Monday, 12 May 2025
NewsFeed

นายกรัฐมนตรี เป็นประธานมอบรางวัลเกียรติยศจักรดาว ผบ.ตร.รับรางวัลสาขาบริหารการปกครองและเสริมสร้างความมั่นคงแห่งชาติ

(27 ม.ค. 66) ณ โรงเรียนเตรียมทหาร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางมาเป็นประธานมอบรางวัลเกียรติยศจักรดาว ประจำปี 2566 จำนวน 11 ราย โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. นักเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 22 รับรางวัลเกียรติยศจักรดาว สาขาบริหารการปกครองและเสริมสร้างความมั่นคงแห่งชาติ

นอกจากนี้ยังมีข้าราชการตำรวจได้รับรางวัลอีก 2 ราย พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส. นตท. รุ่นที่ 25 รับรางวัลเกียรติยศจักรดาว สาขาพัฒนาสังคม และ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. นตท.รุ่นที่ 32 รับรางวัลเกียรติยศจักรดาว สาขาบริหารการปกครองและเสริมสร้างความมั่นคงแห่งชาติ

แม่ทัพภาคที่ 4 พบปะผู้บริหารทางการศึกษาเอกชน ผู้บริหารมูลนิธิตาดีกา จ.ชายแดนภาคใต้ ร่วมหารือแก้ปัญหาพื้นที่เพื่อสันติสุข

นราธิวาส-แม่ทัพภาคที่ 4 พบปะผู้บริหารทางการศึกษาเอกชน ผู้บริหารมูลนิธิตาดีกา จ.ชายแดนภาคใต้ ร่วมหารือแก้ปัญหาพื้นที่เพื่อสันติสุข เน้นย้ำ ใกล้ถึงถึงเดือนศีลอด ขอทุกฝ่ายจับมือ “รอมฎอนสันติ” ไม่เกิดเหตุรุนแรง เดือนอันประเสริฐ

ที่ห้องประชุม 1 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ตำบลเขาตูม อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 จัดกิจกรรม “พบปะผู้อำนวยการสำนักงานการศึกษาเอกชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อชี้แจงนโยบาย รับฟังความคิดเห็น และข้อเสนอ ร่วมกันขับเคลื่อนการแก้ปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้เกิดสันติสุขอย่างยั่งยืน โดยมี พลโท อุทิศ อนันตนานนท์ แม่ทัพน้อยที่ 4 / ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการข่าวกรอง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า, พลตรี กรกฎ ภู่โชติ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า, ผู้อำนวยการสำนักงานการศึกษาเอกชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สงขลา สตูล) และ ผู้อำนวยการสำนักงานการศึกษาเอกชนระดับอำเภอ 37 อำเภอ (3 จังหวัด และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา) เข้าร่วมฯ

จากนั้น แม่ทัพภาคที่ 4 และคณะฯ ได้ให้การต้อนรับ คณะจากมูลนิธิประสานงานตาดีกา 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นำโดย นายอับดุลรอนิง ดิงสาแม (เจะฆูรอนิง) รองประธานมูลนิธิศูนย์ประสานงานตาดีกา 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อพบปะพูดคุยหารือสร้างการมีส่วนร่วมในแนวทางการป้องกันและสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องแก่เยาวชนในพื้นที่ ตลอดจนประสานความร่วมมือขยายโอกาสทางการศึกษาทั้ง 5 จังหวัดให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เกิดการหนุนเสริมสร้างสันติสุขในพื้นที่

พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 กล่าวว่า "จากการปฎิบัติงานของ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ที่ผ่านมานั้น ได้ปฏิบัติงานตามกรอบนโยบายของรัฐ โดยน้อมนำยุทธศาสตร์พระราชทาน “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เป็นแนวทางในการร่วมกันพัฒนาพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ เป็นการเสริมสร้างความเข้าใจถึงแนวนโยบายแห่งรัฐและลดปัญหาความไม่เข้าใจในการดำเนินงานของภาครัฐในพื้นที่ รวมถึงการสานสัมพันธ์ให้มีความแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น นำไปสู่ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในการที่จะแก้ไขปัญหาและพัฒนาในพื้นที่ควบคู่กันไป ทั้งนี้ ในการร่วมกันแก้ไขปัญหาในพื้นที่นั้น หากจะให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า นอกจากจะให้ความสำคัญเรื่องการแก้ไขปัญหายาเสพติดแล้ว จะให้ความสำคัญเรื่องการศึกษาด้วยเช่นกัน เพราะการศึกษาถือเป็นรากฐานที่สำคัญของเยาวชนทุกคน อยากเห็นสถานศึกษาได้เปิดโอกาสให้เยาวชนแสดงความสามารถในการพูด และสอดแทรกวิชาการพูด การใช้ภาษาให้ถูกต้อง"

