Monday, 19 May 2025
NewsFeed

'ดร.เสรี' ขยี้ซ้ำ!! ปมขายบ้านให้ทุนจีนสีเทา เหตุไฉน 50 คนไทย พร้อมใจขายให้คนจีน

(6 ธ.ค. 65) ไม่นานมานี้ ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านการตลาดและการสื่อสาร โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า...

“คนไทย 50 คนซื้อบ้าน รับโอนจากบริษัทอสังหาฯ แล้ว มีคนจีนต้องการซื้อต่อ ปรากฏว่า คนไทยทั้ง 50 ราย พร้อมใจกันขายให้คนจีนทั้ง 50 คนเลย ฟังดูอัศจรรย์มากเลยนะคะ

เจ้าของโครงการที่เป็นลูกเจ้าของคอกยังเงียบอยู่ไม่พูดอะไรเลย เพราะกรณีนี้ งานเข้าจริง ๆ ยากที่จะหาคำอธิบายใด ๆ มาชี้แจง ว่าทำไมคนต่างชาติจึงเป็นลูกค้าซื้อบ้าน ทั้ง ๆ ที่กฎหมายไม่อนุญาต

ที่ร้ายไปกว่านั้น ก็คือ คนของตนเองดันออกมาพูดยืนยันว่าเรื่องที่พูดกันเป็นเรื่องจริง จนมีคนหลายคนเชียร์ให้ขุดต่อ อย่าได้หยุด ขุดให้เต็มที่ไปเลย

งานนี้ตำรวจที่ทำคดีจะต้องทำอย่างโปร่งใส จัดการกับคนทำผิดกฎหมายอย่างจริงจัง อย่าให้มีการลูบหน้าปะจมูก เป็นมวยล้มต้มประชาชนที่ต้องการกระฉากหน้ากากคนที่ทำผิดกฎหมายเพราะเห็นแก่ตัว”

‘ทนายตั้ม’ ท้า ‘ครูแก้ว’ ฟ้อง ปมโยงลวงเงิน 25 ล้านบาท ลั่น!! ไม่มีคำไหนหมิ่นฯ ไม่กลัว และไม่มีวันขอโทษ

(6 ธ.ค. 65) กรณี นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน พาลูกความผู้เสียหายเป็นสาวใหญ่นักธุรกิจชื่อดัง เจ้าของบริษัทรับซื้อผลิตน้ำยางพาราก่อสร้างถนน ออกมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน เกี่ยวกับปมถูกหลอกเรียกเงินจำนวน 25 ล้านบาท หลังถูกคณะกรรมการ พิจารณารับรองคุณภาพน้ำยางพาราไม่ได้มาตรฐาน จึงมีการร้องต่อศาลปกครอง ตั้งแต่ปี 2562 แต่มีขั้นตอนการดำเนินการนาน กระทั่งมีบุคคลที่อ้างว่าเป็นผู้ช่วยเลขานุการ รองประธานสภาผู้แทน รวมถึงมีตำแหน่งเป็นที่ปรึกษานายก อบจ. จังหวัดหนึ่ง และยังอ้างว่าสนิทกับผู้ใหญ่พรรคการเมืองชื่อดัง ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อ แต่สุดท้ายไม่สามารถดำเนินการช่วยเหลือได้

ก่อนนี้ทางผู้เสียหายได้แจ้งความดำเนินคดีกับทางกองปราบ แต่ไม่คืบหน้า ไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมผ่าน ทนายตั้ม เพื่อเรียกร้องให้ทางหน่วยงานเกี่ยวข้อง ตรวจสอบ ดำเนินคดีเอาผิด กับบุคลคลที่แอบอ้างว่าสนิทกับนักการเมืองชื่อดัง จนกระทั่งกลายเป็นประเด็นร้อนหลังมีการนำเสนอผ่านสื่อต่าง ๆ ทำให้สังคมตั้งคำถาม อยากให้หน่วยงานเกี่ยวข้องมีการตรวจสอบ ข้อเท็จจริง และให้บุคคลเกี่ยวข้องออกมาชี้แจง

