Monday, 19 May 2025
NewsFeed

สพฐ. ยันไม่มีการถอด วิชาประวัติศาสตร์ - หน้าที่พลเมือง แต่จะเพิ่มภาคปฎิบัติหน้าที่พลเมืองสัปดาห์ละ 1 ชม. สร้างนวัตกรรมการจัดการเรียนการสอน ทำให้วิชาประวัติศาสตร์มีความทันสมัยมากขึ้น

นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาฯ กพฐ.) กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวเรื่องการถอดวิชาประวัติศาสตร์ และวิชาหน้าที่พลเมืองที่ปลูกฝังจิตสำนึกความรับผิดชอบต่อสังคมออกจากหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน ว่า

เนื้อหาวิชาดังกล่าวยังอยู่ในหลักสูตรปัจจุบันและหลักสูตรฉบับใหม่ที่อยู่ระหว่างการปรับปรุงอย่างแน่นอน ซึ่งวิชาประวัติศาสตร์จัดเป็นวิชาบังคับกำหนดให้ต้องเรียนทุกระดับชั้นตั้งแต่ป.1 - ม.6 โดย ชั้น ป.1 - ม.3 มีเวลาเรียน 40 ชั่วโมงต่อปี หรือสัปดาห์ละ 1 ชั่วโมง ส่วนชั้นม.4 - 6 มีเวลาเรียน 80 ชั่วโมง ตลอดปีการศึกษา

สำหรับสาระหน้าที่พลเมือง ถือว่าเป็นสาระบังคับเช่นกัน โดยชั้น ป.1-6 จะเรียนรวมกับอีก 3 สาระ รวมเรียกว่าวิชาสังคมศึกษา มีเวลาเรียน 80 ชั่วโมงต่อปี หรือ สัปดาห์ละ 2 ชั่วโมง ชั้น ม.1 - 6 อาจจัดแยกเป็นวิชาๆ หรือรวมสาระก็ได้ โดยชั้น ม.1 - 3 มีเวลาเรียนรวมทั้ง 4 สาระ 120 ชั่วโมงต่อปี (3 หน่วยกิต) หรือสัปดาห์ละ 3 ชั่วโมง และ ม.4 - 6 รวม 3 ปีเรียน 240 ชั่วโมง

นอกจากที่หลักสูตรกำหนดแล้ว ยังมีนโยบายให้เรียนหน้าที่พลเมืองที่เน้นการปฏิบัติเพิ่มอีกสัปดาห์ละ 1 ชั่วโมง โดยอาจจะบูรณาการไปกับวิชาพื้นฐาน วิชาเพิ่มเติม กิจกรรมอื่น ๆ ซึ่งเนื้อหาการเรียนประวัติศาสตร์จะได้เรียนเรื่องเวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ เช่น ข้อมูลและหลักฐานทางประวัติศาสตร์ วิธีการทางประวัติศาสตร์ พัฒนาการของมนุษยชาติจากอดีตถึงปัจจุบัน การเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์และผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์สำคัญในอดีต สถาบันพระมหากษัตริย์ ภูมิปัญญาและวัฒนธรรมไทย เป็นต้น

“ที่ผ่านมา สพฐ.ได้ส่งเสริมให้ครูจัดการเรียนการสอนให้ผู้เรียนคิดวิเคราะห์ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิตได้ รวมถึงการทำให้การเรียนการสอนวิชาประวัติศาสตร์มีความทันสมัยมากขึ้น ด้วยการสร้างนวัตกรรมการจัดการเรียนการสอน ตามนโยบายการอ่าน การเขียน เรียนประวัติศาสตร์ผ่านการสื่อสารร่วมสมัย ของคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมช.ศธ. ประกอบด้วย โครงการพัฒนาสื่อเทคโนโลยีภาพเสมือนจริง Augmented Reality (AR) เพื่อการเรียนรู้ประวัติศาสตร์รักชาติ ศาสตร์ กษัตริย์ ร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ ทำการพัฒนาสื่อเทคโนโลยีภาพเสมือนจริง ทั้งนี้ยังได้จัดทำคู่มือการใช้สื่อวีดีทัศน์ พร้อม QR Code เพื่อเข้าถึงตัวอย่างเนื้อหาสื่อนวัตกรรมการสอนประวัติศาสตร์อีกด้วย” เลขาฯ กพฐ. กล่าว


ที่มา: https://www.thaipost.net/main/detail/95496

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ชี้แจงชัด ๆ การอนุญาตอาชญาบัตรพิเศษเป็นการให้สิทธิในการ สำรวจแร่ในพื้นที่ที่กำหนด ไม่ใช่เป็นการอนุญาตหรือการให้สิทธิในการครอบครองพื้นที่ หากเจ้าของพื้นที่ไม่ยินยอม ก็ไม่สามารถเข้าทำการสำรวจแร่ในพื้นที่ดังกล่าวได้

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า จากที่ปรากฎข้อมูลในสื่อสังคมออนไลน์กรณีตัวแทนกลุ่มประชาสังคมปฏิรูปทรัพยากรและทองคำจะไปยื่นเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับเหมืองแร่ทองคำต่อนายกรัฐมนตรี ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และประธานคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในวันนี้ (11 มี.ค. 2564) ขอชี้แจงว่า ไม่ได้นิ่งนอนใจและให้ความสำคัญกับการร้องเรียนประเด็นต่าง ๆ

