Saturday, 24 May 2025
NewsFeed

'ชัยวุฒิ' ถกประเด็นบุหรี่ไฟฟ้า ยัน!! ผลักดันรับรองให้ถูกต้อง  ซัด!! กฎหมายต้องไม่ล้าหลัง ควรสอดคล้องวิถีชีวิต-หลักสากล

สมาคมสื่อ MEDIA ASSOCIATION FOR SOCIETY OFFICE ร่วมกับคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎยะลา เปิดสัมมนาเชิงปฏิบัติการโครงการบุหรี่ไฟฟ้ากับอนาคตของประเทศ พร้อมจัดอบรมในวันนี้ (7 มี.ค.66) ณ ห้องประชุมกานเฉ่า ชั้น ๒ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎยะลา อำเภอเมือง จังหวัดยะลา โดยมี อาจารย์อับดุลฮาลีม อาแด อาจารย์ประจำสาขาการสอนอิสลามศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา เป็นผู้นำบรรยาย และ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม  ร่วมวิดีโอคอล งานสัมมนาเชิงปฏิบัติการโครงการบุหรี่ไฟฟ้ากับอนาคตของประเทศไทย ทั้งนี้มีเยาวชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้กว่า 60 คนเข้าร่วมกิจกรรม 

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า "ผมในนามกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมรู้สึกเป็นเกียรติ และยินดีได้เข้าร่วมพูดคุย โครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ โครงการบุหรี่ไฟฟ้ากับอนาคตของประเทศไทย ซึ่งผมก็ได้ติดตามมามาพอสมควรช่วงที่ตนเองเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีดิจิทัลฯ ในช่วงแรกได้มีการดำเนินคดีกับสิ่งผิดกฎหมายบนออนไลน์ ซึ่งหนึ่งในนั้นมี “บุหรี่ไฟฟ้า” ที่ผิดกฎหมาย พบว่าการจำหน่ายในช่องทางออนไลน์ ตามสื่อ Social เป็นจำนวนมาก

ต่อมาเมื่อตนเองได้ศึกษาประเด็นดังกล่าวและได้มีประชาชนกลุ่มต่าง ๆ เข้าพบเพื่อถกประเด็นดังกล่าวกับตนเองจึงพบว่ามี “ผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า” ในประเทศไทยน่าจะทำให้ถูกกฎหมาย เนื่องจากมีผู้ใช้อยู่เป็นจำนวนมาก โดยมีคนกลุ่มหนึ่งเชื่อว่าปลอดภัยกว่าบุหรี่จริง และจากการพิสูจน์จากต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่พัฒนาแล้ว เช่น ยุโรป, ญี่ปุ่น, สหรัฐอเมริกา เป็นต้น มีการอนุญาตให้บุหรี่ไฟฟ้าถูกฎหมายได้ แต่ในประเทศไทยยังผิดกฎหมาย เป็นเรื่องที่ขัดกับวิถีชีวิตและหลักสากล ทำให้ควบคุมได้ยากมาก คนหันมาสูบบุหรี่ไฟฟ้ากันมากขึ้น โดยเฉพาะคนที่เชื่อว่าบุหรี่มวนอันตรายและไม่อยากสูบบุหรี่จริง และที่สำคัญมีการลักลอบขายกันจนมาก จนคิดว่าเป็นเรื่องที่ ดัดจริต ที่ว่าสูบไม่ได้ แต่ก็เห็นสูบกันกันทั่วไป 

ดังนั้นตนเองจึงอยากเห็นงานเสวนาในครั้งนี้หารือแนวทางผลักดันบุหรี่ไฟฟ้าให้เข้ามาอยู่ในระบบให้ถูกต้องตามกฎหมาย โดยดูว่ามีประเด็นติดขัดเรื่องอะไรบ้าง เพื่อรวบรวมความเห็นจากหลากหลายกลุ่ม ในการพัฒนาเป็นกฎหมายที่คุ้มครองวิถีชีวิตคนไทยต่อไป สุดท้ายนายชัยวุฒิได้เน้นย้ำว่า บุหรี่ไฟฟ้า เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของคนที่คิดว่าปลอดภัยกว่าบุหรี่จริงก็ให้พวกเขาได้ใช้ ซึ่งมีจำกัดทางกฎหมาย ทำให้เราไม่สามารถแก้ปัญหาเปลี่ยนส่วยเป็นภาษีได้ ในขณะที่บุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย แต่เราสูบอย่างอื่นได้มีหลายอย่างที่อันตรายกว่า ทั้งที่บุหรี่ไฟฟ้าปลอดภัยกว่า กลับไม่ให้บริโภค ทางรัฐบาลและผมเองก็เห็นว่าหลายสิ่งหลายอย่างในประเทศไทยมีข้อจำกัด เรื่องกฎหมายที่ล้าสมัย นำมาปฏิบัติจริงไม่ได้ ขัดกับวิถีชีวิตของประชาชน  การสัมมนานี้จะช่วยให้เกิดประเด็นในสังคมที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น 
 

