Saturday, 17 May 2025
NewsFeed

หาเสียงแนวใหม่ ! ‘กรณ์’ - ‘สราวุฒิ’ ลงพื้นที่สำรวจแหล่งท่องเที่ยว เขต 3 นครศรีธรรมราช ล่องแพยาง - บอร์ดยืนพาย โชว์การท่องเที่ยวทางน้ำ เป็นของดีอันใหม่ แพ็คทีมผู้บริหารพรรค เดินสายพบประชาชนหลายพื้นที่ ย้ำความพร้อมลงมือทำทันที

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้งซ่อมเขต 3 จังหวัดนครศรีธรรมราช ตลอดหลายวันที่ผ่านมา เป็นไปอย่างคึกคัก ผู้สมัครหมายเลข 1 นายสราวุฒิ สุวรรณรัตน์ จากพรรคกล้า ลงพื้นที่หาเสียงพบปะประชาชนต่อเนื่อง ผู้บริหารพรรคทั้งนายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรค , นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรค , และรองหัวหน้าพรรค นายวรวุฒิ อุ่นใจ , นายพงศ์พรหม ยามะรัตน์ , นายภิมุข สิมะโรจน์ ที่ปรึกษาพรรค พร้อมทีมงานกล้าอาสา ที่เคยลงพื้นที่ช่วยชาวนครศรีธรรมราชเมื่อครั้งประสบอุทกภัย พบปะพูดคุยกับ ชาวบ้าน ได้รับการสะท้อนปัญหาน้ำประปาไม่ทั่วถึงหลายพื้นที่ใน อ.พระพรหม รวมถึงปัญหาที่ดินทับซ้อนในพื้นที่ใน อ.เฉลิมพระเกียรติ นอกจากนี้พรรคกล้ายังได้เข้าไปช่วยวางแผนเติมเงินในกระเป๋าให้ชาวบ้าน ด้วยการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์กระจูด ที่ อ.ชะอวด และเตรียมผลักดันเป็นเมืองท่องเที่ยวอันซีนของประเทศไทยอีกด้วย

นายกรณ์ ได้โพสต์เฟซบุคส่วนตัว พร้อมยก อ.ชะอวด เป็น Hidden Gem มีของดีซ่อนอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นทุ่งกระจูดที่พรุควนเคร็ง สามารถนำกระจูดมาจักสานเป็นผลิตภัณฑ์จากภูมิปัญญาท้องถิ่น แหล่งท่องเที่ยวริมน้ำที่สวยงาม สะพานโค้ง 100 ปี , บ้านวังหอน , นบบัวแก้ว ทุ่งนาใต้ , หนานเรือหนานครก หรือที่คลองห้วยแหยง

นายกรณ์ บอกว่า รักการท่องเที่ยวทาง “น้ำ” มาตั้งแต่เด็ก สมัยเรียนมหาวิทยาลัยเป็นนักกีฬาพายเรือ ทำให้ทุกครั้งที่มาชะอวด ต้องไปท่องเที่ยววิถีริมน้ำในทุกครั้งที่มีโอกาส ชะอวดมีของดีอยู่แล้ว หากเติมความคิดสร้างสรรค์เข้าไป มันจะกลายเป็นความสดใหม่ ที่สร้างโอกาสให้กับคนชะอวด และนครศรีธรรมราชได้อีกมาก ยิ่งยุคนี้เป็นยุคโซเชียลมีเดีย มีเพจท่องเที่ยว มีบล็อคเกอร์มากมาย นอกจากมีแหล่งท่องเที่ยวสวยๆแล้ว การมีรูปเก๋ๆ ไว้โพสต์ก็ทำให้เกิดการแชร์ไปในวงกว้าง สร้างโอกาสในแหล่งท่องเที่ยวได้อีกด้วย

หัวหน้าพรรคกล้า ยังได้ชวนลูกสาว (กานต์ จาติกวณิช) และนายสราวุฒิ สุวรรณรัตน์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม เบอร์ 1 มาช่วยกันใส่ไอเดียให้กับแหล่งท่องเที่ยว นำแพยางน่ารักสดใส ลอยน้ำเล่นกันที่คลองห้วยแหยง นอกจากได้รูปสวยๆ แล้วยังมีเด็กๆและชาวบ้านแถวนั้นให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก และเอาบอร์ดยืนพาย (Stand Up Paddle board) ไปลองแม่น้ำปากพนัง ใต้สะพานโค้งรถไฟ 100 ปี ผสมผสานวิถีชุมชนกับของอินเทรนด์ ทำให้ชะอวดมีสีสันขึ้นได้ ผู้คนจะมาท่องเที่ยวกันมากขึ้น ทำให้รู้ว่านอกจากไอไข่แล้ว นครศรีธรรมราชยังมีของดีอีกหลายอย่าง

‘ธรรมนัส’ สั่งยุติโครงการเมืองต้นแบบอุตสาหกรรม ‘จะนะ’ เสียดาย ครม.เห็นชอบกับแผนงาน แต่ต้องให้ ศอ.บต. และ สศช. ศึกษาโครงการร่วมกัน โอดในความจริง สศช. ไม่ได้มีส่วนร่วมอะไรเลย

