Tuesday, 20 May 2025
NewsFeed

'ธนาธร' ชี้!! กลุ่มทุนใหญ่น่ารังเกียจ เกาะอำนาจรัฐเอื้อตัวเอง  โว!! นั่นจึงเป็นเหตุที่ต้องมี 'ก้าวไกล' ไปอยู่ในสภาฯ

'ธนาธร' ร่วมวงสมาชิกสัมพันธ์ก้าวไกลขอนแก่น ชี้กลุ่มทุนไม่ได้น่ารังเกียจถ้าสร้างนวัตกรรม แต่น่ารังเกียจที่ยึดเกาะอำนาจรัฐเอื้อประโยชน์ตัวเอง 

(3 ธ.ค.65) ที่ Jump Space จ.ขอนแก่น ศรายุทธ ใจหลัก ผู้อำนวยการพรรคก้าวไกล และ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ร่วมงานประชุมสมาชิกพรรคก้าวไกล เพื่อพบปะสมาชิกพรรคและรณรงค์การขยายฐานสมาชิกให้เติบโตอย่างเข้มแข็ง

ศรายุทธ กล่าวว่า พรรคก้าวไกลวันนี้มีสมาชิกพรรคทั่วประเทศ 57,544 คน เฉพาะที่ขอนแก่นมีสมาชิกพรรค 2,250 คน ในวันต่อ ๆ ไป เราจะเพิ่มจำนวนสมาชิกพรรคในขอนแก่นให้มากขึ้น เป็น 5,000 คน 10,000 คน และไปให้ถึง 1,000,000 คน เช่นเดียวกับทุก ๆ จังหวัด เพื่อทำให้พรรคก้าวไกลเป็นพรรคการเมืองที่เข้มแข็งจากฐานสมาชิก เป็นหัวหอกนำการเปลี่ยนแปลงมาสู่โครงสร้างสังคม การเมือง และเศรษฐกิจไทย ตนจึงขอเชิญชวนประชาชนที่ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลง ให้มาร่วมสร้างฐานสมาชิก ร่วมสร้างพรรคไปด้วยกัน

ด้านธนาธร กล่าวว่า พรรคการเมืองหนึ่ง ๆ จะเกิดขึ้นได้ ต้องเริ่มจากแนวอุดมการณ์และแนวนโยบายที่แต่ละคนเห็นตรงกันว่าอยากให้ประเทศไทยไปทางไหน ปัจจุบันปัญหาสำคัญของประเทศไทย คือเรื่องความเหลื่อมล้ำ เวลาเราบอกว่าเศรษฐกิจโตเท่าไหร่ จีดีพีโตกี่เปอร์เซ็นต์ มันไม่เคยบอกว่าที่โตนั้น ไปโตที่ใคร นี่คือเหตุผลที่เราไม่พอใจว่าการเติบโตของเศรษฐกิจมันช้าเกินไป และที่ออกดอกออกผลเติบโต ก็ไปโตที่บางคนเท่านั้น ทำให้ไทยเป็นประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำมากที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลก และเรื่องนี้แยกไม่ออกกับโครงสร้างการพัฒนาการเมืองและเศรษฐกิจของประเทศตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา ดังนั้น ถ้าใครพูดเรื่องความเหลื่อมล้ำ แต่ไม่พูดเรื่องโครงสร้างเศรษฐกิจและการเมืองที่ผิดเพี้ยน คนนั้นก็กำลังหลอกตัวเองอยู่

นราธิวาส-เปิด 4 ชุดนโยบายประชาชาติ 'วันนอร์' ปลุกเลือกพรรคของเรา ทวี ลั่นประชาชนเป็นศูนย์กลาง

'พ.ต.อ.ทวี' เดินสายร่วมงานมงคล และพบปะพี่น้องประชาชนในนราธิวาส เปิดวงรับฟังความคิดเห็นจากผู้นำศาสนา และครูอุสตาซ 13 อำเภอ เปิด 4 ชุดนโยบาย กระจายอำนาจ ที่ดินทำกิน ทำให้รัฐเล็กลง และสวัสดิการถ้วนหน้า 

แกนนำพรรคประชาชาติอย่าง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ยังคงลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้แบบต่อเนื่อง ไม่ขาดหาย ทั้งไปร่วมงานบุญ งานมงคลต่างๆ, พบปะแกนนำ ผู้นำศาสนา ครู อุสตาส และประชาชน เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น พร้อมรับฟังปัญหาของพี่น้องทุกกลุ่ม ทุกสาขาอาชีพ นำไปกำหนดเป็นนโยบายของพรรคต่อไป

จุดแรก พ.ต.อ.ทวี นำคณะพรรคประชาชาติไปที่โรงยาง อ.เมือง จ.นราธิวาส ร่วมแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาว พญ.มารีนา บินระหีม และ นพ.ราชัย ราชมุกดา พร้อมให้กำลังใจและกล่าวชื่นชมการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะบุคลากรทางการแพทย์เพื่อช่วยเหลือประชาชน

จุดที่สอง เดินทางไปที่ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส พ.ต.อ.ทวี และคณะ พบปะผู้นำและแกนนำในพื้นที่ เพื่อรับฟังความคิดเห็นในการแก้ปัญหาตลอดจนแนวทางพัฒนาพื้นที่สุไหงปาดีในอนาคต ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และมิติอื่นๆ ตามความต้องการของพี่น้องประชาชน เพื่อให้เกิดความสงบสุขอย่างยั่งยืน

พบครูอุสตาซ 13 อำเภอ - “วันนอร์” ลั่นปกป้องวัฒนธรรมมลายู

จากนั้น พ.ต.อ.ทวี ยังได้นำคณะพรรคประชาชาติเข้ารับฟังความคิดเห็นจากผู้นำศาสนา และครูอุสตาซ 13 อำเภอของ จ.นราธิวาส ที่ มูลนิธิมะทา ถนนสุขยางค์ ต.สะเตงนอก อ.เมือง จ.ยะลา โดยมี นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ เป็นประธานในพิธี พร้อมกล่าวตอนหนึ่งว่า การเมืองต้องเลือกด้วยความเข้าใจ ถ้าเราไม่เข้าใจการเมือง การเมืองก็จะเป็นพลาสติก ยืนยันว่าพรรคประชาชาติเป็นพรรคการเมืองที่มีอุดมการณ์

