Saturday, 24 May 2025
NewsFeed

อุ้มบุญมาแรง!! ความต้องการมีทายาทสืบสกุล หนุนธุรกิจ อุ้มบุญทั่วโลก  คาดในปี 75 ตัวเลขโตทะลุ 129,000 ล้านดอลลาร์

ความต้องการผู้สืบสกุลพุ่ง หนุนธุรกิจ ‘อุ้มบุญ’ โลกโตไม่หยุด ขณะปี 2565 อุตสาหกรรมการอุ้มบุญเชิงพาณิชย์ทั่วโลกเติบโตประมาณ 14,000 ล้านดอลลาร์ และคาดการณ์ว่าภายในปี 2575 ธุรกิจนี้จะขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็น 129,000 ล้านดอลลาร์

ล่าสุด ตัวบ่งชี้ว่าตอนนี้ธุรกิจอุ้มบุญ หรือรับจ้างตั้งครรภ์กำลังเฟื่องฟู ผู้หญิงจำนวนมากหันไปทำมาหากินเป็นเรื่องเป็นราวด้วยการรับจ้างอุ้มท้องให้แก่บรรดาคู่สามีภรรยาที่เป็นทั้งคู่สามี-ภรรยาที่เป็นหญิง-ชายปกติ และคู่รักกลุ่ม LGBT ที่ต้องการมีบุตรสืบสกุล

ธุรกิจนี้เติบโตอย่างมากในประเทศต่าง ๆ รวมถึง จอร์เจีย และเม็กซิโกและตอนนี้มีผู้หญิงที่สุขภาพแข็งแรงมากขึ้นหันมารับจ้างตั้งครรภ์ให้ผู้อื่นอย่างเป็นล่ำเป็นสัน เรียกว่าเป็นการอุ้มบุญเชิงพาณิชย์ก็น่าจะได้ เพราะความต้องการสูงมากประกอบกับได้เงินค่าจ้างที่สูงพอตัว  ซึ่งการอุ้มบุญเชิงพาณิชย์นี้จะแตกต่างจากการอุ้มบุญการกุศลที่ผู้อุ้มบุญจะไม่ได้เงินหรือค่าตอบแทนใด ๆ โดยในปี 2565 อุตสาหกรรมการอุ้มบุญเชิงพาณิชย์ทั่วโลกเติบโตประมาณ 14,000 ล้านดอลลาร์ และคาดการณ์ว่าภายในปี 2575 ธุรกิจนี้จะขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็น 129,000  ล้านดอลลาร์     

อย่างกรณีของ ‘ดิลารา’ ซึ่งอาศัยอยู่ในทบิลิซี ประเทศจอร์เจียมานานหลายเดือนและทำงานมาหลายอย่าง ตั้งแต่ช่างทำผม ช่างทำรองเท้าไปจนถึงพนักงานเสิร์ฟแต่มีงานเดียวเท่านั้นที่เธออยากทำนั่นคือการรับจ้างตั้งครรภ์ให้แก่คู่สามี-ภรรยาที่ต้องการลูก   

ดิลารา แม่ม่ายวัย 34 ปีที่ทิ้งลูกสี่คนไว้ให้พ่อแม่เลี้ยงในอุซเบกิสถานเมื่อปีที่แล้วตั้งความหวังไว้มากว่าจะได้งานรับจ้างตั้งครรภ์ให้ประเทศนี้ที่ถือว่าอุตสาหกรรมอุ้มบุญเชิงพาณิชย์เติบโตสูง

“ฉันเป็นหนี้ธนาคารที่เกิดจากการกู้เงินมาใช้จ่ายและฉันมีลูกสี่คนที่ต้องเลี้ยงดู พวกเขาต้องเข้าโรงเรียน คุณก็รู้ว่าทุกอย่างมีค่าใช้จ่ายทั้งนั้น ฉันต้องรับผิดชอบสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด จึงทำให้ฉันอยากเป็นคุณแม่อุ้มบุญ” ดิลารา กล่าว

