Monday, 9 June 2025
ElectionTime

‘บิ๊กป้อม’ คิกออฟ 2 นโยบาย ‘ที่ดินทำกิน - จัดการน้ำ’ โว!! พร้อมขจัดความจน ช่วย 20 ล้านคน มีที่ดินทำกิน

(10 ก.พ. 66) เมื่อเวลา 15.00 น. ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพปชร.เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการจัดทำนโยบายพรรคพลังประชารัฐ โดยที่ประชุมพิจารณาร่างนโยบายพรรค เรื่อง การแก้ไขปัญหาความยากจน ปัญหาที่ดินทำกิน ปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้ง เพื่อมอบหมายผู้รับผิดชอบ จัดทำรายละเอียดแผนดำเนินการ จัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ และจัดทำข้อมูลเตรียมการปราศรัยนโยบาย

โดยมีคณะทำงานเข้าร่วม พร้อมเพรียง อาทิ พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ในฐานะที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะเลขาธิการพรรค นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรค นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรค พล.อ.กฤษณ์โยธิน ศศิพิพัฒน วงษ์ นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ นายอภิชัย เตชะอุบล กรรมการบริหารพรรค นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค นายอุตตม สาวนายน นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา นายอรรถกร ศิริลัทยากร ส.ส.ฉะเชิงเทรา 

พล.อ.ประวิตร แถลงว่า เราทำเรื่องที่ดินคทช.โดยจัดซื้อที่ดิน เพื่อนำไปแจกจ่ายให้ประชาชน ต่อเนื่องกว่า 5 หมื่นไร่ เพื่อนำไปให้ประชาชนที่ยากจน สำหรับอยู่อาศัยปลูกบ้านกว่า 2 หมื่นหลัง การดูแลปัญหาเรื่องที่ดินเป็นเรื่องซับซ้อน ต้องช่วยดูแล รวมถึงกรณีที่มีการบุกรุกป่า ฉวยโอกาส นำไปเอื้อประโยชน์นายทุน ก็ต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับทุกคน จากวันนี้จะเร่งรัดให้ทีมงานที่ได้รับมอบหมายไปทำให้บรรลุเป้าหมาย และให้ผู้สมัครทุกเขตเลือกตั้งชี้แจงให้ประชาชนทราบ เพราะการสร้างการรับรู้เรื่องที่ดินค่อนข้างยาก ต้องชี้แจงให้ชัดเจนให้ทุกคน 
โดยเฉพาะคนยากจน มีสิทธิ์ในที่ดินทำกิน

'พิธา' นำทัพ 'ก้าวไกล' เปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ศรีสะเกษ-บุรีรัมย์ จัดเต็ม 19 นโยบาย แก้ปัญหาเกษตรไทย เรียกเสียงเฮลั่น!!

(10 ก.พ. 66) พรรคก้าวไกล นำโดย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมแกนนำพรรค อาทิ อภิชาติ ศิริสุนทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ วิโรจน์ ลักขณาอดิศร อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ ร่วมเปิดเวทีปราศรัยแนะนำตัวว่าที่ผู้สมัครในพื้นที่อีสานใต้ ประกอบด้วย ศรีสะเกษและบุรีรัมย์ พร้อมกับเปิดรายละเอียดนโยบายด้านการเกษตรของพรรคก้าวไกล ตามแนวคิด 'กระดุม 5 เม็ด' ที่พิธา เคยใช้ในการอภิปรายเพื่อแก้ไขปัญหาเรื้อรังของการเกษตรกรทั้งระบบ

โดยในช่วงบ่าย มีการจัดเวทีที่หน้าตลาดสดเทศบาลตำบลปรางค์กู่ อ.ปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ เพื่อเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. ทั้ง 9 คน โดยได้รับการตอบรับอย่างเนืองแน่นจากประชาชน ที่เข้าร่วมจับจองที่นั่งจนเต็มเวที

พิธาเริ่มการปราศรัย กล่าวถึงแนวคิดกระดุม 5 เม็ด ที่เคยได้อภิปรายไปอีกครั้ง โดยระบุว่าในบรรดากระดุมทั้ง 5 เม็ด ตนและพรรคก้าวไกลเน้นเสมอว่ากระดุมเม็ดแรกที่เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในชีวิตของเกษตรกรคือเรื่องของที่ดิน ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลประยุทธ์ได้ใช้นโยบายยึดที่ดินจากประชาชน เป็นนโยบาย 'ทวงคืนผืนป่า' ในยุครัฐบาล คสช.