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดำเนินการขยายผลเมืองต้นแบบ สามเหลี่ยม มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ไปสู่เมืองต้นแบบ 4 อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา เมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต ว่า

“ที่ประชุมเห็นชอบให้ยุติโครงการเป็นการยุติชั่วคราว เพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น โดยขั้นตอนจากนี้ จะรายงาน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมทำหนังสือถึงศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ด้วย

“ปัจจัยหลักที่พิจารณาให้ยุติโครงการนี้ คือ ครม.เห็นชอบกับแผนงาน แต่ครม.มีเงื่อนไขว่าต้องให้ ศอ.บต.และสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช. ศึกษาโครงการร่วมกัน แต่ สศช.ไม่ได้มีส่วนร่วมอะไรเลย ศอ.บต.ทำแต่เพียงลำพัง จึงเดือดร้อนมาจนถึงวันนี้ ทั้งนี้ที่ผ่านมาได้ตั้งคณะอนุกรรมการ 2 คณะ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องของระเบียบและข้อกฎหมาย และอีกคณะเป็นการพิจารณาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและวิถีชีวิตของประชาชน ซึ่งที่ผ่านมาได้ข้อสรุปแล้วว่า ทำผิดมติคณะรัฐมนตรี” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว

กรมการค้าภายใน ชี้ราคาน้ำมันปาล์มปรับขึ้นจริง แต่เชื่อมีนาคมนี้เริ่มปรับราคาลง หลังผลปาล์มฤดูใหม่ทยอยออกทำให้มีผลผลิตเพียงพอ

นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยถึงกรณีปัญหาน้ำมันปาล์มบรรจุขวดราคาแพงและขาดแคลน ว่า ในเดือน มี.ค.64 คาดว่า สถานการณ์น้ำมันปาล์มจะเริ่มคลี่คลายกลับสู่ภาวะปกติ โดยผลผลิตปาล์มจะทยอยออกสู่ตลาดอีกครั้ง ดังนั้นในช่วงนี้ขอให้ผู้บริโภคใช้น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันลำข้าวไปก่อน

ส่วนราคาการขายในตอนนี้ พบว่ามีราคาปรับขึ้นจริง แต่ยืนยันว่ายังไม่มีปัญหาการขาดแคลน โดยบางพื้นที่มีการจำกัดการซื้อ ก็เพื่อต้องการกระจายสินค้าให้ทั่วถึง โดยในกรณีที่น้ำมันปาล์มขวด ตามร้านโชห่วย ร้านค้าในตลาดสดขายขึ้นเป็นขวด 60 บาท กรมฯ ได้ขอความร่วมมือสมาคมตลาดสดไทยดูแลไม่ให้มีการปรับขึ้นราคาเกินจริงจนทำให้ชาวบ้านเดือนร้อน

นายวัฒนศักย์ กล่าวว่า น้ำมันปาล์มแพงเป็นปัญหาระยะสั้น ๆ และหลังจากนี้น่าจะเริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น อยากขอให้ชาวบ้านช่วยเห็นใจแก่เกษตรกรบ้าง เพราะที่ผ่านมาราคาผลปาล์มสดตกต่ำมานาน และเพิ่งกลับมีราคาสูงขึ้นช่วงนี้ จึงขอโอกาสให้เกษตรกรได้ขายผลปาล์มราคาดีบ้าง เพราะในเดือนมีนาคม เมื่อผลปาล์มฤดูใหม่ทยอยออกมา น่าจะทำให้มีผลผลิตเพียงพอ และทำให้ราคาปาล์มขวดลดลง

เมื่อวันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ชาวพม่ามีนัดชุมนุมครั้งประวัติศาสตร์ ที่เรียกว่าวันลุกฮือ ‘22222 uprising’ (จากตัวเลขวันที่ 22/2/2021) ที่จะเป็นการนัดหยุดงานร่วมเดินขบวนประท้วงต่อต้านการรัฐประหารของทัพพม่าครั้งใหญ่ที่สุด

การนัดชุมนุมครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่มีข่าวยืนยันการเสียชีวิตของ ‘มยา ตะเวง ตะเวง คาย’ หญิงสาวพม่า หนึ่งในผู้ชุมนุมที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการถูกกระสุนปืนจริงที่ศีรษะเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ตามมาด้วยการสลายการชุมนุมด้วยกระสุนจริงโดยเจ้าหน้าที่ในเมืองมัณฑะเลย์ เมื่อวันเสาร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 2 ราย และบาดเจ็บกว่า 30 คน

และในวันนี้ ชาวพม่าจึงพร้อมใจกันนัดหยุดงานทั่วประเทศ เพื่อเข้าร่วมชุมนุมตั้งแต่ช่วงเช้า โดยเฉพาะในย่างกุ้ง มัณฑะเลย์ และกรุงเนปิดอว์ ที่มีผู้มาร่วมชุมนุมกันมากมายมหาศาลมากกว่าแสนคน เนืองแน่นเต็มท้องถนน ซึ่งชาวเน็ตในพม่าต่างออกมารายงานสถานการณ์ในแต่ละเมือง และพบว่ามีการนัดเดินขบวนประท้วงร่วมกันเกือบทุกเมืองแล้วทั่วประเทศ

