Monday, 19 May 2025
NewsFeed

หอการค้าฯ เอือมนักการเมืองหาเสียงเพิ่มค่าแรง ชี้ ประเทศพังแน่ ถ้าค่าแรงขั้นต่ำเท่ากันทุกจว.

(6 ธ.ค. 65) ดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย มีนโยบายจะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ไม่ต่ำกว่า 600 บาทต่อวัน และเงินเดือนของผู้จบการศึกษาระดับปริญญาตรี อยู่ที่ 25,000 บาทขึ้นไป ว่า เป็นไปไม่ได้ ไม่สนับสนุนให้ทุกพรรคการเมืองนำเรื่องนี้มาหาเสียงในทางการเมือง เพราะเป็นเศรษฐกิจมหภาคเกี่ยวพันไปทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นขบวนการผลิต การส่งออก กระบวนการท่องเที่ยวบริการ ก่อสร้าง ทุกอย่างที่เกี่ยวกับแรงงาน

“เมื่อปี 54 มีการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาท ทำให้โครงสร้างค่าแรงบิดเบี้ยวและกระทบต่อผู้ประกอบการที่ใช้แรงงานอย่างมหาศาล การหาเสียงโดยไม่มีตรรกะ ไม่มีหลักการและวิชาการรองรับเป็นไปไม่ได้ อย่าลืมว่าการขึ้นค่าแรงมีระบบระเบียบอยู่แล้ว ตามองค์การแรงงานระหว่างประเทศ หรือไอ แอล โอ สำหรับกระทรวงแรงงานของเราเอง ก็ใช้มาตรฐานนี้ และมีคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) จังหวัด นำเสนอค่าแรง อย่าลืมว่าทุกจังหวัดมีสภาพความเป็นอยู่และเศรษฐกิจที่แตกต่างกัน บางจังหวัดไม่มีอุตสาหกรรม บางจังหวัดเป็นจังหวัดท่องเที่ยว บางจังหวัดทำเกษตร เพราะฉะนั้นการขึ้นค่าแรงเหมือนกันหมดจึงเป็นไปไม่ได้ ถ้าค่าแรงขั้นต่ำเท่ากันเมื่อใดพังทั้งประเทศ” ดร.พจน์ ระบุ

'บลูเทค ซิตี้' ประสานความร่วมมือกับกลุ่มภาคีเครือข่าย ลงนาม MOU สร้างทุ่งสมุนไพรป่าชายเลนแห่งแรกของประเทศไทย

​วันนี้ 6 ธันวาคม 2565 ที่บริเวณทุ่งสมุนไพรป่าชายเลน ภายในนิคมอุตสาหกรรมฉะเชิงเทรา บลูเทค ซิตี้ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นประธานพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการ (MOU) โครงการทุ่งสมุนไพรป่าชายเลน ภายใต้แนวคิดการพัฒนาเศรษฐกิจแบบองค์รวม (BCG Model) โดยมีนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA นางสาวกุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ผู้บริหารนิคมอุตสาหกรรมบลูเทคซิตี้  และภาคีเครือข่าย 7 สถาบัน ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการ (MOU) โครงการทุ่งสมุนไพรป่าชายเลน ภายใต้แนวคิดการพัฒนาเศรษฐกิจแบบองค์รวม (BCG Model) ได้แก่ เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว

นางสาวกุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ผู้บริหารนิคมอุตสาหกรรมฉะเชิงเทรา บลูเทค ซิตี้  กล่าวว่า จากสภาวะโลกร้อน ปัญหาสุขภาพคนเมือง และปัญหาเศรษฐกิจในครัวเรือน ปัญหาเหล่านี้ทำให้บลูเทคซิตี้ เล็งเห็นความสำคัญของสุขภาพและสิ่งแวดล้อม จึงเกิดเป็นแรงบันดาลใจให้ทำโครงการ 'ทุ่งสมุนไพรป่าชายเลนแห่งแรกของประเทศไทย' โดยการเชิญปราชญ์ชาวบ้านมาแนะนำการปลูกสมุนไพรพื้นถิ่นไทย 'ต้นเหงือกปลาหมอ' ที่มีประวัติการนำมาใช้เป็นยาสมุนไพรมาตั้งแต่โบราณกาล โดยมักพบในบริเวณป่าชายเลน สามารถนำเป็นยาและเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง อีกทั้งพื้นที่ดังกล่าวยังเป็นพื้นที่อนุรักษ์ป่าชายเลน สร้างความสมดุลให้กับสิ่งแวดล้อม รวมถึง สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับชุมชนโดยรอบ เป็นแหล่งพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมภายในตำบลเขาดิน ให้เป็นหนึ่งในเมืองอัจฉริยะ เพื่อเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจแบบองค์รวมได้เป็นอย่างดี โดยร่วมมือกับภาคีเครือข่าย ประกอบด้วย กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง /กอ.รมน.จังหวัดฉะเชิงเทรา มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ มหาวิทยาลัยบูรพา สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดฉะเชิงเทรา และองค์การบริหารส่วนตำบลเขาดิน

