Sunday, 11 May 2025
NewsFeed

กองทัพเรือ บูรณาการเร่งช่วยเหลือกำลังพล และครอบครัว ร.ล.สุโขทัยอับปาง ให้ได้รับสิทธิอย่างรวดเร็ว ครบถ้วน

ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือเป็นประธานการประชุมติดตามเรื่องสิทธิกำลังพล การสวัสดิการ การช่วยเหลือกำลังพล และครอบครัว กรณีเรือหลวงสุโขทัยอับปางอย่างบูรณาการ เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว ครบถ้วน และถูกต้อง

(24 ม.ค. 66) พล.ร.อ.สุวิน แจ้งยอดสุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ และประธานกรรมการบูรณาการติดตามเรื่องสิทธิกำลังพล การสวัสดิการ และการช่วยเหลือกำลังพลกองทัพเรือที่ได้รับบาดเจ็บ ทุพพลภาพ หรือเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ราชการ และครอบครัว กรณีเรือหลวงสุโขทัยอับปาง เป็นประธานการประชุมเพื่อเร่งรัด ติดตามการช่วยเหลือกำลังพลฯ จากหน่วยงาน องค์กร หรือภาคเอกชน อย่างบูรณาการ ให้กำลังพล และครอบครัว ได้รับสิทธิอย่างรวดเร็ว ครบถ้วน และถูกต้องตามระเบียบของทางราชการ ณ ห้องประชุม ชั้น 6 กองบัญชาการกองทัพเรือ พื้นที่วังนันทอุทยาน

‘นายกฯ’ สั่งด่วน!! แก้ปัญหาราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำ ดันแนวทาง 'ระยะสั้น-ยาว' บรรเทาทุกข์เกษตรกรสวนปาล์ม

(25 ม.ค. 66) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบและสั่งการให้แก้ไขปัญหาสถานการณ์ราคาปาล์มน้ำมัน เพื่อดูแลช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนปาล์ม ซึ่งจากการทำงานอย่างบูรณาการของรัฐบาล ได้สำรวจปัญหาของพืชปาล์มน้ำมัน เนื่องจากตั้งแต่ช่วงปลายปี 2565 ถึงช่วงต้นปี 2566 มีผลผลิตปาล์มออกมามาก ทำให้มีผลผลิตปาล์มอยู่ในตลาดมาก ส่งผลให้ราคาปาล์มตกต่ำ ประกอบกับมีการลักลอบนำปาล์มนอกโควต้าเข้ามาในประเทศไทย ทำให้ราคาปาล์มอยู่ที่ 4.80 บาทต่อกิโลกรัม (ราคา ณ วันที่ 20 ม.ค.66)

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เพื่อแก้ไขปัญหาราคาปาล์มน้ำมัน นายกรัฐมนตรีได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยให้ช่วยหาแนวทางการแก้ไขปัญหาเพื่อ บรรเทาความเดือดร้อน ดูแลความเป็นอยู่ของประชาชนชาวสวนปาล์ม โดยในการแก้ไขของรัฐบาลแบ่งเป็นสองรูปแบบ แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้ามีแนวทางในการแก้ไขปัญหา ได้แก่ ขอความร่วมมือสหกรณ์ในพื้นที่ให้ช่วยรับซื้อปาล์มจากเกษตรกรแทนไว้ก่อน และสกัดการลักลอบนำเข้าปาล์มนอกโควต้า ซึ่งจากแนวทางการทำงานของรัฐบาล ทำให้ราคาปาล์มมีการปรับตัวดีขึ้น อยู่ที่ 5 บาทต่อกิโลกรัม สำหรับการแก้ปัญหาในระยะยาวนั้น รัฐบาลผลักดัน พ.ร.บ ปาล์มยั่งยืน ซึ่งจะทำให้ มีกองทุนสงเคราะห์การทำสวนปาล์ม การประกันราคาปาล์ม มีการจัดทำโครงสร้างกำกับราคาที่เป็นธรรมกับทุกฝ่าย ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ รวมถึงมีกฎเกณฑ์กำกับดูแลเรื่องปาล์มครบวงจร เพื่อผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ

