Monday, 9 June 2025
พรรคเพื่อไทย

'อุ๊งอิ๊งค์' ย้ำแนวทางแลนด์สไลด์ เพื่อหนุนนโยบาย พท. ชี้!! ยังเร็วไป หากจะรับไมตรีที่ 'ลุงป้อม' ทอดสะพาน

'ชลน่าน-แพทองธาร' นำทีมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นนทบุรี เดินตลาด สอบถามปัญหาเศรษฐกิจ ด้าน 'อุ๊งอิ๊งค์' ไม่สน 'พปชร.' ให้บัตร 700 เย้ยกลับค่าแรงเพื่อไทยทำได้จริง พร้อมกั๊กจับมือขั้ว 'บิ๊กป้อม' หลังเลือกตั้ง

(18 ม.ค. 66) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) พร้อมด้วยนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา เลขาธิการพรรค พท., น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม และผู้ประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.นนทบุรี ร่วมลงพื้นที่จังหวัดนนทบุรี โดยมีพี่น้องประชาชน พ่อค้า แม่ค้า ในตลาดสดนนทบุรี ให้กำลังใจต้อนรับเป็นอย่างดี

จุดแรก นพ.ชลน่าน พร้อม น.ส.แพทองธารและคณะเข้าสักการะศาลเจ้าพ่อเสือ ที่พุทธสถานเชิงท่า-หน้าโบสถ์ เพื่อความเป็นศิริมงคล โดยมีนายสมนึก ธนเดชากุล นายกเทศมนตรีนครนนทบุรี ให้การต้อนรับและพาชมสถาปัตยกรรมบริเวณโดยรอบ จากนั้นได้เดินทางมาที่ตลาดกรมชลประทาน พบปะพี่น้องประชาชน พ่อค้า แม่ค้า ที่ทำมาค้าขายภายในพื้นที่

น.ส.แพทองธารพร้อมคณะได้สอบถามถึงการค้าขายและภาวะเศรษฐกิจกับแม่ค้าร้านขนมครก ปาท่องโก๋ ร้านขายไข่ไก่และร้านผักสด รวมทั้งให้กำลังใจอวยพรให้ค้าขายดี ซึ่งนายมนัส พ่อค้าเจ้าของแผงผักในตลาดกรมชลประทาน กล่าวว่า 8 ปีที่ผ่านมา คนจนไม่เคยได้อะไรเลย คนรวยมีแต่รวยเอา ขอฝากให้พรรคเพื่อไทยได้ช่วยแก้ไขปัญหานี้ด้วย ปีนี้รับรองได้เลยว่าพรรคเพื่อไทยจะแลนด์สไลด์แน่นอน น.ส.แพทองธาร รับปากพ่อค้ารายดังกล่าว พร้อมนำเสนอนโยบายที่จะช่วยยกระดับชีวิตให้ประชาชน

ต่อมาคณะ พท.ได้เดินพบปะพูดคุยกับ พี่น้องประชาชนและพ่อค้าแม่ค้าที่ตลาดประชานิเวศน์ 3 เพื่อสอบถามปัญหาราคาสินค้า ในปัจจุบัน โดย น.ส.แพทองธารได้สอบถามและให้กำลังใจพ่อค้าแม่ค้า ในตลาดเกี่ยวกับราคาสินค้า และยอดขาย ซึ่งบรรยากาศมีพ่อค้า แม่ค้า และประชาชนได้เดินทางมามอบดอกไม้ให้กำลังใจและขอถ่ายภาพเป็นที่ระลึกด้วย

น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ ทั้ง 2 ตลาดพบว่า ได้รับการต้อนรับจากพี่น้องประชาชนอย่างอบอุ่น พี่น้องประชาชนรู้สึกทนไม่ไหว อยากเลือกตั้งแล้ว ถือเป็นกำลังใจให้พรรคเพื่อไทยอยากเดินสายพบปะพี่น้องประชาชนต่อไป เพื่อยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยมีความพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงให้พี่น้องประชาชนให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยตลอดเส้นทางในการลงพื้นที่ในวันนี้พบว่าพี่น้องประชาชนให้การตอบรับให้กับนโยบายของเราเป็นอย่างดี โดยสองข้างทางมีป้ายประชาสัมพันธ์นโยบายของพรรค โดยเฉพาะข้อความที่ว่า นโยบายดี ๆ ใครก็พูดได้ แต่คนที่ทำได้คือพรรคเพื่อไทย รวมถึงมีพี่น้องประชาชน นำเอาบัตรสมาชิกพรรคไทยรักไทยที่มีลายเซ็น ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งรู้สึกชื่นใจที่พี่น้องประชาชนไว้ใจเรามาอย่างยาวนานขณะนี้กว่า 20 ปี แน่นอนว่าเราจะไม่ทำให้พี่น้องประชาชนผิดหวัง