อึ้ง!! 'มิ่งขวัญ' ซบ 'บิ๊กปัอม' พร้อมพ่วงแคนดิเดตนายกฯ ยัน!! ที่มาเพราะไม่มี 'บิ๊กตู่' อยู่ที่ พปชร.แล้ว

'บิ๊กป้อม' ชูมือ 'มิ่งขวัญ' เข้า พปชร. ถึงกับอึ้ง! ประกาศตัวแคนดิเดตนายกฯ กลางวงแถลง แจง 3 เหตุผล 'มาช่วยแก้เศรษฐกิจ-ไม่มีบิ๊กตู่-นั่งแคนดิเดตนายกฯ' ยัน ไม่มีเรื่องเงินมาต้อนเข้าพรรค

(6 ธ.ค.65) ผู้สื่อข่าวรายงานจากที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่า ในช่วงบ่ายก่อนการเปิดตัวนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก แกนนำพรรคทยอยเดินทางเข้ามาร่วมเปิดตัว อาทิ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะเลขาธิการพรรค, นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรค, นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรค, นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรค, นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรค, นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค, น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ, นายอภิชัย เตชะอุบล แกนนำพรรค 

ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพปชร. เดินทางมาถึงที่ทำการพรรคในเวลา 14.50 น. โดยแกนนำต่างทยอยขึ้นไปพบที่ห้องทำงานของ พล.อ.ประวิตร ก่อนที่ พล.อ.ประวิตร และแกนนำพรรค จะลงจากห้องทำงานมาพร้อมกับนายมิ่งขวัญ โดยนายมิ่งขวัญได้สวมเสื้อพรรค พปชร. 

จากนั้นเวลา 15.30 น. คณะกรรมการบริหารพรรค และแกนนำพรรค นำโดย พล.อ.ประวิตร ร่วมกันแถลงเปิดตัวนายมิ่งขวัญ โดย พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า วันนี้เป็นโอกาสที่พรรคได้ต้อนรับนายมิ่งขวัญ เข้ามาอยู่ในพรรค และขอแสดงความยินดีกับนายมิ่งขวัญ และแสดงความยินดีกับตัวเองด้วย ที่จะเข้ามาช่วยกันทำงานให้ประชาชนอยู่ดีกินดีขึ้น ซึ่งเป็นความมุ่งหมายของพรรคที่จะทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดี และสมาชิกพรรคทุกคนขอต้อนรับนายมิ่งขวัญด้วยความยินดียิ่ง

ด้านนายมิ่งขวัญ กล่าวถึงเหตุผลในการมาร่วมกับ พปชร. ว่า ต้องให้เครดิต พล.อ.ประวิตร และขอบคุณ พล.อ.ประวิตร ที่ให้เกียรติเชิญตน โดยบอกว่าวันนี้มีปัญหาเรื่องเศรษฐกิจของประเทศ และหลายปีที่เราต้องทนทรมาน พล.อ.ประวิตร จึงบอกกับตนว่ามิ่งขวัญ ให้มาช่วยกันแก้ปัญหาเศรษฐกิจหน่อย จึงได้เปิดใจคุยกันว่าถ้าหากมา พปชร.ที่มีคนอยู่มาก จะเอาตนไว้ตรงไหน พล.อ.ประวิตร บอกว่าให้มาช่วยเรื่องเศรษฐกิจ โดยคนที่ทำเศรษฐกิจของพรรคเก่งอยู่แล้ว แต่ตนเข้ามาเติมเต็ม เหตุผลที่สองคือ ไม่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม อยู่ในพรรคนี้แล้ว และความจริง พล.อ.ประยุทธ์ ไม่เคยอยู่ เพียงแต่เป็นแคนดิเดตนายกฯ และข่าววันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ เพิ่งจะยืนยันว่าไม่ได้อยู่พรรคนี้แล้ว 

นายมิ่งขวัญ กล่าวว่า ขอย้ำว่าไม่ได้มีปัญหาอะไรกับ พล.อ.ประยุทธ์ แต่ตลอด 3 ปีครึ่งที่ผ่านมาที่ตนอภิปราย เพราะ เป็นนายกฯ แล้วแก้ปัญหาประเทศไม่สำเร็จ เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ แต่แก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่สำเร็จ และเป็นหัวหน้าศบค.แต่มีตัวเลขผู้เสียชีวิต 2 หมื่นกว่าศพ และหากจะสังเกตการณ์อภิปรายของตน จะมีแค่คนเดียวคือ พล.อ.ประยุทธ์ ย้ำว่าไม่ได้มีอะไรโกรธเคืองกับ พล.อ.ประยุทธ์ แต่ที่ต้องตรวจสอบเพราะอาสาเข้ามาทำแล้วทำไม่สำเร็จ ทั้งนี้รู้ดีว่าที่มาแถลงข่าวเทรนด์ทวิตเตอร์ขึ้นไปอันดับหนึ่ง ซึ่งตนไม่ทราบว่าจะมีอะไรสนุกไปกว่านี้หรือไม่ แต่หากไม่แถลงเปิดใจวันนี้ สื่อคงไม่รู้ว่าทำไมถึงพลิกกลับไปกลับมา และอาจจะคิดว่าตนไม่รักษาคำพูด คำว่าตะบัดสัตย์และคำว่าไม่รักษาคำพูด อยากจะชี้แจงให้ชัด รวมทั้งตอนที่ตนลาออกจาก ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่ ไม่ได้บอกว่าการลาออกจะต้องยุติบทบาททางการเมือง