สำหรับกิจกรรม "พบปะผู้อำนวยการสำนักงานการศึกษาเอกชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้" นั้น กองอำนวยรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า จัดขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้บริหารสถานศึกษาผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการปลูกฝัง อบรม สั่งสอนเยาวชนของชาติ เพื่อให้น้องๆ เยาวชนเติบโตเป็นบุคลากรที่ดีของสังคมและประเทศชาติต่อไปในอนาคต ตลอดจนเพื่อให้ผู้บริหารสถานศึกษาได้รับทราบนโยบายการแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ของ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เพื่อวางกรอบนโยบายด้านการศึกษาให้สามารถดำเนินการคู่ขนานกับงานด้านความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ อีกทั้งเปิดรับฟังความคิดเห็น ปัญหา และข้อเสนอแนะ ที่ต้องการให้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า สนับสนุนแก้ไขปัญหาจากผู้บริหารสถานศึกษา ทุกระดับ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกัน อันเป็นการขับเคลื่อนงานร่วมกันในทุกมิติ เพื่อให้เกิดความรัก ความเข้าใจ ความสามัคคีของชุมชนและสังคม อันเป็นการร่วมกันสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นในพื้นที่ได้อย่างยั่งยืน

แม่ทัพภาคที่ 4 ยังกล่าวอีกว่า ใกล้ถึงถึงเดือนศิลอด หรือเดือนรอมฎอนของชาวไทยมุสลิม และมุสลิมทั่วโลก ที่ชาวมุลิมต้องถือศิลอด อีกประมาณ 1 เดือนเศษ อยากให้ทุกฝ่าย จับมือกันและคิด สร้างสภาวะแวดล้อม สร้างความสงบสุข 

'ยูเนสโก' ทูลเกล้าฯ ถวายตำแหน่งทูตสันถวไมตรีขององค์การยูเนสโก แด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

ยูเนสโก ทูลเกล้าฯ ถวายตำแหน่งทูตสันถวไมตรีขององค์การยูเนสโก ด้านการส่งเสริมศักยภาพของเด็กชนกลุ่มน้อย และการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรม แด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

นายอรรถพล สังขวาสี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากองค์การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ทูลเกล้าฯ ถวายตำแหน่งทูตสันถวไมตรีขององค์การยูเนสโกด้านการส่งเสริมศักยภาพของเด็กชนกลุ่มน้อย และการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรม (UNESCO Goodwill Ambassador for the Empowerment of Minority Children and the Preservation of their Intangible Cultural Heritage) แด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2548 

ทั้งนี้ ยูเนสโกได้เล็งเห็นคุณูปการอย่างใหญ่หลวง ที่ได้ทรงงานเพื่อพัฒนาการศึกษาและพัฒนาศักยภาพเด็กด้อยโอกาสที่อยู่ห่างไกลทั้งด้านการศึกษาและการพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่มากว่า 40 ปีก่อนที่องค์การยูเนสโกจะทูลเกล้าฯ ถวายตำแหน่งดังกล่าว และยังคงทรงงานอย่างต่อเนื่อง โดยวาระการดำรงตำแหน่งทูตสันถวไมตรีองค์การยูเนสโกของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมัยปัจจุบันได้สิ้นสุดลงในวันที่ 31 กรกฎาคม 2565 องค์การยูเนสโกจึงกราบบังคมทูลต่ออายุวาระในการดำรงตำแหน่งต่อไปอีก 2 ปี

ค่าจอดรถภายใน 'สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์' แพงไหม? ชั่วโมงละ 20 บาท วันละ 250 บาท เดือนละ 2,000 บาท

(27 ม.ค.66) เพจ 'โครงสร้างพื้นฐาน ประเทศไทย Thailand Infrastructure' ได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า...

