Monday, 19 May 2025
NewsFeed

กระทรวงวัฒนธรรม เชิญชวนประชาชน ร่วมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณ ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ผ่านบทเพลงพระราชนิพนธ์ ในบรรยากาศสายลมหนาว กับเทศกาลดนตรี MOC MU FES

เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันที่ ๕ ธันวาคม 2565 เพื่อน้อมรำลึกและเทิดพระเกียรติในพระอัจฉริยภาพทางดนตรีสากล ในฐานะ “อัครศิลปิน” กรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) กระทรวงวัฒนธรรม ขอเชิญชวนประชาชนร่วมงานเทศกาลดนตรี Ministry of Culture Music Festival (MOC MU FES) ชมการแสดง “Winter Love Songs : บทเพลงพระราชนิพนธ์” และการแสดง “ลีลาศสร้างสุขกับสุนทราภรณ์” ระหว่าง ๘ - ๙ ธันวาคม ๒๕๖๕ เวลา ๑๗.๓๐ - ๒๑.๓๐ น. ณ ลานวัฒนธรรมสร้างสุข กระทรวงวัฒนธรรม ถนนเทียมร่วมมิตร กทม. (ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย)  
     
นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรม โดย กรมส่งเสริมวัฒนธรรม สวธ. ได้ดำเนินโครงการเทิดพระเกียรติสถาบันพระมหากษัตริย์ เพื่อเป็นการแสดงความจงรักภักดีและรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการ โดยการจัดงานเทศกาลดนตรี Ministry of Culture Music Festival (MOC MU FES) การแสดง “Winter Love Songs : บทเพลงพระราชนิพนธ์” และการแสดง “ลีลาศสร้างสุขกับสุนทราภรณ์” ในครั้งนี้ เพื่อน้อมรำลึกเนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ วันที่ ๕ ธันวาคม 2565 และเทิดพระเกียรติ 'อัครศิลปิน' ในฐานะที่พระองค์ทรงพระอัจฉริยภาพด้านดนตรีสากล ผ่านการแสดงดนตรีด้วยบทเพลงพระราชนิพนธ์อันทรงคุณค่า ให้พสกนิกรไทยได้มีส่วนร่วมเทิดพระเกียรติสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่ได้สร้างคุโณปการต่อประเทศนานับประการ 

“กระทรวงวัฒนธรรม ได้เปิดพื้นที่ “ลานวัฒนธรรมสร้างสุข” เพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่ม ได้มีพื้นที่ทำกิจกรรมทางวัฒนธรรมร่วมกัน อาทิ กิจกรรมดนตรีในสวน ถนนสายวัฒนธรรม ศิลปะการแสดง รวมถึงตลาดนัดของดีทางวัฒนธรรม หรือเป็นพื้นที่สำหรับการออกกำลังกาย ถือเป็นการต่อยอดเผยแพร่ soft power อันจะส่งผลให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ สร้างความสุขทางกายและทางใจ สร้างความสนุกสนาน เพลิดเพลิน ความรัก ความสามัคคีและความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ณ ลานวัฒนธรรมสร้างสุข ของกระทรวงวัฒนธรรม แห่งนี้ และลานวัฒนธรรมของจังหวัดต่าง ๆ จะเป็นพื้นที่สำหรับจัดกิจกรรมให้ประชาชนทุกคนได้มีส่วนร่วมสร้างความสุขไปด้วยกัน” นางยุพา กล่าว