บริษัท ห้าง และร้านค้าหลายแห่ง ก็หยุดทำการในวันนี้ อาทิเช่น KFC และ บริษัทขนส่ง Food Panda ที่อนุญาตให้พนักงานเข้าร่วมชุมนุมเพื่อแสดงจุดยืนสนับสนุนชาวพม่าในการเรียกร้องประชาธิปไตย ส่วนธนาคาร โรงพยาบาล สถานที่ราชการยังคงเปิดทำการ แต่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่ออกไปร่วมชุมนุมได้ แต่ให้จัดสรรบุคลากรอย่างเหมาะสม เพื่อยังคงเปิดให้บริการขั้นพื้นฐานแก่ประชาชนทั่วไปได้

ถึงแม้ว่ารัฐบาลทหารได้ออกคำสั่งว่าการนัดหยุดงานเพื่อเข้าร่วมชุมนุม หรือเป็นสัญลักษณ์ของการอารยะขัดขืนเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย ซึ่งจะมีการจับกุมและลงโทษตามกฎหมาย แต่บริษัทข้ามชาติยักษ์ใหญ่ 12 แห่งในพม่าได้ออกแถลงการณ์ สนับสนุนพนักงานชาวพม่าหากต้องการจะหยุดงานเพื่อร่วมชุมนุมตามหลักสิทธิเสรีภาพ

ซึ่งบริษัทยักษ์ใหญ่ทั้ง 12 แห่งได้แก่ บริษัท เบียร์ คาร์ลสเบิร์ก และ ไฮเนเกน, เนสท์เล่, โคคา-โคลา, บริษัทผลิตเสื้อผ้า H&M, บริษัทเทเลคอม Telenor และ Ooredoo, บริษัทน้ำมัน Unocal, Total และ Woodside, บริษัทขนส่ง Maersk และบริษัทผลิตอุปกรณ์สื่อสารอย่าง Ericsson ซึ่งได้เข้ามาลงทุนและจ้างแรงงานพม่ารวมกันมากกว่า 100,000 คน

โดยทางกลุ่มบริษัทข้ามชาติเหล่านี้ เน้นย้ำว่ายังต้องการที่จะทำธุรกิจในพม่า แต่ทั้งนี้ต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของหลักสิทธิมนุษยชนสากล ที่เน้นความสำคัญของการแสดงออกตามแนวทางประชาธิปไตย และเรียกร้องให้รัฐบาลพม่าแก้ไขสถานการณ์ในประเทศโดยเร็วที่สุด ให้สอดคล้องกับเจตนารมย์ของประชาชนชาวพม่า

และชาวพม่าก็หวังว่าการลุกฮือ 22222 ในวันนี้อาจเป็นจุดเปลี่ยนหน้าสำคัญในประวัติศาสตร์ของพม่า แต่ทั้งนี้การจับกุมแกนนำกลุ่มผู้ประท้วงยังคงมีอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้จับกุมกลุ่มต่อต้านไปแล้วถึง 640 คน และตัดสัญญาอินเตอร์เน็ตติดต่อกันเป็นวันที่ 8 ส่วนประสิทธิภาพของสัญญาณโดยรวมลดลงเหลือเพียง 13% ของระดับการใช้งานปกติ แต่ก็ยังไม่อาจยับยังการนัดชุมนุมของหนุ่ม-สาว ชาวพม่าจากทั่วประเทศได้


อ้างอิง:

https://www.aljazeera.com/news/2021/2/22/myanmar-new

https://www.mmtimes.com/news/least-two-more-dead-tensions-escalate-myanmar.html

https://www.straitstimes.com/asia/se-asia/myanmar-protesters-plan-even-bigger-rallies-after-deadly-clashes

นพ.ยง ภู่วรวรรณ เผยเหตุไม่ฉีดวัคซีนโควิดให้ผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปี และเด็กต่ำกว่าอายุ 18 ปี เหตุมีความเสี่ยงสูง ขณะที่ข้อมูลผลข้างเคียงยังมีไม่มากพอ แต่ในอนาคตอันใกล้ได้ฉีดทุกคนแน่

วันนี้ (23 ก.พ.) ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความเกี่ยวกับสถานการณ์ “วัคซีนโควิด-19” ถึงเหตุผล ทำไมวัคซีน Sinovac ฉีดให้กับผู้มีอายุ 18 - 59 ปี ว่า จากการขึ้นทะเบียนในประเทศไทย ข้อมูลของวัคซีน Sinovac ยังมีข้อมูลการฉีดวัคซีนในผู้ที่อายุเกิน 60 ปี มีจำนวนน้อย

จากการศึกษาในระยะที่ 1 ถึงระยะที่ 3 มีผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปี อยู่เกือบร้อยละ 4

ดังนั้น ทางคณะกรรมการ จึงอนุญาตให้ฉีดในภาวะฉุกเฉิน กับผู้ที่มีอายุ 18 - 59 ปี เช่นเดียวกัน ทำไมไม่ให้เด็กต่ำกว่าอายุ 18 ปี ก็เพราะยังไม่มีข้อมูลในการศึกษาในกลุ่มอายุดังกล่าว

ในทางปฏิบัติจึงจะต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ ที่ถูกกำหนดไว้ และในอนาคตข้างหน้าเมื่อมีข้อมูลการฉีดในผู้สูงอายุมากเพียงพอ ก็จะขยับการฉีดวัคซีนในผู้สูงอายุต่อไป