“ทำไมเรามีพรรคประชาชาติ เพราะเป็นพรรคของพวกเรา เพราะอะไรเราต้องเลือกพรรคของเรา ก็เพราะจุดยืนและอุดมการณ์ เราต้องปกป้องศาสนา วัฒนธรรม และรักษาวัฒนธรรม ต้องขอบคุณเยาวชนอีกครั้งที่รวมใจกันใส่ชุดมลายูจนคนทั้งโลกตกใจ เราไม่ลืมสมบัติของบรรพบุรุษ พรรคประชาชาติจะสนับสนุนและรักษาสิ่งนี้ พรรคประชาชาติจะปกป้องความเป็นธรรมให้ประชาชน และพรรคประชาชาติต้องรักษาอามานะฮ์ หน้าที่ ความรับผิดชอบ” นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าว 

“ทวี” ชูนโยบาย 10 ข้อนายกฯใหม่มาเลย์ ใกล้เคียงประชาชาติ   

โอกาสนี้ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า การเลือกตั้งที่มาเลเซีย พรรคประชาชาติส่งคณะไปติดตาม พบว่าเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของคนมาเลเซีย นายอันวาร์ อิบราฮิม ได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี มีนโยบายทันที 10 ข้อ เน้นมิติของการให้อนาคตเด็กและอนาคตประชาชนสูงที่สุด 

1.เขาจะช่วยเหลือเงินครัวเรือน เพื่อลดค่าใช้จ่ายของประชาชน 2.มีโครงการให้อาหารฟรีให้กับเด็กนักเรียน ให้ฟรีอาหารเช้าและกลางวัน 3.เหมือนนโยบายพรรคประชาชาติ คือเขาจะทำบัตรนักศึกษา และเยาวชน ให้มีบัตรสวัสดิการเยาวชน 4.ทุนการศึกษาสำหรับผู้มีรายได้ต่ำ โดยมาเลเซีย ผู้มีรายได้ต่ำ คือ 4,850 ริงกิต ถือว่ารายได้ต่ำ ก็จะให้ทุน 5. ปราบคอร์รัปชั่น 

6.เปิดโอกาสให้ประชาชนมีสิทธิ์ในที่อยู่อาศัย 7.เบี้ยผู้สูงอายุ เรื่องนี้เหมือนนโยบายพรรคประชาชาติ เราเสนอนโยบายผู้สูงอายุ 60 ปีควรมีบำนาญ 3,000 บาท 8.ให้เยาวชนได้ลงทุนในอาชีพเกษตรและปศุสัตว์ 9.คล้ายๆ นโยบายพรรคประชาชาติ คือสนับสนุนเงินให้แม่บ้าน หรือให้เงินกับผู้เป็นแม่ที่ทำงานที่บ้าน สำหรับผู้มีรายได้ต่ำ 10.แต่งตั้งรองนายกรัฐมนตรี ต้องมีตัวแทนจากรัฐซาบาฮ์ ซาราวัก เสนอ 4 ชุดนโยบาย กระจายอำนาจ - สวัสดิการถ้วนหน้า 

“นโยบายมาเลเซียให้ความสำคัญกับทุกคน วันนี้พวกเราเป็นเจ้าของพรรคประชาชาติ พรรคเราเป็นพรรคของการศึกษา พรรคได้จัดทำชุดนโยบาย เราจะมี 4 ชุดใหญ่ๆ คือ 1.จะยกเลิกรัฐบาลรวมศูนย์ ส่งให้ชุมชนเป็นศูนย์กลาง กระจายงบประมาณ กระจายอำนาจ จะทำให้ ชัยชนะอยู่ที่ครอบครัว หรือสันติสุขอยู่ที่ครอบครัว 2.ประเทศเราเดินทางมาถึงความยากจนสูงสุด เราจะชี้ให้เห็นว่าต้องมีการกระจายการถือครองที่ดิน ออกโฉนดที่ดินให้หมด ถ้าโครงสร้างเป็นแบบนี้ ไม่ต้องมีป่า เอาที่ดินส่งให้ประชาชนให้หมด”

“3.จะทำให้รัฐเล็กลง ทำให้ประชาชนมีอำนาจมากขึ้น 4.เราต้องเดินทางไปสู่รัฐสวัสดิการให้ได้ ทำให้คนมีสิทธิเสมอกัน ทุกท่านมีหน้าที่สำคัญเป็นอย่างยิ่งที่จะสร้างคนให้มีคุณภาพ พรรคประชาชาติเป็นพรรคของพวกเราที่เรามีโอกาสเป็นเจ้าของพรรคการเมือง พรรคเกิดในจังหวัดภาคใต้ และเป็นของพวกเราทุกคน ทุกศาสนา เป็นสถาบันของทุกคน นี่คือบ้านของทุกท่าน” 

@@ แฉเล่ห์บอกประชาชนเลือกพรรค ไม่ต้องเลือก ส.ส.เขต 

พ.ต.อ.ทวี ยังกล่าวอีกว่า วันนี้มีคนพยายามไปบอกประชาชนว่า ให้เลือกพรรคประชาชาติ แต่ ส.ส.เขตให้เลือกพรรคอื่นได้ แบบนี้เป็นวีธีทำลายพรรคประชาชาติ ประชาชนกำลังถูกหลอก เพราะเราเป็นเจ้าของพรรคประชาชาติ ต้องเลือกส.ส. ถ้าทำได้ต้องเลือกทั้งพรรคและคน

จากนั้น พ.ต.อ.ทวี เดินต่อไปยังห้องใกล้ๆ เพื่อพบกลุ่มภาคประชาสังคม นำทีมโดย นายรักชาติ สุวรรณ ประธานเครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพ ได้สะท้อนประเด็นปัญหาและแนวทางการพัฒนาจังหวัดยะลา ในมิติของการสร้างโอกาสให้ผู้พิการแต่ละชมรม ที่มีอยู่หนึ่งตำบลหนึ่งชมรม, มิติของปัญหาที่ดินทำกิน การสร้างอาชีพ การผลักดันการท่องเทียววิถีชุมชน และมีการเรียกร้องให้ จ.ยะลา มีมหาวิทยาลัยเกษตร เพราะยะลาเป็นเมืองเกษตร รวมถึงในมิติของสุขภาวะอนามัย 