ล่าสุด นายศุภชัย โพธิ์สุ หรือครูแก้ว ส.ส.นครพนม เขต 1 พรรคภูมิใจไทย ออกมาเปิดเผยว่าหลังทราบข้อมูลผ่านสื่อ ตนได้มอบหมายให้ทีมงานฝ่ายกฎหมายตรวจสอบข้อมูลจากเทปการแถลงข่าวของทนายตั้ม นายษิทรา เบี้ยบังเกิด พบว่ามีข้อมูลที่อาจเข้าข่ายพาดพิงกล่าวหาตน ถึงแม้จะไม่ระบุชื่อชัดเจน แต่มีการบอกตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทน ที่มีอยู่ด้วยกัน 2 คน แต่คนที่มีลูกสาวเป็น นายก อบจ. คือตนคนเดียวเท่านั้น จึงเชื่อมั่นว่าเป็นการกล่าวหาทำให้ครอบครัวได้รับความเสื่อมเสีย รวมถึงมีการเอ่ยถึงพรรคภูมิใจไทยโยงไปถึงผู้ใหญ่ในพรรค ทำให้ทุกคนเกิดความเสียหาย ถือว่าไม่ถูกต้อง การกระทำแบบนี้ถือว่าไม่ถูกต้อง ได้ข้อมูลฝ่ายเดียว แล้วเอามาแถลง หากมีหลักฐานชัดเจน เกี่ยวข้องกับตน หรือบุคคลที่กล่าวอ้าง ควรที่จะดำเนินคดีตามกฎหมาย อย่ามากล่าวหาลอย ๆ

กาฬสินธุ์ตลาดไหมแพรวาสุดเฟื่องส่งต่อรุ่นใหม่ขายออนไลน์ยอดพุ่ง

บรรยากาศการจำหน่ายผ้าไหมแพรวา ราชินีแห่งไหม และผลิตภัณฑ์จากผ้าไหมแพรวาทอมือบ้านโพน อำเภอคำม่วง จังหวัดกาฬสินธุ์ ยังเฟื่องฟูและลื่นไหล ผู้ประกอบการยุคบุกเบิกยังดำเนินกิจการต่อเนื่อง ขณะที่หลายรายส่งไม้ต่อให้ลูกหลานสืบสาน เป็นมรดกตกทอดทางภูมิปัญญาล้ำค่า จำหน่ายทั้งหน้าร้านและทางออนไลน์ รายได้ไม่น้อยกว่าเดือนละ 4 ล้านบาท

(6 ธ.ค. 65) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการจำหน่ายผ้าไหมแพรวา ราชินีแห่งไหม และผลิตภัณฑ์จากผ้าไหมแพรวา ที่ได้จากการทอด้วยมือชาวผู้ไทบ้านโพน ต.โพน อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ ยังได้รับความนิยมจากลูกค้าใกล้ไกลไม่เสื่อมคลาย ซึ่งพบว่าในทุก ๆ วัน มีทั้งเดินทางมาเลือกซื้อด้วยตนเอง และติดต่อซื้อขายทางออนไลน์ โดยผู้ประกอบการรายใหญ่ 8 ราย ได้เปิดช่องทางการตลาดผ่านโซเชียลในรูปแบบต่าง ๆ เช่น เฟซบุค กลุ่มไลน์ ทั้งนี้ ผู้ประกอบการยังระบุว่ายอดจำหน่ายสูงกว่าขายหน้าร้านหลายเท่าตัว รายได้รวมวันละ 1 แสนถึง 1 แสน 5 หมื่นบาท หรือเดือนละ 3 ล้านถึง 4 ล้าน 5 แสนบาท