'อนุทิน' เปิด 'พรรคภูมิใจไทย' รับรอง 'ทูตอินเดีย' หารือประเด็น 'สาธารณสุข-การท่องเที่ยว-การเมือง'

เมื่อวานนี้ (24 ม.ค. 66) ณ ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย นายนาเกช ซิงห์ (Nagesh Singh) เอกอัครราชทูตอินเดียประจำราชอาณาจักรไทย พร้อมคณะ เดินทางเข้าเยี่ยมคารวะ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย, นายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาพรรคภูมิใจไทย, นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนสมาชิกพรรคภูมิใจไทย และนายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย และแปซิฟิกใต้ เพื่อแนะนำตัว และหารือถึงเรื่องต่าง ๆ ภายหลังรับตำแหน่งเอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทย 

สำหรับประเด็นที่มีการพูดคุย หารือแลกเปลี่ยน คือเรื่องสาธารณสุข รวมถึง MOU ด้านการสาธารณสุขระหว่างไทยและอินเดีย เรื่องการส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางหนึ่งที่นักท่องเที่ยวชาวอินเดียประสงค์ที่จะเดินทางมา ปัจจุบันพบว่ามีนักท่องเที่ยวชาวอินเดียเดินทางมาประเทศไทยมากขึ้น

‘เทพมนตรี’ แฉ!! แผนล้มสถาบัน ‘การเมือง-ขรก.-สื่อ’ ส่อหนุน ฝาก 'ลุงตู่-ป้อม-พี่หนูอนุทิน-ลูกท็อป' ช่วยธำรงหัวใจคนไทย

(25 ม.ค. 66) นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักประวัติศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊ก ‘Thepmontri Limpaphayorm’ มีเนื้อหาดังนี้...

“สำคัญเหลือเกิน

เรื่องคดีมาตรา 112 ของปิยบุตรกว่าจะมาถึงจุดที่เป็นความหวังของประชาชนผู้รักรัฐธรรมนูญ รักประชาธิปไตย รักระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข รู้หน้าที่ในฐานะปวงชนชาวไทย ใช้สิทธิทางกฎหมายที่จะฟ้องร้องดำเนินคดีกับผู้ละเมิดอย่างเขาได้ ใช้เวลานาน เหตุเพราะเจ้าหน้าที่บ้านเมืองต้องสืบสวนสอบสวน มีความรอบคอบ และต้องค้นคว้าหาหลักฐาน ที่ออกมาพูดว่าผู้กระทำผิดมาตรา 112 ถูกกลั่นแกล้งทางการเมือง ถูกใส่ร้ายป้ายสี หรือตัวกฎบทกฎหมายไม่มีความเป็นธรรมนั้นไม่จริง

'อลงกรณ์' มั่นใจปี2566 เปิดประตูอีสานขนส่งสินค้าเกษตรสู่ยุโรปและแปซิฟิกสำเร็จ หลัง 'กรกอ.' เห็นชอบร่างแผนพัฒนาสินค้าเกษตรอุตสาหกรรมอีสานตอนบนรองรับการลงทุนเพิ่มรายได้เกษตรกร

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 1/2566 โดยมี นายอภัย สุทธิสังข์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้บริหารสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ประธานสภาอุตสาหกรรมภาค หน่วยงานส่วนราชการส่วนกลางส่วนภูมิภาคและผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมกว่า70คน ผ่านระบบการประชุมออนไลน์ด้วยโปรแกรม Zoom Meeting โดยมีหัวข้อสำคัญในการประชุม ดังนี้