‘รมว.กต.จีน’ ชี้!! สหรัฐฯ สกัดกั้นจีนไม่ได้ช่วยอะไร เตือน หากไม่เหยียบเบรก ระวังพลิกคว่ำ ตกราง

(7 มี.ค. 66) นายฉิน กัง รัฐมนตรีต่างประเทศจีน ซึ่งเป็นอดีตเอกอัครราชทูตจีนประจำสหรัฐอเมริกา ก่อนได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งล่าสุดนี้ กล่าวว่า ความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ เบี่ยงเบนไปอย่างร้ายแรง พร้อมเตือนถึงความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นตามมา

“การสกัดกั้นและปราบปรามจีน ไม่ได้ทำให้สหรัฐฯ ยิ่งใหญ่ และไม่อาจหยุดยั้งการฟื้นคืนพลังกลับขึ้นมาใหม่ของจีนได้” นายฉินกล่าว ระหว่างการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการครั้งแรก ในฐานะรัฐมนตรีต่างประเทศจีนคนใหม่

เมื่อถูกถามว่า ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างจีน-สหรัฐฯ ยังคงเป็นไปได้หรือไม่ ท่ามกลางความแตกต่างที่เพิ่มมากขึ้นระหว่างสองประเทศ นายฉินกล่าวว่า สหรัฐฯ ถือว่าจีนเป็นคู่แข่งหลักและเป็นความท้าทายทางภูมิรัฐศาสตร์ที่มากที่สุด แต่นี่ไม่ต่างจากการติดกระดุมเม็ดแรกผิด

“สหรัฐฯ เรียกร้องให้มีการสร้างแนวป้องกัน แต่สิ่งที่สหรัฐฯ ต้องการจริง ๆ คือ ไม่ต้องการให้จีนตอบโต้ด้วยคำพูดหรือด้วยการกระทำเมื่อถูกยั่วยุ” นายฉินกล่าว โดยอ้างถึงการแสดงความเห็นของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ เมื่อเดือนก่อนที่ว่า สหรัฐฯ จะแข่งขันอย่างเต็มที่กับจีน แต่ไม่ได้จะมองหาความขัดแย้ง

รัฐมนตรีต่างประเทศจีนกล่าวว่า หากสหรัฐฯ ไม่เหยียบเบรก และยังคงร้องคำรามไปตามเส้นทางที่ผิด ราวกั้นเท่าใดก็ไม่สามารถหยุดยั้งไม่ให้ตกรางและเกิดพลิกคว่ำได้ มันจะต้องเกิดความขัดแย้งและการเผชิญหน้า ใครจะเป็นผู้แบกรับหายนะที่จะเกิดขึ้นตามมา

พี่ชาย แต่งหน้าหีบศพน้องสาวด้วยต้นไม้ เสร็จงานแล้วไม่เหลือทิ้ง แจกจ่ายไปปลูกต่อ

พี่ชายวัย 56 ปีตกแต่งหน้าหีบศพน้องสาวด้วยไม้ดอกไม้ประดับ โดยเฉพาะต้นกุหลาบสีแดงที่น้องสาวชอบ เสร็จงานแล้วแจกผู้ที่มาร่วมงานนำไปปลูกต่อเพื่อจะได้ระลึกถึงผู้วายชนม์และไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม มีผู้ที่สนใจจองต้นไม้ไปปลูกต่อจนหมดเกลี้ยงแล้ว

