Saturday, 24 May 2025
NewsFeed

ส่งเสริมบทบาทสตรี ‘บิ๊กตู่’ หนุนสร้างศักยภาพสตรี สู่พลังขับเคลื่อนพัฒนาประเทศ ย้ำ!! รบ. มุ่งยกระดับบทบาท-ส่งเสริมสิทธิสตรี ให้ครอบคลุมทุกมิติ

นายกฯ ปราศรัยวันสตรีสากล ปี 2566 ย้ำรัฐบาลเล็งเห็นศักยภาพสตรีเป็นพลังขับเคลื่อนพัฒนาประเทศ ยกระดับส่งเสริมบทบาทสตรีให้มีส่วนร่วมเป็นพลังทางสังคม รณรงค์ทุกภาคส่วน ปรับเปลี่ยนเจตคติต่อบทบาทสตรี บนพื้นฐานการเคารพศักดิ์ศรีและคุณค่าความเป็นมนุษย์ 

(8 มี.ค. 66) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวปราศรัยเนื่องในโอกาสวันสตรีสากล ประจำปี 2566 ผ่านสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เนื่องในโอกาสวันสตรีสากล ประจำปี 2566 ที่บรรจบครบรอบอีกวาระหนึ่งในนามของรัฐบาล ขอส่งความระลึกถึงและความปรารถนาดีมายังสตรีไทย และผู้ที่ปฏิบัติงานด้านการพัฒนาสตรีทุกคน ซึ่งองค์การสหประชาชาติได้ประกาศให้วันที่ 8 มีนาคมของทุกปีเป็นวันสตรีสากล เพื่อให้ประเทศสมาชิกทั่วโลกได้ตระหนักถึงคุณค่า ความสำคัญ และการเคารพในศักดิ์ศรี รวมทั้งการพัฒนางานด้านต่าง ๆ เพื่อสร้างความเสมอภาคทางสังคมให้แก่สตรี

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญในการสร้างโอกาสให้แก่ประชาชนทุกกลุ่มทุกช่วงวัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มสตรีซึ่งถือเป็นประชากรที่มีจำนวนมากกว่าครึ่งหนึ่งของประเทศ โดยรัฐบาลได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของสตรีในการเป็นพลังขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศในหลากหลายมิติ จึงได้ยกระดับการส่งเสริมบทบาทสตรีให้สามารถมีส่วนร่วมในการเป็นพลังทางสังคม พร้อมทั้งการรณรงค์ให้ทุกภาคส่วนในสังคมปรับเปลี่ยนเจตคติต่อบทบาทสตรี บนพื้นฐานของการเคารพศักดิ์ศรีและคุณค่าของความเป็นมนุษย์ 

ตำรวจไซเบอร์ เตือนภัย SMS หลอกรับบัตรกำนัล Grab Gifts

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ขอประชาสัมพันธ์เตือนภัยมิจฉาชีพแอบอ้างเป็น Grab ส่งข้อความสั้น (SMS) ไปยังเหยื่อแจ้งว่าเป็นผู้โชคดีได้รับบัตรกำนัลมูลค่าต่างๆ หลอกลวงให้ติดตั้งแอปพลิเคชันควบคุมโทรศัพท์มือถือดูดเงินออกจากบัญชี ดังนี้

