นล้าน โวลั่น ภท.พูดแล้วทำ

จากกรณีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เสนอเรื่องเข้าบรรจุวาระการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เรื่องขอเพิ่มค่าตอบแทนอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) จาก 1,000 บาท เพิ่มเป็น 2,000 บาท ของงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2567 นั้น

(7 มี.ค. 66) รายงานข่าวจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) แจ้งว่า ที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบให้เพิ่มค่าป่วยการอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และอาสาสมัครกรุงเทพมหานคร (อสส.) จากเดิมเดือนละ 1,000 บาท เป็น 2,000 บาทต่อคน ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และสำนักอนามัย กรุงเทพมหานครตั้งคำของบประมาณรายจ่ายประจำปี ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2567 เป็นต้นไป  ทั้งนี้ คาดว่าจะใช้งบประมาณในแต่ละปีงบประมาณ จำนวน 13,081 ล้านบาท

โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ได้กล่าวขอบคุณ ครม. ที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของพี่น้อง อสม. และได้อนุมัติการเพิ่มเงินค่าป่วยการในครั้งนี้ให้สอดคล้องกับภารกิจของ อสม. และอสส. ที่เพิ่มขึ้นมีทั้งภารกิจ 9 งานหลัก และภารกิจที่รัฐบาลมอบหมายเพิ่มเติมใน 4 กลุ่มหลัก ได้แก่ 

1.) การคัดกรองเพื่อประเมินสุขภาวะผู้สูงอายุ 9 ด้าน 
2.) สร้างความรอบรู้และให้บริการดูแลสุขภาพตามสภาพปัญหาในแต่ละด้าน 
3.) ประสานภาคีเครือข่ายดูแลผู้สูงอายุให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี ปฏิบัติงานในระยะ Post-Pandemic ของโรคโควิด19 
และ 4.) ติดตามผู้ผ่านการบำบัดยาเสพติดในระบบสมัครใจบำบัด

นายอนุทิน กล่าวว่า อสม.และอสส. ได้รับค่าป่วยการในอัตราปัจจุบันที่ 1,000 บาทต่อเดือนมาตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2561 โดยผู้จะได้รับค่าป่วยการจะต้องเป็น อสม.และ อสส. ที่มีรายชื่อในฐานข้อมูลประวัติของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ มีระยะเวลาปฏิบัติงานที่แน่นอน มีการรายงานผลปฏิบัติงานตามหลักเกณฑ์ ซึ่งปัจจุบันมี อสม. อยู่ 1,075,163 คน และ อสส. 15,000 คน รวม 1,090,163 คน ก่อนจะเสนอ ต่อ ครม. ในครั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้ศึกษาเปรียบเทียมอัตราค่าป่วยการ กับค่าใช้จ่ายของ อสม. ในการปฏิบัติงานแล้วพบว่า ค่าป่วยการที่ได้นั้นต่ำกว่าค่าใช้จ่ายที่ อสม. ได้มาโดยตลอด

ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2023 ขับเคลื่อนแรงบันดาลใจ และสร้างปรากฏการณ์แห่งความทรงจำ

'ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2023' จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 16 ณ สยามคันทรีคลับ โอลด์คอร์ส จังหวัดชลบุรี ระหว่างวันที่ 23-26 กุมภาพันธ์ 2566 ได้กลายเป็น 'ปรากฏการณ์' การต่อสู้ของนักกอล์ฟทั้ง 72 คน รวมถึงนักกอล์ฟไทย 11 คน ที่เชียร์สนุกและบีบหัวใจสำหรับแฟนกอล์ฟในสนามและในจอพีพีทีวี รวมทั้งความสำเร็จของฝ่ายจัดการแข่งขันและพันธมิตรหลัก ได้แก่ 