โดยทั่วไป การอุ้มบุญแบ่งเป็น 2 ประเภทคือ (1) Traditional Surrogacy หมายถึง แม่อุ้มบุญ ที่ตั้งครรภ์โดยการฉีดสเปิร์มไม่ว่าเป็นของสามีคู่นั้นหรือที่ใช้รับบริจาคมาเข้าไปในมดลูก หรือผสมไข่ของแม่อุ้มบุญกับสเปิร์มในหลอดแก้วก่อนที่จะฉีดเข้าไปในมดลูก ลูกที่ออกมาจะมีพันธุกรรมของแม่อุ้มบุญปนอยู่ด้วย

และ (2) คือการอุ้มบุญประเภท Gestational Surrogacy หมายถึงแม่อุ้มบุญ’ ที่ตั้งครรภ์โดยนำไข่กับสเปิร์มที่ผสมแล้วใส่เข้าไปในมดลูก ลูกที่ออกมาจะไม่มีพันธุกรรมที่เกี่ยวข้องกับแม่อุ้มบุญแต่อย่างใด

ส่วนประเด็นว่าการทำแบบนี้ถูกกฎหมายหรือไม่นั้น ในสหรัฐมีบางรัฐที่มีกฎหมายอนุญาตให้มีดำเนินการได้อย่างเสรี เช่น รัฐอาคันซอ รัฐแคลิฟอร์เนีย รัฐอิลลินอยส์ รัฐเท็กซัส รัฐแมสซาชูเซตส์ ส่วนรัฐนิวยอร์ก รัฐนิวเจอร์ซี รัฐอลาสกา และรัฐนิวเม็กซิโก รัฐโอเรกอน รัฐวอชิงตัน มีกฎหมายอนุญาตให้ทำได้เฉพาะเพื่อมนุษยธรรมเท่านั้น

ขณะที่ในแคนาดาและสหราชอาณาจักรอนุญาติให้เฉพาะที่เป็นการอุ้มบุญเพื่อมนุษยธรรมเท่านั้น ส่วนในจอร์เจีย ก็เหมือนกับในยูเครนและรัสเซียที่อนุญาตให้ทำได้อย่างถูกกฎหมายจึงทำให้อุตสาหกรรมการอุ้มบุญในประเทศเหล่านี้เติบโตอย่างก้าวกระโดด

ดิลารา เป็นหนึ่งในผู้หญิงจำนวนมากที่หันมาทำมาหากินด้วยการรับอุ้มบุญอย่างเป็นเรื่องเป็นราวในฐานะที่อาชีพนี้สร้างรายได้ให้เธอมากพอและคุ้มค่ากับการรับตั้งครรภ์ท่ามกลางความต้องการแม่อุ้มบุญที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องในตลาดโลก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะปัญหาการมีบุตรยากของคู่สามี-ภรรยา ที่มีมากขึ้น การแต่งงานของคนเพศเดียวกันที่เพิ่มมากขึ้น และผู้คนยุคใหม่ที่นิยมอยู่เป็นโสดแต่อยากมีผู้สืบทอดก็มีจำนวนมากขึ้น

เรื่องนี้ต้องประกบ ‘ชลน่าน’ ประกบ ‘อิ๊งค์’ อธิบายเรื่องงบประมาณ บรรยากาศเหมือนยุคยิ่งลักษณ์ตอบปมจีทูจี

(8 มี.ค.66) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี เมื่อวันที่ 7 มี.ค.ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติการใช้งบประมาณเป็นวงเงินกว่า 6.8 หมื่นล้านบาท ว่า งบประมาณที่มีผลผูกพัน ทุกงบที่มีอยู่ก็ต้องจัดการ ซึ่งเรามีผู้ที่มีความรู้ความสามารถอยู่แล้ว เราก็ต้องประชุมร่วมกันทั้งหมด เพื่อใช้ภาษีของประชาชนให้คุ้มค่ามากที่สุด

ด้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวเสริมว่า เรื่องงบประมาณต้องแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ
1.) งบประมาณผูกพัน ที่ทำให้ก่อหนี้
2.) เป็นงบประมาณผูกพันตามข้อกฎหมาย ซึ่งในส่วนนี้รัฐบาลที่จะเข้ามารับช่วงต่อ ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลไหนก็ต้องดำเนินการตามนั้น

นิพิฏฐ์’ เปรียบ ‘ลุงป้อม’ เหมือน ขงเบ้ง เชื่อ!! ใช้คนเป็น พาประเทศเดินหน้า

(8 มี.ค. 66) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ แกนนำพรรคพลังประชารัฐ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ‘นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ’ มีเนื้อหาดังนี้...