มาโดยตลอดโดยได้มอบหมายให้กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประเด็นร้องเรียนของกลุ่มประชาสังคมฯ ที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงอุตสาหกรรมโดยตรงกรณีบริษัทเหมืองทองคำ ได้รับอนุญาตอาชญาบัตรพิเศษ ทับลงบนที่ดิน ส.ป.ก. และได้มีการกล่าวว่า จากพยานหลักฐานพบว่า บริษัทเหมืองทองคำได้สิทธิเหนือที่ดิน ส.ป.ก. และ ระบุที่ดิน ส.ป.ก. เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศไปนานแล้วนั้น

กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ได้รายงานมาแล้วว่า การอนุญาตอาชญาบัตรพิเศษสำรวจแร่ทองคำของบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) จำนวน 44 แปลง ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นการอนุญาตตามคำขอเดิมที่บริษัท อัคราฯ ได้ยื่นไว้ตั้งแต่ปี 2546 และ 2548 ต่อมาบริษัท อัคราฯ ได้มีการดำเนินการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2560 และกรอบนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ในการบริหารจัดการทรัพยากรแร่ทองคำ พ.ศ. 2560 อย่างครบถ้วน คณะกรรมการแร่จึงได้มีการพิจารณาคำขออาชญาบัตรพิเศษดังกล่าวตามขั้นตอนของกฎหมายโดยคำนึงถึงดุลยภาพทางด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และสุขภาพของประชาชนด้วยความรอบคอบก่อนมีมติให้ความเห็นชอบอนุญาต เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2563

“ขอชี้แจงว่า การอนุญาตอาชญาบัตรพิเศษเพื่อสำรวจแร่เป็นการให้สิทธิในการสำรวจแร่ในพื้นที่ ที่กำหนด ไม่ใช่เป็นการอนุญาตหรือการให้สิทธิในการครอบครองพื้นที่ ดังนั้น การเข้าพื้นที่เพื่อสำรวจแร่ต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของพื้นที่ก่อน หากเจ้าของพื้นที่ไม่ยินยอมให้เข้าสำรวจแร่ ผู้ถืออาชญาบัตรพิเศษก็ไม่สามารถเข้าทำการสำรวจแร่ในพื้นที่ดังกล่าวได้ และผู้ถืออาชญาบัตรพิเศษต้องปฏิบัติตามกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องด้วย อีกทั้งในปัจจุบัน ส.ป.ก. ยังไม่มีกฎระเบียบที่จะอนุญาตให้ใช้พื้นที่เพื่อการสำรวจและทำเหมืองแร่ในพื้นที่ ส.ป.ก.ให้แก่ผู้ประกอบการรายใหม่ ที่ยังไม่เคยได้รับอนุญาตให้ใช้พื้นที่ ส.ป.ก. มาก่อนด้วย” นายสุริยะ กล่าว

สำหรับประเด็นที่ตัวแทนกลุ่มประชาสังคมฯ ได้กล่าวอ้างถึง บริษัทเหมืองทองคำระบุที่ดิน ส.ป.ก. เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศนั้น จากการตรวจสอบรายงานประจำไตรมาสของบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดเต็ด ลิมิเต็ด ประเทศออสเตรเลีย ผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัท อัคราฯ ยังไม่พบข้อความที่ระบุว่ามีสิทธิเหนือที่ดิน ส.ป.ก. แต่อย่างใด เพียงแต่ระบุว่าได้รับอนุญาตอาชญาบัตรพิเศษ 44 แปลง

ซึ่งระบุว่าอาชญาบัตรพิเศษดังกล่าวมีเงื่อนไขว่าจะต้องดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของพื้นที่ด้วย ซึ่งข้อความดังกล่าวสอดคล้องกับเงื่อนไขในการอนุญาตอาชญาบัตรพิเศษ คือ การอนุญาตอาชญาบัตรพิเศษไม่ได้เป็นการผูกพันว่าทางราชการจะต้องอนุญาตให้ผู้ถืออาชญาบัตรพิเศษได้ใช้พื้นที่ที่อยู่ในความดูแลของกรมป่าไม้ สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ นอกจากนี้ การเปิดเผยข้อมูลของบริษัท คิงส์เกตฯ ในตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศไม่ได้อยู่ภายใต้บังคับของกฎหมายของไทยแต่อย่างใด

“นอกจากนี้ การอนุญาตอาชญาบัตรพิเศษสำรวจแร่ ก็ไม่เป็นการผูกพันว่าทางราชการที่รับผิดชอบพื้นที่ จะต้องอนุญาตให้ผู้ถืออาชญาบัตรพิเศษนี้เข้าใช้พื้นที่ในการสำรวจดังกล่าวด้วย” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวย้ำ

นอกจากไวรัสโคโรน่าจะสร้างวิกฤติต่อภาคธุรกิจบางกลุ่ม แต่ในธุรกิจบางกลุ่มก็สามารถเติบโตขึ้นมาได้ โดยเฉพาะกับธุรกิจบริการด้านอิเล็กทรอนิกส์ ที่สามารถเข้ามาช่วยลดขั้นตอนในการสื่อสารระหว่างองค์กรและยังช่วยให้การดำเนินธุรกิจประสบความสำเร็จรวดเร็วมากขึ้น

