Monday, 12 May 2025
NewsFeed

‘ศุภชัย’ มองเกม ‘ก้าวไกล’ ค้านย้าย ‘หมอสภัทร’ เข้าตำรา ‘น้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า’ ของคนพวกเดียวกัน

‘ศุภชัย ใจสมุทร’ ตั้งข้อสังเกต ‘ก้าวไกล’ ออกตัวคัดค้าน ย้าย ‘หมอสุภัทร’ เข้าตำรา น้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า ชี้ โยกย้ายข้าราชการโดยไม่กลั่นแกล้งถือเป็นเรื่องปกติ

กระทรวงสาธารณสุขได้มีคำสั่งย้ายนายแพทย์สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ จากผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะ จังหวัดสงขลา ประธานชมรมแพทย์ชนบทไปเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลสะบ้าย้อย จ.สงขลา ซึ่งไม่ห่างไกลกันมากนัก

ต้องยอมรับความจริงว่า ในช่วงที่นายแพทย์สุภัทร นั่งเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะ ได้ปรับปรุงระบบบริการ การบริหารจัดการโรงพยาบาลจะนะไปมากจนเป็นที่พอใจของประชาชน

อีกบริบทหนึ่งของนายแพทย์สุภัทร คือการขับเคลื่อนทางสังคมในฐานะประธานชมรมแพทย์ชนบท และมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการคัดค้านนิคมอุตสาหกรรมก้าวหน้าจะนะ ที่มีเยาวชนกลุ่มรักษ์บ้านเกิดจะนะ เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการคัดค้าน ซึ่งเป็นโครงการภายใต้การผลักดันของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เพื่อให้เกิดเมืองต้นแบบของเหลี่ยมเศรษฐกิจ และนิคมอุตสาหกรรมก้าวหน้าจะนะ เป็นหนึ่งในสี่ของเมืองเหลี่ยมเศรษฐกิจ

ถ้านิคมอุตสาหกรรมก้าวหน้าจะนะเกิดขึ้นจริง จะเกิดการลงทุนหลายแสนล้าน เกิดการจ้างงานหลายหมื่นอัตรา จะเกิดท่าเรือ ภายใต้การลงทุนของภาคเอกชน

แต่เมื่อมีกลุ่มคัดค้าน ทางภาครัฐก็ต้องรับฟังความคิดเห็นที่รอบด้าน ทำให้โครงการนี้ยังชะลออยู่ โดยอยู่ระหว่างการศึกษารายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (SEA) โดยนายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินโครงการจัดทำการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ (SEA) สำหรับแผนแม่บทการพัฒนาเชิงพื้นที่ของจังหวัดสงขลาและปัตตานี ว่า เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.2565 สศช.ได้ลงนามสัญญาว่าจ้างมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) ในการจัดทำ SEA แผนแม่บทการพัฒนาเชิงพื้นที่ของจังหวัดสงขลาและปัตตานี วงเงินค่าจ้าง 28.22 ล้านบาท 

ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์จะเริ่มต้นศึกษา SEA แผนแม่บทฯดังกล่าว ตั้งแต่เดือน ม.ค. 2566 โดยใช้เวลาศึกษานาน 18 เดือน หรือแล้วเสร็จในช่วงกลางปี 2567 ขณะที่การจัดทำ SEA ครั้งนี้ จะมีการจัดเวทีประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนรวม 40 เวที และมีผู้เข้าร่วมฯไม่น้อยกว่า 3,000 คน แบ่งเป็นปี 2566 จำนวน 32 เวที โดยมีผู้เข้าร่วมไม่น้อยกว่า 2,100 คน และปี 2567 จำนวน 8 เวที โดยมีผู้เข้าร่วมไม่น้อยกว่า 900 คน 

'สภาพัฒน์ฯ' พยายามที่จะให้ทุกฝ่ายได้มีส่วนร่วมในการจัดทำแผนแม่บทในครั้งนี้เพื่อลดความขัดแย้ง และความซ้ำซ้อนในการทำงานลง เบื้องหากแผ่นแม่บทการพัฒนาพื้นที่สงขลา และ ปัตตานีแล้วเสร็จ จะมีการคัดเลือกแนวทางที่เหมาะสมกับการพัฒนาพื้นที่ต่อไป ทั้งนี้สภาพัฒน์ฯคาดกการณ์ว่า หากแผนออกมาแล้วจะเกิดการพัฒนาเชิงพื้นที่ในพื้นที่ภาคใต้ที่มีความครอบคลุมมากยิ่งขึ้น

สภาพัฒน์ใช้คำว่า แผนแม่บทการพัฒนาพื้นที่สงขลา-ปัตตานี เข้าใจได้ว่ายังไม่เลือกพื้นที่ แต่ประชาชนทั่วไปรับรู้กันหมดแล้วว่า จะเกิดขึ้นในสามตำบลของอำเภอจะนะ ย่านตำบลตลิ่งชัน ต.สะกอม นั่นแหละ