พนักงานสอบสวน บช.สอท. ได้รับแจ้งความร้องทุกข์จากผู้เสียหายหลายรายว่า ได้รับข้อความสั้น (SMS) จากมิจฉาชีพที่แอบอ้างเป็น บริษัท Grab แจ้งว่าได้รับบัตรกำนัล Grab Gifts มูลค่า 3,000 บาท พร้อมกับแนบลิงก์ให้ผู้เสียหายกดเพื่อเพิ่มเพื่อนทางแอปพลิเคชันไลน์กับ Grab ปลอม จากนั้นมิจฉาชีพก็จะทำการพูดคุยสนทนากับผู้เสียหายที่หลงเชื่อติดต่อเข้ามา เริ่มจากสอบถามว่าได้รับสิทธิ์มาจากช่องทางใด ขอทราบชื่อนามสกุล และหมายเลขโทรศัพท์ ระหว่างนั้นจะส่งลิงก์ Grab ปลอมให้ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นการหลอกลวงให้ติดตั้งแอปพลิชันปลอม มีการขอสิทธิ์ติดตั้งแอปพลิชันที่ไม่รู้จัก (ไฟล์อาจเป็นอันตราย หรือไฟล์นามสกุล .apk) มีการให้กรอกข้อมูลส่วนบุคคล หลอกให้ตั้งรหัสผ่าน 6 หลัก จำนวนหลายๆ ครั้ง เพื่อหวังให้ผู้เสียหายกรอกรหัสชุดเดียวกันกับรหัสเข้าถึง หรือทำธุรกรรมการเงินของแอปพลิเคชันธนาคารต่างๆ ในโทรศัพท์มือถือ รวมไปถึงขอสิทธิ์ในการควบคุมอุปกรณ์ หรือโทรศัพท์มือถือของเหยื่อ เช่น ดูและควบคุมหน้าจอ ดูและดำเนินการ เป็นต้น โดยในขั้นตอนนี้มิจฉาชีพจะแสร้งหวังดีสอนผู้เสียหายว่าทำอย่างไร หรือในบางครั้งจะโทรไลน์มาบอกวิธีการด้วยตนเอง กระทั่งเมื่อมิจฉาชีพได้สิทธิ์ควบคุมอุปกรณ์หรือโทรศัพท์มือถือแล้ว จะทำการล็อกหน้าจอโทรศัพท์ ทำให้เสมือนโทรศัพท์ค้าง ซึ่งมักจะแสดงข้อความว่า อยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบ ห้ามใช้งานโทรศัพท์มือถือ ทำให้มิจฉาชีพสามารถนำรหัสที่ผู้เสียหายเคยกรอกก่อนหน้านี้ทำการโอนเงินออกจากบัญชีของผู้เสียหายได้ทั้งหมด

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ให้ความสำคัญ และมีความห่วงใยต่อภัยการหลอกลวงผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแอบอ้างเป็นหน่วยงานต่างๆ หลอกลวงให้ประชาชนติดตั้งแอปพลิเคชันปลอมเอาทรัพย์สินของประชาชน สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งรับผิดชอบงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ได้กำชับสั่งการให้หน่วยงานในสังกัดเร่งดำเนินการปราบปรามจับกุมผู้กระทำผิดอย่างจริงจัง และต่อเนื่อง รวมถึงวางมาตรการป้องกันสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ

ที่ผ่านมา กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา
ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้ขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดในโลกออนไลน์ทุกรูปแบบ มุ่งเน้นการสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ

โฆษก บช.สอท. กล่าวอีกว่า การหลอกลวงในรูปแบบดังกล่าว มิจฉาชีพจะปรับเปลี่ยนหมุนเวียนชื่อหน่วยงานไปตามวันเวลา สถานการณ์ในช่วงนั้นๆ สร้างเรื่องมาหลอกลวงประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการได้รับสิทธิ์ต่างๆ การหลอกให้อัปเดตข้อมูล หรือหลอกลวงอย่างไรให้เหยื่อกดลิงก์ติดตั้งแอปพลิเคชันปลอมของหน่วยงานที่แอบอ้างนั้นๆ ที่ผ่านมาก็ปรากฏในหลายๆ กรณี เช่น กรมสรรพากร, กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI), สายการบิน Thai Lion Air, บริษัท ไทยประกันชีวิต, กระทรวงพาณิชย์ และโครงการของรัฐต่างๆ โดยอาศัยความไม่รู้ และความโลภ ของประชาชนเป็นเครื่องมือในการหลอกลวง ใช้ความสมัครใจหลอกลวงเหยื่อให้ติดตั้งแอปพลิเคชันปลอม มีการใช้สัญลักษณ์ของหน่วยงานนั้นๆ ให้มีความน่าเชื่อถือ อย่างไรก็ตามขอฝากไปยังประชาชน ให้ระมัดระวังมีสติอยู่เสมอ รู้เท่าทันกลโกงของมิจฉาชีพ รวมไปถึงฝากแจ้งเตือนไปยังบุคคลใกล้ชิด หรือแจ้งไปยังหน่วยงานของรัฐ หรือหน่วยงานนั้นๆ หากพบเห็นข้อความสั้น (SMS) หรือลิงก์ ในลักษณะดังกล่าวให้ช่วยตรวจสอบ เพื่อลดการตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ  

(เชียงใหม่) พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 ประธานการแถลงผลการจับกุมยาเสพติดรายสำคัญ 