โดยรายละเอียดการแสดงในเทศกาลดนตรี ที่จะจัดระหว่าง ๘ - ๙ ธันวาคม นี้ นายโกวิท ผกามาศ อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม เปิดเผยว่า ในวันที่ ๘ ธันวาคม เวลา ๑๗.๓๐-๒๑.๓๐ น. จะเป็นการแสดง “ลีลาศสร้างสุขกับสุนทราภรณ์” ประชาชนจะได้สนุกสนานเพลิดเพลินไปกับลีลาศและรำวงในจังหวะที่หลากหลาย บรรเลงบทเพลงโดยวงดนตรีสุนทราภรณ์ ควบคุมวงโดย ครูณรงค์ เนตรเจริญ ขับขานบทเพลงโดยนักร้องคุณภาพของวงพร้อมคลื่นลูกใหม่สุนทราภรณ์ ได้แก่ พรศุลี วิชเวช โน้ต-พรชัย เอกศิริพงษ์  จิมมี่-บัญชา รักษาจันทร์ แจน-นันทพร ซัน-ชาตรี เบนซ์-วฤณพร ต๊ะ-พิเชษฐ์ แจ๊บ-ณฤพล ผิวอ่อน ขวัญ-ชณัฐศิกาญ โอ๋-ศราวิน วงษ์สุวรรณ มีน-ณัฏฐ์นรี มะลิทอง ยุ้ย-ปิยวรรณ โอ๋-ศราวิน มุข-มุขอันดา ใจยง จะเริ่มด้วยเพลงเทิดพระเกียรติ “ราชาเป็นสง่าแห่งแคว้น และร่มเกล้า” จากนั้นจะเข้าสู่การแสดงลีลาศ ๒ ช่วง ได้แก่ ช่วงที่ ๑ ลีลาศ-รำวงกับสุนทราภรณ์ ประกอบด้วยจังหวะ รำวง คิวบัน บีกิน ช่าช่าช่า รุมบ้า กัวราช่า ตลุง วอลซ์ แทงโก้ ควิกวอลซ์ ฟอกซ์ทร็อต ควิกสเต็ป และบันนี่ฮ็อป รวมกว่า ๒๔ บทเพลง อาทิ รำวงมาตรฐาน รักวันเติมวัน เพ้อรัก บอกเธอเสียที หิมพานต์ เริงลีลาศ รื่นเริงใจ รักต่างแดน ตลุงมอญซ่อนผ้า แม่ทูนหัว ดอกไม้กับแมลง น่าเพลินใจ บ้านเรือนเคียงกัน และเพลิดเพลินกันให้เต็มอิ่ม ในช่วงที่ ๒ ลีลาศ-รำวง ในจังหวะที่หลากหลาย อีกกว่า ๑๙ บทเพลง อาทิ รำวงสาวบ้านแต้ สวยจริงรักจริง รักจริงไหม รักแม่เอ๊ย รักในลมหนาว แซมบ้าพารัก ร็อคเร่งรัก อย่าลืมฉัน เป็นต้น

วธ.รวมใจจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์-นิทรรศการแสดงพระราชประวัติและพระอัจฉริยภาพ-ฉายโขนภาพยนตร์ – ดนตรีเทิดพระเกียรติฯ เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ

นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) รวมใจภาคีเครือข่ายด้านศาสนา ศิลปวัฒนธรรมทั่วประเทศ จัดกิจกรรมเนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2565 โดยหน่วยงานในสังกัดของ วธ. ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ จัดตั้งโต๊ะหมู่ประดิษฐานพระบรมฉายาลักษณ์พร้อมเครื่องราชสักการะตามอาคารสถานที่ จัดทำคำกล่าวน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ พร้อมนำเสนอภาพพระราชกรณียกิจเพื่อเผยแพร่ทางเว็บไซต์และสื่อออนไลน์ของแต่ละหน่วยงาน นอกจากนี้ กระทรวงวัฒนธรรม ได้ร่วมกิจกรรมจิตอาสาบริการประชาชน ณ บริเวณท้องสนามหลวง ในวันที่ 5 ธันวาคม 2565 เวลา 09.00-17.00 น. และร่วมกับสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี จัดนิทรรศการแสดงพระราชประวัติและพระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ หนังสือพระมหากษัตริย์ไทยแห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ 10 รัชกาล (ฉบับการ์ตูน) นำเสนอวีดิทัศน์ แอนิเมชั่น ชุด 'ศาสตร์พระราชา ปรัชญาแห่งแผ่นดิน' ที่ได้ทรงพระราชทานศาสตร์พระราชาและหลักการทรงงานให้แก่พสกนิกรชาวไทยไปใช้พัฒนาคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดียิ่งขึ้น กรมศิลปากรจัดการแสดงดนตรีสากลบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร กรมส่งเสริมวัฒนธรรมจัดนิทรรศการแสดงสำเนาภาพฝีพระหัตถ์ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เผยแพร่วีดิทัศน์ 'อัครศิลปิน โครงการสามทศวรรษ' และพระอัจฉริยภาพฯ กิจกรรมการทำภาพพิมพ์ซิลค์สกรีนภาพอัครศิลปินบนเสื้อยืด กระเป๋าผ้า มอบให้แก่ประชาชน และนักศึกษาคณะศิลปวิจิตร สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ จัดกิจกรรมการวาดภาพเหมือนให้แก่ประชาชน 

รมว.พิพัฒน์ ร่วมงาน 7 ปี สมาคมสื่อมวลชนภาคใต้ เสวนาพูดคุย เรื่อง 'บทบาทสื่อกับการท่องเที่ยวและกีฬา ยุคดิจิตอล'

