‘หลี่ เฉียง’ จ่อนั่งนายกฯ จีน แทน ‘หลี่ เค่อเฉียง’ เชื่อ!! ‘ผลงาน-แนวคิด’ โดนใจ ‘ท่านผู้นำจีน’

(7 มี.ค. 66) ปักกิ่ง (เอเอฟพี/รอยเตอร์ส/ซีซีทีวี) - จีนเตรียมตั้งนายหลี่ เฉียง ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแทนที่ หลี่ เค่อเฉียง ในการประชุมสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้

สื่อต่างประเทศและสื่อของรัฐบาลจีนรายงานว่า จีนเตรียมแต่งตั้งหลี่ เฉียง วัย 63 ปี คนสนิทของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของจีนอย่างเป็นทางการ แทนที่ หลี่ เค่อเฉียง ในระหว่างการประชุมสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติ หรือเอ็นพีซี ที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ มีข้อมูลว่า นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง ที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านการปฏิรูปตลาด เริ่มถูกจำกัดบทบาท หลังจากที่นายสี จิ้นผิง กระชับอำนาจและเข้ามาจัดการด้านเศรษฐกิจ

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ที่คอยสังเกตการณ์แสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า การแต่งตั้งหลี่ เฉียง ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีจีน หรือเรียกได้ว่าเป็นผู้บริหารระดับสูงอันดับ 2 รองจากประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ถือว่ามีข้อดีคือ เขาจะได้รับความไว้วางใจอย่างมากจากผู้นำจีน แต่ก็เป็นช่องโหว่ในบางเรื่อง จากกรณีที่เขาเคารพและเกรงใจผู้นำจีนมากเกินไป ทำให้อาจมีผลต่อการทำหน้าที่ของเขา

ส่วนประวัติคร่าว ๆ ของ หลี่ เฉียง เคยดำรงตำแหน่งหัวหน้าเจ้าหน้าที่ประจำมณฑลเจ้อเจียงในระหว่างที่นายสี จิ้นผิง ดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคประจำมณฑลเจ้อเจียงเมื่อปี 2004-2007 และเป็นคนที่นายสี จิ้นผิง ให้ความไว้วางใจมากที่สุดในขณะนั้น ผลงานเด่นของ หลี่ เฉียง นั้นเป็นเรื่องการที่เขามุ่งไปในที่การพัฒนาเทคโนโลยีล้ำสมัยและนวัตกรรม เช่น อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งเรื่องเทคโนโลยีและนวัตกรรม นอกจากนี้ หลี่ ยังกำกับดูแลการลงทุนจากต่างชาติรายใหญ่ๆ ในเซี่ยงไฮ้ด้วย โดยผลงานที่โดดเด่นคือ การลงทุนโรงงานของเทสลา มูลค่ากว่า 50,000 ล้านหยวน ซึ่งเป็นการลงทุนหลักจากบริษัทสหรัฐฯ

เติ้ง อู่เหวิน อดีตบรรณาธิการของ Study Times สื่อทางการของโรงเรียนพรรคคอมมิวนิสต์จีนกล่าวว่า หลี่ เฉียง มีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับนายสี มากกว่า หลี่ เค่อเฉียงซึ่งหลังจาก หลี่ เฉียง ได้เป็นนายกรัฐมนตรีคาดว่า สี จิ้นผิง จะให้พื้นที่และอำนาจแก่เขามากขึ้น ในการบริหารจัดการเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ลำพังการสนับสนุนจากประธานาธิบดีสี อาจยังไม่พอ โดยในช่วงแรก ๆ นี้ หลี่ เฉียงต้องพยายามเอาชนะความเชื่อมั่นของคณะมนตรีรัฐกิจ และประชาคมโลกด้วย


ที่มา : https://www.naewna.com/inter/715502