นางสาวอุมาพร ลามุล อายุ 31 ปี เจ้าของร้านมรดกภูไท เลขที่ 149 หมู่ 2 บ้านโพน ต.โพน อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า เดิมครอบครัวตนเปิดร้านขายอุปกรณ์และสินค้าทางการเกษตร ควบคู่กับปลูกพุทราและผลไม้ ต่อมาเห็นตลาดผ้าไหมแพรวาเฟื่องฟูมาก ประกอบกับตนเป็นคนรุ่นใหม่ จึงมีแนวคิดว่าผ้าไหมแพรวา ต้องไม่ใช่แค่ผ้าซิ่นหรือสไบ ผ้าไหมแพรวาต้องไปไกลกว่านี้ ตลาดต้องกว้างไกลกว่าที่ผ่านมา ทุกเพศ ทุกวัย สามารถตัดเย็บเป็นเดรสสูท หรือเสื้อผ้าสวมใส่ได้ทุกโอกาส ในปี 2561 จึงได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการค้าขายมาจำหน่ายผ้าไหมแพรวา รวมทั้งผลิตภัณฑ์จากผ้าไหมแพรวา เพียงระยะเวลา 4 ปี ประสบผลสำเร็จทั้งยอดขาย จำหน่ายทั้งหน้าร้านและทางออนไลน์ สามารถพูดได้ว่าถึงแม้ที่ผ่านมาสภาพเศรษฐกิจจะอย่างไร หรือประสบสถานการณ์โควิด-19 ยังไง แต่การค้าขายผ้าไหมแพรวาไม่กระทบ ยังไปได้เรื่อย ๆ ภูมิใจที่ผ้าไหมแพรวา สามารถสร้างอาชีพและรายได้สู่ชุมชน ไม่ต่างจากเปลี่ยนอาชีพจากไร่นาสู่ผ้าทอ ทำให้ชาวบ้านโพนมีรายได้ยั่งยืน

เปิดให้ ‘สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์’ รองรับรถไฟทางไกล รวม สายเหนือ-อีสาน-ใต้ 52 ขบวน เริ่ม 19 ม.ค. 66

ยืนยันแล้ว!!! 19 มกราคม 2566 นี้ เตรียมเปิดให้บริการสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ( #สถานีกลางบางซื่อ ) รองรับรถไฟทางไกล เหนือ-อีสาน-ใต้ 52 ขบวน

โครงสร้างพื้นฐาน ประเทศไทย Thailand Infrastructure ได้โพสข้อความว่า ข่าวล่ามาแรง จากการรถไฟ ซึ่งคณะกรรมการเตรียมความพร้อมสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ (สถานีกลางบางซื่อ) ได้มีมติให้ เปิดให้บริการขบวนรถไฟทางไกลจากสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ตั้งแต่วันที่ 19 มกราคม 2566 เป็นต้นไป 

โดยจะมีการจัดเดินรถไฟขบวนปฐมฤกษ์ จาก สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ - สถานีอยุธยา ด้วยขบวนรถไฟดีเซลราง KIHA

โดยรถไฟทางไกลที่จะเริ่มให้บริการในวันที่ 19 มกราคม 2566 จะมีทั้งหมด 52 ขบวนทั้ง 3 เส้นทาง ได้แก่

- สายเหนือมี 18 ขบวน ได้แก่
3 4 7 8 9 10 13 14 51 52 109 102 105 106
107 108 111 และ 112

รถไฟทางไกลสายใต้ มี 24 ขบวน ได้แก่
31 32 37 38 39 40 41 42 43 44 45 46
83 84 85 86 167 168 169 170 171 172
173 และ 174

รถไฟทางไกลสายอีสาน มี 24 ขบวน ได้แก่
21 22 23 24 25 26 67 68 71 72 75 76
77 78 133 134 135 136 139 140
141 142 145 และ 146 

‘อนุทิน’ ลั่น พร้อมจับมือหนุนทำงานร่วมรัฐบาล ยัน ‘ภูมิใจไทย’ ไม่เคยขัดใคร มีแต่ถูกกระทำ

‘อนุทิน’ ชี้ ‘มิ่งขวัญ’ ซบ พปชร.เป็นเรื่องดี เชื่อ มีคุณภาพช่วยงานได้ ลั่น พร้อมจับมือหนุนทำงานร่วมรัฐบาล พ้อ ภูมิใจไทย ไม่เคยขัดใคร มีแต่ถูกกระทำ

เมื่อเวลา 09.00น. วันที่ 6 ธ.ค.ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทินชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมคณะรัฐมนตรี กรณีที่พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)เตรียมเปิดตัวนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ อดีตหัวหน้าพรรคโอกาสไทย มาร่วมเป็นทีมเศรษฐกิจของพรรคพปชร.ว่า หากเข้ามาช่วยในพรรคพปชร.ก็เป็นสิ่งที่ดี และนายมิ่งขวัญมีความสามารถ ตอนแสดงวิสัยทัศน์เป็นหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ ทำให้การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา มีส.ส.6-7คน และจากที่เคยฟังการออกรายการเศรษฐกิจ เห็นว่ามีแนวคิดในแบบของท่าน ที่ฟังแล้วใช้ได้ และคนที่มีฝีมือก็ควรมีโอกาสได้เข้ามารับใช้บ้านเมือง