วันนี้ (7 มี.ค.66) ที่วัดท่าพญา หมู่ที่ 4 ต.ท่าพญา อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของ น.ส.สนธยา เรืองดุก อายุ 48 ปี ซึ่งเสียชีวิตเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2566 โดยก่อนตายน้องสาวได้สั่งเสียเอาไว้ว่า ห้ามไม่ให้มีการตกแต่งหน้าหีบศพอย่างสิ้นเปลืองเนื่องจากผู้ตายเป็นคนสมถะและไม่ต้องการให้เป็นภาระของครอบครัวในเรื่องค่าใช้จ่ายที่สิ้นเปลืองโดยไม่จำเป็น แต่เนื่องจากผู้ตายเป็นคนชอบปลูกต้นไม้ โดยเฉพาะต้นกุหลาบ ทำให้นายไสว เรืองดุก อายุ 56 ปีซึ่งเป็นพี่ชายและเป็นคนทำผ้าบาติกขายจึงผุดไอเดียตกแต่งหน้าโลงศพด้วยผ้าบาติกผืนใหญ่ลายดอกแคทลียา ฝีมือของตนจำนวน 1 ผืน ส่วนต้นไม้ได้นำมาจากบ้านส่วนหนึ่ง และหาซื้อตามร้านขายต้นไม้อีกส่วนหนึ่ง ในราคาหลักสิบจำนวน 100 ต้น

โดยเฉพาะดอกกุหลาบสีแดง ซึ่งผู้ตายชอบเป็นชีวิตจิตใจ นายไสว พี่ชายจึงซื้อมาตกแต่งหน้าหีบศพ เพื่อสื่อให้วิญญาณของน้องสาวรับรู้ว่ามีสิ่งสวยงามและต้นไม้ที่รักวางอยู่ข้างหน้า ซึ่งงบประมาณที่ใช้ตกแต่งหน้าหีบศพมีราคาแค่ 2,160 บาทเท่านั้นถูกกว่าการจัดแต่งด้วยดอกไม้สดหรือดอกไม้แห้งที่มีราคาหลักหมื่นเป็นอย่างมาก นอกจากจะช่วยประหยัดงบประมาณแล้วยังเป็นไม้ฟอกอากาศ สร้างสีสันและความสวยงาม ทำให้ผู้พบเห็นมีความสดชื่น เกิดความสบายตา สบายใจขึ้นและยังสามารถลดความเศร้าหมองลงได้มาก
 

ประธานฝ่ายกฎหมาย 'เพื่อไทย' ออกโรงเตือน 'สนธิญา' แจ้งเท็จ 'ยุบพรรค' ส่อคุก 5 ปี เชื่อมีบางพรรคอยู่เบื้องหลัง

(7 มี.ค.66) ชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคและประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย ชี้แจงต่อสื่อมวลชนและประชาชนกรณีที่ปรากฏเป็นข่าวว่านายสนธิญาได้ยื่นคำร้องต่อ กกต. ให้ยุบพรรคเพื่อไทย โดยอ้างสาระของข้อร้องเรียนว่าหัวหน้าพรรคเพื่อไทยกล่าวปราศรัยว่านายวีระศักดิ์ฯ อดีต รมช.คมนาคม และทีม อบจ.และพรรคเพื่อไทยเป็นปรากฎการณ์ใหม่ เป็นกลุ่มเดียวกันเพื่อนำไปสู่แลนด์สไลด์ถือเป็นการกระทำที่ขัดมาตรา 28 มาตรา 29 มาตรา 72 และมาตรา 92 (3) ของ พรป.พรรคการเมือง และกรณีการแต่งตั้งนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นผู้ช่วยหาเสียง เป็นการกระทำที่ขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 258 (2) เนื่องจากนายณัฐวุฒิ ฯ ถูกตัดสิทธิทางการเมืองไปแล้ว ขัดต่อคุณธรรมจริยธรรม