เลือกตั้ง 6 ก.พ. 48 ‘ไทยรักไทย’ ชนะขาด สร้างปรากฏการณ์รัฐบาลพรรคเดียว

งวดเข้ามาทุกขณะ สำหรับการเลือกตั้งใหญ่ ที่เริ่มส่งสัญญาณออกมาเป็นระยะ เพราะไม่ว่ารัฐบาลลุงตู่ จะอยู่ครบเทอม หรือ จะเลือกยุบสภาก่อน สุดท้ายแล้วการเลือกตั้งจะมีขึ้นภายในปีนี้อย่างแน่นอน

ส่งผลให้สถานการณ์การเมืองในช่วงนี้ ต้องใช้คำว่า ‘ระอุ’ จะเริ่มเห็นส.ส. ย้ายค่าย พรรคการเมืองเปิดตัว ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กันอย่างคึกคัก

โดยเป้าหมายหลักของพรรคการเมือง ย่อมอยู่ที่การได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยเฉพาะพรรคใหญ่อย่าง ‘เพื่อไทย’ ที่หมายมั่นปั้นมือว่า เลือกตั้งครานี้ จะต้องเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ บนโจทย์ที่สุดท้าทายนั่นคือ จะต้องชนะการเลือกตั้ง กวาดที่นั่ง ส.ส. ในสภาได้อย่างถล่มทลาย หรือ ที่ตั้งสโลแกนคุ้นหู ‘แลนด์สไลด์เพื่อไทย’ โหมโรงออกมาเป็นระยะ

นั่นเพราะการชนะเลือกตั้งมีจำนวน ส.ส. มาเป็นอันดับหนึ่ง ไม่ได้การันตีว่าจะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เพราะยังมีเงื่อนไข ส.ว. 250 เสียงโหวตนายกรัฐมนตรีได้ เป็นเงื่อนปมที่ ‘เพื่อไทย’ อกหักมาแล้วในการเลือกตั้งปี 2562 ที่ครั้งนั้นได้จำนวนส.ส.มาเป็นอับดับหนึ่ง แต่ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ เพราะรวมเสียงแล้วสู้ อีกขั้วอำนาจไม่ได้

เลือกตั้งครั้งที่จะถึงนี้ จึงเปรียบเป็นเวทีแก้มือ ของเพื่อไทย ที่ระดมทุกสรรพกำลังที่มี ทุ่มอย่างเต็มที่ เพื่อไปถึงจุดหมาย ‘แลนด์สไลด์’ ให้ได้ดังฝัน ถึงขั้นไปเอา ‘อุ๊งอิ๊งค์ - แพทองธาร ชินวัตร’ ลูกสาวสุดรักของ ‘ทักษิณ ชินวัตร’ มาโหมโรงเรียกเรตติ้งจากสาวก

จะว่าไปแล้ว ในอดีต เมื่อครั้งยังเป็น ‘พรรคไทยรักไทย’ ภายใต้การนำ ‘ทักษิณ ชินวัตร’ ในขณะนั้น ไทยรักไทย เคยสร้างปรากฏการณ์แลนด์สไลด์ ชนะเลือกตั้งถล่มทลาย กลายเป็นรัฐบาลพรรคเดียวมาแล้ว ในการเลือกตั้งปี 2548

โดยการเลือกตั้งทั่วไป เมื่อปี 2548 มีขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2548 หลังจากรัฐบาลทักษิณ อยู่ครบวาระ 4 ปี ซึ่งขณะนั้นคะแนนนิยมในตัวทักษิณ มีสูงมาก จากนโยบายประชานิยมที่โดนใจชาวบ้าน รวมถึงการรวมสมาชิกจากพรรคต่าง ๆ ได้แก่ พรรคความหวังใหม่, พรรคชาติพัฒนา, พรรคกิจสังคม, พรรคเสรีธรรม และพรรคเอกภาพ เข้ากับพรรคไทยรักไทย มาลงเลือกตั้ง ภายใต้สโลแกนหาเสียงว่า '4 ปีซ่อม 4 ปีสร้าง' และผลการเลือกตั้งปรากฎว่าพรรคไทยรักไทย กวาดไปได้ถึง 377 ที่นั่ง จากจำนวนทั้งหมด 500 ที่นั่ง