‘ก้าวไกล’ ขวางย้าย ‘หมอสุภัทร’ 

โดย 'ก้าวไกล' ออกแถลงการณ์ ไม่เห็นด้วย ปมย้าย 'หมอสุภัทร' พร้อมเรียกร้องให้กระทรวงสาธารณสุข ทบทวนคำสั่ง

โดยแถลงการณ์ระบุว่า พรรคก้าวไกลขอแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับคำสั่งดังกล่าว และขอตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการโยกย้ายด้วยเหตุผลทางการเมืองหรือไม่ เนื่องจากนายแพทย์สุภัทรเป็นข้าราชการที่ทำงานเป็นปากเสียงแทนประชาชน มีความกล้าหาญในการแสดงความเห็นคัดค้านผู้มีอำนาจ และเปิดเผยข้อมูลสาธารณสุขที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมอย่างต่อเนื่อง จึงขอให้กระทรวงสาธารณสุขทบทวนคำสั่งดังกล่าวโดยคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศและประชาชน

ด้านนายแพทย์สุภัทร โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวระบุตอนหนึ่งว่า ปี 2563 ผมรับภารกิจเป็นประธานชมรมแพทย์ชนบทอีกตำแหน่งหนึ่ง ทำหน้าที่ทักท้วงเสนอแนะเรื่องราวใน สธ. อาทิ การไม่เห็นด้วยต่อนโยบายกัญชาเสรี การโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรม การบริหารจัดการโควิดและวัคซีน การไม่ลงนามงบส่งเสริมป้องกันปี 2566 หรือ การซื้อ ATK ที่มีข้อสงสัย สิ่งเหล่านี้สร้างความหงุดหงิดต่อใครบางคน จนนำมาสู่คำสั่งให้ย้ายผมให้ได้ก่อนยุบสภา

จริง ๆ การจะย้ายผมไม่ยากเลย เพียงแค่ปลัดกระทรวงสั่งย้ายตามอำนาจที่ท่านมี (แต่ต้องมีเหตุมีผลด้วยนะ) แต่เพราะตำแหน่งผมเป็นตำแหน่งวิชาการระดับเชี่ยวชาญ ไม่มีเกณฑ์ที่ต้องถูกย้ายตามวาระ เหตุความผิดที่ต้องถูกย้ายก็ไม่มี ผมเองก็ไม่ได้สมัครใจย้าย ปลัดกระทรวงจึงไม่กล้าเซ็นเอง เพราะกลัวผิดกฎหมายอาญา ม. 157 ก็เลยต้องมีการสั่งการให้ผู้ตรวจราชการเป็นคนเซ็น ใครลงนามจะได้เลื่อนชั้นรวดเร็ว เรื่องราวจึงโกลาหล

เมื่อการโยกย้ายนายแพทย์สุภัทร มีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง พรรคก้าวไกลคัดค้านเรียกร้องให้ทบทวน เจ้าตัวก็ไม่เต็มใจ แต่อาชีพรับราชการการโยกย้ายถือเป็นเรื่องปกติ และไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งแห่งหนใดก็สามารถแสดงความคิดเห็น จุดยืนได้อยู่แล้ว นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย จึงออกมาตั้งข้อสังเกตผ่านโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว (Suphachai  Jaismut) ว่า 

‘อุ๊งอิ๊ง’ ขนทัพ ‘เพื่อไทย’ ปราศรัยใหญ่ จ.เลย ลั่น!! มุ่งทำเพื่อ ปชช. ไม่มุ่ง ‘พาพ่อกลับบ้าน’

(27 ม.ค. 66) เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ท่าอากาศยานเลย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ลงพื้นที่ร่วมกิจกรรมปราศรัยใหญ่ ในงาน #แลนด์สไลด์เพื่อไทยเท่านั้น โดยทันทีที่เดินทางมาถึงมี แกนนำพรรคเพื่อไทย อาทิ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วย ส.ส.จังหวัดเลย อาทิ นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล นายศรัณย์ ทิมสุวรรณ และประชาชนร่วมรอรับและมอบดอกกุหลาบ เพื่อให้กำลังใจ พร้อมส่งเสียงตะโกน “เพื่อไทย สู้ๆ” “อุ๊งอิ๊ง สู้ๆ” พร้อมชูป้ายความยินดีต้อนรับ จนเสียงดังสนั่น ณ สนามบินเลย โดยการลงพื้นที่ครั้งนี้ถือเป็นการลงพื้นที่หาเสียงในนามพรรคเพื่อไทยครั้งแรก หลังจากที่ก่อนหน้านี้จะลงพื้นที่ในนามครอบครัวเพื่อไทย โดยจุดแรกที่ลงพื้นที่ปราศรัยคือที่สนามกีฬากลางจังหวัด อ.เมือง จ.เลย