ฮอนด้า ไอเอ็มจี กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมทั้งการกีฬาแห่งประเทศไทย ร่วมมือกันเพื่อจัดการแข่งขันทัวร์นาเมนต์อันทรงเกียรติที่ช่วยพัฒนากีฬากอล์ฟหญิงในประเทศไทย ซึ่งรวมถึงประโยชน์ต่อภูมิภาค โดยรวม อีกทั้งเป็นที่น่าปลาบปลื้มใจที่การแข่งขันปีนี้มีแฟนกอล์ฟ ทั้งรุ่นจิ๋วที่ผู้ปกครองพามาหาแรงบันดาลใจ รวมทั้งแฟนกอล์ฟรุ่นใหญ่ที่หลั่งไหลเข้าไปชมในสนามมากที่สุดอันดับสอง รองจากการแข่งขันในปี 2013  และรับการกล่าวถึงว่าเป็นหนึ่งในทัวร์นาเมนต์กีฬาที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของประเทศไทย แม้ปิดฉากการแข่งขันเป็นที่เรียบร้อยแต่มีสถิติและข้อมูลที่น่าสนใจในแง่มุมต่างๆ ซึ่งควรค่าแก่การจดจำ

ยอดผู้ชมในสนามมากที่สุดลำดับสอง ตั้งแต่จัดการแข่งขัน ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ เรียกได้ว่าเป็นปรากฏการณ์ 'ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2023 ฟีเวอร์' เมื่อแฟนกอล์ฟทุกเพศ ทุกวัย ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาชมและเชียร์นักกอล์ฟชั้นนำของโลกตั้งแต่เช้าตลอดการแข่งขันทั้ง 4 วัน บรรยากาศในสยามคันทรีคลับ โอลด์คอร์ส เป็นไปอย่างคึกคัก ทั้งเสียงเชียร์ เสียงปรบมือรอบสนามยามนักกอล์ฟหวดวงสวิงการถ่ายภาพและแจกลายเซ็นอย่างใกล้ชิด ส่วนบรรยากาศตามบูทของผู้สนับสนุนก็เต็มไปด้วยการเล่นเกมลุ้นรับของที่ระลึก พร้อมอาหารและเครื่องดื่มซึ่งเป็นภาพความสนุกที่ไม่ได้เห็นมาตั้งแต่ปี 2019 ซึ่งหลังจากผ่านพ้นช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 แฟนกอล์ฟต่างอัดอั้นส่งผลให้ยอดผู้ชมตลอดการแข่งขันทั้งสิ้น 46,879 คน กลายเป็นยอดผู้ชมสูงที่สุดอันดับสองของฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์โดยยอดผู้ชมสูงสุดคือปี 2013 ที่เอรียา จุฑานุกาล ได้รองแชมป์ ซึ่งมียอดผู้ชมกว่า 47,000 คน

ลิเลีย วู ชูถ้วยแชมป์ 'ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์' ในการเข้าร่วมแข่งขันเป็นปีแรก นักกอล์ฟจากสหรัฐอเมริกาเดินทางมาร่วมแข่งขัน 'ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์' เป็นครั้งแรกพร้อมกับรู้สึกขอบคุณที่ฝ่ายจัดการแข่งขันและแฟนกอล์ฟให้การต้อนรับเธออย่างอบอุ่น คว้าแชมป์ในสยามคันทรีคลับ โอลด์คอร์ส พาร์ 72 ด้วยสกอร์รวม 22 อันเดอร์พาร์ 262  (66,70,64,64) สถิติ ทำ 1 อีเกิ้ล 25 เบอร์ดี้ ทำพาร์ได้ 41 ครั้ง และเสีย 5 โบกี้ ตลอดสี่วันของการแข่งขัน 

สกอร์รวมที่เธอทำได้นับเป็นสกอร์ต่ำสุดในการเล่น 72 หลุมของเธอในแอลพีจีเอ ทัวร์นักกอล์ฟวัย 25 ปีสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกอล์ฟที่คว้าแชมป์ 'ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์' ได้ตั้งแต่เข้าร่วมแข่งขันเป็นปีแรก อีกทั้งเป็นแชมป์แรกในปีนี้ของเธอและแชมป์แรกในแอลพีจีเอ ทัวร์ หรือ Rolex First-Time Winner พร้อมกับทำสถิติเงินรางวัลรวมในอาชีพทะลุ 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเธอได้เงินรางวัลในฐานะแชมป์ 255,000 ดอลลาร์สหรัฐ ทำให้มีเงินรางวัลรวมทั้งสิ้น 1,177,769 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนอันดับโลกพุ่งจากอันดับ 21 มารั้งอันดับ 12 ของโลก