1) ความก้าวหน้าโครงการพัฒนาอุตสาหกรรมสัตว์น้ำและการเพาะเลี้ยงพันธุ์ปลาสวยงามในการส่งออกต่างประเทศ ( Aqua Feed & Ornamental Freshwater Fish Industry : AFOF)
2) การดำเนินงานของคณะอุตสาหกรรมความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ระดับภาค(กรกอ.ภาคเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ กลาง ตะวันออก และใต้)
3) ความก้าวหน้าการขับเคลื่อน Big Data และ Gov Tech ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เชื่อมบิ๊กดาต้ากับภาครัฐและภาคเอกชน
4) การส่งเสริมการใช้เครื่องจักรกลและเทคโนโลยีเพื่อยกระดับการผลิตภาคเกษตร

นอกจากนี้ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบร่างแผนการขับเคลื่อนการพัฒนาสินค้าเกษตรที่สำคัญตามศักยภาพแบบครบวงจรในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 (หนองคาย อุดรธานี เลย หนองบัวลำภูและบึงกาฬ)และตอนบน 2(นครพนม มุกดาหารและสกลนคร)

'เจพี มอร์แกน' จัดอันดับให้หุ้นไทย เป็นหุ้นที่น่าลงทุนที่สุดในอาเซียน คาดดัชนี SET พุ่งขึ้น 7% แตะระดับสูงสุดที่ 1,800 จุด

(25 ม.ค. 66) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้รับทราบรายงานกรณีบริษัทหลักทรัพย์เจพี มอร์แกน (JPMorgan Chase & Co.) เปิดเผยข้อมูลในการประชุม J.P. Morgan Thailand Conference ว่าตลาดหุ้นไทย เป็นตลาดหุ้นที่น่าลงทุนที่สุด เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นอื่น ๆ ในอาเซียน 

นายอนุชา กล่าวว่า โดยเจพีมอร์แกนคาดการณ์ว่า ดัชนี SET ตลาดหุ้นไทยจะพุ่งขึ้นอีกราว 7% แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1,800 จุดในปี 2566 ซึ่งเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุน (overweight) ให้กับหุ้นกลุ่มต่อไปนี้ในตลาดหุ้นไทย ได้แก่ สินค้าอุปโภคบริโภคกลุ่มสินค้าจำเป็น (consumer staples) สินค้าอุปโภคบริโภคกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย (consumer discretionary) และ กลุ่มเพื่อการดูแลสุขภาพ (healthcare sectors) อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือนธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา ดัชนี SET พุ่งขึ้นราว 4% โดยส่วนมากเป็นหุ้นกลุ่มสินค้าอิเล็คทรอนิกส์ กลุ่มพลังงาน และกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค

อีกหนึ่งเหตุผลสำคัญที่ 'บี พุทธิพงษ์' ตัดสินใจเลือก พรรคภูมิใจไทย เป็นเส้นทางใหม่ทางการเมืองให้กับตน

“เมื่อถึงเวลาต้องตัดสินใจ ส่วนตัวมองว่าพรรคภูมิใจไทย มีจุดเด่นที่แข็งแกร่ง คือ 4 ปีที่ผ่านมา พูดจริงทำจริง หาเสียงเสนอนโยบายอะไรเอาไว้สามารถพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า…ทำได้จริงเสมอ”

'บัวขาว' โพสต์ยืนยัน!! ตนคือคนไทยเชื้อสายกูย ไม่ใช่ 'เขมร' ตามที่ชาวกัมพูชากล่าวอ้าง

จากกรณีที่ กัมพูชา เจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ในระหว่างวันที่ 4-17 พฤษภาคม จะจัดแข่งขันมวยที่ชื่อว่า ‘กุน ขแมร์’ กีฬาที่มีต้นกำเนิดมาจากศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวของประเทศ และคือรากฐานของ มวยไทย 

ขณะที่ทางชาวกัมพูชาบางคนได้มีการอ้างว่า บัวขาว นั้นมีเชื้อสายเขมร พร้อมกับมีการมาป่วนในเพจของตัวเองนั้น ล่าสุดแฟนเพจเฟซบุ๊ก ‘Banchamek Gym (Buakaw Banchamek, บัวขาว บัญชาเมฆ)’ ได้ชี้แจงเรื่องดังกล่าว โดยนักมวยวัย 40 ปีที่เกิดที่จังหวัดสุรินทร์ ได้อธิบายมีเนื้อหาคือ