'บิ๊กเพื่อไทย' อบรม 'จิรายุ' ปมคัดเลือกผู้สมัคร ไม่ควรเอาเรื่องขัดแย้งส่วนตัวไปพูดนอกพรรค

(6 ธ.ค. 65) ที่พรรคเพื่อไทย นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ประธานภาคกทม.พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ที่ออกมาแสดงความไม่พอใจที่พรรคที่ไปคัดเลือกว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ซึ่งเป็นคู่ขัดแย้งฟ้องร้องกัน จะให้มาลงสมัคร ส.ส.กาญจนบุรี ในนามพรรคเพื่อไทยว่า ต้องแยกกัน ใครเป็นคู่ขัดแย้งถือเป็นเรื่องส่วนตัว บุคคลที่เสนอตัวมาลงสมัครกับพรรคเพื่อไทย หากคุณสมบัติครบถ้วน พรรคก็ต้องพิจารณา พรรคไม่รู้ก่อนหรอกว่าใครเป็นคู่ขัดแย้งหรือทะเลาะกับใคร

“เรื่องความขัดแย้งส่วนตัวก็ควรเคลียร์กัน เพราะเป็นเรื่องส่วนตัว หากอยากให้ผู้ใหญ่เคลียร์ควรมาบอกกัน ไม่ใช่ออกมาไปให้ข่าวแบบนั้น” นายวิชาญ กล่าว

จ.ชัยภูมิ คว้า 3 รางวัล จากโครงการแสงนำใจไทยทั้งชาติ เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาตครั้งที่ 8 เฉลิมพระเกียรติ

วันอังคารที่ 6 ธันวาคม พ.ศ.2565 เวลา 13.00 น. นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ได้รับเกียรติเป็นประธานคณะเข้ารับมอบโล่รางวัล พร้อมด้วย นางณัฏฐ์ชุดา นันทนิ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชัยภูมิ และนายแพทย์ณรงค์ศักดิ์ บำรุงถิ่น ผอ.โรงพยาบาลชัยภูมิ และนายเกษมสุข กันชัย รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขัยภูมิ เข้ารับมอบโล่รางวัล"โครงการแสงนำใจไทยทั้งชาติ เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 8 เฉลิมพระเกียรติ" ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมสนับสนุนการขับเคลื่อนการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่แข็งแรง โดยจัดให้มีกิจกรรมการแข่งขันออกกำลังกายสะสมแคลอรี่ ผ่านแอปพลิเคชัน Calories Credit Challenge : CCC และกิจกรรม นิทรรศการฯ ในโครงการแสงนำใจไทยทั้งชาติ เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 8 เฉลิมพระเกียรติ “แผ่นดินไทย ไร้สโตรค” โดยกำหนดระยะเวลาการสะสมแคลอรี่ วันที่ 28 กรกฎาคม- 30 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา จังหวัดชัยภูมิได้รับรางวัลรวมทั้งสิ้น 3 รางวัล ได้แก่ 

..จากกระทรวงมหาดไทย “จังหวัด” ที่ได้คะแนนสูงสุด ด้านการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ อันดับที่ 2 

..จากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารางวัลโล่เกียรติยศ “จังหวัด” ที่จัดกิจกรรมด้านส่งเสริมออกกำลังกาย ผ่านแอปพลิเคชัน “Calories Credit Challenge (CCC)” ประเภทจังหวัดอื่นๆ 61 จังหวัดที่ไม่ใช่เมืองกีฬา ได้รับรางวัล “จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมสูงสุด” อันดับที่ 2 และประเภท “จำนวนแคลอรีสะสมสูงสุด” อันดับที่ 2 

​​​​​​

ตม.ชัยภูมิ สนองนโยบายป้องกัน ปราบปรามต่างด้าวหลบซ้อน รวบอินเดียแอบลักลอบอยู่ในราชอาณาจักร เกินกว่า 974 วัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามนโยบายของ พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ผบช.สตม. พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม.กำกับดูแลงานสืบสวน มีคำสั่งให้ทุกหน่วยในสังกัด สตม.ดำเนินการออกระดม กวาดล้างอาญากรรมประเภทต่างๆในพื้นที่รับผิดชอบโดยเฉพาะการอยู่ในราชอาณาจักรเกินกำหนดอนุญาต(OVERSTAY) รวมถึงสืบสวนหาข่าวคนต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมือง การกระทำความผิดที่มีโทษทางอาญา,ผู้ที่มีหมายจับศาลไทยหรือหมายจับศาลต่างประเทศ