ควบคู่ไปกับการประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่า

นายอเล็กซ์ โลท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ซิมโฟนี่ คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SYMC กล่าวว่า ในโลกปัจจุบันหลายองค์กรมีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาพัฒนากระบวนการต่างๆ ในธุรกิจ (Digital Transformation) และมีบทบาทสำคัญอย่างมากในการขับเคลื่อนธุรกิจให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วตลอดจนสร้างผลกำไรในระยะยาว ในฐานะที่เป็นผู้ให้บริการโครงข่ายสื่อสารโทรคมนาคมและผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตชั้นนำ จึงมีนโยบายที่จะนำระบบบริการอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Services เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับการเชื่อมต่อโครงสร้างพื้นฐานของเครือข่ายหลัก และนำเสนอประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับลูกค้าของ SYMC ได้ในอนาคต

โดยสิ่งที่เริ่มต้นไปแล้วเมื่อเร็ว ๆ นี้ คือการผนึกกำลังกับ บริษัท ครีเดน เอเชีย จำกัด พันธมิตรผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีพิสูจน์และยืนยันตัวตนแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-KYC) และบริการลงลายมือชื่อแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Signature) เพื่อให้ผู้ใช้งานได้เข้าถึงบริการในรูปแบบดิจิทัลได้ด้วยความรวดเร็ว ปลอดภัย ลดขั้นตอนในการติดต่อสื่อสาร แต่ยังสามารถใช้บริการสำคัญได้ โดยไม่ต้องคำนึงถึงเวลาและสถานที่ อันสอดคล้องกับพฤติกรรมลูกค้าและวิวัฒนาการของการดำเนินธุรกิจที่ได้ปรับเปลี่ยนไปภายหลังวิกฤตการณ์โควิด-19

"ในอนาคตยังมีแผนจะขยายความร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อให้บริการด้าน e-Service อื่นๆ ให้ครบวงจร อาทิ การออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) ที่ปรับรูปแบบจากกระดาษเป็นแบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งรองรับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ได้เป็นอย่างดี มีความน่าเชื่อถือ ลดปัญหาการจัดการข้อมูลหรือเอกสารในรูปแบบกระดาษ สามารถนำข้อมูลไปใช้ประมวลผลในระบบสารสนเทศ เพื่อทำให้ธุรกิจลูกค้าสามารถเดินหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ และก้าวเท่าทันยุคสมัยที่เปลี่ยนไป"    นายอเล็กซ์ กล่าว

ด้าน นายสุวัฒน์ เจษฎางษ์กุล หัวหน้าสายงานธุรกิจใหม่และกลยุทธ์ บริษัท ซิมโฟนี่ คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า e-Services จะเป็นเป้าหมายทางธุรกิจใหม่ที่เข้ามาสร้างโอกาสสำคัญให้กับบริษัท จากการวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้าที่มีอยู่พบว่า ส่วนใหญ่ต้องการนำดิจิทัลสมัยใหม่เข้ามาใช้ในการอำนวยความสะดวก ที่สำคัญคือลดต้นทุนในการบริหารงาน ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยาวแบบเห็นผลได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะบริษัทขนาดกลางจนถึงขนาดใหญ่ SYMC จึงได้ขยายแผนธุรกิจที่เน้น Digital Transformation ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยยกระดับภาพลักษณ์ธุรกิจของลูกค้า และเพิ่มศักยภาพทางการแข่งขันได้เป็นอย่างดี

"ขณะนี้บริษัทได้เริ่มนำเสนอบริการ e-KYC และ e-Signature ให้กับหลากหลายธุรกิจแล้ว โดยแต่ละกลุ่มธุรกิจสามารถนำไปสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริการของตัวเองที่ต่างกันไป อาทิ ธุรกิจโรงแรมและธนาคาร ลูกค้าสามารถลงทะเบียนจองคิวเพื่อรับบริการในเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันได้ล่วงหน้า เมื่อเดินทางมาถึงสถานที่ให้บริการนั้น ๆ เพียงแค่ยืนยันตัวตนและถ่ายภาพผ่านแพลตฟอร์ม e-KYC ก็สามารถเข้าใช้บริการได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลาในการรอคิว หากเข้าใช้บริการในครั้งถัดไป เพียงแค่ถ่ายภาพและเข้ารับบริการได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องทำการยืนยันตัวตนหรือแสดงบัตรประจำตัวประชาชนให้เกิดความยุ่งยาก ส่วนธุรกิจโรงพยาบาล แพทย์สามารถลงนามในใบรับรองแพทย์ได้ตลอดทุกที่ทุกเวลา เพื่อนำส่งเอกสารส่งไปยังแผนกอื่น ๆ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนได้ต่อไปอย่างรวดเร็วแม้แต่การเคลมประกัน เพราะมีการเชื่อมต่อ API ระหว่างบริษัทประกันและโรงพยาบาล

นอกจากนี้ ยังมองไปถึงกลุ่มธุรกิจที่จะเกิดประโยชน์จากการใช้บริการ e-Services เพื่อตอบโจทย์การบริหารงาน ไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจสตาร์ทอัพ (Startup) ที่ช่วยตอบสนองการทำงานในองค์กรที่เน้นความคล่องตัว สามารถทำงานจากที่ใดก็ได้ กลุ่มธุรกิจที่มีเครือข่ายอยู่คนละประเทศ ที่ต้องมีการส่งเอกสารหรือยืนยันเอกสารสำคัญกันระหว่างประเทศ จนถึงกลุ่มธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ (e-Commerce) ก็ได้ประโยชน์โดยตรงจากบริการเหล่านี้เช่นเดียวกัน"