แลกหมัดนโยบาย แบบหมัดต่อหมัดระหว่าง นโยบายเพิ่มเงินบัตรประชารัฐ 700 บาท จากพรรคพลังประชารัฐ กับ นโยบายขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท จากพรรคเพื่อไทย

ซึ่งนโยบายเพิ่มเงินบัตรประชารัฐ 700 บาท จากพรรคพลังประชารัฐ ก็เพื่อปรับปรุงระบบสวัสดิการและบริการพื้นฐานเพื่อลดช่องว่างของความยากจน ให้เกิดการกระจายรายได้ที่เท่าเทียมกันให้มากขึ้น ส่วนนโยบายขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท จากพรรคเพื่อไทย ก็เพื่อให้รัฐบาลกระจายรายได้ ขยายโอกาส ลดความเหลื่อมล้ำ และพัฒนาประเทศให้หลุดพ้นประเทศรายได้ปานกลาง 

ส่วนจุดแข็งของ นโยบายเพิ่มเงินบัตรประชารัฐ 700 บาท จากพรรคพลังประชารัฐ คือ เป็นโครงการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ส่งตรงจากรัฐบาลถึงมือประชาชนทันที ทำให้การช่วยเหลือถูกกลุ่มเป้าหมายและเกิดประโยชน์สูงสุดโดยภาครัฐมีข้อมูลในการติดตามประเมินผลได้ ส่วนจุดอ่อน คือ ไม่สามารถคัดกรองประชาชนยากจนจริง ๆ กับประชาชนที่ไม่ได้ยากจนได้ เนื่องจากไม่มีระบบตรวจสอบทรัพย์สินของประชาชนที่รัดกุม และมีข้อกังวลว่าอาจมีการเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ประกอบการเอกชนบางรายที่เข้าร่วมโครงการ

‘อภิชา’ ไขก๊อก ‘ส.ส.’ พร้อมออกกลุ่มไลน์ ภท. เซ็ง!! สภาล่มบ่อย ขอไปทำงานพื้นที่ดีกว่า

‘อภิชา’ ลาออก ‘ส.ส.-ดีดตัวออกกลุ่มไลน์พรรค’ เจ้าตัวระบุ ยังสังกัด ‘ภูมิใจไทย’ ขอรอดู ‘กำนันป้อ’ ก่อนตัดสินใจย้ายไปพรรคไหน

(20 ม.ค. 66) นายอภิชา เลิศพชรกมล ส.ส.นครราชสีมา พรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า ได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็น ส.ส. ต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรแล้ว และมีผลในวันนี้ (20 ม.ค.) เนื่องจากสภาล่มบ่อย จึงไม่มีประโยชน์ที่จะอยู่ต่อ ขอไปทำพื้นที่ดีกว่า ซึ่งตอนนี้ยังอยู่ในสังกัดพรรคภูมิใจไทย ยังไม่ได้ลาออกจากสมาชิกพรรคแต่อย่างใด 

เมื่อถามว่า เตรียมตัวจะย้ายสังกัดไปพรรคอื่นหรือไม่ นายอภิชา กล่าวว่า ยังไม่ได้คิด รอดูนายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รมช.คมนาคม ก่อน เพราะนายวีรศักดิ์สุขภาพไม่ค่อยดี จะยุติบทบาททางการเมือง ตนก็เลยออกมาตั้งหลัก สภาก็ล่มบ่อยด้วย ตอนนี้ยังอยู่พรรคภูมิใจไทย ยังไม่ได้ออกจากภูมิใจไทย หลังจากลาออกจาก ส.ส.ก็จะเน้นลงพื้นที่เป็นหลัก 

นายอภิชา เปิดเผยอีกว่า ได้แจ้งเรื่องการลาออกจาก ส.ส.กับนายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาพรรคภูมิใจไทยแล้ว ซึ่งนายสรอรรถ ก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะเห็นว่าเป็นการตัดสินใจที่เป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส.