นอกจากนั้นยังมีการเสนอปัญหาการขาดโอกาสของ อสม. (อาสาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้าน) และแนวทางการพัฒนาศักยภาพ อสม. รวมทั้งยังมีการเสนอในมิติของเศรษฐกิจที่ตกต่ำ ทำให้ GDP ของยะลาต่ำสุดหลังจากราคายางตก และเจอปัญหาโรคใบร่วง แต่รัฐบาลไม่เคยพูดถึงเลย 

สืบนครบาลรวบ 'มายด์ วรัญรภัสส์' เน็ตไอดอลชื่อดัง หลอกลงทุนทองคำผู้เสียหายทั่วประเทศ

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ให้ปราบปรามกลุ่มองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดในโลกออนไลน์ทุกรูปแบบที่สร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนทันที ตามนโยบายของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยชุดลาดตระเวนออนไลน์ บก.สส.บช.น. ได้รับแจ้งเรื่องความเดือนร้อนของประชาชนทางเพจ “สืบสวนนครบาล IDMB” ให้ช่วยสืบสวนติดตามจับกุมตัวเน็ตไอดอลชื่อดังได้ตระเวนก่อเหตุหลอกลงทุนทองคำโดยการชักชวนเหล่าผู้เสียหายทาง Facebook ซึ่งมีผู้หลงเชื่อเป็นจำนวนมากทั่วประเทศไทย มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 200 ล้านบาท ซึ่งจากการตรวจสอบเน็ตไอดอลชื่อดังรายนี้ มีประวัติก่อคดีร่วมกันมาหลายคดี และในปัจจุบันผู้ต้องหามีผู้ติดตามกว่า 200,000 คน โดยล่าสุด กก.6 บก.ป. บช.ก. ได้ขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับเน็ตไอดอลรายนี้และได้ประกาศสืบจับไปทั่วประเทศแล้ว  

วันที่ 2 ธ.ค. 65 เวลาประมาณ 22.00 น. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. /หน.ชุดปฏิบัติการ PCT ที่ 5 พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง ผกก.(สอบสวน) บก.สส.ภ.2 /รอง หน.ชุดปฏิบัติการ PCT ที่ 5 พ.ต.ท.นรามินทร์ เทพจักรินทร์ ร.ต.อ.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ ร.ต.อ.ศิวัช ยังอุ่น ร.ต.อ.พลวัต นาคถมยา และเจ้าหน้าที่ บก.สส.บช.น. ร่วมกับชุด PCT5 สืบสวนติดตามจับกุมตัว   

น.ส.วรัญรภัสส์ (สงวนนามสกุล) หรือมายด์ อายุ 30 ปี ที่อยู่ 36/21 ซ.4 (นิพัทธ์สงเคราะห์1) ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 2694/2565 ลงวันที่ 2 ธ.ค. 65

ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน”

จับกุมตัวได้ที่ หน้าห้องพักเลขที่ 174/17 The Tree interchange Condo ถนนประชาราษฏร์ แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ จังหวัดกรุงเทพ

พฤติการณ์กล่าวคือ สืบเนื่องจากเมื่อปี พ.ศ.2561 น.ส.วรัญรภัสส์ (สงวนนามสกุล) หรือมายด์ กับพวก ได้ร่วมกันหลอกลวงประชาชน โดยการตระเวนโฆษณาผ่านสื่อออนไลน์ FACEBOOK ชักชวนประชาชนทั่วไป มาร่วมลงทุนซื้อขายทองคำแท่ง โดยมีการกล่าวอ้างว่ามีทองคำแท่งที่ราคาต่ำกว่าราคาตลาด แล้วมีการขายเอากำไรเป็นทอดๆ ซึ่งช่วงแรกได้กำไรจากเงินส่วนต่างจริง หลังจากนั้นเมื่อเหล่าผู้เสียหายเกิดความเชื่อใจ ใช้อุบายหลอกลวงเพื่อให้ผู้เสียหายระดมเงินมาลงทุนก้อนใหญ่ ซึ่งจากนั้นก็ไม่ได้รับทองคำหรือกำไรตามที่แจ้ง ซึ่งคดีนี้มีผู้เสียหายได้รับความเสียหายทั่วประเทศ ซึ่งมีการแจ้งความดำเนินคดีไว้หลายแห่ง โดยในปัจจุบัน น.ส.วรัญรภัสส์ (สงวนนามสกุล) หรือมายด์ ได้กลายมาเป็น “เน็ตไอดอลชื่อดัง” ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 200,000 คน ซึ่งต่อมาเมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 65 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6 บก.ป. ได้รวบรวมหลักฐานและขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับ น.ส.วรัญรภัสส์ (สงวนนามสกุล) หรือมายด์ ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” และได้ประกาศสืบจับไปทั่วประเทศ ซึ่งต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดลาดตระเวนออนไลน์ของ บก.สส.บช.น. ร่วมกับชุด PCT5 ได้จับกุมตัวตามหมายจับ และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.6 บก.ป. เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

ในชั้นจับกุม น.ส.วรัญรภัสส์ หรือมายด์ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “ยอมรับว่าปัจจุบันตนเองทำงานเป็นโมเดลลิ่ง และเป็นบุคคลมีเชื่อเสียงในโลกโซเชียล โดยในตอนเกิดเหตุช่วงปี 2561 นั้นตนเองก็เป็นผู้เสียหายเช่นเดียวกัน โดยตนเองมีหน้าที่ชักชวนให้เหล่าผู้เสียหายมาลงทุน และยังมีหน้าที่รับเงินจากเหล่าผู้เสียหายก่อนจะโอนไปให้กับ “หัวหน้าขบวนการ” โดยตนเองจะหักกำไรไว้บางส่วน จึงทำให้ตนเองถูกดำเนินคดี โดยตลอด 4 ปี ที่ผ่านมามีการเดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาและขึ้นศาลหลายแห่ง ส่วนหัวหน้าขบวนการนั้นได้ถูกจับกุมไปแล้ว แต่ไม่ได้มีการชดใช้เงินให้กับเหล่าผู้เสียหายยอมติดคุก”