การปราศรัยของหัวหน้าพรรคเมื่อวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมาที่จังหวัดนครราชสีมา เป็นเพียงพูดว่านายวีรศักดิ์ฯ และทีม อบจ. และพรรคเพื่อไทยเป็นกลุ่มเดียวกัน มีความหมายเพียงว่า บุคคลตามที่กล่าวมาเป็นผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทย เพื่อนำไปสู่การแลนด์สไลด์เท่านั้น ไม่ได้มีการกระทำใดที่กลุ่มบุคคลดังกล่าวเข้ามาควบคุม ครอบงำหรือชี้นำการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองของพรรคเพื่อไทยในลักษณะที่จะทำให้พรรคเพื่อไทยและสมาชิกพรรคขาดความเป็นอิสระในการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองแต่อย่างใดซึ่งการที่บุคคลใดจะสนับสนุนพรรคการเมืองใดนั้น ยอมเป็นสิทธิเสรีภาพของบุคคลนั้นที่จะพึงกระทำได้ อันถือเป็นเรื่องปกติธรรมดาในทางการเมือง และพรรคเพื่อไทยก็ไม่ได้มีการกระทำใดที่จะถือเป็นการยินยอมให้บุคคลเหล่านั้นกระทำการในลักษณะเช่นนั้นแต่อย่างใดเช่นกัน

ส่วนกรณีที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ได้ขึ้นเวทีปราศรัยในพื้นที่ต่างๆ นั้น พรรคเพื่อไทย ได้แต่งตั้งให้นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นผู้ช่วยหาเสียงของพรรค และยื่นเอกสารดังกล่าวต่อเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้งไปก่อนหน้านั้นแล้ว แม้นายณัฐวุฒิฯ จะมีลักษณะต้องห้ามมิให้สมัคร ส.ส. หรือดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือเป็นสมาชิกพรรคก็ตาม แต่นายณัฐวุฒิ ฯ ยังคงเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งตามกฎหมายที่จะเป็นผู้ช่วยหาเสียงให้กับพรรคและผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยได้ ตามระเบียบของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ซึ่งกำหนดคุณสมบัติของผู้ช่วยหาเสียงไว้ว่า เป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งเท่านั้น กรณีเช่นนี้พรรคได้ดำเนินการทุกครั้งที่มีการเลือกตั้ง ไม่ว่าการเลือกตั้งระดับชาติและการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น และ กกต.ก็ประกาศรับรองการเลือกตั้งที่ผ่านมา การที่นายสนธิญากล่าวอ้างรัฐธรรมนูญ มาตรา 258 (2) ซึ่งเป็นเรื่องการปฏิรูปประเทศ ไม่ใช่บทบัญญัติที่ห้ามบุคคลกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด จึงเป็นการกล่าวอ้างที่ไม่เป็นสาระ
 

‘แก๊งลักลิง’ โผล่สุโขทัย วางกรงเหล็ก-ถั่วลิสง เป็นกับดัก คาดขายชาวต่างชาติ ทำเมนูพิสดาร-ยาโด๊ปทางเพศ

(7 มี.ค. 66) รายงานข่าวแจ้งว่า ในป่าชุมชนเขตวัดเขานกยูง หมู่ที่ 9 ต.นาขุนไกร อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย ได้มีกลุ่มคนแปลกหน้านำกรงเหล็กขนาดใหญ่ มาวางดักจับลิงแสมที่มีอยู่จำนวนมาก คาดว่าจะลักไปขายให้ชาวต่างชาติ เพื่อทำอาหารเปิบพิสดาร เป็นยาโด๊ปเพิ่มพลังทางเพศ หรือไม่ก็เอาไปเป็นหนูทดลองยา ตามที่กำลังเป็นกระแสอยู่ขณะนี้

นายธนวันต์ อยู่พ่วง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 9 ต.นาขุนไกร เปิดเผยว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ ขณะที่ตนเองกับผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และสมาชิก อบต. กำลังขับรถตระเวนตรวจตราความเรียบร้อยในหมู่บ้านและเขตป่าชุมชน พร้อมกับช่วยชาวบ้านไล่ต้อนลิงที่บุกลงมากินอ้อยในไร่ ให้กลับเข้าไปในป่าด้วยนั้น ระหว่างเดินตามลิงเข้ามาถึงตีนเขาตรงหน้าปากถ้ำ ด้านหลังวัดเขานกยูง ก็เห็นผิดสังเกตเพราะมีเมล็ดถั่วลิสงกับข้าวโพด โปรยทั่วป่าเต็มไปหมด