จับตา 'อิ๊งค์-เศรษฐา' 2 ว่าที่แคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย ร่วมลงพื้นที่ พร้อมสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่านเยาวราช

(21 ม.ค.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย มีกำหนดการลงพื้นที่เยาวราช เพื่อพูดคุยกับกลุ่มนักธุรกิจที่มูลนิธิเทียนฟ้า รวมถึงสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ณ วัดเล่งเน่ยยี่ (วัดมังกรกมลาวาส) ในวันที่ 21 ม.ค.นี้

'อิ๊งค์-เศรษฐา' ควงแขนลงเยาวราช กั๊กตอบ แคนดิเดตนายกฯ ฟาก 'เศรษฐา' ชี้ พร้อมทำทุกอย่างตามที่พรรคมอบหมาย

(21 ม.ค.66) ที่มูลนิธิเทียนฟ้า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย, นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กทม. พร้อมด้วย ส.ส.กทม.พรรค พท. รวมถึงผู้ซึ่งประสงค์ลงสมัคร ส.ส.กทม.พรรค พท. เดินทางมาไหว้เจ้าเนื่องในเทศกาลตรุษจีน โดยมีนายเศรษฐา ทวีสิน นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ผู้ที่มีกระแสข่าวจะเป็นหนึ่งในแคนดิเดตนายกฯ พรรค พท. มาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ด้วย ถือเป็นการปรากฏตัวทำกิจกรรมทางการเมืองร่วมกับ น.ส.แพทองธาร เป็นครั้งแรก ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความชื่นมื่น ทั้งคู่ต่างพูดคุยกันสนิทสนมอย่างเป็นกันเอง และมีบางจังหวะที่นายเศรษฐายื่นแขนให้ น.ส.แพทองธาร ควงระหว่างเดิน 

จากนั้น น.ส.แพทองธารและคณะ เดินเท้าต่อไปยัง ร้านกาแฟ CHATA Specialty Coffee เพื่อพูดคุยกับนักธุรกิจในย่านเยาวราช ยกระดับสถานที่ท่องเที่ยวเยาวราช และอาหาร Street food ให้กลายเป็น World destination

จากนั้น น.ส.แพทองธาร และ นายเศรษฐา ให้สัมภาษณ์ภายหลังการพูดคุย โดยน.ส.แพทองธาร กล่าวว่า การพูดคุยดีมากเลย ทราบว่าเขามีปัญหาเรื่องสายไฟ ซึ่งนายเศรษฐาได้ระบุกับกลุ่มผู้ประกอบการว่า ต้องค่อยๆ เอาสายไฟลงดิน เพราะเอาลงพร้อมกันหมดการจราจรจะติดขัด และยังมีอีกหลายปัญหาหลังโควิด รวมถึงการหยุดขายของวันจันทร์ มีหลายเรื่องที่พรรคเพื่อไทยรับฟังแล้วจะนำไปใช้ได้จริงๆ เพราะคนในพื้นที่รู้ปัญหา 

เมื่อถามว่าจากการรับฟัง จะนำปัญหาอะไรไปทำเป็นนโยบายเพิ่มเติมได้ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า มีแน่นอนเราต้องไล่ตามลำดับ ด้านนายเศรษฐา กล่าวเสริมว่า จากการพูดคุยวันนี้มีประโยชน์ เพราะตนมาช่วยน.ส.แพทองธาร ดูเรื่องเศรษฐกิจอยู่ และคิดว่าจากที่ตนทำธุรกิจมา เราก็อยู่แต่ด้านบน ไม่ได้มาพบผู้ประกอบการจริงๆ วันนี้มาก็ได้รับทราบปัญหาจริงๆ แล้วจะไปช่วยกันคิดออกเป็นนโยบายมาเพื่อทำให้ชีวิตชาวเยาวราชดีขึ้น 

เมื่อถามว่าขณะนี้นายเศรษฐาพร้อมเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค พท.หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตอนนี้เป็นสมาชิกพรรคเรียบร้อยแล้ว แล้วก็มาช่วยเรื่องเศรษฐกิจ โดยจะดูเรื่องการลดความเหลื่อมล้ำที่สูงมากในประเทศไทย ขอให้เป็นสเต็ปๆ ไป 