เมื่อวันเสาร์ที่ 3 ธันวาคม 2565ที่ผ่านมา ที่โรงแรมญันนะตีย์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานเปิดงานในโอกาสที่สมาคมสื่อมวลชนภาคใต้ 2558 ได้ดำเนินงานครบ 7 ปี และเสวนาพูดคุยในหัวข้อ 'บทบาทสื่อกับการท่องเที่ยวและกีฬายุคดิจิตอล' ในประเด็นต่างๆประกอบด้วย บทบาทของการท่องเที่ยวและกีฬา ต่อการนำเสนอจุดขายเพื่อการกระตุ้นการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนของประเทศไทย,แนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและกีฬาของจังหวัดภาคใต้ ที่จะเป็นรายได้อย่างยั่งยืนให้กับผู้ประกอบการ ,แรงกระตุ้นและสนับสนุนจากสื่อมวลชนทุกแขนง ในการร่วมเป็นแกนหลักในการประชาสัมพันธ์อย่างรอบด้าน และสื่อมวลชนจะได้ประโยชน์อะไร โดยมีนายอนันต์ จันทรัตน์ นายกสมาคมสื่อมวลชนภาคใต้ 2558 กล่าวรายงาน 

สำหรับสมาคมสื่อมวลชนภาคใต้ 2558 เดิมชื่อ สมาคมสื่อมวลชน หนังสือพิมพ์ วิทยุโทรทัศน์ ประชาคม 2558 และได้จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการ และชื่อสมาคมใหม่ เป็นสมาคมสื่อมวลชนภาคใต้ 2558 เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2560 จนถึงปัจจุบัน มีคณะกรรมการสมาคมรวมทั้งสิ้น 17 คน โดยมีวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งสมาคมขึ้น เพื่อความสามัคคีเป็นหนึ่งเดียวของสื่อมวลชน เทิดทูนสถาบัน ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และความจงรักภักดี การพัฒนาส่งเสริมสวัสดิการสื่อมวลชน แลกเปลี่ยนข้อมูล ข่าวสาร การประสานการทำงานของสื่อมวลชน เพื่อรับใช้สังคม ในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารอย่างถูกต้องเที่ยงตรง เป็นธรรม และสร้างสรรค์ ส่งเสริมสิทธิเสรีภาพ สิทธิมนุษยชน และคุณภาพของสื่อมวลชน เพื่อส่งเสริมเผยแพร่เกียรติคุณ เชิดชูคนดี และสื่อมวลชนที่ดี มีผลงานทำคุณประโยชน์ต่อมนุษยชาติและสังคม เพื่อส่งเสริมสันติภาพ สันติสุข ต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่น และการค้ายาเสพติด หรือสิ่งอันตรายต่อมนุษยชาติ เพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมโลก และสุดท้ายเพื่อร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนประโยชน์โดยรวม เพื่อสาธารณะ 

'ดร.ปกรณ์ GISTDA' นั่งประธานคกก.ดาวเทียมสำรวจโลก รับไม้ต่อจาก CNES เริ่มปฏิบัติหน้าที่ในปี 2023

ปลื้ม!! ดร.ปกรณ์ อาภาพันธุ์ ผู้อำนวยการ GISTDA ได้รับเลือกเป็น ประธานคกก.ดาวเทียมสำรวจโลกอย่างเป็นทางการต่อจาก CNES องค์กรอวกาศของฝรั่งเศส โดย GISTDA จะปฏิบัติหน้าที่ประธานคณะกรรมการดาวเทียมสำรวจโลก CEOS 2023 

ดร.ปกรณ์ อาภาพันธุ์ ผู้อำนวยการ GISTDA ในฐานะผู้แทน สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และคณะ เข้าร่วมประชุม 2022 CEOS Plenary ซึ่งเป็นการประชุมใหญ่ประจำปีของคณะกรรมการดาวเทียมสำรวจโลก (Committee on Earth Observation Satellites :CEOS) ที่มีองค์กรอวกาศภาครัฐด้านการสำรวจโลกด้วยดาวเทียมจากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก และหน่วยงานนานาชาติที่เกี่ยวข้องเป็นสมาชิก 

