Monday, 19 May 2025
NewsFeed

เลขาฯ สมช.เผย ศบค.ชุดเล็กเตรียมหารือ เล็ง! มาตรการสงกรานต์ 64 งดสาดน้ำ - ประแป้ง ปลดล็อกเพียงกิจกรรมที่ใส่หน้ากากได้ พร้อมชงมาตรการส่ง ศบค.ชุดใหญ่ 19 มี.ค. นี้ ในส่วนสมุทรสาครย้ำจัดได้ในระดับหนึ่ง

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม ศปก.ศบค.ประจำวันว่า ในการประชุมวันนี้ได้หารือมาตรการป้องกันโควิด-19 ช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยจะหารือร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกระทรวงสาธารณสุข เกี่ยวกับมาตรการป้องกันโควิด-19 ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ว่าจะจัดในรูปแบบนิวนอร์มัลอย่างไร เพื่อนำเสนอที่ประชุม ศบค.ชุดเล็กในวันที่ 11 มีนาคม ก่อนเสนอ ศบค.ชุดใหญ่ในวันที่ 19 มีนาคม

โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะ ผอ.ศบค.ชุดใหญ่ มีนโยบายผ่อนคลายมาตรการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งก็ต้องดูว่าสามารถผ่อนคลายได้ถึงจุดไหน ดังนั้นจึงต้องหารือให้เกิดความรอบคอบเพื่อเดินหน้าทางเศรษฐกิจต่อไป และควบคู่กับความปลอดภัยจากโควิด-19 เพราะพี่น้องประชาชนให้ความเป็นห่วงว่าหากจัดเทศกาลสงกรานต์จะทำให้เกิดการแพร่ระบาดขึ้นอีก และจะทำให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจตามมา

พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า "โดยการผ่อนคลายที่ ศบค.ชุดเล็กนำเสนอ คือ สามารถจัดกิจกรรมและท่องเที่ยวได้ เช่น การรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ และการสรงน้ำพระ แต่กิจกรรมการเล่นสงกรานต์ใดที่ต้องถอดหน้ากาก เช่น การสาดน้ำ การประแป้ง และกิจกรรมบนถนนข้าวสาร อาจจะทำให้เกิดความเสี่ยง โดยเราจะอนุญาตให้กิจกรรมที่ยังสวมหน้ากากอยู่สามารถทำได้ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับกระทรวงสาธารณสุขว่าจะอนุญาตให้มากน้อยเพียงใด"

เมื่อถามว่า มีความกังวลเรื่องการเคลื่อนย้ายกลับภูมิลำเนาในช่วงสงกรานต์หรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า "ไม่มีความเป็นห่วง เพราะคนไทยให้ความร่วมมือทำตามมาตรการ รวมถึงภาครัฐ และผู้จัดกิจกรรมก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีซึ่งอาจจะทำให้เราสามารถผ่อนคลายได้เพิ่มขึ้น"

เมื่อถามว่าจะผ่อนคลายให้จัดกิจกรรมสงกรานต์ในจังหวัดสมุทรสาครได้หรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า "กำลังพิจารณาอยู่ และช่วงเช้าได้ประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับจังหวัดสมุทรสาคร โดยทางจังหวัดได้ขอผ่อนคลายลงมาบ้าง แต่ที่ประชุม ศบค.ชุดเล็กแจ้งว่าอาจจะผ่อนคลายได้ไม่สุด หรือเทียบเท่าจังหวัดอื่น

โดยจะเริ่มผ่อนคลายในวันที่ 1 เมษายน แต่ก็ยังอยู่ในมาตรการเฝ้าระวังร่วมกับจังหวัดปทุมธานี แต่หากสถานการณ์ดีขึ้นก็จะเฝ้าระวังแค่จังหวัดสมุทรสาครจังหวัดเดียว แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับกระทรวงสาธารณสุขพิจารณาซึ่งจะหารือกันในสัปดาห์หน้าก่อนนำเข้าก่อนนำเข้า ศบค.ชุดใหญ่ในวันที่ 19 มีนาคม"