‘ก้าวไกล’ ยกเหตุ ‘ทหารกร่าง’ สะท้อนระบบกองทัพแย่ ลั่นต้องปฏิรูปกองทัพ เอาทหารออกจากศูนย์กลางอำนาจ

ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. ก้าวไกล ชี้ เหตุทหารกร่าง สะท้อนระบบกองทัพย่ำแย่ ใช้อำนาจข่มกันเอง-ข่มประชาชน อัดเป็น ‘แดนสนธยา’ ตรวจสอบไม่ได้ ลั่นต้องปฏิรูปกองทัพ เอาทหารออกจากการเมือง ไม่ทำตัวเหนือกฎหมาย

(6 ธ.ค. 65) ธนเดช เพ็งสุข ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กรุงเทพฯ เขตลาดพร้าว-วังทองหลาง พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีนายทหารยศพันเอกมีอาการมึนเมาและข่มขู่คุกคามบุคคลอื่นกลางร้านอาหาร ว่าเป็นอีกครั้งที่คนในวงการ ‘คนมีสี’ ก่อเหตุความรุนแรง แม้เรื่องที่เกิดขึ้น โฆษกกองทัพบกจะออกมาบอกกับสังคมเหมือนทุกกรณีที่ผ่านมาว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่เกี่ยวกับกองทัพ แต่ในฐานะทหารเก่าคนหนึ่ง ตนขอยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับกองทัพโดยตรง 

ธนเดช กล่าวว่า แน่นอนว่ากองทัพไม่สามารถควบคุมกำลังพลทุกคนให้ไม่ออกนอกลู่นอกทางได้ ไม่มีกองทัพที่ไหนบนโลกที่ทำแบบนั้นได้ แต่ในประเทศที่กองทัพมีความเป็นมืออาชีพจริง ๆ เรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นน้อยมากหรือแทบไม่มีเลย เพราะทหารก็เหมือนกับข้าราชการคนหนึ่งที่ไม่ได้มีอิทธิพลหรืออำนาจเหนือกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งอำนาจทางการเมือง ถ้าสังเกตให้ดี ๆ ยุคที่รัฐบาลพลเรือนเป็นใหญ่ บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย เหตุการณ์ลักษณะนี้ปรากฏให้เห็นในอัตราความถี่ที่น้อยกว่ามาก แต่ตั้งแต่ยุค คสช. รัฐประหารเมื่อปี 2557 เรื่อยมาจนถึงรัฐบาลสืบทอดอำนาจในปัจจุบัน เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นแทบไม่เว้นเดือน ทั้งประเภทที่คนในกองทัพกระทำกันเอง และคนในกองทัพกระทำต่อสังคมภายนอก

“เมื่อเกิดเหตุแล้ว สิ่งที่เหมือนกันจนแทบจะเป็นพล็อตเรื่องเดียวกัน คือผู้ก่อเหตุให้เหตุผลว่าถูกกดดันและทำลายชีวิตราชการ นี่ไม่ใช่คำตอบที่จำกันมา แต่มันคือต้นตอที่ไม่สามารถมองข้ามได้จริง ๆ สังคมที่ดำเนินไปโดยระบอบชนชั้น ใครใหญ่กว่ามีอำนาจ ใครตัวเล็กก็ต้องรับสภาพถูกข่มเหงกันเป็นทอด ๆ เมื่อเกิดความเครียดเกิดความกดดันก็นำพาไปสู่เหตุร้ายต่าง ๆ ที่เราเห็น อีกด้านหนึ่ง ในเมื่อบ้านเมืองที่กองทัพ ‘รันทุกวงการ’ ทั้งอำนาจทางการเมืองและอำนาจทางกฎหมาย เราก็จะได้เห็นทหารกร่างเต็มบ้านเต็มเมืองอาละวาดใส่ชาวบ้านเขาไปทั่ว ไม่เว้นแม้แต่พวกเดียวกันเอง” ธนเดช ระบุ

‘ซุปเปอร์โพล’ ชี้ ‘บิ๊กตู่’ ยืนหนึ่งรักชาติบ้านเมือง ‘จุรินทร์’ นำฟื้นศก. ‘เสี่ยหนู’ พูดจริงทำจริง