พอเดินลึกเข้าป่าไปอีก 300 เมตร ก็เจอกรงเหล็กใหญ่ ขนาดกว้าง 4 เมตร ยาว 6 เมตร พร้อมเชือกเส้นยาวผูกมัดกับประตู ไว้คอยกระตุกปิดกรงเหล็ก แล้วในกรงก็ยังมีถั่วลิสงจำนวนมาก วางไว้หลอกล่อลิงให้เข้ามากินด้วย ทั้งนี้ คาดว่าแก๊งขโมยคงจะเห็นมีคนเดินเข้ามา จึงเผ่นหนีทิ้งหลักฐานไปอย่างรวดเร็ว

‘ครม.’ ไฟเขียว ขยายเวลายกเว้นภาษีนิติบุคคล 50% หวังจูงใจเอกชน จ้างงานผู้พ้นโทษเพิ่มอีก 4 ปี

(7 มี.ค. 66) น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.อนุมัติร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ซึ่งเป็นการขยายระยะเวลามาตรการภาษี เพื่อสนับสนุนการจ้างงานผู้พ้นโทษออกไปอีก 4 ปี สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม 2565 แต่ไม่เกินวันที่ 31 ธันวาคม 2568 (4 ปีภาษี) จากเดิมที่สิ้นสุดเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2564 เพื่อเป็นการจูงใจให้ผู้ประกอบการรับผู้พ้นโทษเข้าทำงานอย่างต่อเนื่อง

มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการจ้างงานผู้พ้นโทษนี้ บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่รับผู้พ้นโทษที่ได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำไม่เกิน 3 ปี นับแต่วันที่ได้รับการปล่อยตัวเข้าทำงาน จะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับเงินได้เป็นจำนวนร้อยละ 50 ของรายจ่ายที่ได้จ่ายเป็นค่าใช้จ่ายในการจ้างผู้พ้นโทษเฉพาะที่ไม่เกิน 15,000 บาทต่อคนต่อเดือน สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีเริ่มในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม 2565 แต่ไม่เกินวันที่ 31 ธันวาคม 2568

ตลกจนคนไม่เชื่อ!! ‘แน็ก ชาลี’ ขับเครื่องบินได้ แถมยังเคยมีเครื่องบินส่วนตัว

เริ่มกลับมารับงานพร้อมปรับลุคอีกครั้ง หลังอาหารสัตว์เลี้ยงที่บ้านหมด สำหรับนักแสดงหนุ่มอารมณ์ดี แน็ก – ชาลี ไตรรัตน์ ที่ช่วงนี้ค่อนข้างโด่งดัง และเป็นที่นิยมถูกพูดถึงในโลกโซเชียลอย่างล้นหลาม

อย่างคลิปล่าสุดในไลฟ์ TIKTOK  แน็ก ได้ไปไลฟ์ขายของกับ โฟกัส จีระกุล ใน TikTok ซึ่งในระหว่างไลฟ์ แน็ก ได้เล่าว่า เขาเคยเป็นนักบิน ขับเครื่องบินได้ และเป็นคนชอบเครื่องบิน แถมยังเคยมีเครื่องบินส่วนตัวอีกด้วย

โดยแน็กเล่าว่าถึงจะเรียนไม่จบ แต่เมื่อก่อนชื่นชอบวิชาคณิตฯ มากๆ ตอนเป็นนักบิน เห็นผมตลกแบบนี้แต่ผมชอบเครื่องบินมาก และสามารถขับมันได้ แถมยังมีใบอนุญาตขับเครื่องบิน หรือ (license) ด้วย และเคยมีเครื่องบินเป็นของตัวเองแต่ตอนนี้ขายไปหมดแล้ว ต้องใช้คำว่า 'เคยมี'

แน็ก ย้ำว่า ถึงผมจะไม่เป็นนักบิน แต่ผมก็มีใบอนุญาต ผมมีเครื่องบินส่วนตัวจริงๆ ที่ขับ ผมยังเคยไลฟ์สอนขับเครื่องบินนานถึง 4 ชั่วโมงแต่ชาวเน็ตที่เข้ามาดูเป็นพันคนไม่มีใครเชื่อ มีแต่คนขำบอกว่าผมกำลังเพ้อฝันอยู่ ไม่รู้ขำเพราะอะไร ขอถามหน่อยว่า ผมไม่มีความน่าเชื่อถือของการเป็นนักบิน ขับเครื่องบินได้เหรอ
 

ผิดว่าไปตามผิด!! ศาลสั่งจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา 2 หนุ่มขายปฏิทินเป็ดเหลือง ผิด ม.112