ค่าจอดรถ ภายในสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ชั่วโมงละ 20 บาท วันละ 250 บาท เดือนละ 2,000 บาท แพงจริงมั้ย??? มาลองเทียบกัน

หลังจากที่มีข่าวการเปิดราคา ค่าจอดรถภายในสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ซึ่งล่าสุดผมเองก็เห็นป้ายที่ติดประกาศอยู่ในสถานี โดยแบ่งเป็น 3 เรทราคา คือ...

- รายชั่วโมง ชั่วโมงละ 20 บาท

- รายวัน วันละ 250 บาท

- รายเดือน เดือนละ 2,000 บาท (ต้องลงทะเบียน)

ทำให้มีกระแสดราม่าจากในหลายๆ สื่อ และหลายกลุ่ม มาแสดงความคิดเห็นว่าค่าจอดรถใน สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ แพงเกินไป…บางคนลามไปถึงจอดรถรายวันเกือบเท่าค่าแรงขั้นต่ำ

ผมเองก็สงสัยว่ามันแพงจริงมั้ย ผมเลยลองไปเปรียบเทียบกับค่าจอดรถ ของระบบ ขนส่งมวลชนอื่นๆ ว่าราคาเท่าไหร่กัน ตั้งแต่ สนามบิน, อาคารจอดแล้วจร ของ MRT และลานจอดรถของสถานีรถไฟหัวลําโพง

—————————

มาลองเทียบค่าจอดรถกันดู…

เริ่มต้นกันที่สนามบิน...

- สนามบินดอนเมือง 

1. อาคารจอดรถทั่วไป เริ่มต้นชั่วโมงละ 20 บาท รายวัน วันละ 250 บาท

2. บริการ valet Parking เริ่มต้น 4 ชั่วโมงแรก 150 บาท รายวัน วันละ 250 บาท

- สนามบินสุวรรณภูมิ

1. อาคารจอดรถทั่วไป เริ่มต้นชั่วโมงละ 25 บาท รายวัน วันละ 250 บาท

2. ลานจอดรถระยะไกล (ห่างจากอาคารผู้โดยสาร 2 กิโลเมตร) เริ่มต้นชั่วโมงละ 20 บาท รายวัน วันละ 140 บาท

อาคารจอดแล้วจร และลานจอดรถ MRT

- อาคารและลานจอดในโซนเมือง (ศูนย์วัฒนธรรม,ลาดพร้าว และลานจอดรถสถานีอื่นๆ) เริ่มต้นชั่วโมงละ 15 บาท (สำหรับผู้โดยสาร MRT และ 50 บาท (สำหรับบุคคลทั่วไป) รายเดือน เดือนละ 2,000 บาท

- อาคารนอกโซนเมือง (หลักสอง) เริ่มต้นชั่วโมงละ 10 บาท (สำหรับผู้โดยสาร MRT) และ 20 บาท (สำหรับบุคคลทั่วไป) รายเดือน เดือนละ 1,000 บาท

สำคัญที่สุด สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง)

- เริ่มต้นชั่วโมงละ 20 บาท 

- 10 ชั่วโมงขึ้นไป เหมาจ่ายรายวัน วันละ 300 บาท

—————————

ซึ่งถ้าเทียบแบบนี้ ผมว่าค่าจอดรถของสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ราคาเหมาะสม 

ไม่ได้แพงเกินไปสำหรับคนเดินทางและเชื่อมต่อ และไม่ถูกเกินที่จะให้คนเอารถมาจอดทิ้งไว้จนทำให้เป็นภาระของสถานี (เหมือนกับมักกะสันในอดีต) 

แล้วอย่าลืมว่าปกติผู้โดยสารรถไฟไม่ได้เช้าไป-เย็นกลับ แบบการเดินทาง ทางเครื่องบิน (ผมก็เอารถไปจอดสนามบินบ่อย) ยกเว้นคนจะมาจอดเพื่อเดินทางต่อไปสนามบินดอนเมือง ซึ่งก็มีที่จอดสะดวกกว่าตัวสนามบิน (ลานจอดรถเต็มตั้งแต่ 7 โมงเช้า)

พปชร.ออกซิงเกิลใหม่ ก้าวข้ามความขัดแย้ง สร้างสรรค์การเมืองใหม่ ปรองดองด้วยหัวใจ

ไม่นานมานี้ พรรคพลังประชารัฐ ได้ออกเพลงใหม่ มีเนื้อหาดังนี้...