เราจะแยกคนกันต่อไป หรือ เราจะสลายความขัดแย้ง

ผมรู้ว่าคนส่วนหนึ่งก็ไม่ชอบ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ สักเท่าไหร่ อาจคิดไปว่าอายุมากบ้าง สุขภาพไม่สมบูรณ์บ้าง ผมมีข้อมูลมาเล่า 2 เรื่อง

1.เรื่องอายุมาก อันนี้ปฏิเสธไม่ได้หรอก แต่หากมองผู้นำโลก เช่น อเมริกา , รัสเซีย , จีน หรือแถวบ้านเรา กัมพูชา , พม่า , มาเลเซีย ผมว่า พลเอกประวิตร หนุ่มขึ้นมาทันทีนะ ผู้นำเหล่านั้นอายุมากกว่า พลเอกประวิตร เสียอีก นี่คือความจริง เอาล่ะ ผมจะข้ามเรื่องนี้ไป

2.เรื่องสติปัญญา ความเฉียบแหลม ความทันคน

ผมว่าในระดับผู้นำในประเทศไทย ไม่มีใครสู้ท่านได้นะ จะเห็นว่าทหาร ตำรวจ พลเรือน ทุกคนไว้ใจท่าน ครั้งหนึ่ง พลเอกประวิตร เคยเล่าให้ผมฟังว่า คุณนิพิฏฐ์ เชื่อไหม สมัยผมเป็น ผบ.ทบ. นายทหารระดับพันเอกพิเศษ ที่จะขึ้นเป็นนายพลผมรู้จักชื่อหมด แล้วรู้ด้วยว่าอยู่กองพันไหน อยู่กองพลไหน นิสัยใจคอเป็นอย่างไร ไม่ต้องมีใครมาหลอกผมหรอก เรื่องนี้กระมังที่ พลเอกประวิตร เป็นที่รักของนายทหารทั้งกองทัพ

รอง ผบ.ตร.สั่งดำเนินคดีเด็ดขาด ครูข่มขืนเด็กนักเรียนในจังหวัดเชียงใหม่

จากกรณี มีผู้เสียหายที่เป็นผู้ปกครองเข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับครูโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่
ซึ่งกระทำล่วงละเมิดทางเพศ ต่อเด็กนักเรียน จำนวนหลายราย  จากการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานทราบว่าครูคนดังกล่าวคือ นาย รุ่งชาย (ขอสงวนนามสกุล) ครูสอนวงโยธวาทิต 
พฤติการณ์ในคดีทราบว่า นายรุ่งชายฯ ได้พานักเรียนของตนเองไปข่มขืนกระทำชำเราที่ม่านรูดแห่งหนึ่ง จำนวน 3 ครั้ง ในเขตพื้นที่ อ.สันปาตอง จว.เชียงใหม่ ซึ่งทางผู้ปกครองเด็กได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ กับ พงส.สภ.สันป่าตอง เรียบร้อยแล้ว

กระตุ้นเศรษฐกิจ!! ‘ครม.’ เคาะราคาอ้อยขั้นสุดท้ายปี 64/65 ที่ 1,106.40 บาท/ตัน คาด สัปดาห์หน้า ยื่นราคาขั้นต้น ปี 65/66 เข้าที่ประชุม ครม.