สำหรับพรรคก้าวไกล เรามีวิธีคิดที่แตกต่างออกไปจากทุกรัฐบาลที่ผ่านมา เราเป็นพรรคที่พูดมาเสมอว่าที่ดินของประเทศไทยอยู่ในมือของรัฐมากเกินไป ถึง 62% จาก 320 ล้านไร่ ภายใต้การดูแลของ 8 กระทรวง และกฎหมาย 16 ฉบับ และนี่คือจุดเริ่มต้นที่เราต้องแก้ปัญหา เป็นกระดุมเม็ดแรกที่พรรคก้าวไกลจะเข้าไปจัดการอย่างเป็นระบบ

ประการแรก คือการตั้งกองทุนพิสูจน์สิทธิที่ดิน ที่ปีหนึ่ง ๆ มีงบประมาณอยู่เพียง 300 กว่าล้านบาท ช่วยเกษตรกรพิสูจน์สิทธิได้แค่ปีละ 1,000 ราย ในอัตราเช่นนี้ เราต้องใช้เวลาถึง 1,000 ปีกว่าที่ประชาชนที่มีความต้องการจะได้รับการพิสูจน์สิทธิจนครบทั้งประเทศ ดังนั้น พรรคก้าวไกลจึงมีนโยบายเพิ่มงบประมาณในการสำรวจที่ดินเพิ่มขึ้น 30 เท่าเป็น 10,000 ล้านบาท

พร้อมกันนั้น เราจะจัดตั้ง 'ธนาคารที่ดิน' ซึ่งขบวนการภาคประชาชน อาทิ พีมูฟ ได้นำเสนอมาเป็นเวลานานแล้ว เพื่อให้เป็นกลไกในการเอาที่ดินจากมือรัฐ มาเข้าในธนาคารที่ดิน ก่อนกระจายให้ประชาชนผ่อนจ่ายเป็นเจ้าของที่ดินได้ในดอกเบี้ยราคาถูก

และที่สำคัญ คือนโยบายเปลี่ยนที่ดิน ส.ป.ก. เป็นโฉนด ซึ่งพิธาระบุว่าจากที่ดินที่ประเทศไทยเรามีอยู่ทั้งหมด 320 ล้านไร่ เป็นที่ดิน ส.ป.ก. อยู่ถึง 40 ล้านไร่ เป็นที่ดินที่ประชาชนสามารถใช้ได้แต่เต็มไปด้วยข้อจำกัด ไม่สามารถนำไปสู่การต่อยอดได้ และเวลาผ่านไปกลับเกิดการเปลี่ยนมือเป็นของนายทุนถึง 4 ล้านไร่ นี่คือสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ตราบที่ประเทศไทยยังปล่อยให้ ส.ป.ก. เป็นเรื่องคาราคาซังอยู่แบบนี้ ส.ป.ก. จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดในการคายที่ดินออกมาจากมือของรัฐ

ดังนั้น พรรคก้าวไกลจึงเสนอนโยบาย ให้เกิดการเปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนด ภายใต้เงื่อนไขรับการเปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนดได้ไม่เกิน 50 ไร่ โดยที่ (1) หากผู้รับสิทธิ ส.ป.ก. กับผู้ใช้ประโยชน์ที่ดินเป็นชื่อเดียวกัน สามารถออกเป็นโฉนดที่ดินได้ทันที ภายใน 5 ปีแรก สามารถโอนมรดกได้ แต่หากจะขายหรือจำนอง ต้องดำเนินการผ่านธนาคารที่ดิน

(2) หากผู้รับสิทธิ ส.ป.ก. กับผู้ใช้ประโยชน์ที่ดินเป็นชื่อไม่ตรงกัน จะออกโฉนดที่ดินได้ก็ต่อเมื่อเป็นผู้ที่มีหลักฐานใช้ประโยชน์ที่ดินแปลงมาไม่ต่ำกว่า 10 ปี เป็นผู้ที่มีหลักฐานข้อตกลงระหว่างผู้ได้รับสิทธิเดิมกับผู้ใช้ประโยชน์ที่ดินจริง และเป็นผู้ที่มีทรัพย์สินทั้งหมดไม่เกิน 10 ล้านบาท