ขณะที่ทางด้านพล.ต.ต.เกติ์ฉกาจ นิลประดับ ผบก.ตม.4 และ พ.ต.อ.กฤษฎากรณ์ กลิ่นเกสร รอง ผบก.ตม.4 มอบหมายให้ พ.ต.ท.กวีวัฒธ์ อภิวาท สั่งการให้ชุดสืบสวน ตม.จว.ชัยภูมิ ร่วมกับภาคีเครือข่ายในพื้นที่ สนธิกำลัง กับ กก.สส.ตม.4 สืบค้นหาข่าวจากสายลับโดยได้ร่วมประสานงานกับ จนท. ตร.สภ.เกษตรสมบูรณ์ จนท.ตร ท่องเที่ยวจังหวัดชัยภูมิ ตร.ทางหลวงชัยภูมิ ในพื้นที่ 

ขอนแก่น-กฟผ. ร่วม 'สืบสาน รักษา ต่อยอด' วันดินโลก ชูแนวคิด 'อาหารก่อกำเนิด เกิดจากดิน'

จังหวัดขอนแก่น ร่วมกับ กฟผ. มูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ และสมาคมดินโลก จัดงานวันดินโลก ประจำปี 2565 “สืบสาน รักษา ต่อยอด” หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวคิด “อาหารก่อกำเนิด เกิดจากดิน” สู่พัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน 

วันอังคารที่ 6 ธันวาคม 2565 จังหวัดขอนแก่น ร่วมกับ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) มูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ และสมาคมดินโลก ร่วมจัดงานวันดินโลก ประจำปี 2565 ณ เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น เนื่องในโอกาสวันดินโลก ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันพระราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 โดยมีนายพันธ์เทพ เสาโกศล รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย ดร.วิวัฒน์ ศัลยกำธร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้ก่อตั้งมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ และนายกสมาคมดินโลก นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการ กฟผ. คณะผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการ ชุมชนในพื้นที่ และเครือข่ายพันธมิตรกสิกรรมธรรมชาติ ร่วมเป็นเกียรติในงาน ภายใต้แนวคิด “อาหารก่อกำเนิด เกิดจากดิน” 

นายพันธ์เทพ เสาโกศล รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้ มาจากความร่วมมือกันจาก ทุกภาคส่วน ที่มุ่งเน้นการน้อมนําหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 มาเป็นหลักคิดในการพัฒนาประเทศตามนโยบายของรัฐบาล โดยให้ชุมชนช่วยกันรักษาป่า ฟื้นฟูดิน สร้างแหล่งน้ำไว้ใช้ และขยายความร่วมมือในทุกภาคีเครือข่าย ก่อให้เกิดรายได้กับชุมชนในท้องถิ่น โดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง พร้อมมุ่งเน้นรับสนองพระราชปณิธานอันแน่วแน่ของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ตามพระปฐมบรมราชโองการที่จะ “สืบสาน รักษา ต่อยอด” พระราชกรณียกิจของพระบรมราชชนก เพื่อความเจริญรุ่งเรืองของประเทศชาติและความอยู่ดีมีสุขของประชาชนโดยรวม 

ด้าน นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการ กฟผ. กล่าวเสริมว่า นอกจาก กฟผ. จะมีหน้าที่ผลิตและรักษาความมั่นคงด้านพลังงานไฟฟ้า เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศแล้ว ยังให้ความสำคัญกับการดูแลสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม โดยได้ดำเนินโครงการ โคก หนอง นา โมเดล วิถีใหม่ สู่การพัฒนาเพื่อสังคมอย่างยั่งยืน ภายใต้โครงการ 7 เขื่อนพระนาม 3 โรงไฟฟ้า ซึ่งเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์เสริมสร้างคุณภาพชีวิตและสร้างสรรค์สังคมอย่างมีส่วนร่วม กับ 6 เครือข่ายพันธมิตร ได้แก่ กรมการพัฒนาชุมชน สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง มูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ มูลนิธิรักษ์ดินรักษ์น้ำ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร  และบริษัท เอื้อสามัคคี วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด ในการพัฒนาพื้นที่ 7 เขื่อนพระนาม 3 โรงไฟฟ้าของ กฟผ. เป็นต้นแบบการดำเนินงาน และเป็นสถานที่พัฒนาทักษะให้ความรู้ สร้างความเข้าใจในการประยุกต์ใช้ศาสตร์พระราชา นำมาสู่การฟื้นฟูดิน น้ำ และผืนป่า เพื่อสร้างความมั่นคงด้านอาหาร น้ำ และพลังงาน ตามเป้าหมายความยั่งยืนของโลก หรือ SDGs Goal เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนให้สามารถพึ่งพาตนเองได้ ทำให้สามารถพัฒนาเศรษฐกิจทั้งในครัวเรือนและชุมชน 

ผบ.ตร. มอบรางวัล สิบตำรวจเอก จราจร สน.ชนะสงคราม และพลเมืองดี บุกชาร์จสยบชายคลุ้มคลั่งบนสะพานพระปิ่นเกล้า ชื่นชมความกล้าหาญ เป็นแบบอย่างที่ดี

(6 ธ.ค.65) เวลา 13.00 น. ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้มอบรางวัล โครงการ “ทำดี มีรางวัล” กรณี ส.ต.อ.กฤษณชัย ศรีเจริญ ผบ.(หมู่) จร.สน.ชนะสงคราม พร้อม นายบุญสิน ชาวนา 