ซิม-ณัฐกฤตา วงศ์ทวีลาภ สร้างประวัติศาสตร์ นักกีฬารับเชิญจากการแข่งขันรอบคัดเลือกระดับประเทศ Honda LPGA Thailand 2023 National Qualifiers ที่ขึ้นนำและได้ลุ้นแชมป์เป็นคนแรกของการแข่งขัน  

'ซิม 300' เพิ่งเทิร์นโปรในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วและเพิ่งคว้าทัวร์การ์ดแอลพีจีเอมา เพิ่งมีประสบการณ์เวทีแอลพีจีเอครั้งแรก แต่ฝีมือบวกกับความมุ่งมั่นแรงกล้าที่พร้อมขับเคลื่อนแรงบันดาลใจของตัวเองเพื่อประสบความสำเร็จในอาชีพนักกอล์ฟที่ทำให้ 'ซิม' ชนะ Honda LPGA Thailand 2023 National Qualifiers เข้าร่วมแข่งขันในฐานะนักกอล์ฟรับเชิญ

รุกกี้แอลพีจีเอ ทัวร์ จอมหวดไกล วัย 20 ปี สร้างความฮือฮาตลอดทัวร์นาเมนต์ ทำสกอร์อยู่ในช่วง 60 สามวันแรก (67,65,64) ขึ้นมารั้งตำแหน่งผู้นำหลังจบรอบสาม หวังสร้างประวัติศาสตร์นักกอล์ฟไทยคนที่สองที่คว้าแชมป์ ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ต่อจาก เม-เอรียา จุฑานุกาล   เมื่อต้องเล่นท่ามกลางสภาพลมแรงที่ไม่ถนัดในวันสุดท้าย และความคาดหวังของแฟนกอล์ฟที่แห่มาชมกันแน่นขนัด 'ซิม' พยายามเล่นให้ดีที่สุด เสียงเชียร์ ไทยแลนด์ ไทยแลนด์ดังขึ้นในวินาทีที่ซิมเดินขึ้นมาถึงลูก น่าเสียดายที่สุดท้ายพลาดแชมป์ไปแบบทำแฟนกอล์ฟน้ำตาซึม เพียง 1 สโตรกเท่านั้น ซิม-ณัฐกฤตา เป็นนักกอล์ฟจาก Honda LPGA Thailand 2023 National Qualifiers คนแรกที่ขึ้นนำและจบตำแหน่งสูงสุดคือรองแชมป์ ที่สำคัญทำให้อันดับโลก Rolex Rankings พุ่งทะยานจากอันดับ 470 ขึ้นมาเป็นอันดับ 91 ของโลก และมีโอกาสลุ้นรางวัลดาวรุ่งแห่งปีของแอลพีจีเอ

การแจ้งเกิดแบบเต็มตัวของซิมยังถือเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนรุ่นใหม่เพราะซิมได้พิสูจน์แล้วว่า “ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ หากเรามุ่งมั่นและตั้งใจ”

จีโน่-อาฒยา ฐิติกุล จบใน 10 อันดับแรก ปีที่สามติดต่อกัน อาฒยา ฐิติกุล อดีตมือ 1 ของโลกขวัญใจแฟนกอล์ฟที่เคยคว้ารองแชมป์ปี 2021 ทำสกอร์อยู่ในช่วง 60 ทั้งสี่รอบ คือ 67, 69, 64, 68 จบในอันดับ 3 ของรายการ สกอร์รวม 20 อันเดอร์พาร์ 268 แม้พลาดแชมป์แต่ ”จีโน่” ยังคงทำผลงานอยู่ในมาตรฐานที่ดี จบใน 10 อันดับจากการลงเล่น 3 ปีติดต่อกัน และจบใน 5 อันดับแรกสองครั้งในการเล่นรายการนี้