“คืนนี้ว่าด้วยเรื่องวิชาประวัติศาสตร์

ชาติพันธุ์ บัวขาว คือ คนไทย เชื้อสายกูย ไม่ไช่เขมร ตามที่เข้าใจ ชาวส่วย (Suai) บางทีก็เรียก กูย (Kuy, Kui), โกย/กวย (Kuoy) 

ชาวกูยนิยมเลี้ยงช้างซึ่งสืบทอดจากบรรพบุรุษ ชาวกูยจะออกไปจับช้างป่าด้วยการคล้องช้าง ด้วยเชือกปะกำ ซึ่งทำจากหนังควาย ถือเป็นของศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่สิงสถิตของดวงวิญญาณ เมื่อได้ช้างมาก็จะฝึกเอาไว้ใช้งาน พงศาวดารเมืองละแวกก็มีบันทึกไว้ว่าในพุทธศตวรรษที่ 20 กษัตริย์ขอมแห่งเมืองพระนคร ได้ขอให้แจ้งกุยแห่ง ตะบองขะมุน (ชุมชนกุยทางด้านใต้ของนครจำปาสัก) ส่งกำลังไปช่วยปราบกบฏที่เมืองพระนคร ชาวกุยได้ร่วมขับไล่ ศัตรูจนบ้านเมืองขอมเข้าสู่ภาวะปกติสุข หลักฐานนี้แสดงว่า ขณะที่ชนชาติไทยหรือสยามกำลังทำสงครามขับเคี่ยวกับขอมเพื่อสถาปนานครรัฐสุโขทัยขึ้นมานั้นชาวกุยได้เข้ามาตั้งถิ่นฐาน ณ บริเวณลุ่มน้ำโขงตอนล่างอย่างเป็นปึกแผ่นแล้ว

การตั้งหลักแหล่งโดยส่วนมากจะพบ ตามลุ่มแม่น้ำโขงทุก ๆ สายน้ำที่แตกสายน้ำออกไป เช่น อุบล ท่าตูม โพธิ์ศรีสุวรรณ เมืองจันทร์ ห้วยทับทัน สำโรงทาบ และตามสายน้ำไปเรื่อย จนจึง จังหวัดนครราชสีมา ตามเส้นของสายน้ำเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่อาศัยอยู่ลุ่มแม่น้ำโขงบริเวณแนวเขาพนมดงรัก ปลายพุทธศตวรรษที่ 19 ชาวกุยในแคว้นอัสสัมถูกรุกรานโดยชนเผ่าอนารยะ จนบางส่วนต้องละทิ้งถิ่นฐานอพยพข้ามลงมาตามลำน้ำโขง เคยเป็นอาณาจักรหนึ่ง ถิ่นฐานเดิมอยู่ทางตอนเหนือของเมืองกัมปงธม ประเทศกัมพูชา

ในราวพุทธศตวรรษที่ 20 เคยส่งทูตมาค้าขายกับอยุธยาเคยช่วยกษัตริย์เขมรปราบกบฏ ต่อมาเขมรได้ใช้อำนาจทางการทหารปราบชาวกูยและผนวกรวมเป็นส่วนหนึ่งกับเขมร ด้วยความชอบความอิสระและชอบการผจญภัย ได้อพยพขึ้นเหนือ เข้าสู่เมืองอัตตะบือแสนแป แคว้นจำปาศักดิ์ และสารวัน ทางตอนใต้ของลาว แต่ก็ถูกเจ้าเมืองศรีสัตนาคนหุต (เมืองเวียงจันทน์) ปราบปรามและขับไล่ จึงพากันอพยพตามแม่น้ำโขงมาตั้งรกรากอยู่แถบอิสานทางด้านแก่งสะพือ อำเภอโขงเจียม ได้แยกย้ายตั้งรกรากปลูกบ้านเรือนอยู่แถบนี้