(3) สำหรับกรณีที่ใช้ที่ดินที่ผ่านมาเพื่อวัตถุประสงค์อื่นๆ นอกจากการเกษตร ได้รับการเปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนดเฉพาะผู้ที่ครอบครองที่ดินรวมกันทั้งหมด ไม่เกิน 50 ไร่ โดยภายใน 10 ปีแรกโอนมรดกได้ แต่หากจะขายหรือจำนอง ต้องดำเนินการผ่านธนาคารที่ดิน ส่วนที่ดินส่วนที่เกิน 50 ไร่ หรือได้มาแบบผิดกฎหมาย จะถูกนำเข้าสู่ธนาคารที่ดินเพื่อนำมากระจายให้กับประชาชน

พิธายังกล่าวต่อไป ถึงการแก้ไขปัญหากระดุมเม็ดที่ 2 หรือหนี้สิน โดยระบุว่าพรรคก้าวไกลมีนโยบายที่จะปลดหนี้สินเกษตรกร เช่น นโยบายปลูกป่าปลดหนี้ ที่รัฐจะเข้าไปเช่าที่ดินจากเกษตรกรที่ไม่ประสงค์จะปลูกพืชเศรษฐกิจอีก แล้วมาปลูกไม้ยืนต้น ให้เกษตรกรได้ค่าเช่ามาปลดหนี้ รวมถึงนโยบายเสรีโซลาร์เซลล์ ให้ประชาชนสามารถติดตั้งโซลาร์เซลล์ได้ง่ายขึ้น และสามารถขายไฟฟ้าส่วนเกินคืนให้กับรัฐได้ และที่สำคัญ ในกรณีที่เป็นเกษตรกรสูงอายุที่เป็นหนี้ ธ.ก.ส. หากคืนหนี้เกิน 50% แล้วรัฐบาลยกหนี้ให้ทันที

สำหรับกระดุมเม็ดที่ 3 หรือต้นทุน พรรคก้าวไกลมีนโยบายลดต้นทุนให้เกษตรกรอย่างครบวงจร ทั้งน้ำ ปุ๋ย และเครื่องจักร และเมื่อเก็บเงิน ตั้งตัว ลดต้นทุนได้แล้ว กระดุมเม็ดที่ 4 ของเรา คือการเพิ่มมูลค่าด้วยสุราก้าวหน้า อย่างที่ศรีสะเกษมีวิสกี้ขาวที่กำลังจะหายไปจากภูมิปัญญาท้องถิ่น ถ้าก้าวไกลเป็นรัฐบาล ได้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นของพรรคก้าวไกล แก้ระเบียบแค่ประโยคเดียวเพื่อปลดข้อจำกัดด้านกำลังแรงม้าและทุนจดทะเบียน เกษตรกรสามารถเริ่มต้นเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรได้ทันที

สำหรับกระดุมเม็ดที่ 5 บริการการเกษตร พรรคก้าวไกลมีนโยบายเพิ่มรายได้ใหม่ให้เกษตรกร เพื่อนำไปสู่การต่อยอดจากสินค้าสู่บริการ เช่น นโยบายให้เกษตรกรขอการรับรองมาตรฐาน GAP-GMP และเกษตรอินทรีย์ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อส่งเสริมการส่งออกสินค้าเกษตรคุณภาพดีไปทั่วโลก

พิธายังกล่าวต่อไป ว่าหลายคนอาจจะพูดว่าพรรคการเมืองทุกพรรคมีนโยบายการเกษตรเหมือนกันหมด แต่สำหรับพรรคก้าวไกล วันนี้เรามีนโยบายที่ต่างออกไปจากทุกพรรคอย่างชัดเจน มีข้อมูลที่ครบถ้วนอยู่ในมือที่จะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาของเกษตรกรได้อย่างแน่นอน

'กรณ์' ชวนคนไทยเที่ยวชม Bangkok design week 2023 หนึ่งใน 'เศรษฐกิจเฉดสีเหลือง' ที่ 'ชพก.' อยากให้เห็นภาพตาม