“การที่มีแฟนกอล์ฟเข้ามาเชียร์ในสนามกันเยอะขนาดนี้นับเป็นสัญญาณที่ดีของวงการกอล์ฟไทย แต่เราก็ยังจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนทั้งจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภาคธุรกิจ รวมถึงแฟนกอล์ฟชาวไทย เพื่อช่วยกันพัฒนาวงการกอล์ฟไทยให้ก้าวไกลมากกว่านี้ ฝีมือนักกอล์ฟไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก ทั้งจากผลงานนักกีฬาไทยที่ไปคว้าแชมป์รายการต่าง ๆ มาแล้วทั่วโลก รวมถึงรายการฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ ตลอดจนผลงานของนักกีฬาหน้าใหม่ ๆ ที่ทำได้อย่างยอดเยี่ยมในการแข่งขันปีนี้ จึงอยากให้ทุกภาพส่วนมาร่วมกันพัฒนาและสนับสนุนกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยกันผลักดันมาตรฐานวงการกีฬากอล์ฟและนักกีฬากอล์ฟของไทยให้เทียบชั้นกับระดับสากลได้ในทุก ๆ ด้านค่ะ” อาฒยา กล่าวยกย่องผลงานของ 'ซิม' และนักกอล์ฟไทยนักกอล์ฟไทยหลังจบการแข่งขัน

สรุปผลงาน จีโน่-อาฒยา ฐิติกุล 'ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์' 
2017    -3,285    อันดับ 37 ร่วม
2019    E,288    อันดับ 54 ร่วม
2021         -21,267      อันดับ 2
2022.        -20,268     อันดับ 8 ร่วม
2023.       -20,268       อันดับ 3

‘หลี่ เฉียง’ จ่อนั่งนายกฯ จีน แทน ‘หลี่ เค่อเฉียง’ เชื่อ!! ‘ผลงาน-แนวคิด’ โดนใจ ‘ท่านผู้นำจีน’

(7 มี.ค. 66) ปักกิ่ง (เอเอฟพี/รอยเตอร์ส/ซีซีทีวี) - จีนเตรียมตั้งนายหลี่ เฉียง ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแทนที่ หลี่ เค่อเฉียง ในการประชุมสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้

สื่อต่างประเทศและสื่อของรัฐบาลจีนรายงานว่า จีนเตรียมแต่งตั้งหลี่ เฉียง วัย 63 ปี คนสนิทของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของจีนอย่างเป็นทางการ แทนที่ หลี่ เค่อเฉียง ในระหว่างการประชุมสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติ หรือเอ็นพีซี ที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ มีข้อมูลว่า นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง ที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านการปฏิรูปตลาด เริ่มถูกจำกัดบทบาท หลังจากที่นายสี จิ้นผิง กระชับอำนาจและเข้ามาจัดการด้านเศรษฐกิจ

ตำรวจ ปส.(NSB) รุกหนักทลาย 4 เครือข่ายใหญ่ จับผู้ต้องหา 14 คน ยึดของกลางไอซ์กว่า 1.2 ตัน ยาบ้า 5.7 ล้านเม็ด และ คีตามีน 300 กิโลกรัม

วันนี้ (7 มี.ค. 66) เวลา 10.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร.(กม)/ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส., พล.ต.ต.คมสิทธิ์ รังไสย์ ผบก.ปส.3, พล.ต.ต.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์  ผบก.ปส.4, พล.ต.ต.พลัฎฐ์ วิเศษสิงห์ ผบก.สกส., เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. และเจ้าหน้าที่ทหาร ร่วมกันแถลงผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ 4 คดี    

หลังขับเคลื่อนนโยบายเร่งด่วนของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. อย่างต่อเนื่องโดยให้ทุกหน่วยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด จากประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ให้เข้าสู่พื้นที่ชั้นในและพื้นที่ชุมชน รวมไปถึงการสืบสวนหาข่าว เพื่อจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติดในทุกระดับ และตัดวงจรการลักลอบลำเลียง ยาเสพติด ที่จะส่งออกไปยังประเทศที่สาม รวมทั้งขยายผลยึดทรัพย์เครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปส.3, บก.ปส.4 และ บก.สกส. สามารถจับกุมผู้ต้องหาและยาเสพติดได้จำนวนมาก
คดีแรก