เมื่อถามย้ำว่า จังหวัดสมุทรสาครไม่สามารถจัดกิจกรรมสงกรานต์ได้ใช่หรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า "อาจจะจัดได้ระดับหนึ่ง หรือจัดโดยใช้มาตรการสวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง ล้างมือ และการคัดกรองอุณหภูมิ หากประชาชนคงมาตรการเหล่านี้ไว้เราก็จะผ่อนคลายมาตรการลงเรื่อย ๆ"

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จ่อฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเข็มแรก วันที่ 12 มีนาคม เวลา 09.00 น. พร้อมแจ้งรัฐมนตรีที่ยังไม่ได้รับวัคซีน ลงชื่อปักเข็มพร้อมกัน

ภายหลังจากที่วัคซีนป้องกันโควิด-19 จากบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า ผ่านการรับรองจาก อย.ของไทยแล้ว ล่าสุดในศุกร์ที่ 12 มีนาคมนี้ เวลา 09.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะเดินทางไปยังสถาบันบำราศนราดูร กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เพื่อรับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เข็มแรก

โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรอให้การต้อนรับ จากนั้นนายกฯ จะเข้าสู่ขั้นตอนการฉีดวัคซีน คือ ลงทะเบียนด้วยบัตรประชาชน รับฟังคำแนะนำ ชั่งน้ำหนักตัว วัดความดันโลหิต รับฟังคำชี้แจงขออนุญาตฉีดวัคซีน ด้วยการลงนามอนุญาตให้ฉีดวัคซีนต่อเจ้าหน้าที่ และรับการฉีดวัคซีน จากนั้นเข้าห้องพักสังเกตอาการจากคณะแพทย์ 30 นาที พร้อมลงทะเบียนในระบบเพื่อบันทึกชนิดของวัคซีนและติดตามอาการ ก่อนรับนัดฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ต่อไป

ซึ่งนายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกรัฐบาล เปิดเผยว่า ในที่ประชุม ครม. นายกฯ ได้แจ้งให้รัฐมนตรีที่ยังไม่ได้รับวัคซีนโควิดให้ไปฉีดวัคซีนโดยพร้อมเพรียงกัน ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมรายชื่อรัฐมนตรีที่รับการฉีดวัคซีน โดยเหตุผลของการให้ ครม.ฉีดวัคซีนครั้งนี้ เนื่องจากได้พบปะประชาชนเป็นจำนวนมาก

แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของรัฐมนตรีแต่ละคน พร้อมระบุว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยังรายงานว่าในวันที่ 25 มีนาคมนี้ วัคซีนล็อตที่ 2 จากบริษัท ซิโนแวค จะเดินทางถึงประเทศไทย ขณะเดียวกันที่จะมีการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ในวันที่ 19 มีนาคมนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเกี่ยวกับความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาถุงมือยางเทียมในองค์การคลังสินค้า หรือ อคส. นั้น นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ว่า กำลังดำเนินการอยู่และจะเร่งให้เสร็จโดยเร็ว

โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ให้สัมภาษณ์ว่า กำลังดำเนินการอยู่และจะเร่งให้เสร็จโดยเร็ว ส่วนที่ติดขัดอยู่ คือ ผู้ที่มีหน้าที่ต้องมาชี้แจงนั้นอาจจะเลื่อนเวลา แต่ตามระเบียบมีระบุอยู่ เมื่อถึงกำหนดแล้วจะไม่สามารถเลื่อนได้ จึงได้เร่งให้รีบสรุปผลโดยเร็ว

เมื่อสรุปผลการหาข้อเท็จจริงทั้งหมดแล้วจะนำเข้าสู่กระบวนการลงโทษ คือ มี 2 ส่วน 1.ตั้งกรรมการชี้โทษว่ามีความผิดระดับไหนต้องลงโทษอย่างไร 2.ชี้โทษทางแพ่งที่จะชดใช้ค่าเสียหายว่าผู้กระทำความผิด จะต้องชดใช้ค่าเสียหายเป็นจำนวนเงินเท่าไร

นี่คือในส่วนของระดับผู้อำนวยการ อ.ค.ศ. ลงมา แต่ส่วนที่สูงกว่านั้น ถ้าพบผู้กระทำความผิดจะเป็นหน้าที่ของ ป.ป.ช. เป็นผู้ชี้มูลซึ่งอยู่ในกระบวนการที่ ป.ป.ช.ดำเนินการอยู่เช่นกันและได้มีการอายัดบัญชีเส้นทางการเงิน 2,000 ล้านบาท ที่อดีตรักษาการผู้อำนวยการโอนไปให้กับ บริษัท การ์เดียนโกลฟส์ แล้ว