วันพุธที่ 8 มีนาคม 2566 เวลา 10.00 น. ตำรวจภูธรภาค 5 แถลงผลการจับกุมยาเสพติดรายสำคัญ จำนวน 1 คดี  ตรวจยึดยาบ้า 6  ล้านเม็ด ยึดรถยนต์ 3 คัน (สภ.แม่จัน เชียงราย)โดยมี พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 เป็นประธานการแถลงข่าว ณ ใต้ตึก บก.สส.ภ.5 

ตามนโยบายรัฐบาลโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติด ในทุกมิติ  ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์  กิตติประภัสร์ ผบ.ตร., นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน, พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข,พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วย ผบ.ตร. และพล.ท.สุริยะ เอี่ยมสุโร มทภ.๓/ผอ.ศอ.ปส.ชน. ได้รับบัญชานำข้อสั่งการไปสู่การปฏิบัติ

ตำรวจภูธรภาค 5 โดย พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.กฤตธาพล ยี่สาคร, พล.ต.ต.เฉลิมพล จินตรัตน์พล.ต.ต.พฤทธิพงษ์ ประยูรศิริ, พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน, พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี, พล.ต.ต.นพดล กรึงไกร รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.ดุลเดชา อาชวะสมิตระกูล ผบก.ภ.จว.เชียงราย และ พล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5

ฝ่ายทหาร  โดย พล.ต.จรัส ปัญญาดี รอง มทน.3/รอง ผอ.ศอ.ปส.ชน., พล.ต.ศุภฤกษ์ สถาพรผล ผบ.กกล.ผาเมือง ฝ่ายปกครอง  โดย นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผวจ.เชียงราย สำนักงาน ป.ป.ส.ภาค 5  โดย นายอภิกิต ฉ.โรจน์ประเสริฐ  ผอ.ป.ป.ส.ภาค 5 แถลงผลการตรวจยึดยาเสพติดรายสำคัญของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 1   ยาบ้า จำนวน 6,000,000 เม็ด หน่วยที่ตรวจยึด สภ.แม่จัน จว.เชียงราย, ชปส.ภ.จว.เชียงราย, กก.สส.ภ.จว.เชียงราย, ชุดสกัดกั้นและปราบปราม  ยาเสพติดฯ ภ.5, สภ.เวียงแก่น, สภ.เชียงแสน, สภ.เชียงของ จว.เชียงราย, ป.ป.ส., ตชด.327,  ตชด.326, นรข., ทพ.3104 และทพ.31วัน-เดือน-ปี ที่ตรวจยึด 2 มีนาคม 2566 เวลาประมาณ 15.30 น.สถานที่ตรวจยึด บนถนนสาธารณะภายในหมู่บ้านห้วยน้ำราก หมู่ที่ 5 ต.จันจว้า อ.แม่จัน จว.เชียงราย ต่อเนื่อง  จุดผ่อนปรนบ้านแจมป๋อง หมู่ที่ 5 ต.หล่ายงาว อ.เวียงแก่น จว.เชียงราย ของกลาง   1. ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 6,000,000 เม็ด 2. รถยนต์จำนวน 2 คัน

พฤติการณ์แห่งคดีก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจยึดได้ทำการสืบสวนพฤติการณ์เครือข่ายยาเสพติดกลุ่มชาวเขาเผ่าม้ง ซึ่งมีพฤติการณ์ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ อ.แม่ฟ้าหลวง จว.เชียงราย เข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศ โดยใช้เส้นทางผ่านพื้นที่ อ.แม่จัน จว.เชียงราย และ อ.เชียงแสน จว.เชียงราย โดยกลุ่มขบวนการลำเลียงยาเสพติดใช้รถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ ดีแม๊คแคป สีดำ ติดแผ่นป้านทะเบียน 1กน 6*** เชียงใหม่ และรถยนต์กระบะ ยี่ห้อนิสสัน นาวาร่า สีน้ำตาล ติดแผ่นป้ายทะเบียน ผค 7*** เชียงราย เป็นยานพาหนะใช้ในการลำเลียงยาเสพติด เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2566 เวลาประมาณ 12.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจยึดได้รับแจ้งจากสายลับในพื้นที่ อ.แม่ฟ้าหลวง จว.เชียงราย ว่าพบกลุ่มรถยนต์ต้องสงสัยที่ได้แจ้งไว้ทั้ง 2 คัน ขับขี่อยู่ในพื้นที่ อ.แม่ฟ้าหลวง จว.เชียงราย ลักษณะมีพิรุธ จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และผู้บังคับบัญชาได้สั่งการให้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ออกติดตามพฤติการณ์ ปรากฏพบว่ารถยนต์กระบะ ทะเบียน 1กน 6*** เชียงใหม่ และรถยนต์กระบะ ทะเบียน ผค 7*** เชียงราย