(8 มี.ค. 66) นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม (อก.) เปิดเผยว่า มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2566 เห็นชอบกำหนดราคาอ้อยขั้นสุดท้าย ปี 2564/65 ราคาเฉลี่ยทั่วประเทศในอัตราที่ 1,106.40 บาทต่อตันอ้อย ณ ระดับความหวานที่ 10 ซี.ซี.เอส. และกำหนดอัตราขึ้น/ลงของราคาอ้อย เท่ากับ 66.38 บาท ต่อ 1 หน่วย ซี.ซี.เอส. และผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทราย 474.17 บาทต่อตันอ้อย ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากราคาอ้อยขั้นต้น ฤดูการผลิตปี 2564/65 ที่ราคา 1,070 บาท ซึ่งการที่ชาวไร่อ้อยมีรายได้เพิ่มขึ้น 36.40 บาท/ตันอ้อย จะสามารถเพิ่มกำลังซื้อและกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศได้อีกทางหนึ่ง

นายภานุวัฒน์ ตริยางกูรศรี รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) กล่าวว่า จากที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบกำหนดราคาอ้อยขั้นสุดท้าย ปี 2564/65 แล้ว หลังจากนี้ สอน.จะดำเนินการประกาศในราชกิจจานุเบกษา เพื่อให้มีผลบังคับใช้ต่อไป
 

ตายทิพย์!! ‘2 แม่ลูก’ แจ้งความ ถูกญาติฝั่งพ่อหลอกว่า ‘พ่อเสียชีวิต’ หวังลวงเอาค่าทำศพ ตร. เร่งสอบปากคำผู้ร่วมขบวนการ

(8 มี.ค. 66) ทีมข่าวลงพื้นที่วัดบ้านร่อม ต.บ้านร่อม อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ได้พูดคุยกับนางสุกัญญา สิงห์ทอง อายุ 47 ปี เมียหลวงของหนุ่มตายทิพย์ และนางสาวอภิชญาดาร์ สิงห์ทอง อายุ 22 ปี ลูกสาว เล่าว่าเมื่อ 28 ปีที่แล้วนางสุกัญญาได้อยู่กินกับนายวิรัตน์ ได้ 6 ปีจนมีลูกสาว 1 คน โดยทั้งคู่ได้จดทะเบียนสมรสกัน จากนั้นได้แยกกันอยู่แต่ไม่ได้ทำการหย่า โดยฝ่ายชายมีเมียน้อย เลิกไป 3 คน เหลือ 2 คน คนที่อยู่ปัจจุบันชื่อติ๋ม มีลูกชายชื่อเต้ อายุประมาณ 13 ปี อาศัยกันอยู่ที่ อ.บ้านหมอ ต.ตลาดน้อย จ.สระบุรี ฝ่ายชายประกอบอาชีพเป็นพนักงานบริษัท แห่งหนึ่ง ตั้งแต่เลิกกันมา 22 ปี ฝ่ายชายเคยส่งเสียเงินมาแค่ 1 หมื่นบาท จากนั้นประมาณเดือนเมษายน ปี 2564 ได้เคยมาขอหย่ากับนางสุกัญญา แต่ทางนี้ไม่ได้ไปหย่า และเดือนธันวาคม ปี 2565 ได้ส่งหลานสาวมาเจรจาขอหย่าอีกครั้ง โดยเสนอเงินค่าหย่าให้ 6 แสนบาท โดยนัดเจอที่อำเภอท่าเรือในวันที่ 28 ธันวาคมที่ผ่านมาแต่ไม่มา จากนั้นได้มีการเจราขอหย่าอีกครั้งในเดือนเมษายนที่จะถึงนี้

นางสาวอภิชญาดาร์ สิงห์ทอง ลูกสาว เล่าว่าวันที่ 4 มีนาคม เวลา 4 โมงเย็น เหลนของฝ่ายชายชื่อบอลโทร มาบอกกับตน ว่า พ่อของเธอถูกรถพ่วงชนเสียชีวิตที่ถนนเส้นสี่แยกบ้านครัว อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี ซึ่งตนก็ได้ถามย้ำไปว่าเป็นเรื่องจริงใช่ไหม ก็ได้รับการยืนยันว่าจริงจากนั้นตัวลูกสาวก็ได้เดินทางไปที่โรงพยาบาลพระพุทธบาท เมื่อเจอพยาบาลก็ได้สอบถาม และยืนยันว่าพ่อตัวเองเสียชีวิตแล้วแต่ถูกส่งต่อไปที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์รังสิต จ.ปทุมธานี โดยศพได้ออกไปก่อนหน้าที่เธอมาประมาณ 15 นาที ตนเองจึงตัดสินใจกลับบ้านและมาพูดคุยกันเรื่องการจัดเตรียมงานศพของพ่อ โดยได้พูดคุยกับญาติฝ่ายพ่อซึ่งเป็นพี่สาวของพ่อชื่อป้าอร เกี่ยวกับเรื่องเงินประกันต่างๆโดยมีการบอกว่า ให้ฝั่งของเธอนั้นรอเอกสารและเรื่องงานศพพ่อนั้นก็จะให้ทางฝั่งของเธอเป็นคนจัดเตรียมงาน