ทั้งนี้ ผู้ใช้งานสามารถมั่นใจในเรื่องความปลอดภัยและความถูกต้องของข้อมูลได้อย่างแน่นอน โดย e-KYC มีเทคโนโลยี Face Verification และ Artificial Intelligence (AI) ในการตรวจสอบใบหน้าและข้อมูลบัตรประชาชนกับกรมการปกครองผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์มที่รวดเร็ว และยังเชื่อมโยงฐานข้อมูลกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) ส่วนบริการ e-Signature ที่ทำให้เซ็นเอกสารธุรกรรมออนไลน์ผ่านอุปกรณ์ที่รองรับได้ทุกรูปแบบ

ทั้งสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์พีซี โดยข้อมูลมีความปลอดภัยสูงจากการตรวจสอบของเทคโนโลยีบล็อคเชน (Blockchain) เอกสารดิจิทัลมีการประทับเวลาบันทึกตามมาตรฐาน e-Stamping ของ TEDA หรือ Trusted Electronic Document and Authentication จัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ (Cloud) หรือเซิร์ฟเวอร์ (Server) สามารถเรียกดูและตรวจสอบได้ตลอดเวลา

สำหรับองค์กรธุรกิจที่สนใจในบริการทางด้าน e-Services ที่ครบวงจรสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่โทร. 02-101-1111 หรือ e-mail : [email protected]

เมื่อวานนี้ จากกรณีที่นายกรัฐมนตรีนำสเปรย์แอลกฮอล์ฉีดใส่ผู้สื่อข่าว จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียล โดยล่าสุดนั้นพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ปรารภกับคนใกล้ชิดถึงกรณีการนำสเปรย์แอลกอฮอล์ฉีดใส่ผู้สื่อข่าว ว่า “แค่จะเล่นกับสื่อ เป็นเรื่องจนได้”

เรื่องนี้ นางอมรรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์แฟนเพจเฟซบุ๊ก โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ว่า รู้จักใช้มือนึงยกแมสขึ้นปิดจมูกปกป้องตัวเอง แต่ใช้อีกมือยกสเปรย์ฉีดพ่นใส่หน้าคนอื่น #นายกเฮงซวย

ล่าสุด ส.ส. ผู้นี้ ยังระบุว่า เขาจะไม่หยอกด้วยการขู่จะทุ่มโพเดี้ยมใส่ ไม่ล้อเล่นด้วยการปาเปลือกกล้วย ไม่ยกแมสปิดจมูกตัวเอง แล้วฉีดสเปรย์แอลกอฮอล์ใส่หน้าผู้อื่น เพื่อนพี่น้องผู้สื่อข่าวที่รักทุกท่าน ถ้าผลโหวตวันนั้นธนาธรได้เป็นนายกรัฐมนตรี เขาจะเรียกพวกท่านด้วยสรรพนามพวกท่าน หรือพวกคุณ ไม่ใช่ “พวกเธอ”


ที่มา: https://www.naewna.com/politic/558309

"ทิพานัน" ซัด “พรรคการเมือง - ม็อบ” โหนกระแส ใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือ ห่วง ชาวบางกลอย เป็นเหยื่อการเมือง

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวถึงกระแสข่าวแกนนำกลุ่มราษฎรบางคน ระดมเงินและสิ่งของเพื่อสนับสนุนการชุมนุมของชาวบางกลอย ที่ชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขข้อพิพาทชุมชนกะเหรี่ยงบางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ว่า เป็นห่วงว่าชาวบางกลอย จะตกเป็นเหยื่อทางการเมือง ทั้งที่มีเจตนารมณ์บริสุทธิ์ เพราะขณะนี้กลุ่มต่างๆพยายามยื่นมือเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยความปรารถนาดี หรือประสงค์ร้าย หรือต้องการโหนกระแส จะช่วยแก้ปัญหาแต่ยิ่งแก้ยิ่งยุ่ง จึงขอวิงวอนให้พรรคการเมือง กลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมือง อย่าฉวยโอกาสเอาความทุกข์ของชาวบ้านมาเป็นเครื่องมือขับเคลื่อนเพื่อเป้าหมายของตนเองอย่างไร้มนุษยธรรม แทรกแซงกระบวนการการแก้ไขปัญหาของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่กำลังเจรจาหาทางออก

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า "ในระหว่างที่ยังอยู่ในขั้นตอนการเจรจาหาข้อสรุป บางพรรคการเมืองไม่ควรใช้เป็นประเด็นหาประโยชน์ให้พรรคตนเอง เหมือนหวังดีแต่ประสงค์ร้าย ขอให้หยุดการแทรกแซงที่มีแต่จะชักใบให้เรือเสีย และตนเชื่อว่าทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯพยายามหาทางออกเรื่องนี้ ให้คนอยู่ได้และป่าอนุรักษ์ก็อยู่ได้ เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 43 (2) ที่ให้บุคคลและชุมชนมีสิทธิทั้งใช้ประโยชน์ และบำรุงรักษาทรัพยากรธรรมชาติให้สมดุลและยั่งยืน และกลุ่มชาติพันธุ์ได้ทำหน้าที่ในการร่วมมือและสนับสนุนการอนุรักษ์และคุ้มครองสิ่งแวดล้อมทรัพยากรธรรมชาติ ความหลากหลายทางชีวภาพ รวมทั้งมรดกทางวัฒนธรรมตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 50(8)"

