Saturday, 24 May 2025
NewsFeed

ทัพเรือภาคที่ 3/ศรชล.ภาค 3 ร่วมหารือการแก้ไขปัญหา การกระทำผิดกฎหมาย และการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ในพื้นที่จังหวัดสตูล

พลเรือโท อาภากร อยู่คงแก้ว ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ในฐานะ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 3 พร้อมด้วย พลเรือตรี สุชาติ เปรมประเสริฐ รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 3 ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล จังหวัดสตูล ร่วมกับ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ในฐานะ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล จังหวัดสตูล ณ ศาลากลางจังหวัดสตูล

ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 3 เข้ารับฟังการปฏิบัติงานที่ผ่านมาเกี่ยวกับการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ในพื้นที่จังหวัดสตูล ได้รับทราบปัญหาอุปสรรคข้อขัดข้อง และร่วมกันหารือแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการทำประมง

สวยสับมากแม่!! 'ไอซ์ อภิษฎา' หวนคืนวงการแล้ว อวดหุ่นสุดเป๊ะหลังคลอดไม่ถึง 2 เดือน

7 มี.ค.66 เพิ่งคลอดลูกสาว น้องเลอา ได้เดือนกว่าๆ เท่านั้น สำหรับคุณแม่ลูกอ่อน ‘ไอซ์ อภิษฎา เครือคงคา’ ตอนนี้เจ้าตัวก็ได้กลับเข้าสู่โหมดทำงานในวงการบันเทิงอีกครั้ง เป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

ล่าสุด ไอซ์ อภิษฎา ก็ได้สาดความแซ่บให้ไฟลุกกันไปข้าง โดยเจ้าตัวได้โพสต์อินสตาแกรม พร้อมชุดเดรสสั้นรัดรูปอวดหุ่นเป๊ะ เพิ่มความเซ็กซี่ด้วยการแหวกให้เห็นหน้าอกหน้าใจ ทั้งยังเขียนแคปชั่นไว้ว่า "เอาอะไรมาไม่" โดยทั้งหุ่นและหน้าตานั้นดูเปล่งปลั่งมากกว่าเดิม อีกทั้งหุ่นของคุณแม่ที่เพิ่งคลอดลูก กลับมาสวยแซ่บแบบเต็มร้อยสุดๆ

ปตท. ผนึก นูออโว พลัส ลงนามความร่วมมือโครงการ Battery Technology for All พัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่ มุ่งหน้าสู่ Net Zero

ปตท. ผนึกกำลัง นูออโว พลัส ลงนามข้อตกลงความร่วมมือ โครงการ Battery Technology for All พัฒนาเทคโนโลยีด้านแบตเตอรี่ มุ่งสู่ Net Zero

เมื่อไม่นานมานี้ นายเชิดชัย บุญชูช่วย รองกรรมการผู้จัดการใหญ่นวัตกรรมและธุรกิจใหม่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เป็นประธานในพิธีลงนามข้อตกลงความร่วมมือ โครงการ Battery Technology for All ซึ่งเป็นการลงนามระหว่าง ดร.ยุทธนา สุวรรณโชติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สถาบันนวัตกรรม บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ นายทิติพงษ์ จุลพรศิริดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) ในฐานะ กรรมการ บริษัท นูออโว พลัส จำกัด เพื่อร่วมมือกันในการดำเนินการศึกษาและพัฒนาโครงการ รวมถึงแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีด้านแบตเตอรี่

‘มูลนิธิธรรมดี’ ร่วมบุญดาราดัง ‘กากัน มาลิก’ อัญเชิญพระพุทธรูป 2,724 องค์ มอบชาวอินเดีย .