ยิงนโยบายต่อเนื่อง!! 'กรณ์' เปิดมิติใหม่ 'เศรษฐกิจสร้างสรรค์' หนึ่งในเศรษฐกิจเฉดสีเหลือง หารายได้เข้าประเทศ ด้วยกองทุนสร้างสรรค์ พร้อมร่วมงาน Bangkok Design Week ยกเป็นตัวอย่างสำคัญในการพัฒนาย่านปากคลองตลาด

ในช่วงหัวค่ำของวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2566 นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า พร้อมด้วย ทีมงาน และว่าที่ผู้สมัครกทม. เขต 1 พระนคร ป้อมปราบศัตรูพ่าย สัมพันธวงศ์ 'โน้ต-นันทพันธ์ ศุภณ์ภัทรพงศ์' เดินทางเข้าร่วมชมงาน 'Bangkok design week 2023' ในย่านปากคลองตลาด ซึ่งเป็นตลาดดอกไม้ที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดในประเทศ ซึ่งปีนี้ปากคลองตลาดเข้าร่วมพื้นที่สร้างสรรค์ในคอนเซปต์ 'ปากคลอง Pop Up' ปลุกชีวิตคนปากคลองตลาดด้วยงานดีไซน์ โดยมี 'อ.หน่อง' ผศ.ดร.สุพิชชา โตวิวิชญ์ และนักศึกษา จากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปกร เป็นแม่งานหลัก ออกแบบเปิดมุมมองใหม่เกี่ยวกับความงามดอกไม้ ตั้งแต่ ดอก ใบ กิ่ง และต้น หรือ จะเป็นดอกไม้ดิจิทัล ที่คนรุ่นใหม่สามารถดีไซน์ได้ด้วยตัวเอง และไปปรากฏบนตัวตึก 'ไปรษณีย์ไทย' แห่งแรก และมีการกระจายจุดการแสดงรอบ ๆ ปากคลองตลาดกว่า 10 โปรแกรม 

‘พิธา’ นำทีมก้าวไกล เปิดตัว 10 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. บุรีรัมย์ ชู โยกงบกองทัพเป็นสวัสดิการ - กระจายอำนาจสู่ ปชช.

‘พิธา’ นำทีม ‘ก้าวไกล’ เปิดเวทีแนะนำผู้สมัครบุรีรัมย์ เผยความจริงอีกด้านเมืองปราสาทหิน มีคนแก่ที่ใช้ชีวิตคนเดียว-เด็กด้อยโอกาส-คนหนี้ท่วมมากที่สุด เชื่อไม่มีใครเป็นเจ้าของบุรีรัมย์ พร้อมหยุดวงจรมือใครยาวสาวได้สาวเอา ลั่น คนบุรีรัมย์ต้องกินข้าวไม่ใช่กินถนน ประกาศก้าวไกลเปลี่ยนงบกองทัพเป็นสวัสดิการประชาชน-กระจายอำนาจภายใน 5 ปี ให้คนบุรีรัมย์ได้เลือกเอง

เมื่อวานนี้ (10 ก.พ.66) พรรคก้าวไกล นำโดย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล วิโรจน์ ลักขณาอดิศร อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ อภิชาติ ศิริสุนทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พร้อมด้วยแกนนำและ ส.ส.พรรคก้าวไกล ร่วมเปิดเวทีปราศรัยเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล จังหวัดบุรีรัมย์ ทั้ง 10 คน ที่ลานข้างถนนคนเดินริมทางรถไฟ ในบรรยากาศที่เนืองแน่นไปด้วยประชาชนและผู้สนับสนุนที่เดินทางมารับฟังการปราศรัยในวันนี้

วิโรจน์ ปราศรัยตอนหนึ่งว่า 8 ปีที่ผ่านมาประชาชนมีความคับแค้นหลายเรื่อง ค่าใช้จ่ายอุปโภคบริโภคแพงขึ้น ถูกอย่างเดียวคือค่าแรงและยาบ้า นอกจากการปฏิรูประบบราชการ ทหาร ตำรวจแล้ว เรายังต้องมีนโยบายสวัสดิการประชาชนเพื่อดูแลคนไทยทุกคนด้วย