ในวันข้างหน้า หรือในระยะเวลาอันใกล้ มีความเป็นไปได้สูงมาก ที่จะขยับอายุขึ้นไป เมื่อมีข้อมูลมากพอ

อย่างไรก็ตาม ถ้าผู้ที่มีอายุ 60 ปี หรือมากกว่า และมีความเสี่ยงสูง ที่จะติดเชื้อหรือป่วยเป็นโรคโควิด-19 และเกิดอันตรายได้สูง อย่างเช่นคุณหมอจังหวัดมหาสารคาม ก็สามารถที่จะให้ได้ แต่จะต้องประเมิน ประโยชน์ที่จะได้จากวัคซีน มากกว่าอาการข้างเคียงที่จะเกิดขึ้น โดยแพทย์ได้ให้ข้อมูลทั้งหมด และเจ้าตัวยินดีรับความเสี่ยง ก็สามารถทำได้ ด้วยความยินยอมของผู้นั้น

โดยความเห็นส่วนตัว ในระยะเวลาอันใกล้ ข้อมูลการฉีดวัคซีนในผู้สูงอายุ ก็จะมีเพิ่มขึ้นและคงจะได้ฉีดกันทุกคน อดใจรอ


ที่มา : https://web.facebook.com/story.php?story_fbid=5272855232757051&id=100000978797641&_rdc=2&_rdr

ธนาธร​ จึงรุ่งเรืองกิจ​ ประธานคณะก้าวหน้า​ ได้โพสต์ลงเฟซบุ๊กส่วนตัว​เกี่ยวกับความในใจช่วง​ 1​ ปีที่ผ่านมาหลังพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบว่า...

ครบรอบ 1 ปียุบพรรคอนาคตใหม่ - ความในใจจากวันนั้นถึงวันนี้

ผมไม่เคยเล่าให้ใครฟังมากนัก - แม้แต่คนใกล้ชิด - ถึงความรู้สึกส่วนตัวจากกรณีถูกยุบพรรค เหตุผลหนึ่งคือในฐานะผู้นำ ผมรู้สึกว่าผมจะแสดงความอ่อนแอให้คนอื่นเห็นไม่ได้ กลัวว่าทั้งทีมงาน ในส่วนกลางและในจังหวัดต่าง ๆ, ผู้สนับสนุน และเพื่อน ส.ส. จะหมดกำลังใจ

วันนั้น ผมมีความเป็นห่วงมากเป็นพิเศษ ว่าการผลักดันวาระประชาธิปไตยผ่านระบบรัฐสภาจะอ่อนแอลง ผมเป็นห่วงเพื่อน ส.ส. อนาคตใหม่ที่ย้ายไปพรรคก้าวไกลว่าพวกเขาจะยืนได้หรือไม่ท่ามกลางกระแสการเมืองที่โหดเหี้ยมต่อฝ่ายประชาธิปไตย

ในระยะยาวหากพรรคใหม่ไม่สามารถยืนหยัดได้ แปลว่าพวกเราแพ้ย่อยยับ

เราตั้งพรรคอนาคตใหม่ขึ้นมา เพื่อหวังใช้ช่องทางรัฐสภา หาทางออกให้กับประเทศ เมื่อเราถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง ผมก็กลัวว่าพรรคก้าวไกลจะไม่หนักแน่นพอที่จะยืนยันในวาระสำคัญๆ ของชาติ กลัวว่าแรงเสียดทานจากสังคม แรงกดดันจากอำนาจเผด็จการ จะทำลายอุดมการณ์อนาคตใหม่ กลัวว่าพวกเขาจะทิ้งอุดมการณ์ไประหว่างทาง

หนึ่งปีที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าจะมีทีมงานและเพื่อน ส.ส. กลุ่มหนึ่ง ตัดสินใจไม่เดินทางไปกับพรรคก้าวไกลต่อ ซึ่งผมเข้าใจได้ ไม่ว่าจะเป็นเพราะปัญหาความขัดแย้งทางความคิดและการปฏิบัติการภายในพรรค, แรงกดดันทางสังคมที่รุนแรง หรือผลประโยชน์ที่หอมหวาน

แต่ ส.ส. ส่วนใหญ่ที่เหลือยังหนักแน่นกับอุดมการณ์อนาคตใหม่ และได้แสดงให้สังคมเห็นถึงความหนักแน่นนี้ อย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา

วันนี้ ผมไม่มีบทบาททางการเมืองในระบบแล้ว แต่ผมไม่เคยเสียใจเลยที่เป็นส่วนสำคัญในการสร้างพรรคอนาคตใหม่ขึ้นมา เราทุกคนล้วนเป็นอิฐก่อนต่อไปของการสร้างสังคมประชาธิปไตยที่เท่าเทียมเสมอภาค ผมก็เป็นเพียงอิฐอีกก้อนให้คนที่เดินข้างหลังก้าวต่อไปถึงจุดหมาย

วันครบหนึ่งปีของการยุบพรรคอนาคตใหม่ ตรงพอดีกับการจบลงของการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล การทำงานของพรรคก้าวไกลที่ผ่านมา โดยเฉพาะการอภิปรายไม่ไว้วางใจรอบนี้ ทำให้ผมหมดห่วง ผมเฝ้าติดตามการอภิปรายไม่ไว้วางใจของพวกเขาอย่างชื่นชม