ดร.ดนัย จันทร์เจ้าฉาย ประธานมูลนิธิธรรมดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ‘มูลนิธิธรรมดี’ ระบุว่า บุญใหญ่สัมฤทธิ์ผล ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ณ หมู่บ้านเอลโลร่า เมืองออลังคบาด ประเทศอินเดีย โครงการ “พลิกฟื้นคืนพุทธสู่แดนพุทธภูมิ สืบทอดพระพุทธศาสนาให้อยู่ถึง 5,000 ปี” เมื่อวันเสาร์ที่ 4 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา

โครงการดังกล่าว มีเป้าหมายอยู่ที่การอัญเชิญพระพุทธรูป 2,724 องค์ มอบให้ครอบครัวชาวพุทธในประเทศอินเดีย โดยในครั้งนี้เป็นรอบแรกที่ได้รับมอบจำนวน 302 ครอบครัว

นอกจากนี้ ยังได้มอบข้าวสารอาหารแห้ง ทุนการศึกษา อุปกรณ์การเรียน แก่นักเรียนยากจน และชาวพุทธอินเดีย 800 ครอบครัว โดยก่อนหน้านี้ มูลนิธิธรรมดี ได้มอบไปแล้วรวม 16,430 ครอบครัว ทั้งในประเทศไทย และประเทศอินเดีย

‘เพื่อไทย’ ระดมสมอง ประชุมทีม ศก.นัดแรก หารือนโยบาย กำหนดทิศทางประเทศ ลุยงานเชิงรุก

(7 มี.ค. 66) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรค พท. ฐานะกรรมการเลขานุการและโฆษกคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจพรรค พท. กล่าวว่า วันนี้ได้มีการประชุมคณะกรรรมการด้านเศรษฐกิจของพรรค พท. นำโดย นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานกรรมการ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองประธานกรรมการ พร้อมด้วยนายเศรษฐา ทวีสิน, นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์, นายศุภวุฒิ สายเชื้อ และนายปานปรีย์ พหิทธานุกร ที่ปรึกษา

โดยที่ประชุมได้หารือถึงนโยบายเศรษฐกิจของพรรค พท.ที่ใช้สำหรับการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท, นโยบายเงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาท, นโยบายด้านการบริหารจัดการหนี้ของประชาชน, นโยบายด้านเศรษฐกิจดิจิทัล, นโยบายเขตธุรกิจใหม่, นโยบาย 1 ครอบครัว 1 ศักยภาพ ซอฟท์ พาวเวอร์ และนโยบายด้านการเกษตรแบบครบวงจร เป็นต้น

นายเผ่าภูมิ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังได้หารือกรอบสำคัญในการกำหนดทิศทางประเทศ ไม่ว่าจะเป็น ทิศทางการสร้างงาน การค้าระหว่างประเทศ รวมถึงจุดยืนด้านข้อตกลงทางการค้า ภาคการเกษตรเพื่อความมั่งคั่งของเกษตรกร ภาคบริการด้านสุขภาพเพื่อสร้างรายได้เข้าประเทศ ความมั่นคงทางการคลัง การดึงดูดแรงงานทักษะสูง และการลงทุนทางตรงจากต่างประเทศ เป็นต้น

ครูไทยเก่งรอบด้าน!! 'ตรีนุช' ตั้งเป้า ‘อบรมพัฒนา-เพิ่มทักษะ’ ครูไทย หวังลดความเหลื่อมล้ำ-สร้างโอกาสให้ผู้เรียน

(7 มี.ค. 66) น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ขณะนี้ใกล้ถึงเวลาที่รัฐบาลจะยุบสภา เพื่อเลือกตั้งในปี 2566 นี้แล้ว ซึ่งในส่วนของงานการศึกษาที่ตนอยากฝากให้มีการทำงานอย่างต่อเนื่องแม้จะมีรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาทำหน้าที่แทน โดยเฉพาะนโยบายการสร้างโรงเรียนคุณภาพด้วยการสร้างเครือข่ายโรงเรียนในพื้นที่ของโรงเรียนขนาดเล็ก อีกทั้งวางแผนเร่งดำเนินการคืนอัตรากำลังผู้บริหารและครูโรงเรียนขนาดเล็กให้เพื่อให้ทันเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 นี้ด้วย โครงการอาชีวะอยู่ประจำเรียนฟรี มีงานทำ เพราะของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาและสร้างโอกาสให้แก่ผู้เรียนครบทุกมิติอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม ซึ่งนโยบายโรงเรียนคุณภาพและโครงการอาชีวะอยู่ประจำถือเป็นนโยบายที่ตอบโจทย์เรื่องดังกล่าวอย่างดีที่สุด รวมถึงการพัฒนากระบวนการเรียนการสอนไปสู่ศตวรรษที่ 21