พลเมืองดี ช่วยชีวิตชายคลุ้มคลั่งใช้มีดจี้คอตัวเองบนสะพานพระปิ่นเกล้า 

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ เปิดเผยว่า กรณีปรากฎเหตุการณ์ มีกระแสชื่นชมการปฏิบัติงานของตำรวจ และพลเมืองดี ในโลกโซเชียลมิเดีย เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.65 เวลาประมาณ 08.00 น. โดยมีพลเมืองดีแจ้งว่าพบ "ชายคลุ้มคลั่ง" พยายามใช้มีดจี้คอตัวเอง อยู่บนสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า แขวงอรุณอัมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ ส.ต.อ.กฤษณชัยฯ กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่บริเวณท้องสนามหลวงที่มีพิธีทำบุญตักบาตรในวันพ่อแห่งชาติ ซึ่งอยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุ ตอนนั้น ส.ต.อ.กฤษณชัยฯ ตัดสินใจโบกรถจักรยานยนต์ของพลเมืองดี ทราบชื่อในภายหลัง คือ นายบุญสิน ชาวนา ที่ขี่รถจักรยานยนต์ขึ้นมาพอดี จึงได้นั่งรถจักรยานยนต์ของนายบุญสินฯ ขึ้นมาบนสะพานด้วยกัน 

จากนั้นจึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบชายไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 60 ปี สวมเสื้อสีเหลือง นุ่งกางเกงขาสั้นสีเทา ในมือขวาถืออาวุธมีดสั้นจี้ที่คอตัวเอง ส่วนมือซ้ายถืออาวุธมีดข่มขู่ไม่ให้ใครเข้าใกล้ ชายดังกล่าว อยู่ในอาการ คลุ้มคลั่ง มีรอยเลือดที่ลำคอ พูดจาโวยวายไม่ให้ใครเข้าใกล้ตน ซึ่งมีท่าทางจะทำร้ายตนเอง 

ส.ต.อ.กฤษณชัยฯ ร่วมกับนายบุญสินฯ ได้วางแผนโดยจะอาศัยจังหวะที่ชายดังกล่าวเผลอแล้วเข้าชาร์จทันที โดยคว้ามีดไว้ ขณะที่เข้าชาร์จชายคนดังกล่าวเกิดสะบัดไม่ยินยอมให้ควบคุมตัว จึงได้ยื้อยุดฉุดกระชากอยู่กลางถนน ท่ามกลางรถยนต์ที่วิ่งไปมาบนสะพาน ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะล็อคตัวช่วยไว้ได้อย่างปลอดภัย หลังควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้ ได้วิทยุแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางยี่ขัน เข้ามารับตัวไปสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก ทั้ง ส.ต.อ.กฤษณชัยฯ และ นายบุญสินฯ สมควรได้รับการเชิดชูเกียรติ ยกย่องสรรเสริญ เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ข้าราชการตำรวจและสังคม

เชียงใหม่-อบจ.เชียงใหม่ ชวนเที่ยวงาน 'CHARMING Chiang Mai Flower Festival 2023' แสง สี ศิลป์ มนต์เสน่ห์ดอกไม้งาม

อบจ.เชียงใหม่ แถลงข่าวความคืบหน้าการจัดงาน 'มนต์เสน่ห์เชียงใหม่ เมืองดอกไม้งาม ประจำปี 2565' (CHARMING Chiang Mai Flower Festival 2023) ภายใต้แนวคิด “Miracle Flora” แสง สี ศิลป์ มนต์เสน่ห์ดอกไม้งาม ระหว่าง 16 ธันวาคม 2565 - 2 มกราคม 2566

วันที่ 6 ธันวาคม 2565 เวลา 17.00 น. นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมการแถลงข่าว 'งานมนต์เสน่ห์เชียงใหม่ เมืองดอกไม้งาม ประจำปี 2566' (CHARMING Chiang Mai Flower Festival 2023) 'Miracle Flora' พร้อมด้วย นายอภิชัย เอกวนากุล รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และแขกผู้มีเกียรติ ร่วมงาน ณ สวนเฉลิมพระเกียรติ 82 พรรษา อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่

นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จังหวัดเชียงใหม่เป็นจังหวัดที่เป็นนิยมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่มีแหล่งท่องเที่ยวหลัก 3 ด้าน คือแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่มีความงดงาม ความโดดเด่น ความล้ำค่าและความเลื่องลือในหลายๆ ด้าน และหนึ่งในนั้นคือ ความงดงาม ทางด้านประเพณีและวัฒนธรรม, แหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ มีชื่อเสียงด้านวิวทิวทัศน์ที่สวยงามและภูเขาที่ถูกปกคลุม ไปด้วยป่าเขตร้อนที่เขียวขจี เป็นแหล่งที่อยู่ของหมู่บ้านชาวเขาหลายกลุ่ม เป็นเมืองสำคัญทางภาคเหนือและเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางสำรวจจังหวัดอื่น ๆ ต่อไปในภาคเหนือ และแหล่งท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพที่มีการส่งเสริมและรักษาสุขภาพและสิ่งแวดล้อม รวมถึงการจัดรายการท่องเที่ยวพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ เพื่อเรียนรู้วิธีใช้พลังงานจากธรรมชาติมาบำบัดรักษาและสร้างเสริมสุขภาพกายและสุขภาพจิต

นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ด้วยนโยบายการบริหารงานขององค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ยุทธศาสตร์เศรษฐกิจและการท่องเที่ยวได้เน้นการสร้างภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยว การประชาสัมพันธ์เชิงรุกและการตลาด จึงเล็งเห็นความสำคัญของการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยว มุ่งเน้นการประชาสัมพันธ์และเผยแพร่สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัดเชียงใหม่ รวมไปถึงศิลปวัฒนธรรม ประเพณีที่มีความโดดเด่นและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว 

องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ จึงได้จัดงานมนต์เสน่ห์เชียงใหม่ เมืองดอกไม้งาม ประจำปี 2566 (CHARMING Chiang Mai Flower Festival 2023)  ภายใต้แนวคิด “Miracle Flora” (แสง..สี..ศิลป์ มนต์เสน่ห์ดอกไม้งาม) ระหว่างวันที่ 16 ธันวาคม 2565 – 2 มกราคม 2566 ณ สวนเฉลิมพระเกียรติ 82 พรรษา อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ และบริเวณทิศตะวันออกของหอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา (ด้านหลังศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่) 

เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสภาพลักษณ์ที่ดีงามในวิถีชีวิตและวัฒนธรรมล้านนา รวมถึงกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ให้พัฒนาและเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวที่หลากหลายเหมาะสมกับแต่ละเทศกาลและสร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยว ซึ่งเป็นการสร้างความเชื่อมโยงและส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน สังคม ประชาชน และชุมชนด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่

สำหรับงานมนต์เสน่ห์เชียงใหม่ เมืองดอกไม้งาม ประจำปี 2566 (CHARMING Chiang Mai Flower Festival 2023) พิธีเปิดงานฯ ในวันที่ 16 ธันวาคม 2565 เวลา 18.00 น. ณ สวนเฉลิมพระเกียรติ 82 พรรษา อำเภอเมืองเชียงใหม่ และบริเวณตรงกันข้ามหอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา (ด้านหลังศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่) งานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16 ธันวาคม 2565 - 2 มกราคม 2566 ตั้งแต่เวลา 18.00 – 22.00 น. 

กิจกรรมภายในงาน อาทิ งานศิลปาชีพล้านนาไทย ก้าวไกลด้วยพระบารมี ครั้งที่ 4 กิจกรรมดนตรีในสวน กิจกรรมนิทรรศการสวนไม้ดอกไม้ประดับ ซึ่งมีทั้งป่าฝนเขตร้อนแห่งกล้วยไม้นานาพันธุ์ จุดเด่น กล้วยไม้สกุลฟาแลนนอปซิส, แวนด้า และไม้ดอกไม้ประดับชนิดต่างๆ, สวนบุปผาแห่งเหมันต์ แหล่งความงามของดอกไม้เมืองหนาวสีสันสดใส มี ดอกทิวลิป, ดอกไฮเดรนเยีย, ลิลลี่, ไซคลาเมน และไลเซนทัส, พลังแห่งแสงอาทิตย์ ความสวยงามของดอกไม้เขตร้อน ทั้ง ดอกฮอลลี่ฮ็อค, เจอราเนียม, บีโกเนียดอกซ้อน และสับปะรดสี ฤดูกาลที่เปลี่ยนผัน จุดเด่น ดอกไม้ไฟ ประดับไฟแสงสี ที่ให้บรรยากาศสีสันของฤดูกาลทั้ง 4 สวยงามตระการตา และ ทุ่งดอกบลูซัลเวียบานสะพรั่ง ชูดอกสีม่วงสวยสุดลูกหูลูกตา สุดสวยงาม จุดเด่น การแสดงน้ำพุดนตรี วันละ 3 รอบ คือ ในเวลา 19.00 น., 19.45 น. และ 20.30 น. กิจกรรมนิทรรศการส่งเสริมการท่องเที่ยว (ศูนย์เรียนรู้กล้วยไม้) การสาธิตและให้ความรู้ขั้นตอนการขยายพันธุ์ การแสดงกล้วยไม้ที่หาชมได้ยาก

กิจกรรมงานมนต์เสน่ห์สินค้า OTOP และผลิตภัณฑ์ชุมชน จังหวัดเชียงใหม่ (Charming Chiang Mai OTOP and Community Products Select 2023) จำหน่ายสินค้า OTOP และผลิตภัณฑ์ชุมชน 17 จังหวัดภาคเหนือ การจำหน่ายอาหารของสมาคมร้านอาหารและสถานบันเทิงจังหวัดเชียงใหม่ (ซุ้มอาหารและFood Truck)