พลังประชารัฐ

A1: มาเรามาด้วยกัน ร่วมสร้างสรรค์การเมือง

     เพื่อความรุ่งเรือง ต้องมาด้วยกัน

     อะไรที่มีที่ไม่เข้าใจ ก็แก้กันไปคนไทยช่วยกัน

B: หยุดความหวาดระแวง และมาปรองดองหัวใจ

    ต้องทำให้ได้ ต้องทำให้ได้ รักกัน

Hook: พลังประชารัฐ จะก้าวข้ามความขัดแย้ง

          รวบรวมทุกแรง ไม่แบ่งความรักศรัทธา

          พลังประชารัฐ จะขอรวมใจประชา

          ให้ไปข้างหน้า เพื่อวันแห่งความสดใส

          ด้วย...พลังประชารัฐ

A2: เราเคยมีผลงาน ผ่านให้เห็นกันมา

      ได้พัฒนา ดูแลบ้านเมือง

      และพร้อมอาสาดูแลต่อไป จะทุ่มสุดใจให้ไทยรุ่งเรือง

ผลสำรวจ 10 อันดับองค์กรที่คนรุ่นใหม่อยากทำงานด้วยมากที่สุด ประจำปี 2566

WorkVenture ที่ปรึกษาและผู้นำด้านการสร้างแบรนด์นายจ้างและโซลูชันแบบครบวงจรจของเมืองไทย ได้จัดงาน Top 50 Companies in Thailand 2023 Awards เผยผลสำรวจองค์กรที่คนรุ่นใหม่อยากร่วมงานด้วยมากที่สุด โดย 10 อันดับแรก มีดังนี้...

1. กูเกิล ประเทศไทย

2. ไลน์

3. ปูนซิเมนต์ไทย

4. ปตท.

5. แอปเปิ้ล

6. อโกด้า

7. กลุ่มมิตรผล

8. โตโยต้า มอเตอร์

9. ไทยเบฟ

10. กลุ่มบีเจซี บิ๊กซี

Tham Luang Rescue : Power of Unity สุดยอด!! คว้าอีกรางวัลใหญ่จากเทศกาลหนังที่แคลิฟอร์เนีย

ไม่นานมานี้ คุณศศิวิมล อยู่คงแก้ว ภริยาของ พล.ร.ต.อาภากร อยู่คงแก้ว ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ (หรือหน่วยซีล) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งผู้มีบทบาทหน้าที่สำคัญในภารกิจพาทีมหมูป่าออกจากถ้ำหลวง ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กส่วนตัว 'Sasivimon Youkongkaew' ข้อความว่า...

ได้อีก 1 รางวัลค่ะ

เมื่อเช้าตรู่วันนี้ (27 ม.ค.66) มีการประกาศผลรางวัลของงานเทศกาลหนัง The Impact DOCS Awards เป็นงานเทศกาลหนังที่แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา สารคดี Tham Luang Rescue : Power of Unity ได้รับรางวัลประเภท Award of Recognition : Documentary Feature 

We believe in the power of film to IMPACT the world and documentary filmmakers are often on the leading edge of global change by shifting perceptions, behavior and habits of the viewers. It takes great talent to entertain viewers with subject that are real. : #theimpactdocsawards

สำหรับ 'รวมพลังกู้ภัยถ้ำหลวง Tham Luang Rescue : Power of Unity (2022)' เป็นสารคดีที่ได้รวบรวมฟุตเทจจาก มูลนิธินักทำลายใต้น้ำจู่โจม ซึ่งยังไม่เคยถูกเปิดเผย โดยอยู่ภายใต้หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ หนึ่งในทีมปฎิบัติหน้างานในเหตุการณ์ถ้ำหลวง ถ่ายทอดออกมาในรูปแบบของ สารคดี ร่วมผลิตโดยช่อง thaipbs ประกอบด้วยทั้งหมด 4 ตอน ได้แก่...