ผลสำรวจ ซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เรื่อง ผู้นำทางการเมือง กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) ผ่านกระบวนการวิจัยเชิงทดลอง (Experimental Survey) เพื่อลดความคลาดเคลื่อนแก้ปัญหาแหล่งความคลาดเคลื่อนจากผู้ถาม ผู้ตอบ และเครื่องมือวัด จำนวน 1,633 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 1 - 3 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา โดยมีค่าความคลาดเคลื่อนจากการกำหนดขนาดตัวอย่างบวกลบ ร้อยละ 5 ในช่วงความเชื่อมั่นร้อยละ 95

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล เผย ผลสำรวจ ผู้นำทางการเมือง แต่ละฝ่าย ได้แก่ ฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน และกลุ่มเกิดใหม่ ในด้านต่าง ๆ พบว่า...

>> เบอร์ 1 ด้าน รักชาติบ้านเมือง เป็นคนดี
- กลุ่มฝ่ายรัฐบาล ได้แก่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ร้อยละ 80.0
- กลุ่มฝ่ายค้าน ได้แก่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ร้อยละ 70.7
- กลุ่มเกิดใหม่ ได้แก่ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์

>> เบอร์ 1 ด้าน คนพูดจริง ทำตามที่พูด กล้าเปลี่ยนแปลง ช่วยชาวบ้าน
- กลุ่มฝ่ายรัฐบาล ได้แก่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ร้อยละ 86.8
- กลุ่มเกิดใหม่ ได้แก่ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ร้อยละ 54.8
- กลุ่มฝ่ายค้าน ได้แก่ นางสาว แพทองธาร ชินวัตร ร้อยละ 49.6

นิตยสาร 'TIME' เลือก ‘BLACKPINK’ ครอง 2022 Entertainer of the Year

สาว ๆ BLACKPINK ได้รับเลือกให้เป็น ‘2022 Entertainer of the Year’ ของนิตยสาร ‘TIME’ ซึ่งพิสูจน์สถานะของพวกเธอในฐานะซูเปอร์สตาร์ระดับโลก

ทั้งนี้สาว ๆ กลายเป็นศิลปิน K-Pop คนที่สองในประวัติศาสตร์ที่ได้รับตำแหน่งนี้  รองจาก BTS ที่เคยได้ตำแหน่งนี้ในปี 2018

สำหรับคุณลักษณะพิเศษโดย ‘TIME’ ทบทวนประวัติศาสตร์ที่ BLACKPINK ทำได้ในฐานะกลุ่ม ในขณะเดียวกันก็มีปฏิสัมพันธ์กับความคิดและการไตร่ตรองส่วนตัวของสมาชิก

‘ตำรวจปคบ.-อย.’ จับ 8 คลินิกความงามเถื่อน ‘ฉีดฟิลเลอร์-โบท๊อกซ์’ โดยไม่ได้รับอนุญาต

(6 ธ.ค. 65) เมื่อเวลา 10.00 น. พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ.พ.ต.อ. ธรากร เลิศพรเจริญ รองผบก.ปคบ. พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.4 บก.ปคบ. พร้อมด้วย นพ.ภานุวัฒน์ ปานเกตุ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ภญ.อรัญญา เทพพิทักษ์ ผอ.ศูนย์จัดการเรื่องร้องเรียนและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพ (ศรป.) ร่วมกันแถลงผลกวาดล้างจับกุมคลินิกเสริมความงามเถื่อน 8 แห่งในพื้นที่ กรุงเทพฯ, ชลบุรี, สมุทรสงคราม และปทุมธานี

จากการตรวจค้นเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาไว้ได้ 8 ราย คือน.ส.ธนัศร ชัยสมศรี อายุ 24 ปี, น.ส.ศรีษุณี ปัญญาวัฒน์ อายุ 36 ปี, น.ส.ณปาภัทร ชิณะวิ อายุ 39 ปี, นายจิรัฏฐ์ ลาภะนาวิน อายุ 23 ปี, น.ส.ศศิพัชร์ ตะสิงห์ อายุ 36 ปี, นายกรกรต หมวกไสว อายุ 54 ปี, น.ส.บุญพา ผาสุข อายุ 48 ปี และ น.ส.อังคนาง อินทวี อายุ 26 ปี