ต่อคำถามว่า ขณะนี้มีสิ่งใดที่กังวลและยังอยากดำเนินการให้สำเร็จหรือไม่ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ยังมีอยู่แน่นอน ซึ่งก็คือประเด็นเรื่องการพัฒนาครู เพราะนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ต้องการพัฒนาผู้เรียนให้ไปสู่การเรียนรู้ในโลกศตวรรษที่ 21 รวมถึงการเรียนการสอนผ่านกระบวนการคิดวิเคราะห์ด้วย Active Learning ซึ่งครูผู้สอนจะต้องเติมเต็มทักษะเหล่านี้ตามผู้เรียนไปด้วย ดังนั้นจะทำอย่างไรให้ครูได้รับการพัฒนาในเรื่องนี้อย่างตลอดเวลา เพราะการพัฒนาครูตนไม่อยากมีการพัฒนาแล้วจบ ๆ ไปแต่อยากให้มีการพัฒนาครูอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นตนมองว่าในระยะยาวอาจศธ.อาจจะต้องมีหน่วยงานกลางหรือศูนย์พัฒนาครูขึ้น เพื่อนำครูเข้ามาอบรมพัฒนาเติมเต็มความรู้ด้านการสอนไม่ว่าจะเป็นทักษะด้านดิจิทัลและภาษา โดยเรื่องการตั้งหน่วยงานกลางพัฒนาครูนั้นมีตัวอย่างของประเทศสิงค์โปรที่มีศูนย์พัฒนาครูทุกรูปแบบ ซึ่งทำได้ดีและครูประเทศสิงค์โปรมีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา ทั้งนี้ หากจะมีการตั้งศูนย์พัฒนาครูขึ้นจะต้องปรับโครงการ ศธ.หรือไม่นั้น ตนมองว่าก็เป็นโจทย์หนึ่งในอนาคตที่อาจจะเป็นเช่นนั้นแต่เราจะกำหนดขอบเขตการปรับโครงสร้างได้มากน้อยแค่ไหนก็คงต้องขึ้นอยู่กับรัฐบาลชุดใหม่ที่จะเข้ามาดำเนินการสานต่อไป

ผู้ใช้ไฟบ้านไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน เฮ!! ครม.เคาะมาตรการช่วยค่าไฟ นาน 4 เดือน

ครม. อนุมัติ 3.1 พันล้านบาท ให้ กฟน.และ กฟภ.สำหรับส่วนลดอัตราค่าไฟฟ้าสำหรับผู้ใช้ไฟบ้านไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน ประจำเดือนมกราคม - เมษายน 2566

(7 มี.ค.66) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.อนุมัติวงเงิน 3,191,740,000 ล้านบาท ให้การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับค่าไฟฟ้าประจำเดือนมกราคม - เมษายน 2566 เพื่อให้ส่วนลดอัตราค่าไฟฟ้าให้แก่ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน โดยเป็นกรอบวงเงินของการไฟฟ้านครหลวงจำนวน 517,950,000 บาท และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจำนวน 2,673,790,000 บาท เพื่อบรรเทาผลกระทบในการลดภาระค่าครองชีพให้ผู้ใช้ไฟฟ้าที่เป็นกลุ่มเปราะบาง

ปตท. ติดอันดับมูลค่าแบรนด์องค์กรสูงสุด และเป็นแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่งสูงสุดอันดับที่ 24 ของโลก