จากนั้นคณะพรรคเพื่อไทยได้หารือกับตัวแทนภาคเอกชนจังหวัดเลยที่ร้านอาหารล้านช้าง ก่อนเดินทางไปยังเวทีปราศรัยจุดแรก โดย น.ส.แพทองธาร ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่ของพรรคเพื่อไทย ว่า การลงพื้นที่หาเสียงครั้งนี้ถือเป็นการเดินสายหาเสียงอย่างเป็นทางการของพรรคเพื่อไทย หลังจากนี้พรรคจะเดินหน้าหาเสียงทั่วประเทศ เพื่อพบประชาชนให้ได้มากที่สุด ในส่วนของตนที่ยังสามารถเดินทางด้วยเครื่องบินได้ ก็จะพยายามลงพื้นที่ให้ได้มากที่สุด เมื่อใกล้คลอดจะปรับเป็นนั่งรถไปแทน โดยพยายามไปให้ได้มากที่สุดโดยปรึกษาคุณหมอตลอด จะไม่ทำอะไรให้มากเกินไป

เมื่อถามว่า การเลือกตั้งยังไม่เกิดขึ้นแต่มีการพูดถึงการจับมือทางการเมืองหลังเลือกตั้งระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคพลังประชารัฐ เพื่อนำ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับบ้าน น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ยังไม่เคยคุยกันเลย เราจะเดินสายอุ้มท้องหาเสียงต่อไปเพื่อเป้าหมายเลนส์สไลด์นี่คือสิ่งที่นี่คือเป้าหมายที่พรรคเพื่อไทยตั้งใจทำ

เมื่อถามย้ำว่า นายทักษิณ ระบุว่าจะกลับบ้านเมื่อใดให้ น.ส.แพรทองธาร จะเป็นผู้ประกาศ น.ส.แพทองธาร ตอบว่า “ยังไม่ได้บอกจะกลับเมื่อไหร่อย่างไร ที่บอกให้อิ๊งค์เป็นคนบอกก็ตามนั้น ส่วนจะกลับมาแบบไหนนั้น คุณพ่อออกไปหลายปีแล้ว คงมีวิธีและวิธีการว่าจะมาอย่างไรอิ๊งค์ก็เคารพการตัดสินใจและท่านก็พูดเองว่าจะไม่เอาพรรคการเมืองมาเกี่ยวข้อง ดังนั้น การที่มาอยู่ตรงนี้ พรรคเพื่อไทยอยู่ตรงนี้ เราจะมุ่งหน้าหาเสียงทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน ไม่ได้มุ่งเน้นเรื่องพานายทักษิณกลับบ้าน ขอให้แยกเรื่องกัน”

เมื่อถามอีกว่า การจับมือกับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ตัดไปได้เลยใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตนไม่เคยคุย และข่าวที่ออกมาจะกระทบกับกระแสพรรคหรือไม่นั้น ตนคิดว่าประชาชนติดตามข่าวน่าจะมีวิจารณญาณว่าเป็นอย่างไร เพราะตอนนี้ตนไม่ได้คุยจริงๆ ยังไม่มีดีล ไม่ได้คุย ก็ไม่รู้จะตอบประชาชนอย่างไร

เมื่อผู้สื่อข่าวได้ถามถึงกรณี นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน ออกมาโจมตีนายทักษิณหนักมาก พรรคจะดำเนินการอย่างไร นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยไม่มีแนวทางตอบโต้กับนายจตุพร หรือใครก็ตามที่วิพากษ์วิจารณ์ในส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องกับนโยบาย เราเชื่อว่าการทุ่มเททำงานหนักเพื่อนำประชาธิปไตยกลับคืนมา เปลี่ยนแปลงรัฐบาลเอานโยบายเพื่อไทยแก้ปัญหาประชาชนคือเรื่องสำคัญอันดับหนึ่ง ต้องทำให้สำเร็จให้ได้

สำหรับนายจตุพร แม้เหตุการณ์ตอนนี้ก็ไม่เคยรู้สึกเป็นปฏิปักษ์ แต่ถ้าสื่อสารถึงกันได้บ้าง อยากบอกว่า สิ่งที่เกิดขึ้นมันน่าจะเพียงพอหรือได้ข้อยุติสำหรับการแสดงท่าทีแล้วหรือไม่ ขอให้พวกเราพี่ ๆ น้อง ๆ ได้ทำงานในสนามเลือกตั้ง เราไม่ทะเลาะกับนายจตุพร หากไม่สบายใจก็ไม่เป็นไร หากนายจตุพรจะหันมาที่ตน ตนยังพร้อมทำงานในฐานะผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทยต่อไป โดยไม่แสดงความเป็นปฏิปักษ์