จากนั้นเช้าวันที่ 5 มี.ค.ให้มีการนัดกันที่วัดโคกงามซึ่งอยู่ใกล้บ้านพ่อ เพื่อจะนัดพูดคุยกันเรื่องค่าประกันต่างๆที่พอจะได้จากการเสียชีวิตประมาณ รวมๆกันได้ประมาณ 1,000,000 กว่าบาท แต่เมื่อถึงเวลาทางญาติของพ่อได้อ้างว่า พ่อได้บริจาคร่างกายให้โรงพยาบาลจึงไม่มีศพกลับมาให้ได้ โดยจะให้ตนเองไปเอาผมกับเล็บของพ่อเท่านั้น และมีการยืนยันอีกครั้งว่าให้ทั้งแม่ของตนเองจัดงานศพได้เลย โดยเส้นผมและเล็บของพ่อนั้น คนชื่อบอลซึ่งเป็นเหลนของพ่อก็ได้ขี่รถจักรยานยนต์เอามาให้ถึงหน้าบ้านของตน ส่วนเอกสารใบมรณะบัตรต่างๆก็บอกว่าจะเอามาให้ตอนเย็นของวันที่ 5 มี.ค.
.
และได้บอกว่าพ่อของตนเองนั้นได้ทำการเปลี่ยนชื่อจากวิรัตน์หรือนายตั้ม สิงห์ทอง เป็นชื่อใหม่คือนายนิวัฒน์ สิงห์ทอง ซึ่งตนเองก็ได้ถามหาถึงเอกสารการเปลี่ยนชื่อของพ่อ ซึ่งทางฝั่งญาติของพ่อก็บ่ายเบี่ยง ที่จะเอามาให้โดยญาติของฝั่งของพ่อนั้น ก็ไม่มีใครเดินทางมางานศพเลย ซึ่งในวันที่ 5 มี.ค. นั้นตนก็ได้โทรเช็กทางโรงพยาบาลพระพุทธบาท ทางโรงพยาบาลธรรมศาสตร์และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่า พ่อของตนนั้นเสียชีวิตจริงๆหรือไม่ ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรพระพุทธบาท และสถานีตำรวจภูธรบ้านหมอ และได้ติดต่อสอบถามกู้ภัยต่างๆ ก็ไม่พบว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้นในพื้นที่จึงรู้ว่าตน และครอบครัวโดนหลอกจริงๆ
.
ด้านนายสรรพสิทธิ์ ช่างกลึง อายุ 33 ปี เจ้าของร้าน ป.ผ้าสวยดอกไม้ ตั้งอยู่ที่อำเภอบ้านหมอ จ.สระบุรี เล่าว่า ได้ถูกว่าจ้างจากนางสาวอภิชญาดาร์(พลอย) สิงห์ทอง อายุ 22 ปี ลูกสาวมาให้จัดดอกไม้และโลงศพภายในงาน จนนางสาวอภิชญาดาร์ ได้โทรมาปรึกษาว่า เกิดการผิดพลาดด้านเอกสาร ตนให้นางสาวอภิชญาดาร์ ไปตามเอกสารที่บ้านของญาติพ่อในเขตอำเภอบ้านหมอ จนนางสาวอภิชญาดาร์ ยอมรับกับตนว่าพ่อของตนยังไม่ได้ตาย โดยว่าจ้างดอกไม้และโลงศพในราคา 4 หมื่นกว่าบาท ตนจึงพาน้องพลอยไปสืบหาตามโรงพักๆว่ามีอุบัติเหตุจริงหรือไม ได้รับคำตอบว่าไม่มีการเกิดอุบัติเหตุขึ้น ตนและน้องพลอยจึงรู้ว่าโดนหลอก ซึ่งตนเองก็ยังไม่รู้ว่าจะได้รับเงินค่าจ้างหรือไม่ โดยมีการสวดพระอภิธรรมไปแล้ว 1 คืน เมื่อวันที่ 5 ที่ผ่านมา ภายในโลงมีเพียงเส้นผมเท่านั้น มีแขกมาร่วมงานประมาณ 20 กว่าคนเท่านั้น แขกมาร่วมงานก็ไม่รู้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าตายจริงหรือไม่จริง