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปตท. ได้รับการจัดอันดับเป็นหนึ่งใน 500 แบรนด์แรกของโลกที่มีมูลค่าสูงสุดกว่าหนึ่งพันล้านดอลลาร์สหรัฐ และเป็นแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่งสูงสุดอันดับที่ 24 ของโลก จากการประเมินของ Brand Finance Global บริษัทที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์และการประเมินมูลค่าแบรนด์ชั้นนำของโลก ตอกย้ำศักยภาพการขับเคลื่อนองค์กรในทุกมิติ

Brand Finance Global ได้ประเมิน ปตท. จากการเติบโตของผลการดำเนินงานที่ดีมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ ธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น ธุรกิจน้ำมัน รวมถึงการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อการส่งเสริมและฟื้นฟูการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ผลของการดำเนินงานที่เด่นชัดดังกล่าว ส่งผลให้เกิดมูลค่าแบรนด์ที่แข็งแกร่งทัดเทียมแบรนด์ในระดับสากล

Mr. Alex Haigh, Managing Director - Asia Pacific of Brand Finance กล่าวว่า อุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซธรรมชาติได้เข้าสู่ช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลงไปเป็นการใช้พลังงานทดแทนในไม่กี่ปีที่ผ่านมาเนื่องจากผลกระทบของโรคระบาดและความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างประเทศ ปตท. ซึ่งเป็นบริษัทผู้นำด้านพลังงานเห็นถึงความสำคัญและเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว โดยปรับกลยุทธ์สู่การดำเนินธุรกิจพลังงานครอบคลุมทุกมิติ บนพื้นฐานของการคำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน

‘อรรถวิชช์’ ชูนโยบาย ‘ALL Service Center-ยกเลิกแบล็กลิสต์’ เน้น ‘สะดวก-รวดเร็ว-เท่าเทียม-เป็นธรรม’ เปิดโอกาสให้คนทำกิน

(7 มี.ค.66) นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวบทเวทีเสวนาเครือเนชั่น เปิดนโยบายพรรคการเมืองที่จะผลักดัน ‘นวัตกรรมนำไทย เชื่อมโลก’ ว่า พรรคชาติพัฒนากล้าเป็นพรรคใหม่ มีแนวคิดแบบเสรีนิยมประชาธิปไตย เน้นเรื่องการแข่งขัน สร้างโอกาส พรรคอื่นส่วนใหญ่มีแนวคิดเน้นเรื่องรัฐสวัสดิการเท่าเทียม แต่พรรคชาติพัฒนากล้า เน้นเรื่องโอกาสที่เสมอภาค ไม่ว่าจะรวยหรือจน สามารถเข้าถึงโอกาสในการแข่งขันได้ จึงนำเสนอ ‘นวัตกรรมสร้างโอกาส’ 2 เรื่องสำคัญ เรื่องแรกคือ ALL Service Center ราชการ 1 คำขอ จบครั้งเดียว เพราะทุกวันนี้เราใช้ระบบ One Stop Service แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเวลาไปยื่นขอใบอนุญาตประกอบกิจการหรือทำธุรกรรมกับรัฐ เกิดปัญหาล่าช้า ไม่มีการเชื่อมโยงระหว่างหน่วยงาน ประชาชนต้องวิ่งไปยื่นเรื่องตามหน่วยงานต่าง ๆ เอง จะเริ่มประกอบธุรกิจขอใบอนุญาตก็ยากลำบาก 

เราจึงเสนอนวัตกรรมนโยบาย ‘ALL Service Center ราชการ 1 คำขอ จบครั้งเดียว’ ยื่นเรื่องครั้งเดียววิ่งไปทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สามารถติดตามเรื่องได้เหมือน แอปพลิเคชันส่งของ นวัตกรรมนี้จะช่วยเสริมให้การบริการภาครัฐสะดวกรวดเร็วขึ้น สร้างโอกาสให้ประชาชนสามารถประกอบอาชีพได้มากขึ้น สร้างการลงทุนกับผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศได้มากขึ้น