สำหรับ CEOS Plenary 2022 จัดขึ้น เมื่อ 29 พฤศจิกายน - 1 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา ที่เมือง Biarritz สาธารณรัฐฝรั่งเศส โดยในการประชุมครั้งนี้ GISTDA ไดัรับมอบตำแหน่งประธานคณะกรรมการดาวเทียมสำรวจโลกอย่างเป็นทางการต่อจาก CNES ซึ่งเป็นองค์กรอวกาศของสาธารณรัฐฝรั่งเศส โดย GISTDA จะปฏิบัติหน้าที่ประธานหรือ CEOS Chair นับตั้งแต่เริ่มรับตำแหน่งรวมเป็นเวลาประมาณ 1 ปี 

ดร.ปกรณ์ อาภาพันธ์ุ ในฐานะประธานคณะกรรมการคนต่อไป ได้มอบนโยบายการทำงานของคณะกรรมการฯ ไว้ว่า ในความร่วมมือกันในมิติต่าง ๆ ของหน่วยงานสมาชิก ที่มีอยู่ นั้น CEOS จะให้ความสำคัญที่จะผลักดันภารกิจที่สำคัญใน 2 เรื่องมากเป็นพิเศษ คือ...

เรื่องแรก คือ การใช้เทคโนโลยีการสำรวจโลกด้วยดาวเทียมในการติดตามการปลดปล่อยและเก็บกักคาร์บอนในพื้นที่ต่างๆ ทั่วโลก เพื่อช่วยลดผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก โดยหน่วยงานสมาชิกจะร่วมกันนำข้อมูลจากดาวเทียมและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องมาใช้เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการสำรวจและตรวจวัดการกักเก็บคาร์บอน ให้นำไปสู่การบรรเทาปัญหาโลกร้อน ตามแนวทางและเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของ UNFCCC 

เรื่องที่ 2 ขอให้ CEOS ให้ความสำคัญ นั้น คือการพัฒนาแนวทางการส่งเสริม New Space Economy โดย GISTDA จะร่วมกับองค์กรอวกาศจากภูมิภาคต่างๆ เข่น ESA, NASA, USGS, JAXA, CNES และ CSA เป็นแกนหลักในการพัฒนาข้อเสนอแนวทางดังกล่าวจากการรวบรวมข้อคิดเห็นและประสบการณ์ของหน่วยงานสมาชิกในเรื่องการส่งเสริมและทำงานร่วมกับภาคเอกชนที่เป็นธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการสำรวจโลกด้วยดาวเทียม

รู้จัก 'พระบรมราชานุสาวรีย์ ร.9' แห่งอุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ สวนสาธารณะแห่งใหม่ที่ในหลวง ร.10 พระราชทานเพื่อปวงชน

ย้อนไปเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2565 เวลา 17.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.9 หรือพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ณ อุทยานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร

สำหรับพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.9 หรือ พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ตั้งอยู่ในอุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ เขตดุสิต มีขนาดความสูงถึง 7.7 เมตร หรือขนาด 4 เท่าครึ่งของพระองค์จริง ทรงฉลองพระองค์เครื่องแบบทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ หันพระพักตร์ไปทางพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต ถนนศรีอยุธยา หล่อด้วยโลหะสัมฤทธิ์ ฐานพระบรมรูปตั้งอยู่บนลานรูปไข่ ส่วนแท่นฐานพระบรมราชานุสาวรีย์เป็นผังแปดเหลี่ยม ตามคติพระที่นั่งอัฐทิศอุทุมพรราชอาสน์ อันเป็นสัญลักษณ์เบื้องแรกแห่งการประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

ส่วนแท่นฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ทั้ง 8 เหลี่ยมมีแผ่นจารึกถึงพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงประกอบพระราชกรณียกิจนานัปการเพื่อนำพาประเทศชาติอยู่ดีมีสุข อันก่อให้เกิดความผูกพันและความจงรักภักดีที่ประชาชนมีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นเอกลักษณ์สำคัญของไทยที่ไม่มีชาติใดเสมอเหมือน

ทั้งนี้ อุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ เขตดุสิต มีชื่อเต็มว่า  'อุทยานเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร' มีพื้นที่ทั้งหมด 297 ไร่ เป็นสวนสาธารณะแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ ตั้งอยู่บริเวณหัวมุมสามแยกนางเลิ้ง ล้อมรอบด้วยถนนสวรรคโลก ถนนศรีอยุธยา ถนนพระรามที่ 5 และถนนพิษณุโลก ในพื้นที่แขวงสวนจิตรลดา เขตดุสิต

'นายกฯ-ภริยา' เป็นประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์-ทำบุญตักบาตร คล้ายวันพระบรมราชสมภพ ในหลวงรัชกาลที่ 9