กองทัพเรือส่ง รล.ประจวบคิรีขันธ์ ร่วมสวนสนามทางเรือนานาชาติ ณ บังคลาเทศ

เป็นการสร้างเกียรติยศ สานสัมพันธ์ เสริมประสบการณ์ แห่งนักรบทางเรือใน International Fleet Review สวนสนามทางเรือนานาชาติ ณ ประเทศบังคลาเทศ

กองทัพเรือส่ง เรือหลวงประจวบคีรีขันธ์ (หมายเลข 552) เป็นเรือที่ประเทศไทยต่อเอง เข้าร่วมการสวนสนามทางเรือนานาชาติ (International Fleet Review) ณ ประเทศบังคลาเทศ ระหว่างวันที่ 6 – 9 ธันวาคม 2565 นี้

การสวนสนามทางเรือ นับเป็นพิธีสำคัญของทหารเรือ ที่ทำขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่บุคคลสำคัญของประเทศ หรือต่างประเทศตามวาระต่างๆ ที่ได้จัดขึ้น ถือต้นกำเนิดจากประเทศอังกฤษ 

โดยในห้วงเวลาอันใกล้นี้คือระหว่าง วันที่ 6 – 9 ธ.ค.65 ประเทศบังคลาเทศ ได้กำหนดจัดพิธีสวนสนามทางเรือนานาชาติขึ้น ณ เมือง Cox’s Bazar เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองปีที่ 50 ของการได้รับเอกราช นับว่าเป็นปีที่มีความน่ายินดีอย่างยิ่ง ทั้งนี้ ประเทศบังคลาเทศได้เชิญประเทศต่างๆ เข้าร่วมพิธีสวนสนามทางเรือในครั้งนี้ มากถึง 40 ประเทศ ด้วยกัน

ประเทศไทย ได้ส่งเรือหลวงประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นเรือรบที่ประเทศไทยได้ต่อขึ้นใช้งานเอง เข้าประจำการ เมื่อปี 2562 นับว่าเป็นเรือรบขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่ประเทศไทย เคยต่อใช้งาน และที่สำคัญเป็นเรือรบประเภท เรือตรวจการณ์ไกลฝั่งที่มีสมรรถนะสูง กว่าเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งทั่วไป นั่นคือมีการติดตั้งระบบอาวุธปล่อยนำวิธีพื้นสู่พื้น (Harpoon) ที่สามารถยิงโจมตีเป้าหมายได้โดยไม่ต้องเห็นด้วยสายตา และในการเดินทางไปร่วมสวนสนามทางเรือในครั้งนี้ เรือหลวงประจวบคีรีขันธ์ได้บรรทุกเฮลิคอปเตอร์ ไปแสดงศักยภาพของกองทัพเรือไทยด้วย 1 เครื่อง 

'ศจร.ตร.' ชมเชย ตำรวจจราจรตาไว สังเกต นศ.ช่างกล มีพิรุธ ขอตรวจ วิ่งหนี ไล่จับเจอปืนพร้อมยิง

“ศจร.ตร.” ชมเชย ตำรวจจราจรตาไว สังเกต นศ.ช่างกล มีพิรุธ ขอตรวจ วิ่งหนี ไล่จับเจอปืนพร้อมยิง อีกรายตำรวจจราจรช่วยหญิงเป็นลมคาพวงมาลัย อุ้มส่ง รพ. จนปลอดภัย

เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2565 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบช.น. ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานเสริมสร้างภาพลักษณ์ตำรวจจราจร ศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศจร.ตร.) เปิดเผยว่า พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. / ผอ.ศจร.ตร. และ พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร./ รอง ผอ.ศจร.ตร. ชมเชยการปฏิบัติหน้าที่ตำรวจจราจรของ ส.ต.ท.พงษ์พัฒน์ ลืออินต๊ะ ผบ.หมู่ งานป้องกันปราบปราม สน.ปทุมวัน (ช่วยงานจราจร) และ ส.ต.ท.ธนากุล สนธิกุล ผบ.หมู่ จร.สน.ปทุมวัน ที่มีไหวพริบช่างสังเกต เข้าตรวจสอบจับกุมนักศึกษาอาชีวะสถาบันแห่งหนึ่งได้พร้อมอาวุธปืน ถือว่าเป็นการกวดขัน เฝ้าระวังป้องกันก่อนนำไปก่อเหตุ และอีกราย ชมเชย พ.ต.ต.ยศพนธ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา สว.จร.สน.เพชรเกษม และ ร.ต.ต.วินัย นุชนาถ รองสว.จร.สน.เพชรเกษม เข้าให้การช่วยเหลือ หญิงวัย 57 ปี ที่เป็นลมขณะขับรถ

พล.ต.ต.นิธิธรฯ กล่าวว่า เหตุการณ์แรกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 พ.ย.65 เวลาประมาณ 08.00 น. ขณะที่ ส.ต.ท.พงษ์พัฒน์ฯ กำลังขี่รถจักรยานยนต์ตรวจตราความเรียบร้อยด้านการจราจร เมื่อมาถึงป้ายรถเมล์หน้าโอสถศาลา แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ พบนายเอ (นามสมมติ) สวมเครื่องแบบสถาบันการศึกษาแห่งหนึ่ง ยืนหลบอยู่หลังป้ายหยุดรถประจำทาง มีท่าทางพิรุธ จึงได้เข้าตรวจสอบ แต่นายเอกลับวิ่งหลบหนี ส.ต.ท.พงษ์พัฒน์ฯ จึงวิ่งติดตามไปจนสามารถควบคุมตัวไว้ได้พร้อมกับแจ้งวิทยุขอกำลังเสริมสนับสนุนเพื่อตรวจสอบ ตรวจค้นพบอาวุธปืน ขนาด .32 มม. อยู่ในซองปืน มีเครื่องกระสุนอยู่ในรังเพลิง 6 นัด สภาพพร้อมใช้ เหน็บอยู่ที่เอว สอบสวนนายเอรับว่าเป็นปืนของตัวเองที่สั่งซื้อมาทางออนไลน์ จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย 

 