“อยากให้มองมาที่พรรคเพื่อไทย เป็นพี่ เพื่อน น้อง ที่เคยยืนเคียงข้างกัน วันนี้เราทำงานหนักเพื่อนำบ้านเมืองให้รอดจากวิกฤต ดังนั้น ขอให้เราได้มีสมาธิทำหน้าที่ เราต่างเคยยืนเคียงข้างนายทักษิณ ในสนามเลือกตั้ง เคียงข้างผู้นำของพรรคการเมืองนี้ตลอด วันนี้ผมยืนข้าง น.ส.แพทองธาร พี่ก็ทราบว่าน้องอิ๊งค์มีหัวใจเป็นคนเสื้อแดง เติบโตมากับการเห็นภาพการถูกกระทำของคนเสื้อแดง หลั่งน้ำตาให้กับการสูญเสีย กับความเจ็บปวดของคนเสื้อแดง อยากให้พี่นึกถึงภาพวันแบบนั้น ให้น้องอิ๊งค์ได้ทำหน้าที่อย่างที่ควรจะทำ อย่างที่ประชาชนตั้งความหวังอย่างที่ประเทศไทยกำลังรอโอกาส และเชื่อว่าพี่น้องเสื้อแดงหากจะไปสนับสนุนพรรคอื่นในฝ่ายประชาธิปไตย คงเป็นด้วยเหตุผลอื่น ไม่น่าจะเป็นเพราะประเด็นที่นายจตุพรเปิดออกมา และยังเชื่อว่าพี่น้องเสื้อแดงส่วนใหญ่สนับสนุนพรรคเพื่อไทยอยู่

ส่วนคนเสื้อแดงที่ไม่สมหวังกับการจัดตัวผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย ผมสอบถามกับคณะกรรมการสรรหาอยากให้มีการอธิบายแบบตรงไปตรงมา แต่ที่เปิดตัวไปมีคนเสื้อแดงจำนวนมากที่ได้โอกาส ยืนยันเราไม่เคยคิดทอดทิ้งทำลายน้ำใจกัน หวังเมื่อเข้าสู่การเลือกตั้งพี่น้องเสื้อแดงจะทบทวนวิธีคิดและจับมือร่วมกันเหมือนเดิม และเหมือนที่ น.ส.แพทองธาร บอก เป้าหมายแลนด์สไลด์ไม่ใช่เพื่อพานายกฯ ทักษิณ เป็นคนละประเด็นกัน ท่านก็พูดจะกลับหรือไม่อยู่ที่หัวใจท่าน ไม่ได้อยู่ที่พรรคการเมือง ดังนั้น แลนด์สไลด์ของพรรคเพื่อไทย เพื่อเอาประยุทธ์ (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม) ประวิตรกลับบ้าน (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ) เอารัฐบาลสืบทอดอำนาจเผด็จการกลับบ้าน” นายณัฐวุฒิ กล่าว

‘นันทิวัฒน์’ โพสต์เดือด!! จี้ ‘ผู้บริหารจุฬาฯ’ ลาออก หลังปล่อยนิสิตย่ำยี ‘พระเกี้ยว’ เหมือนของข้างถนน

(27 ม.ค. 66) นายนันทิวัฒน์ สามารถ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ในฐานะนิสิตเก่าจุฬา รุ่นปี 2512 ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก ‘Nantiwat Samart’ แสดงความคิดเห็นกรณีมีนักศึกษารายหนึ่งย่ำยีพระเกี้ยวซึ่งเป็นสัญลักษณ์ประจำมหาวิทยาลัย โดยนำมาจัดใส่พานนำไปวางที่บันได และโรยอาหารสุนัขรอบ ๆ

นายนันทิวัฒน์ ระบุว่า "ลาออกดีกว่าไหม? นิสิตจุฬาที่เอาสัญลักษณ์ของสถาบันฯ พระเกี้ยวซึ่งเป็นตราสัญลักษณ์ทีได้รับพระราชทาน มาเล่นเป็นของต่ำข้างถนน โดยอ้างว่าทำงานศิลปะ มันเป็นศิลปะตรงไหน แต่มันคือการเปลือยตัวเองล่อนจ้อน มันคือความพยายามในการดึงของสูงมาเล่น มันคือการแสดงตนเป็นปฏิปักษ์กับสถาบันฯ คนที่ไม่มีความรัก ไม่เคารพสถาบันที่ตัวเองศึกษา ไม่รับนับถือในประเพณี ต่อต้านทุกสิ่งทุกอย่างที่คนส่วนมากให้การยอมรับ โดยอ้างเสรีภาพ กฎระเบียบของสังคมไม่ได้มีให้ต่อต้าน บางอย่างเปลี่ยนแปลงได้ แต่บางอย่างห้ามเปลี่ยนแปลงโดยเด็ดขาด