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ระบุด้วยว่า ในส่วน 8 สัญญา ฝ่ายกฎหมายของ อ.ค.ส. ได้รายงานแล้วน่าจะเป็นโมฆะ 112,500 ล้านบาท (มูลค่าธุรกรรมการขาย) เพราะบางบริษัทที่มาเซ็นต์ไม่ประทับตราบริษัทหรือไม่มีอำนาจตามกฎหมาย ถือว่าไม่เกิดขึ้นเพราะฉะนั้นก็จะมีปัญหาเฉพาะเงินมัดจำ 2,000 ล้านบาทที่โอนไปซึ่งอายัดแล้ว ต่อไปเมื่อชี้มูลความผิดใครรับผิดชอบอะไรก็จะเป็นไปตามกฎหมาย

"ขอเรียนว่าใครผิดก็ไม่เอาไว้ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมมาเร่งรัดติดตามต้องดำเนินการจริงจัง ไม่ต้องการเห็นการทุจริตใดๆ เกิดขึ้น ถ้าเกิดก็ต้องตามจัดการจนถึงที่สุดไม่ว่าจะเป็นทางวินัย อาญา หรือทางแพ่งก็ตาม" นายจุรินทร์ กล่าว

คนพิการไม่มีบัตรคนจน 8.3 เฮ! หลังบอร์ดคนพิการ เล็งเสนอครม.พิจารณาเบี้ยผู้พิการกลุ่มไม่มีบัตรคนจน - อายุเกิน 18 ปี จาก 800 บาท เป็น 1,000 บาท พร้อมขยายเวลายื่นกู้ฉุกเฉินประกอบอาชีพถึง 31 พ.ค. 64

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ซึ่งมีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน ได้พิจารณาแนวทางการส่งเสริมการมีงานทำและการให้ความช่วยเหลือผู้พิการในช่วงสถานการณ์โควิด-19 สาระสำคัญของการประชุม มีดังนี้

1.) เห็นชอบปรับเพิ่มสวัสดิการเบี้ยผู้พิการให้กับคนพิการที่มีบัตรประจำตัวคนพิการแต่ไม่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและมีอายุมากกว่า 18 ปี จำนวน 8.3 แสนคน จาก800บาท/เดือน เป็น 1,000 บาท/เดือน ให้เท่ากับผู้พิการที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และผู้พิการที่อายุต่ำกว่า18ปี ซึ่งครม.ได้มีมติปรับเพิ่มให้ก่อนหน้านี้แล้ว ทั้งนี้กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการจะต้องนำเสนอครม.เพื่อพิจารณาต่อไป

2.) เห็นชอบขยายเวลาการกู้ยืมเงินเพื่อประกอบอาชีพกรณีฉุกเฉินของกองทุนพัฒนาและส่งเสริมคุณภาพชีวิตคนพิการ วงเงินกู้ไม่เกิน10,000บาทต่อราย โดยไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน ไม่มีดอกเบี้ย ปลอดชำระหนี้ 1 ปี จากเดิมที่หมดเขต 31 มี.ค. 64 ขยายไปถึง 31 พ.ค. 64 ประชาชนผู้สนใจสามารถยื่นคำร้องขอกู้ได้ที่ www.dep.go.th หรือสอบถามสายด่วน พม. 1300

3.) เห็นชอบให้กระทรวงสาธารณสุขพิจารณาการกำหนดโควต้าการรับสิทธิวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 แก่คนพิการโดยเฉพาะกลุ่มคนพิการที่มีความพิการในระดับรุนแรงหรือมีปัญหาด้านสุขภาพ

4.) เห็นชอบให้กระทรวงการคลังพิจารณาเพิ่มมาตรการลดหย่อนภาษีให้สถานประกอบการที่จ้างงานคนพิการในช่วงสถานการณ์โควิด-19 คือ 1.) การจ้างคนพิการตามมาตรา33 ที่หักภาษีได้ 2 เท่า ขอเพิ่มเป็น 3 เท่า 2.)การจ้างคนพิการมากกว่า 60% ของลูกจ้างที่หักภาษีได้ 3 เท่า ขอเพิ่มเป็น 4 เท่า