“อีกราย เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.65 เวลาประมาณ 07.30 น. พ.ต.ต.ยศพนธ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา สว.จร.สน.เพชรเกษม และ ร.ต.ต.วินัย นุชนาถ รองสว.จร.สน.เพชรเกษม เข้าให้การช่วยเหลือ หญิง วัย 57 ปี ที่เกิดอาการเป็นลมหน้ามืดขณะขับรถ เหตุเกิดบริเวณโค้งวีเหลี่ยม ถนนเพชรเกษม แขวงหลักสอง เขตบางแค กทม. โดยตำรวจทั้ง 2 นายช่วยนำรถให้พ้นกีดขวางการจราจร และนำตัวผู้ป่วยขึ้นรถแท็กซี่เพื่อนำตัวส่งโรงพยาบาล ช่วยเหลือจนอาการปลอดภัย” พล.ต.ต.นิธิธรฯ กล่าว 

สมุทรปราการ-ชาวบ้านกว่า 300 คน คัดค้านการก่อสร้างสนามบินส่วนบุคคล หวั่น ผลกระทบและความเป็นอยู่ของชุมชน

ที่ภายในห้องประชุม ชั้น 4 โรงแรมเบย์ ถนนศรีนครินทร์ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ กลุ่มพี่น้องประชาชนและตัวแทนชุมชนจากหมู่บ้านต่างๆ รวมถึงตัวแทนจากโรงเรียนนานาชาติ ไทย-สิงคโปร์ จำนวนกว่า 300 คน เดินทางมารับฟังความคิดเห็นในการก่อสร้าง “โครงการจัดตั้งสนามบินส่วนบุคคล” 

โดย ภายในที่ประชุมประชาชนและตัวแทนชุมชนที่เดินทางมาร่วมรับฟังความคิดเห็น ต่างไม่เห็นด้วยในการก่อสร้างโครงการสนามบินส่วนบุคคล พร้อมทั้ง ได้ยื่นคัดค้านในการก่อสร้างสนามบินส่วนบุคคลที่กำลังจะดำเนินการก่อสร้างขึ้นภายในด้านหลังหมู่บ้านของประชาชน โดยประชาชนอ้างว่าสถานที่ที่จะก่อสร้างสนามบินนั้น อยู่ใจกลางระหว่างชุมชนและมีหมู่บ้านจัดสรรขนาดใหญ่อยู่ล้อมรอบ มีประชาชนพักอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก รวมถึงมีสถานศึกษา อีกทั้ง เกรงว่าอาจจะส่งผลกระทบในเรื่องของเสียงและรบกวนความเป็นอยู่ของชุมชนและจะสร้างปัญหาความเดือดร้อนแก่ประชาชนที่พักอาศัยอยู่โดยรอบในระยะยาว

จากการสอบถาม นายยุทธนา วิญญูพงศ์พันธ์ คณะกรรมการหมู่บ้าน รอยัลปาล์ม และเป็นตัวแทนหมู่บ้าน กล่าวว่า สถานที่ดังกล่าวที่จะเตรียมดำเนินการก่อสร้างเป็นสนามบินส่วนบุคคลนั้น ทราบว่าเป็นของนักธุรกิจรายใหญ่รายหนึ่ง เนื่องจากตนเองนั้นได้อาศัยอยู่ภายในหมู่บ้านรอยัลปาล์ม ภายในซอยศรีด่าน 20 ถนนศรีนครินทร์ ตำบลบางแก้ว อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ และเป็นผู้ที่จะได้รับผลกระทบหากโครงการก่อสร้างสนามบินดังกล่าว ได้รับการอนุมัติและยินยอมให้ดำเนินการก่อสร้าง โดยในวันนี้มีประชาชนและตัวแทนจากชุมชนต่างๆ รวมถึงตัวแทนจากสถานศึกษาโรงเรียนนานาชาติ ไทย-สิงคโปร์ จำนวนกว่า 300 คน เดินทางมายื่นคัดค้านและไม่เห็นด้วยในการก่อสร้างสนามบินส่วนบุคคลขึ้นบริเวณด้านหลังหมู่บ้านของตน เนื่องจากสถานที่ในการก่อสร้างสนามบินส่วนบุคคลนั้น อยู่ระหว่างใจกลางชุมชนและมีบ้านเรือนพี่น้องประชาชนพักอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก จำนวนกว่า 10 หมู่บ้าน ด้วยกัน อาทิ หมู่บ้านลัดดาวัลย์ หมู่บ้านศิรินทร์เทพ หมู่บ้านรอยัลปาล์ม และบริเวณด้านหน้ายังเป็นที่ตั้งสถานศึกษา คือ โรงเรียนนานาชาติ ไทย-สิงคโปร์ อีกด้วย

ประกอบกับ การประชุมรับฟังความคิดเห็นในการก่อสร้างสนามบินส่วนบุคคลในวันนี้ ไม่มีเจ้าของโครงการ ไม่มีหน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและไม่มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมถึงหน่วยงานภาครัฐเข้าร่วมรับฟังการประชุมแต่อย่างใด มีเพียงวิทยากรซึ่งเป็นตัวแทนของทางโครงการก่อสร้างสนามบินเท่านั้น 

โดยทางด้านตัวแทนชุมชน ยังกล่าวต่ออีกว่า ประชาชนส่วนใหญ่ยังคงรู้สึกแปลกใจในการก่อสร้างโครงการสนามบินส่วนบุคคลในครั้งนี้ เนื่องจาก เป็นแหล่งชุมชนและมีบ้านเรือนพี่น้องประชาชนพักอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ประกอบกับ ที่ผ่านมาไม่เคยพบว่ามีการอนุญาตก่อสร้างสนามบินขึ้นภายในแหล่งชุมชน อีกทั้ง สถานที่ในการก่อสร้างโครงการสนามบินส่วนบุคคลนั้น ล้อมรอบไปด้วยบ้านเรือนพี่น้องประชาชนและหมู่บ้านจัดสรรหลายหมู่บ้านด้วยกัน 