พ.ต.อ.เนติ เปิดเผยว่า ก่อนหน้าได้รับเรื่องร้องเรียนจาก อย.และ สบส. ให้สืบสวนกรณีมีบุคคลแอบอ้างตัวเป็นแพทย์หลอกเสริมความงามให้ประชาชนหลายพื้นที่ ผู้ให้บริการไม่ใช่แพทย์จริง ๆ บางรายก็ใช้การศึกษาวิธีการฉีดเสริมความงามด้วยตนเองจากทาง YouTube และสั่งยาต่าง ๆ จากช่องทางออนไลน์ ก่อนมาทดลองฉีดหน้าตนเอง ก่อนจะมาทำให้กับลูกค้า

พ.ต.อ.เนติ กล่าวต่อว่า จากการตรวจค้นพบเป็นคลินิกที่เปิดให้เปิดให้บริการโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมตรวจยึดของกลางได้ 836 รายการ ส่วนใหญ่เป็นยาและเวชภัณฑ์ 109 รายการ, เครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ตรวจรักษา 57 รายการ, เวชระเบียน 670 รายการ ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า ไม่มีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมแต่อย่างใด โดยกลุ่มผู้ต้องหาจะมีที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะพยาบาลศาสตร์แค่ 2 ราย, มัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 4 ราย, ปวส. 1 ราย และป.6 อีก 1 ราย

เบื้องต้นจึงส่งตัวผู้ต้องหาทั้งหมดให้พนักงานสอบสวน กก.4 ปคบ.ดำเนินคดี ความผิดตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล ฐาน ‘ประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต และดำเนิน กิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ประกอบวิชาชีพเวชกรรมฯ, ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต และขายยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตารับยา’

‘อุ๊งอิ๊ง’ เปิดแคมเปญเลือกตั้ง 'คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน' ชู!! ค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท ปริญญาตรี 25,000 บาทต่อเดือน

แพทองธาร เปิด 10 นโยบายพลิกฟื้นประเทศ ปี 2570 โดยรัฐบาลเพื่อไทย ต้อง ‘คิดใหญ่ ทำเป็น’ ประกาศค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท เงินเดือน ป.ตรี 25,000 บาท

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวในการประชุมใหญ่วิสามัญ ประจำปี 2565 ว่า ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาตนพร้อมคณะกรรมการได้ลงพื้นที่ศึกษาและทำวิจัยพบว่า ประเทศถอยหลังไปมาก ทั้งทางเศรษฐกิจ การเมือง สังคม และไร้ที่ยืนบนเวทีโลก ประชาชนจำนวนมากมีหนี้ท่วมท้นและสะสมเป็นเวลานาน ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน

จำเป็นต้อง ‘คิดใหญ่’ เพราะหากคิดเล็กจะรับมือปัญหามากมายขนาดนี้ไม่อยู่ และต้อง ‘ทำเป็น’ เพื่อให้สามารถแก้ปัญหาได้ ยืนยันได้จากผลงานตั้งแต่รัฐบาลไทยรักไทย จนถึงรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า เราสามารถคืนความสุข ความเจริญ ความกินดีอยู่ดีให้พี่น้องประชาชนได้  หัวข้อในแคมเปญรณรงค์ต่อจากนี้ จึงเปลี่ยนจาก ‘พรุ่งนี้เพื่อไทย’ เป็น ‘คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน’

และภายในปี 2570 ภายใต้รัฐบาลพรรคเพื่อไทย คนไทยจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลง คือ

1.) นโยบายเศรษฐกิจ คือ ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ และขยายโอกาส ยังคงถูกต้องและยึดเป็นแนวทางเสมอมาและตลอดไป จากปี 2566 จนถึงปี 2570 พรรคจะทำให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของประเทศเติบโตอย่างต่ำเฉลี่ยร้อยละ 5% ต่อปี ช่องว่างความเหลื่อมล้ำจะลดลงอย่างเห็นได้ชัด เพราะจะใช้แนวคิด ‘รดน้ำที่ราก’ เพื่อให้ต้นไม้งอกงามได้ทั้งต้น ทั้งที่น้ำมีจำกัด