"สมมุติอยากจะเปิดโรงแรมโฮมสเตย์สปาเล็กๆ สักหนึ่งที่ ถ้าเป็นระบบเดิม ผู้ประกอบการจะต้องวิ่งไปหลายหน่วยงานเพื่อขอใบอนุญาต เช่น ขอใบอนุญาตประกอบโรงแรม ขอใบอนุญาตประกอบกิจการขายอาหาร ขอใบอนุญาตขายสุรา ใบอนุญาตประกอบกิจการสปา แต่ถ้าเป็นระบบ All Service Center ราชการ 1 คำขอ จบครั้งเดียว ยื่นเอกสารที่เกี่ยวข้องครั้งเดียว ระบบจะสามารถส่งต่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาได้ทันที สมรรถนะของรัฐมีความพร้อม ทั้งเรื่องกฎหมาย ความเข้าใจของประชาชน เทคโนโลยีที่ทั่วถึง สามารถทำให้นโยบายเกิดขึ้นได้จริง สร้างโอกาสให้คนประกอบธุรกิจได้สะดวกขึ้น" นายอรรถวิชช์ กล่าว

พลิกโฉมสุพรรณ!! ‘เพื่อไทย’ หวังชิงเก้าอี้ ส.ส. ‘สุพรรณฯ’ ชูนโยบายพัฒนาเกษตร มั่นใจ!! ปชช.ได้ประโยชน์

(7 มี.ค. 66) ดร.กุลธิดา เหมาเพชร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 จ.สุพรรณบุรี พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า การลงสมัครรับเลือกตั้งในครั้งนี้ แม้จะเป็นผู้สมัครหน้าใหม่ แต่มีความมั่นใจ เนื่องจากกระแสและนโยบายของพรรคเพื่อไทย ที่ว่านโยบายทำได้ทำเป็น ที่จะนำสู่พี่น้องประชาชนชาวสุพรรณบุรี ตนจึงถือว่าเป็นตัวแทนของพรรคเพื่อไทย ที่จะนำนโยบายมาถึงพ่อแม่พี่น้องประชาชนชาวสุพรรณบุรี

 

ดร.กุลธิดา กล่าวว่า ในส่วนของผู้สมัครพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ทั้ง 5 เขต เราทราบบริบททางการเมืองของความเป็นชาติไทยพัฒนาในสุพรรณบุรีอยู่แล้ว แต่ข้อมูลที่ได้จากการลงพื้นที่มานั้น ทำให้ทราบข้อมูลจากพี่น้องประชาชน และเชื่อว่าพรรคชาติไทยพัฒนาก็คงจะปฏิเสธข้อมูลจากพี่น้องประชาชนไม่ได้ว่า ท่านบรรหาร ศิลปอาชา ไม่ได้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นบริบททางการเมืองสุพรรณบุรี ย่อมมีความเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน กับวันเวลาที่ผ่านไปด้วย

 

“ข้อมูลตรงนี้ทำให้เราทราบว่าความเป็นเพื่อไทย และนโยบายของพรรคเพื่อไทย ที่ลงสู่พี่น้องประชาชนชาวสุพรรณบุรี จะนำพามาได้อย่างไร ในระหว่างที่กระแสความรุนแรงในสุพรรณบุรีมีเกิดขึ้น กระแสเปลี่ยนมีเกิดขึ้นแน่นอนแต่ว่าจะเปลี่ยนไปได้มากน้อยแค่ไหน ก็คงต้องใช้ระยะเวลาจนกระทั่งเลือกตั้งเสร็จ ตอนนี้เรามีความเชื่อมั่นว่ามีกระแสเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ซึ่งภาพรวมของความเป็นพรรคเพื่อไทยพรรคใหญ่ จะส่งผลต่อจังหวัดสุพรรณบุรีแน่นอน โดยเฉพาะนโยบายทางด้านการเกษตรที่เป็นนโยบายเบอร์ต้นๆของพรรคเพื่อไทย ที่ชาวสุพรรณบุรี จะได้รับประโยชน์จากนโยบายด้านนี้แน่นอน” ดร.กุลธิดา กล่าว

 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top