ขับขี่วิ่งตามกันเป็นขบวนออกจากพื้นที่ อ.แม่ฟ้าหลวง จว.เชียงราย มุ่งหน้าไปทาง อ.แม่จัน จว.เชียงราย โดยด้านหลังกระบะมีผ้าใบปกคลุม ขับตามกันในลักษณะเป็นกลุ่มขบวนการลำเลียงยาเสพติด มีการใช้ความเร็วและชะลอเป็นระยะ ๆเพื่อเช็คการติดตามของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อรถยนต์ทั้ง 2 คัน ขับมาถึงเขตบ้านห้วยน้ำราก ม.5 ต.จันจว้า อ.แม่จัน จว.เชียงราย รถยนต์กระบะ ทะเบียน ผค 7*** เชียงราย ได้ขับมุ่งตรงไปทาง อ.เชียงแสน จว.เชียงราย เจ้าหน้าที่ชุดตรวจยึดส่วนหนึ่งได้ติดตามไป ส่วนรถยนต์กระบะ ทะเบียน 1กน 6*** เชียงใหม่ ได้กลับรถยนต์แล้วเลี้ยวเข้า ซอย 4 บ้านห้วยน้ำราก ม.5 ต.จันจว้า อ.แม่จัน จว.เชียงราย เมื่อขับมาถึงถนนสายสาธารณะบริเวณสวนยางพารา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจยึดได้ขับรถยนต์ติดตามมาจนทัน พบชายวัยรุ่น 2 คน ได้เปิดประตูรถยนต์ฯ แล้ววิ่งหลบหนีเข้าไปในสวนยางพารา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจยึดจึงได้ติดตามไปแต่ไม่พบตัว เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจยึดจึงได้ทำการตรวจสอบรถยนต์พบกระสอบสีเขียว จำนวน 10 กระสอบ บริเวณในห้องโดยสารรถยนต์ และพบกระสอบสีเขียว จำนวน 20 กระสอบ บริเวณด้านหลังกระบะรถยนต์ รวมทั้งหมด 30 กระสอบ ปรากฏพบว่าเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวนประมาณ 6,000,000 เม็ด

อ้าแขนรับศิษย์เก่า!! ‘อุ๊งอิ๊ง’ เปิดรับ ‘สมศักดิ์-แกนนำกลุ่มสามมิตร’ เข้าพรรค ลั่น!! หากมีเป้าหมายเดียวกัน ยินดีรับ เพื่อให้ประเทศไปต่อ

"อุ๊งอิ๊ง"ดีใจ! ได้ช่วย พท.ปราศรัยโค้งสุดท้าย พร้อมหย่อนบัตรหากเลือกตั้ง 14 พ.ค.จริง แซะ ภท.รบกวนหาข้อมูลเพิ่ม เย้ยก๊อปปี้นโยบายพักหนี้ของตัวเองไม่ได้ เปิดรับศิษย์เก่าเข้าพรรคทุกคน "แพทองธาร"ชี้ครม.เคาะงบผูกพัน 6.8 หมื่นล้าน ต้องจัดการ ชู พท.มีความรู้ความสามารถ-จัดการได้ "ชลน่าน"มั่นใจไม่ห่วงเพราะหาเงินเก่ง

(8 มี.ค. 66) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวกรณีที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่า หากการเลือกตั้งเป็นวันที่ 14 พ.ค.นั้น น.ส.แพองธาร จะดีใจมาก เพราะจะได้คลอดแล้วออกมาช่วยปราศรัยใหญ่ให้พรรค พท.ช่วงโค้งสุดท้าย ว่า ตนมีกำหนดคลอดปลาย เม.ย.ถึงต้น พ.ค.ตนไม่อยากคลอดในวันเลือกตั้ง เพราะจะทำให้ไม่ได้ใช้สิทธิเลือกตั้ง ถ้าหากวันเลือกตั้งเป็น 14 พ.ค.จริงๆ ก็คงดี เพราะตนจะได้มีโอกาสขึ้นปราศรัยใหญ่