พระเกี้ยวเป็นสัญลักษณ์ที่ชาวจุฬาให้ความเทิดทูนเป็นของสูง และมีความภูมิใจในพระเกี้ยวที่ติดหน้าอกเสื้อหากผู้ใดที่คิดว่า ไม่ใช่ เธอมาอยู่ผิดที่ผิดทางแล้ว ที่นี่อาจไม่ใช่ที่เหมาะกับเธอ ไปอยู่ในที่ที่ชอบไปไคว่คว้าหาเสรีภาพในที่อื่นที่คิดว่าใช่ดีกว่า จะทำอะไรที่พิศดารกว่านี้ก็ไม่มีใครต่อต้าน

‘สุทิน’ ลั่น!! เลือก ‘เพื่อไทย’ ได้วิธีแก้ปัญหาแบบใหม่ ชู สูตรเพื่อไทย ‘ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส’

(27 ม.ค. 66) ที่เวทีปราศรัยใหญ่พรรคเพื่อไทย สนามกีฬากลาง จ.เลย นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนเคยอาศัยอยู่ใน จ.เลย ช่วงหนึ่ง ตอนนี้พัฒนาไปมาก น้ำไหล ไฟสว่าง หนทางดี แต่พบว่าประชาชนเป็นหนี้สินมากกว่าเดิม จากราคาสินค้าเกษตรที่ตกต่ำแต่ราคาปุ๋ยเคมียังเท่าเดิม จากเดิมในยุครัฐบาล นายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ราคารับซื้อยางพาราอยู่ที่กิโลกรัมละ 120 บาท ยุครัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี อยู่ที่กิโลกรัมละ 80 บาท แต่ตอนนี้เหลืออยู่ที่ 30 บาท ส่วนยางก้นถ้วย ราคารับซื้อ ณ วันนี้เหลือกิโลกรัมละ 17 บาท ส่วนราคารับซื้อข้าวในยุครัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ อยู่ที่ตันละ 15,000 - 20,000 บาท ตอนนี้เหลือตันละ 7,000 บาท

ขณะที่การขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในอดีต พ่อค้าแม่ค้าในพื้นที่ขายเสร็จเอาเงินมาไว้ที่บ้าน แต่ขณะนี้รัฐบาลที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี บีบผู้ขายรายย่อยให้ขายในราคา 80 บาท แต่ยี่ปั๊วหรือนายทุนรายใหญ่ได้กำไรเท่าเดิม นอกจากนี้ ยังมีปัญหาโรคระบาดในสัตว์ ทั้งลัมปีสกิน อหิวาห์สุกร ที่รุมเร้าพี่น้องเกษตรกรที่ไม่ได้รับการดูแลอย่างทันท่วงที

‘ลุงหนู’ โต้!! ปมย้าย ‘หมอสุภัทร’ ไม่เกี่ยวการเมือง ถาม!! ‘แพทย์ชนบท’ ต้องช่วยพัฒนาพื้นที่ มิใช่หรือ?

(27 ม.ค. 66) จากกรณีที่ นพ.สวัสดิ์ อภิวัจนีวงค์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ปฏิบัติราชการแทนปลัด สธ.ลงนามในคำสั่งกระทรวงสาธารณสุขที่ 125/2566 เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2566 โยกย้าย นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล (รพ.) จะนะ ไปดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ รพ.สะบ้าย้อย สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) สงขลา โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ลงนามเป็นต้นไป ต่อมา นพ.สุภัทร ได้ออกมาให้ความเห็นว่าเป็นการโยกย้ายที่มีประเด็นการเมืองแอบแฝง 

ล่าสุดนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องนี้เป็นการบริหารจัดการของฝ่ายข้าราชการประจำ และตนก็ไม่ขอก้าวก่ายการทำงานกัน เพราะเป็นอำนาจของท่านปลัดฯ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับรัฐมนตรี ซึ่งตามหลักการ การผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนภารกิจหน้าที่ เป็นเรื่องปกติในระบบราชการ โดยหาก นพ.สุภัทร บอกว่าตัวเองมีผลงาน มีความเก่ง ก็ยิ่งดีใหญ่ จะได้ไปพัฒนา รพ.ที่ต้องการพัฒนา ยิ่งได้คนเก่งไป ยิ่งเป็นผลดีกับชาวบ้าน กับกระทรวงสาธารณสุข

เมื่อถามถึงกรณี พรรคก้าวไกลออกแถลงการณ์ไม่เห็นด้วยกับคำสั่งย้าย โดยตั้งข้อสังเกต เป็นการโยกย้ายด้วยเหตุผลทางการเมือง นายอนุทิน กล่าวว่า ถ้าหากคนที่ไม่เข้าใจ ก็อาจคิดว่าเป็นเรื่องการเมือง แต่คนที่เข้าใจจะรู้ว่าเป็นเรื่องของการทำงาน เป็นอำนาจของปลัด สธ.ในการบริหารจัดการ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง ทำไมไม่มองว่าการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนภารกิจ หน้าที่ เป็นเรื่องปกติในระบบราชการ