ขณะเดียวกัน สถานที่ดังกล่าวที่จะดำเนินการก่อสร้างโครงการสนามบินส่วนบุคคล ซึ่งเป็นพื้นที่กว้างประมาณ 2 ไร่ อยู่ติดกับหมู่บ้านจัดสรรขนาดใหญ่และไม่มีทางเข้าออกเนื่องจากมีหมู่บ้านจัดสรรล้อมรอบบริเวณสถานที่แห่งนี้ไว้ โดยทางตัวแทนประชาชนยังตั้งข้อสังเกตอีกว่า หากโครงการก่อสร้างสนามบินส่วนบุคคลได้รับการอนุมัติในการก่อสร้างสนามบินส่วนบุคคลจะใช้เส้นทางไหนในการสัญจรเพื่อ เข้า-ออก หรืออาจจะทำการทุบกำแพงหมู่บ้านเพื่อเชื่อมต่อเส้นทาง เข้า-ออก ระหว่างหมู่บ้านกับโครงการสนามบิน ซึ่งปัญหาดังกล่าวสร้างความอึดอัดใจเป็นอย่างมากกับพี่น้องประชาชน 

อีกทั้ง ทางเจ้าของโครงการก็ไม่ได้มีการพูดคุยหรือมาอธิบายชี้แจงเหตุผลในการก่อสร้างสนามบินกับทางพี่น้องประชาชนแต่อย่างใด จึงทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ตั้งข้อสังเกตถึงความไม่ชอบมาพากลและความไม่โปร่งใสในการก่อสร้างสนามบิน ในขณะเดียวกันพื้นที่ดังกล่าวมีรถแม็คโครกำลังดำเนินการปรับปรุงพื้นผิวสถานที่ดังกล่าวอยู่ โดยคาดว่าอาจจะเตรียมก่อสร้างโครงการสนามบินขึ้นในเร็วๆ นี้

ยะลา-เบตง แม่ทัพภาค 4 ตรวจเยี่ยมกำลังพล

เบตง แม่ทัพภาค 4 ตรวจเยี่ยมกำลังพลในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา พร้อมขอบคุณเจ้าหน้าที่ ที่ได้ช่วยกันปฏิบัติหน้าที่ด้วยความ เสียสละ เข้มแข็ง ในการรักษาความสงบเรียบร้อย

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 3 ธ.ค.65 พลโทศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่4 พร้อมคณะได้เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์มาที่สนาม ฮ กองร้อย ตชด.445 ต.เบตง อ.เบตง จ.ยะลา เพื่อตรวจเยี่ยมกำลังพล ที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนด้านอำเภอเบตง ซึ่งติดกับประเทศมาเลเซีย เพื่อสร้างขวัญกำลังใจแก่กำลังพล โดยมีนายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเบตง พ.ต.อ.เอกชัย พราหมณกุล ผู้กำกับการ สภ.เบตง พ.ต.ท.จาริพัฒน์ ทองแดง ผบ.ฉก.ตชด.44 พ.ต.ท.อรรถพล จินตาคม ผบ.ร้อย ตชด.445 เจ้าหน้าที่ ตชด.445 ให้การต้อนรับ

พลโทศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่4 กล่าวว่า ในวันนี้ดีใจ ที่ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมเจ้าหน้าที่ ที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่อำเภอเบตง นำความห่วงใย กำลังใจ สิ่งของ มามอบให้กับเจ้าหน้าที่กำลังพลทุกนาย ที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง เสียสละ สร้างความสงบสุขให้กับประเทศชาติและพี่น้องประชาชนมาโดยตลอด ต้องขอขอบคุณมากที่ช่วยกันดูแลบ้านเมือง และเนื่องในเทศกาลปีใหม่ 2566 ที่ใกล้จะมาถึงนี้ ขออวยพรปีใหม่ ให้กำลังพล เจ้าหน้าที่ทุกนาย ประสบพบเจอแต่ความสุข แคล้วคลาดปลอดภัยจากภัยอันตรายต่างๆ แม้จะเป็นช่วงเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลอง แต่กำลังเจ้าหน้าที่ไม่เคยหยุดพักที่จะทำหน้าที่รักษาความมั่นคงปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชน กำลังใจจากผู้บังคับบัญชาจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อขวัญ กำลังใจ ในการปฏิบัติงานต่อไป

สถาบันดนตรี เมโลดี้พลัส School of dance and Music จัดงาน 'Unplugged Concert ep.2'

โรงเรียนดนตรี เมโลดี้พลัส จัดกิจกรรมแสดงทักษะทางดนตรีของนักเรียน เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแสดงออกต่อสาธารณะชน และส่งเสริมประสบการณ์ที่ดีของนักเรียน ทั้งประเภทเดี่ยวและประเภทกลุ่ม กำหนดจัดงาน “Unplugged Concert ep.2” ในวันเสาร์ที่ 3 ธันวาคม 2556 ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร โดยมี คุณนันทรัตน์ โมนฤมิตร เจ้าของและครูใหญ่ประจำโรงเรียนดนตรีเมโลดี้พลัส เป็นประธานจัดงานในครั้งนี้  

คุณฟ้า นันทรัตน์ โมนฤมิตร เล่าว่า “สถาบันดนตรี เมโลดี้พลัสครบรอบ 18 ปีแล้ว ที่ผ่านมา เรามีส่วนในการสร้างนักดนตรีที่มีคุณภาพมากมาย และการจัดงาน “Unplugged Concert ep.2” ในครั้งนี้ เป็นการโชว์ความสามารถของนักเรียนมีการแสดง เปียโน กีต้าร์ ร้องเพลง ไวโอลิน กลอง HipHop และBallet ค่ะ