เมื่อถามถึงกรณีนายทักษิณกล่าวถึงบัตรสวัสดิการต่างๆ หากพรรค พท.เป็นรัฐบาลจะทำได้มากกว่า 1,000 บาท น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตนมองว่าเป็นความหวัง พรรค พท.มีนโยบายผลักดันเศรษฐกิจภาพรวม ทั้งค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท นโยบายเพื่อเกษตรกร นโยบายที่เราทำเป็นตัวผลักดันภาพรวมเศรษฐกิจ ย้ำว่าเราคิดใหญ่ทำเป็นนโยบายมุ่งหวังให้ประชาชนกินดีอยู่ดีทั้งระบ

เมื่อถามต่อว่า พรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวหาว่าพรรค พท.ก๊อปปี้นโยบายพักหนี้เกษตรกร 3 ปี น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เราไม่สามารถก๊อปปี้นโยบายที่เราริเริ่มได้ ออริจินัลมาจากเรา และอาจจะต้องรบกวนขอให้หาข้อมูลเพิ่ม ทั้งนี้ น.ส.แพทองธาร ได้หัวเราะกับคำตอบของตัวเอง พร้อมกล่าวติดตลกว่า "ไม่ได้ตั้งใจค่ะ"

เมื่อถามถึงกระแสข่าวบิ๊กเนมอย่างกลุ่มของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม และแกนนำกลุ่มสามมิตร จะย้ายมาอยู่กับพรรค พท.นั้น น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ยินดีต้อนรับศิษย์เก่าของพรรคไทยรักไทย (ทรท.) และพรรค พท.ทุกท่าน เพราะเป้าหมายของเราคือพัฒนาประเทศ ใครที่มีเป้าหมายเดียวกันกับเรา เรายินดีต้อนรับเพื่อให้ประเทศไปต่อ ส่วนเรื่องตำแหน่งไม่มีการพูดถึง

ด้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรค กล่าวว่า จากคำให้สัมภาษณ์ของนายสมศักดิ์ ท่านรอ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ตัดสินใจ คาดว่าจะมีการตัดสินใจภายในสัปดาห์นี้ถึงสัปดาห์หน้า แต่ในพรรค พท.เราไม่ได้มีการคุยกัน ขึ้นกับการตัดสินใจของท่าน ทั้งนี้ ส.ส.ในกลุ่มท่านบางคนย้ายมาเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของเราแล้ว

สุดจะทน!! 'กรณ์' จวกรัฐบาล หลังฝุ่น PM2.5 คลุมเมือง ชี้!! ประกาศเป็นวาระแห่งชาติ แต่ไม่มีมาตรการอะไรเลย  

(8 มี.ค.66) นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า ช่วงนี้หลายพื้นที่ของประเทศไทย ฝุ่น P.M 2.5 มาสร้างปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน ทั้งภาคเหนือ ภาคกลาง รวมถึงกรุงเทพมหานคร ปริมาณฝุ่นสูงเกินมาตรฐานส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ส่วนหนึ่งเพราะสภาวะอากาศเย็น หรืออาจจะเป็นฤดูการเพาะปลูก มีการเผาไร่เกษตร ทำให้ปริมาณฝุ่นสูงมากกว่าปกติ และไม่สามารถจะหนีฝุ่นไปไหนได้ ในฐานะนักการเมืองตระหนักว่าเรื่องนี้ไม่มาช่วยกันคิดช่วยกันทำไม่ได้ ตนร่วมรณรงค์เรื่องนี้มาตลอดหลายปีที่ผ่านมา เพราะอย่างน้อยก็เป็นคนหนึ่งที่มีสตางค์ซื้อเครื่องฟอกอากาศให้ตัวเองและครอบครัวได้ แต่อากาศบริสุทธิ์ควรเป็นสิทธิของทุกคน ไม่ควรเป็นอีกเรื่องที่เป็นสิทธิเพียงของใครที่มีเงิน 