นางสาวรัชดา กล่าวด้วยว่า "ที่ประชุมมีความห่วงใยผลกระทบของโควิด-19ที่มีต่อผู้พิการ การประชุมครั้งนี้จึงเน้นไปที่การให้การช่วยเหลือฉุกเฉินเพื่อให้ผู้พิการก้าวพ้นความยากลำบากที่ประสบอยู่ขณะนี้ และส่งเสริมโอกาสแก่ผู้พิการเพื่อให้เข้าถึงการจ้างงาน มีรายได้ สามารถพึ่งพิงตนเองได้

ซึ่งขณะนี้แผนการส่งเสริมการมีงานทำของผู้พิการ ได้กำหนดแนวทางการบูรณาการ 29 หน่วยงาน ครอบคลุมการส่งเสริมการมีงานทำ การให้การคุ้มครองสิทธิประโยชน์ตามกฎหมาย และการพัฒนาทักษะ เพื่อประโยชน์แก่คนพิการ ตามเป้าหมายปี 64 สองแสนคนทั่วประเทศ"

สวทช. เผยผลงานวิจัย ‘เนื้อไก่จากโปรตีนพืช’ พร้อมเตรียมจัดงาน NAC2021 เสิร์ฟงานวิจัย ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ BCG ครั้งแรก! บนแพลตฟอร์มออนไลน์เต็มรูปแบบ 25 - 30 มีนาคมนี้

สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กำลังจะมีการจัดงานประชุมวิชาการประจำปี สวทช. ครั้งที่ 16 (16th NSTDA Annual Conference: NAC2021) ภายใต้แนวคิด ‘30 ปี สวทช. ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ BCG เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน’ บนแพลตฟอร์มออนไลน์เต็มรูปแบบผ่านทางเว็บไซต์ www.nstda.or.th/nac ระหว่างวันที่ 25-30 มีนาคม 2564 เพื่อให้สอดรับกับวิถี New Normal

โดยในงานนี้จะมีทั้งกิจกรรมสัมมนา นิทรรศการ การจัดกิจกรรมเยี่ยมชม Open House การรับสมัครงานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี S&T Job Fair และกิจกรรมวิทยาศาสตร์สำหรับเยาวชน หลังจากที่ได้มีการผลักดันให้ระบบเศรษฐกิจแบบ BCG (Bio-Circular-Green Economy หรือเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว) เป็นวาระแห่งชาติ

อย่างไรก็ตามจากงานแถลงข่าวดังกล่าว ทาง สวทช. ได้นำ 7 ตัวอย่างผลงานวิจัยซึ่งเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่จะมีให้ชมในวันจัดงานจริงผ่านระบบออนไลน์มาแสดง

หนึ่งในตัวอย่างงานผลงานวิจัยที่น่าสนใจ คือ ผลิตภัณฑ์ทดแทนเนื้อไก่จากโปรตีนพืช (Plant-based chicken meat) พัฒนาขึ้นโดยอาศัยองค์ความรู้เกี่ยวกับการออกแบบโครงสร้างของอาหาร และคุณสมบัติของโปรตีน ประกอบกับการใช้สารที่ทำหน้าที่ยึดเกาะ และเส้นใยอาหารที่เหมาะสมในการสร้างเนื้อสัมผัสให้คล้ายคลึงกับเนื้อไก่

ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวสามารถปั้นขึ้นรูปได้ง่ายภายหลังการปั่นผสม และสามารถนำไปปรุงเป็นเมนูอาหารต่าง ๆ ได้ทันที โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการแช่แข็ง เช่น วิธีการทอด ย่าง ผัด หรือ แกง ทำให้ง่ายต่อการผลิตในระดับอุตสาหกรรม และมีต้นทุนการผลิตที่ไม่สูงมากนัก มีเนื้อสัมผัสคล้ายเนื้อไก่

ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์มีปริมาณโปรตีนประมาณ 10 - 16% ใยอาหารประมาณ 6 - 10% และไขมันจากพืชที่ปราศจากไขมันอิ่มตัวและคอเลสเตอรอลประมาณ 6 - 9% โดยปริมาณสารอาหาร และความนุ่มของผลิตภัณฑ์ฯ ขึ้นอยู่กับปริมาณส่วนผสมที่ใช้ในสูตรที่สามารถปรับได้ตามความต้องการ