เมื่อถามย้ำว่าตอนนี้การเลือกตั้งใกล้เข้ามาแล้วถ้าต้องรับตำแหน่งแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค พท.พร้อมหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า อย่างที่เรียนตอนนี้ตนก็มาช่วยพรรคอยู่แล้ว พรรคมอบหมายให้ทำตำแหน่งอะไรก็พร้อม 

เมื่อถึงตรงนี้ น.ส.แพทองธาร กล่าวเสริมว่า “ครั้งที่แล้วเขาเอาคำว่าเราพร้อมไป ครั้งนี้เขาก็อยากได้คุณเศรษฐา รู้ทันนะคะ นายเศรษฐามาในสถานะสมาชิกพรรค และเคยบอกแล้วว่า นายเศรษฐาเป็นคนเก่ง ฉะนั้นเรื่องเศรษฐกิจเราปรึกษาอยู่แล้ว และเราก็ปรึกษาคนเก่งๆ เยอะ จะได้แก้ปัญหาของประชาชนได้ วันนี้ให้มาช่วยเดินหาเสียงด้วยกันครั้งแรกก็ฝากไว้ด้วย ฝากสมาชิกพรรคเพื่อไทยเพิ่มอีกหนึ่งคน” 

เมื่อถามย้ำว่านายเศรษฐาพร้อมเป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรคพท.หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า “นี่ก็จะเอาแต่คำว่าพร้อม เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยอยู่ค่ะ”

เมื่อถามว่าจะมีความชัดเจนและประกาศเมื่อใด น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า แน่นอนว่าเมื่อเราจะประกาศ เราจะประกาศตามกรอบเวลาแน่นอน เหมือนที่ตอบสื่อไปทุกรอบ ขอให้มั่นใจในพรรคเพื่อไทยว่าการที่เราเลือกไม่ว่าจะเป็น ส.ส.หรือ แคนดิเดตนายกฯ เราเลือกคนที่มีคุณภาพให้ประชาชนแน่นอน ฉะนั้นขอให้ไว้ใจตรงนี้

เมื่อถามว่า หากมีการประกาศยุบสภา ทั้ง น.ส.แพทองธาร และนายเศรษฐา จะประกาศตัวเป็นแคนดิเดตนายกฯเลยหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวติดตลกว่า “อิ๊งค์ต้องประกาศว่าอิ๊งค์ครบกี่เดือนแล้ว ต้องไปหาเสียงที่ไหนบ้าง” 

เมื่อถามว่านายเศรษฐาจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้พรรคเพื่อไทยแลนด์สไลด์ได้หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนเป็นสมาชิกพรรค พท. ในสิ่งที่ตนทำก็มีความปรารถนาอยากให้พรรคพท.ได้คะแนนเยอะที่สุด ไม่เช่นนั้นคงไม่มาช่วย 

เมื่อถามว่าหลังจากนี้จะลงทุกพื้นที่เพื่อช่วยหาเสียงหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ณ จุดนี้ตนยังเป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่บ.แสนสิริ ก็ต้องดูเรื่องเวลาด้วย 

เมื่อถามว่าหากลุยการเมืองเต็มตัวต้องจัดการตรงนั้นเพื่อมาลุยตรงนี้หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า “คำว่าถ้า ตอนนี้ยังไม่ทราบเพราะยังถ้าอยู่” น.ส.แพทองธาร กล่าวเสริมว่า “ตอนนี้ให้ตารางนายเศรษฐาไปแล้ว เพื่อวันไหนถ้าว่างก็มาช่วยกันหาเสียงพบปะพี่น้องประชาชนพูดคุยกัน ก็ต้องช่วยกันเพราะคนเดียวไม่ไหว เพราะเป็นปัญหาระดับประเทศเราต้องช่วยกัน” 

'นพดล' ชี้!! เรื่องเร่งด่วน 'แก้จน-สร้างรายได้' โว!! 'เพื่อไทย' พร้อมพาประเทศออกจากวิกฤต