"เข้าใจว่าในสถานการณ์ที่แกนนำม็อบถูกจับกุมตัว แกนนำแถว 1-2-3 ทยอยถูกดำเนินคดี ทำให้ม็อบเริ่มฝ่อ แต่ฝ่ายการเมืองไม่ควรฉวยโอกาส ผลักดันประเด็นปัญหาของชาวบางกลอยขึ้นมาแทนที่ หวังเป็นอีแอบให้ชาวบ้านบางกลอยออกหน้าให้กับพรรคการเมืองอย่างใจดำอำมหิต" น.ส.ทิพานัน กล่าว

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า "ที่ผ่านมากลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงในพื้นที่บ้านโป่งลึก - บางกลอยได้รับการจัดสรรที่ดินครอบครัวละ 7 ไร่ 3 งาน มีผู้ถือครองที่ดินจำนวน 260 ราย 337 แปลง คิดเป็นพื้นที่ 1,890 ไร่ และจากการเชิญทูตจาก 10 ประเทศประจำประเทศไทย IUCN ผู้แทนรัฐภาคีสมาชิกในคณะกรรมการมรดกโลก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ก็ได้เห็นการจัดการของเจ้าหน้าที่ การทำงาน และความเป็นอยู่ของชาวบ้านในพื้นที่ ทุกประเทศความพอใจการทำงานและชื่นชมในความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติของพื้นที่บริเวณอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ส่วนข้อเรียกร้องของกลุ่มชาติพันธุ์จำนวน 59 คน ที่แสดงเจตจำนงที่จะทำไร่หมุนเวียนที่บริเวณบางกลอยบน ทั้งหมด 36 ครัวเรือนๆละ 15 ไร่ หมุนเวียนเป็นระยะเวลา 10 ปี ไม่ซ้ำที่เดิม และสามารถเลือกทำบริเวณใดก็ได้ ถือเป็นข้อเรียกร้องที่ต้องพิจารณา เพื่อสร้างสมดุลระหว่างสิทธิของกลุ่มชาติพันธุ์กับการคุ้มครองและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพราะเป็นพื้นที่ป่าต้นน้ำของแม่น้ำเพชรบุรีและแม่น้ำปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกอาเซียนตามปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยมรดกโลกด้วย"

‘บิ๊กตู่’ เลื่อนฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของ ‘แอสตราเซนเนก้า’ ที่มีกำหนดฉีดเช้าวันนี้ หลังกลุ่มประเทศในยุโรป ระงับฉีดจากผลข้างเคียงลิ่มเลือดอุดตัน

นพ.อภิชาต วชิรพันธ์ ผู้อำนวยการสถาบันบำราศนราดูร กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เลื่อนการเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ณ สถาบันบำราศนราดูร กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขในวันนี้ ทั้งวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้า และวัคซีนของซิโนแวก แต่ในส่วนของบุคลากรทางการแพทย์และประชาชนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงยังฉีดวัคซีนของซิโนแวกตามปกติ แต่รายละเอียดทั้งหมดต้องรอกระทรวงสาธารณสุขแถลงความชัดเจนอีกครั้ง

รายงานข่าวจากกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า การเลื่อนการฉีดวัคซีนครั้งนี้คาดว่าเป็นเพราะมีรายงานข่าวว่า ประเทศเดนมาร์กและ 6 ชาติอียู สั่งระงับการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า เนื่องจากพบว่ามีผู้รับวัคซีนเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตัน โดยทางกระทรวงสาธารณสุขได้ประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์ตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้

นอกจากนี้ ศ.เกียรติคุณ พญ.สมศรี เผ่าสวัสดิ์ นายกแพทยสภา ศ.เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุขจะมีการแถลงด่วน เกี่ยวกับประเด็นการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าในเช้าวันนี้

'หมอยง' แจงวัคซีน 'แอสตราเซเนกา' ปมประเทศในยุโรประงับใช้หลังข่าวทำเลือดแข็งตัว ยันต้องสอบสวนก่อน พร้อมระบุ วัคซีนที่ไทยใช้ผลิตในเกาหลี

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Yong Poovorawan โดยระบุว่า โควิดวัคซีน ข่าวที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือดในหลอดเลือดดำ

เป็นที่วิตกกังวลกันว่า วัคซีน astrazeneca จะใช้ในบ้านเรา มีข่าวในหลายประเทศหยุดใช้ชั่วคราวเพราะมีผู้ป่วยเกิดการแข็งตัวของเลือดในหลอดเลือดดำและมีการเสียชีวิต 1 ราย จากการศึกษาใน 3 ล้านรายที่ฉีดวัคซีน มีการป่วยเกิดขึ้น 22 คน หรือเทียบกับ 7 คนในล้านคนที่ฉีดวัคซีน

แน่นอนเหตุการณ์อะไรก็ตามแต่ที่เกิดขึ้นหลังการฉีดวัคซีน ถือเป็นเรื่องใหญ่ เพราะวัคซีนนี้เป็นวัคซีนใหม่ จะต้องมีการตรวจสอบว่าเกี่ยวข้องกับวัคซีนหรือไม่

อุบัติการณ์การเกิดการอุดตันของเส้นเลือดดำ พบได้บ่อยในคนยุโรป อเมริกามากกว่าคนเอเชีย ถึง 3 เท่า