พวกเขาทำได้ดีมาก

พรรคก้าวไกลแสดงให้เห็นแล้วว่าพวกเขามีวิสัยทัศน์ กล้าหาญและหนักแน่น ไม่แพ้อนาคตใหม่เลย วันนี้จึงเป็นวันที่ผมรู้สึกผ่อนคลาย ไม่ต้องแบกอะไรไว้บนหลังมากมายเหมือนก่อน พวกเขามั่นคง แข็งแกร่ง และเดินต่อไปได้อย่างสง่างาม

ผมสบายใจและมั่นใจว่าอย่างน้อยในสภา ก็ยังมีพรรคการเมืองที่พร้อมจะยืนอย่างมั่นคงในหลักการประชาธิปไตย กล้าหาญพอที่จะยืนบนผลประโยชน์ของประชาชน เพื่ออนาคตของประเทศ

หมดหน้าที่ของผมในสภาแล้ว พวกเขาถือคบไฟ วิ่งไปต่ออย่างมั่นคง

ผมต้องกล่าวเป็นพิเศษถึงคุณพิธา ลิ้มเจริซรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เขาเป็นคนที่ถูกกดดันและถูกคาดหวังมากในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา โบราณกล่าวไว้ว่า หนทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน พิธาพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นแล้วว่า เขากล้าหาญพอที่จะเผชิญหน้ากับปัญหาใจกลางการเมืองไทยอย่างมีวุฒิภาวะ เขามีความเป็นผู้นำและมีไหวพริบ ไม่เพียงแค่จะนำพรรคก้าวไกล แต่จะนำประเทศไทยในอนาคต

วันนี้ ผมเผชิญหน้ากับวันครบรอบ 1 ปีการยุบพรรคอนาคตใหม่อย่างสงบ ไม่มีความรู้สึกโกรธหรือเคียดแค้นที่ถูกกระทำอย่างไม่เป็นธรรม เพราะรู้ว่าพวกเขาทำไม่สำเร็จ พวกเขายุบอุดมการณ์ไม่ได้ ผมไม่มีความรู้สึกรุ่มร้อน เป็นห่วงการเมืองในสภาเหมือนเดิม เพราะก้าวไกลได้ยืนอย่างสง่าผ่าเผยให้สังคมเห็นแล้ว

ต่อจากนี้ไป ผมจะยังทำงานการเมืองต่อไปเช่นเดิม และขอยืนเคียงข้างพรรคก้าวไกล ในวันที่เขาต้องการคำปรึกษาหรือกำลังใจ ผมขอยืนข้างหลังพวกเขาร่วมกับประชาชน ในวันที่พวกเขาต้องการการสนับสนุน และจะยืนข้างหน้าพวกเขา เมื่อพวกเขาเผชิญภัยอันตราย

ขอให้ทุกคนเดินหน้าอย่างกล้าหาญ ประชาชนจะปกป้องคุณเอง

ห่วงสุดท้ายที่ยังติดในใจ คือความเป็นห่วงต่อเพื่อนกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ ขอบคุณที่ตัดสินใจเดินร่วมทางกันวันนั้น แม้เป็นเวลาสั้น ๆ แต่ก็เป็นเกียรติที่ได้ร่วมงานกับทุกคน และขอโทษที่ทุกคนต้องคดีความไปด้วย สิ่งนี้ยังเป็นห่วง ที่ยังติดในใจผมถึงทุกวันนี้

ในวาระครบรอบ 1 ปียุบพรรคอนาคตใหม่นี้ ผมขอขอบคุณผู้ร่วมจดจัดตั้งพรรค, สมาชิกพรรค, ผู้สนับสนุน และผู้ออกเสียงลงคะแนนให้พรรคอนาคตใหม่ทุกคนอีกครั้ง ขอบคุณทุกการโอบกอด ขอบคุณทุกการจับไม้จับมือ ขอบคุณน้ำทุกขวด ขนมทุกชิ้น ดอกไม้ทุกดอก ผ้าขาวม้าทุกผืน รูปวาดทุกใบ และกำลังใจทุกดวง ที่ทุกคนมอบให้ระหว่างทาง มันเป็นการเดินทางที่วิเศษ และผมจะจดจำมันตลอดไป


ที่มา: https://www.facebook.com/382592748811072/posts/1046862262384114/

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติฉีดวัคซีนเดินทางเข้าประเทศ ฟื้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย คาดเริ่มเปิดรับได้ตั้งแต่ไตรมาส 3

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยว ได้สั่งให้ ททท. ทำแผนในการดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แล้ว ให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยได้ ได้ตั้งแต่ไตรมาสที่ 3

ล่าสุด ททท.ได้สั่งให้ทุกสำนักงานต่างประเทศของ ททท.แจ้งข้อมูลและสถานการณ์ของประเทศต้นทางทุก 2 สัปดาห์ ทั้งข้อมูลการฉีดวัคซีนว่ามีจำนวนเท่าใด รวมถึงแนวทางการเปิดประเทศว่าประเทศที่ดูแลนั้นมีนโยบายเปิดให้นักท่องเที่ยวเดินทางออกนอกประเทศหรือไม่ เพื่อให้ ททท. กำหนดแนวทางการดึงนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ได้อย่างถูกต้องตรงตามเป้าหมาย

นายฉัตรทันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิก กล่าวว่า ททท.ได้หารือกับศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ชุดเล็ก ถึงแนวทางการดึงนักท่องเที่ยวกลุ่มที่ฉีดวัคซีนแล้วเดินทางเข้ามาในประเทศไทยได้ โดยที่ประชุมได้มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุข รับไปดูแนวทางและเตรียมทำแผนออกมาโดยเร็ว เพื่อให้ ททท. กลับไปวางแผนดึงนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ได้เร็วมากขึ้น พร้อมทั้งจะได้ไปหารือกับเอกชนภาคการท่องเที่ยว เพื่อออกแพ็คเกจท่องเที่ยว ให้ตรงกับตลาดนักท่องเที่ยวได้ด้วย

ทั้งนี้จากการหารือเบื้องต้นได้กำหนดแนวทางเอาไว้ 3 ตัวอย่าง ตัวอย่างแรก คือ แนวทางการดึงนักท่องเที่ยวที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว เป็นรายบุคคลหรือกลุ่มคณะ จะเดินทางเข้ามาได้หรือไม่ และต้องมีเอกสารอะไรประกอบบ้าง ในกรณีที่ประเทศไทยยังไม่มีการฉีด ตัวอย่างที่สอง คือ ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนจากประเทศต้นทางที่มีการฉีดวัคซีนอย่างแพร่หลายแล้ว จะเข้ามาได้อย่างไร และตัวอย่างสุดท้าย คือ กรณีที่ทั้งประเทศไทย และประเทศต้นทางมีการฉีดวัคซีนอย่างแพร่หลายแล้ว คนที่เดินทางเจ้ามาจะต้องปฏิบัติตัวอย่างไร ซึ่งรายละเอียดทั้งหมดกระทรวงสาธารณสุข จะสรุปมาอีกครั้ง

“การดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติจากนี้เป็นต้นไป จะกำหนดกลุ่มเป้าหมาย คือ คนฉีดวัคซีนมาก่อนให้เดินทางเข้ามาในประเทศได้ ซึ่งทั้งหมดนั้นจะต้องมีข้อมูลที่ชัดเจน เช่น เข้าได้อย่างไร ต้องกักตัวกี่วัน ใช้เอกสารอะไร ใช้ประกันอะไรหรือไม่ เป็นสิ่งที่ ททท. ถามไปแล้ว และรอสาธารณสุขตอบกลับมา”

รมว.ศึกษาธิการ ดึง กูรู เร่งปรับหลักสูตรด้านประวัติศาสตร์ ทั้งการ “เรียน - สอน” ให้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น ยกระดับประวัติศาสตร์ไทย หนุนภูมิปัญญาท้องถิ่น ดันเศรษฐกิจประเทศ

นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังเสร็จสิ้นการกระชุมผู้ทรงคุณวุฒิรายวิชาประวัติศาสตร์ว่า เมื่อวันที่ 22 ก.พ. มีผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งเป็นคณะทำงานด้านหลักสูตรประวัติศาสตร์เข้าร่วมประชุมหลายท่าน โดยแต่ละท่านมีประสบการณ์ด้านประวัติศาสตร์หลากหลายแขนง ได้แก่ ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ชาติไทย ภูมิปัญญาท้องถิ่น วัฒนธรรมประเพณี เป็นต้น ซึ่งบางท่านเคยร่วมทำหลักสูตรกับทางสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) มาก่อนด้วย

สำหรับผู้ทรงคุณวุฒิกลุ่มนี้ ได้นำเสนอแนวทางการเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของไทย ซึ่งจำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบในการนำเสนอให้มีความน่าสนใจ และสามารถทำให้เกิดการซึมซับในความภาคภูมิใจของความเป็นไทย ซึ่งสอดคล้องและสามารถนำไปผสมผสานกับแผนงานที่กระทรวงศึกษาธิการที่กำลังเตรียมทำไว้ในแผนการบูรณาการการศึกษา ในการจะรวมโรงเรียนเครือข่ายในการสร้างโรงเรียนคุณภาพชุมชน

“ซึ่งสิ่งที่จะเกิดขึ้น ก็คือ การนำความรู้เกี่ยวกับภูมิปัญญาท้องถิ่น หรือนำประวัติศาสตร์ท้องถิ่นเข้ามาให้ความรู้ แม้จะเป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งของการเชื่อมต่อในการที่จะบูรณาการการศึกษา แต่เป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะว่าในอนาคต มีหลาย ๆ อย่างที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ หลายๆ อย่างที่เกี่ยวกับภูมิปัญญาท้องถิ่น หรือความสามารถทักษะที่เราจะนำสินค้าท้องถิ่นมาโปรโมต เพื่อให้มีการต่อยอดทางด้านเศรษฐกิจ ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญ ที่เราจำเป็นต้องวางรากฐานให้มีความเข้มแข็งตั้งแต่วันนี้” นายณัฏฐพล กล่าว