“หากนพ.สุภัทร บอกว่าตัวเองมีผลงาน มีความเก่ง ก็ยิ่งดีใหญ่ จะได้ไปพัฒนา รพ.ที่ต้องการพัฒนา ยิ่งได้คนเก่งไป ยิ่งเป็นผลดีกับชาวบ้าน กับ สธ. อย่าง 2 ปีที่แล้ว ที่ นพ.ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล ย้ายจาก ผอ.รพ.ขอนแก่น ไป รพ.ร้อยเอ็ด มีประเด็นเกิดขึ้น มีการบอกว่าแย่แน่นอน แต่ทุกวันนี้ รพ.ร้อยเอ็ด กลายเป็น รพ.ที่มีประสิทธิภาพ เรื่องนี้อยู่กับบุคคล คนเก่งไปอยู่ไหนก็ได้ เหมือนรัฐมนตรีฯ อยู่ไหนก็ทำความเจริญได้ ไม่ต้องกลัวว่าจะถูกย้ายไปไหน ถ้าเรามีความมั่นใจว่า ตอนที่เราอยู่ เราทำความเจริญ ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เราไม่ต้องกลัวว่าใครจะมาทำอะไร หลังจากที่เราย้ายไปแล้ว เวลาที่ใครถูกย้ายแล้วโวยวาย ส่วนใหญ่ต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่า ทำอะไรไว้หรือไม่ แล้วกลัวคนมาตรวจสอบ” นายอนุทิน กล่าว

‘พิธา’ ปลุกขวัญเครือข่ายพรรคพร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง เดินหน้าล้มระบอบ 3 ป. - สร้างประเทศที่ดีเพื่อทุกคน

พรรคก้าวไกล จัดประชุมใหญ่เครือข่ายทั่วประเทศ ‘พิธา’ ประกาศความพร้อมเข้าสู่เลือกตั้ง ชี้ ความเป็นสถาบันของพรรคอยู่ที่ผู้คนเดินทางร่วมกัน ขับเคลื่อนสังคมไปข้างหน้า ปลุกสมาชิก สิ่งที่ทำไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่เพื่อความเปลี่ยนแปลง-เพื่อเยาวชนได้การเมืองดีโดยไม่ต้องเอาชีวิตเข้าแลก พอแล้วกับระบอบ 3ป. สืบทอดอำนาจผ่านพลังประชารัฐ-รวมไทยสร้างชาติ*

(27 ม.ค. 66) ที่โรงแรมเอเชีย แอร์พอร์ต (ดอนเมือง) พรรคก้าวไกลจัดประชุมเครือข่ายพรรคทั่วประเทศ ก่อนการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรคก้าวไกลที่จะจัดขึ้นในวันพรุ่งนี้ (28 มกราคม) ที่อุทยานการเรียนรู้ป๋วย 100 ปี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวเปิดการประชุมกับสมาชิกพรรคว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการรวมตัวของตัวแทนเครือข่ายพรรคก้าวไกลทุกจังหวัดทั่วประเทศ รวมทั้งเครือข่ายชาติพันธุ์และแรงงาน ซึ่งปีนี้มีความพิเศษเพราะเป็นปีที่เตรียมความพร้อมในการสู้ศึกเลือกตั้ง ตัวแทนพรรคประจำจังหวัดมีความสำคัญเพราะจะได้เชื่อมโยงการทำงานในสภา-นอกสภาได้จริง เพื่อให้พรรคก้าวไกลเป็นพรรคมวลชนและทำงานเพื่อแก้ปัญหาของประชาชนได้จริงๆ 

“ตัวแทนพรรคประจำจังหวัดของพรรคก้าวไกลที่อยู่ในพื้นที่ต่างๆ มีความสำคัญมากในการคัดเลือกว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. และทำงานเพิ่มจำนวนสมาชิกพรรคก้าวไกลทั่วประเทศ” พิธากล่าว

พิธากล่าวว่า เป้าหมายในการสร้างพรรค ตั้งแต่สมัยพรรคอนาคตใหม่จนถึงพรรคก้าวไกล คือต้องการเป็นพรรคมวลชน โอบรับความหลากหลาย เป็นพรรคที่ดำเนินการด้วยสมาชิกพรรค ไม่ได้เป็นพรรคที่คนใดคนหนึ่งสามารถคิดแทนคนทั้งพรรคได้ ความฝันของเราตั้งแต่เป็นพรรคอนาคตใหม่ คือการสร้างพรรคที่เกิดจากการเดินทางและผู้คน ปัจจุบันพรรคก้าวไกลมีจำนวนสมาชิก 60,284 คน เท่ากับจำนวนสมาชิกสมัยยังเป็นพรรคอนาคตใหม่ ส่วนการเดินทางไปดูปัญหาทั่วประเทศ ตนในฐานะหัวหน้าพรรคได้เดินทางมากกว่า 45,358 กิโลเมตร เพื่อดูปัญหาและขยายแนวคิดก้าวไกลออกไปทั่วประเทศ