โรงเรียนดนตรีเมโลดี้พลัส เป็นโรงเรียนสอนดนตรีรูปแบบใหม่ สำหรับผู้มีใจรักในเสียงดนตรีที่สนใจเข้ามาเรียนรู้และหาประสบการณ์วิชาดนตรี โดยเน้นสอนอย่างละเอียดครบถ้วน และให้นักเรียนมีความสุข สนุกสนาน เพลิดเพลินควบคู่กันไปกับการเรียน ขณะเดียวกัน คำนึงถึงความเป็นมืออาชีพ ทางโรงเรียนได้นำหลักสูตร Alfred จากประเทศ สหรัฐอเมริกามาใช้ ซึ่งหลักสูตร Alfred เป็นหลักสูตรที่ได้รับความนิยมแพร่หลายทั้งในสหรัฐอเมริกา และในภูมิภาคเอเชียซึ่งอยู่ในระดับมาตรฐานสากล ตลอดจนหลักสูตรของสถาบันดนตรี ยังได้รับการรับรองจาก กระทรวงศึกษาธิการ โรงเรียนดนตรี เมโลดี้พลัสเป็นสถาบันสอนดนตรีที่ได้รับ Trinity Awards มากที่สุดในประเทศไทย เราสนับสนุนส่งเสริมความรู้ความสามารถให้ครูทุกคนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดประสิทธิผลสูงสุดในการจัดการเรียนการสอน ตลอดจนความเข้มข้นของเนื้อหาของหลักสูตร ที่ทางโรงเรียนต้องการมอบประโยชน์สูงสุดให้นักเรียนค่ะ

ดนตรี สามารถพัฒนา สมอง ร่างกาย อารมณ์ สังคมให้มีความพร้อมในการแก้ปัญหาต่างๆ ได้เร็วขึ้น มีงานวิจัยมากมายเกี่ยวกับเด็กที่เรียนดนตรี จะสามารถแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน ได้ดีกว่าเด็กที่ไม่ได้เรียนดนตรี ทางโรงเรียนยังแบ่งกลุ่มหลักๆ ของผู้ที่เข้ามาเรียนเป็น 3 กลุ่มใหญ่ คือ เด็กเล็ก วัยรุ่น และผู้ใหญ่ ทางโรงเรียนจะสรรหาสิ่งดีๆ และมีคุณภาพให้ดียิ่งขึ้นไป ฟ้าไม่เคยหยุดที่จะพัฒนาโรงเรียนเมโลดี้พลัสให้แข็งแกร่งขึ้นไปเรื่อยๆ อีกมุมหนึ่งฟ้าเองจะสอนในนักเรียนเห็นความสำคัญในเรื่องการช่วยเหลือสังคม เพราะสิ่งนี้จะทำให้เด็กอ่อนโยนและเป็นส่วนหนึ่งที่สร้างสังคมให้เกิดความเข็มแข็ง ตอนนี้เราก็ร่วมช่วยเหลือองค์กรต่างๆ เพื่อการกุศลอยู่หลายแห่ง” ครูฟ้าเล่าถึงธุรกิจอย่างมืออาชีพด้วยความอบอุ่นและอ่อนโยน

ชาวอังกฤษ 85% อาการหนัก หลังรัฐยังหนุนยูเครนไม่เลิก ‘ค่าครองชีพพุ่ง-เริ่มกินอาหารสัตว์เลี้ยง-เทียนไขทำอาหาร’

(4 ธ.ค. 65) World Update เผยว่า ภายหลังรัฐบาลสหราชอาณาจักร เดินตามแนวทางของสหรัฐฯ ร่วมคว่ำบาตรพลังงานราคาถูกจากรัสเซีย...ผ่านมา 9 เดือน ผลปรากฏเศรษฐกิจเละ เปลี่ยนนายกรัฐมนตรีมาแล้ว 3 คนพร้อมคณะรัฐมนตรีอีก 300 ตำแหน่ง (ครม.อังกฤษมี 100 ตำแหน่ง/ชุด)

อัตราเงินเฟ้อทะยานอวกาศเป็น 11.1% เศรษฐกิจตกต่ำที่สุดในรอบ 41 ปี เกิดม็อบสหภาพแรงงานต่าง ๆ นัดหยุดงานประท้วงไม่เว้นแต่ละวัน เมืองใหญ่คราคร่ำไปด้วยม็อบเผาบิลค่าไฟฟ้าที่แพงจัดจนจ่ายไม่ไหว กลายเป็นฝันร้ายสำหรับคนนับล้าน

มีการคาดว่าอัตราเงินเฟ้ออังกฤษแท้จริงคือ 13.8% ไปแล้วแต่เมื่อรัฐบาล เยียวยาบางส่วนจึงอยู่ที่ 11.1% ส่งผลให้ลักลั่นกับค่าครองชีพที่ทะยานโด่งลิ่วไปก่อน

แต่ถึงกระนั้นนายกรัฐมนตรี ริชี ซูแน็ก แห่งอังกฤษ ก็ยังคงสานต่อนโยบายรัฐบาลชุดเดิม คือ คว่ำบาตรพลังงานราคาถูกรัสเซีย น้ำเข้าราคาแพงจากสหรัฐฯ และเป็นปฏิปักษ์จีน ด้วยการประกาศว่าความสัมพันธ์ยุคทองระหว่างอังกฤษกับจีนได้จบลงแล้ว เนื่องจากจีนมีบทบาทสำคัญในเวทีโลกล้ำหน้าอังกฤษเกินไป

นอกจากนี้อังกฤษ ยังคงยื้อความขัดแย้งสงครามในยูเครนต่อไป เดือน ก.ย.ที่ผ่านมา เป็นผู้ให้เงินช่วยเหลือ (เงินกู้) ค่าอาวุธรายใหญ่อันดับ 2 ของยูเครน รองจากสหรัฐฯ มูลค่า 2,300 ล้านปอนด์ (99,568 ล้านบาท)

ขณะที่ปัจจัยค่าพลังงานแพง ซ้ำเติมด้วยเงินคลังไหลออกติดหล่มสงครามที่ไม่รู้จะได้เงินคืนเมื่อใด ยิ่งซ้ำเติมให้เงินหมุนเวียนภายในชาติหดหายลงไปอีก 

ทั้งนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ ได้ประเมินว่าครัวเรือนต้องจ่ายค่าเครื่องทำความร้อนและแสงสว่างสูงกว่าปีที่แล้วถึง 88.9% 

และภายในสิ้นปีนี้ จะมีค่าใช้จ่ายในซูเปอร์มาร์เก็ตเฉลี่ย 4,960 ปอนด์/ครอบครัว ซึ่งมากกว่าปีก่อนถึง 380 ปอนด์

โพลสำรวจความคิดเห็นยังระบุอึกว่า ชาวอังกฤษมากถึง 85% หรือเกือบทั้งประเทศ วิตกกังวลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นในชีวิตความเป็นอยู่ 