เราจะเห็นว่าเวลาขึ้นเครื่องบิน จะมีการแนะนำเสมอ ให้กินน้ำให้มาก และให้ขยับตัว ขยับเท้าเพื่อป้องกันการเกิดภาวะการณ์ดังกล่าว ปัจจัยทางพันธุกรรมมีส่วนเข้ามาเกี่ยวข้องแน่นอนที่ทำให้คนยุโรปมีโอกาสเป็นมากกว่าคนเอเชีย

หลังจากเกิดเหตุการณ์ ทางประเทศอังกฤษได้ฉีดไปแล้วมากกว่า 11 ล้านคน ก็ไม่พบอุบัติการณ์ดังกล่าวเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติ

โรคดังกล่าวจะมีอัตราการเพิ่มขึ้นตามอายุที่มากขึ้น โดยคนในยุโรปที่อายุเกิน 60 ปีจะมีอุบัติการณ์ประมาณ 5 - 13 ใน 1,000 person year

Prof Paul Hunter ในภาวะปกติถ้าฉีดวัคซีนแล้วติดตามไป 1 เดือน ในคนที่อายุเกิน 60 ปีขึ้นไปในช่วงเวลา 1 เดือนจะพบได้ถึง 400 ถึง 1,000 episode ต่อประชากร 1 ล้านคน

อย่างไรก็ตามจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องหาสาเหตุว่าเกี่ยวข้องหรือไม่ หรือเป็นอาการที่พบร่วมด้วยหลังฉีดวัคซีน อะไรก็ตามแต่ที่เกิดร่วมด้วยหลังฉีดวัคซีนจำเป็นต้องมีการสอบสวน

อย่างที่เคยกล่าวมาแล้วหลังการฉีดวัคซีนของ Pfizer ในนอร์เวย์และเกาหลี มีการเสียชีวิตเกิดขึ้น แต่ต่อมาก็พิสูจน์ว่าการเสียชีวิตดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับวัคซีน วัคซีน Pfizer ก็ยังคงดำเนินการฉีดต่อไปอีกเป็นจำนวนมากหรือจะมากที่สุดก็ได้ในขณะนี้

คนเอเชียอย่างประเทศไทยมีโอกาสเกิดโรคนี้น้อยกว่าคนยุโรปถึง 3 เท่า และวัคซีนที่ใช้ที่ทางยุโรปหยุดการใช้ใน batch นี้ผลิตในยุโรป จึงมีการระงับใช้ไปไม่น้อยกว่า 6 ประเทศ แต่ว่าวัคซีนที่ใช้ในประเทศไทย ผลิตจากโรงงานเกาหลี

จากข้อมูลทั้งหมดคณะกรรมการ จะต้องเป็นผู้กำหนดสำหรับประเทศไทย และจะต้องมาหารือร่วมกัน


ที่มา : https://www.facebook.com/yong.poovorawan

สำนักงานยายุโรปเร่งสอบข้อเท็จจริง หลังเกิดกรณีผู้เข้ารับวัคซีนโควิด-19 ‘แอสตราเซเนกา’ ในยุโรปเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตัน จนเสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 1 ราย

สำนักงานยายุโรป (EMA) กล่าวว่า ปัจจุบันทั่วยุโรปมีการฉีดวัคซีนโควิด-19 แอสตราเซเนกาให้ประชากรแล้วกว่า 5 ล้านคน แต่มีรายงานว่า 30 คนในนี้เกิดภาวะเลือดแข็งตัวเกิดลิ่มเลือดอุดตันหลังฉีดวัคซีน และหนึ่งในนั้นเสียชีวิต

เมื่อมีรายงานดังกล่าวเกิดขึ้น ทำให้หลายประเทศในยุโรปได้ระงับการฉีดวัคซีนโควิด-19 แอสตราเซเนกา เริ่มจาก ‘ออสเตรีย’ ที่มีหญิงวัย 49 ปีเสียชีวิตเมื่อวันอาทิตย์ (7 มี.ค.) จากภาวะลิ่มเลือดอุดตันหลังฉีดวัคซีนโควิด-19 แอสตราเซเนกา และประกาศระงับใช้วัคซีนเฉพาะล็อต ABV5300 ในวันจันทร์ (8 มี.ค.) ซึ่งมีจำนวน 1 ล้านโดสแจกจ่ายไปใน 17 ประเทศสหภาพยุโรป

หลังจากนั้นยังพบผู้ที่มีภาวะเลือดแข็งตัวเพิ่มขึ้นอีก 3 รายจากวัคซีนโควิด-19 แอสตราเซเนกาล็อตดังกล่าว ทำให้มีอีก 4 ประเทศประกาศระงับใช้วัคซีนโควิด-19 ล็อตดังกล่าว คือ ‘เอสโตเนีย’, ‘ลิทัวเนีย’, ‘ลักเซมเบิร์ก’ และ ‘ลัตเวีย’

ต่อมาในวันพฤหัสบดี (11 มี.ค.) ‘อิตาลี’ ประกาศระงับใช้วัคซีนโควิด-19 แอสตราเซเนกาชั่วคราว จากความกังวลเรื่องภาวะลิ่มเลือดอุดตันหลังฉีด แต่เฉพาะล็อต ABV2856 เท่านั้น จากนั้น ‘เดนมาร์ก’, ‘ไอซ์แลนด์’ และ ‘นอร์เวย์’ ก็ประกาศระงับการใช้ในวันเดียวกัน แต่เป็นการระงับใช้วัคซีนโควิด-19 แอสตราเซเนกาทั้งหมด