นอกจากนี้ นายณัฏฐพล ยังย้ำด้วยว่า การปรับหลักสูตรนั้น เป็นส่วนหนึ่งของคณะทำงานด้านหลักสูตร ที่จะต้องนำเอาไปพิจารณาว่า วิธีการจะเป็นอย่างไร และทำให้เกิดการลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ได้จริงอย่างไร หรือวิชาประวัติศาสตร์นั้น จะนำมาปรับในหลักสูตรพื้นฐาน ซึ่งเรื่องนี้ผู้ทรงคุณวุฒิดังกล่าว ก็จะต้องนำหลักสูตรไปผสมผสานกับฝ่ายวิชาการของ สพฐ. และฝ่ายคณาจารย์จากมหาวิทยาลัย ที่ตั้งคณะทำงานขึ้นมาแล้ว โดยจะนำไปผสมผสานกันในศาสตร์เหล่านี้ได้อย่างไร

สำหรับหลักสูตรด้านประวัติศาสตร์ส่วนนี้ ที่ต้องนำมาผสมผสานกันนั้น นายณัฏฐพล กล่าวว่า สิ่งที่ตนเองต้องการเห็น ก็คือ อยากให้เด็กๆ ได้ซึมซับสิ่งเหล่านี้ เพราะประวัติศาสตร์ไทยมีเสน่ห์หลายอย่าง มีความหลากหลาย ซึ่งไม่ใช่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องการสู้รบอย่างเดียว และเป็นสิ่งที่เราต้องทำการประชาสัมพันธ์ หรือโปรโมตอย่างเต็มที่ เพราะเราต้องการที่จะพัฒนาด้านเศรษฐกิจของประเทศไทย

“ดังนั้นอะไรที่จะมีเสน่ห์เท่าประวัติศาสตร์ อย่างเวลาที่เราเดินทางไปประเทศต่างๆ เพราะว่าเราการไปเห็นประวัติศาสตร์ของประเทศเขา หากเราสามารถยกระดับความสวยงามในท้องถิ่นทั่วทั้งประเทศได้ โดยผ่านกระบวนการการศึกษา ผ่านคนที่มีความรู้ ผ่านนักเรียน และผู้ปกครองที่มีความรู้มากขึ้น ในอนาคตก็จะสามารถต่อยอดให้ประเทศได้เป็นอย่างดี และจะยิ่งดึงดูดให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเพิ่มมากขึ้นอีก” รมว.ศธ. กล่าว...

ขณะเดียวกันในส่วนของครู แม้มีความตั้งใจอยู่แล้ว แต่ความมั่นใจ หรือความรอบรู้ในด้านประวัติศาสตร์ในแต่ละพื้นที่ก็แตกต่างกัน จึงต้องเข้าใจว่าครูในทั่วประเทศกระจายทั่วไปหมด ไม่ใช่ว่าครูอยู่ที่จังหวัดระยองเป็นคนระยอง ดังนั้นความกล้า และความเข้าใจ ในการที่จะนำเสนอด้านประวัติศาสตร์ในจังหวัดนั้น ๆ ก็จะมีความเข้มข้นไม่มาก ซึ่งเรื่องนี้จึงต้องมีการบูรณาการกันทั้งระบบ

“ดังนั้นเรื่องนี้ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร หากมีการจัดระบบองค์ความรู้ในแต่ละจังหวัด ส่วนในวิธีการนำเสนอผมมั่นใจว่า ครูสามารถปรับเปลี่ยนได้อยู่แล้ว” นายณัฏฐพล กล่าว

นายณัฏฐพล กล่าวเพิ่มด้วยว่า สำหรับวันนี้ครูเอกสังคม มีองค์ความรู้การผสมผสานในหลายๆ ด้าน แต่ในเบื้องต้นต้องขอให้คณะทำงานด้านหลักสูตรนำเสนอมาก่อน เนื่องจากประวัติศาสตร์ ก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับด้านเศรษฐกิจ ภูมิศาสตร์ และพุทธศาสนา ซึ่งต้องมาดูว่าจะทำการเชื่อมต่อได้อย่างไร

“เด็กที่สนใจ เลข วิทย์ อาจจะไปเป็นวิศวะ แต่ก็มีความจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้เรื่องประวัติศาสตร์ เพื่อสามารถนำรูปแบบต่างๆ ไปออกแบบ เพื่อให้เป็นเอกลักษณ์ และอัตลักษณ์ ซึ่งจะมีส่วนเกี่ยวข้องและเชื่อมโยงกันหมด ดังนั้นจึงต้องรอให้ทีมงานนำเสนอหลักสูตรมาก่อนโดยคำนึงถึงความเหมาะสม” นายณัฏฐพล กล่าว


ที่มา: https://www.thairath.co.th/news/politic/2037768

‘บิ๊กตู่’ ย้ำคนไทยทุกคนจะได้รับวัคซีนป้องกันโควิดฟรีทุกคน ‘ยัน’ วัคซีนทุกล็อต ต้องผ่านการขึ้นทะเบียนกับ อย. พร้อมย้ำเปิดรับวัคซีนโควิดทุกราย