ชาวอังกฤษทั่วประเทศต่างวิตกกังวลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในช่วงคริสต์มาสปีนี้ และมีการขาดแคลนไก่งวงและนกในฤดูหนาว อาหารค่ำวันคริสต์มาสกลายเป็นภาระที่น่าเป็นห่วงสำหรับครอบครัวชาวอังกฤษจำนวนมาก

โพลระบุอีกว่า 20% ของครอบครัวในอังกฤษ จะขอให้แขกมาบ้านช่วยจ่ายค่าอาหารค่ำวันคริสต์มาส รวมถึงวางแผนที่จะใช้จ่ายของขวัญในปีนี้น้อยลงมากกว่า 36.3% และไม่สามารถจ่ายเงินฟุ่มเฟือยได้เหมือนที่ผ่านมา 33%

หากย้อนไปในเดือนที่ผ่านมา ราคาวัตถุดิบในครัวเรือน เช่น นม, เนย, ชีส, เนื้อ และขนมปัง เพิ่มขึ้นสูงถึง 42% ทำให้ชาวอังกฤษต้องพึ่งพาธนาคารอาหารบริจาคมากขึ้นกว่าเดิม

จากค่าใช้จ่ายด้านพลังงานแพง และอาหาร ที่พุ่งสูงขึ้นเป็นสาเหตุหลักของภาระค่าครองชีพที่สูงเป็นประวัติการณ์ ชาวอังกฤษกำลังดิ้นรนอย่างสุดชีวิตเพื่อเอาตัวรอด ผลกระทบต่อหลายพื้นที่ของเวลส์อย่างหนัก 

ชาวเวลล์บางส่วนไม่ได้รับค่าจ้างมากพอที่จะซื้อสิ่งจำเป็นต่าง ๆ ส่งผลให้เกิดวิกฤตค่าครองชีพที่ไม่สามารถจ่ายไหว ต้องใช้ชีวิตมาตรฐานระดับต่ำสุดเพื่อเลี้ยงครอบครัว

ชุมชนที่ยากไร้มากที่สุด 6 แห่งของเวลส์อยู่ในเมืองคาร์ดิฟฟ์ ครอบครัวจำนวนมากขาดสิ่งจำเป็นพื้นฐานปัจจัย 4 ในการดำรงชีพ คือ 'อาหาร'

‘ใบเฟิร์น’ ไฟเขียว ‘นาย ณภัทร’ สานสัมพันธ์ ขอค่อยๆ เรียนรู้ ‘อย่างเรียบง่าย’ ที่สุด

หลังจากที่พระเอกหนุ่ม ‘นาย-ณภัทร เสียงสมบุญ’ ออกมายืดอกสารภาพว่า ชอบสาว ‘ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์’ เป็นการเริ่มต้นสิ้นสุดทางเพื่อนแบบชัดเจน ทำเอาแฟน ๆ ร่วมลุ้นร่วมเชียร์กันทั้งบ้านทั้งเมือง พร้อมกับรอลุ้นคำตอบจากฝ่ายหญิงว่า งานนี้จะเป็นอย่างไร

ล่าสุด ก็ถึงวันที่ทุกคนรอคอย สาวใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ที่บูธ NISSAN ในงาน MOTOR EXPO 2022 ซึ่งเจ้าตัวก็ตอบชัดในประเด็นดังกล่าวที่ทุกคนจับตาอยู่ ด้วยอาการเขิน ๆ ว่า…

“ความสัมพันธ์ดีหลายปีมาก แค่หลัง ๆ ได้คุยกันมากขึ้นเป็นพิเศษ ก็เพิ่งรู้ตอนเขามาเล่าให้ฟังว่า ไปปรึกษาพี่หนุ่ม กรรชัย ตอนนั้นพอเขาพูดอะไรมา ได้คุยหลาย ๆ อย่าง มันก็เป็นไปในทิศทางที่ดี แลกเปลี่ยนความคิดเห็น จริง ๆ ก็ต้องขอบคุณพี่หนุ่มด้วย ไม่งั้นคงไม่มีคนมาสารภาพ”

“ส่วนที่เขาไม่อยากเสียเราไป ก็เป็นความรู้สึกดี เป็นความรู้สึกที่พิเศษ เราก็รู้สึกพิเศษหลังเขาโทรฯ มาและได้คุยกัน ตอนนั้นก็ตกใจ ไม่รู้ทำไมหัวเราะไปก่อน ก็ใกล้เคียงเขิน ถามว่ารับรักเขาไหม อันนี้ขอไปบอกเขาเองดีกว่าค่ะ อยากให้ได้ยินจากปาก ถามว่าเปิดใจมั้ย (พยักหน้า) เขาเป็นคนน่ารัก เป็นคนดี ไม่เคยน่ารักกับหนู เขาน่ารักกับเพื่อนหนูมาตลอด…”

“ก็อบอุ่นทุกครั้งที่อยู่กับแม่ ได้คุยกับแม่ แต่แม่ว่าไงไม่บอกหรอก เป็นอีกก้าว ขอให้ค่อย ๆ เรียนรู้กันไป เป็นธรรมชาติ และธรรมดาที่สุด เป็นจังหวะเวลาที่เหมาะสม นายเขาออกมาพูด แสดงว่าเขาคิดมาดีแล้ว กระชุ่มกระชวยไหม ก็เป็นเรื่องที่ดี ส่วนตัวก็ไม่ใช่เรื่องที่กดดันหรือน่ากลัว สิ่งที่เรามีเป็นพื้นฐานคือความหวังดี มันคือความสบายใจของเราสองคน ก็เป็นช่วงเริ่มต้นขยับออกจากเฟรนด์โซน…”

“ไม่กดดันเลย หลายคนก็คงเห็น มีทั้งคนที่คอยเชียร์และเป็นห่วง เฟิร์นไม่ได้มองว่าเป็นเรื่องกดดัน เฟิร์นมองเป็นเรื่องน่ารัก และเรื่องที่ดีมาก ๆ ส่วนจะจบเหมือนในหนังไหม เฟิร์นอยากค่อย ๆ รู้จักเขาไป นี่เพิ่งก้าวแรกที่พัฒนา อยากให้ค่อยเป็นค่อยไป เรียบง่ายและธรรมดามาก ๆ”


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top