(22 ม.ค.66) นายนพดล ปัทมะ รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ พรรคเพื่อไทยกล่าวว่า สถานะของประเทศขณะนี้ คนไทยยากจนเพิ่ม นำไปสู่ปัญหาหนี้สินสูงสุด คุณภาพชีวิตตกต่ำ เด็กไม่ได้เข้าโรงเรียน และความเหลื่อมล้ำถ่างขึ้นมากติดลำดับโลก รวยกระจุกจนกระจาย ประเทศไทยฟื้นตัวช้าหลังโควิด เติบโตต่ำท้ายตารางในอาเซียน การทดสอบขององค์กรในระดับสากลด้านทุนมนุษย์พบว่าคุณภาพด้านการศึกษาตกต่ำลงกว่าก่อนทำรัฐประหาร เสน่ห์ในการดึงดูดการลงทุนทางตรงลดลง การเมืองย้อนกลับไปก่อนปี 2540 ไร้เสถียรภาพ กติกาการโหวตตัวนายกรัฐมนตรีไม่เป็นประชาธิปไตย ไม่เป็นธรรม ดังนั้นต้องแก้รัฐธรรมนูญมาตรา 272 ให้เฉพาะ ส.ส.ที่ประชาชนเลือกเป็นผู้มีอำนาจโหวตตัวนายกฯ จึงจะเป็นประชาธิปไตย

'เพื่อไทย' ชี้!! 'บิ๊กตู่' มากับรถถังแต่อาจพังเพราะคนกันเอง แถมอาจโดนเปิดศึกอภิปรายจาก พปชร. ในอนาคต

‘อนุสรณ์’ แซะ!! มากับรถถังแต่จะพังเพราะพวกเดียวกันเอง เย้ย 'ประยุทธ์' โดน 'ประวิตร' ปาดหน้าลงพื้นที่ตลอด แซะก่อนไปอยู่พรรคใหม่ ทำนโยบายพรรคเก่าให้ได้ก่อน ชี้มีสิทธิโดน พปชร.ซักฟอก

(23 ม.ค.66) นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวกรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ สวมบทจอมปาด ‘ปาดหน้า’ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ไล่บี้ลงพื้นที่กันสับสนวุ่นวายว่า ประชาชนไม่ได้มีหน้าที่เป็นตำรวจจราจร จะได้สั่งจับปรับทั้ง 2 คน ขยันปาดหน้ากันลงพื้นที่ สร้างความเดือดร้อนสับสนให้ประชาชน การที่มีคนตะโกนด่า พล.อ.ประยุทธ์ขณะเข้าพื้นที่ คือภาพสะท้อนว่าประชาชนเบื่อหน่ายและไม่ได้ประโยชน์จากการลงพื้นที่หาเสียงชิงเหลี่ยมปาดหน้ากันไปมา ก่อนพล.อ.ประยุทธ์ จะไปพูดนโยบายกับพรรคใหม่ ช่วยเคลียร์นโยบายพรรคเก่าที่ทำไม่ได้ตอนอยู่กับพรรคพลังประชารัฐก่อน 

อุ๊งอิ๊ง VS คุณหญิงหน่อย อาภรณ์ อุดมการณ์ ความรู้ ความรวย

เริ่มเป็นที่ชัดเจนว่า สนามเลือกตั้งครั้งต่อไปของประเทศเรา จะมีสตรีสองคนลงชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หนึ่งคือ 'คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์' หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย กับสอง 'คุณอุ๊งอิ๊ง - แพทองธาร ชินวัตร' หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นับเป็นสีสันและความหวังของเหล่าสตรีบนฐานะผู้นำพรรคการเมือง แต่สิ่งน่าสนใจกว่า (ตอนนี้) อุดมการณ์สร้างประโยชน์แก่ชาติ ก็ด้วยทั้งสองมีพื้นเพมาจากครอบครัว 'Hight Rich' อาภรณ์ห่อหุ้มกายจึงควรค้นหา จับตา ทุกครั้งที่ปรากฏตัวต่อสาธารณชน

"...การแต่งกาย คือ 'แบรนด์ดิ้ง' (branding) คนไทยอาจไม่ได้แต่งตัวถูกต้องตามแบบแผนนัก แต่นี่เป็นเรื่องสำคัญสำหรับบุคคลสาธารณะ เพราะการแต่งตัวบ่งบอกว่าเราเป็นใคร ถ้าจะดูนักการเมืองสมัยก่อน อย่างจำลอง ศรีเมือง ต้องใส่เสื้อผ้าม่อฮ่อมคอจีน แขนสั้น เนื้อผ้าเก่า ๆ หรือ ป๋าเปรมก็จะต้องชุดพระราชทาน ซึ่งท่านเป็นคนเผยแพร่ชุดพระราชทานในประเทศไทย และใส่ออกมาดูดี ด้วยรูปร่างและบุคลิกที่นิ่ง เป็นคนที่พิถีพิถันมาก"