กิจกรรมงานมนต์เสน่ห์ควายไทยเชียงใหม่ เมืองดอกไม้งามงานมนต์เสน่ห์ควายไทยเชียงใหม่ เมืองดอกไม้งาม กำหนดจัดงาน ระหว่างวันที่ 21 – 27 ธันวาคม 2565  ตั้งแต่เวลา 7.00  น. ถึงเวลา 18.00 น. ณ บริเวณฝั่งตรงข้ามสวนเฉลิมพระเกียรติ 82 พรรษา องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ รายละเอียดของงานที่น่าสนใจ วันที่ 21 ธ.ค. 65 การประกวดควายงามล้านนา ประเภทควายดำ ประเภทควายเผือก วันที่ 22 ธ.ค. 65 การประกวดควายงามทั่วไป ประเภทควายดำ ประเภทควายเผือกชิงถ้วยรางวัลปลัดกระทรวงมหาดไทยและถ้วยรางวัลนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ อีกกิจกรรมที่น่าสนใจ “ยกทะเลมาสวน” ของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พบกับการจำหน่ายสินค้าอาหารทะเล กิจกรรมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2566 วันที่ 31 ธันวาคม 2565 และกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย ให้แวะเวียนมาถ่ายภาพเก็บบรรยากาศสุดประทับใจ

'เสี่ยเฮ้ง' โต้แรงนโยบายหาเสียงเพื่อไทย คิดได้แค่นี้ประเทศไม่รอด ท้า!! แน่จริงขึ้นค่าแรงบริษัทในเครือขั้นต่ำ 600 ให้ดูหน่อย

หลังจากเมื่อวันที่ (6 ธ.ค. 65) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ได้ประกาศนโยบายหาเสียงเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทย ด้วยการเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทต่อวัน และจบปริญญาตรีมีเงินเดือน 25,000 บาท ปักธงเป็นรัฐบาลครบวาระ 4 ปี โดย อธิบายว่าประเทศไทยมี 20 ล้านครอบครัว สามารถสร้างงานทักษะสูงได้ 20 ล้านตำแหน่ง และมีรายได้รวมกันถึงปีละ 4 ล้านล้านบาทนั้น ในปี 2570 คนไทยต้องได้ค่าแรงขั้นต่ำให้สมกับศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของคนไทย คือ ไม่ต่ำกว่า 600 บาทต่อวัน และเงินเดือนของผู้จบการศึกษาระดับปริญญาตรีอยู่ที่ 25,000 บาทขึ้นไป 

ขณะเดียวกันก็จะใช้ซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power) เป็นพลังขับเคลื่อน โดยการดึงศักยภาพของอย่างน้อย 1 คนในทุกครอบครัวให้ได้รับโอกาสในการอบรม บ่มเพาะ ทักษะสร้างสรรค์ที่มีความถนัดให้ดีขึ้น รวมทั้งการสร้างทักษะสร้างสรรค์ Soft Power ด้านต่าง ๆ ซึ่งจะทำให้มีรายได้คนละไม่ต่ำกว่า 200,000 บาทต่อปี 

จากนโยบายดังกล่าวนี้ทีมข่าว THE STATES TIMES ได้สัมภาษณ์ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ว่ามีความคิดเห็นในนโยบายดังกล่าวอย่างไร?

โดยในประเด็นการสร้างงานทักษะสูง 20 ล้านตำแหน่ง สุชาติ กล่าวว่า “วันนี้มีคนไทยอยู่ในระบบประกันสังคม 11 ล้านกว่าคน แรงงานนอกระบบอีก 20 ล้านคน หาบเร่แผงลอย นายจ้าง ธุรกิจส่วนตัว รวมแล้ว 2 ระบบ ประมาณ 30 ล้านคน ข้าราชการอีกกี่ล้านคน นักศึกษาอีกกี่ล้านคน เด็กที่ยังเรียนอยู่อีกกี่ล้านคน แล้วถ้าบอกว่า 20 ล้านตำแหน่ง คุณจะเอาคนไทยที่ไหนมาทำงาน ผมไม่เข้าใจเลย เพราะเค้าทำงานกันเกือบหมดแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาการบริหารงานของผมในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในช่วงไตรมาสที่ 1 ถึง ไตรมาสที่ 3 ของปี 2565 หลังจากเศรษฐกิจฟื้นตัวด้วยนโยบายของรัฐบาลต่างๆ เราได้จ้างงานไปกว่า 1,590,000 อัตรา มากกว่าก่อนที่ไม่มีโควิด-19 เพราะฉะนั้นตัวเลขที่บอกว่าสามารถสร้างงาน 20 ล้านตำแหน่ง มันโอเว่อร์ไป” 

ในส่วนของค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท มีความเป็นไปได้มากน้อยขนาดไหนนั้น สุชาติ แสดงความเห็นว่า “ค่าแรง 600 บาท ผมเรียนอย่างนี้นะครับ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน นำเข้าสู่คณะรัฐมนตรีเป็น ร้อย ๆ อาชีพ ในการปรับค่าแรงให้กับวิชาชีพต่าง ๆ เช่น ช่างปูกระเบื้อง ค่าแรงเกือบ 1,000 บาท ทุกอย่างถ้ามีฝีมือปรับตามกระทรวงแรงงาน กรมพัฒนาฝีมือแรงงานที่นำเข้าสู่คณะรัฐมนตรีประกาศออกมาใช้แล้ว เป็นร้อยอาชีพ 