พ.ศ. 1974 (ปีกุน) ที่จากหลักฐานกฎหมายอยุธยาฉบับพ.ศ. 1974 ได้กล่าวถึงกษัตริย์ของเขมรที่นครธม ได้ทรงขอให้เจ้ากวยแห่งตะบองขะมุม ที่มีเมืองสำคัญอยู่ตอนใต้ของเมืองนครจำปาศักดิ์ ส่งทหารไปช่วยพระองค์ปราบขบถ สำเร็จแล้วประมุขของทั้งสองฝ่ายได้อยู่ร่วมกันอย่างสันติ และออกกฎหมายให้คนสยามห้ามยกลูกสาวให้ชาวฝรั่ง อังกฤษ วิลันดา กับปิตัน กุลา มลายู แขก กวย และแกว ซึ่งเป็นคนต่างชาติต่างศาสนา (ที่มา:เอกสารของโครงการแผนที่วัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โครงการความร่วมมือระหว่างสถาบันวิจัยภาษาและพัฒนาเพื่อพัฒนาชนบท มหาวิทยาลัยมหิดล)

พ.ศ. 2000 พงศาวดารเมืองละแวก กล่าวถึง กษัตริย์เขมร พระเจ้าธรรมราช ซึ่งครองอยู่พระนครหลวงได้ส่งทูตไปขอกองทัพจากกษัตริย์กวยแห่งตะบองขะมุม ที่มีเมืองสำคัญทางตอนใต้ของเมือง จำปาศักดิ์ ส่งทหารไปช่วยปราบกบฏ เมื่อกองทัพของพระเจ้าธรรมราชและเจ้ากวยแห่งตะบองขะมุมได้ปราบกบฏสำเร็จ ประมุขทั้งสองฝ่ายก็ได้อยู่ร่วมกันอย่างสันติ (ที่มา ไทย : ศรีศักดิ์ วัลลิโภดม 2533:35-36)

เปิดข้อมูล บริการ ‘Fast Track’ สนามบิน ช่องทางพิเศษ ช่วยเข้า - ออกประเทศอย่างรวดเร็ว

เปิดข้อมูล Fast Track ช่องทางพิเศษ พื้นที่ให้บริการภายในสนามบินสุวรรณภูมิ หลังเกิดประเด็นดราม่ากรณีที่นักท่องเที่ยวสาวชาวจีน รีวิวการใช้บริการตำรวจไทยในรูปแบบ VIP ก่อนหน้านี้

จากกรณีที่ตำรวจ ได้เข้ามาอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวจีนเปิดช่อง Fast Track Lane ไปจนถึงมีรถนำขบวนไปยังที่พัก ถูกตั้งคำถามในสื่อสังคมออนไลน์เป็นวงกว้าง แต่อย่างไรก็ดี Fast Track Lane นั้น เป็นบริการที่มีอยู่แล้ว โดยกลุ่มผู้โดยสารและเงื่อนไขที่กำหนดไว้อย่างชัดเจน

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า ในอดีตช่อง Fast Track Lane มีให้บริการอยู่แล้ว โดยสายการบินเปิดให้บริการนี้กับผู้โดยสารชั้นธุรกิจ และเฟิร์สคลาส ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก มีมานานแล้ว สนามบินนานาชาติทั่วโลกก็มีแบบนี้ ผู้โดยสารสามารถใช้บริการนี้ได้ โดยซื้อคูปองได้ที่สนามบิน หรือซื้อโปรโมชันพ่วงมากับตั๋วโดยสาร

ตัวอย่างช่องทางพิเศษ หรือ Fast Track ในต่างประเทศ เช่น ที่สนามบินเบอร์มิงแฮม ประเทศอังกฤษ ผู้โดยสารจะจ่ายเพิ่ม 5 ปอนด์ หรือประมาณ 200 บาท เพื่อที่จะไม่ต้องรอคิว ตม.นาน ๆ