ประโยคข้างต้น - 'ภาณุ บุรุษรัตนพันธุ์' กูรูด้านแฟชั่นและบุคลิกภาพ อดีตบรรณาธิการนิตยสาร 'Esquire' ที่ทุกวันนี้คนรู้จักในนาม 'ลุงเฮม่า' เจ้าของคอลัมน์ตอบปัญหาสารพันบนออนไลน์ เคยกล่าวอรรถาธิบายไว้

ยุคต้นของคุณหญิงสุดารัตน์ ที่เพิ่งร่วมงานทางการเมืองกับพรรคไทยรักไทย เธอย่างก้าวสู่สายตาประชาชนด้วยมาดนักธุรกิจซึ่งประสบความสำเร็จแล้วระดับหนึ่ง เธอเป็นหญิงไม่ห้อยท้ายนามสกุลฝ่ายชาย สวมแว่นสายตาทรงเฉี่ยว โดดเด่น สมัยนั้นมักปรากฏตัวด้วยชุดเดรสส์สีสันสะดุดตา อันหมายถึงความเป็นผู้นำท่ามกลางชายบอดี้การ์ดชุดดำดุจสตรีทรงศักดิ์และอำนาจ

แทบไม่ต่างจากยุคเปิดฤดูกาลเลือกตั้ง 2566 ที่ 'อุ๊งอิ๊ง' ลูกสาวคนสุดท้องของบ้าน 'จันทร์ส่องหล้า' เพราะเพียงแค่เสื้อโค้ทสวมขึ้นเวทียี่ห้อ 'GUCCI' แบรนด์เสื้อผ้าโปรดจากอิตาลีตัวเดียวก็ปาไปเกือบแสน (93,000 บาท) เข้าคู่กับรองเท้า 'Amina Muaddi' ซึ่งกำลังได้รับความนิยม (ผลิตจากประเทศโรมาเนีย) สนนราคา 3,100 เหรียญสหรัฐฯ หรือเท่ากับ 102,412 บาทไทย

จนสื่อมวลชนต่างพากันเน้นที่ราคาเสื้อผ้ามากกว่าถ้อยคำปราศรัย

แต่การเลือกตั้งหนที่จะถึงนี้ 'หญิงหน่อย' ทำการบ้านอย่างดีล่วงหน้า ด้วยการศึกษาการแต่งกายของนักการเมืองระดับตำนานของเกาะอังกฤษ 'มาร์กาเรต แทตเชอร์' นายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักร จากภาพจำขุดสูทสีน้ำเงินเข้ม (Royal Blue) เข้ารูป กับกระโปรงยาวปิดเข่าสีโทนเดียวกัน ตัดกับเชิ้ตผ้าฝ้ายสีขาวด้านใน ล้วนผ่านการเลือกคัดสรรอย่างดี เพื่อภาพลักษณ์เช่นที่เห็น สมฉายา 'สตรีเหล็ก'

เข้าใจว่าคุณแพทองธารยิ่งต้องปรับตัวมากกว่า เพราะต้องออกหาเสียงด้วยการ 'อุ้มท้อง' จนกว่าจะจบการเลือกตั้ง โดยทุก ๆ ภาพ ต้องดูดี มีอุดมการณ์ สานความฝัน ดันพ่อกลับบ้าน

'อุ๊งอิ๊ง' อ้อนถามชาวหนองคาย จำ 'ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์' ได้ไหม? โว!! หากไม่มีรัฐประหาร คงได้รถไฟความเร็วสูงใช้ไปแล้ว

(28 ม.ค.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 09.15 น. พรรคเพื่อไทย ได้เปิดเวทีปราศรัย ที่ลานเทศบาลท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย

โดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ปราศรัยว่า พ่อใหญ่ทักษิณ อายิ่งลักษณ์ จำได้บ่ คุณพ่อฝากความคิดถึงชาวหนองคาย วันนี้ไม่ได้มาด้วย ต้อนรับคนหน้าเหมือนก่อน

น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ถ้าไม่รัฐประหาร เรามีรถไฟความเร็วสูง ถ้าเพื่อไทยมาจะช่วยพี่น้องล้างหนี้ ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาสให้พี่น้อง ช่วยเหลือเกษตรกร ขออาสานำสินค้าเกษตรไปขาย ข้าราชการก็จะเงินเดือนเพิ่มแน่นอน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top