ก่อนการจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปส.3 ได้รับแจ้งว่ามีเครือข่ายค้ายาเสพติดจะลำเลียงยาเสพติด จำนวนมากจากพื้นที่ จว.ตาก มาส่งให้กับกลุ่มเครือข่ายใน จว.สุพรรณบุรี และวันเดียวกันพบรถกระบะต้องสงสัย 2 คัน จอดอยู่ข้างกันภายในปั๊มเชลล์ สาขาพยุหะคีรี และขับตามกันออกมาไปบน ถ.พหลโยธิน อ.มโนรมย์ จว.ชัยนาท มุ่งหน้า อ.เมือง จว.ชัยนาท ก่อนจะขับมาจอดภายในปั๊มน้ำมันบางจาก สาขาศรีประจันต์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขอตรวจค้นตัวและรถ เบื้องต้นทราบชื่อคือ นายธงชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี และนายเฉลิมชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี  เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ม้ง หมู่บ้านรวมไทยพัฒนา อ.พบพระ จว.ตาก  ค้นรถหมายเลขทะเบียน บต-99XX ตาก พบไอซ์ บรรจุในถุงสุญญากาศห่อด้วยถุงบรรจุชาสีเขียว รวม 1,000 กิโลกรัม,ยาบ้ารวม 1.4 ล้านเม็ด และ คีตามีน  300 กิโลกรัม ถูกซุกซ่อนอยู่บริเวณท้ายกระบะ โดยมี มะเขือ แตงกวา ผักกาดขาว ปกปิดอำพรางมาด้วย ทั้งนี้ ตรวจยึดรถยนต์ที่ใช้ในการก่อเหตุ 2 คัน, ทองรูปพรรณมูลค่า 100,000 บาท และเงินสด  844,000 บาท  

คดีที่ 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สกส.  และ บก.ปส.4  ได้ร่วมกันจับ 5 ผู้ต้องหา คือ นายพรเชษฐ์หรือหมู อายุ 38 ปี, นายกิตติภพหรือกอล์ฟ อายุ 21 ปี, นายภานุมาศ หรือตั้ม อายุ 31 ปี, น.ส.ปรียาภัทร หรือฟ้า ชู อายุ 20 ปี และ นายจิรเมธหรือกว้า อายุ 23 ปี หลังสืบสวนทราบว่ามีกลุ่มเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่ จว.สงขลา จะลำเลียงยาเสพติดจากภาคเหนือ เข้าสู่พื้นที่ภาคกลาง ภาคตะวันตก และทางภาคใต้ เป็นประจำ กระทั่งพบ นายพรเชษฐ์ กับพวก เตรียมนำยาเสพติดจำนวนมากจากพื้นที่ อ.เชียงแสน จว.เชียงราย ไปส่งให้ลูกค้าใน จว.พระนครศรีอยุธยา อีกครั้ง เจ้าหน้าที่จึงจัดกำลังติดตามบนถนนหมายเลข 1 พหลโยธิน ตั้งแต่พื้นที่ อ.เมืองพะเยา-อ.เมืองลำปาง - อ.เถิน - อ.แม่พริก จว.ลำปาง ต่อเนื่อง พื้นที่ อ.เมืองตาก จว.ตาก จนรถยนต์หมายเลขทะเบียน ผน 99xx สงขลา (ซึ่งเป็นรถนำทาง) ขับมาถึงด่านตรวจยาเสพติด สภ.แม่พริก ขณะที่รถหมายเลขทะเบียน งร 71xx เชียงใหม่ (รถลำเลียงยาเสพติด) ได้ขับหลบเข้าไปในรีสอร์ต ริมถนน หมายเลข 1 พหลโยธิน ก่อนเจ้าหน้าที่จะติดตามจับกุมเครือข่ายได้ทั้งหมด ตรวจค้นรถพบยาบ้า ห่อหุ้มด้วยพลาสติกใสมีตัวอักษร “Superdry” และบนหีบห่อประทับตัวเลข '999' จำนวน 600 มัด รวมยาบ้า 1,200,000 เม็ด ถูกซุกซ่อนอยู่ในรถยนต์หมายเลขทะเบียน งร 71xx เชียงใหม่ นอกจากนี้ ยังตรวจยึดรถยนต์ที่ใช้ในการก่อเหตุรวม 2 คัน, โทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง, เงินสด 35,000 บาท, สร้อยคอทองคำ 2 เส้น, แหวนทอง 4 วงและ สร้อยข้อมือ 2 เส้น 