ที่มา: https://www.facebook.com/1523107561151019/posts/3496377517157337/

ไอเดียเจ๋งสุดใน 3 โลก เมื่อทีมพัฒนาเกาหลีใต้ คิดค้นกระบอกฉีดยารุ่นใหม่ Low Dead Space Syringe (LDS) ของเกาหลีใต้ ที่จะเหลือยาค้างเข็มน้อยมาก ๆ สามารถรีดน้ำวัคซีนจากขวดยาได้หมดจนหยดสุดท้าย ทำให้ได้วัคซีนเพิ่มอีก 1 เข็มฟรี ๆ

หมายความว่า จากปริมาณวัคซีน Covid-19 ที่ระบุจากบริษัท Pfizer ว่า 1 ขวด สามารถแบ่งฉีดได้ 6 เข็ม แต่ถ้าใช้กระบอกฉีดยา LDS ของเกาหลีใต้ จะฉีดได้ถึง 7 เข็ม

และยังสามารถใช้กับวัคซีนจาก AstraZeneca ได้ด้วย จากเดิมที่ระบุว่า 1 ขวดแบ่งฉีดได้ 10 เข็ม แต่ด้วยเข็มฉีดยาสัญชาติเกาหลีใต้ รีดได้เพิ่มเป็น 12 เข็มทีเดียว

ปัญหาเรื่องกระบอกฉีดยากับวัคซีน Pfizer มีข่าวมาสักพักแล้ว เนื่องจาก Pfizer ใส่ปริมาณวัคซีนในขวดยาโดยใช้เกณฑ์ว่าต้องฉีดด้วยกระบอกฉีดยารุ่นใหม่ที่เรียกว่า Low Dead Space Syringe จึงจะแบ่งฉีดได้ 6 เข็มต่อขวด แต่ถ้าใช้กระบอกฉีดยารุ่นเก่าจะสามารถดึงวัคซีนออกมาได้เพียง 5 เข็มเท่านั้น

และหลายประเทศก็กำลังเจอปัญหาการขาดแคลนกระบอกฉีดยารุ่นพิเศษ อย่างในญี่ปุ่น เยอรมัน และอีกหลายประเทศในยุโรป ที่อาจทำให้ต้องหันไปใช้เข็มฉีดยารุ่นธรรมดา และต้องเหลือวัคซีนค้างขวดทิ้งอย่างน่าเสียดาย

เกาหลีใต้จึงแก้ปัญหาด้วยการเร่งพัฒนากระบอกฉีดยา LDS ของตัวเองแถมมีประสิทธิภาพเหนือกว่าเดิม ที่จะช่วยลดปริมาณยาค้างเข็มน้อยกว่าเดิม จนสามารถรีดวัคซีนเพิ่มได้อีกเข็ม

แต่ทั้งนี้ก็มีผู้เชี่ยวชาญหลายคน ออกมาให้ความเห็นทั้ง 2 ด้าน ซึ่งฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยมองว่าการพยายามแบ่งวัคซีนเพิ่มจากปริมาณที่ทางบริษัทผู้ผลิตระบุไว้อาจมีผลต่อวัคซีนแต่ละเข็มว่าจะได้ตามปริมาตรที่ควรจะเป็นหรือไม่

แต่ทว่า ศูนย์การแพทย์แห่งชาติของเกาหลีใต้ออกมายืนยันว่าทำได้แน่ และปลอดภัยด้วย เพียงแต่การรีดวัคซีนจากขวดให้ได้จำนวนเข็มที่เพิ่มขึ้น ต้องใช้ความใจเย็น และใช้เวลามากกว่าเดิม แต่ก็ได้มอบหมายให้พยาบาลผู้เชี่ยวชาญถึง 2 คน ทำหน้าที่บรรจุวัคซีนลงในเข็มโดยเฉพาะแล้ว

ส่วนหน่วยงานควบคุมและป้องกันโรคของเกาหลีใต้ หรือ KCDC ก็ไม่ได้ว่าอะไร เพียงแค่ไม่ได้ออกมาเป็นกฏเกณฑ์มาตรฐานอย่างเป็นทางการ แต่ก็ละไว้ในฐานที่เข้าใจว่าไม่ได้ห้าม

