กลายเป็นเรื่องตลกร้ายที่ขำไม่ออก กับประเทศที่ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งผลิตวัคซีนของโลกอีกแห่งอย่างอินเดีย
โดยปัจจุบันอินเดียก้าวหน้า จนสามารถพัฒนาวัคซีน Covid-19 เป็นของตัวเอง และกำลังผลิตพร้อมประกาศเป้าหมายว่าจะฉีดวัคซีนให้ชาวอินเดียได้ถึง 300 ล้านคนภายในเดือนสิงหาคมปีนี้ ซึ่งถือเป็นโครงการฉีดวัคซีนที่ใหญ่ที่สุดในโลก แต่ไปๆ มาๆ กลายเป็นว่าชาวอินเดียส่วนใหญ่กลับเมิน ไม่ยอมมาฉีดกันสักเท่าไหร่
มันเกิดอะไรขึ้น?
อินเดียเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาด Covid-19 ระดับรุนแรง แซงหน้าหลายประเทศขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ของโลกหากนับจากยอดผู้ติดเชื้อสะสมในประเทศ
ทว่าตอนนี้ประเทศอินเดียก็ได้พัฒนาตนเอง จนจัดกลายเป็นผู้ผลิตยา และวัคซีนรายใหญ่ของโลก โดยมีข้อมูลว่า ก่อนหน้าที่จะเกิดการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 วัคซีนที่ใช้กันอยู่ทั่วโลกกว่า 60% ผลิตในอินเดีย และยังเป็นฐานการผลิตให้กับบริษัทยาชั้นนำของโลกอีกมากมาย ดังนั้นหากถามเรื่องศักยภาพในการผลิตยา และวัคซีนของอินเดียก็บอกได้เลยว่าหายห่วง
นอกจากนี้ อินเดียยังก้าวหน้าถึงขนาดสามารถพัฒนาวัคซีน Covid-19 เป็นของตัวเองได้สำเร็จอีกด้วย นับเป็นหนึ่งในความก้าวหน้าด้านการแพทย์ที่น่าจับตามองมาก
และทันทีที่มีข่าวว่ามีวัคซีน Covid-19 ในเวอร์ชั่นของอินเดีย รัฐบาลก็ไม่รอช้า ประกาศรับรองวัคซีน Covid-19 ให้ใช้ได้ทันทีถึง 2 ตัว คือ
- Covishield ที่เป็นชื่อเรียกของ วัคซีน Oxford-AstraZeneca ที่ผลิตในบริษัทยาของอินเดีย
- Covaxin วัคซีนของอินเดียแท้ ๆ ที่พัฒนาโดยบริษัท Bharat Biotech
และได้เริ่มโครงการฉีดวัคซีนไปแล้วเมื่อกลางเดือนมกราคม 2021 ที่ผ่านมา ซึ่งรัฐบาลอินเดียประกาศเป้าหมายว่าจะต้องฉีดวัคซีนในได้ 300 ล้านคนภายในเดือนสิงหาคม นับว่าเป็นโครงการวัคซีนใหญ่ที่สุดของโลกในช่วงเวลานั้น
แต่หลังจากที่เดินหน้าโครงการไปได้เพียงแค่เดือนเดียว กลับพบว่าชาวอินเดียมารับวัคซีนเพียงแค่ 8.4 ล้านคน ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ถึง 1 ใน 4 ที่คาดว่าต้องฉีดให้ได้อย่างน้อยเดือนละ 37.5 ล้านคน เพื่อบรรลุเป้าหมายในเดือนสิงหาคม