วิโรจน์กล่าวต่อไปว่า หลังจากพรรคก้าวไกลเสนอนโยบายสวัสดิการประชาชนออกมา ก็มีคนบอกว่าถ้าเป็นเช่นนั้นแล้วคนไทยจะขี้เกียจแน่ ๆ ตนขอถามกลับว่าประเทศแบบไหนที่ปล่อยให้คนแก่อายุ 70-80 ยังต้องขยัน ทำงานมาทั้งชีวิตแล้วพอแก่ตัวลงยังต้องตรากตรำทำงานอยู่อีก จะให้พวกเขาตายคางานเลยหรืออย่างไร ด้านประยุทธ์เองก็ถามว่าจะเอาเงินที่ไหนทำสวัสดิการ แต่ทีเวลาจะซื้อเรือดำน้ำ ซื้อรถถัง ยานเกราะ เครื่องบินรบ ครั้งละหลักพันล้านหมื่นล้าน ประยุทธ์ไม่เห็นจะเคยถามว่าจะเอาเงินที่ไหนไปซื้อ ปัญหาคือประเทศนี้ที่ผ่านมาคนถือทัพพีตักข้าวคนแรกไม่ใช่ประชาชน แต่ตักข้าวไปมากที่สุด เหลือแค่ก้นหม้อให้ประชาชน

“เพราะฉะนั้น ผมยืนยันว่ารัฐสวัสดิการเป็นเรื่องที่ทำได้ แค่ต้องอาศัยการจัดสรรงบประมาณใหม่ ไม่ให้เอาไปใช้กับเรื่องไร้ประโยชน์ เราต้องเปลี่ยนคนที่จะได้ถือทัพพีตักข้าวคนแรกเป็นประชาชน” วิโรจน์กล่าว

ด้านพิธา ระบุว่าวันนี้ตนกลับมาที่นี่เป็นครั้งที่สองในรอบสามเดือน มาทุกครั้งด้วยความเชื่อว่าคนบุรีรัมย์ไม่มีเจ้าของ ไม่มีบ้านใหญ่ ต้องการความเปลี่ยนแปลง ไม่ต้องการระบบแบบมือใครยาวสาวได้สาวเอา แน่นอนว่าระบบที่เป็นมาทำให้หลาย ๆ คนเชื่อว่าบุรีรัมย์มีความเจริญ มั่งคั่ง มีคนมาเที่ยวหลายเทศกาล แต่ข้อมูลที่ไม่ค่อยมีคนพูดถึง คือข้อเท็จจริงที่ว่าผู้สูงอายุที่ต้องอยู่คนเดียว เด็กที่ด้อยโอกาส และประชาชนที่มีหนี้สินต่อรายได้มากกว่า 2 เท่า ล้วนอยู่ที่บุรีรัมย์เป็นจำนวนมากที่สุด

ความเหลื่อมล้ำในการพัฒนาที่มหาศาลเช่นนี้ คือเหตุที่ทำให้ตนเชื่อว่าบุรีรัมย์ไม่มีเจ้าของ คนบุรีรัมย์พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงหากมีพรรคการเมืองที่สามารถมอบคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าให้แก่ชาวบุรีรัมย์ได้ ตนเชื่อว่าชาวบุรีรัมย์เองก็ต้องการเปลี่ยนงบประมาณกองทัพให้เป็นสวัสดิการประชาชน นี่ต่างหากที่จะทำให้ชาวบุรีรัมย์นอนหลับได้ ไม่ใช่แค่การสร้างถนนไปเรื่อย ๆ ชาวบุรีรัมย์ไม่ต้องการการเมืองแบบมือใครยาวสาวได้สาวเอา แต่ต้องการการกระจายอำนาจเหมือนกับทุกคนในทุกจังหวัดของประเทศนี้

'พิธา' นำทัพ 'ก้าวไกล' เลาะโขง ไล่อัดโครงการรัฐ ชูนโยบายจริงจังแก้แล้ง แสดงว่า 8 ปีมานี้ 'จิงโจ้'

'พิธา' นำทัพก้าวไกลเลาะโขง เปิดเวทีปราศรัยบึงกาฬ แนะนำว่าที่ผู้สมัคร 4 จังหวัดอีสานเหนือ ชี้ บึงกาฬเป็นถึงปลายอีสาน-กึ่งกลางอาเซียน แถมยังมีถ้ำนาคาชูโรงท่องเที่ยว แต่กลับขาดการพัฒนา ขาดแคลนทั้งโรงแรม-โครงสร้างรองรับท่องเที่ยว พื้นที่ชลประทานแค่ 1% อัดพรรครัฐบาลชูนโยบายจริงจังแก้น้ำแล้ง แปลว่าที่ผ่านมาจิงโจ้หรือไง ลั่นก้าวไกลเป็นรัฐบาลเมื่อไรพร้อมดันทันที ‘สร้างงานซ่อมประเทศ’ ดัน พ.ร.บ.โฮมสเตย์-แก้ พ.ร.บ.โรงแรม สร้างดีมานด์แปรรูปยางพารา กระจายงบลง รพ.สต.