หากการรีดวัคซีนเข็มพิเศษสามารถทำได้จริง ก็จะทำให้เกาหลีใต้มีวัคซีนเพิ่มขึ้นมาอีกจำนวนไม่น้อย สมมติว่าเกาหลีใต้ได้วัคซีน Pfizer มาจำนวน 10,000 ขวด ที่ระบุว่าแบ่งได้ 60,000 เข็ม 1 คนต้องฉีดวัคซีน 2 เข็ม จะสามารถฉีดได้ 30,000 คน แต่ถ้าใช้กระบอกฉีดยาของเกาหลีใต้ จะแบ่งได้ถึง 70,000 เข็ม ทำให้ฉีดได้เพิ่มถึง 5,000 คนทีเดียว และจะเพิ่มจำนวนผู้รับวัคซีนได้มากกว่านี้อีก หากใช้วัคซีนจาก AstraZeneca

ไอเดียนี้บริษัทผู้ผลิตวัคซีนอาจไม่ปลื้มเท่าไหร่ แต่สำหรับชาวเกาหลีใต้ บอกได้คำเดียวว่ากำไรเห็นๆ


อ้างอิง:

https://www.straitstimes.com/asia/east-asia/south-korean-hospitals-extract-extra-covid-19-vaccine-doses-from-vials

https://www.channelnewsasia.com/news/asia/south-korea-hospitals-extract-extra-covid-19-vaccine-doses-vials-14375734

https://www.dailysabah.com/world/asia-pacific/skorea-allows-doctors-to-extract-more-doses-from-covid-19-vials

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว กรณีเลือกตั้งซ่อมนครศรีธรรมราช ที่พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะแกนนำรัฐบาล สามารถเอาชนะคู่แข่ง พรรคประชาธิปัตย์ เจ้าของพื้นที่เดิม และเป็นพรรคร่วมรัฐบาลไปได้

เหตุที่เสาไฟฟ้าล้ม

พรรคประชาธิปัตย์เคยเป็นเจ้าถิ่นภาคใต้มาก่อน ส่งเสาไฟฟ้าลงยังได้รับเลือกเป็น ส.ส.

แต่นี้ต่อไป คงไม่ใช่แล้ว

เหตุทุกอย่างล้วนเกิดจากสุเทพก้าวข้ามเส้น กระสันอำนาจ หวังเดินทางลัด ล้มเลือกตั้ง อ้างปฏิรูปจนระบบพัง ปล่อยเสือเข้าป่า ให้ทหารแหกค่ายมายึดอำนาจจนติดใจ ตั้งเป็นพรรคพลังประชารัฐ

จนถึงวันนี้ เสือย้อนกลับมากัดพรรคประชาธิปัตย์ จนไม่มีโอกาสได้เป็นเจ้าถิ่นภาคใต้อีก แถมกรุงเทพฯยังสูญพันธุ์เหมือนเดิม ลามไปถึงผู้ว่า กทม. ที่เคยได้เป็นติดต่อกันมาหลายสมัย

หลังจากนี้อย่าได้หวังว่าอะไรจะเหมือนเดิม

เรื่องของเรื่องมาจาก กปปส. โดยแท้ ที่ทำให้เสาไฟฟ้าล้มระเนระนาดอย่างทุกวันนี้

เลือกตั้งครั้งหน้า ขอทำนายไว้ 25 ที่นั่ง หากยังไม่ยกเครื่อง


ที่มา : เพจเฟซบุ๊ก ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ https://www.facebook.com/ChuvitKamolvisit/photos/a.725057480874317/4276380015742028/

SMS ขยะหลอกได้รับสิทธิเงินกู้ระบาดหนัก ‘หมอแล็บแพนด้า’ เตือนอย่าหลงเชื่อมิจฉาชีพเด็ดขาด

ระบาดหนักขึ้นทุกวัน สำหรับมิจฉาชีพที่ส่งข้อความ หรือ SMS ขยะ ลวงเหยื่อให้กดเข้าไปในลิงค์ เพื่อหลอกให้โอนเงิน ล่าสุด เฟซบุ๊ก "หมอแล็บแพนด้า" ได้ออกมาโพสต์เตือนภัย โดยระบุว่า ถ้าใครไปเจอข้อความแบบนี้ อย่ากดเข้าไปเด็ดขาดนะครับ มันคือมิจฉาชีพ