'บิ๊กตู่' และ 'อาจารย์น้อง' เป็นประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์และทำบุญตักบาตร เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2565 เป็นประธานพิธีวางพานพุ่มและถวายบังคม เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2565

(5 ธ.ค. 65) 7.30 น. ที่พิธีท้องสนามหลวง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม และ นางนราพร จันทร์โอชา ภริยา เป็นประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์และทำบุญตักบาตร เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2565 โดยมีคณะองคมนตรีและภริยา ประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกาและภริยา ประธานวุฒิสภา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญและภริยา รองนายกรัฐมนตรีและภริยา หน่วยราชการในพระองค์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้บัญชาการเหล่าทัพและภริยา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและภริยา หัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่า ปลัดกรุงเทพมหานคร และผู้แทนองค์กรภาคีเครือข่ายภาคเอกชน ร่วมพิธีซึ่งพร้อมใจแต่งกายชุดสุภาพโทนสีเหลือง

เมื่อนายกรัฐมนตรีและภริยาเดินทางถึงปะรำพิธีท้องสนามหลวง พระสงฆ์ จำนวน 10 รูปขึ้นนั่งอาสน์สงฆ์ นายกรัฐมนตรีจุดเทียนบูชาพระรัตนตรัย จุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เจ้าหน้าที่อาราธนาศีล พระสงฆ์ให้ศีล พระสงฆ์ให้ศีล จบ สวดพระพุทธมนต์

จากนั้น คณะองคมนตรีและภริยา นายกรัฐมนตรีและภริยา ประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกาและภริยา ประธานวุฒิสภา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญและภริยา รองนายกรัฐมนตรีและภริยา หน่วยราชการในพระองค์ ถวายเครื่องไทยธรรมแด่พระสงฆ์ จำนวน 10 รูป นายกรัฐมนตรีถวายผ้าไตร จำนวน 10 ไตร พระสงฆ์สดัปกรณ์ อนุโมทนา นายกรัฐมนตรีกรวดน้ำรับพร กราบลาพระรัตนตรัย ถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

ต่อจากนั้น นายกรัฐมนตรีและภริยา นำผู้เข้าร่วมพิธีร่วมตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 189 รูป เสร็จพิธี

จากนั้น เวลา 08.30 น. ณ บริเวณพิธีท้องสนามหลวง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และนางนราพร จันทร์โอชา ภริยา เป็นประธานในพิธีวางพานพุ่มและถวายบังคม เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2565 โดยมีประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกาและภริยา ประธานวุฒิสภา ประธานองค์กรอิสระและคู่สมรส คณะรัฐมนตรีและคู่สมรส เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้บัญชาการเหล่าทัพและภริยา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและภริยา หัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่า ปลัดกรุงเทพมหานคร และภาคีเครือข่ายภาคเอกชน ร่วมพิธี

นายกรัฐมนตรีวางพานพุ่มดอกไม้ในนามนายกรัฐมนตรี 1 พาน และในนามคณะรัฐมนตรี 1 พาน จากนั้น ภริยานายกรัฐมนตรีวางพานพุ่มดอกไม้ในนามคู่สมรสคณะรัฐมนตรี 1 พาน จากนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ความว่า “เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติในวันนี้ ข้าพระพุทธเจ้า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี ข้าราชการ และพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า ต่างน้อมจิตมั่นร้อยรวมดวงใจเป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อแสดงความจงรักภักดีและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาสุดมิได้

'หมอธีระวัฒน์' ยก 10 เรื่องการันตี 'โควิด' ดีขึ้นจริง แม้ยังติดเชื้อเข้มข้นในหลายประเทศและในไทย

(5 ธ.ค. 65)  ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า โควิดน่าจะดีขึ้นจริง

1. แม้ว่าการติดเขื้อจะเข้มข้นหนาแน่นในหลายประเทศและในไทย

2. แต่ข้อสำคัญ ต้องดูอัตราเข้า รพ. และเสียชีวิต

3. และสาเหตุที่เข้า รพ. และตาย เป็นสาเหตุตรงจากโควิดหรือมีโรคอื่นเป็นตัวการอยู่ แต่ตรวจเจอโควิด?

4. ทั่วโลก ในข้อ 2 ดีขึ้นมาก และมาตรการผ่อนคลายจนเกือบหมดแล้ว ยกเว้น ญี่ปุ่น ที่เข้า รพ. และเสียชีวิตมาก และ เยอรมัน ที่เสียชีวิตมาก แต่คงต้องดู ข้อ 3 ประกอบ ว่าเป็นสาเหตุตรง?