(11 ก.พ.66) พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยแกนนำและ ส.ส.พรรคก้าวไกล อาทิ วิโรจน์ ลักขณาอดิศร อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ อภิชาติ ศิริสุนทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ เดชรัตน์ สุขกำเนิด ผู้อำนวยการศูนย์นโยบายเพื่ออนาคต ร่วมเปิดเวทีปราศรัยแนะนำตัวผู้สมัคร ส.ส. ในจังหวัดภาคอีสานตอนบน ประกอบด้วย บึงกาฬ นครพนม สกลนคร โดยในช่วงเช้า มีการเปิดเวทีที่ลานตลาดนัด บ้านอีสานพัฒนา อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ ก่อนที่ในช่วงเย็นจะมีการเปิดเวทีที่ ตลาดอำเภอเฝ้าไร่ จ.หนองคาย

ในเวทีช่วงเช้าที่ จ.บึงกาฬ พิธาได้ขึ้นกล่าวปราศรัยถึงนโยบายของพรรคก้าวไกล ที่จะตอบโจทย์ปัญหาของชาวบึงกาฬ โดยระบุว่าจังหวัดบึงกาฬเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพสูงมาก ทั้งอยู่สุดปลายอีสาน และกึ่งกลางอาเซียน มีแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอย่างถ้ำนาคา แต่ที่ผ่านมากลับไม่มีการส่งเสริมให้มีโครงสร้างที่รองรับจุดเด่นเหล่านี้ ด้านการท่องเที่ยวบึงกาฬทุกวันนี้ยังมีปัญหาโรงแรมไม่พอ ไม่มีตำแหน่งงานในภาคการท่องเที่ยวรองรับมากพอ ตนไปถามคนทำรีสอร์ตที่พักเมื่อคืน ทราบมาว่ายังมีข้าราชการมารีดไถ เนื่องจากกฎหมายเกี่ยวกับโรงแรมมีข้อจำกัดและอุปสรรค ที่เอื้ออำนวยกับแค่โรงแรมขนาดใหญ่เท่านั้น

ดังนั้น นอกจากต้องกระจายงบประมาณที่เกี่ยวกับการโปรโมตการท่องเที่ยวลงมามากกว่าเดิมแล้ว เรายังต้องแก้ พ.ร.บ.โรงแรม และทำให้ผู้ประกอบการโรงแรมขนาดเล็กมีโอกาสทำมาหากินได้อย่างถูกกฎหมาย ถ้าพรรคก้าวไกลได้เป็นรัฐบาล เราจะผลักดัน พ.ร.บ.โฮมสเตย์ พร้อมแก้ พ.ร.บ.โรงแรมให้รองรับผู้ประกอบการขนาดเล็กทันที

‘ภท.’ แนะนำ 4 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กาญจนบุรี ชูผลักดัน ‘กาญจน์ ยูไนเต็ด’ ตามรอยบุรีรัมย์

(11 ก.พ.66) นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ลงพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ร่วมเปิดเวทีปราศรัยแนะนำตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภูมิใจไทยจำนวน 4 เขต จาก 5 เขต ประกอบด้วย เขต 1 พล.อ.สมชาย วิษณุวงศ์, เขต 3 นายยศวัฒน์ มาไพศาลสิน, เขต 4 นายธรรมวิชญ์ โพธิพิพิธ และเขต 5 นายอัฏฐพล โพธิพิพิธ โดยบรรยากาศแต่ละเวทีมีประชาชนมาร่วมฟังปราศรัยอย่างคึกคัก

นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า นโยบายของพรรคภูมิใจไทยนั้นพูดแล้วทำ ดังที่ประสบความสำเร็จมาแล้วหลายอย่างในช่วงที่ผ่านมา โดยการเลือกตั้งครั้งนี้เราภูมิใจเสนอนโยบายเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต แก้ปัญหาปากท้องให้ประชาชน อาทิ นโยบายฟรีหลังคาโซล่าเซลล์ ลดค่าไฟฟ้า หลังคาเรือนละ 450 บาท ต่อเดือน และมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าผ่อนเดือนละ 100 บาท 60 งวด รวมถึงนโยบายเกษตรร่ำรวย Contract Farming รู้ราคาก่อนปลูก รับเงินก่อนขาย เสียหายมีประกัน เป็นต้น

'ภูมิใจไทย' เตรียมเปิดตัวผู้สมัครฯ พร้อมปราศรัยใหญ่ 25 ก.พ.นี้ ชูนโยบาย 'พักหนี้ ปลอดดอกเบี้ย-ฟอกไตฟรี-ติดโซลาร์เซลล์'

นายอารี ไกรนรา ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า จังหวัดนครศรีธรรมราชทั้ง 9 เขตเลือกตั้ง เราพร้อมแล้ว 100% ผู้สมัครทุกคนพร้อม เปิดตัวลงพื้นที่มาแล้วหลายเดือน

“พรรคภูมิใจไทย เราจะเปิดตัวผู้สมัคร พร้อมปราศรัยใหญ่ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2566 ที่สนามทุ่งท่าลาด จะมีท่านอนุทิน ท่านพิพัฒน์ ท่าน ดร.นาที เลขาธิการพรรคมาร่วมปราศรัย” นายอารี กล่าวอีกว่า ทางพรรคภูมิใจไทยจะได้อธิบายถึงนโยบายสำคัญของพรรค ไม่ว่าจะเป็นการพักหนี้-ปลอดดอกเบี้ย นโยบายฟอกไต นโยบายการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ เป็นต้น ให้ประชาชนได้รับรู้อย่างเข้าใจ

นายอารี กล่าวอีกว่า การเลือกตั้งจะมีขึ้นเมื่อไหร่ เรายังไม่ได้คิด เพราะเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี แต่เราในฐานะพรรคการเมือง เราพอประมาณกาลได้ว่าการเลือกตั้งจะมีขึ้นช่วงไหน อย่างไร เราก็เตรียมความพร้อมทั้งนโยบาย และบุคคลากรของพรรค และวันนี้เราพร้อมหมดแล้วในทุกด้าน ไม่ว่าการเลือกตั้งจะมีขึ้นวันไหน

ย้อนเวลา '24 สิงหาคม 2557' ก้าวแรกแห่งนายกรัฐมนตรี ผู้ชายที่ชื่อ 'ประยุทธ์ จันทร์โอชา' ผู้มาพร้อมการ 'คืนความสุขให้คนไทย'

ตั้งคำถามสนุกๆ ว่า ระยะเวลาราว 8 ปี หากคิดจะเขียนจดหมายถึง “ใครสักคน” คุณอยากเขียนถึงใคร? ได้ยินเสียงตะโกนพร้อมกันโดยไว 'ลุงตู่ไง จะใครล่ะ!!'

เพราะ 8 ปี คือตัวเลขระยะเวลาการทำงานของ 'ลุงตู่' หรือ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะผู้นำฝ่ายบริหารของประเทศไทย แน่นอนว่า เป็น 8 ปีที่มีเรื่องราวต่าง ๆ มากมาย และในวาระการเลือกตั้งใหญ่กำลังจะมาถึง พร้อมการมาถึงซึ่ง 'นายกรัฐมนตรีคนที่ 30' ของประเทศ THE STATES TIMES จึงนึกสนุก ขอเขียน 'จดหมายเหตุลุงตู่' ผู้นำประเทศคนที่ 29 ของประเทศไทย ที่ผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านเรื่องราวต่าง ๆ มากมาย เรื่องไหนที่ควรเก็บบันทึกไว้ในรูปแบบจดหมายกันบ้าง เราจะนำมาเขียนถึงให้ได้ทราบกัน.. 

เริ่มต้นจดหมายเหตุฉบับแรกด้วย เรื่องราว 'วันแรกของการเป็นนายกรัฐมนตรี' ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2557 หลังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ มีมติเอกฉันท์เลือก พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ต่อมาในวันที่ 24 สิงหาคม 2557 มีประกาศราชกิจจานุเบกษา พระบรมราชโองการ ประกาศแต่งตั้ง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี นับเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 29 ของไทย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top