แม้ว่ารัฐบาลอินเดียจะสร้างแอปพลิเคชันบนมือถือ เพื่อแจ้งเตือนและติดตามกลุ่มเป้าหมายให้มารับวัคซีน ทำแคมเปญเชิญชวนสารพัด แต่ก็ยังมีคนมาไม่ถึงเป้า และที่รัฐบาลต้องกลุ้มใจหนักกว่านั้นคือ หลังจากที่ฉีดวัคซีนเข็มแรกไปแล้ว มีเพียง 4% เท่านัันที่กลับมารับวัคซีนเข็มที่ 2
สาเหตุดังกล่าง เมื่อถามจากความเห็นของกลุ่มเป้าหมายที่จะต้องเข้ารับวัคซีนเป็นกลุ่มแรก ที่เป็นบุคลากรการแพทย์ เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และหน่วยงานที่ต้องสัมผัสกลุ่มเสี่ยงนั้น หลายคนยังลังเลที่จะไปรับวัคซีน ผลัดไปก่อน ไม่รีบ ไม่ร้อน โดยอ้างว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อในอินเดียก็ลดลงเรื่อยๆ หากเป็นเช่นนี้ สถานการณ์คงไม่น่ากลัวแล้ว ไม่ต้องรีบก็ได้ ซึ่งจุดนี้อาจเป็นสาเหตุสำคัญที่ชาวอินเดียตื่นตัวที่จะไปฉีดวัคซีนน้อยลง
อีกเหตุผลหนึ่งก็คือ ความเชื่อมั่นในวัคซีนที่ผลิตในอินเดียเอง ที่หลายคนยังกังขาในประสิทธิภาพ เนื่องจากการพัฒนาวัคซีน Covaxin ทำอย่างเร่งรีบ และมีตัวเลขผลการวิจัยออกมาค่อนข้างน้อย บางกระแสบอกว่าวัคซีนยังอยู่ในขั้นตอนการทดสอบในเฟส 3 อยู่เลย รัฐบาลอินเดียก็เซ็นอนุมัติรับรองให้ใช้วัคซีนได้แล้ว
นิตยการ Time ได้สำรวจความเห็นของบุคลากรการแพทย์ในอินเดีย และพบว่าหลายคนยังไม่ค่อยเชื่อมั่นในวัคซีนของอินเดีย ยิ่งศูนย์วัคซีนบางแห่งมีเพียงวัคซีนในประเทศให้เลือก บางคนก็ขอเลือกที่จะไม่ฉีด เมื่อชาวบ้านทั่วไปเห็นว่าขนาดหมอ พยาบาล ยังไม่ยอมไปฉีด ก็ยิ่งสร้างความไม่เชื่อมั่นในตัววัคซีนยิ่งขึ้นไปอีก
เลยทำให้ตอนนี้อินเดียกลายเป็นประเทศที่กำลังเผชิญกับปัญหาที่ไม่เหมือนใครในโลก คือ มีวัคซีน Covid-19 เหลือเฟือ แต่ไม่มีคนยอมมาฉีด
สถานการณ์เช่นนี้ อาจจะเกิดขึ้นในหลายประเทศในอนาคต เมื่อวัคซีนเริ่มมีเพียงพอกับความต้องการในท้องตลาด แต่พอตัวเลขการติดเชื้อที่ลดลงอย่างต่อเนื่องทั่วโลก ก็จะทำให้คนมีความตื่นตัวที่จะไปฉีดน้อยลง เพราะเข้าใจว่าว่าการระบาดกำลังจะจบลงในไม่ช้า ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด และยังมีโอกาสที่จะเกิดการระบาดระลอกใหม่ได้ทุกเมื่อ
ตอนนี้รัฐบาลหลายประเทศกำลังเร่งกว้านซื้อวัคซีนในท้องตลาด เพราะคิดว่าเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด แต่หากพิจารณาจากสถานการณ์ในอินเดียแล้ว อาจพบว่า การสร้างความเชื่อมั่น และจูงใจให้คนออกมารับวัคซีนให้ครบตามจำนวน อาจเป็นเรื่องที่ท้าทายยิ่งกว่าก็ได้
ที่มา: https://time.com/5940963/india-covid-19-vaccine-rollout/