นายกรณ์ กล่าวว่า รัฐบาลนี้ประกาศเรื่องฝุ่นเป็น ‘วาระแห่งชาติ’ มาหลายปี แต่ก็ยังไม่เห็นมาตรการที่ส่งผล ตนได้ร่วมรณรงค์และลงชื่อ ‘กฎหมายอากาศสะอาด’ ของประชาชนมาตั้งแต่ 3 ปีก่อน แต่กฎหมายนี้ก็ยังไม่ผ่านการพิจารณาในสภา จนสภาจะหมดวาระแล้วก็เลยยังไม่มีมาตรการที่ชัดเจน สังเกตได้ว่าปัญหาเรื่องฝุ่นจะมีเป็นฤดูกาล ดังนั้นพอสรุปได้ว่าต้นตอปัญหาน่าจะมาจากพฤติกรรมที่เกิดขึ้นตามฤดูกาลเช่นเดียวกัน นั่นหมายความว่าสภาพอากาศจะเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา ภาคอุตสาหกรรม การขนส่ง และพลังงานเป็นแหล่งที่มาของฝุ่น แต่มากกว่านั้นคือการเผาที่การเกษตรในช่วงฤดูการนี้ เราทราบกันดีว่าพฤติกรรมการเผามีเหตุผลและเงื่อนไขจากทางเศรษฐกิจ เราจึงต้องแก้ด้วยตรรกะทางเศรษฐกิจ คือสร้างแรงจูงใจไม่ให้เกิดการเผา

อย่าหลงเชื่อ ขนส่งฯ เตือน!! 100 เพจปลอม อ้างรับทำ ‘ใบขับขี่’ ชี้!! ใครปลอมแปลงเอกสารราชการ มีโทษหนัก

ขนส่งฯ เผย ‘100 เพจปลอม’ หลอกลวง อย่าเชื่อมิจฉาชีพอ้างรับทำ ‘ใบขับขี่’ ได้

(8 มี.ค.66) เพจเฟซบุ๊ก ‘กรมการขนส่งทางบก PR.DLT.News’ เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์ ระบุว่า กรมการขนส่งทางบก เผยรายชื่อเพจมิจฉาชีพทำใบขับขี่ปลอมทางออนไลน์กว่า 100 เพจ สามารถตรวจสอบได้ที่คิวอาร์โค้ดของกรมการขนส่งทางบก เตือน!!! ประชาชนอย่าหลงเชื่อและอย่าโอนเงินโดยเด็ดขาด ย้ำหากพบการปลอมแปลงใบขับขี่หรือแอบอ้างอบรมต่ออายุใบขับขี่แทน จะดำเนินคดีผู้ฝ่าฝืนขั้นสูงสุดทุกราย

นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก และโฆษกกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า กรมการขนส่งทางบกขอเตือนประชาชนที่ต้องการทำธุรกรรมด้านใบขับขี่กับกรมการขนส่งทางบก หลังพบเพจเฟซบุ๊กปลอมรับทำและรับอบรมต่อใบขับขี่ปลอมเป็นจำนวนมาก โดยพฤติกรรมของกลุ่มมิจฉาชีพจะนำรูปตราสัญลักษณ์กรมการขนส่งทางบกมาใส่ในรูปโปรไฟล์ หรือนำรูปภาพของผู้ที่ได้รับใบขับขี่มาแอบอ้าง เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ โดยจะโฆษณาหลอกลวงว่าสามารถออกใบขับขี่โดยไม่ต้องเดินทางไปที่สำนักงานขนส่ง และมีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายในการดำเนินการอยู่ที่ประมาณ 1,000 - 6,000 บาท

เมื่อผู้เสียหายโอนเงินไปแล้วจะเรียกร้องให้โอนเงินเพิ่มอีกและเงียบหาย ไม่สามารถตามคืนได้หรือจะได้รับใบขับขี่ปลอม รวมทั้งยังมีการแอบอ้างในการอบรมต่ออายุใบขับขี่แทน โดยกลุ่มมิจฉาชีพมีพฤติกรรมแอบอ้างว่าจะอบรมต่ออายุใบขับขี่แทนผู้เสียหายและจองคิวให้ผู้เสียหายเข้ามาถ่ายรูปทำใบขับขี่ ณ สำนักงานขนส่ง พร้อมหลอกให้ผู้เสียหายส่งหน้าบัตรใบขับขี่และโอนเงินไปให้ หรือโฆษณาหลอกลวงว่า “ใบขับขี่หมดอายุ ไม่มีเวลาอบรม รับจองคิวพร้อมอบรมต่ออายุใบขับขี่ทุกชนิด เจ้าตัวต้องเข้าไปถ่ายรูปทำบัตรด้วยตนเองที่สำนักงานขนส่ง”

กรมการขนส่งทางบกขอเตือนประชาชนว่าอย่าหลงเชื่อหรือทำธุรกรรมกับเพจเหล่านี้เด็ดขาด!!! จะทำให้สูญเสียทรัพย์สินและเอกสารส่วนบุคคล และเสี่ยงได้รับใบขับขี่ปลอม ซึ่งผู้หลงเชื่อจะมีความผิดฐานปลอมแปลงหรือใช้เอกสารราชการปลอมตามประมวลกฎหมายอาญา มีโทษถึงขั้นจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน – 5 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000 – 100,000 บาท