ทักษะสร้างสรรค์ Soft Power ด้านต่าง ๆ เช่น เชฟทำอาหาร นักออกแบบ แฟชั่นดีไซเนอร์ นักร้อง นักแต่งเพลง คนเขียนบท ยูทูบเบอร์ นักสร้างคอนเทนท์ นักออกแบบมัลติมีเดีย นักกีฬา หรือสปาเทอราปิสต์ จะทำให้มีรายได้คนละไม่ต่ำกว่า 200,000 บาทต่อปี ประเทศไทยมี 20 ล้านครอบครัว สามารถสร้างงานทักษะสูงได้ 20 ล้านตำแหน่ง และมีรายได้รวมกันถึงปีละ 4 ล้านล้านบาท และในปี 2570 คนไทยต้องได้ค่าแรงขั้นต่ำให้สมกับศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของคนไทย คือ ไม่ต่ำกว่า 600 บาทต่อวัน เงินเดือนของผู้จบการศึกษาระดับปริญญาตรี อยู่ที่ 25,000 บาทขึ้นไป

2.) นโยบายด้านการเกษตร ในปี 2570 นำเทคโนโลยีทางการเกษตรหรือ Agritech มาใช้ เช่น เทคโนโลยีเกษตรแม่นยำ (Precision Agriculture) ใช้ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI มาช่วยในการเกษตร มีการปรับปรุงหน้าดิน และใช้ปุ๋ยเท่าที่จำเป็น เกษตรกรจะมีรายได้มากขึ้น แต่เหนื่อยน้อยลง ใช้การตลาดนำการผลิต ไม่มีการทำการเกษตรแบบไร้เป้าหมาย สินค้าการเกษตรต้องขึ้นยกแผง มีการนำสินทรัพย์ดิจิทัล (NFT) มาใช้ในการขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า ให้ต่างชาติมาช่วยเสริมสภาพคล่องให้เกษตรกรอีกทางหนึ่ง ราคาพืชผลเกษตรจึงขึ้นยกแผงทุกตัว เพราะเคยทำมาแล้ว และจะทำต่อไป

3.) นโยบายด้านการท่องเที่ยว ในปี 2570 มีนักท่องเที่ยวมาเยือนไทยจำนวนมาก รายได้จากการท่องเที่ยวสูงถึง 3 ล้านล้านบาทต่อปี การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของไทยได้รับความนิยมจากทั่วโลก เทศกาลของไทย 2 เทศกาลคือ สงกรานต์ในเดือนเมษายน และลอยกระทงในเดือนพฤศจิกายนเป็นเทศกาลระดับโลกที่นักท่องเที่ยวปักหมุดไว้ในปฏิทิน ประเทศไทยน่าอยู่สำหรับชาวต่างชาติและคนไทย

4.) นโยบายด้านนวัตกรรม สร้างโครงข่ายในการเก็บบัญชีธุรกรรมออนไลน์ (Blockchain) ของไทยเอง ที่เป็นช่องทางในการขายสินค้าเกษตร รวมทั้งสินทรัพย์ที่เกิดจากซอฟต์พาวเวอร์ ตลอดจนเป็นช่องทางเงินทุนให้กับนักธุรกิจรายย่อย ไม่ว่าจะเป็น Start up หรือ SME

นอกจากนั้น จะส่งเสริมงานวิจัยอย่างจริงจัง จนทำให้ในปี 2570 ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางด้านนวัตกรรมของ Asean มีการใช้เงินสกุลดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง (CBDC : Central Bank Digital Currency) แทนเงินสด ป้องกันการคอร์รัปชันในการเมืองแบบ ‘ลิงกินกล้วย’ ทุกวันนี้ได้เป็นอย่างดี ประชาชนทุกคนมีบัญชีธนาคาร และมีกระเป๋าเงินดิจิทัล (Digital Wallet)  ของตนเอง

รัฐบาลกลายเป็นรัฐบาลดิจิทัลเต็มรูปแบบ การเข้าถึงบริการของรัฐทำได้ง่าย สะดวก ทุกหมู่บ้านของประเทศไทยมีอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง สถานที่สาธารณะทุกแห่งมี wifi ฟรี