1. กลับบ้านเถอะลูก

2. ​ภารกิจไม่สำเร็จ เราไม่พบ เราไม่เลิก

3. สร้างขวัญ ปลุกกำลังใจ

4. We are a team

ผู้สนใจสามารถรับชมได้ทาง >> https://program.thaipbs.or.th/ThamLuang/episodes

Elie Saab แบรนด์ห้องเสื้อดัง เปิดตัวคอลเลกชันใหม่ 'รุ่งอรุณสีทอง' แรงบันดาลใจที่มาจากความเป็นไทย

ทำเอาวงการแฟชั่นทั่วโลกฮือฮาไม่น้อย เมื่องาน Paris Fashion Week 2023 ในครั้งนี้ เกิดเสียงชื่นชมอย่างมาก หลังจาก Elie Saab แบรนด์ห้องเสื้อชื่อดังจากฝรั่งเศส ได้ออกคอลเลกชันใหม่โอกูตูร์ ประจำฤดูร้อน/ฤดูใบไม้ผลิ 2023 ที่ทำออกมาได้สวยสง่า สะดุดตาทุกผู้พบเห็น เพราะได้รับบันดาลใจมาจากเมืองไทย พร้อมตั้งชื่ออันเป็นมงคลด้วยว่า 'รุ่งอรุณสีทอง' (The Golden Dawn)

สำหรับที่มาของแรงบันดาลใจในคอลเลกชันใหม่นี้ ทางคุณโจ มณฑานี ตันติสุข นักเขียนและวิทยากรการเงิน ได้โพสต์อธิบายผ่านเฟซบุ๊ก ด้วยว่า...

พี่โจไปพบบทความ WOMEN WEAR DAILY ที่เพิ่มข้อมูลอันน่าตื่นตาตื่นใจ ของแรงบันดาลใจที่ทำให้ยอดดีไซเนอร์โลกออกแบบแฟชั่นชุดสปริงซัมเมอร์ The Golden Dawn ว่ามาจากชุดไทยในปี 1964 ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ของเราเองค่ะ

และหลายชุดในคอลเลกชันได้แรงบันดาลใจจากพญานาค ที่เป็น The legendary Naga Dragon สัตว์ในตำนานของ #ประเทศไทย

UPDATE พี่โจลืมบอก คุณ ES บอกว่าแรงบันดาลใจจากประเทศไทยเพราะเขาชื่นชอบความ ROYAL REGAL MAJESTIC จึงอยากสื่อออกมาในชุด

(3 คำ คือ ราชวงศ์ เจ้า และหรูหราสง่างามเยี่ยงเชื้อพระวงศ์ ก็แปลว่า ผู้ออกแบบเชื่อมโยงไทยกับความงามวิไล ยิ่งใหญ่แบบเจ้าราชวงศ์นั่นเองค่ะ)

อ่านลิงก์เต็มได้ที่นี่ >> https://wwd.com/runway/spring-couture-2023/paris/elie-saab/review/?fbclid=IwAR0uc5Dim3E2OlLn5bgUS2BNAPnP_rOtPIw4etf3_X9e0KHVKKSfdC_Mk4M&mibextid=Zxz2cZ

ชมภาพทุกชุด ขั้นตอนตัดเย็บ พร้อมวิดิโอโชว์เต็มๆได้ที่นี่ >> https://us.eliesaab.com/collections/haute-couture-spring-summer-2023

'อนุทิน' รุดโคราชพบ 'บุญจง' คืนถิ่นภูมิใจไทย พร้อมส่งชนเด็ก 'กำนันป้อ' หลังชิ่งไปซบ พท.

'ลุงหนู' ลงพื้นที่โคราช พบ 'บุญจง' หลังรีเทิร์น พรรคภูมิใจไทย ชนเด็ก 'กำนันป้อ' ที่หอบกันไปย้ายซบเพื่อไทย

เมื่อวานนี้ (27ม.ค.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ รมว. สาธารณสุข และ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้ลงพื้นที่นครราชสีมา และได้พบกับ นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ อดีต รมช.มหาดไทย 

โดยมีรายงานว่า นายบุญจง จะสมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทยอีกครั้ง และลงสมัคร ส.ส. นครราชสีมา เขต 9 แข่งกับ นายอภิชา เลิศพชรกมล อดีต ส.ส.นครราชสีมา ที่พึ่งลาออกจากพรรคภูมิใจไทย พร้อม นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล อดีต รมช.คมนาคม ที่มีกระแสข่าวจะไปอยู่พรรคเพื่อไทย