บุคคลที่แอบอ้างว่าสามารถอบรมต่ออายุใบขับขี่แทนได้ก็เข้าข่ายเป็นการช่วยเหลือ หรือให้ความสะดวกในการที่ผู้อื่นกระทำความผิดก่อนหรือขณะกระทำความผิดซึ่งจะมีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานปลอมแปลง หรือใช้เอกสารราชการปลอมตามประมวลกฎหมายอาญา ต้องระวางโทษสองในสามส่วนของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดที่สนับสนุนนั้น

นอกจากนี้ บุคคลที่จัดทำเพจเฟซบุ๊กปลอมรับทำและรับอบรมต่อใบขับขี่ปลอม ซึ่งถือเป็นการนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ก็จะมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปีหรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวต่อไปว่า กรมการขนส่งทางบกได้ตรวจสอบเพจปลอมที่แอบอ้างรับทำใบขับขี่และติดตามดำเนินการทางกฎหมายในเรื่องดังกล่าวอย่างจริงจังและต่อเนื่อง โดยประชาชนได้มีส่วนร่วมในการแจ้งเรื่องร้องเรียนหรือเบาะแสมายังกรมการขนส่งทางบก และทางกรมฯได้แจ้งความดำเนินคดีไปแล้ว 52 ราย รวมถึงยังพบเพจปลอมมากกว่า 100 เพจ โดยสามารถตรวจสอบได้ที่ https://bit.ly/3YvPwdb หรือ คิวอาร์โค้ด ตามแนบ ทั้งนี้ หากประชาชนท่านใดพบเพจเฟซบุ๊กปลอมขอให้กดรายงานบัญชีหรือเพจเฟซบุ๊ก (report) หรือสามารถแจ้งเบาะแสมายังกรมการขนส่งทางบกได้โดยตรง หรือโทรสายด่วน 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง

รมต.วัฒนธรรมร่วมงาน ITALIA GENIALE พลังสร้างสรรค์แบบอิตาเลียนเปล่งประกายวันนี้ ที่ ไอคอนสยาม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดีไซน์สุดออริจินัล ความงดงาม และความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบอุตสาหกรรมอิตาเลียนซึ่งมีชื่อเสียงก้องโลกเดินทางมาสร้างความประทับใจให้ผู้คนที่เข้าเยี่ยมชมนิทรรศการ ณ เจริญนคร ฮอลล์ ICONSIAM ชั้น M ระหว่างวันที่ 7 - 16 มีนาคม 2566 นี้

ITALIA GENIALE (อิตาเลีย เจนิอาเล่) แปลเป็นภาษาอังกฤษว่า "Brilliantly Italy" หมายถึง “อิตาลีที่เปล่งประกายสุกใส” เป็นกิจกรรมหลักของงาน Italian Design Day ครั้งที่ 7 มหกรรมงานดีไซน์ ที่จัด ขึ้นพร้อมกันทั่วโลกในวันที่ 9 มีนาคมนี้ นิทรรศการน่าตื่นตาตื่นใจชุดนี้เดิมทีสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อจัดแสดงในอิตาเลียนพาวิเลี่ยนที่งาน Expo Dubai 2020 โดยได้รับการ สนับสนุน จากกระทรวงการต่างประเทศอิตาลี กระทรวงอุตสาหกรรมและโครงการ "Made in Italy" คณะกรรมาธิการการค้าอิตาลี (ICE) และสมาคมการ ออกแบบ อุตสาหกรรม (ADI) ทั้งนี้ โดยกรุงเทพมหานครได้รับเลือกเป็นจุดหมายแห่งแรกของการทัวร์เอเชีย

พิธิเปิดนิทรรศการ ITALIA GENIALE จัดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ โดยได้รับเกียรติจาก พณฯเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิตาลีประจำประเทศไทย  มร.เปาโล ดีโอนีซี พร้อมด้วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายอิทธิพล คุณปลื้ม และกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายองค์กรสัมพันธ์ และสื่อสารองค์กรบริษัทสยามพิวรรธน์ นางมยุรี  ชัยพรหมประสิทธิ์ ตัวแทนไอคอนสยาม ร่วมเป็นประธานในพิธี 