นอกจากนี้ มีข่าวที่ยังไม่ได้รับการยืนยันว่า ที่อิตาลีมีชายวัย 50 เสียชีวิตจากภาวะลิ่มเลือดอุดตันหลังเข้ารับวัคซีนโควิด-19 แอสตราเซเนกาเช่นกัน

จาก 9 ประเทศข้างต้นที่ประกาศระงับการใช้วัคซีนโควิด-19 แอสตราเซเนกา มีเพียงเดนมาร์กเท่านั้นที่ระบุระยะเวลาการระงับใช้ 2 สัปดาห์ ประเทศอื่นที่เหลือไม่ระบุว่าจะกลับมาใช้วัคซีนดังกล่าวเมื่อใด

ทั้งนี้ บางประเทศเลือกระงับการใช้จากความกังวลถึงรายงานพบผู้รับวัคซีนโควิด-19 แอสตราเซเนกาเกิดลิ่มเลือดอุดตัน แต่บางประเทศก็ตัดสินใจเพราะพบกรณีดังกล่าวด้วยตนเอง

ตัวอย่างเช่น สถาบันสาธารณสุขนอร์เวย์ออกแถลงการณ์ว่า เลือกระงับการฉีดวัคซีนโควิด-19 แอสตราเซเนกาชั่วคราว หลังจากมีรายงานการเสียชีวิตในเดนมาร์ก และนอร์เวย์เองก็พบผู้เข้ารับวัคซีนมีภาวะลิ่มเลือดอุดตันหลังจากได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 เมื่อเร็ว ๆ นี้ แต่ส่วนใหญ่เกิดในผู้สูงอายุซึ่งมักจะมีโรคประจำตัวอื่น

ขณะที่บางประเทศยังไม่พบเคสที่เกิดลิ่มเลือดอุดตันหลังฉีดวัคซีนแต่รอดูสถานการณ์ก่อน เช่น คณะกรรมการด้านสาธารณสุขสเปนประกาศว่า ได้ชะลอการฉีดวัคซีนโควิด-19 แอสตราเซเนกาให้กับผู้ที่มีอายุระหว่าง 55 - 65 ปี จนกว่าจะมีการตรวจสอบและสรุปผลข้างเคียงทั้งหมดโดย EMA

โดยทั่วไป ผลข้างเคียงวัคซีนโควิด-19 แอสตราเซเนกาที่เคยพบ และหน่วยงานสาธารณสุขทั่วโลกเคยรายงาน ได้แก่ มีไข้ ปวดหัว ปวดบริเวณที่ฉีด อาเจียน ท้องร่วง วิงเวียน ไม่อยากอาหาร ปวดท้อง ต่อมน้ำเหลืองโต มีผื่นขึ้น ฯลฯ แต่ไม่มีภาวะลิ่มเลือดอุดตัน

ขณะนี้ คณะกรรมการประเมินความเสี่ยงด้านเภสัชวิทยา (PRAC) ของ EMA กำลังดำเนินการตรวจสอบสาเหตุที่แน่ชัดว่าภาวะลิ่มเลือดอุดตันเกี่ยวข้องกับวัคซีนโควิด-19 แอสตราเซเนกาหรือไม่

ด้านบริษัทแอสตราเซเนกาออกมาชี้แจงว่า บริษัทเห็นความปลอดภัยของผู้รับวัคซีนเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด

“หน่วยงานกำกับดูแลมีมาตรฐานด้านประสิทธิภาพและความปลอดภัยที่ชัดเจนและเข้มงวดสำหรับการอนุมัติยาใหม่ ๆ และรวมถึงวัคซีนโควิด-19 แอสตราเซเนกาด้วย ความปลอดภัยของวัคซีนเราได้รับการศึกษาอย่างกว้างขวางในการทดลองทางคลินิกเฟสที่ 3 และข้อมูลที่ได้รับการตรวจสอบโดยผู้ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียยืนยันว่าวัคซีนนี้เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไป” บริษัทกล่าวในแถลงการณ์

ด้าน EMA กล่าวว่า ประเทศต่าง ๆ ยังสามารถใช้วัคซีนโควิด-19 แอสตราเซเนกาต่อไปได้ในระหว่างการตรวจสอบหาสาเหตุภาวะลิ่มเลือดอุดตัน “ประโยชน์ของวัคซีนดังกล่าวยังคงมีมากกว่าความเสี่ยง”

EMA เสริมว่า “ขณะนี้ยังไม่มีข้อบ่งชี้ว่าการฉีดวัคซีนทำให้เกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตัน ซึ่งไม่เคยถูกระบุว่าเป็นผลข้างเคียงจากวัคซีนนี้”

สำหรับประเทศไทยซึ่งสั่งจองวัคซีนโควิด-19 แอสตราเซเนกาไว้ ล่าสุด เช้าวันนี้ (12 มี.ค.) ผู้บริหารระดับสูงในกระทรวงสาธารณสุข ประชุมด่วน มีมติเลื่อนกำหนดการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาเข็มแรก ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ที่เดิมกำหนดไว้ 09.00 น. วันนี้ ที่สถาบันบำราศนราดูร เพื่อประเมินวัคซีนแอสตราเซเนกา หลังหลายประเทศในยุโรปพบปัญหาผลข้างเคียง