5.) นโยบายด้านสาธารณสุข ในปี 2570 หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือ 30 บาทรักษาทุกโรคถูกอัปเกรด หรือยกระดับขึ้น สามารถรักษาได้ทั่วประเทศ ประชาชนสามารถใช้บัตรประชาชนเพียงใบเดียว รับการรักษาได้ทั่วประเทศโดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพราะข้อมูลสุขภาพถูกเชื่อมไว้บนศูนย์ข้อมูล หรือ Cloud  เมื่อเจ็บป่วย ผู้ป่วยเพียงยื่นบัตรประชาชนแล้วอนุญาตให้แพทย์ผู้รักษาเข้าถึงข้อมูลการรักษาได้

ในปี 2570 ผู้ป่วยโรคทางจิต เช่น โรคซึมเศร้า หรือโรคทางกายอื่น ๆ ที่ต้องการขอคำปรึกษากับแพทย์เฉพาะทางได้รับการรักษาที่ศูนย์สาธารณสุขหรือโรงพยาบาลใกล้บ้าน ไม่จำเป็นต้องเดินทางไกล เพราะแพทย์เฉพาะทางให้คำปรึกษาผ่านระบบทางไกลหรือ Telemedicine ได้ การนัดคิวตรวจเป็นเรื่องปกติของโรงพยาบาลทุกแห่ง ผู้ป่วยไม่ต้องไปโรงพยาบาลแต่เช้ามืด ผู้ป่วยที่ต้องเจาะเลือดตรวจโรค ก็สามารถทำได้ที่คลินิกหรือศูนย์สาธารณสุขใกล้บ้าน

ผู้ป่วยติดเตียงและผู้ป่วยในระยะสุดท้ายของชีวิต ได้รับการดูแลจากผู้ช่วยพยาบาลทั้งที่บ้านและที่ศูนย์ชีวาภิบาล (Hospice) ของรัฐและเอกชนโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ลูกหลานยังสามารถไปประกอบอาชีพได้ตามปกติ ไม่ต้องลางาน

การสาธารณสุขเชิงรุก เช่น การฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกฟรีในเด็กหญิงอายุ 9-11 ปี และฉีดวัคซีนให้ผู้หญิงที่ยังไม่ติดเชื้อไวรัสเอชพีวี (HPV : Human Papilloma Virus) อีกทั้งยังตรวจและรักษาไวรัสตับอักเสบ-ซี ซึ่งโรคดังกล่าวจะเป็นการป้องกันมะเร็งตับที่เป็นสาเหตุการตายอันดับ 1 ของมะเร็งในผู้ชาย

ปี 2570 โรงพยาบาลของรัฐถูกกระจายอำนาจในรูปแบบองค์การมหาชนที่ท้องถิ่นและชุมชนมีส่วนร่วมในการบริหารโรงพยาบาล มีการจัดสรรบุคลากรทางการแพทย์ตามปริมาณงาน และเกิดการลงทุนครั้งใหญ่ในการพัฒนาอุปกรณ์การแพทย์ให้ทันสมัยในทุกระดับตั้งแต่ตำบลถึงมหานคร รวมทั้งมีการฝึก อ.ส.ม. ให้เป็นพยาบาลระดับต้น ประจำทุกหมู่บ้าน ส่วนในกรุงเทพมหานคร มีโรงพยาบาลประจำเขตทั้ง 50 เขต

6.) นโยบายด้านการศึกษา ในปี 2570 มีการกระจายอำนาจการศึกษาเหมือนในประเทศที่เจริญแล้ว มีโรงเรียน 2 ภาษาในทุกท้องถิ่น ซึ่งสอนภาษาต่างประเทศ เช่น ภาษาอังกฤษและภาษาจีน ตั้งแต่ ป.1 มีการเรียนการสอนทั้งในห้องเรียนและออนไลน์ โดยใช้ครูต่างประเทศมาสอนเสริมร่วมกับครูไทย มีศูนย์การเรียนรู้แบบ TCDC และ TK Park ที่เริ่มต้นสมัยไทยรักไทย ให้ครบทุกจังหวัด

7.) นโยบายด้านยาเสพติด จะปราบปรามยาเสพติดเต็มรูปแบบ เด็กไทยตกเป็นทาสยาเสพติด ทำร้ายคนในครอบครัวและผู้อื่นอีกมากมาย และจะบำบัดผู้เสพอย่างทั่วถึงควบคู่กันไปกับการปราบปราม


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top