ในโอกาสเดียวกัน ได้มีการมอบรางวัลให้กับนักศึกษาของมหาวิทยาลัยศิลปากร ผู้ชนะการประกวดออกแบบโลโก้สำหรับการเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 155 ปีแห่งความ สัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและอิตาลี ในปีนี้

กรมศุลกากรยึดเฮโรอีน ซ่อนในแขนเสื้อ เตรียมส่งออกนอกประเทศ จำนวน 43.40 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 107.5 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2566 เวลา 10.30 น. ณ ศูนย์แถลงข่าว ชั้น 2 อาคาร 1 กรมศุลกากร เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 

ฟื้นคืน ศก.ยุคทอง!! ‘สุวัจน์’ เปิดนโยบาย ‘โคราชโนมิกส์’ พัฒนาภาคอีสาน มั่นใจ!! สร้างความมั่งคั่ง-ยกระดับคุณภาพชีวิต ปชช.

(8 มี.ค. 66) นายเทวัญ ลิปตพัลลภ เลขาธิการพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า ตามที่พรรคชาติพัฒนากล้าได้เปิดตัว นโยบายภาพรวมในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ 12 เรื่องไปแล้ว ภายใต้แนวคิด ‘มีงาน มีเงิน ของไม่แพง’ และได้รับการตอบรับอย่างดีพร้อมข้อเสนอแนะเพิ่มเติมที่เป็นประโยชน์ นโยบายโดนใจพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะนโยบายลดภาษี นโยบายในการสร้างเศรษฐกิจใหม่ นโยบายเพิ่มนักท่องเที่ยว 2 เท่า นโยบายมอเตอร์เวย์ทั่วไทย และนโยบายซ่อมบ้านให้ผู้สูงอายุ

เนื่องจากพรรคชาติพัฒนากล้า มีฐานการเมืองอยู่ที่ภาคอีสานที่จังหวัดนครราชสีมา จึงได้ออกแบบแนวคิดนโยบายเป็นการเฉพาะ ในการสร้างความมั่งคั่งทางด้านเศรษฐกิจและชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ให้กับพี่น้องประชาชนในจังหวัดนครราชสีมาและภาคอีสาน จึงได้เตรียมการจัดงานเปิดตัวนโยบาย ‘Koratnomics’ (โคราชโนมิกส์) ในการพัฒนาอีสานและโคราช ที่จังหวัดนครราชสีมา ในวันเสาร์ที่ 11 มีนาคมนี้ เวลา 9.00 น ถึง 12.00 น. ที่โรงแรมสีมาธานี อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา

รุ่นใหญ่ยิ้มออก สาวใหญ่ใจดี ตัดผมฟรีสำหรับผู้ใหญ่อายุ 70 ปี ขึ้นไป เผย “เคยได้รับโอกาส ขอตอบแทนให้กับชาวบ้านสูงวัย”

ที่ร้านตัดผมชาย-หญิง ในพื้นที่ซอย 6 ต.เมืองการุ้ง อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี ของนางพันธนันท์ จุทส อายุ 52 ปี ได้เปิดตัดฟรีให้กับผู้ที่มีอายุ 70 ปีขึ้น ส่วนคนคนทั่วไปผู้ใหญ่หัวละ 60 บาท เด็กเล็ก 20-40 บาท 

โดยนางพันธนันท์ เจ้าของร้านเปิดเผยถึงเหตุผลที่ตัดผมให้กับผู้ที่อายุ 70 ปีขึ้นไปฟรีทุกคนว่า ก่อนที่ตนจะได้เป็นช่างตัดผมก็ต้องอดทนมามาก โดยได้รับโอกาสจากคนที่สอนเรามากว่าจะได้มีวันนี้ไม่ใช้เรื่องง่าย จึงอยากจะขอตอบแทนให้กับชาวบ้านผู้สูงวัยบ้าง เนื่องจากคนที่มีอายุมากก็ไม่ค่อยจะมีงานทำ รายได้ก็ไม่ค่อยมี ถ้าเทียบกับคนบ้านๆ ตามชนบท พร้อมอยากเห็นรอยยิ้มที่มีความสุขของผู้สูงวัยมากกว่า ที่ไม่ต้องเครียดกับเรื่องค่าใช้จ่ายในการตัดผม ซึ่งเราอาจจะช่วยเขาเรื่องอื่นไม่ได้ แต่เราช่วยตัดผมให้กับเขาได้โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายเลยสักบาท


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top