พิธากล่าวเพิ่มเติมว่า ปีนี้เป็นปีที่พรรคก้าวไกลมีความพร้อมในการเลือกตั้ง ทั้งจากจำนวนสมาชิกพรรค ว่าที่ผู้สมัคร และอาสาสมัครของพรรคก้าวไกล จากสมัยพรรคอนาคตใหม่ที่เราเน้นการสื่อสารผ่านสื่อเป็นหลัก แต่พรรคก้าวไกลสามารถทำงานเข้าถึงปัญหาในพื้นที่ได้กว้างขวางยิ่งขึ้น ทั้งปัญหาที่ดิน น้ำท่วมน้ำแล้ง ฝุ่น PM2.5 และไฟป่า การทำงานร่วมกับสมาชิกพรรคและว่าที่ผู้สมัครตั้งแต่เหนือจรดใต้ ทำให้เชื่อมั่นว่าสามารถปักธงประเทศไทยให้การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคตได้

‘นักท่องเที่ยวจีน’ หวนเยือน ‘ไทย’ จุดประกายความหวังท่องเที่ยวคึกคัก

กรุงเทพฯ, 26 ม.ค. (ซินหัว) — หลังจากเผชิญภาวะหยุดชะงักนาน 3 ปี ไทยพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนกลับสู่หาดทรายสีทอง วัดวาอารามงามงด และศูนย์การค้าสุดหรูอีกครั้ง โดยคาดว่านักท่องเที่ยวจีนที่หลั่งไหลเข้าประเทศจะช่วยฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดใหญ่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)

หลิวหลิงหลิง นักท่องเที่ยวจากนครอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ยทางตอนกลางของจีน ซึ่งวางแผนใช้เวลาช่วงวันหยุดตรุษจีนในไทย กล่าวว่าการเดินทางครั้งนี้ถือเป็นการเดินทางไปต่างประเทศครั้งแรกของครอบครัวตั้งแต่มีการระบาดใหญ่ โดยทุกคนตื่นเต้นและมีความสุขมาก รวมทั้งรู้สึกได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นในไทยด้วย

หลิวมีแผนเดินทางไปภาคใต้ของไทยพร้อมกับครอบครัวเพื่อพักที่รีสอร์ตริมทะเล หลังจากใช้เวลาในกรุงเทพฯ 2-3 วัน โดยเธอเป็นหนึ่งในกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนที่เลือกไทยเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับเดินทางไปต่างประเทศครั้งแรก นับตั้งแต่ยุทธศาสตร์การรับมือโรคโควิด-19 ฉบับปรับปรุงของจีนมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 8 ม.ค.

เมื่อวันที่ 9 ม.ค. ซึ่งเป็นวันที่สองหลังจากการปรับยุทธศาสตร์ของจีน อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของไทย พร้อมเจ้าหน้าที่อาวุโสคนอื่น ๆ ร่วมให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนกลุ่มแรกที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิด้วยดอกไม้และของขวัญ

บรรดานักวิเคราะห์กล่าวว่าการจัดงานระดับสูงนี้สะท้อนความสำคัญที่ไทยมีต่อการดึงดูดนักท่องเที่ยวจีนกลับสู่ประเทศ เพื่อช่วยส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

ขณะเดียวกัน บรรยากาศช่วงเทศกาลตรุษจีนแผ่อบอวลทั่วย่านใจกลางกรุงเทพฯ โดยห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ พร้อมใจประดับประดาสิ่งตกแต่งกลิ่นอายเทศกาลตรุษจีน เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจีนที่หลั่งไหลเข้าไทยในช่วงวันหยุด 'สัปดาห์ทอง' (Golden Week) ครั้งแรก หลังจากจีนปรับมาตรการรับมือโรคโควิด-19

ถนนเยาวราชความยาว 200 เมตร ถูกประดับประดาด้วยแสงสีและโคมไฟหลายรูปแบบ เพื่อเฉลิมฉลองวันตรุษจีนซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 22 ม.ค. และเป็นวันแรกของปีเถาะหรือปีกระต่าย ซึ่งณัฐพร เชฟร้านอาหารบนถนนเยาวราช เชื่อว่าจะเป็นปีที่เต็มไปด้วยความคึกคักและเจริญรุ่งเรือง

ณัฐพรบอกเล่าว่าทางร้านกักตุนวัตถุดิบอาหารสำหรับช่วงเทศกาลตรุษจีนแล้ว ซึ่งมักเป็นเวลาที่ดึงดูดลูกค้าต่างชาติจำนวนมาก พร้อมเสริมว่านักท่องเที่ยวจีนถือเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลักของไทย พวกเขากลับมาแล้วในปีนี้ และผมคิดว่าธุรกิจของเราจะกลับมาดีเหมือนช่วงก่อนการระบาดใหญ่