5. จีน ประชากร 1,600 ล้านคน แต่จำนวนเข้า รพ. ไม่ได้มาก และตายน้อยมาก จากข้อมูลจากรัฐบาลจีนที่ตรวจใช้ พีซีอาร์แบบถี่ยิบ

6. ดังนั้น อย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่น่าอธิบาย

>> แอฟริกาใต้ วัคซีนน้อยมาก โรคสงบมานาน

>> ยุโรป เรียบร้อยหมด

>> อังกฤษ สงบ

>> จีน วัคซีนเชื้อตาย 2 – 3 เข็ม ฉีดให้ประชากรมากกว่า 70% และตายน้อยมากในสถานการณ์โอมิครอนปัจจุบัน ที่อาจมี BF.7 ด้วยซ้ำ

>> ญี่ปุ่น เยอรมัน mRNA วัคซีน กันหลายเข็มด้วยซ้ำทั้งประเทศ

>> ญี่ปุ่น กับ อเมริกา เชื้อดูจะใกล้กัน ด้วยแต่ อเมริกากลับดีกว่า

'หนุ่มใหญ่เมืองน้ำหอม' หลอกคนไทยลงทุนสินค้าแบรนด์เนม ตีสนิทผู้เสียหายหลายรายให้ตายใจ ก่อนเชิดเงิน

(5 ธ.ค. 65) พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ธนิต ไทยวัชรามาศ ผบก.สส.สตม.,และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สส.สตม. กวดขันจับกุมคนต่างด้าวที่แฝงเข้าอยู่ในประเทศไทยเพื่อใช้เป็นสถานที่ก่ออาชญากรรมในรูปแบบต่าง ๆ สร้างความเสียหายให้กับประชาชนและภาพลักษณ์ของประเทศ โดยเน้นย้ำสถานที่พักอาศัยที่คนต่างด้าว พักอาศัย เจ้าของหรือผู้ครอบครองดูแลต้องแจ้ง ต่อสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองภายใน 24 ชั่วโมง ตามมาตรา 38 แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522​

'สว.สมชาย' ถาม? เหมาซื้อบ้านเงินสด 50 หลัง ‘ผู้ขาย-สำนักงานที่ดิน’ ไม่สงสัยบ้างหรือ?

(5 ธ.ค. 65) นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า...

นายกลุงตู่แปลกใจเหมือนผมมั้ยครับ? ใช้เงินสดเหมาซื้อบ้าน 50 กว่าหลัง ๆ ละ 50 ล้าน เหตุใดผู้ขายและสำนักงานที่ดินไม่รายงานความผิดปกติของการใช้เงินสดดังกล่าว 

'อ.อ๊อด' ชี้!! วิธีสังเกต อาหารปนเปื้อนสารฟอร์มาลิน แนะ!! สารละลายด่างทับทิมช่วยละลายน้ำได้

จากกรณีกรมปศุสัตว์ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ด่านกักกันสัตว์ชลบุรี บุกยึดของกลางชิ้นส่วนเนื้อและเครื่องในสุกรและโค จำนวนกว่า 25,000 กิโลกรัม แช่ในถังน้ำผสมฟอร์มาลินรายใหญ่ ส่งขายร้านหมูกระทะ และร้านอาหารอีสาน กว่า 66 แห่งในพื้นที่ใกล้เคียง มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น 

ล่าสุด รองศาสตรจารย์วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อ.อ๊อด ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและกิจการเพื่อสังคม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กว่า อาหารที่มักพบสารฟอร์มาลินปนเปื้อน ได้แก่อาหารทะเล เนื้อสัตว์ ผักสด และผลไม้ ซึ่งวิธีสังเกตง่าย ๆ คือ

>> ถ้าเป็นเนื้อสัตว์ หากถูกแสงแดด หรือลมเป็นเวลานาน แล้วยังสดอยู่ก็ไม่ควรซื้อ

>> ถ้าเป็นอาหารทะเลที่เนื้อแข็งบางส่วน เปื่อยยุ่ยบางส่วน ไม่ควรซื้อ

>> ถ้าเป็นผัก ผลไม้ที่มีลักษณะแข็ง เขียว กรอบหรือสดผิดปกติ ให้ดมที่ใบ ผลหรือหักก้านดม ถ้ามีกลิ่นแสบจมูกแสดงว่ามีฟอร์มาลินปนเปื้อน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top