"ส่วนค่าแรง 600 บาท กำลังพูดถึงค่าแรงคนที่ไม่มี Skill ไม่มีฝีมือ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแรงงานต่างด้าว ที่ค่าแรงส่วนใหญ่ของประเทศเค้ามีค่าแรง 100 บาทต้นๆ และถ้าเกิดปรับค่าแรงเป็น 600 บาท ผมถามว่าแรงงานต่างด้าวก็มาบ้านเราหมด ซึ่งอัตราแรงงานไร้ฝีมือในบ้านเราก็เพียงพออยู่แล้ว ประมาณ 2 ล้านกว่าคน โดยเป็นคนต่างด้าวที่อยู่ในประเทศไทย แบบนี้ก็จะทำให้คนต่างด้าวหลบหนีเข้ามามากขึ้นได้

"ผมขอฝากข้อคิดไว้ข้อคิดหนึ่ง การทำแบบนี้แรงงานไทยที่กำลังทำงานอยู่ จะสุ่มเสี่ยงตกงาน ถ้าเราเป็นเจ้าของกิจการต้องจ้างแรงงาน 25,000 บาท ตามกฎหมายกำหนด แบบนี้ผู้ประกอบการจ้างเหมาดีกว่าไหม มีงานก็จ้างไม่มีงานก็ไม่จ้าง กระทบต่อแรงงานแน่นอน ภาคเอกชนไม่รับคนเพิ่มและอาจใช้วิธีแบบนี้เพื่อลดต้นทุน ส่วนในประเด็นปรับเงินเดือน 25,000 บาท ถ้าคนทำงานเดิมที่มีเงินเดือน 20,000 กว่า และคนใหม่เข้ามาทำงาน เงินเดือนขึ้นไป 25,000 บาท ระบบเงินเดือนจะปรับยังไง ต้นทุนบริษัทจะไปทางไหน นโยบายสุดโต่งแบบนี้ สุ่มเสี่ยงทำให้ลูกจ้าง แรงงานตกงานได้เลยและจะทำให้บริษัทต่างชาติที่จะมาเปิดและใช้แรงงานในไทย ย้ายฐานการผลิตไปประเทศอื่นแน่นอน ตรงนี้คุณคิดหรือเปล่าถ้าคุณเสนอตัวเป็นผู้นำประเทศ” 

เจ้ากระทรวงแรงงานยังกล่าวอีกว่า “คุณอุ๊งอิ๊ง ไม่เคยลำบากยากจนมากก่อน ไม่เคยเป็นนักธุรกิจ ไม่ได้เป็นเจ้าของกิจการที่ก่อร่างสร้างตัวมาด้วยตนเอง เกิดมาก็พ่อรวยแล้ว ถามว่าวันนี้คุณรู้ไหมว่าต้นทุนในแต่ละบริษัท ต้นทุนการตลาดต่างๆ ระบบเงินเดือน มันมีที่มาที่ไปอย่างไร ไม่ใช่อยู่ ๆ อยากจะขึ้นค่าแรงก็พูดได้ คุณรู้ไหมว่าการที่คุณหาเสียงโดยการเอาความยากลำบาก หรือความเสี่ยงปิดกิจการของนายจ้างเอามาเล่นแบบนี้ไม่ได้ คุณกำลังจะทำให้ธุรกิจในประเทศมีปัญหา นายจ้างต้องเลิกกิจการนะ

"คุณกำลังเล่นการเมืองโดยเอาเงินเอกชนมาหาเสียงตัวคุณเอง นักลงทุนที่จะมาลงทุนใน EEC (โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก) หรือต่างชาติ อย่างซาอุดีอาระเบีย จะมาลงทุนในเอเปคที่เราคุยไว้ ใครจะมาลงทุน ผมถามหน่อย คุณอุ๊งอิ๊งรู้ไหมว่าแรงงานขั้นต่ำที่คุณอุ๊งอิ๊งพูดมีคนไทยอยู่ในระบบประกันสังคม ที่เหลือเป็นแรงงานต่างด้าว 1 ล้านคน ที่เหลือก็เป็นระบบเงินเดือนฐานเงินเดือน ถ้าเราทำให้เอกชนแข็งแรง เอกชนที่ไหนเค้าจะปล่อยให้ลูกน้องเค้าเงินเดือนน้อยล่ะ 

"ถ้าคุณมีกิจการดี ส่งออกดี คุณไม่กลัวลูกน้องคุณไปอยู่บริษัทอื่นที่เงินเดือนเยอะกว่าเหรอ คุณก็ต้องปรับ วันนี้บริษัทผลิตรถยนต์ โบนัส 7 ถึง 8 เท่า เพราะนโยบายกระทรวงแรงงานเราแข็งแรงส่งเสริมเอกชน พอเค้าแข็งแรง เค้าก็ดูแลลูกน้องในระบบได้ คุณอุ๊งอิ๊ง พรรคเพื่อไทยออกนโยบายแบบนี้คุณไม่เคยลำบาก คุณรวยแล้ว คุณรู้ไหมความลำบากเป็นอย่างไร การบริหารกระทรวงแรงงานเราไม่ได้ขึ้นที่ค่าแรงงานอย่างเดียว แต่เราลงไปดูแลสวัสดิการต่าง ๆ ด้วย 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top