ด้านนางสุกัญญา อดีตเมียอยากให้ฝั่งสามีมารับผิดชอบ เพราะว่าตนเองก็ไม่มีเงินไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนจ่ายค่าทำศพ ซึ่งตนก็ต้องอับอาย ถ้าความจริงเป็นแบบนี้ตนจะยังไม่ยอมหย่า ตายเมื่อไหร่ค่อยเจอกันและเงินประกันที่ได้ตนเองก็จะไม่ให้ญาติพี่น้องของอดีตสามีเลยสักบาท ซึ่งตนไม่เข้าใจว่าทั้งหมดทำแบบนี้ไปเพื่ออะไรโดยตัวเองนั้นก็ไม่มีเงินซ้ำ ตอนนี้ก็ยังมาเป็นหนี้ค่าจัดงานศพอีก ซึ่งตนเองที่จัดงานก็หวังว่าจะได้เงินประกันจากบริษัทจำนวน 200,000 บาท เอามาใช้จ่ายในงานศพของอดีตสามี ที่ผ่านมาเลิกกันฝ่ายสามีก็ไม่เคยส่งเสียเลี้ยงลูก มีเงินเท่าไหร่ก็ให้แต่เมียใหม่ ตนก็ไม่เคยไปเรียกร้องอะไร ซึ่งตนยืนยันว่าถ้าอดีตสามีตายจริงๆตนเองจะไม่ทำศพอดีตสามี

ทิศทางน้ำมันโลก สรุปสถานการณ์ตลาดน้ำมันสัปดาห์ที่ 27 ก.พ. - 3 มี.ค. 66 จับตาปัจจัย ‘บวก - ลบ’ ชี้ แนวโน้ม 6 - 10 มี.ค. 66

สรุปสถานการณ์ตลาดน้ำมันสัปดาห์ที่ 27 ก.พ. - 3 มี.ค. 66 จับตาปัจจัย ‘บวก - ลบ’ ชี้ แนวโน้ม 6 - 10 มี.ค. 66

>> ราคาน้ำมันย้อนหลัง 15 วัน

ราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มขึ้น จากเศรษฐกิจจีนฟื้นตัว โดย Caixin/Markit รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต (Manufacturing Purchasing Managers' Index: PMI) ของจีนในเดือน ก.พ. 66 เพิ่มขึ้น 2.4 จุด จากเดือนก่อน มาอยู่ที่ 51.6 จุด บ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจขยายตัวเหนือระดับ 50 จุด เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน ก.ค. 65 โดยได้แรงหนุนจากการกลับมาเปิดประเทศเมื่อวันที่ 8 ม.ค. 66 ที่ผ่านมา 

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve: Fed) สาขา Atlanta นาย Raphael Bostic สนับสนุนให้ Fed ชะลอความรุนแรงในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย โดยคาดว่า Fed อาจเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพียง 0.25% จากระดับปัจจุบัน สู่ 4.75-5.0% ในการประชุมวันที่ 21 – 22 มี.ค. 66 (คาดการณ์เดิมเพิ่มขึ้น 0.5%) ซึ่งจะคลายความกดดันต่อภาคเศรษฐกิจโลกและความต้องการใช้น้ำมัน 