ที่มา:

https://www.pptvhd36.com/news/ต่างประเทศ/143621?utm_campaign=ยุโรประงับ&utm_source=line&utm_medium=oa

https://www.bbc.com/news/world-europe-56357760

https://edition.cnn.com/2021/03/11/europe/astrazeneca-vaccine-denmark-suspension-intl/index.html

https://www.theguardian.com/society/2021/mar/11/denmark-pauses-astrazeneca-vaccines-to-investigate-blood-clot-reports

กลุ่มอาจารย์ยื่นประกันตัว ‘เพนกวิน - รุ้ง - ไผ่’ แจงเหตุจำเป็นด้านการเรียน “ทนายกฤษฎางค์” โวยราชทัณฑ์ขัง “เพนกวิน” รวมนักโทษเด็ดขาด ยังไม่ได้คำตอบ

วันที่ 12 มีนาคม 2564 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน พร้อมกลุ่มอาจารย์จากคณะรัฐศาสตร์, คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา ม.ธรรมศาสตร์ และอาจารย์จาก ม.มหิดล เดินทางมาศาลเพื่อยื่นประกันตัว นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน, น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง และนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน แกนนำกลุ่มราษฎร ที่ไม่ได้รับการประกันตัวคดีชุมนุม 19 กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร ซึ่งเพนกวินและรุ้งมีสถานะเป็นนักศึกษา ป.ตรี ม.ธรรมศาสตร์ ส่วนไผ่มีสถานะเป็นนักศึกษา ป.โท ม.มหิดล

นายกฤษฎางค์ กล่าวว่า "เนื่องจากการยื่นขอประกันตัวครั้งล่าสุด ศาลเขียนเหตุผลเรื่องความจำเป็นเกี่ยวกับการเรียนยังไม่ถึงกับเป็นเหตุที่จำเป็น ทางญาติพี่น้อง พ่อแม่ เลยขอความกรุณาอาจารย์ผู้สอน ผู้บริหาร มาช่วยยื่นประกัน โดยใช้วงเงินประกันคนละ 5 แสนบาท เฉพาะ 3 คนนี้ เพราะอยู่ในช่วงการสอบ อยากให้ศาลพิจารณาอนาคตของเด็ก ไม่ว่าจะถูกดำเนินคดีอย่างไร เมื่อยังไม่ตัดสินต้องให้โอกาสเขาไปศึกษาเล่าเรียนก่อน เรื่องคดีความก็ว่ากันไป ถ้าไม่ให้ประกันก็เป็นการตัดอนาคตของเด็ก"

ผู้สื่อข่าวถามถึงการวางแนวทางหากศาลไม่ให้ประกันตัว เรื่องการศึกษาจะเดินต่ออย่างไร นายกฤษฎางค์ กล่าวว่า ถ้าตัวไม่ได้ออกก็คงจบ เพราะไผ่ช่วงนั้นที่ติดคุกที่ขอนแก่น เราขอให้เข้าไปสอบก็ไม่ได้รับความร่วมมือ

ด้าน ผศ.ดร.จันทนี เจริญศรี คณบดีคณะสังคมวิทยาฯ ม.ธรรมศาสตร์ ในฐานะอาจารย์ผู้สอนรุ้ง กล่าวว่า "รุ้งเป็นนักศึกษาหลักสูตรวิจัยทางสังคมของคณะ สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์สอบ ซึ่งไม่มีสอบเพราะเรียนออนไลน์ นักศึกษาจะต้องส่งงานวิชาวิจัยต้องค้นคว้า ใช้ห้องสมุดเก็บข้อมูล วิตกกังวลอยู่ที่นักศึกษาถูกคุมขัง ในกระบวนการยุติธรรมมีการประกันตัว เราก็มาทำตามกระบวนการ เป็นสิทธิผู้ต้องขัง คดียังไม่ตัดสิน เราทำตามหน้าที่ของเราที่เป็นทั้งผู้บริหารและอาจารย์ก็มาดูแลนักศึกษา รุ้งก็มีส่วนร่วมอภิปรายในชั้นเรียน"

ทั้งนี้ นายกฤษฎางค์ ทนายความ เปิดเผยด้วยว่า "ในส่วนของเพนกวิน เมื่อวานนี้ (11 มี.ค.) ในการไต่สวนกรณีแยกเรือนจำ เจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ก็มาด้วย ตนทราบจากทนายที่ไปเยี่ยมว่า ปัจจุบันมีการแยกเพนกวินไปอยู่แดน 5 ซึ่งเป็นแดนของนักโทษเด็ดขาด ทั้งที่กรณีเพนกวินยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ รัฐธรรมนูญระบุจะปฏิบัติเหมือนเป็นผู้กระทำผิดไม่ได้ ถ้าขังไว้กับคนที่มีคดียังไม่ได้พิสูจน์ความผิดพอจะรับได้ แม้จะไม่ถูก แต่ไม่ควรแยกแดนไปอยู่แดนนักโทษเด็ดขาด ซึ่งผิดต่อหลักสิทธิมนุษยชน ผิดต่อหลักกฎหมาย ไม่เข้าใจว่าราชทัณฑ์กำลังทำอะไรอยู่ ตนฝากผู้บริหารกรมราชทัณฑ์ที่ส่งตัวแทนมาเมื่อวานขอคำตอบ จนเย็นก็ไม่มีคำตอบ"


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top