ด้านกลุ่มสายการบิน โรงแรม ร้านอาหาร และผู้ประกอบการการท่องเที่ยวอื่น ๆ ต่างเฝ้ารอต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้นในปีนี้เช่นกัน

วิชัย (Wichai Kinchong Choi) รองประธานอาวุโสของธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่าการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีนได้เพิ่มความหวังต่อการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในไทยและนานาประเทศทั่วโลก

ปิติ ดิษยทัต เลขานุการคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย ระบุว่าภาคการท่องเที่ยวไทยจะฟื้นตัวรวดเร็วขึ้นเพราะการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีน ขณะเศรษฐกิจไทยจะได้รับแรงสนับสนุนจากการท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชนที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ รัฐบาลไทยคาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเยือนประเทศระหว่าง 7-10 ล้านคนในปี 2023 โดยแบ่งเป็น 300,000 คนในช่วงไตรมาสแรก

กาฬสินธุ์ฮือฮาพบรอยเท้าไดโนเสาร์กินเนื้อแห่งใหม่

สุดฮือฮาพบรอยเท้าไดโนเสาร์กินเนื้อแห่งใหม่ของประเทศไทย ในพื้นที่วนอุทยานภูแฝก ตำบลภูแล่นช้าง อำเภอนาคู จังหวัดกาฬสินธุ์

เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์สิรินธร สำนักงานทรัพยากรธรณี เขต 2 พร้อมด้วยนายดำรงศักดิ์ ชูศรีทอง หัวหน้าวนอุทยานภูแฝก เข้าตรวจสอบบริเวณบ๋าชาด ในพื้นที่วนอุทยานภูแฝก ตำบลภูแล่นช้าง อำเภอนาคู จังหวัดกาฬสินธุ์ หลังจากมีการแจ้งว่าพบร่องรอยที่คาดว่าเป็นรอยเท้าไดโนเสาร์ จากนายทองดี สุปิรัยทร ชาวบ้านน้ำคำ หมู่ 6 ตำบลภูแล่นช้าง อำเภอนาคู จังหวัดกาฬสินธุ์

อาชีวฯลำปาง ร่วมเจรจาการฝึกอาชีพกับโรงแรมชั้นนำระดับโลก

เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2566 ดร.ยุภาภรณ์ เทพจันทร์ ผู้อำนวยการวิทยาลัยอาชีวศึกษาลำปาง และคณะ ร่วมหารือแนวทางการส่งนักศึกษาฝึกอาชีพระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ณ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพมหานคร โดยมีนายอิทธิพล วิทจิตสมบูรณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารทรัพยากรบุคคล, นายพัฒน์พงษ์ พิชัยชาญเลิศ ผู้จัดการฝ่ายบุคคล และ นายสมพูน ถนอมมงคล เจ้าหน้าที่ประสานงานทวิภาคี เป็นผู้แทนร่วมการเจรจา โดยยินดีรับนักศึกษาสาขาวิชาอาหารและโภชนาการ จำนวน 6 คน ได้แก่ นักศึกษาปกติ 3 คน นักศึกษาพิการทางการได้ยิน 3 คน เข้าฝึกอาชีพตั้งแต่เดือน มิถุนายน 2566 เป็นต้นไป 

อดีตอธิบดี ดีเอสไอ เข้าให้การกับพนักงานสอบสวน กรณีลูกน้องเข้าค้น บ้านพักกงสุลใหญ่นาอูรู แล้วเกิดปัญหา ยักยอกของกลาง และ เรียกรับประโยชน์แลกการปล่อยตัว

คนจีนมีหมายจับสากล ขณะเดียวกันวันนี้ ตำรวจ เตรียมออกหมายจับเพิ่ม 3 เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ที่เข้าค้นคอนโดย่านห้วยขวาง

(26 ม.ค. 66) เวลาประมาณ 19.00 น. ที่ผ่านมา นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อดีตอธิบดี ดีเอสไอ ได้เข้าพบพนักงานสอบสวน ที่สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับ การปฎิบัติการเข้าค้น บ้านพักอดีตกงสุลใหญ่นาอูรู ย่านสาทร เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2565 ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไรและเป็นผู้อนุมัติตามขั้นตอนหรือไม่ รวมถึงรายละเอียด ระหว่างการปฎิบัติหน้าที่ ว่ามีการส่งข้อมูลชี้แจงอย่างไร

ขณะที่ในช่วงบ่าย ที่ตำรวจสถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง เร่งสรุปข้อมูลการสอบสวนเพื่อเตรียมออกหมายจับ เจ้าหน้าที่ดีเอสไอเพิ่มอีก 3 คน เป็นบุุคคลที่ปรากฏตามภาพวงจรปิด ว่าเป็นผู้เข้าค้นคอนโดมิเนียมของทุนจีนสีเทา ย่านห้วยขวาง ภายหลังเข้าค้น บ้านพักอดีตกงสุลใหญ่นาอูรู ไม่กี่ชั่วโมง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top