เช่นเดียวกับสนามบิน Dublin ในไอร์แลนด์ เปิดขายคูปองช่องทางพิเศษให้ผู้โดยสาร ราคาอิงตามความต้องการของผู้โดยสารในช่วงเวลานั้น ๆ เริ่มตั้งแต่ประมาณ 8 ยูโร หรือประมาณ 280 บาท หรืออย่างสนามบินหลัก ของกรุงมาดริด ประเทศสเปน ก็เปิดขายคูปอง Fast Track เช่นกัน อยู่ที่ 15 ยูโร หรือประมาณ 530 บาท แถมยังมีแพ็คเกจอื่น ๆ พ่วงได้ด้วย เช่น ห้องรับรองพิเศษ ซึ่งราคาก็จะสูงขึ้นไปอีก

สำหรับในประเทศไทย กรณี Fast Track Lane หรือ ช่องทางพิเศษอำนวยความสะดวกในสนามบินนั้นมีอยู่จริง เพื่อให้บริการนักเดินทาง เข้า-ออกประเทศอย่างรวดเร็ว โดยเดิมทีท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีช่องทางพิเศษอยู่แล้ว ในชื่อ 'Premium Lane' ซึ่งเป็นช่องทางอำนวยความสะดวก ให้กับผู้โดยสารตามที่ได้กำหนดเงื่อนไขไว้ ซึ่งการเปลี่ยนชื่อเป็น Fast Track Lane ก็เพื่อให้สอดคล้องกับชื่อช่องทางพิเศษของสนามบินต่างๆ ในหลายประเทศ เพราะสนามบินทั่วโลกก็มีบริการแบบนี้

โดยข้อมูลจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีการให้ข้อมูลในเว็บไซต์ท่าอากาศยานไทย เกี่ยวกับบริการ Fast Track Lane ชัดเจน ซึ่งผู้โดยสารที่สามารถใช้บริการช่องทาง Fast Track ได้แก่

ผู้โดยสารที่สามารถใช้บริการช่องทาง Fast Track ได้แก่ ผู้โดยสาร First Class / ผู้โดยสาร Business Class / ผู้โดยสารที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ (Disabled) / เด็กทารก / ผู้โดยสารตั้งครรภ์ / นักลงทุนที่ได้รับการส่งเสริมจาก BOI และ ผู้โดยสารที่มี APEC Business Travel Card (ABTC) / Smart Visa / Long Stay / Thailand Privilege / พระสงฆ์ / ผู้โดยสารสูงอายุ / ผู้โดยสารที่ถือเอกสิทธิ์ทางการทูต / ลูกเรือ

'ยูเนสโก' เตรียมจด 'ประเพณีสงกรานต์' เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ชิ้นที่ 4 ของไทย

ยูเนสโกเตรียมพิจารณาขึ้นทะเบียน ‘สงกรานต์’ เป็น ‘มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม’ ชิ้นที่ 4 ของประเทศไทย ต่อจาก ‘โขน’ ‘นวดไทย’ และ ‘รำโนราห์’

องค์การยูเนสโก (UNESCO) ได้นำ ‘ประเพณีสงกรานต์’ (Songkran in Thailand, traditional Thai New Year festival) เข้าสู่บัญชีรายชื่อเบื้องต้น เพื่อพิจารณาในที่ประชุม ให้เป็น ‘มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม’ ชิ้นที่ 4 ของประเทศไทย ต่อจาก โขน นวดไทย และรำโนราห์

ทั้งนี้ มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม (Intangible Cultural Heritage - ICH) ไม่ใช่มรดกโลก (World Heritage site) แต่เทียบเท่า ‘มรดกโลก’ เนื่องจากองค์การ UNESCO ได้ระบุไว้ว่า ‘มรดกโลก’ ใช้เรียกเฉพาะสถานที่เท่านั้น เช่น แหล่งโบราณคดี, อุทยานแห่งชาติ เป็นต้น


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top