คดีที่ 3 ก่อนการจับกุมเจ้าหน้าที่ ตำรวจ บก.สกส., บก.ขส.ฯ และ กก.1 บก.ทล. (สิงห์บุรี) สืบทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหา มักลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ทางภาคเหนือ เพื่อนำไปส่งลูกค้าทางพื้นที่ภาคกลาง และพื้นที่ใกล้เคียงที่บริเวณริมทางถนนหมายเลข 32 (ถนนสายเอเชีย) ระหว่าง กม. 31 – 32 ต.ขวัญเมือง อ.บางปะหัน จว.พระนครศรีอยุธยา กระทั่งวันที่ 3 มี.ค.66 สามารถจับนายณัฐวุฒิ หรือแฉะ อายุ 33 ปี พบมีคดียาเสพติด 2 คดี, นายสุรัต หรือขาว อายุ 46 ปี และ นายรังสี หรือตัน อายุ 44 ปี พร้อมยาบ้า 3,000,000 เม็ด และ ไอซ์ 200 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องกระดาษสีน้ำตาลวางอยู่ภายในห้องโดยสารของรถตู้ นอกจากนี้ยังยึดรถ จำนวน 1 คัน ใช้ในการนำทาง/ สำรวจด่านตรวจ และ โทรศัพท์มือถือ 9 เครื่อง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมทำการตรวจยึดของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย 

‘ตรีนุช’ กำชับจัดสอบรับนักเรียน ต้องโปร่งใส-ยุติธรรม ย้ำ! ไม่ต้องกังวล มีที่เพียงพอ สำหรับนักเรียนทุกคน

‘ตรีนุช’ กำชับโรงเรียนแข่งขันสูงจัดสอบโปร่งใส ยุติธรรม ไม่มี ‘แป๊ะเจี๊ยะ’ แลกที่นั่งเรียน ฝากผู้ปกครอง-นักเรียนหากสอบไม่ติดโรงเรียนดัง มั่นใจลูกมีที่เรียนแน่นอน

(7 มี.ค.66) น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ใกล้ถึงช่วงเวลาการรับนักเรียนเข้าเรียน ปีการศึกษา 2566 แล้ว โดยรับสมัครเข้าเรียนชั้น ม.1 วันที่ 11-12 มีนาคม 2566  สอบ/คัดเลือก 25 มีนาคม  2566 ประกาศผลและรายงานตัว 29 มีนาคม 2566 มอบตัว 1 เมษายน 2566  ส่วนชั้น ม.4 ที่เปิดสอน ม.ต้น และ ม.ปลาย นักเรียนที่จบชั้น ม.3 โรงเรียนเดิม สมัครเข้าเรียนตามที่โรงเรียนกำหนด ประกาศผลและรายงานตัวตามที่โรงเรียนเดิมกำหนด  มอบตัว 2 เม.ย. สมัครสอบคัดเลือก (นักเรียนที่จบ ม.3)จากโรงเรียนอื่น และโรงเรียนเดิม วันที่ 11-15 มีนาคม สอบ/คัดเลือก 26 มีนาคม ประกาศผลและรายงานตัว 30 มีนาคม มอบตัว 2 เมษายน และโรงเรียนที่เปิดสอนเฉพาะ ม.ปลาย (ยกเว้นโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา) รับสมัคร 11-15 มีนาคม สอบ/คัดเลือก 26 มีนาคม  ประกาศผลและรายงานตัว 30 มีนาคม มอบตัว 2 เมษายน  2566 

“ตนได้กำชับ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ให้ดูแลการรับนักเรียน ปีการศึกษา 2566 ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยเฉพาะกลุ่มโรงเรียนแข่งขันสูงที่มีกว่า 200 แห่งทั่วประเทศ ให้โรงเรียนจัดขบวนการจัดสอบด้วยความโปร่งใส ยุติธรรม ไม่มีการใช้เงินแลกที่นั่งเรียน  และหากมีการร้องเรียนมา ศธ.ก็จะดำเนินการตรวจสอบ หากพบใครทำผิดก็จะดำเนินการตามระเบียบขั้นสูงสูด” น.ส.ตรีนุช กล่าว