ความเห็นของผู้ค้าพลังงานในงานสัมมนาด้านพลังงาน CERAWeek ระหว่างวันที่ 6-10 มี.ค. 66 เมือง Houston รัฐ Texas ของสหรัฐฯ ล่าสุด ยังมีมุมมองเชิงบวกต่อราคาน้ำมันในช่วงครึ่งหลังของปี 66 อาทิ นาย Mike Wirth, CEO ของ Chevron Corp. กล่าวว่าตลาดน้ำมันยังอยู่ในภาวะตึงตัวและมีความเสี่ยงต่อภาวะอุปทานชะงักงัน แม้ว่าน้ำมันดิบจากรัสเซียยังคงเข้าสู่ตลาด แต่ระยะทางและค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้น รวมถึงต้นทุนราคาที่แตกต่างกันจากมาตรการคว่ำบาตร จะทำให้อุปทานตึงตัว นอกจากนี้ นาย Torbjorn Tornqvist, CEO ของบริษัท Gunvor กล่าวว่าราคาน้ำมันดิบอาจปรับตัวสูงขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 66 เนื่องจากอุปสงค์ของจีนกลับสู่ตลาด สัปดาห์นี้ ทางเทคนิคคาดว่าราคา ICE Brent จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 84 – 87 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

นายหัวออกโรง ‘ชวน’ ลั่น!! หลังยุบสภาจะช่วยหาเสียงเต็มที่ งง ‘จุรินทร์’ เป็นคนเก่ง แต่ไฉนรั้งท้ายโพลตลอด

(8 มี.ค. 66) ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่อดีตสมาชิกพรรค ปชป. ที่ออกไปอยู่พรรคการเมืองอื่นระบุว่า มีการซื้อเสียงกรรมการบริหารพรรค 200 ล้าน ตรงนี้ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์หรือไม่ ว่า กระทบแน่นอน เรื่องที่เป็นด้านลบก็กระทบ แต่ในระบบพรรค ปชป. สมาชิกต้องมีความรู้สึกระลึกถึงบุญคุณพรรค การแต่งตั้งตำแหน่งต่าง ๆ ในพรรคไม่เคยใช้เงิน

ทั้งนี้ ตนยืนยันได้ว่าการเป็นรัฐมนตรีไม่ต้องจ่ายเงินสักบาท เช่น นายธารินทร์ นิมมานเหมินท์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ดังนั้นคนในพรรคจะต้องมีความรู้สึกผูกพันกับสิ่งที่พรรคให้ เช่น การให้เกียรติ

“ผมมาเป็นหัวหน้าพรรคได้ก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไร แต่ระบบพรรค ปชป. ที่ยอมรับเสียงข้างมากว่าคนไหนเหมาะสม ผมก็ใช้เวลาพิสูจน์ 22 ปี ก็ได้รับการยอมรับว่าเป็นหัวหน้าพรรคได้ เมื่อชนะเลือกตั้ง ผมก็ได้เป็นนายกรัฐมนตรีโดยไม่ได้จ่ายเงินสักบาท บุญคุณเหล่านี้ ในชีวิตนี้ก็ใช้ไม่หมด การที่มาจากเลือกตั้งโดยไม่ใช้เงิน บุญคุณที่มีกับชาวบ้านในชีวิตนี้ก็ใช้ไม่หมด ผมจึงคิดว่าในช่วงปลายของชีวิตผม จะเดินทางไปเยี่ยมเพื่อขอบคุณคนที่เคยช่วยเหลือผมที่ยังมีชีวิตอยู่ เพื่อเป็นการตอบแทนผ่านการทำงานอย่างซื่อสัตย์ และสุจริต ทั้งต่อหน้าและลับหลัง คนในพรรค ปชป. ต้องระลึกว่า คุณได้อะไรไปจากพรรคบ้าง” นายชวน กล่าว

'วัดราชบูรณะ' พิษณุโลก เตรียมแจกข้าวสาร 14 ตัน มอบให้ ปชช.คนละ 5 กิโลกรัม วันที่ 14 มี.ค.นี้

วัดราชบูรณะจังหวัดพิษณุโลกร่วมกับคณะศิษย์จากประเทศไต้หวันเตรียมข้าวสาร 14 ตันแจกให้กับประชาชนคนละ 5 กิโลกรัม วันที่ 14 มีนาคมนี้