เมื่อเวลา 11.20 น. วันที่ 23 ก.พ.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊คส่วนตัว ถึงความคืบหน้า การจัดหาวัคซีนต้านโควิด-19 โดยเฉพาะวัคซีนซิโนแวค 2 แสนโด้ส ที่จะมาถึงในวันที่ 24 ก.พ.ว่า “ความคืบหน้า การจัดหาวัคซีนต้านโควิด-19 วัคซีนซิโนแวค 2 แสนโด้ส ที่จะมาถึงในวันพรุ่งนี้ (24 ก.พ.) จะเริ่มฉีดให้กับกลุ่มเป้าหมายตามแผนการได้ภายใน 3 วันครับ

สำหรับคนไทยจะได้ฉีดวัคซีนฟรีทุกคน ซึ่งเราได้กำหนดกลุ่มเป้าหมาย และการบริหารจัดการทั้งหมดไว้ก่อนแล้ว ขอให้รอฟังการชี้แจง ศบค. ต่อไป

ทั้งนี้ วัคซีนล็อตสองจำนวน 8 แสนโด้ส และล็อตสาม 1 ล้านโด้ส จะตามมาในเดือนมีนาคมและเมษายน โดยส่วนหนึ่งจะใช้สำหรับฉีดเข็มที่ 2 ให้ผู้ที่ได้รับโด้สแรกไปแล้ว

ในเดือนพฤษภาคม - มิถุนายน เราจะได้รับวัคซีนแอสตร้า เซเนก้า 26 ล้านโด้ส และจะตามมาอีก 35 ล้านโด้ส

วัคซีนของแอสตร้า เซเนก้าขึ้นทะเบียนแล้ว นอกจากนี้ ยังมีวัคซีนของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ที่ได้ส่งเอกสารบางส่วนแล้วแต่ยังไม่ครบถ้วน ของโมเดอร์นาและไฟเซอร์ที่ได้ส่งตัวแทนมาพูดคุย แต่ยังไม่ได้ส่งเอกสารมาครับ

จะเห็นว่าเราเปิดรับวัคซีนจากทุกบริษัท ที่ผ่านมาได้มีการประสานงานกันมาโดยตลอด บางส่วนอยู่ในขั้นตอนการขอเอกสาร บางส่วนอยู่ระหว่างการเจรจา ทั้งหมดเราไม่ปิดกั้น

เรายินดีที่ภาคเอกชนมีแนวคิดช่วยจัดหาวัคซีนมาฉีดให้ผู้ที่ต้องการ อย่างไรก็ดี ผู้ผลิตวัคซีนหรือผู้นำเข้าจะต้องขอจดทะเบียนกับ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. เพื่อตรวจสอบความปลอดภัยและประสิทธิภาพของวัคซีนก่อน ซึ่งทาง อย.ได้ระดมผู้เชี่ยวชาญจำนวนมาก มาช่วยในการตรวจสอบเพื่อความรวดเร็วในการขึ้นทะเบียน

วัคซีนที่จะใช้ฉีดในประเทศไทยทุกล็อต จะต้องผ่านการขึ้นทะเบียนกับ อย. เพราะเราต้องให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของคนไทยเป็นอันดับแรก

ทั้งหมดที่ผมกล่าวมา จะเห็นว่า เราตั้งใจวางมาตรการอย่างเป็นระบบ เพราะทั้งหมดเกี่ยวพันถึงความปลอดภัยของพี่น้องคนไทยทุกคนในประเทศ จึงเป็นเรื่องที่ต้องรัดกุม มีแผนงานที่เป็นขั้นเป็นตอนตามแผนของรัฐที่กำหนดไว้ เพื่อความปลอดภัยสูงสุด และเพื่อให้การฉีดวัคซีนได้ผลในการป้องกันการระบาดได้เต็มประสิทธิภาพ

อย่างไรก็ตาม ส่วนสำคัญเรื่องหนึ่งในกระบวนการ คือการป้องกันตัวเองครับ ที่ผ่านมา เราประสบความสำเร็จในเรื่องนี้เป็นอย่างดี ขอให้ทุกคนยังคงสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อย ๆ และเว้นระยะห่างทางสังคม เรื่องนี้จะช่วยให้ปลอดภัยจากโควิดได้ดีที่สุดครับ”

‘บิ๊กป้อม’ ชี้ ปัญหาภัยแล้ง แก้ปัญหา - เตรียมรับมือแล้ว ถึงแม่น้ำโขงน้ำน้อยไม่หวั่น เร่งกระทรวงทรัพยากรฯ ศึกษาระบบนิเวศน์น้ำโขง ยันอีสานตอนล่างน้ำยังเพิ่ม แต่เชื่อรับมือภัยแล้งได้เหมือนที่ผ่านมา

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์ถึงการแก้ปัญหาภัยแล้วว่า ได้มีการสั่งการให้แก้ปัญหาในเรื่องดังกล่าวแล้ว รวมถึงมีการเตรียมการรับมือไว้พร้อมแล้ว แม้ว่าแม่น้ำโขงมีน้ำน้อย แต่มีการเตรียมการไว้แล้ว

และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกำลังศึกษาระบบนิเวศของแม่น้ำโขงที่เปลี่ยนไป ยืนยันว่าไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามในส่วนของพื้นที่ภาคอีสานตอนล่างมีน้ำเพิ่มมากขึ้น ยืนยันปีนี้รับมือภัยแล้งได้เหมือนปีที่ผ่านมา


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top