วิธีการของกลุ่มนี้คือ มันจะให้เราโหลดแอปกู้เงิน แล้วจะมีพนักงานไลน์มาคุยกับเรา พอเรากู้เงินผ่าน พนักงานพวกนี้มันจะบอกให้เราต้องโอนค่าค้ำประกันเงินกู้ 10% ของวงเงินกู้เรา สมมติว่าเราจะกู้ 5 แสน เราต้องโอนให้มัน 5 หมื่นถึงจะกู้ได้

พอเราหลงเชื่อโอนไป 10% เสร็จเรียบร้อย มันจะบอกว่าข้อมูลของเราไม่ถูกต้อง ทั้งที่ข้อมูลเราถูกต้องทุกอย่าง จากนั้นไม่นาน มันจะบอกให้เราออกจากระบบแล้วล็อกอินเข้าใช้งานใหม่ เลขบัญชีที่เราเคยกรอกข้อมูลไว้ มันดันเปลี่ยนแปลงไป

แล้วมันก็บอกว่าเราต้องจ่ายค่าแก้ไขข้อมูลให้มันอีก 30% ของวงเงินกู้ ถึงจะถอนเงินกู้ออกมาได้ สุดท้ายบางแอปมันปิดหนีเราไปเลย

บางคนก็จะโดนพวกมันขู่ว่า มันรู้เลขบัญชีเราแล้ว ถึงเราไม่กู้มันจะตัดบัญชีเราอัตโนมัติ 10% ทุกเดือน ถ้าจะยกเลิกสัญญา ต้องเอาบัตรประชาชนไปสำนักงานใหญ่มันเท่านั้น ไม่รู้ว่าสำนักงานมีจริงมั้ยก็ไม่รู้

สรุปคือ อย่าไปกด อย่าไปโหลด อย่าไปให้ข้อมูลอะไรทั้งสิ้น ไม่งั้นชีวิตจะเป็นทุกข์ ฝากบอกต่อๆกันด้วยนะครับ


ที่มา : เพจ หมอแล็บแพนด้า https://www.facebook.com/MTlikesara/photos/a.163769617162564/1624585334414311/

กระทรวงศึกษาธิการ เผย TCAS ยังยึดปฏิทินตามกำหนดเดิม จัดติวออนไลน์ร่วมกับ สพฐ. ส่งบทเรียนและเทคนิคการสอนของครูจากโรงเรียนดัง เผยแพร่ผ่านช่อง OBEC Channel ดันเด็ก ม.6 ฟิตสอบเข้ามหาวิทยาลัย

คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รักษา รมว.ศธ.) กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ตนได้มอบหมายให้นายสุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ปลัด ศธ.) ไปหารือร่วมกับที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) และกระทรวงการอุดมศึกษา วิจัย วิทยศาสตร์ และนวัตกรรม (อว.)

เนื่องจากได้รับข้อร้องเรียนจากกลุ่มนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ว่าการเลื่อนสอบรายวิชาที่ใช้ในระบบการคัดเลือกกลางบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา ปีการศึกษา 2564 (TCAS) ได้แก่ ความถนัดทั่วไป (GAT) และการทดสอบความถนัดทางวิชาการ/วิชาชีพ (PAT) ปีการศึกษา 2564 ในวันที่ 20 - 23 มีนาคม ตรงกับวันสอบปลายภาคของโรงเรียน

วันสอบ 9 วิชาสามัญ วันที่ 3 - 4 เมษายน และวันทดสอบการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (โอเน็ต) วันที่ 27 - 28 มีนาคม ตรงกับวันเกณฑ์ทหารและวันเลือกตั้งท้องถิ่น รวมถึงช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ที่มีการระบาดรอบใหม่เกิดขึ้น ส่งผลให้เด็กเรียนได้ไม่เต็มที่ เพราะต้องหยุดเรียนโดยที่ไม่ได้เรียนกับครูผู้สอนในชั้นเรียนเป็นเวลา 1 เดือนจึงขอให้มีการขยับการสอบทีแคสออกไปอีก 1 เดือนได้หรือไม่ เพื่อจะได้เตรียมความพร้อมในการติวสอบ