'ณัฐวุฒิ'​ ปัด 'ทักษิณ'​ แยกสลายเสื้อแดง โบ้ยต้นเหตุมาจาก 'จตุพร'​ ถูกพรรคเพื่อชาติต้ม

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย อดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) โพสต์คลิปลงในเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับเรื่อง "จุดแยกทางแกนนำนปช. ความจริงอีกมุมหนึ่ง เพื่อความครบถ้วนรอบด้าน" โดยระบุว่า “เมื่อมีเหตุการณ์ที่แกนนำ นปช. แยกทางกันออกเป็น 2 ส่วน และการดำรงสภาพขององค์กร นปช.ไม่ได้มีอยู่จริงอีกเลยนับตั้งแต่บัดนั้น หลังจากที่คุณจตุพรในฐานะแกนนำ ออกจากคุกกลางปี 2561 เราก็มีการพบปะ ประชุมกันตามปกติ เพราะวิถีขององค์กร นปช.ตั้งแต่ก่อตั้งจนถึงช่วงเวลานั้น กระทั่งวันหนึ่งคุณจตุพรได้ปรารภหลังจากการประชุมเสร็จสิ้นไปแล้ว ในช่วงที่มีการสังสรรค์กันกับพี่น้องนปช.จำนวนหนึ่ง ซึ่งมีผมนั่งอยู่ในนั้นด้วยว่า ได้ตกลงใจที่จะทำพรรคการเมืองหนึ่งคือ พรรคเพื่อชาติ ร่วมกับนักการเมืองอีกกลุ่มหนึ่ง นำโดยนักการเมืองคนสำคัญ ซึ่งเป็นที่ข่าวปรากฎว่าร่วมกันก่อตั้งพรรคการเมืองกับคุณจตุพร นั่นเอง”

“ผมนั่งฟังจนจบแล้วก็ทักท้วงขึ้นมาว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มา สำหรับขบวนการของเราที่เดินกันมา เพราะเราไม่เคยคุยกันอย่างจริงจังว่าเราจะตั้งพรรคการเมือง ผมจึงเสนอไปว่าเรื่องนี้ควรต้องนำเข้าที่ประชุมแกนนำนปช. ถ้าหากไปตกลงกันไว้ก่อน มันไม่ใช่วิถีทางที่เรายึดถือ ปฏิบัติร่วมกันมา บรรยากาศตอนนั้นก็เริ่มกลายเป็นความเห็นไม่ตรงกัน ผมมีเซ้นส์ว่าภารกิจนั้นจะเดินต่อไปด้วยความลำบาก และถึงที่สุดคงไม่ประสบความสำเร็จ จังหวะหนึ่งผมเดินไปเข้าห้องน้ำ พราหมณ์ศักดิ์ระพี พรหมชาติ ก็เดินตามไป ผมบอกพราหมณ์ว่าเป็นห่วงใยอย่างยิ่งในเรื่องที่เราคุยกัน และเรื่องนี้จะมีการต้มกันครั้งยิ่งใหญ่ ความหมายของผมในตอนนั้นคือระวังกลุ่มที่มาชวนคุณจตุพรนั่นแหละ จะต้มกันและภายหลังก็ทราบว่าการดำเนินการของพรรคการเมืองนี้มีความขัดแย้งกันอย่างสูง ตั้งแต่ส่งรายชื่อผู้สมัคร ซึ่งเหตุผลข้อเท็จจริงเป็นไปอย่างไรผมไม่ก้าวล่วง หลังจากนั้นผมก็เสนอไป 2-3 ครั้งในไลน์กลุ่มของแกนนำนปช.ว่าเรื่องนี้ต้องนำเข้าที่ประชุมแกนนำนปช. ซึ่งอาจารย์ธิดาก็เห็นตรงกันว่าต้องพิจารณาเรื่องนี้ในที่ประชุมตามวิถีของเรา แต่ข้อเสนอไม่ได้รับการตอบสนอง ไม่มีการประชุมนัดหมายแกนนำนปช.อีกเลย ขณะที่วาระของพรรคเพื่อชาติก็ยังเดินทางต่อไป”