‘ก้าวไกล’ โวย อดีต ผบ.ทอ. นำ F-16 บินไว้อาลัยพ่อ ลั่น!! ผิดหวังคำชี้แจงของ ‘ทอ.’ เหตุอ้างความกตัญญู

(7 มี.ค. 66) ร.ท.ธนเดช เพ็งสุข ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตลาดพร้าว พรรคก้าวไกล กล่าวถึงคำชี้แจงจากกองทัพอากาศ กรณีอดีตผู้บัญชาการกองทัพอากาศ (ผบ.ทอ.) นำเครื่องบินขับไล่ F-16 บินร่วมไว้อาลัยในพิธีลอยอังคารบิดาตนเองที่เสียชีวิต ซึ่งได้ยื่นเอกสารคำชี้แจงมาเพิ่มเติมในชั้น กรรมาธิการ (กมธ.) การทหารของสภาผู้แทนราษฎรมาเมื่อไม่นานมานี้

จากเอกสารที่มีการเปิดเผยนั้น มีสาระสำคัญอยู่ที่กองทัพอากาศ ยืนยันว่าการปฏิบัติดังกล่าว เป็นภารกิจฝึกบินของกองทัพ ที่ปฏิบัติการร่วมกับเรือหลวงบางปะกง ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว ที่สำคัญคือ เป็นการบินเพื่อแสดงความรักความกตัญญู แก่ผู้มีคุณูปการต่อกองทัพ มีคุณค่าทางจิตใจที่ไม่อาจจับต้องได้

ร.ท.ธนเดช ระบุว่า การชี้แจงของกองทัพอากาศเช่นนี้ ยิ่งทำให้ตนรู้สึกผิดหวังกับข้ออ้างที่ไม่สมเหตุสมผล คล้ายกำลังจะบอกว่า พิธีลอยอังคารเป็นส่วนหนึ่งของการฝึก เป็นการสอดแทรกเข้ามาอย่างนั้นหรือไม่ ยิ่งบอกว่าเป็นการฝึกร่วมกับเรือหลวงบางปะกงแล้ว เห็นทีคงจะต้องให้ฝั่งกองทัพเรือได้ออกมาชี้แจงด้วยเช่นกัน

ผบ.ตร. ชื่นชม หนุ่มไรเดอร์ พลเมืองดี ทิ้งรถจยย.วิ่งเข้าช่วยเหลือเด็กน้อย ก่อนจะถูกรถเฉี่ยวชน จนรอดหวุดหวิด ยกย่องตามโครงการ “ทำดีมีรางวัล” เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีแก่สังคม

วันนี้ 7 มี.ค.2566 เวลา 11.30 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้มอบรางวัลโครงการ “ทำดี มีรางวัล” แก่พลเมืองดี หนุ่มไรเดอร์ นายพีรพงศ์ ชุมพลวดี อายุ 31 ปี ที่โดดลงจากรถจักรยานยนต์ วิ่งเข้าช่วยเด็กน้อยที่กำลังวิ่งออกถนน โชคดีช่วยได้ทันก่อนที่รถยนต์จะขับผ่านไป ปลอดภัยทั้งคู่รอดหวุดหวิด เมื่อวันที่ 5 มีนาคม ที่ผ่านมา 

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ กล่าวว่า จากเหตุการณ์เมื่อวันที่  5 มีนาคม พ.ศ.2566 เวลาประมาณ 15.00 น. บริเวณริมถนนพระองค์เจ้าสาย ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ขณะที่ นายพีรพงศ์ ชุมพลวดี พลเมืองดี ซึ่งมีอาชีพเป็นไรเดอร์ ได้ไปรับอาหารในหมู่บ้านแห่งหนึ่งตรงจุดที่เกิดเหตุ ได้สังเกตเห็นเด็กกำลังวิ่งออกจากหมู่บ้านข้ามถนนไปหาผู้ชายคนหนึ่ง ที่อยู่บริเวณเกาะกลางถนน ซึ่งเด็กวิ่งพุ่งตัวออกมาด้วยความเร็ว 