วันที่ 8 มีนาคม 2566 พระครูสิทธิธรรมภิวัช เจ้าอาวาสวัดราชบูรณะอำเภอเมืองจังหวัดพิษณุโลกเปิดเผยว่าในวันอังคารที่ 14 มีนาคม 2566 คณะลูกศิษย์จากประเทศไต้หวันมีกำหนดการมาทำพิธีพุทธาภิเษกท้าวมหาพรหม ณ วิหารหลวงพ่อทองดำ วัดราชบูรณะ และในโอกาสนี้คณะลูกศิษย์จากประเทศไต้หวันได้เตรียมข้าวสาร 14 ตัน เพื่อแจกให้กับประชาชนชาวพิษณุโลกเป็นการทำบุญถวายกุศล

ตัดทางนายทุน!! ‘ธนาธร’ รุด ‘ลำพูน’ เดินสายช่วย ‘ก้าวไกล’ หาเสียง ชู!! เปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนด จำกัด 50 ไร่ต่อสิทธิ์

ธนาธร’ เดินสายช่วย ‘ก้าวไกล’ หาเสียงที่ลำพูน เปิดเวทีแนะนำนโยบายและรับฟังปัญหา ส.ป.ก. หวังประชาชนเลือกก้าวไกลเป็นรัฐบาล ชื่นชมเตรียมพร้อมร่างกฎหมายดันผ่านสภาฯ หลังเลือกตั้ง

(8 มี.ค.66) นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล ออกเดินสายหาเสียงสนับสนุนผู้สมัครของพรรคก้าวไกลอย่างต่อเนื่อง โดยวันนี้ได้ร่วมเปิดเวทีรับฟังปัญหาจากประชาชนที่บ้านสบเมย ตำบลทาขุมเงิน อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน ร่วมกับ นายมานพ คีรีภูวดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และผู้สมัคร ส.ส.ลำพูน พรรคก้าวไกล ทั้ง 2 คน คือ นายวิทวิสิทธิ์ ปันสวนปลูก และนายชัชพีร์ วรรณาพิรัชย์

โดย ต.ทาขุนเงิน เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีประเด็นปัญหาการใช้ที่ดิน ส.ป.ก. ซึ่งนายธนาธรระบุว่า เป็นหนึ่งในเรื่องที่มีความสำคัญ ตนเห็นว่า พรรคก้าวไกลได้ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดตั้งแต่สมัยเป็นพรรคอนาคตใหม่ เช่นเดียวกับประเด็นข้อพิพาทที่ดินอื่น ๆ เพราะปัญหาที่ดินเป็นเรื่องสำคัญที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของคนนับล้าน และนั่นทำให้พรรคอนาคตใหม่มาจนถึงพรรคก้าวไกล มุ่งมีบทบาทในคณะกรรมาธิการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม มาโดยตลอด

จากที่ตนติดตามการทำงานของพรรคก้าวไกล เห็นว่าพรรคได้ไปรับฟังประชาชนผู้ได้รับผลกระทบมาตลอด 4 ปีในหลากหลายพื้นที่ ทำให้พรรคก้าวไกลวันนี้ ได้ข้อสรุปการแก้ไขปัญหาเป็นชุดร่างกฎหมายปฏิรูปที่ดินตามที่มีการเผยแพร่ก่อนหน้านี้ ซึ่งรวมถึงร่างกฎหมายเปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนด อันเป็นผลมาจากการตกผลึกร่วมกันว่า ทางแก้ปัญหาไม่ใช่การออก ส.ป.ก. เพิ่ม แต่คือการทำให้ ส.ป.ก. เป็นโฉนด แก่ประชาชนที่ควรต้องได้รับสิทธิ์นั้น ในกรณีที่ตามเอกสารยังเป็นชื่อผู้ใช้ประโยชน์เดิมหรือทายาทที่ได้รับสิทธิ์โดยชอบธรรม และจำกัดไม่ให้เปลี่ยนเกิน 50 ไร่ต่อเจ้าของสิทธิ์ เพื่อไม่ให้นายทุนฉวยโอกาส


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top