ขณะเดียวกันตนยังมีไอเดียที่จะทำห้องเรียนติวออนไลน์เกิดขึ้น ซึ่งขณะนี้ได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ไปดำเนินการแล้ว เพราะจะทำให้เด็กได้ทบทวนบทเรียน และเติมเต็มความรู้ในช่วงที่ต้องหยุดเรียน เนื่องจากวิกฤตโควิด

ด้าน นายสุภัทร กล่าวว่า ตนได้เข้าร่วมประชุมกับทปอ.สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ) และ อว.แล้ว ซึ่งมีข้อสรุปว่าการเลื่อนสอบ TCAS ยังยึดปฏิทินตามกำหนดเดิม เนื่องจากเด็กส่วนใหญ่มีการจองตารางการเดินทางของรถโดยสารและเครื่องบินไว้แล้ว

ซึ่งการสอบที่สามารถเลื่อนสอบได้คือ การสอบโอเน็ตจากเดิมกำหนดไว้วันที่ 28 มีนาคมให้ขยับมาสอบวันที่ 29 มีนาคมแทน ส่วนนโยบายการติวออนไลน์ของคุณหญิงกัลยานั้น ตนได้หารือกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) แล้วว่า ให้นำบทเรียนและเทคนิคการสอนของครูจากโรงเรียนดังๆ มาเผยแพร่ผ่านช่อง OBEC Channel

รวมถึง สพฐ.มีบทเรียนออนไลน์ดีๆ อยู่แล้วก็ให้นำมาแชร์ผ่านเว็บไซต์ เพื่อให้เด็กเข้ามาเรียนรู้ ขณะเดียวกัน โรงเรียนดังใน กทม.ที่จะมีการสอนไลฟ์สดสอนเด็ก ได้ขอความร่วมมือให้แชร์ลิงค์ไลฟ์สดเหล่านั้นมาแขวนไว้ที่ช่องของ สพฐ.ด้วย เพื่อให้เด็กคนอื่นๆ ได้เรียนรู้เทคนิคการเรียนดีๆ ไปพร้อมกัน


ที่มา: https://www.thaipost.net/main/detail/95414

‘แรมโบ้อีสาน’ เปลี่ยนชื่อใหม่จาก ‘สุภรณ์’ เป็น ‘เสกสกล’ เรียบร้อย วอนต่อไปขอให้เรียก ‘ดร.เสกสกล’ เผยพระเกจิอยุธยาตั้งให้ มีความหมายว่า ‘ผู้บันดาลให้เกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์มั่นคง’

เมื่อวันที่ 10 มี.ค.64 ที่ผ่านมา นายสุภรณ์ อัตถาวงษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แจ้งในไลน์กลุ่มผู้สื่อข่าวว่า ข่าวด่วนมาแรงจ้า ‘ดร.แรมโบ้’ เปลี่ยนชื่อ จาก ‘สุภรณ์’ เป็น ‘เสกสกล’ ต่อไปต้องเรียก ‘ดร.เสกสกล’ มีความหมายว่า ‘ผู้บันดาลให้เกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์มั่นคง’

โดยหลวงพ่อพระเกจิอาจารย์ที่ดร.แรมโบ้นับถือมายาวนาน ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดท่านหนึ่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นผู้ตั้งชื่อใหม่ให้ในครั้งนี้ หวังว่า มีชื่อใหม่แล้ว จะมีแต่ความเป็นศิริมงคลในชีวิต มีผู้หลักผู้ใหญ่ในรัฐบาลเมตตา มีอนาคตในหน้าที่ทางการเมืองจะประสพความสำเร็จก้าวหน้ายิ่งขึ้นไป

โดยเมื่อช่วงเช้าวันที่ 11 มี.ค. 64 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้ติดบัตรประจำตัวใบใหม่ให้กับเสกสกล พร้อมสอบถามความหมายของชื่อ และให้กำลังใจ ให้คิดดีทำดี ตั้งใจทำความดีเพื่อบ้านเมือง ที่ผ่านมานายกฯให้โอกาสทุกคนพิสูจน์ความตั้งใจในการทำงาน อย่าไปทำอะไรให้มีปัญหาต่อชาติบ้านเมือง สร้างความเดือดร้อนเสียหายให้กับประเทศชาติและประชาชน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top