นายพีรพงศ์ฯ จึงตัดสินใจทิ้งรถจักรยานยนต์ พร้อมกล่องใส่อาหารท้ายรถลงพื้น และรีบวิ่งไปคว้าตัวเด็กไว้ได้ ก่อนที่จะมีรถยนต์ขับมาด้วยความเร็ว รอดจากการเกิดอุบัติเหตุได้อย่างหวุดหวิด เหตุการณ์ดังกล่าวได้ปรากฏตามคลิปวีดีโอ ซึ่งถูกส่งต่อแพร่หลายในสังคมออนไลน์ สร้างความประทับใจ และได้รับความชื่นชมจากสังคม เป็นอย่างมาก

‘ศุภณัฐ’ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ก้าวไกล ลงพื้นที่จตุจักร ชูนโยบายพัฒนา ‘คมนาคม-การศึกษา-ปากท้อง’

‘แบงค์’ ศุภณัฐ มีนชัยนันท์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล ป้ายแดง ฟิตจัด ลงพื้นที่ทันทีหลังเปิดตัว ขึ้นรถปราศรัยทั่วเขตจตุจักร ประชาชนตอบรับคึกคัก

ภายหลังจากที่ แบงค์ ศุภณัฐ มีนชัยนันท์ เปิดตัวสวมเสื้อก้าวไกล ประกาศชิงชัย ส.ส.กทม. เขตจตุจักรไปเมื่อวันจันทร์ที่ 6 มี.ค. 66 ที่ผ่านมา วันนี้ 7 มี.ค. 66 แบงค์ ศุภณัฐ พร้อมด้วย พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล, ธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และกรุณพล เทียนสุวรรณ รองโฆษกพรรคก้าวไกล ได้ลงพื้นที่เขตจตุจักรต่อทันที เพื่อแนะนำตัวให้ประชาชนรู้จักให้มากที่สุดก่อนที่จะเข้าสู่โหมดเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง

โดยศุภณัฐ ได้ขึ้นรถแห่ปราศรัยแนะนำตัวเองว่า ตนขอโอกาสมารับใช้พี่น้องประชาชนทุกคนในการเปลี่ยนแปลงประเทศแทนประชาชนทุกคะแนนเสียง ขอขอบคุณทุกกำลังใจที่พี่น้องประชาชนมอบให้

แบงค์ กล่าวว่า ตนทำธุรกิจมาประมาณ 5-6 ปี ด้านอสังหาริมทรัพย์ การก่อสร้าง-การขนส่ง แต่วันนี้รู้สึกทนไม่ไหวแล้วที่ประเทศเราไม่มีการเปลี่ยนแปลงสักที ที่มีรัฐบาลบริหารจัดการไม่ได้เรื่อง นี่เป็นเหตุผลให้ตัดสินใจสมัครเข้ามาทำงานกับพรรคก้าวไกล

อยากไปก็ไป!! ‘บิ๊กป้อม’ ฉุน!! โดนจี้ถามปม ‘สมศักดิ์’ ย้ายซบ พท. เผย ยังไม่ได้คุยกันส่วนตัว แต่ถ้าจะไปก็ไป

(7 มี.ค. 66) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม และรองหัวหน้าพรรค พปชร.และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม และกรรมการบริหารพรรค พปชร. มีข่าวจะย้ายไปอยู่กับพรรคเพื่อไทย ว่า “ไปถามเขาดู”

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า มีข่าวว่าจะไปพรรคเพื่อไทย พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ถ้าจะไปก็ไป”

เมื่อถามว่า ได้คุยกับนายสมศักดิ์ เรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ไม่มี ๆ ไม่ตกลง”

เมื่อถามว่า หากนายสมศักดิ์ไม่อยู่ จะกระทบต่อ พปชร.หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวอย่างมีอารมณ์ว่า “ไม่รู้ ไม่ได้เจอกับตน มาถามอะไร ตอบไปตั้งหลายทีแล้ว” 

เมื่อถามถึงกรณีมีภาพพูดคุยกับ หม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล เป็นอย่างไรบ้าง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ก็ตามนั้นแหละ”


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top