“เรื่องของพรรคเพื่อชาติ ผมได้ติดต่อไปยังนายกฯทักษิณ ว่าท่านมีแนวทางให้ทำพรรคเพื่อชาติหรือไม่ ก็ได้รับคำตอบว่าไม่มีแนวทางดังกล่าวแต่อย่างใด ซึ่งอยากตรวจสอบ เราไม่ได้ไปด้วยกับพรรคเพื่อชาติ เพราะไม่ได้มีการหารือกันตั้งแต่ต้น เวลานั้นยังไม่มีเรื่องพรรคไทยรักษาชาติ...ซึ่งเราเข้าไปเป็นสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติในภายหลัง โดยการพูดคุยกันได้ข้อสรุปรวมกัน ดังนั้นจุดแยกที่สำคัญขององค์กร นปช.จึงอยู่ที่กระนวนการในการทำงานซึ่งเราไม่ได้รักษาวิถีแห่งเรา ไม่ได้บอกกล่าว ไม่ได้ประชุมใด ๆ ก่อนที่จะตัดสินใจครั้งสำคัญ นี่เป็นข้อเท็จจริงยังผลให้องค์กรนำของนปช. ไม่คงสภาพอยู่จนถึงปัจจุบัน ซึ่งเรื่องราวก็ผ่านมาหลายปี ผมไม่มีเจตนาจะหาคนถูกคนผิดในเรื่องนี้ แต่เหตุผลของผมก็คือความจริงมันต้องถูกบันทึก และนำเสนอ ผมกับพี่น้องแกนนำนปช.ที่เรายังทำงานการเมืองร่วมกัน เราก็รักษาแนวปฏิบัติเดิม คือมีอะไรเราก็ต้องหารือร่วมกัน เราหันว่าเหตุการณ์ที่เป็นจุดแยกของแกนนำนปช.เป็นเรื่องสำคัญต้องบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ให้ครบถ้วนรอบด้าน"

ก่อนหน้านี้ นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน และ อดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เฟซบุ๊กไลฟ์ว่า "ในช่วงที่ติดคุกนั้น มีคนทักษิณไปเยี่ยมตลอด และพูดให้มาช่วยพรรคการเมืองหาเสียงเลือกตั้งปี 2562 เพื่อเอาคะแนนไปเติมให้กับฝ่ายประชาธิปไตย ตนบอกให้ทักษิณการันตีจึงจะไป เมื่อออกจากคุกทักษิณก็โทรศัพท์มาการันตี ขณะเดียวกันก็เอา นปช.อีกส่วนหนึ่งไปอยู่กับพรรคไทยรักษาชาติ ซึ่งไปคนละทาง แล้วต้องมาโกรธกันจริงจังเลยในตอนนี้ ส่วนคนที่เดินเกมที่เป็นคนของทักษิณ ก็เอาลูกไปอยู่ไทยรักษาชาติ แล้วตัวเองมาอยู่เพื่อชาติที่ชวนผมไปช่วยหาเสียง ขณะเดียวกันก็ดึงคนที่อยู่เพื่อไทยไปอยู่ไทยรักษาชาติ คนหนึ่งถูกหลอกมาเป็นแคนดิเดทนายกฯ ส่วนเพื่อไทยเสนอคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็นแคนดิเดทนายกฯ โดยที่ไม่บอกว่า ไทยรักษาชาติจะเสนอใครเป็นแคนดิเดทนายกฯ"

"เมื่อไทยรักษาชาติถูกยุบ จึงรู้ว่าถูกหลอกแล้ว แต่ดิ้นไม่ออกต้องบากหน้าเดินหาเสียงให้เพื่อชาติไปจนจบ แล้วประกาศเลิกลากันไป ทั้งที่เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง เอากระดูกมาแขวนคอ ครอบครัวเดือดร้อนสาหัส ยิ่งกว่านั้น ขบวนการเสื้อแดงถูกเกมทักษิณแยกสลาย และก็ทำได้ด้วย ที่สำคัญมีบาดแผลยากเยียวยา แล้วต้องแยกกันตลอดกาล เราพยายามเจอกันบ้างเวลาขึ้นศาลมีคดี"


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top