ศาลอาญาตลิ่งชันสั่งจำคุก 2 ปีไม่รอลงอาญา 2 หนุ่มจำหน่ายปฏิทินเป็ดเหลืองหมิ่นเบื้องสูง ก่อนให้ประกัน 2.8 เเสนบาท

วันที่ 7  มีนาคม 2566 ที่ศาลอาญาตลิ่งชัน ถ.เลียบทางรถไฟ ศาลนัดฟังคำพิพากษา คดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.1132/2564 คดีหมายเลขแดง อ.445/2566 ที่พนักงานอัยการ สํานักงานคดีอาญาตลิ่งชัน เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นาย นัท และนาย พิชญ์ (ขอสงวนนามสกุล) เป็นจำเลยที่ 1- 2 ตามลำดับในความผิดฐานหมิ่นสถาบันฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 

โดยพนักงานอัยการระบุฟ้องพฤติการณ์ความผิดสรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 23-31 ธ.ค.63 จำเลยทั้งสองได้บังอาจร่วมกันดูหมิ่นสถาบันฯ ด้วยการร่วมกันจำหน่ายปฏิทินซึ่งมีข้อความและภาพที่เป็นหมิ่นประมาทและดูหมิ่นสถาบันฯ โดยปฏิทินดังกล่าว ได้พิมพ์ข้อความว่า “ปฏิทินพระราชทานรุ่นพิเศษ รวมทุกคำสอนของเรา" และในแต่ละเดือนมีรูปการ์ตูนเป็ดสีเหลือง และข้อความที่ปรากฏตามปฏิทินพระราชทานแบบตั้งโต๊ะ อันเป็นการล่วงละเมิด ล่วงเกิน ดูหมิ่น หมิ่นประมาทสถาบัน โดยจำเลยทั้งสองมีเจตนาทำลายสถาบันฯ ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะและเทิดทูนของประชาชนชาวไทย ทำให้ประชาชนเสื่อมศรัทธา ไม่เคารพต่อสถาบันฯ เหตุเกิดที่แขวงหนองแขม เขตหนองแขม กรุงเทพมหานคร 

การให้ที่ยิ่งใหญ่!! หนุ่มวัย 24 บริจาคอวัยวะสร้างกุศลก่อนลาโลก ชาวเน็ตแห่ชื่นชม หลังญาติเปิดข้อความสั่งเสียสุดท้าย

วันที่ 7 มี.ค.66 สมาชิก TikTok@namtipsanguanwongwijit โพสต์คลิปขณะทีมแพทย์กำลังนำร่างของหลานชายเข้าผ่าตัดเพื่อนำอวัยวะไปบริจาค พร้อมระบุข้อความว่า "ผมชื่อตองคับ อายุ 24 ปี ผมประสบอุบัติเหตุเลือดออกในสมอง ไม่สามารถผ่าตัดได้เนื้อสมองตาย ผมเลยบริจาคอวัยวะของผม หัวใจ ไต ม่านตา 3 อย่างนี้ยังใช้งานได้ดี ถึงผมจะไม่ได้อยู่ใช้มันแล้ว ผมขอส่งต่อให้ผู้ที่ต้องการ ฝากผู้รับดูแลหัวใจหล่อๆของผมด้วยนะคับ #ผมขอออกเดินทางไปก่อนนะคับ บายบายคับ"
 

พลิกโฉมวงการพลังงานไทย!!  ‘ปตท.สผ. – เชฟรอน’ คว้าประมูลปิโตรเลียมอ่าวไทย ครั้งที่ 24 คนไทยได้รับอานิสงส์ ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าถูกลง

(8 มี.ค.66) นายสราวุธ แก้วตาทิพย์ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ได้มีมติอนุมัติให้ บริษัท ปตท.สผ. เอนเนอร์ยี่ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (ปตท.สผ.อีดี) และ บริษัท เชฟรอน ออฟชอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้ชนะการประมูลในการยื่นขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมสำหรับแปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทย ครั้งที่ 24 โดยบริษัท ปตท.สผ. อีดี ได้รับสิทธิเป็นผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิตสำหรับแปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทยหมายเลข G1/65 และ G3/65 ขนาดพื้นที่รวม 19,515.42 ตารางกิโลเมตร และอนุมัติให้บริษัท เชฟรอน ออฟชอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้ได้รับสิทธิเป็นผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิตสำหรับแปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทยหมายเลข G2/65 ขนาดพื้นที่ 15,030.14 ตารางกิโลเมตร

"กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ได้พิจารณาคำขอสิทธิสำหรับแปลงสำรวจปิโตรเลียมดังกล่าว โดยยึดหลักความโปร่งใสและผลประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญ ทั้งจากคุณสมบัติของผู้ขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียม ข้อเสนอทางด้านเทคนิคและผลประโยชน์ตอบแทนรัฐ โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมให้เกิดการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ที่มีศักยภาพ เกิดการสร้างงาน การสร้างรายได้แก่ท้องถิ่น รวมทั้งช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยจะก่อให้เกิดการลงทุนสำรวจและพัฒนาปิโตรเลียมภายในประเทศตลอดช่วงระยะเวลาสำรวจปิโตรเลียม 6 ปี เป็นเงินไม่น้อยกว่า 1,500 ล้านบาท รวมทั้งได้รับผลประโยชน์พิเศษในรูปแบบของค่าตอบแทนการลงนาม เงินอุดหนุนเพื่อการพัฒนาปิโตรเลียมในประเทศไทย และอื่น ๆ เป็นเงินประมาณ 640 ล้านบาท และหากสามารถพัฒนาและผลิตปิโตรเลียมได้ ในเชิงพาณิชย์ ในแปลงสำรวจปิโตรเลียมดังกล่าวก็จะสามารถสร้างรายได้ให้แก่รัฐในรูปแบบของค่าภาคหลวง ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม และส่วนแบ่งจากปิโตรเลียมที่เป็นกำไรด้วย" นายสราวุธ กล่าว

สำหรับการเปลี่ยนผ่านการดำเนินงานแหล่งก๊าซธรรมชาติบงกช (แปลง G2/61) จากระบบสัมปทานสู่ระบบสัญญาแบ่งปันผลผลิตในวันที่ 7-8 มี.ค.66 ซึ่งดำเนินงานโดย ปตท.สผ. อีดี สามารถดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่องทันทีทุกขั้นตอนแบบไร้รอยต่อ และปัญหาใด ๆ และคาดว่าจะสามารถเร่งผลิตก๊าซธรรมชาติให้มากกว่าเป้าหมายของภาครัฐที่ 700 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน เพื่อชดเชยปริมาณการผลิตก๊าซธรรมชาติที่ลดลงของแปลง G1/61 (แหล่งก๊าซธรรมชาติเอราวัณเดิม)

กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติได้เตรียมความพร้อม รองรับการดำเนินงานช่วงเปลี่ยนผ่านของแหล่งก๊าซธรรมชาติบงกช (แปลง G2/6) โดยได้มีการตรวจติดตามสภาพความแข็งแรง ปลอดภัยของสิ่งติดตั้งและทรัพย์สินที่ใช้ในการประกอบกิจการปิโตรเลียมของแปลง G2/61 รวมทั้งได้จัดตั้งวอร์รูม (War Room) เพื่อรองรับการบริหารจัดการสถานการณ์ช่วงเปลี่ยนผ่านในลักษณะบูรณาการ ร่วมกับผู้รับสัมปทานรายเดิม ผู้รับสัญญารายใหม่ และผู้รับซื้อปิโตรเลียม โดยมีผู้บริหารของกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติบัญชาการที่ห้องวอร์รูม รวมทั้งมีทีมเฉพาะกิจภาคสนาม จำนวน 3 ทีม คอยติดตาม ควบคุมสถานการณ์อย่างใกล้ชิดบนแท่นผลิตในทะเลอ่าวไทย โดยประจำที่แท่นผลิตกลางบงกชใต้ แท่นผลิตกลางบงกชเหนือ และเรือกักเก็บก๊าซธรรมชาติเหลวปทุมพาหะ เพื่อตรวจสอบปริมาณการผลิตปิโตรเลียมรอบสุดท้ายในช่วงเวลาก่อนหมดอายุสัมปทาน รวมทั้งวัดปริมาณปิโตรเลียมที่คงค้างในเรือกักเก็บ ก่อนที่จะมีการส่งมอบให้กับผู้รับสัญญารายใหม่อย่างเป็นทางการ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top